SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  53
Télécharger pour lire hors ligne
แนวทางในการปฏิบัติงานดูแลผูปวย
       (Clinical Practice Guideline)




        กลุมงานกุมารเวชกรรม
   โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก




               เมษายน 2552
  รวบรวมโดย... กลุมงานกุมารเวชกรรมและศูนยคุณภาพ
                  
สารบัญ
แนวทางในการปฏิบัติงานดูแลผูปวย (Clinical Practice Guideline)

- แนวทางการรักษาผูปวยทีมการติดเชื้อทางเดินปสสาวะ
                          ่ ี
- แนวทางปฏิบัติงานดูแลรักษาโรคไขเลือดออก
- แนวทางการดูแลรักษาทารกแรกเกิดตัวเหลือง
- แนวทางการดูแล Preterm Infants
- แนวทางการดูแลรักษาผูปวย Febrile Convulsion
- แนวทางการดูแลผูปวย Pneumonia
- แนวทางการดูแลผูปวย ALL
- แนวทางการดูแลผูปวยที่มี Febrile Neutropenia (FN)
- แนวทางในการใหสารลดแรงตึงผิว (“Surfactant”) ในทารกแรกเกิดที่มีภาวะหายใจลําบากจาก
  การคลอดกอนกําหนด
- แนวทางในการลดการใชเครื่องชวยหายใจในทารกแรกเกิดที่มภาวะหายใจลําบากจากการคลอดกอน
                                                        ี
  กําหนด
- แนวทางในการใหสวนประกอบของเลือดในทารกแรกเกิดที่มภาวะซีด
                                                     ี
- แนวทางการตรวจจอประสาทตาในทารกคลอดกอนกําหนด
- แนวทางการสงปรึกษาเพื่อตรวจหา Retinopathy of Prematurity
- แนวทางการใหวคซีนปองกันตับอักเสบบีในทารกแรกเกิด
                ั
- แนวทางการดูแลภาวะ Hypoglycemia
แนวทางการรักษาผูปวยที่มี
การติดเชื้อทางเดินปสสาวะ
แนวทางการรักษาผูปวยที่มีการติดเชื้อทางเดินปสสาวะ
       การติดเชื้อในทางเดินปสสาวะ อาจเปนอาการและอาการแสดงของความผิดปกติในทางเดิน
ปสสาวะอยางอื่น เชน การอุดกั้นในทางเดินปสสาวะ ภาวะปสสาวะไหลยอนกลับ ( vesicouretreic
reflux) เปนตน การดูแลรักษาผูปวยกลุมนี้อยางถูกตองตั้งแตเนิน ๆ จึงมีความสําคัญอยางยิ่ง
                                                               ่
        เปาหมายการรักษา คือ กําจัดเชื้อที่เปนสาเหตุโดยเร็ว และปองกันไมใหเกิดการติดเชือซ้ํา
                                                                                          ้
นอกจากนั้น ยังปองกันการเกิดแผลที่ไตอีกดวย
1. การซักประวัติ
        - ไข ซึ่งไมมสาเหตุแนชดในเด็ก
                      ี           ั
        - ปวดหลัง ปวดทองหรือปวดบั้นเอว มักพบในเด็กอายุมากกวา 4-5 ป
        - ความผิดปกติของการถายปสสาวะ เชน ปสสาวะแสบขัด , ปสสาวะลําบาก , ปสสาวะบอย ,
กลั้นปสสาวะไมได , หรือชอบอั้นปสสาวะ
        - ปสสาวะรดที่นอนแบบทุติยภูมิ
        - ประวัตการอุดกั้นในทางเดินปสสาวะ เชน ปสสาวะตองเบง , ปสสาวะไมพงและเปนหยด ๆ
                  ิ                                                               ุ
ขนาดของลําปสสาวะมีกอนนิ่วหลุดออกมา
        - เลี้ยงไมโต
        - ประวัตเิ คยมีการติดเชื้อในทางเดินปสสาวะ
        - ประวัตการถายอุจจาระ เชน ทองผูกบอย , กลั้นอุจจาระไมได ( encopresis)
                    ิ
        - ในทารกแรกเกิด อาการและอาการแสดงมักไมจําเพาะ จึงตองซักประวัติเรื่องไมดดนม , ซึม ,
                                                                                        ู
ตัวเย็นและติดเชื้อในกระแสเลือด
2. การตรวจรางกาย
        - น้ําหนักและสวนสูง
        - สัญญาณชีพโดยเฉพาะไขและความดันโลหิต
        - กอนในทอง เชนบริเวณบันเอว หรือเหนือหัวหนาว
                                    ้
        - เคาะเจ็บที่ costovertebralangle
        - lipoma , hair patch dimple , sinus tract บริเวณ lumbosacral
        - ขาชาหรือออนแรง
        - อวัยวะเพศผิดปกติ เชน phimosis , vaginitis , labial adhesion
        - neurogenic bladder
3. การตรวจทางหองปฏิบติการั
         - การตรวจปสสาวะ ใชปสสาวะสดที่เก็บอยางถูกตองมาปน ถามีเม็ดเลือดขาวมากกวา 5-10
ตัว / HPF สนับสนุนวาจะเปนการติดเชื้อในทางเดินปสสาวะ (แตการวินิจฉัยที่แนนอนตองอาศัยการ
เพาะเชื้อจากปสสาวะ)
         - สงปสสาวะเพื่อเพาะเชื้อกอนใหยาปฏิชีวนะทุกราย

หมายเหตุ ผลเพาะเชื้อทีถือวามีนัยสําคัญ ไดแก
                      ่
ปสสาวะเก็บโดยวิธี  suprapubic aspiration              เพาะเชื้อขึ้น(ไมวากี่ colony/มล)
                       Catheterized                    ≥103 colony/มล.
                       Clean-voided                    ≥105 colony/มล.
การเก็บปสสาวะเพื่อเพาะเชือในเด็กอายุนอยกวา 1 ป แนะนําใหใช Suprapubic aspiration หรือ
                          ้           
Transurethral catheterization เทานั้น สวนในเด็กโตที่ไมมี pnimosis อาจใช midstream
clean-voided urine ได

4. การดูแลรักษา
       4.1 แกไขภาวะ dehydration โดยใหสารน้ําทางปากหรือทางหลอดเลือดดํา ถาจําเปน
       4.2 empirical antibiotics
ในทารกแรกเกิดให Ampicillin 50-100 มก./กก./วัน และ Gentamicin 3-5 มก./กก./วัน หรือ
3rd generation Cephalosporins
ในเด็กโตที่มีอาการรุนแรง แนะนําให aminoglycosides เชน Cefotaxime 100-200 มก./กก./วัน
Ceftriaxone 50-100 มก./กก./วัน
ในเด็กโตที่มีอาการไมรุนแรง และ/หรือ เปนการติดเชื้อในทางเดินปสสาวะสวนลาง อาจใหยาปฏิชีวนะ
ทางปาก เชน Cotrimoxazole 6-12 มก. ของ trimethoprim /กก./วัน. Amoxycillin-clavulanic
acid 30 มก. ของ amoxicillin /กก./วัน หรือยากลุม Cepholosporins ตาง ๆ
        4.3 ประเมินผลการรักษาโดยตรวจปสสาวะซ้ําใน 48-72 ชม.
        4.4 ระยะเวลาการใหยา 10-14 วันในผูปวย acute pyelonephritis และ 7-10 วันในผูปวยที่
                                            
มีการติดเชื้อทางเดินปสสาวะสวนลาง
        4.5 แนะนําทํา circumcision ในผูปวยทีมี phimosis
                                              ่
7. ถาผูปวยมีการติดเชื้อซ้ํา (> 3 ครั้ง / ป) แนะนําให prophylaxis ดวยยา Cotrimoxazole 1-2
มก. ของ trimethoprim /วัน เปนเวลาอยางนอย 6-12 เดือน รวมแกไขปจจัยเสี่ยงที่พบไดบอย ไดแก
แนะนําใหดื่มน้ํามาก ๆ ไมกลั้นปสสาวะ ถายปสสาวะจนสุด หรือ double-void อยาใหทองผูก รักษา
โรคพยาธิโดยเฉพาะพยาธิเสนดาย และรักษาความสะอาดบริเวณ perineum
แนวทางปฏิบัติงานดูแลรักษา
    โรคไขเลือดออก
แนวทางปฏิบติงาน (Clinical Practice Guideline) ดูแลโรคไขเลือดออก
          ั
      สําหรับหองตรวจผูปวยนอกและฉุกเฉิน (ก.ค. 2548)

การรักษาระยะไข
1. ลดไข ปองกันชัก ดวย การเช็ดตัวและหรือใชยา paracetamol รับประทาน เมื่อไขสูงรวมกับดื่ม
น้ําผสม ORS มาก ๆ หามใช NSAID หรือ Aspirin
2. Prevent dehydration ใหอาหารออน ดื่ม ORS และควรงดอาหารที่มีสีดํา สีแดง
3. นัด Follow up ทุกวัน เริ่มตั้งแตวนที่ 3 ของไขเพื่อดูวาระยะ Leakage หรือยัง ในรายทีไมได
                                     ั                                                  ่
Admit ตองแนะนํา Warning Sign การ Follow up ทําตาม Dengue Treatment Algorithm
OPD ดังนี้                         ไขสูง + หนาแดง
                         ไมมีอาการอื่น ๆ รวมดวย เชน ไมมีไอ น้ํามูก ทองเสีย ปวดหู ฯลฯ



                                                   Tournique + Test



                  Positive                                                                 negative

     Hx : bleed ? vomiting. PE. : VS Liver CBC.                                  สืบคน หาสาเหตุอานของไข

     นัด Follow Up ทุกวัน ตั้งแตวันที่ 3 ของไข จนกวาจะลงได                      เชนCBC UA นัด
     48 ชม. ในรายที่ไมได admit ตองแนะนํา Warning sign *                       Follow Up และ repeat
     ถามีใหรีบนําผูปวยมา รพ.                                                     tourniquet test

     Hct เทาเดิม                  Hct เพิ่มขึ้น         Hct เทาเดิม
     WBC > 5,000                   WBC ลดลง Plt          WBC ลดลง Plt
     Plt ปกติ                      ปกติ                  < 100,000 /
                                                         cumm


            นัด               Force oral intake
                                                              Admit
       Folow Up               นัด Follow Up ใน
                                   รายอาเจียนมาก ให
                                          admit
ดัดแปลงมาจากไขเลือดออก : การดูแลและรักษา...พญ.ศิริเพ็ญ กัลยาณรุจ
หมายเหตุ. * Warning signs ไดแก
       - ซึม ออนเพลีย รับประทานไดนอย
       - มีเลือดออก เชน เลือดกําเดา อาเจียน ถายเปนเลือด
       - กระหายน้ํามาก รองกวนมากในเด็กเล็ก
       - ไขลงแลวผูปวยอาการเลวลง
                     
       - มีคลื่นไสอาเจียนตลอดเวลา ปวดทองมาก
       - กระสับกระสายหงุดหงิด พฤติกรรมเปลี่ยน
       - ตัวเย็น สีผิวคล้ําลง ตัวลาย ๆ ปสสาวะนอยลง

การรักษาระยะ Leakage ผูปวยจะมา 2 แบบ
       2.1 ไมมี shock
               ควร admit ตามขอบงชี้ ดังนี้
               1.   Platelet count <100,000/cummและหรือ Hct rising
               2.   มีอาการหรืออาการแสดง ใน Warning Signs
               3.   Bleeding
               4.   ผูปกครองกังวล หรือบานไกล

               หมายเหตุ ในรายที่ไมได admit ควรนัด Follow Up ทุกวันจนไขลงเกิน 48 ชัวโมง
                                                                                     ่

       2.2 มี shock - ทําการรักษาทันที เมื่อวินิจฉัยได โดยให O2 ทาง canula , IV Fluid
และสง Admit โดยโทรศัพทแจงหอผูปวยกุมาร 1 โทร 1782
       ในราย -Impending shock. ให 5% D/NSS1 rate 10-20 ml/kg/hr
                -Profound shock. (วัด BP,Pulse ไมได) ให NSS2 ml/kg push in 10 min
เมื่อ BP วัดไดใหปรับ rate เปน 5% D/NSS1 10-20 ml/kg/hr

       หมายเหตุ : 1 5% D/NSS หรือ 5% DAR หรือ 5% DLR
                    2
                     Nss หรือ Ringer acetate หรือ Ringer lactate
                    ควรใชขวดขนาด 500 ml
แนวทางปฏิบติงาน ( Clinical Practice Guideline) ดูแลรักษาโรคไขเลือดออก
              ั
สําหรับผูปวย ใน รพศ.พุทธชินราช ก.ค. 2548

โรคไขเลือดออก รักษาตามระยะของโรค
        ระยะไข มีหลักการรักษา 3 ขอ
        1. ลดไข ปองกันชัก ดวยการเช็ดตัวและหรือใชยา Paracetamol รับประทาน เมือไขสูง
                                                                                ่
รวมกับดื่มน้ําผสม ORS มาก ๆ หามใช NSAID หรือ Aspirin
       2. ปองกันภาวะขาดน้ํา ควรให IV fluid ในราย อาเจียนมาก และหรือมี dehydration โดย
ใหประมาณ 50% Maintenance.
       3. ตรวจ ติดตาม วาเขาระยะ Leakage หรือยัง โดยดูจาก อาการแสดง และ CBC
       ระยะ Leakage มีหลักการรักษา 3 ขอ
1. Early Detection and early treatment of SHOCK
       โดยตรวจวัด Vital signs ( BP , pulse Pressure ) ทุก 1-2 hrs , Hct ทุก q 4-6 hrs ,
Record intake/output Urine Sp.gr. โดยใชแบบฟอรม DHF flow chart ของ รพ.
2. IV FLUID Replacement
       ชนิดของ IV fluid
       ในราย Shock : ใหเปน 5% DAR หรือ 5% DLR หรือ 5% D/NSS
       ในราย Non-shock : อายุ <6 เดือน ใหเปน 5% D/N/3
                                    อายุ 6 เดือน -1 เดือน ใหเปน 5% D/N/2
                                    อายุ > 1 ป           ใหเปน 5% D/NSS
ปริมาณ และอัตราการให IV fluid
    - ในราย Hct rising >10% และผูปวยไมสามารถรับประทานอาหารควรเริ่มตนใหปริมาณ IV
       fluid จํานวน M/2 ใน 24 ชั่วโมง
    - ในราย Hct rising >20% ควรเริ่มตนให IV fluid จํานวน M+5% D ใน 24 ชั่วโมง
     ตอไปปรับอัตราการใหตามรูปที่ 1 แนวทางการดูแลรักษาไขเลือดออก
   - ในราย DHF grade III : ควรเริ่มตนให IV fluid ในอัตรา 10-20 ml/kg/hr.
   - ในราย DHF grade IV : ควรเริ่มดวยอัตรา 10 ml/kg IV push จนกระทั่งวัด BP &
       push ไดจึงปรับเปน 10 ml/kg/hr.
       ตอไปปรับอัตราการใหตามรูปที่ 2 แนวทางการดูแลรักษาไขเลือดออก
3. การรักษาประคับประคอง :
        3.1 เฝาระวังเปนพิเศษในกรณีผูปวยที่มีลกษณะดังตอไปนี้ (High risk patiement)
                                                 ั
               1. Young infants <1 year old.
               2.   DHF grade IV or prolonged shock.
               3.   Overweight patients.
               4.   Patients with massive bleeding.
               5.   Patients with changes of cinsciousness.(encephalopathy)
               6.   Patients with underlying diseases , e.g. Thalassemia , G-6-PD def.,
CHD etc.
               7. Referred patients.

       3.2 ตรวจหาและแกไขความผิดปกติทาง Metabolic โดยเฉพาะใน DHF Grade IV.
       3.3 การใหเลือด มีขอบงชี้ดังนี้
       - ผูปวยมีเลือดออกมามากเกิน 10% ของ Tital Blood Volume (TBV = 60-80 ซีซี/กก.)
โดยใหตามปริมาณเลือดที่ออกมา
       -ผูปวย Thalassemia, G-6-PD deficiency ที่มีภาวะซีดหรือมี hemolysis
       - ผูปวยทียงช็อกหรือมี unstable vital signs หรือไมสามารถลด rate ของ IV fluid ลง
                  ่ั
ไดและมี Hct ลดลง จากระยะที่ช็อก หลังจากไดรบ IV fluid มากเกินพอ (อาจมีเลือดออกภายใน)
                                            ั
       3.4 การให platelet : มีขอบงชี้เฉพาะในรายที่มี massive bleeging.
       3.5 หลีกเลี่ยงการทําหัตถการที่ invasive เชน การใส NG tube.
ระยะ Convalescence
   - ควรหยุดให IV fluid เมื่อผูปวยเขาสูระยะ concalescence.
   - ในรายที่ผปวยยังออนเพลียเบื่ออาหาร หรือทองอืด และมี bowel sound นอยกวาปกติ ควร
               ู
     ตรวจ คา blood electrolyte.
ขอบงชีในการจําหนายผูปวยกลับบาน
        ้              
          1. ไขลดลงเกินกวา 24 ชั่วโมง (ในรายที่ shock ไขควรลดลงเกินกวา 48 ชั่วโมง)
       2. การหายใจปกติ ไมหอบ ไมมีการหายใจลําบาก
       3. ไมมี complications.
การใหสารน้าในการรักษาผูปวยไขเลือดออกเดงกีที่มีภาวะช็อกและช็อกรุนแรง
                ํ
                   NSS หรือ DLR หรือ DAR IV drip free flow 10-15 นาที
                       หรือ 10 ซีซี/กก. IV push ในรายทีเ่ ปน grade IV
                                                                               ออกซิเจน

                   อาการดีขึ้น                                                อาการยังไมดีขึ้น
         เริ่มวัด BP หรือ จับชีพจรได                                 ยังวัด BP และจับชีพจรไมได

ลด rate เปน 10 ซีซี/กก./ชม. 1-2 ชม. เปลี่ยน IV                 10 ซีซ/ี กก. IV bolus (ซ้ําไดอีก 1 ครั้ง)
เปน 5% D/NSS หรือ 5%DLR หรือ 5%DAR

    อาการดีขึ้น                       อาการเลวลง                อาการดีขึ้น            อาการยังไมดีขึ้น

คอย ๆ ลด rate เปน 7.5 และ          เจาะ blood sogar , blood gas , electrolyte , Ca , LFT ,
3 ซีซี/กก./ชม. จนสามารถ off          BUN . Cr* (ถาทําได)และแกไขหากมีผลการตรวจที่ผิดปกติ และ
IV ไดตามแผนภูมิการใหสาร
                                                             เจาะ Hct
น้ําขางตน
                                           Hct เพิ่ม                            Hct ลด


                                   Dextran 40. 10 ซีซ/กก./ชม.
                                                     ี                 ใหเลือด FWB 10 ซีซี/กก.

                            อาการดีขึ้น            อาการเลวลง             (ระหวางรอเลือด
                                                                  ให Dextran 40. 10ซีซ/ี กก./ชม.)
                     พิจารณาทํา venous cut down เพื่อวัด CVP และใสสายสวนปสสาวะ


                       CVP สูงเกิน 10 ซม.น้ํา                   CVP ต่ํากวา 10 ซม.

                  พิจารณาให dopamine , debutec          พิจารณาใหเลือดหรือ Dextran 40 อีก
             อาการดีขึ้น

     -    ถาไมสามารถตรวจได พิจารณาให Vitamin K, Ca, NaHCo, ตามอาการทางคลินิก
     -    ตรวจเช็คผลทางหองปฏิบัติการตาม * และแกไขโดยดวนถาผิดปกติ

                                 รูปที่ 2 แนวทางการดูแลรักษาไขเลือดออก
การใหสารน้ําในการรักษาผูปวยไขเลือดออกเดงกี (น้ําหนัก 15-40 กก.) ที่กําลังอยูในระยะวิกฤต
                    (มีเกล็ดเลือด ≤ 100,000 เซลล/ลบ.มม. และมี Hct เพิ่มขึ้น 10-20 %)
                     5% D/NSS หรือ 5% DLR หรือ 5% DAR 5 ซีซี/กก./ชม.


                           วัด vital signs ทุก 1-2 ชม. และ เจาะ Hct ทุก 4 ชม.

                                           Vital signs เปลี่ยนแปลง
           อาการดีขึ้น                                                                    อาการไมดี
                                             และ/หรือ Hct เพิ่มขึ้น
       Hct ลดลง stable
         vital signs                                                              Hct เพิ่มขึ้น. ชีพจรเร็วขึ้น
      ปสสาวะปริมาณมากขึ้น                เพิ่ม rate เปน 5-7 ซีซี/กก./ชม.              ปสสาวะนอยลง

                     3-4 ชม.                                                     เพิ่ม rate เปน 7 ซีซี/กก./ชม.

      ลด Rate เปน 3 ซีซี/กก./ชม.                   อาการดีขึ้น                            ยังไมดีขึ้น


                                                                             เพิ่ม rate เปน 10 ซีซ/ี กก./ชม.
                                                                                              2 ชม.
          อาการดีขึ้นอีก                                                          ยังคงมี่ชีพจรเร็ว,
                                                                          pulse pressure แคบ, ไมปสสาวะ



                                                            Hct สูงขึ้น                          Hct ลดลง
ลด rate IV ลงอีกจนผูปวยมี
vital signs stable, Hct ลดลง, มีปสสาวะ
                                                         Dextran – 40                    พิจารณาใหเลือด FWB
มาก fluid ได ภายใน 24-48 ชม.
                                                         10 ซีซ/กก./ชม.
                                                               ี                             10 ซีซ/กก./ครั้ง
                                                                                                    ี


                                                                อาการดีขึ้น
                                      เปลี่ยนเปน crystalloid และคอย ๆ ลด rate เปน 7,5,3 ซีซี/กก./ชม.


 หมายเหตุ ผูปวยที่มน้ําหนัก นอยกวา 15 กก. ใหเริ่ม IV fluid ที่ rate 6-7 ซีซี/กก./ชม.
                      ี
          ผูปวยที่มีน้ําหนักเกิน 40 กก. ใหเริ่ม IV fluid ที่ rate 3-4 ซีซี/กก./ชม.
                                 รูปที่ 1 แนวทางการดูแลรักษาไขเลือดออก
แนวทางการดูแลรักษาทารก
   แรกเกิดตัวเหลือง
แนวทางการดูแลรักษาทารกแรกเกิดตัวเหลืองที่แผนกผูปวยนอกและหองฉุกเฉิน ร.พ.พุทธชินราช
                                      (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 วันที่ 13 ก.ค. 2548)

                                                           Visible jaundice




                               Term infant                                              Preterm infant




      Onset < 24 hr.         Onset 24-72 hr.         Onset ≥ 24 hr.           BW < 2000 gm       BW ≥ 2000 gm



          Hct,MB                 Hct,MB                   Hct,MB
                                                                                Admit              ทําตามแนวทางของ
                                                                                                    term infant
MB <5mg% MB ≥ 5mg%                              MB <15mg% MB ≥ 15mg%


Advice/อาจนัด        Admit                       Advice         Admit
ตรวจ Hct,MB
   วันรุงขึ้น



        MB <5mg%              MB 5-13 mg%             MB ≥ 13 mg%


           Advice              F/U Hct,MB                  Admit
                                  วันรุงขึ้น




            หมายเหตุ ใหสงทารกมาเจาะ Hct , MB ที่หอผูปวยกุมาร 3 โดยติดตอลวงหนาที่เบอร 1781 และ
            1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
แนวทางการดูแลรักษาทารกแรกเกิดตัวเหลืองในหอผูปวย
 1. Healthy term infant

                                               Visible jaundice




              Onset < 24 hr                     Onset 24-72 hr                       Onset ≥72 hr


                 Hct,MB                            Hct,MB                              Hct,MB



                                         MB 8-13 mg MB ≥ 13mg%
MB <5 mg       MB 5-8 mg       MB ≥ Smg                                    MB <15 mg% MB ≥ 15mg%


                                          F/U Hct,MB
                                           Next 12 hr                          No Rx
 No Rx         F/U Hct,MB
                 ทุก 4-6 hr



              Rate of rising             Rate of rising
              >0.5 mg%/hr.               >0.5 mg%/hr.



  Investigation :
          - CBC, blood smeat
          - Reticuyte count, Heinz body
          - Blood group, Coombs’teat แม,ลูก
          - G6PD screening



  Management :
        - Consider phototherapy หรือ exchange transfusion ตามตารางที่ 1
          -   F/U Hct,MB ทุก 4-6 ชั่วโมง กรณีมีหลักฐานแสดงถึงภาวะ hemolysis
          -   F/U Hct,MB ทุก 12-24 ชั่วโมง กรณีมีหลักฐานแสดงถึงภาวะ hemolysis

 หมายเหตุ กรณีที่มี Prolonged jaundice   >7    วันใน   term   และ >   14   วันใน   preterm   ใหตรวจ
 ระดับ TB และ OB
                                         >14   วัน ถาไมมีผล   thyroid screening      ใหตรวจ ภาวะ
 congenital hypothyroidism
ตาราง แนวทางการดูแลรักษาทารกแรกเกิดครบกําหนดสุขภาพปกติ* (Healthy term
        newborn) ที่มีภาวะ hyperbilirubinemia

Total bilirubin (TB) (mg/dl)
Age (hrs)    Phototherapy       Intensive ( 2)     Exchange        Exchange transfusion and
                               Phototherapy       transfusion intensive phototherapy
                                                  If intensive
                                              Phototherapy fail( 3 )
 ≤ 24( 1 )
 24-48           ≥12               ≥15                ≥20                     ≥25
 49-72           ≥15               ≥18                ≥25                     ≥30
  >72            ≥17               ≥20                ≥25                     ≥30
        *จะบอกวาเปนทารกปกติไดเมื่อตรวจไมพบสาเหตุตัวเหลือง ถามีสาเหตุจาก hemolysis ให
        exchange transfusion ที่ระดับ TB > 20 mg/dl
        (1) อาการตัวเหลืองภายใน 24 ชั่วโมงแรก ถือเปนภาวะผิดปกติ ทารกตองไดรับการตรวจวินิจฉัยและ
        ไดรับการรักษาตามสาเหตุทกราย
                                  ุ
        (2) การให intensive phototherapy หมายถึง การใหแสงบําบัดดวยหลอดไฟชนิด “ special blue”
        2 เครื่อง และทําการใหอยางตอเนื่องไมขาดตอน
        (3) intensive phototherapy failure หมายถึง คา TB ลดลงนอยกวา 1-2 mg/dl ภายใน 4-6 ชม.
        หลังไดรับการรักษาและระดับ TB มีแนวโนมไมลดลงตอเนื่อง และมีคาเพิ่มสูงถึงระดับที่ตอง
        exchange transfusion


        ดัดแปลงมาจาก : American  Academy of Pediatrics. Provisional Committee for Quality
        Improcement and Subcommittee on Hyperbilirubinemia. Pracice parameter :
        management of hyperbilirubinemia in the helthy tem newborn. Pediatricds 1994;94 :
        558.
2. Preterm infant


                         Total bilirubin (TB) (mg/dl)
                                Phototherapy                        Exchange
 500 - 1000 g                        3-5                            Variable
1001 - 1500 g                        5 - 10                         Variable
1501 - 2000 g                       10 - 15                         Variable
2001 - 2500 g                         > 15                          Variable


(1) กรณี sick preterm ใหพจารณารักษาตามความเหมาะสม อาจตองทํา phototherapy หรือ
                              ิ
total blood exchang เร็วขึ้น ( sick preterm หมายถึง ทารกแรกเกิดกอนกําหนดทีมี
                                                                            ่
APGAR score ที่ 5 นาที < 3, acidosis,sepsis หรือมีภาวะ hemolysis )
(2) กรณีที่มีนาหนักแรกเกิด < 1000 g อาจพิจารณาทํา prophylactic photorherapy ตั้งแต
              ํ้
แรกเกิด
แนวทางการดูแลรักษาทารกแรกเกิดตัวเหลืองในหอผูปวย
   1. อธิบายใหมารดาหรือญาติทราบถึงผลกระทบของภาวะตัวเหลืองตอสุขภาพของทารก การตรวจ
      วินิจฉัย การรักษาดวยวิธีตาง ๆ เมื่อมีขอบงชี้ เชน phototherapy , total blood
      exchange
   2. หลังไดผล MB. ถาถึงเกณฑสงตรวจเลือดเพื่อการวินิจฉัยเพิ่มเติม หรือ phototherapy
        หรือ total blood exchange ใหหอผูปวยเจาะเลือดสงตรวจ หรือใหการรักษาดวย
        phototherapy เพื่อเตรียม total blood exchange ทันทีพรอมแจงแพทยผูดแลทราบ  ู
   3.   การดูแลทารกที่ตองให phototherapy
   -    จัดทารกนอนใน crib ที่ซอนกัน 2 ชัน ใตเครื่อง phototherapy ที่ปรับความสูงของ
                                                ้
        เครื่องใหต่ําทีสุด เพื่อใหระยะระหวางทารกแรกและเครื่องนอยกวา 30 ซม.
                        ่
   -    ปดตาดวยวัสดุทึบแสงและถอดเสื้อผาออก (ยกเวนกรณี on intensive phototherapy
        ดวย bili-bed ควรใสผาออมหรือ pamper ใหทารกเสมอ)
   -    กั้นขอบไฟดวยผาขาว เพื่อลดการกระจายของแสงโดยใหขอบลางของผาอยูต่ําจากเครื่อง
        phototherapy 20 ซม.
   -    On continuous phototherapy ยกเวนเวลาที่มารดาใหนมบุตร
   -    เปลี่ยนหลอดไฟทุก 2000 ชม.
   -    แผนพลาสติกปดหลอดไฟ ตองใส ไมมีเขมา ฝุน รอยขีดขวนหรือแตก
   -    เฝาระวังภาวะแทรกซอนจากการรักษา โดยเฉพาะเรื่อง hyperthermia , dehydration ,
        diarrhea
   -     เจาะเลือดตรวจ Hct , MB ตามแนวทางที่กําหนด
แนวทางการดูแล
Preterm Infants
Preterm infants ( < 35 wk ) at risk for early onset neonatal sepsis*
                                        ( Onset < 72 hr)

                                                Signs of neonaltal sepsis**




                          NO                                                                     Yes


                      Risk ≥ 1 ขอ                                             CBC , H/C, empirical antibiotic***


                                                                                             H/C positive
               NO                    Yes


     Observe ≥ 48 hr    CBC , H/C,                                                     Yes                    NO
                   empirical antibiotic***

                                                                                        LP         Antibiotic 7-10 วัน
                                 H/C positive



                Yes                                  NO
                                                                             ผิดปกติ                   ปกติ
                 LP                             Abnormal CBC
                                                                           Antibiotic               Antibiotic
                                                                        14 วัน for GBS,         7-10 วัน for GBS,
     ผิดปกติ              ปกติ                  NO
                                                                       21 วัน for Gram –
                                                             Yes                              14 วัน for Gram – ve
                                               Off ABO                         ve                      bacilli
     Antibiotic                 Antibiotic
                                                          Antibiotic
  14 วัน for GBS,           7-10 วัน for GBS,
                                                            7 วัน
21 วัน for Gram – ve 14 วัน for Gram – ve
        bacilli                      bacilli


               * แมมไข > 38 oC , prolonged
                     ี                           rupture of membrane > 18 hr , PROM , chorioaminionitis ,
               HX of previous GBS infection          ในครรภกอน , GBS   bacteriuria
               ** apnea , ไข,ชัก,ซึม , shock
               *** PGS 100,000 mū /kg/dose q 12 hr         or ampicillin 100mg/kg/dose q 12 hr plus
               gentamicin
term infants ( < 35 wk ) at risk for early onset neonatal sepsis*
                                   ( Onset < 72 hr)

                                          Signs of neonaltal sepsis**




                       NO                                                                     Yes

     มารดาไดรับ Intrapartum antibiotic                                        CBC , H/C, empirical antibiotic***
      Prophylaxis ( IAP) กอนคลอด > 4

                                                                                          H/C positive
             Yes               NO


    Observe ≥ 48 hr         CBC , H/C,                                              Yes                    NO


                                                                                     LP         Antibiotic 7-10 วัน
        Normal CBC                        Abnormal CBC

                                    empirical antibiotic***
      Observe ≥ 48 hr
                                           H/C positive
                                                                          ผิดปกติ                   ปกติ


                                                                        Antibiotic               Antibiotic
                                      Yes               NO           14 วัน for GBS,         7-10 วัน for GBS,
                                                                    21 วัน for Gram –      14 วัน for Gram – ve
                                      LP
     Antibiotic                                                                ve                   bacilli
 7-10 วัน for GBS,
                             ปกติ            ผิดปกติ            Antibiotic
14 วัน for Gram – ve                                         14 วัน for GBS,
        bacilli
                                                           21 วัน for Gram –
                                                             ve
         *   แมมไข > 38 C , prolonged rupture of membrane > 18 hr , PROM , chorioaminionitis ,
                 ี      o


         HX of previous GBS infection        ในครรภกอน , GBS     bacteriuria
         ** apnea , ไข,ชัก,ซึม , shock
         *** PGS 100,000 mū /kg/dose q 12 hr           or ampicillin 100mg/kg/dose q 12 hr plus
         gentamicin
แนวทางการดูแลรักษาผูปวย
Febrile Convulsion
แนวทางการดูแลรักษาผูปวย Febrile Convulsion*

แนวทาง
1. ผูปวยที่มีอาการชักจากไขครั้งแรกทุกรายควรรับเขารักษาในโรงพยาบาล
       
2. ตรวจวิเคราะหน้ําไขสันหลังทุกรายในเด็กเล็ก(อายุนอยกวา 18 เดือน ถาไมมีขอหาม)
                                                                           
3. การเจาะเลือดหาความผิดปกติทาง metabolic (electrolyte , calcium , magnesium ,
glucose )
4. ยังไมจําเปนตองตรวจเพิมเติมทางหองปฏิบัติการอื่น ๆ เชน EEG,CT scan ในผูปวยที่เปน
                           ่
simple febrile seizure และ complex febrile seizure ที่มีอาการชัดเพียงระยะเวลาสั้น
และไมมีความผิดปกติทางระบบประสาทเพิ่มขึ้น
หลักการรักษา
1. ใหการรักษาเบื้องตน : คลายเสื้อผาที่รัดตัวเด็กออก จับเด็กนอนตะแคงใหศีรษะต่ําเพื่อไมใหสาลัก
                                                                                              ํ
เสมหะเขาปอด ดูแลทางเดินหายใจใหโลง
หาม ใชวัสดุใด ๆ งัด หรือใหยาทางปากในขณะกําลังชัก
2. ลดไขทันทีโดยการเช็ดตัว
3. ใหยากันชัก ในกรณีกําลังชัก ให Diazepam 0.2-0.3 มก./กก. ทางหลอดเลือดดํา ในกรณีแทง
เสนเลือดดําไมไดใหใช Diazepam 0.3-0.5 มก./กก. สวนเก็บทางทวารหนัก
4. เมื่อผูปวยหยุดชัก ใหซักประวัตเิ พิ่มเติม ตรวจประเมินรางกายทั้งระบบทั่วไปและระบบประสาท สง
CBC U/A และสงตรวจหองปฏิบัติการอื่น ๆ เมื่อมีขอบงชี้ เพื่อหาสาเหตุของไขและรักษาสาเหตุของ
ไข
5. นัดผูปวยติดตามอาการในวันรุงขึ้น ทีหองตรวจเด็กผูปวยนอก ในกรณีไมไดรบการรักษาเปนผูปวย
                                             ่                                  ั
ในโรงพยาบาล
6. ใหความรูและคําแนะนํากับผูปกครองทุกรายเกียวกับการชักจากไข
                                                  ่
7. การใชยากันชักเปนครั้งคราว (intermittent prophylaxis ) เชน Diazepam ในชวงเปนไข
ในกรณีผูปกครองวิตกกังวลและไมมั่นใจในการดูแลเมื่อมีการชัก ใหใช Diazepam 0.2 มก./กก./
ครั้ง ใหทุก 6-8 ชั่วโมง ในชวง 24 ชั่วโมงแรก ของไขเทานั้น
8. ไมแนะนะใหใช Phenobarbital หรือ Sodium valproate แบบ continuous
prophylaxis เนื่องจากมีขอมูลวา แมอาจจะลดอาการชักซ้ําจากไขได แตไมมีผลในการปองกันไมให
เกิดเปนโรคลมชักในภายหลังได นอกจากนั้นผลขางเคียงของยาทั้ง 2 อาจทําใหเกิดผลเสียตอเด็ก
มากกวา
ภาคผนวก
คําจํากัดความ
         Febrile convulsion อาการชักจากไข เปนการชักที่เกิดจากไขสูง ในเด็กสวนใหญอายุ
ระหวาง 6 เดือน ถึง 5 ป โดยสาเหตุของไขไมไดเกิดจากการติดเชื้อในสมอง หรือจามความผิดปกติของ
สมดุลเกลือแร หรือจากภาวะน้ําตาลในเลือดต่ํา หรือจากความผิดปกติของสมอง

คําแนะนํา
          1. ตองอธิบายใหผูปกครองทราบวาอาการชักจากไข ในชวงเวลาสั้น ๆ จะไมกอใหเกิดอันตราย
ตอระบบประสาท
          2. ตองอธิบายใหผูปกครองมั่นใจในการดูแลเบื้องตนที่ถูกตอง ถามีอาการไขครั้งตอไปอยาใหมี
ไขสูงตั้งแตเริมปวยโดยใหยาลดไข หมั่นเช็ดตัวลดไขเมือไขมีแนวโนมจะสูงมาก ควรดื่มน้ําใหเพียงพอ
                ่                                      ่
ตั้งแตระยะแรกพรอมกับนําเด็กไปพบแพทยเพื่อตรวจรักษาสาเหตุของไข
          3. ตองอธิบายใหผูปกครองเขาใจถึงความสําคัญและสามารถใหการชวยเหลือเบื้องตนใหถูกตอง
ถาเด็กเกิดอาการชักจากไข กอนที่จะนําเด็กมาพบแพทย
การปฏิบัติในการดูแลเด็กที่มีอาการชักจากไข

                                                   ไขและชักครั้งแรก




                                   -     ใหการรักษาเบื้องตน
                                   -     กรวดน้ําไขสันหลังถาอายุนอยกวา 18 เดือน
                                                                  
                                   -     อายุมากกวา 18 เดือน พิจารณากรวดน้ําไขสันหลัง
                                         เปนราย ๆ *
                                   -     รักษาสาเหตุของไข ใหคําแนะนํา
                                   -     ไมใหยากันชัก




                                                ชักซ้ําในการเจ็บปวยครั้งตอไป



                                        พิจารณาตรวจน้ําไขสันหลัง*และตรวจหาความ
                                       สมดุลของเกลือแรถามีขอบงชี้รักษาสาเหตุของไข

Simple febrile seizure แนะนํา                                                               Complex febrile seizure



              ใหคําแนะนําอาจพิจารณาใหยา diazepam                                       EEG
                            เปนครั้งคราว                                                CT scan เมื่อมีไข



      *ขอบงชี้วาที่จําเปนตองกรวดน้ําไขสันหลังกรณีมีอาการชักจากไข
                                                                                    แนะนํา*
      1. ซึม อาเจียน ไมดูดนม งอแงไมเลนเปนปกติ
                                                                            พิจารณาใหยากันชักตอเนื่อง
      2. มีอาการชักซ้ําหรือชักนานกวา 5 นาที
      3. ตรวจรางกายมีความผิดปกติของระบบประสาทเกิดขึนเพิ่มเติมจากเดิมหรือมี anterior fontanel
                                                            ้
      โปง
แนวทางการดูแลผูปวย
  Pneumonia
Clinical practice guideline for treatment Pneumonia

แผนภูมิที่ 1 : แสดงการดูแลผูปวย Pneumonia ที่ OPD หรือ ER

                                   ผูปวยที่มีอาการไข ไอ + หอบ

               History
                                                                       Investigation ( CBC , CXR)
               Physical exam



                    Pneumonia                                       Other disease




เปน Immunocompromised host                  Notmal host
มี Underlying disease : CHD ,
                                                                  Degree of illness (ดูหนา 5 )
BPD , CP , malnutrition



            Admit                    Not severe               Severe



                                รักษาแบบ OPD Case                Admit
                                      ดูแผนภูมิที่ 2 ( ใหการรักษาตาม แผนภูมิที่ 3 )
แผนภูมิที่ 2 แสดงแนวทางการรักษา Pneumonia ( Not severe)
                    Pneumonia ( Not severe)

                        รักษาแบบ OPD case
                      Supportive case (ดูหนา 6 )



        Virus                                         Bacteria

     No specific
      treatment
                        อายุ 2 เดือน – 5 ป                        อายุ 5 – 15 ป


                         Amoxycilin                                Amoxycilin
                                   2 วัน                                   2 วัน

           ดีขึ้น                    ไมดีขึ้น            ดีขึ้น                       ไมดีขึ้น

       ใหยาครบ 7 วัน                                   ใหยาครบ 7 วัน
                           อาการเลวลง อาการไมเลวลง
                                                                             อาการเลวลง               อาการไมเลวลง

               Admit รักษาแบบ                  S. pneumoniae
              Severe pneumonia                 & H. influenze        Admit รักษาแบบ
                                              ที่ดื้อตอ Penicillin Severe pneumonia

                                Amoxycillin+clavulanic acid
                                   หรือ Cephalosporin                               Mycoplasma
                                                                                                            S. pneumoniae
                                                                                   หรือ Chlamydia                ที่ดื้อยา
                                     (2 or 3 generation)
                                       nd        rd
                                                                                    Pneumoniae
                                        กินจนครบ 7 วัน                          (atypical pneumonia)
                                                                                                    Amoxycillin+clavulanic acid
                                                                                    Macrolide      หรือ Amoxycillin (double dose)
*หมายเหตุ : กรณีไมแนใจวาเปน Pneumonia จากเชือ   ้    กินจนครบ 10-14 วัน
virus หรือ bacteria ให RX แบบ bacterial pneumonia                              หรือ Cephalosporin
                                                                              (2nd or 3rd generation)
           : ผูปวยอายุ < 6 เดือน ที่มีไอ แบบ staccato และเปน afebrile pneumonia ควร
                                                                                    กินจนครบ 7 วัน
erythromycin 14 วัน เพื่อรักษาภาวะปอกอักเสบจาก Chlamydia trachomatis
: กรณีแยกไมไดวาเปน atypical pneumonia หรือ bacterial pneumonia ควรให antibiotics ที่
สามารถครอบคลุมเชื้อไดทั้งหมด
แผนภูมิที่ 3 : แนวทางการรักษา Severe Pneumonia
                                             Severe Pneumonia

                                             Admit + Supportive care



                                                  อายุ 2 เดือน – 5             อายุ 5 – 15 ป
         อายุ < 2 เดือน


PGS หรือ Ampicillin I.V*              Ampicillin I.V ขอมูลสนับสนุน
                                                                                           Penicillin G IV
+ Aminoglycoside                                     วาเปน S.aureus
หรือ Cefotaxime I.V
                                                                                                        2 วัน
หรือ Ceftriaxone I.V
*ให cloxacillin I.V ถามี
                                                      2 วัน
ขอสนับสนุนวาเปนจาก S.aureus
                                                                                         ดีขึ้น          ไมดีขึ้น

                                    ดีขึ้น              ไมดีขึ้น                  Pen V หรือ S. pneumoniae
                                                                                  Amoxycillin      ที่ดื้อยา
                                                                                   จนครบ 7 วัน
                            เปลี่ยน Ampicillin       Ceftriaxone I.V
                                                   หรือ Cefotaxime I.V                            PGS high dose IV.
                                                    หริอ Amoxycillin                              หรือ Cefotaxime
                                                   Clavulanic acid I.V                            หรือ Ceftriaxone
                            เปน Amoxycillin
                               กินจนครบ 7 วัน                    ไขลง 2 วัน                                    ไขลง2 วัน
                                              เปลี่ยนเปน oral antibiotic            เปลี่ยนเปน oral antibiotic
                                                    กินตอจนครบ 7 วัน                      กินตอจนครบ 7 วัน
   หมายเหตุ : กอนให antibiltics ควรทํา hemoculture
            : ถาผูปวยใส ET- tube หรือเด็กโตที่สามารถไปเอาเสมหะออกมาไดใหยอม sputum
              exam และสง culture
            : ในเด็กอายุ < 6 เดือน ที่มี afebrile pneumonia ควรให macrolide 14 วัน เพื่อรักษา
               ปอดอักเสบจาก Chlamydia trachomatis
            : กรณีสงสัย Pneumonia จาก Mycoplasma pneumoniae or Chlamydia
               pneumoniae ใหทํา Bed side cold agglutinin และพิจารณา add macrolide
การจําแนกผูปวย Pneumonia ( Degree of illness)

1. Not severe pneumonia
     - ผูปวยที่มีอัตราการหายใจเร็วกวาเกณฑอายุ (Tachypnea) แตไมมปญหา oxygen
                                                                         ี
desaturation dehydration หรือ alteration of mental status
     - อัตราการหายใจ แบงตามเกณฑของ WHO โดยถือวาผูปวยมี tachypnea เมื่อ
              อายุ < 2 เดือน                   หายใจเร็ว ≥ 60 ครั้ง/นาที
              อายุ 2 เดือน – 1 ป              หายใจเร็ว ≥ 50 ครั้ง/นาที
              อายุ 1- 5 ป                     หายใจเร็ว ≥ 40 ครั้ง/นาที
              อายุ > 5 ป                      หายใจเร็ว ≥ 20 ครั้ง/นาที

2. Severe pneumonia
       - ผูปวยกลุมเสี่ยง ไดแก อายุ < 2 เดือน ( Pneumonia ในเด็กอายุ < 2 เดือนถือวา
severe ทุกราย) ผูปวยที่มี underlying disease เชน BPD, heart disease,
malnutrition หรือเปน immunocompromised host
       - หายใจเร็ว > 70 ครั้ง/นาที ในเด็กเล็ก หรือ > 50 ครั้ง/นาที ในเด็กโต ( > 1 ขวบ)
       - Marked retraction or cyanosis or apnea
       - Oxygen saturation < 92 % เมื่อไมไดรับ oxygen ( in room air)
       - มีภาวะ dehydration , ซึม,ชัก,ไมดูดนมหรือไมรับประทานอาหาร
       - CXR มี complication of pneumonia เชนมี pleural
effusion,lung abscess,atelectasis หรือ พบ pneumatocele รวมทั้งรายที่สงสัย
pneumonia จากเชื้อ staphylococcus aureus เพราะมักมีการเปลี่ยนแปลงเร็วและ
รุนแรง
General supportive care for Pneumonia

1. ใหสารน้ําใหเพียงพอ แนะนําใหผูปวยดื่มน้ํามาก ๆ ในรายทีหอบมาก ทองอืด กินอาหารไมได
                                                           ่
พิจารณาใหสารน้ําทางหลอดเลือด และงดอาหารทางปากเพื่อปองกันการสําลัก
2. ใหยาขับเสมหะหรือยาละลายเสมหะในกรณีเสมหะเหนียวและขนมาก
3. หลีกเลี่ยงการใหยากดการไอและ antihistamine
4. ให bronchodilator ในรายที่ wheezing รวมดวย
5. ถามีไข แนะนําให Tepid sponge และใหยาลดไขกลุม paracetamol
6. ทํากายภาพบําบัดทรวงอก ( chest physiscsal therapy) ไดแก การจัดทาระบายเสมหะ
และเคาะปอดใหกบเด็กที่มเี สมหะคั่งคางในหลอดลม เพื่อชวยใหเสมหะถูกขับออกจากปอดและ
                  ั
หลอดลมไดดข้น ในผูปวยที่อาการหนักใหเพียงการสั่นสะเทือนบริเวณทรวงอก (vibration) และ
              ีึ
ชวยดูดเสมหะ
7. ใหออกซิเจน พิจารณาใหในรายที่มีอาการเขียว,อัตราการหายใจ ≥ 70 ครั้ง/นาที ในเด็กเล็กและ ≥
50 ครั้ง/นาที ในเด็กโต (> 1 ขวบ ) , มีชายโครงบุมมาก, กระวนกระวายหรือซึม ในรายที่มีภาวะการ
หายใจลมเหลว หรือ apnea ใหใส ET –tube และยายเขา ICU
เกณฑการแยก Viral Pneumonia / Bacterial Pneumonia

1. ประวัติการเจ็บปวยของคนใกลชิดในครอบครัว ถามีปวยกันหลายคนคิดถึง Virus > Bacteria
2. การฟงเสียง breath sound ใน virus pneumonia มักไดเสียง wheezing ดวยแต
ใน Bacterial pneumonia ไมคอยพบ wheezing
3. CBC : Virus Pneumonia                     WBC อาจสูงเล็กนอยหรืออยูในเกณฑปกติ ,
lymphocyte เพิ่มสูงขึ้น
          : Bacterial pneumonia                   WBC สูงมักเกิน 15,000 cells /
cu.mm , neutrophil เดนและ Band เพิ่ม
4. ESR ถามีคาสูงขึ้นกวาปกติ ( ≥ 30 mm. /hr.) คิดถึง bacterial pneumonia
5. CXR : ถามี interstitial infiltration หรือ perihilar infiltration คิดถึง
Viral pneumonia
           : ถามี alveolar infiltration หรือ consolidation หรือ lobar
infiltration คิดถึง bacterial pneumonia


หมายเหตุ : กรณีไมสามารถแยกไดวาเปน Virus Pneumonia หรือ Bacterial
                                
pneumonia และผูปวยมีอาการมากควรรักษา แบบ bacterial pneumonia ไปกอน
         : reference จาก Update on Pediatric infectious disease
2005
Antibiotics ที่ใชรักษา Pneumonia

            ชนิดกิน          ขนาดยา (มก./กก./วัน)                 ชนิดของเชื้อโรค
Amoxycillin                40-50                      S.pneumonia
Amoxycillin                80-100                     Drug resistant S.pneumonia
                                                      (DRSP)
Erythromycin               30-40                      S.pneumonia , Chlamydia ,
                                                      Mycoplasma
Amoxycillin+clavulanic     40-50                      S.pneumonia , H.influenzae
acid*
Clarithromycin             15                         S.pneumonia , H. influenzae ,
                                                      Chlamydia , Mycoplasma
Azithromycin               10 มก./กก. ในวันที่ 1      S.pneumoniae , H.influenzae ,
                                                      Chlamydia , Mycoplasma
                           จากนั้น 5 มก./กก. ตออีก
                           4 วัน
Cefprozil                  30-40                      S.pneumonia , H.influenzae
Cefdinir                   14                         S.pneumoniae , H.influenzae
ชนิดฉีด                    ขนาดยา (มก./กก./วัน)       ชนิดของเชื้อโรค
Ampicillin                 100-200                    S.pneumoniae
Amoxycillin+clavulanic     40-50                      S.pneumoniae , H.influenzae
acid
Penicillin G sodium        1-2 แสนยูนต/กก.วัน
                                     ิ                S.pneumonia
(PGS)
Cloxacillin**              100-150                    S.aureus
Gentamicin                 5-7                        Gram negative bacilli
Amikacin                   15-30                      Gram negative bacilli
Cefotaxime                 100-200                    S.pneumonia , H.influenzae
Ceftriaxon                 50-100                     S.pneumonia , H.influenzae




*ถาสงสัย DRSP ควรให double dose ( 80-100 mg/kg/day ของ Amoxycillin)
**ถามี empyema หรือ pneumatocele ควรให dose 200 mg/kg/day.
แนวทางการดูแลผูปวย ALL
                 
Pedriatric department Buddhachinaraj Hospital Multidisplinary Carepath
                                                              ( ALL on Siriraj ALL-03A protocol for Induction of remission phase)
                            Week 1                           Week 2                          Week 3                             Week 4                             Week 5                                 Week 6
  Plan of care       …………………………..                   …………………………..                       ……………………………                        …………………………..                       …………………………                         ………………………………
                    1   2   3   4   5   6   7   8   9   10    11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43

Expected         of ผูดูแลและผูปวย           ผูดูแลและผูปวยทราบ             ผูดูแลและผูปวยทราบแนว           ผูดูแลและผูปวยทราบแนว           ผูดูแลและผูปวยทราบแนว           ผูดูแลและผูปวยทราบแนว
                                                                                                                                                                                                         
outcome             ทราบแนวทางการ               แนวทางการ                         ทางการรักษาพยาบาล                  ทางการรักษาพยาบาล                  ทางการรักษาพยาบาล                  ทางการรักษาพยาบาล
                    รักษาพยาบาลและ              รักษาพยาบาลและไดรับ              และไดรับการเตรียมความ             และไดรับการเตรียมความ             และไดรับการเตรียมความ             และไดรับการเตรียมความ
                    ไดรับการเตรียม             การเตรียมความพรอมใน              พรอมในการ                         พรอมในการ                         พรอมในการ                         พรอมในการ
                    ความพรอมในการ              การรักษาพยาบาลไดรับ              รักษาพยาบาลไดรับการ               รักษาพยาบาลไดรับการ               รักษาพยาบาลไดรับการ               รักษาพยาบาลไดรับการ
                    รักษาพยาบาลไดรับ           การรักษาพยาบาลที่ได              รักษาพยาบาลที่ได                  รักษาพยาบาลที่ได                  รักษาพยาบาลที่ได                  รักษาพยาบาลที่ได
                    การรักษาพยาบาลที่           มาตรฐานและพึงพอใจ -               มาตรฐานและพึงพอใจ -                มาตรฐานและพึงพอใจ -                มาตรฐานและพึงพอใจ -                มาตรฐานและพึงพอใจ
                    ไดมาตรฐานและพึง            ลด LOS -ลด cost                   ลด LOS -ลด cost                    ลด LOS -ลด cost                    ลด LOS -ลด cost                    -ลด LOS -ลด cost
                    พอใจ -ลด LOS -
                    ลด cost
Week 1                            Week 2                          Week 3                              Week 4                             Week 5                                 Week 6
Plan of care   …………………………..                    …………………………..                    ……………………………                            …………………………..                        …………………………                         ………………………………
               1   2   3   4   5   6   7   8    9   10    11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22    23   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39    41 42 43
                                                                                                                                                                                                            40
Assessment     ● anxiety,fear,pain,v/s ● anxiety,fear,pain,v/s                ● anxiety,fear,pain,v/s            ● anxiety,fear,pain,v/s             ● anxiety,fear,pain,v/s            ● anxiety,fear,pain,v/s
                physical exam          ● N/V, stomatitis                      ● N/V, stomatitis                  ● N/V, stomatitis                   ● N/V, stomatitis                  ● N/V, stomatitis
                                       ● Phepbitis                            ● Phepbitis                        ● Phepbitis                         ● Phepbitis                        ● Phepbitis
                                       ● tissure necrosis                     ● tissure necrosis                 ● tissure necrosis                  ● tissure necrosis                 ● tissure necrosis
                                       ● physical exam                        ● physical exam                    ● physical exam                     ● physical exam                    ● physical exam
Week 1                             Week 2                          Week 3                              Week 4                             Week 5                                 Week 6
  Plan of care   …………………………..                     …………………………..                    ……………………………                            …………………………..                        …………………………                         ………………………………
                 1   2   3   4    5   6   7   8    9   10    11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22    23   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43
      Test         CXR                   ● CBC plt                               ● CBC plt                          ● CBC plt                           ● CBC plt                          ● CBC plt                          B
                   CBC plt2ครั้ง/week    ทุกวันจันทร พฤหัสบดี                   ทุกวันจันทร พฤหัสบดี              ทุกวันจันทร พฤหัสบดี               ทุกวันจันทร พฤหัสบดี              ทุกวันจันทร พฤหัสบดี              M
                    G/M,                                                                                                                                                                                                      A
                   BUN,Cr,E'lyte,uric,C
                 aMg,P,LFT
                 (ตามความเหมาะสม)
                   H/C,U/A,U/C,
                   stool exam,stool c/s
                   BMA (หากยังไมไดทํา)




Treatment          PRC if Hct < 25%               PRC if Hct < 25%
                   Plt conc if <20,000            Plt conc if < 20,000
                       Alkalinization
                          Hydration
                 (Fluid 3,000 ml/m3 day
                 ดวย 5%D/N/5 1,000ml +
                 7.5% NaHCO3 40 ml iv
                 drip....ml/hr)
Week 1                         Week 2                            Week 3                                Week 4                                 Week 5                              Week 6
Plan of care     …………………………..                   …………………………..                     ……………………………                            …………………………..                           …………………………                         ………………………………
                 1     2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22    23     24   25   26   27   28    29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43
    Medication       Albendazole
                                       prednisolone
                                         sodamit
                                          zyloric
                 V                             V If febrile neutropenia* V If febrile neutropenia* V                           If febrile neutropenia*         V If febrile neutropenia* V
                 C                             C ดู guideline            C Stomatitis** ปฏิบัติตามดู C                        Stomatitis** ปฏิบัติตามดู        C Stomatitis** ปฏิบัติตามดู C
                 R                             R                         R        guideline          R                                guideline                R        guideline          R
                 A                             A If febrile neutropenia* A If febrile neutropenia* A                           If febrile neutropenia*         A If febrile neutropenia* A
                 D                             D      ดู guideline       D Stomatitis** ปฏิบัติตามดู D                        Stomatitis** ปฏิบัติตามดู        D Stomatitis** ปฏิบัติตามดู D
                 R                             R                         R        guideline          R                                guideline                R        guideline          R
                                                                                                    L              L                                L               L              L
                                                                                                                                     L
                                                                                                    A              A                                A               A              A
                                                                                                                                     A
                                                                                                    S              S                                S               S              S
                                                                                                                                     S
                                                                                                    P              P                                P               P              P
                                                                                                                                     P
                                                                                IT                            IT                                         IT
                                                                                           I f pain ตาม guidelin
Consult              ทันตกรรม
Activity                                                                   ตามสภาพผูปวย*** (กิจกรรมนันทนาการ การฝกจิต)
● Diet                                             ตามสภาพ ANC , stomatitis ของผูปวยเนนสุกสะอาด******** ( cryotherapy วันที่ใหยาเคมีบําบัด)
Week 1                              Week 2                          Week 3                               Week 4                             Week 5                                 Week 6
Plan of care   …………………………..                      …………………………..                    ……………………………                             …………………………..                        …………………………                         ………………………………
               1   2   3    4   5   6    7   8    9   10    11   12   13   14   15   16   17   18    19   20   21   22    23   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43
Education        Counseling                  ●สอนและสาธิตการปฏิบัติเกี่ยวกับการติดเชื้อ การปองกัน                  T     ●ทบทวนการปฏิบัติเกี่ยวกับ          T    ●ทบทวนการปฏิบัติเกี่ยวกับ          T
               ●Pretest                      bleedingอาหารactivityที่เหมาะสมวิธีลดไขการลดอาการN/V                  E     การติดเชื้อ การปองกัน             E    การติดเชื้อ การปองกัน             E
               ●สอนและสาธิตการปฏิบัติ        การรักษาความสะอาดในชองปากcoping techning                              S     bleeding อาหาร activity ที่        S    bleeding อาหาร activity ที่        S
               เกี่ยวกับการติดเชื้อ การ      ♦ ยา                                                                   T     เหมาะสม วิธีลดไข การลด            T    เหมาะสม วิธีลดไข การลด            T
               ปองกันbleedingอาหาร                                                                                       อาการN/V การรักษาความ                   อาการN/V การรักษาความ
               activityที่เหมาะสมวิธีลดไข                                                                                สะอาดในชองปาก coping                   สะอาดในชองปาก coping
               การลดอาการN/Vการรักษา
                                                                                                                          techning                                techning
               ความสะอาดในชองปาก
               coping techning,support
               group
               ♦ยา


   D/C plan    ●ประเมินความพรอม   ●สอนตามขอ education                         ●สอนตามขอ education                ●สอนตามขอ education                ●สอนตามขอ education               ●สอนตามขอeducation
               ของผูดแลพรอมเศรษ
                      ู                                                                                                                                                                    ●เตรียมเอกสารสงตอขอมูลใน
               ฐานะ                                                                                                                                                                        เรื่องยาการดูแลอาการผิดปกติที่
               ●สถานพยาบาลใกลบาน                                                                                                                                                         ควรมาโรงพยาบาล เบอรโทร บัตร
               สถานศึกษา                                                                                                                                                                   นัดและขั้นตอนการติดตอ




หมายเหตุ                   แพทย                      ●พยาบาล                                  ♦ยา
แนวทางการดูแลผูปวยที่มี
Febrile Neutropenia (FN)
ชื่อ..............................................นามสกุล..............................อายุ..........ป HN.........................การวินิจฉัยโรค..................................
       แนวทางการดูแลผูปวยที่มี Febrile neutropenia (FN)(1) ของกลุมงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลพุทธชินราช
                                               ประวัตและการตรวจรางกายอยางละเอียด
                                                     ิ
                                               CBC , U/A , Stool exam
                                               Hemoculture (Bactec) 1 specomen , Urine culture



              Low risk                                                                                                                High risk (2)


            1st regimen (3)                                  Modification of regimen (3)                                             2nd regimen (4)
            ___/___/___                                            ___/___/___                                                       ___/___/___


                                                                  ประเมิน 72 ชม. หลังใชยา
                                                                        ___/___/___                                                                                       ใช

                                                                                                                                  เชื้อ.....................
                                                                        ทราบผลเพาะเชื้อ                       ใช
                                                                                                                                   ___/___/___
                                                                                ไมใช
                                                                                                                               ใหยาตามชนิดของเชื้อ
                                                                          H/C : NG
                                                                         ___/___/___


                  ไมมีไข __/__/__                                                                                 มีไข __/__/__

                                                  2nd regimen                                           อาการดีขึ้น                           อาการไมดีขึ้น
                                                                                      ไขเปนซ้ํา




      Low risk
     ANC > 100                                    หรือ high risk                                      ___/___/__                             ___/___/__
  ___/___/___                                     ANC < 100
                                                 ___/___/___
                                                                                                                                         Hemoculture ซ้ํา
   เปลี่ยนเปน 3   rd
                                                                                                      ประเมิน 3-4 วัน
 generation oral                                   ใหยาตาม regimen เดิม                                                                  ___/___/__
 cephalosporin(6)                                 ตอจนไมมีไข อยางนอย 5 วัน
       อีก 5-7 วัน                                                                              ใช
                                 ไขเปนซ้ํา




                                                        repeat CBC                                      อาการดีขึ้น         ไมใช         ได 1st regimen
                                                                                                                หาหลักฐานการติดเชื้อราและให                   ไมใช
                              ANC > 100                                      ANC < 100
                                                                                                                antifungal(7)ถามี FN>7 วัน
                          หยุดยาปฏิชีวนะ                    เปลี่ยนเปน 3rd generation oral                          ___/___/___                               ประเมินซ้ําภายใน 3-4วัน
                                                                                (6)
                          ___/___/___                       cephalosporin อีก 5-7วัน
                                                                                                                      อาการดีขึ้น ไมมีไข
                                                                                                                         ____/____/____
                                                       หยุดยาหลังจากไมมีไข5-7วันหรือให                                                                        ไมใช
                                                                                                              ใช
                                                       ATB 2 wks Antifungal 3-2                                                    ประเมินซ้ํา CBC U/A,H/C,MUC
                                                       wks
                                                                                                                                   CXR,U/S abdomen eye exam
Cpg ped
Cpg ped
Cpg ped
Cpg ped
Cpg ped
Cpg ped
Cpg ped
Cpg ped
Cpg ped
Cpg ped
Cpg ped

Contenu connexe

Tendances

ติวเด็ก
 ติวเด็ก ติวเด็ก
ติวเด็กRofus Yakoh
 
การพยาบาลDhf
การพยาบาลDhfการพยาบาลDhf
การพยาบาลDhfMaytinee Beudam
 
Clinical practice guidelines mild head injury
Clinical practice guidelines mild head injuryClinical practice guidelines mild head injury
Clinical practice guidelines mild head injurySiwaporn Khureerung
 
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีอารมณ์ผิดปกติ โดย อ.วิไลวรรณ บุญเรือง
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีอารมณ์ผิดปกติ โดย อ.วิไลวรรณ  บุญเรืองการพยาบาลผู้ป่วยที่มีอารมณ์ผิดปกติ โดย อ.วิไลวรรณ  บุญเรือง
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีอารมณ์ผิดปกติ โดย อ.วิไลวรรณ บุญเรืองUtai Sukviwatsirikul
 
Psoriasis แนวทางการรักษา
Psoriasis แนวทางการรักษาPsoriasis แนวทางการรักษา
Psoriasis แนวทางการรักษาUtai Sukviwatsirikul
 
โรคไข้เลือดออก (Dengue hemorrhagic fever)
โรคไข้เลือดออก (Dengue hemorrhagic fever)โรคไข้เลือดออก (Dengue hemorrhagic fever)
โรคไข้เลือดออก (Dengue hemorrhagic fever)Aiman Sadeeyamu
 
การดูแลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
การดูแลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจการดูแลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
การดูแลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจtechno UCH
 
กลไกการคลอดปกติ 8 ขั้นตอน
กลไกการคลอดปกติ 8 ขั้นตอนกลไกการคลอดปกติ 8 ขั้นตอน
กลไกการคลอดปกติ 8 ขั้นตอนda priyada
 
Central venous pressure (cvp)
Central venous pressure (cvp)Central venous pressure (cvp)
Central venous pressure (cvp)piyarat wongnai
 
คู่มือการจ่ายยาเด็ก (Drugs in Pediatrics)
คู่มือการจ่ายยาเด็ก  (Drugs in Pediatrics)คู่มือการจ่ายยาเด็ก  (Drugs in Pediatrics)
คู่มือการจ่ายยาเด็ก (Drugs in Pediatrics)Utai Sukviwatsirikul
 
คู่มือการดูแลตนเอง โรคความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุ
คู่มือการดูแลตนเอง โรคความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุคู่มือการดูแลตนเอง โรคความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุ
คู่มือการดูแลตนเอง โรคความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุUtai Sukviwatsirikul
 
การใช้ยาในเด็ก (Drugs in Pediatrics)
การใช้ยาในเด็ก (Drugs in Pediatrics)การใช้ยาในเด็ก (Drugs in Pediatrics)
การใช้ยาในเด็ก (Drugs in Pediatrics)Aiman Sadeeyamu
 
Pediatric dosage table ขนาดการใช้ในเด็กแบ่งตามอายุ+น้ำหนัก
Pediatric dosage table   ขนาดการใช้ในเด็กแบ่งตามอายุ+น้ำหนักPediatric dosage table   ขนาดการใช้ในเด็กแบ่งตามอายุ+น้ำหนัก
Pediatric dosage table ขนาดการใช้ในเด็กแบ่งตามอายุ+น้ำหนักAiman Sadeeyamu
 
TAEM10: Endocrine Emergency
TAEM10: Endocrine EmergencyTAEM10: Endocrine Emergency
TAEM10: Endocrine Emergencytaem
 
คู่มือการดูแลตนเอง โรคเบาหวาน
คู่มือการดูแลตนเอง โรคเบาหวานคู่มือการดูแลตนเอง โรคเบาหวาน
คู่มือการดูแลตนเอง โรคเบาหวานUtai Sukviwatsirikul
 
ขนาดยาที่ใช้ในเด็ก
ขนาดยาที่ใช้ในเด็กขนาดยาที่ใช้ในเด็ก
ขนาดยาที่ใช้ในเด็กAiman Sadeeyamu
 
Pediatric dose from angthong hospital
Pediatric dose from angthong hospital Pediatric dose from angthong hospital
Pediatric dose from angthong hospital Utai Sukviwatsirikul
 

Tendances (20)

ติวเด็ก
 ติวเด็ก ติวเด็ก
ติวเด็ก
 
การพยาบาลDhf
การพยาบาลDhfการพยาบาลDhf
การพยาบาลDhf
 
Clinical practice guidelines mild head injury
Clinical practice guidelines mild head injuryClinical practice guidelines mild head injury
Clinical practice guidelines mild head injury
 
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีอารมณ์ผิดปกติ โดย อ.วิไลวรรณ บุญเรือง
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีอารมณ์ผิดปกติ โดย อ.วิไลวรรณ  บุญเรืองการพยาบาลผู้ป่วยที่มีอารมณ์ผิดปกติ โดย อ.วิไลวรรณ  บุญเรือง
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีอารมณ์ผิดปกติ โดย อ.วิไลวรรณ บุญเรือง
 
Psoriasis แนวทางการรักษา
Psoriasis แนวทางการรักษาPsoriasis แนวทางการรักษา
Psoriasis แนวทางการรักษา
 
โรคไข้เลือดออก (Dengue hemorrhagic fever)
โรคไข้เลือดออก (Dengue hemorrhagic fever)โรคไข้เลือดออก (Dengue hemorrhagic fever)
โรคไข้เลือดออก (Dengue hemorrhagic fever)
 
ภาวะซีด
ภาวะซีดภาวะซีด
ภาวะซีด
 
การดูแลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
การดูแลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจการดูแลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
การดูแลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
 
กลไกการคลอดปกติ 8 ขั้นตอน
กลไกการคลอดปกติ 8 ขั้นตอนกลไกการคลอดปกติ 8 ขั้นตอน
กลไกการคลอดปกติ 8 ขั้นตอน
 
Central venous pressure (cvp)
Central venous pressure (cvp)Central venous pressure (cvp)
Central venous pressure (cvp)
 
คู่มือการจ่ายยาเด็ก (Drugs in Pediatrics)
คู่มือการจ่ายยาเด็ก  (Drugs in Pediatrics)คู่มือการจ่ายยาเด็ก  (Drugs in Pediatrics)
คู่มือการจ่ายยาเด็ก (Drugs in Pediatrics)
 
คู่มือการดูแลตนเอง โรคความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุ
คู่มือการดูแลตนเอง โรคความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุคู่มือการดูแลตนเอง โรคความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุ
คู่มือการดูแลตนเอง โรคความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุ
 
การใช้ยาในเด็ก (Drugs in Pediatrics)
การใช้ยาในเด็ก (Drugs in Pediatrics)การใช้ยาในเด็ก (Drugs in Pediatrics)
การใช้ยาในเด็ก (Drugs in Pediatrics)
 
Pediatric dosage table ขนาดการใช้ในเด็กแบ่งตามอายุ+น้ำหนัก
Pediatric dosage table   ขนาดการใช้ในเด็กแบ่งตามอายุ+น้ำหนักPediatric dosage table   ขนาดการใช้ในเด็กแบ่งตามอายุ+น้ำหนัก
Pediatric dosage table ขนาดการใช้ในเด็กแบ่งตามอายุ+น้ำหนัก
 
TAEM10: Endocrine Emergency
TAEM10: Endocrine EmergencyTAEM10: Endocrine Emergency
TAEM10: Endocrine Emergency
 
Guideline diabetes-care-2017
Guideline diabetes-care-2017Guideline diabetes-care-2017
Guideline diabetes-care-2017
 
คู่มือการดูแลตนเอง โรคเบาหวาน
คู่มือการดูแลตนเอง โรคเบาหวานคู่มือการดูแลตนเอง โรคเบาหวาน
คู่มือการดูแลตนเอง โรคเบาหวาน
 
ขนาดยาที่ใช้ในเด็ก
ขนาดยาที่ใช้ในเด็กขนาดยาที่ใช้ในเด็ก
ขนาดยาที่ใช้ในเด็ก
 
Pediatric dose from angthong hospital
Pediatric dose from angthong hospital Pediatric dose from angthong hospital
Pediatric dose from angthong hospital
 
Case study : dengue fever
Case study : dengue feverCase study : dengue fever
Case study : dengue fever
 

Similaire à Cpg ped

Osce examination si116
Osce examination si116Osce examination si116
Osce examination si116vora kun
 
NTstep3round2 9_jan2554
NTstep3round2 9_jan2554NTstep3round2 9_jan2554
NTstep3round2 9_jan2554vora kun
 
แนวทางเวชปฏิบัติในการรักษาผู้ป่วยมาลาเรียในประเทศไทย พ.ศ.2557
แนวทางเวชปฏิบัติในการรักษาผู้ป่วยมาลาเรียในประเทศไทย พ.ศ.2557แนวทางเวชปฏิบัติในการรักษาผู้ป่วยมาลาเรียในประเทศไทย พ.ศ.2557
แนวทางเวชปฏิบัติในการรักษาผู้ป่วยมาลาเรียในประเทศไทย พ.ศ.2557Utai Sukviwatsirikul
 
Total parenteral nutrition
Total parenteral nutrition Total parenteral nutrition
Total parenteral nutrition techno UCH
 
Hand out km & best practice อุดรธานี พฤศจิกายน 2557
Hand out km & best practice อุดรธานี พฤศจิกายน 2557Hand out km & best practice อุดรธานี พฤศจิกายน 2557
Hand out km & best practice อุดรธานี พฤศจิกายน 2557Kamol Khositrangsikun
 
แนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีและซีเรื้อรัง
แนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีและซีเรื้อรังแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีและซีเรื้อรัง
แนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีและซีเรื้อรังUtai Sukviwatsirikul
 
interesting case
interesting  caseinteresting  case
interesting caseSHAMONBEST1
 
24.hbv and hcv guideline 2012 (update)
24.hbv and hcv guideline 2012 (update)24.hbv and hcv guideline 2012 (update)
24.hbv and hcv guideline 2012 (update)Aimmary
 
Common nutritional problems in pediatrics
Common nutritional problems in pediatricsCommon nutritional problems in pediatrics
Common nutritional problems in pediatricsPitiphong Sangsomrit
 
TAEM10:Roles of endoscopic nurse
TAEM10:Roles of endoscopic nurseTAEM10:Roles of endoscopic nurse
TAEM10:Roles of endoscopic nursetaem
 
ลำไส้อุดตันในเด็ก (Intestinal obstruction in children)
ลำไส้อุดตันในเด็ก (Intestinal obstruction in children)ลำไส้อุดตันในเด็ก (Intestinal obstruction in children)
ลำไส้อุดตันในเด็ก (Intestinal obstruction in children)ไทเก็ก นครสวรรค์
 
คู่มือแนวทางการดําเนินงานด้านโรควัณโรค สำนักการแพทย์ กทม.
คู่มือแนวทางการดําเนินงานด้านโรควัณโรค  สำนักการแพทย์ กทม. คู่มือแนวทางการดําเนินงานด้านโรควัณโรค  สำนักการแพทย์ กทม.
คู่มือแนวทางการดําเนินงานด้านโรควัณโรค สำนักการแพทย์ กทม. Utai Sukviwatsirikul
 
คูมูมอืือแนวทางการดําําเนนิินงานดานวัณั โรค คมู อื แนวทางการดาํ เนินงานด...
คูมูมอืือแนวทางการดําําเนนิินงานดานวัณั โรค คมู อื แนวทางการดาํ เนินงานด...คูมูมอืือแนวทางการดําําเนนิินงานดานวัณั โรค คมู อื แนวทางการดาํ เนินงานด...
คูมูมอืือแนวทางการดําําเนนิินงานดานวัณั โรค คมู อื แนวทางการดาํ เนินงานด...Utai Sukviwatsirikul
 

Similaire à Cpg ped (20)

Denguehemorrhage
DenguehemorrhageDenguehemorrhage
Denguehemorrhage
 
Denguehemorrhage
DenguehemorrhageDenguehemorrhage
Denguehemorrhage
 
Osce examination si116
Osce examination si116Osce examination si116
Osce examination si116
 
Bleeding in first half
Bleeding in first halfBleeding in first half
Bleeding in first half
 
NTstep3round2 9_jan2554
NTstep3round2 9_jan2554NTstep3round2 9_jan2554
NTstep3round2 9_jan2554
 
For extern
For externFor extern
For extern
 
แนวทางเวชปฏิบัติในการรักษาผู้ป่วยมาลาเรียในประเทศไทย พ.ศ.2557
แนวทางเวชปฏิบัติในการรักษาผู้ป่วยมาลาเรียในประเทศไทย พ.ศ.2557แนวทางเวชปฏิบัติในการรักษาผู้ป่วยมาลาเรียในประเทศไทย พ.ศ.2557
แนวทางเวชปฏิบัติในการรักษาผู้ป่วยมาลาเรียในประเทศไทย พ.ศ.2557
 
Total parenteral nutrition
Total parenteral nutrition Total parenteral nutrition
Total parenteral nutrition
 
Hand out km & best practice อุดรธานี พฤศจิกายน 2557
Hand out km & best practice อุดรธานี พฤศจิกายน 2557Hand out km & best practice อุดรธานี พฤศจิกายน 2557
Hand out km & best practice อุดรธานี พฤศจิกายน 2557
 
แนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีและซีเรื้อรัง
แนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีและซีเรื้อรังแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีและซีเรื้อรัง
แนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีและซีเรื้อรัง
 
interesting case
interesting  caseinteresting  case
interesting case
 
24.hbv and hcv guideline 2012 (update)
24.hbv and hcv guideline 2012 (update)24.hbv and hcv guideline 2012 (update)
24.hbv and hcv guideline 2012 (update)
 
Symptoms management2
Symptoms management2Symptoms management2
Symptoms management2
 
Common nutritional problems in pediatrics
Common nutritional problems in pediatricsCommon nutritional problems in pediatrics
Common nutritional problems in pediatrics
 
TAEM10:Roles of endoscopic nurse
TAEM10:Roles of endoscopic nurseTAEM10:Roles of endoscopic nurse
TAEM10:Roles of endoscopic nurse
 
Pneumonia
PneumoniaPneumonia
Pneumonia
 
ลำไส้อุดตันในเด็ก (Intestinal obstruction in children)
ลำไส้อุดตันในเด็ก (Intestinal obstruction in children)ลำไส้อุดตันในเด็ก (Intestinal obstruction in children)
ลำไส้อุดตันในเด็ก (Intestinal obstruction in children)
 
Rr rx
Rr rxRr rx
Rr rx
 
คู่มือแนวทางการดําเนินงานด้านโรควัณโรค สำนักการแพทย์ กทม.
คู่มือแนวทางการดําเนินงานด้านโรควัณโรค  สำนักการแพทย์ กทม. คู่มือแนวทางการดําเนินงานด้านโรควัณโรค  สำนักการแพทย์ กทม.
คู่มือแนวทางการดําเนินงานด้านโรควัณโรค สำนักการแพทย์ กทม.
 
คูมูมอืือแนวทางการดําําเนนิินงานดานวัณั โรค คมู อื แนวทางการดาํ เนินงานด...
คูมูมอืือแนวทางการดําําเนนิินงานดานวัณั โรค คมู อื แนวทางการดาํ เนินงานด...คูมูมอืือแนวทางการดําําเนนิินงานดานวัณั โรค คมู อื แนวทางการดาํ เนินงานด...
คูมูมอืือแนวทางการดําําเนนิินงานดานวัณั โรค คมู อื แนวทางการดาํ เนินงานด...
 

Plus de Loveis1able Khumpuangdee (20)

Rollup01
Rollup01Rollup01
Rollup01
 
Protec
ProtecProtec
Protec
 
Factsheet hfm
Factsheet hfmFactsheet hfm
Factsheet hfm
 
Factsheet
FactsheetFactsheet
Factsheet
 
Eidnotebook54
Eidnotebook54Eidnotebook54
Eidnotebook54
 
Data l3 148
Data l3 148Data l3 148
Data l3 148
 
Data l3 147
Data l3 147Data l3 147
Data l3 147
 
Data l3 127
Data l3 127Data l3 127
Data l3 127
 
Data l3 126
Data l3 126Data l3 126
Data l3 126
 
Data l3 113
Data l3 113Data l3 113
Data l3 113
 
Data l3 112
Data l3 112Data l3 112
Data l3 112
 
Data l3 92
Data l3 92Data l3 92
Data l3 92
 
Data l3 89
Data l3 89Data l3 89
Data l3 89
 
Data l2 80
Data l2 80Data l2 80
Data l2 80
 
Hfm reccomment10072555
Hfm reccomment10072555Hfm reccomment10072555
Hfm reccomment10072555
 
Hfm work2550
Hfm work2550Hfm work2550
Hfm work2550
 
Factsheet hfm
Factsheet hfmFactsheet hfm
Factsheet hfm
 
Publichealth
PublichealthPublichealth
Publichealth
 
แนวทางการดาเน ํ นงานป ิ องก ้ นควบค ั มการระบาดของโรคม ุ ือ เท้า ปาก สําหรบแพ...
แนวทางการดาเน ํ นงานป ิ องก ้ นควบค ั มการระบาดของโรคม ุ ือ เท้า ปาก สําหรบแพ...แนวทางการดาเน ํ นงานป ิ องก ้ นควบค ั มการระบาดของโรคม ุ ือ เท้า ปาก สําหรบแพ...
แนวทางการดาเน ํ นงานป ิ องก ้ นควบค ั มการระบาดของโรคม ุ ือ เท้า ปาก สําหรบแพ...
 
hand foot mouth
hand foot mouthhand foot mouth
hand foot mouth
 

Cpg ped

  • 1. แนวทางในการปฏิบัติงานดูแลผูปวย (Clinical Practice Guideline) กลุมงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก เมษายน 2552 รวบรวมโดย... กลุมงานกุมารเวชกรรมและศูนยคุณภาพ 
  • 2. สารบัญ แนวทางในการปฏิบัติงานดูแลผูปวย (Clinical Practice Guideline) - แนวทางการรักษาผูปวยทีมการติดเชื้อทางเดินปสสาวะ ่ ี - แนวทางปฏิบัติงานดูแลรักษาโรคไขเลือดออก - แนวทางการดูแลรักษาทารกแรกเกิดตัวเหลือง - แนวทางการดูแล Preterm Infants - แนวทางการดูแลรักษาผูปวย Febrile Convulsion - แนวทางการดูแลผูปวย Pneumonia - แนวทางการดูแลผูปวย ALL - แนวทางการดูแลผูปวยที่มี Febrile Neutropenia (FN) - แนวทางในการใหสารลดแรงตึงผิว (“Surfactant”) ในทารกแรกเกิดที่มีภาวะหายใจลําบากจาก การคลอดกอนกําหนด - แนวทางในการลดการใชเครื่องชวยหายใจในทารกแรกเกิดที่มภาวะหายใจลําบากจากการคลอดกอน ี กําหนด - แนวทางในการใหสวนประกอบของเลือดในทารกแรกเกิดที่มภาวะซีด  ี - แนวทางการตรวจจอประสาทตาในทารกคลอดกอนกําหนด - แนวทางการสงปรึกษาเพื่อตรวจหา Retinopathy of Prematurity - แนวทางการใหวคซีนปองกันตับอักเสบบีในทารกแรกเกิด ั - แนวทางการดูแลภาวะ Hypoglycemia
  • 4. แนวทางการรักษาผูปวยที่มีการติดเชื้อทางเดินปสสาวะ การติดเชื้อในทางเดินปสสาวะ อาจเปนอาการและอาการแสดงของความผิดปกติในทางเดิน ปสสาวะอยางอื่น เชน การอุดกั้นในทางเดินปสสาวะ ภาวะปสสาวะไหลยอนกลับ ( vesicouretreic reflux) เปนตน การดูแลรักษาผูปวยกลุมนี้อยางถูกตองตั้งแตเนิน ๆ จึงมีความสําคัญอยางยิ่ง  ่ เปาหมายการรักษา คือ กําจัดเชื้อที่เปนสาเหตุโดยเร็ว และปองกันไมใหเกิดการติดเชือซ้ํา ้ นอกจากนั้น ยังปองกันการเกิดแผลที่ไตอีกดวย 1. การซักประวัติ - ไข ซึ่งไมมสาเหตุแนชดในเด็ก ี ั - ปวดหลัง ปวดทองหรือปวดบั้นเอว มักพบในเด็กอายุมากกวา 4-5 ป - ความผิดปกติของการถายปสสาวะ เชน ปสสาวะแสบขัด , ปสสาวะลําบาก , ปสสาวะบอย , กลั้นปสสาวะไมได , หรือชอบอั้นปสสาวะ - ปสสาวะรดที่นอนแบบทุติยภูมิ - ประวัตการอุดกั้นในทางเดินปสสาวะ เชน ปสสาวะตองเบง , ปสสาวะไมพงและเปนหยด ๆ ิ ุ ขนาดของลําปสสาวะมีกอนนิ่วหลุดออกมา - เลี้ยงไมโต - ประวัตเิ คยมีการติดเชื้อในทางเดินปสสาวะ - ประวัตการถายอุจจาระ เชน ทองผูกบอย , กลั้นอุจจาระไมได ( encopresis) ิ - ในทารกแรกเกิด อาการและอาการแสดงมักไมจําเพาะ จึงตองซักประวัติเรื่องไมดดนม , ซึม , ู ตัวเย็นและติดเชื้อในกระแสเลือด 2. การตรวจรางกาย - น้ําหนักและสวนสูง - สัญญาณชีพโดยเฉพาะไขและความดันโลหิต - กอนในทอง เชนบริเวณบันเอว หรือเหนือหัวหนาว ้ - เคาะเจ็บที่ costovertebralangle - lipoma , hair patch dimple , sinus tract บริเวณ lumbosacral - ขาชาหรือออนแรง - อวัยวะเพศผิดปกติ เชน phimosis , vaginitis , labial adhesion - neurogenic bladder
  • 5. 3. การตรวจทางหองปฏิบติการั - การตรวจปสสาวะ ใชปสสาวะสดที่เก็บอยางถูกตองมาปน ถามีเม็ดเลือดขาวมากกวา 5-10 ตัว / HPF สนับสนุนวาจะเปนการติดเชื้อในทางเดินปสสาวะ (แตการวินิจฉัยที่แนนอนตองอาศัยการ เพาะเชื้อจากปสสาวะ) - สงปสสาวะเพื่อเพาะเชื้อกอนใหยาปฏิชีวนะทุกราย หมายเหตุ ผลเพาะเชื้อทีถือวามีนัยสําคัญ ไดแก ่ ปสสาวะเก็บโดยวิธี suprapubic aspiration เพาะเชื้อขึ้น(ไมวากี่ colony/มล) Catheterized ≥103 colony/มล. Clean-voided ≥105 colony/มล. การเก็บปสสาวะเพื่อเพาะเชือในเด็กอายุนอยกวา 1 ป แนะนําใหใช Suprapubic aspiration หรือ ้  Transurethral catheterization เทานั้น สวนในเด็กโตที่ไมมี pnimosis อาจใช midstream clean-voided urine ได 4. การดูแลรักษา 4.1 แกไขภาวะ dehydration โดยใหสารน้ําทางปากหรือทางหลอดเลือดดํา ถาจําเปน 4.2 empirical antibiotics ในทารกแรกเกิดให Ampicillin 50-100 มก./กก./วัน และ Gentamicin 3-5 มก./กก./วัน หรือ 3rd generation Cephalosporins ในเด็กโตที่มีอาการรุนแรง แนะนําให aminoglycosides เชน Cefotaxime 100-200 มก./กก./วัน Ceftriaxone 50-100 มก./กก./วัน ในเด็กโตที่มีอาการไมรุนแรง และ/หรือ เปนการติดเชื้อในทางเดินปสสาวะสวนลาง อาจใหยาปฏิชีวนะ ทางปาก เชน Cotrimoxazole 6-12 มก. ของ trimethoprim /กก./วัน. Amoxycillin-clavulanic acid 30 มก. ของ amoxicillin /กก./วัน หรือยากลุม Cepholosporins ตาง ๆ 4.3 ประเมินผลการรักษาโดยตรวจปสสาวะซ้ําใน 48-72 ชม. 4.4 ระยะเวลาการใหยา 10-14 วันในผูปวย acute pyelonephritis และ 7-10 วันในผูปวยที่  มีการติดเชื้อทางเดินปสสาวะสวนลาง 4.5 แนะนําทํา circumcision ในผูปวยทีมี phimosis ่
  • 6. 7. ถาผูปวยมีการติดเชื้อซ้ํา (> 3 ครั้ง / ป) แนะนําให prophylaxis ดวยยา Cotrimoxazole 1-2 มก. ของ trimethoprim /วัน เปนเวลาอยางนอย 6-12 เดือน รวมแกไขปจจัยเสี่ยงที่พบไดบอย ไดแก แนะนําใหดื่มน้ํามาก ๆ ไมกลั้นปสสาวะ ถายปสสาวะจนสุด หรือ double-void อยาใหทองผูก รักษา โรคพยาธิโดยเฉพาะพยาธิเสนดาย และรักษาความสะอาดบริเวณ perineum
  • 8. แนวทางปฏิบติงาน (Clinical Practice Guideline) ดูแลโรคไขเลือดออก ั สําหรับหองตรวจผูปวยนอกและฉุกเฉิน (ก.ค. 2548) การรักษาระยะไข 1. ลดไข ปองกันชัก ดวย การเช็ดตัวและหรือใชยา paracetamol รับประทาน เมื่อไขสูงรวมกับดื่ม น้ําผสม ORS มาก ๆ หามใช NSAID หรือ Aspirin 2. Prevent dehydration ใหอาหารออน ดื่ม ORS และควรงดอาหารที่มีสีดํา สีแดง 3. นัด Follow up ทุกวัน เริ่มตั้งแตวนที่ 3 ของไขเพื่อดูวาระยะ Leakage หรือยัง ในรายทีไมได ั ่ Admit ตองแนะนํา Warning Sign การ Follow up ทําตาม Dengue Treatment Algorithm OPD ดังนี้ ไขสูง + หนาแดง ไมมีอาการอื่น ๆ รวมดวย เชน ไมมีไอ น้ํามูก ทองเสีย ปวดหู ฯลฯ Tournique + Test Positive negative Hx : bleed ? vomiting. PE. : VS Liver CBC. สืบคน หาสาเหตุอานของไข นัด Follow Up ทุกวัน ตั้งแตวันที่ 3 ของไข จนกวาจะลงได เชนCBC UA นัด 48 ชม. ในรายที่ไมได admit ตองแนะนํา Warning sign * Follow Up และ repeat ถามีใหรีบนําผูปวยมา รพ. tourniquet test Hct เทาเดิม Hct เพิ่มขึ้น Hct เทาเดิม WBC > 5,000 WBC ลดลง Plt WBC ลดลง Plt Plt ปกติ ปกติ < 100,000 / cumm นัด Force oral intake Admit Folow Up นัด Follow Up ใน รายอาเจียนมาก ให admit
  • 9. ดัดแปลงมาจากไขเลือดออก : การดูแลและรักษา...พญ.ศิริเพ็ญ กัลยาณรุจ หมายเหตุ. * Warning signs ไดแก - ซึม ออนเพลีย รับประทานไดนอย - มีเลือดออก เชน เลือดกําเดา อาเจียน ถายเปนเลือด - กระหายน้ํามาก รองกวนมากในเด็กเล็ก - ไขลงแลวผูปวยอาการเลวลง  - มีคลื่นไสอาเจียนตลอดเวลา ปวดทองมาก - กระสับกระสายหงุดหงิด พฤติกรรมเปลี่ยน - ตัวเย็น สีผิวคล้ําลง ตัวลาย ๆ ปสสาวะนอยลง การรักษาระยะ Leakage ผูปวยจะมา 2 แบบ 2.1 ไมมี shock ควร admit ตามขอบงชี้ ดังนี้ 1. Platelet count <100,000/cummและหรือ Hct rising 2. มีอาการหรืออาการแสดง ใน Warning Signs 3. Bleeding 4. ผูปกครองกังวล หรือบานไกล หมายเหตุ ในรายที่ไมได admit ควรนัด Follow Up ทุกวันจนไขลงเกิน 48 ชัวโมง ่ 2.2 มี shock - ทําการรักษาทันที เมื่อวินิจฉัยได โดยให O2 ทาง canula , IV Fluid และสง Admit โดยโทรศัพทแจงหอผูปวยกุมาร 1 โทร 1782 ในราย -Impending shock. ให 5% D/NSS1 rate 10-20 ml/kg/hr -Profound shock. (วัด BP,Pulse ไมได) ให NSS2 ml/kg push in 10 min เมื่อ BP วัดไดใหปรับ rate เปน 5% D/NSS1 10-20 ml/kg/hr หมายเหตุ : 1 5% D/NSS หรือ 5% DAR หรือ 5% DLR 2 Nss หรือ Ringer acetate หรือ Ringer lactate ควรใชขวดขนาด 500 ml
  • 10. แนวทางปฏิบติงาน ( Clinical Practice Guideline) ดูแลรักษาโรคไขเลือดออก ั สําหรับผูปวย ใน รพศ.พุทธชินราช ก.ค. 2548 โรคไขเลือดออก รักษาตามระยะของโรค ระยะไข มีหลักการรักษา 3 ขอ 1. ลดไข ปองกันชัก ดวยการเช็ดตัวและหรือใชยา Paracetamol รับประทาน เมือไขสูง ่ รวมกับดื่มน้ําผสม ORS มาก ๆ หามใช NSAID หรือ Aspirin 2. ปองกันภาวะขาดน้ํา ควรให IV fluid ในราย อาเจียนมาก และหรือมี dehydration โดย ใหประมาณ 50% Maintenance. 3. ตรวจ ติดตาม วาเขาระยะ Leakage หรือยัง โดยดูจาก อาการแสดง และ CBC ระยะ Leakage มีหลักการรักษา 3 ขอ 1. Early Detection and early treatment of SHOCK โดยตรวจวัด Vital signs ( BP , pulse Pressure ) ทุก 1-2 hrs , Hct ทุก q 4-6 hrs , Record intake/output Urine Sp.gr. โดยใชแบบฟอรม DHF flow chart ของ รพ. 2. IV FLUID Replacement ชนิดของ IV fluid ในราย Shock : ใหเปน 5% DAR หรือ 5% DLR หรือ 5% D/NSS ในราย Non-shock : อายุ <6 เดือน ใหเปน 5% D/N/3 อายุ 6 เดือน -1 เดือน ใหเปน 5% D/N/2 อายุ > 1 ป ใหเปน 5% D/NSS ปริมาณ และอัตราการให IV fluid - ในราย Hct rising >10% และผูปวยไมสามารถรับประทานอาหารควรเริ่มตนใหปริมาณ IV fluid จํานวน M/2 ใน 24 ชั่วโมง - ในราย Hct rising >20% ควรเริ่มตนให IV fluid จํานวน M+5% D ใน 24 ชั่วโมง ตอไปปรับอัตราการใหตามรูปที่ 1 แนวทางการดูแลรักษาไขเลือดออก - ในราย DHF grade III : ควรเริ่มตนให IV fluid ในอัตรา 10-20 ml/kg/hr. - ในราย DHF grade IV : ควรเริ่มดวยอัตรา 10 ml/kg IV push จนกระทั่งวัด BP & push ไดจึงปรับเปน 10 ml/kg/hr. ตอไปปรับอัตราการใหตามรูปที่ 2 แนวทางการดูแลรักษาไขเลือดออก
  • 11. 3. การรักษาประคับประคอง : 3.1 เฝาระวังเปนพิเศษในกรณีผูปวยที่มีลกษณะดังตอไปนี้ (High risk patiement) ั 1. Young infants <1 year old. 2. DHF grade IV or prolonged shock. 3. Overweight patients. 4. Patients with massive bleeding. 5. Patients with changes of cinsciousness.(encephalopathy) 6. Patients with underlying diseases , e.g. Thalassemia , G-6-PD def., CHD etc. 7. Referred patients. 3.2 ตรวจหาและแกไขความผิดปกติทาง Metabolic โดยเฉพาะใน DHF Grade IV. 3.3 การใหเลือด มีขอบงชี้ดังนี้ - ผูปวยมีเลือดออกมามากเกิน 10% ของ Tital Blood Volume (TBV = 60-80 ซีซี/กก.) โดยใหตามปริมาณเลือดที่ออกมา -ผูปวย Thalassemia, G-6-PD deficiency ที่มีภาวะซีดหรือมี hemolysis - ผูปวยทียงช็อกหรือมี unstable vital signs หรือไมสามารถลด rate ของ IV fluid ลง ่ั ไดและมี Hct ลดลง จากระยะที่ช็อก หลังจากไดรบ IV fluid มากเกินพอ (อาจมีเลือดออกภายใน) ั 3.4 การให platelet : มีขอบงชี้เฉพาะในรายที่มี massive bleeging. 3.5 หลีกเลี่ยงการทําหัตถการที่ invasive เชน การใส NG tube. ระยะ Convalescence - ควรหยุดให IV fluid เมื่อผูปวยเขาสูระยะ concalescence. - ในรายที่ผปวยยังออนเพลียเบื่ออาหาร หรือทองอืด และมี bowel sound นอยกวาปกติ ควร ู ตรวจ คา blood electrolyte. ขอบงชีในการจําหนายผูปวยกลับบาน ้  1. ไขลดลงเกินกวา 24 ชั่วโมง (ในรายที่ shock ไขควรลดลงเกินกวา 48 ชั่วโมง) 2. การหายใจปกติ ไมหอบ ไมมีการหายใจลําบาก 3. ไมมี complications.
  • 12. การใหสารน้าในการรักษาผูปวยไขเลือดออกเดงกีที่มีภาวะช็อกและช็อกรุนแรง ํ NSS หรือ DLR หรือ DAR IV drip free flow 10-15 นาที หรือ 10 ซีซี/กก. IV push ในรายทีเ่ ปน grade IV ออกซิเจน อาการดีขึ้น อาการยังไมดีขึ้น เริ่มวัด BP หรือ จับชีพจรได ยังวัด BP และจับชีพจรไมได ลด rate เปน 10 ซีซี/กก./ชม. 1-2 ชม. เปลี่ยน IV 10 ซีซ/ี กก. IV bolus (ซ้ําไดอีก 1 ครั้ง) เปน 5% D/NSS หรือ 5%DLR หรือ 5%DAR อาการดีขึ้น อาการเลวลง อาการดีขึ้น อาการยังไมดีขึ้น คอย ๆ ลด rate เปน 7.5 และ เจาะ blood sogar , blood gas , electrolyte , Ca , LFT , 3 ซีซี/กก./ชม. จนสามารถ off BUN . Cr* (ถาทําได)และแกไขหากมีผลการตรวจที่ผิดปกติ และ IV ไดตามแผนภูมิการใหสาร เจาะ Hct น้ําขางตน Hct เพิ่ม Hct ลด Dextran 40. 10 ซีซ/กก./ชม. ี ใหเลือด FWB 10 ซีซี/กก. อาการดีขึ้น อาการเลวลง (ระหวางรอเลือด ให Dextran 40. 10ซีซ/ี กก./ชม.) พิจารณาทํา venous cut down เพื่อวัด CVP และใสสายสวนปสสาวะ CVP สูงเกิน 10 ซม.น้ํา CVP ต่ํากวา 10 ซม. พิจารณาให dopamine , debutec พิจารณาใหเลือดหรือ Dextran 40 อีก อาการดีขึ้น - ถาไมสามารถตรวจได พิจารณาให Vitamin K, Ca, NaHCo, ตามอาการทางคลินิก - ตรวจเช็คผลทางหองปฏิบัติการตาม * และแกไขโดยดวนถาผิดปกติ รูปที่ 2 แนวทางการดูแลรักษาไขเลือดออก
  • 13. การใหสารน้ําในการรักษาผูปวยไขเลือดออกเดงกี (น้ําหนัก 15-40 กก.) ที่กําลังอยูในระยะวิกฤต (มีเกล็ดเลือด ≤ 100,000 เซลล/ลบ.มม. และมี Hct เพิ่มขึ้น 10-20 %) 5% D/NSS หรือ 5% DLR หรือ 5% DAR 5 ซีซี/กก./ชม. วัด vital signs ทุก 1-2 ชม. และ เจาะ Hct ทุก 4 ชม. Vital signs เปลี่ยนแปลง อาการดีขึ้น อาการไมดี และ/หรือ Hct เพิ่มขึ้น Hct ลดลง stable vital signs Hct เพิ่มขึ้น. ชีพจรเร็วขึ้น ปสสาวะปริมาณมากขึ้น เพิ่ม rate เปน 5-7 ซีซี/กก./ชม. ปสสาวะนอยลง 3-4 ชม. เพิ่ม rate เปน 7 ซีซี/กก./ชม. ลด Rate เปน 3 ซีซี/กก./ชม. อาการดีขึ้น ยังไมดีขึ้น เพิ่ม rate เปน 10 ซีซ/ี กก./ชม. 2 ชม. อาการดีขึ้นอีก ยังคงมี่ชีพจรเร็ว, pulse pressure แคบ, ไมปสสาวะ Hct สูงขึ้น Hct ลดลง ลด rate IV ลงอีกจนผูปวยมี vital signs stable, Hct ลดลง, มีปสสาวะ Dextran – 40 พิจารณาใหเลือด FWB มาก fluid ได ภายใน 24-48 ชม. 10 ซีซ/กก./ชม. ี 10 ซีซ/กก./ครั้ง ี อาการดีขึ้น เปลี่ยนเปน crystalloid และคอย ๆ ลด rate เปน 7,5,3 ซีซี/กก./ชม. หมายเหตุ ผูปวยที่มน้ําหนัก นอยกวา 15 กก. ใหเริ่ม IV fluid ที่ rate 6-7 ซีซี/กก./ชม. ี ผูปวยที่มีน้ําหนักเกิน 40 กก. ใหเริ่ม IV fluid ที่ rate 3-4 ซีซี/กก./ชม. รูปที่ 1 แนวทางการดูแลรักษาไขเลือดออก
  • 14. แนวทางการดูแลรักษาทารก แรกเกิดตัวเหลือง
  • 15. แนวทางการดูแลรักษาทารกแรกเกิดตัวเหลืองที่แผนกผูปวยนอกและหองฉุกเฉิน ร.พ.พุทธชินราช (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 วันที่ 13 ก.ค. 2548) Visible jaundice Term infant Preterm infant Onset < 24 hr. Onset 24-72 hr. Onset ≥ 24 hr. BW < 2000 gm BW ≥ 2000 gm Hct,MB Hct,MB Hct,MB Admit ทําตามแนวทางของ term infant MB <5mg% MB ≥ 5mg% MB <15mg% MB ≥ 15mg% Advice/อาจนัด Admit Advice Admit ตรวจ Hct,MB วันรุงขึ้น MB <5mg% MB 5-13 mg% MB ≥ 13 mg% Advice F/U Hct,MB Admit วันรุงขึ้น หมายเหตุ ใหสงทารกมาเจาะ Hct , MB ที่หอผูปวยกุมาร 3 โดยติดตอลวงหนาที่เบอร 1781 และ 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
  • 16. แนวทางการดูแลรักษาทารกแรกเกิดตัวเหลืองในหอผูปวย 1. Healthy term infant Visible jaundice Onset < 24 hr Onset 24-72 hr Onset ≥72 hr Hct,MB Hct,MB Hct,MB MB 8-13 mg MB ≥ 13mg% MB <5 mg MB 5-8 mg MB ≥ Smg MB <15 mg% MB ≥ 15mg% F/U Hct,MB Next 12 hr No Rx No Rx F/U Hct,MB ทุก 4-6 hr Rate of rising Rate of rising >0.5 mg%/hr. >0.5 mg%/hr. Investigation : - CBC, blood smeat - Reticuyte count, Heinz body - Blood group, Coombs’teat แม,ลูก - G6PD screening Management : - Consider phototherapy หรือ exchange transfusion ตามตารางที่ 1 - F/U Hct,MB ทุก 4-6 ชั่วโมง กรณีมีหลักฐานแสดงถึงภาวะ hemolysis - F/U Hct,MB ทุก 12-24 ชั่วโมง กรณีมีหลักฐานแสดงถึงภาวะ hemolysis หมายเหตุ กรณีที่มี Prolonged jaundice >7 วันใน term และ > 14 วันใน preterm ใหตรวจ ระดับ TB และ OB >14 วัน ถาไมมีผล thyroid screening ใหตรวจ ภาวะ congenital hypothyroidism
  • 17. ตาราง แนวทางการดูแลรักษาทารกแรกเกิดครบกําหนดสุขภาพปกติ* (Healthy term newborn) ที่มีภาวะ hyperbilirubinemia Total bilirubin (TB) (mg/dl) Age (hrs) Phototherapy Intensive ( 2) Exchange Exchange transfusion and Phototherapy transfusion intensive phototherapy If intensive Phototherapy fail( 3 ) ≤ 24( 1 ) 24-48 ≥12 ≥15 ≥20 ≥25 49-72 ≥15 ≥18 ≥25 ≥30 >72 ≥17 ≥20 ≥25 ≥30 *จะบอกวาเปนทารกปกติไดเมื่อตรวจไมพบสาเหตุตัวเหลือง ถามีสาเหตุจาก hemolysis ให exchange transfusion ที่ระดับ TB > 20 mg/dl (1) อาการตัวเหลืองภายใน 24 ชั่วโมงแรก ถือเปนภาวะผิดปกติ ทารกตองไดรับการตรวจวินิจฉัยและ ไดรับการรักษาตามสาเหตุทกราย ุ (2) การให intensive phototherapy หมายถึง การใหแสงบําบัดดวยหลอดไฟชนิด “ special blue” 2 เครื่อง และทําการใหอยางตอเนื่องไมขาดตอน (3) intensive phototherapy failure หมายถึง คา TB ลดลงนอยกวา 1-2 mg/dl ภายใน 4-6 ชม. หลังไดรับการรักษาและระดับ TB มีแนวโนมไมลดลงตอเนื่อง และมีคาเพิ่มสูงถึงระดับที่ตอง exchange transfusion ดัดแปลงมาจาก : American Academy of Pediatrics. Provisional Committee for Quality Improcement and Subcommittee on Hyperbilirubinemia. Pracice parameter : management of hyperbilirubinemia in the helthy tem newborn. Pediatricds 1994;94 : 558.
  • 18. 2. Preterm infant Total bilirubin (TB) (mg/dl) Phototherapy Exchange 500 - 1000 g 3-5 Variable 1001 - 1500 g 5 - 10 Variable 1501 - 2000 g 10 - 15 Variable 2001 - 2500 g > 15 Variable (1) กรณี sick preterm ใหพจารณารักษาตามความเหมาะสม อาจตองทํา phototherapy หรือ ิ total blood exchang เร็วขึ้น ( sick preterm หมายถึง ทารกแรกเกิดกอนกําหนดทีมี ่ APGAR score ที่ 5 นาที < 3, acidosis,sepsis หรือมีภาวะ hemolysis ) (2) กรณีที่มีนาหนักแรกเกิด < 1000 g อาจพิจารณาทํา prophylactic photorherapy ตั้งแต ํ้ แรกเกิด
  • 19. แนวทางการดูแลรักษาทารกแรกเกิดตัวเหลืองในหอผูปวย 1. อธิบายใหมารดาหรือญาติทราบถึงผลกระทบของภาวะตัวเหลืองตอสุขภาพของทารก การตรวจ วินิจฉัย การรักษาดวยวิธีตาง ๆ เมื่อมีขอบงชี้ เชน phototherapy , total blood exchange 2. หลังไดผล MB. ถาถึงเกณฑสงตรวจเลือดเพื่อการวินิจฉัยเพิ่มเติม หรือ phototherapy หรือ total blood exchange ใหหอผูปวยเจาะเลือดสงตรวจ หรือใหการรักษาดวย phototherapy เพื่อเตรียม total blood exchange ทันทีพรอมแจงแพทยผูดแลทราบ ู 3. การดูแลทารกที่ตองให phototherapy - จัดทารกนอนใน crib ที่ซอนกัน 2 ชัน ใตเครื่อง phototherapy ที่ปรับความสูงของ ้ เครื่องใหต่ําทีสุด เพื่อใหระยะระหวางทารกแรกและเครื่องนอยกวา 30 ซม. ่ - ปดตาดวยวัสดุทึบแสงและถอดเสื้อผาออก (ยกเวนกรณี on intensive phototherapy ดวย bili-bed ควรใสผาออมหรือ pamper ใหทารกเสมอ) - กั้นขอบไฟดวยผาขาว เพื่อลดการกระจายของแสงโดยใหขอบลางของผาอยูต่ําจากเครื่อง phototherapy 20 ซม. - On continuous phototherapy ยกเวนเวลาที่มารดาใหนมบุตร - เปลี่ยนหลอดไฟทุก 2000 ชม. - แผนพลาสติกปดหลอดไฟ ตองใส ไมมีเขมา ฝุน รอยขีดขวนหรือแตก - เฝาระวังภาวะแทรกซอนจากการรักษา โดยเฉพาะเรื่อง hyperthermia , dehydration , diarrhea - เจาะเลือดตรวจ Hct , MB ตามแนวทางที่กําหนด
  • 21. Preterm infants ( < 35 wk ) at risk for early onset neonatal sepsis* ( Onset < 72 hr) Signs of neonaltal sepsis** NO Yes Risk ≥ 1 ขอ CBC , H/C, empirical antibiotic*** H/C positive NO Yes Observe ≥ 48 hr CBC , H/C, Yes NO empirical antibiotic*** LP Antibiotic 7-10 วัน H/C positive Yes NO ผิดปกติ ปกติ LP Abnormal CBC Antibiotic Antibiotic 14 วัน for GBS, 7-10 วัน for GBS, ผิดปกติ ปกติ NO 21 วัน for Gram – Yes 14 วัน for Gram – ve Off ABO ve bacilli Antibiotic Antibiotic Antibiotic 14 วัน for GBS, 7-10 วัน for GBS, 7 วัน 21 วัน for Gram – ve 14 วัน for Gram – ve bacilli bacilli * แมมไข > 38 oC , prolonged ี rupture of membrane > 18 hr , PROM , chorioaminionitis , HX of previous GBS infection ในครรภกอน , GBS bacteriuria ** apnea , ไข,ชัก,ซึม , shock *** PGS 100,000 mū /kg/dose q 12 hr or ampicillin 100mg/kg/dose q 12 hr plus gentamicin
  • 22. term infants ( < 35 wk ) at risk for early onset neonatal sepsis* ( Onset < 72 hr) Signs of neonaltal sepsis** NO Yes มารดาไดรับ Intrapartum antibiotic CBC , H/C, empirical antibiotic*** Prophylaxis ( IAP) กอนคลอด > 4 H/C positive Yes NO Observe ≥ 48 hr CBC , H/C, Yes NO LP Antibiotic 7-10 วัน Normal CBC Abnormal CBC empirical antibiotic*** Observe ≥ 48 hr H/C positive ผิดปกติ ปกติ Antibiotic Antibiotic Yes NO 14 วัน for GBS, 7-10 วัน for GBS, 21 วัน for Gram – 14 วัน for Gram – ve LP Antibiotic ve bacilli 7-10 วัน for GBS, ปกติ ผิดปกติ Antibiotic 14 วัน for Gram – ve 14 วัน for GBS, bacilli 21 วัน for Gram – ve * แมมไข > 38 C , prolonged rupture of membrane > 18 hr , PROM , chorioaminionitis , ี o HX of previous GBS infection ในครรภกอน , GBS bacteriuria ** apnea , ไข,ชัก,ซึม , shock *** PGS 100,000 mū /kg/dose q 12 hr or ampicillin 100mg/kg/dose q 12 hr plus gentamicin
  • 24. แนวทางการดูแลรักษาผูปวย Febrile Convulsion* แนวทาง 1. ผูปวยที่มีอาการชักจากไขครั้งแรกทุกรายควรรับเขารักษาในโรงพยาบาล  2. ตรวจวิเคราะหน้ําไขสันหลังทุกรายในเด็กเล็ก(อายุนอยกวา 18 เดือน ถาไมมีขอหาม)   3. การเจาะเลือดหาความผิดปกติทาง metabolic (electrolyte , calcium , magnesium , glucose ) 4. ยังไมจําเปนตองตรวจเพิมเติมทางหองปฏิบัติการอื่น ๆ เชน EEG,CT scan ในผูปวยที่เปน ่ simple febrile seizure และ complex febrile seizure ที่มีอาการชัดเพียงระยะเวลาสั้น และไมมีความผิดปกติทางระบบประสาทเพิ่มขึ้น หลักการรักษา 1. ใหการรักษาเบื้องตน : คลายเสื้อผาที่รัดตัวเด็กออก จับเด็กนอนตะแคงใหศีรษะต่ําเพื่อไมใหสาลัก ํ เสมหะเขาปอด ดูแลทางเดินหายใจใหโลง หาม ใชวัสดุใด ๆ งัด หรือใหยาทางปากในขณะกําลังชัก 2. ลดไขทันทีโดยการเช็ดตัว 3. ใหยากันชัก ในกรณีกําลังชัก ให Diazepam 0.2-0.3 มก./กก. ทางหลอดเลือดดํา ในกรณีแทง เสนเลือดดําไมไดใหใช Diazepam 0.3-0.5 มก./กก. สวนเก็บทางทวารหนัก 4. เมื่อผูปวยหยุดชัก ใหซักประวัตเิ พิ่มเติม ตรวจประเมินรางกายทั้งระบบทั่วไปและระบบประสาท สง CBC U/A และสงตรวจหองปฏิบัติการอื่น ๆ เมื่อมีขอบงชี้ เพื่อหาสาเหตุของไขและรักษาสาเหตุของ ไข 5. นัดผูปวยติดตามอาการในวันรุงขึ้น ทีหองตรวจเด็กผูปวยนอก ในกรณีไมไดรบการรักษาเปนผูปวย ่ ั ในโรงพยาบาล 6. ใหความรูและคําแนะนํากับผูปกครองทุกรายเกียวกับการชักจากไข  ่ 7. การใชยากันชักเปนครั้งคราว (intermittent prophylaxis ) เชน Diazepam ในชวงเปนไข ในกรณีผูปกครองวิตกกังวลและไมมั่นใจในการดูแลเมื่อมีการชัก ใหใช Diazepam 0.2 มก./กก./ ครั้ง ใหทุก 6-8 ชั่วโมง ในชวง 24 ชั่วโมงแรก ของไขเทานั้น 8. ไมแนะนะใหใช Phenobarbital หรือ Sodium valproate แบบ continuous prophylaxis เนื่องจากมีขอมูลวา แมอาจจะลดอาการชักซ้ําจากไขได แตไมมีผลในการปองกันไมให เกิดเปนโรคลมชักในภายหลังได นอกจากนั้นผลขางเคียงของยาทั้ง 2 อาจทําใหเกิดผลเสียตอเด็ก มากกวา
  • 25. ภาคผนวก คําจํากัดความ Febrile convulsion อาการชักจากไข เปนการชักที่เกิดจากไขสูง ในเด็กสวนใหญอายุ ระหวาง 6 เดือน ถึง 5 ป โดยสาเหตุของไขไมไดเกิดจากการติดเชื้อในสมอง หรือจามความผิดปกติของ สมดุลเกลือแร หรือจากภาวะน้ําตาลในเลือดต่ํา หรือจากความผิดปกติของสมอง คําแนะนํา 1. ตองอธิบายใหผูปกครองทราบวาอาการชักจากไข ในชวงเวลาสั้น ๆ จะไมกอใหเกิดอันตราย ตอระบบประสาท 2. ตองอธิบายใหผูปกครองมั่นใจในการดูแลเบื้องตนที่ถูกตอง ถามีอาการไขครั้งตอไปอยาใหมี ไขสูงตั้งแตเริมปวยโดยใหยาลดไข หมั่นเช็ดตัวลดไขเมือไขมีแนวโนมจะสูงมาก ควรดื่มน้ําใหเพียงพอ ่ ่ ตั้งแตระยะแรกพรอมกับนําเด็กไปพบแพทยเพื่อตรวจรักษาสาเหตุของไข 3. ตองอธิบายใหผูปกครองเขาใจถึงความสําคัญและสามารถใหการชวยเหลือเบื้องตนใหถูกตอง ถาเด็กเกิดอาการชักจากไข กอนที่จะนําเด็กมาพบแพทย
  • 26. การปฏิบัติในการดูแลเด็กที่มีอาการชักจากไข ไขและชักครั้งแรก - ใหการรักษาเบื้องตน - กรวดน้ําไขสันหลังถาอายุนอยกวา 18 เดือน  - อายุมากกวา 18 เดือน พิจารณากรวดน้ําไขสันหลัง เปนราย ๆ * - รักษาสาเหตุของไข ใหคําแนะนํา - ไมใหยากันชัก ชักซ้ําในการเจ็บปวยครั้งตอไป พิจารณาตรวจน้ําไขสันหลัง*และตรวจหาความ สมดุลของเกลือแรถามีขอบงชี้รักษาสาเหตุของไข Simple febrile seizure แนะนํา Complex febrile seizure ใหคําแนะนําอาจพิจารณาใหยา diazepam EEG เปนครั้งคราว CT scan เมื่อมีไข *ขอบงชี้วาที่จําเปนตองกรวดน้ําไขสันหลังกรณีมีอาการชักจากไข แนะนํา* 1. ซึม อาเจียน ไมดูดนม งอแงไมเลนเปนปกติ พิจารณาใหยากันชักตอเนื่อง 2. มีอาการชักซ้ําหรือชักนานกวา 5 นาที 3. ตรวจรางกายมีความผิดปกติของระบบประสาทเกิดขึนเพิ่มเติมจากเดิมหรือมี anterior fontanel ้ โปง
  • 28. Clinical practice guideline for treatment Pneumonia แผนภูมิที่ 1 : แสดงการดูแลผูปวย Pneumonia ที่ OPD หรือ ER ผูปวยที่มีอาการไข ไอ + หอบ History Investigation ( CBC , CXR) Physical exam Pneumonia Other disease เปน Immunocompromised host Notmal host มี Underlying disease : CHD , Degree of illness (ดูหนา 5 ) BPD , CP , malnutrition Admit Not severe Severe รักษาแบบ OPD Case Admit ดูแผนภูมิที่ 2 ( ใหการรักษาตาม แผนภูมิที่ 3 )
  • 29. แผนภูมิที่ 2 แสดงแนวทางการรักษา Pneumonia ( Not severe) Pneumonia ( Not severe) รักษาแบบ OPD case Supportive case (ดูหนา 6 ) Virus Bacteria No specific treatment อายุ 2 เดือน – 5 ป อายุ 5 – 15 ป Amoxycilin Amoxycilin 2 วัน 2 วัน ดีขึ้น ไมดีขึ้น ดีขึ้น ไมดีขึ้น ใหยาครบ 7 วัน ใหยาครบ 7 วัน อาการเลวลง อาการไมเลวลง อาการเลวลง อาการไมเลวลง Admit รักษาแบบ S. pneumoniae Severe pneumonia & H. influenze Admit รักษาแบบ ที่ดื้อตอ Penicillin Severe pneumonia Amoxycillin+clavulanic acid หรือ Cephalosporin Mycoplasma S. pneumoniae หรือ Chlamydia ที่ดื้อยา (2 or 3 generation) nd rd Pneumoniae กินจนครบ 7 วัน (atypical pneumonia) Amoxycillin+clavulanic acid Macrolide หรือ Amoxycillin (double dose) *หมายเหตุ : กรณีไมแนใจวาเปน Pneumonia จากเชือ ้ กินจนครบ 10-14 วัน virus หรือ bacteria ให RX แบบ bacterial pneumonia หรือ Cephalosporin (2nd or 3rd generation) : ผูปวยอายุ < 6 เดือน ที่มีไอ แบบ staccato และเปน afebrile pneumonia ควร กินจนครบ 7 วัน erythromycin 14 วัน เพื่อรักษาภาวะปอกอักเสบจาก Chlamydia trachomatis : กรณีแยกไมไดวาเปน atypical pneumonia หรือ bacterial pneumonia ควรให antibiotics ที่ สามารถครอบคลุมเชื้อไดทั้งหมด
  • 30. แผนภูมิที่ 3 : แนวทางการรักษา Severe Pneumonia Severe Pneumonia Admit + Supportive care อายุ 2 เดือน – 5 อายุ 5 – 15 ป อายุ < 2 เดือน PGS หรือ Ampicillin I.V* Ampicillin I.V ขอมูลสนับสนุน Penicillin G IV + Aminoglycoside วาเปน S.aureus หรือ Cefotaxime I.V 2 วัน หรือ Ceftriaxone I.V *ให cloxacillin I.V ถามี 2 วัน ขอสนับสนุนวาเปนจาก S.aureus ดีขึ้น ไมดีขึ้น ดีขึ้น ไมดีขึ้น Pen V หรือ S. pneumoniae Amoxycillin ที่ดื้อยา จนครบ 7 วัน เปลี่ยน Ampicillin Ceftriaxone I.V หรือ Cefotaxime I.V PGS high dose IV. หริอ Amoxycillin หรือ Cefotaxime Clavulanic acid I.V หรือ Ceftriaxone เปน Amoxycillin กินจนครบ 7 วัน ไขลง 2 วัน ไขลง2 วัน เปลี่ยนเปน oral antibiotic เปลี่ยนเปน oral antibiotic กินตอจนครบ 7 วัน กินตอจนครบ 7 วัน หมายเหตุ : กอนให antibiltics ควรทํา hemoculture : ถาผูปวยใส ET- tube หรือเด็กโตที่สามารถไปเอาเสมหะออกมาไดใหยอม sputum exam และสง culture : ในเด็กอายุ < 6 เดือน ที่มี afebrile pneumonia ควรให macrolide 14 วัน เพื่อรักษา ปอดอักเสบจาก Chlamydia trachomatis : กรณีสงสัย Pneumonia จาก Mycoplasma pneumoniae or Chlamydia pneumoniae ใหทํา Bed side cold agglutinin และพิจารณา add macrolide
  • 31. การจําแนกผูปวย Pneumonia ( Degree of illness) 1. Not severe pneumonia - ผูปวยที่มีอัตราการหายใจเร็วกวาเกณฑอายุ (Tachypnea) แตไมมปญหา oxygen ี desaturation dehydration หรือ alteration of mental status - อัตราการหายใจ แบงตามเกณฑของ WHO โดยถือวาผูปวยมี tachypnea เมื่อ อายุ < 2 เดือน หายใจเร็ว ≥ 60 ครั้ง/นาที อายุ 2 เดือน – 1 ป หายใจเร็ว ≥ 50 ครั้ง/นาที อายุ 1- 5 ป หายใจเร็ว ≥ 40 ครั้ง/นาที อายุ > 5 ป หายใจเร็ว ≥ 20 ครั้ง/นาที 2. Severe pneumonia - ผูปวยกลุมเสี่ยง ไดแก อายุ < 2 เดือน ( Pneumonia ในเด็กอายุ < 2 เดือนถือวา severe ทุกราย) ผูปวยที่มี underlying disease เชน BPD, heart disease, malnutrition หรือเปน immunocompromised host - หายใจเร็ว > 70 ครั้ง/นาที ในเด็กเล็ก หรือ > 50 ครั้ง/นาที ในเด็กโต ( > 1 ขวบ) - Marked retraction or cyanosis or apnea - Oxygen saturation < 92 % เมื่อไมไดรับ oxygen ( in room air) - มีภาวะ dehydration , ซึม,ชัก,ไมดูดนมหรือไมรับประทานอาหาร - CXR มี complication of pneumonia เชนมี pleural effusion,lung abscess,atelectasis หรือ พบ pneumatocele รวมทั้งรายที่สงสัย pneumonia จากเชื้อ staphylococcus aureus เพราะมักมีการเปลี่ยนแปลงเร็วและ รุนแรง
  • 32. General supportive care for Pneumonia 1. ใหสารน้ําใหเพียงพอ แนะนําใหผูปวยดื่มน้ํามาก ๆ ในรายทีหอบมาก ทองอืด กินอาหารไมได  ่ พิจารณาใหสารน้ําทางหลอดเลือด และงดอาหารทางปากเพื่อปองกันการสําลัก 2. ใหยาขับเสมหะหรือยาละลายเสมหะในกรณีเสมหะเหนียวและขนมาก 3. หลีกเลี่ยงการใหยากดการไอและ antihistamine 4. ให bronchodilator ในรายที่ wheezing รวมดวย 5. ถามีไข แนะนําให Tepid sponge และใหยาลดไขกลุม paracetamol 6. ทํากายภาพบําบัดทรวงอก ( chest physiscsal therapy) ไดแก การจัดทาระบายเสมหะ และเคาะปอดใหกบเด็กที่มเี สมหะคั่งคางในหลอดลม เพื่อชวยใหเสมหะถูกขับออกจากปอดและ ั หลอดลมไดดข้น ในผูปวยที่อาการหนักใหเพียงการสั่นสะเทือนบริเวณทรวงอก (vibration) และ ีึ ชวยดูดเสมหะ 7. ใหออกซิเจน พิจารณาใหในรายที่มีอาการเขียว,อัตราการหายใจ ≥ 70 ครั้ง/นาที ในเด็กเล็กและ ≥ 50 ครั้ง/นาที ในเด็กโต (> 1 ขวบ ) , มีชายโครงบุมมาก, กระวนกระวายหรือซึม ในรายที่มีภาวะการ หายใจลมเหลว หรือ apnea ใหใส ET –tube และยายเขา ICU
  • 33. เกณฑการแยก Viral Pneumonia / Bacterial Pneumonia 1. ประวัติการเจ็บปวยของคนใกลชิดในครอบครัว ถามีปวยกันหลายคนคิดถึง Virus > Bacteria 2. การฟงเสียง breath sound ใน virus pneumonia มักไดเสียง wheezing ดวยแต ใน Bacterial pneumonia ไมคอยพบ wheezing 3. CBC : Virus Pneumonia WBC อาจสูงเล็กนอยหรืออยูในเกณฑปกติ , lymphocyte เพิ่มสูงขึ้น : Bacterial pneumonia WBC สูงมักเกิน 15,000 cells / cu.mm , neutrophil เดนและ Band เพิ่ม 4. ESR ถามีคาสูงขึ้นกวาปกติ ( ≥ 30 mm. /hr.) คิดถึง bacterial pneumonia 5. CXR : ถามี interstitial infiltration หรือ perihilar infiltration คิดถึง Viral pneumonia : ถามี alveolar infiltration หรือ consolidation หรือ lobar infiltration คิดถึง bacterial pneumonia หมายเหตุ : กรณีไมสามารถแยกไดวาเปน Virus Pneumonia หรือ Bacterial  pneumonia และผูปวยมีอาการมากควรรักษา แบบ bacterial pneumonia ไปกอน : reference จาก Update on Pediatric infectious disease 2005
  • 34. Antibiotics ที่ใชรักษา Pneumonia ชนิดกิน ขนาดยา (มก./กก./วัน) ชนิดของเชื้อโรค Amoxycillin 40-50 S.pneumonia Amoxycillin 80-100 Drug resistant S.pneumonia (DRSP) Erythromycin 30-40 S.pneumonia , Chlamydia , Mycoplasma Amoxycillin+clavulanic 40-50 S.pneumonia , H.influenzae acid* Clarithromycin 15 S.pneumonia , H. influenzae , Chlamydia , Mycoplasma Azithromycin 10 มก./กก. ในวันที่ 1 S.pneumoniae , H.influenzae , Chlamydia , Mycoplasma จากนั้น 5 มก./กก. ตออีก 4 วัน Cefprozil 30-40 S.pneumonia , H.influenzae Cefdinir 14 S.pneumoniae , H.influenzae ชนิดฉีด ขนาดยา (มก./กก./วัน) ชนิดของเชื้อโรค Ampicillin 100-200 S.pneumoniae Amoxycillin+clavulanic 40-50 S.pneumoniae , H.influenzae acid Penicillin G sodium 1-2 แสนยูนต/กก.วัน ิ S.pneumonia (PGS) Cloxacillin** 100-150 S.aureus Gentamicin 5-7 Gram negative bacilli Amikacin 15-30 Gram negative bacilli Cefotaxime 100-200 S.pneumonia , H.influenzae Ceftriaxon 50-100 S.pneumonia , H.influenzae *ถาสงสัย DRSP ควรให double dose ( 80-100 mg/kg/day ของ Amoxycillin) **ถามี empyema หรือ pneumatocele ควรให dose 200 mg/kg/day.
  • 36. Pedriatric department Buddhachinaraj Hospital Multidisplinary Carepath ( ALL on Siriraj ALL-03A protocol for Induction of remission phase) Week 1 Week 2 Week 3 Week 4 Week 5 Week 6 Plan of care ………………………….. ………………………….. …………………………… ………………………….. ………………………… ……………………………… 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 Expected of ผูดูแลและผูปวย ผูดูแลและผูปวยทราบ ผูดูแลและผูปวยทราบแนว ผูดูแลและผูปวยทราบแนว ผูดูแลและผูปวยทราบแนว ผูดูแลและผูปวยทราบแนว  outcome ทราบแนวทางการ แนวทางการ ทางการรักษาพยาบาล ทางการรักษาพยาบาล ทางการรักษาพยาบาล ทางการรักษาพยาบาล รักษาพยาบาลและ รักษาพยาบาลและไดรับ และไดรับการเตรียมความ และไดรับการเตรียมความ และไดรับการเตรียมความ และไดรับการเตรียมความ ไดรับการเตรียม การเตรียมความพรอมใน พรอมในการ พรอมในการ พรอมในการ พรอมในการ ความพรอมในการ การรักษาพยาบาลไดรับ รักษาพยาบาลไดรับการ รักษาพยาบาลไดรับการ รักษาพยาบาลไดรับการ รักษาพยาบาลไดรับการ รักษาพยาบาลไดรับ การรักษาพยาบาลที่ได รักษาพยาบาลที่ได รักษาพยาบาลที่ได รักษาพยาบาลที่ได รักษาพยาบาลที่ได การรักษาพยาบาลที่ มาตรฐานและพึงพอใจ - มาตรฐานและพึงพอใจ - มาตรฐานและพึงพอใจ - มาตรฐานและพึงพอใจ - มาตรฐานและพึงพอใจ ไดมาตรฐานและพึง ลด LOS -ลด cost ลด LOS -ลด cost ลด LOS -ลด cost ลด LOS -ลด cost -ลด LOS -ลด cost พอใจ -ลด LOS - ลด cost
  • 37. Week 1 Week 2 Week 3 Week 4 Week 5 Week 6 Plan of care ………………………….. ………………………….. …………………………… ………………………….. ………………………… ……………………………… 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 41 42 43 40 Assessment ● anxiety,fear,pain,v/s ● anxiety,fear,pain,v/s ● anxiety,fear,pain,v/s ● anxiety,fear,pain,v/s ● anxiety,fear,pain,v/s ● anxiety,fear,pain,v/s physical exam ● N/V, stomatitis ● N/V, stomatitis ● N/V, stomatitis ● N/V, stomatitis ● N/V, stomatitis ● Phepbitis ● Phepbitis ● Phepbitis ● Phepbitis ● Phepbitis ● tissure necrosis ● tissure necrosis ● tissure necrosis ● tissure necrosis ● tissure necrosis ● physical exam ● physical exam ● physical exam ● physical exam ● physical exam
  • 38. Week 1 Week 2 Week 3 Week 4 Week 5 Week 6 Plan of care ………………………….. ………………………….. …………………………… ………………………….. ………………………… ……………………………… 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 Test CXR ● CBC plt ● CBC plt ● CBC plt ● CBC plt ● CBC plt B CBC plt2ครั้ง/week ทุกวันจันทร พฤหัสบดี ทุกวันจันทร พฤหัสบดี ทุกวันจันทร พฤหัสบดี ทุกวันจันทร พฤหัสบดี ทุกวันจันทร พฤหัสบดี M G/M, A BUN,Cr,E'lyte,uric,C aMg,P,LFT (ตามความเหมาะสม) H/C,U/A,U/C, stool exam,stool c/s BMA (หากยังไมไดทํา) Treatment PRC if Hct < 25% PRC if Hct < 25% Plt conc if <20,000 Plt conc if < 20,000 Alkalinization Hydration (Fluid 3,000 ml/m3 day ดวย 5%D/N/5 1,000ml + 7.5% NaHCO3 40 ml iv drip....ml/hr)
  • 39. Week 1 Week 2 Week 3 Week 4 Week 5 Week 6 Plan of care ………………………….. ………………………….. …………………………… ………………………….. ………………………… ……………………………… 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 Medication Albendazole prednisolone sodamit zyloric V V If febrile neutropenia* V If febrile neutropenia* V If febrile neutropenia* V If febrile neutropenia* V C C ดู guideline C Stomatitis** ปฏิบัติตามดู C Stomatitis** ปฏิบัติตามดู C Stomatitis** ปฏิบัติตามดู C R R R guideline R guideline R guideline R A A If febrile neutropenia* A If febrile neutropenia* A If febrile neutropenia* A If febrile neutropenia* A D D ดู guideline D Stomatitis** ปฏิบัติตามดู D Stomatitis** ปฏิบัติตามดู D Stomatitis** ปฏิบัติตามดู D R R R guideline R guideline R guideline R L L L L L L A A A A A A S S S S S S P P P P P P IT IT IT I f pain ตาม guidelin Consult ทันตกรรม Activity ตามสภาพผูปวย*** (กิจกรรมนันทนาการ การฝกจิต) ● Diet ตามสภาพ ANC , stomatitis ของผูปวยเนนสุกสะอาด******** ( cryotherapy วันที่ใหยาเคมีบําบัด)
  • 40. Week 1 Week 2 Week 3 Week 4 Week 5 Week 6 Plan of care ………………………….. ………………………….. …………………………… ………………………….. ………………………… ……………………………… 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 Education Counseling ●สอนและสาธิตการปฏิบัติเกี่ยวกับการติดเชื้อ การปองกัน T ●ทบทวนการปฏิบัติเกี่ยวกับ T ●ทบทวนการปฏิบัติเกี่ยวกับ T ●Pretest bleedingอาหารactivityที่เหมาะสมวิธีลดไขการลดอาการN/V E การติดเชื้อ การปองกัน E การติดเชื้อ การปองกัน E ●สอนและสาธิตการปฏิบัติ การรักษาความสะอาดในชองปากcoping techning S bleeding อาหาร activity ที่ S bleeding อาหาร activity ที่ S เกี่ยวกับการติดเชื้อ การ ♦ ยา T เหมาะสม วิธีลดไข การลด T เหมาะสม วิธีลดไข การลด T ปองกันbleedingอาหาร อาการN/V การรักษาความ อาการN/V การรักษาความ activityที่เหมาะสมวิธีลดไข สะอาดในชองปาก coping สะอาดในชองปาก coping การลดอาการN/Vการรักษา techning techning ความสะอาดในชองปาก coping techning,support group ♦ยา D/C plan ●ประเมินความพรอม ●สอนตามขอ education ●สอนตามขอ education ●สอนตามขอ education ●สอนตามขอ education ●สอนตามขอeducation ของผูดแลพรอมเศรษ ู ●เตรียมเอกสารสงตอขอมูลใน ฐานะ เรื่องยาการดูแลอาการผิดปกติที่ ●สถานพยาบาลใกลบาน ควรมาโรงพยาบาล เบอรโทร บัตร สถานศึกษา นัดและขั้นตอนการติดตอ หมายเหตุ แพทย ●พยาบาล ♦ยา
  • 42. ชื่อ..............................................นามสกุล..............................อายุ..........ป HN.........................การวินิจฉัยโรค.................................. แนวทางการดูแลผูปวยที่มี Febrile neutropenia (FN)(1) ของกลุมงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลพุทธชินราช ประวัตและการตรวจรางกายอยางละเอียด ิ CBC , U/A , Stool exam Hemoculture (Bactec) 1 specomen , Urine culture Low risk High risk (2) 1st regimen (3) Modification of regimen (3) 2nd regimen (4) ___/___/___ ___/___/___ ___/___/___ ประเมิน 72 ชม. หลังใชยา ___/___/___ ใช เชื้อ..................... ทราบผลเพาะเชื้อ ใช ___/___/___ ไมใช ใหยาตามชนิดของเชื้อ H/C : NG ___/___/___ ไมมีไข __/__/__ มีไข __/__/__ 2nd regimen อาการดีขึ้น อาการไมดีขึ้น ไขเปนซ้ํา Low risk ANC > 100 หรือ high risk ___/___/__ ___/___/__ ___/___/___ ANC < 100 ___/___/___ Hemoculture ซ้ํา เปลี่ยนเปน 3 rd ประเมิน 3-4 วัน generation oral ใหยาตาม regimen เดิม ___/___/__ cephalosporin(6) ตอจนไมมีไข อยางนอย 5 วัน อีก 5-7 วัน ใช ไขเปนซ้ํา repeat CBC อาการดีขึ้น ไมใช ได 1st regimen หาหลักฐานการติดเชื้อราและให ไมใช ANC > 100 ANC < 100 antifungal(7)ถามี FN>7 วัน หยุดยาปฏิชีวนะ เปลี่ยนเปน 3rd generation oral ___/___/___ ประเมินซ้ําภายใน 3-4วัน (6) ___/___/___ cephalosporin อีก 5-7วัน อาการดีขึ้น ไมมีไข ____/____/____ หยุดยาหลังจากไมมีไข5-7วันหรือให ไมใช ใช ATB 2 wks Antifungal 3-2 ประเมินซ้ํา CBC U/A,H/C,MUC wks CXR,U/S abdomen eye exam