Ce diaporama a bien été signalé.
Le téléchargement de votre SlideShare est en cours. ×

10 เป้าหมายปฏิรูปการเมือง พลิกโฉมประเทศ

Publicité
Publicité
Publicité
Publicité
Publicité
Publicité
Publicité
Publicité
Publicité
Publicité
Publicité
Publicité
Chargement dans…3
×

Consultez-les par la suite

1 sur 6 Publicité

10 เป้าหมายปฏิรูปการเมือง พลิกโฉมประเทศ

Télécharger pour lire hors ligne

ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์
ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง

จาก หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์
ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง

จาก หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

Publicité
Publicité

Plus De Contenu Connexe

Similaire à 10 เป้าหมายปฏิรูปการเมือง พลิกโฉมประเทศ (20)

Plus par Klangpanya (20)

Publicité

10 เป้าหมายปฏิรูปการเมือง พลิกโฉมประเทศ

  1. 1. ฉบับที่ 4 / 2560 Policy Brief วิทยาลัยรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต ใใใใใใใใใใใใใใใ ใใใใใใ: ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง 1สถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ชาติ วิทยาลัยรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต 10 เป้ าหมายปฏิรูปการเมือง พลิกโฉมประเทศ
  2. 2. เพิ่มเติมได้ที่ www.rsu-brain.com ประธานสถาบันคลังปัญญาฯ : ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ บรรณาธิการ: น.ส.ยุวดี คาดการณ์ไกล สานักพิมพ์: มูลนิธิสร้างสรรค์ปัญญาสาธารณะ ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,310 วันที่ 2 - 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ออนไลน์ http:// www.thansettakij.com/content/225868 สถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ชาติ อาคารพร้อมพันธุ์ 1 ชั้น 4 637/1 ถนนลาดพร้าว เขตจตุจักร กทม. 10900 โทรศัพท์ 02-938-8826 โทรสาร 02-938-8864
  3. 3. 3สถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ชาติ วิทยาลัยรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต ภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้ง “คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ” 11 คณะ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2560 กาหนดให้กรรมการปฏิรูปแต่ละคณะต้องจัดทาแผนให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยแผนงานแต่ละด้านต้องแล้วเสร็จภายในเมษายน 2561 เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในเดือน เมษายน ปีเดียวกัน สาหรับความคืบหน้าของการจัดทาแผนปฏิรูปด้านการเมือง ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หลัง กาหนดเป้ าหมายการปฏิรูปการเมือง 10 ด้านแล้วเสร็จ ขณะนี้อยู่ระหว่างการทาแผนปฏิรูป ซึ่งจะ เสร็จกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ 10 เป้ าหมายปฏิรูปการเมือง ศ.ดร. เอนก กล่าวถึงหลักการและเป้าหมายของการปฏิรูปประเทศด้านการเมืองว่า มี 10 ข้อ โดยสรุปคือ ประการแรก ให้ประเทศชาติมีสันติสุข มีความสงบเรียบร้อย มีความสมัครสมาน สามัคคีปรองดอง แม้จะมีความแตกต่างกัน มีการประชันขันแข่งกันทางความคิดและแนวทาง ก็ สามารถมีการปรองดองกัน มีการพัฒนาทั้งในระบบตลาดปกติ จะต้องเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงต้องให้มีความสมดุลระหว่างการพัฒนาด้านวัตถุและด้านจิตใจ ข้อ 2 เป็นเรื่องทาให้สังคมมีความเป็ นธรรม มีความยุติธรรม มีโอกาสแทบทุกทางที่คนเรา จะทัดเทียมกันได้มากขึ้น จะปฏิรูปความเหลื่อมล้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลดความเหลื่อม ล้า แตกต่างระหว่างเมืองใหญ่กับเมืองเล็ก ถ้าทาได้ จะลดความแตกต่างเหลื่อมล้า ซึ่งเป็นฐานของ การเมืองที่เต็มไปด้วยความสับสนปั่นป่วน รบกวนประเทศ ไทยมาถึง 10 ปี ข้อ 3 ให้ประชาชนมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี ให้ทุกชนชั้นล้วนมีวัฒนธรรมทาง การเมืองที่มุ่งเน้นหน้าที่ที่มีความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองมากขึ้น ต้องมุ่งเน้นต่อประโยชน์สุขของ ส่วนรวมมากขึ้น เป็นประชาธิปไตย และจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ มีส่วนร่วมอย่างจริงจัง ในการพัฒนาประเทศ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข ศ.ดร.เอนก กล่าวว่าหลักการใน 3 ข้อเบื้องต้น เป็นหลักการใหญ่และหลักการทั่วไป ส่วน หลักการตั้งแต่ข้อ 4 ถึงหลักการที่ 10 จะเป็นหลักการที่เจาะจง
  4. 4. 4สถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ชาติ วิทยาลัยรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต โดยเฉพาะข้อ 4 ให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจที่ลึกซึ้ งขึ้ นต่อการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุข มีส่วนร่วมในการดาเนินกิจกรรมทางการเมือง เป็นพลเมืองที่แข็งขัน ร่วมสร้างบ้านแปงเมือง ประเทศจะพัฒนาไม่ใช่ว่าอยู่ที่รัฐบาลเท่านั้น ประชาชน ต้องมาเป็นส่วนร่วมในการคิด การทา การตรวจสอบด้วย ยอมรับในหลักการทางการเมืองที่สุจริตแต่ แตกต่างกัน และให้ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งและออกเสียงประชามติโดยอิสระ ปราศจากการครอบงา ไม่ว่าจะในทางใด ข้อ 5 ให้การดาเนินกิจกรรมของพรรคการเมือง เป็ นไปโดยเปิ ดเผยและตรวจสอบได้มาก ที่สุด ให้พรรคพัฒนาเป็ นสถาบันการเมือง ของประชาชนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองร่วมกัน แทนที่ จะเป็นพรรคของนายทุน ให้ประชาชนมีกระบวนการที่จะไปเป็นสมาชิกพรรคและมีส่วนร่วมและมีความ รับผิดชอบอย่างแท้จริงในการดาเนินกิจกรรมทางการเมืองโดยเฉพาะในการคัดเลือกคนที่มีความรู้ ความสามารถ ความสุจริต มีคุณธรรม เข้ามาเป็นผู้ดารงตาแหน่งทางการเมืองโดยชัดเจน ข้อ 6 มีกลไกกาหนดความรับผิดชอบของพรรคการเมืองในการเสนอหรือประกาศโฆษณา หรือแถลงนโยบายที่กระทบความคุ้มค่าและความเสี่ยงอย่างรอบด้าน มุ่งที่จะขจัดนโยบายที่จะทาให้ เกิดความเสียหายของประเทศ ที่จาเป็นต้องกาหนดว่าต้องมีการวิเคราะห์ผลกระทบ มีการบอกด้วยว่าจะ เอางบประมาณอะไรมาใช้ ต้องกู้ยืมเงินเท่าไหร่ และจะคุ้มค่าแค่ไหน ถ้าระยะสั้นไม่ได้ ให้บอกความ คุ้มค่าระยะยาวอย่างไร และจะมีความเสี่ยงอะไร ที่เราคิดไม่ถึงหรือเปล่า ก็แปลว่าการเสนอนโยบาย อะไรต้องรับผิดชอบ ข้อ 7 ต้องมีกระบวนการยกระดับจิตสานึกธรรมาธิปไตย ซึ่งเป็ นธรรมาธิปไตยแนวพุทธ โดย ไม่จาเป็ นต้องเป็ นชาวพุทธเท่านั้นที่ควรจะปฏิบัติ หมายถึงปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยที่มี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขณะเดียวกันผู้ที่อยู่ภายใต้การปกครองหรือคนที่เป็นผู้นาต้องมีธรรมะ รู้ว่าอะไรดี อะไรควร อะไรถูก ไม่ใช่มีแต่ความนิยมอย่างเดียว และมีกลไกกาหนดให้ผู้ที่อยู่ในกลไก การเมืองทุกระดับต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต รับผิดชอบต่อสังคม ท้องถิ่น และ ประเทศชาติ พูดง่ายๆ คือใช้ธรรมาธิปไตยช่วยให้คนที่ดารงตาแหน่งทางการเมือง ตระหนักว่าเรามี การเมืองแบบนี้มีไม่ใช่เพราะการมาแย่งชิงทรัพยากรกัน แต่เพื่อช่วยกันพัฒนาบ้านเมือง
  5. 5. 5 สถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ชาติ วิทยาลัยรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต ข้อ 8 ให้มีกลไก กระบวนการ ทรัพยากรที่พอเพียง ในการสนับสนุนส่งเสริมให้องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น และพื้นที่ต่างๆ เช่น จังหวัด อาเภอ ตาบล ตลอดจนอาสาสมัคร พลเมือง ชุมชน ประชาชน ประชาสังคมทั้งหลาย ให้มีบทบาทในการพัฒนาบ้านเมือง ให้เป็ นไปตาม วัฒนธรรม ประเพณีเฉพาะถิ่นเฉพาะที่ก็ได้ และให้เป็นประโยชน์ต่อชาติและส่วนรวมด้วย ข้อ 9 ให้มีองค์กรหรือสถาบันคลังปัญญากลาง หรือภาษาอังกฤษ เรียกว่า “Think Tank” มาศึกษาวิจัยและสร้างสรรค์สติปัญญา ให้ข้อเสนอในการปฏิรูป พัฒนาการเมืองอย่างต่อเนื่อง ใช้เป็น ส่วนประกอบหลักในการวางแผนปฏิรูปการเมืองต่อไปทุก 5 ปี ในครั้งแรกเราจะใช้เพียงสติปัญญา และสมอง ของ 10 คนที่เป็นกรรมการ แต่ใน 5 ปีต่อๆไป ถ้าไม่มีใครที่จะมาคิด มาวางแผน มาวิจัย ให้อย่างลึกซึ้ง ก็จะไม่มีอะไรที่ดีที่ใหม่กว่าของเดิม จึงจาเป็นต้องมี “Think Tank” มาช่วย ข้อ 10 ให้มีกลไก กระบวน การ และทรัพยากรในการแก้ไข และป้ องกันความขัดแย้งที่ รุนแรงแตกหักด้วยสันติวิธีและสติปัญญา โดยอยู่ภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข “เราตระหนักและเข้าใจดีว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้ว การเมืองเต็มไปด้วยความขัดแย้ง รุนแรงแตกหัก นองเลือด บ้านเมือง เต็มไปด้วยความปั่นป่วน รัฐเกือบจะล้มเหลว ต้องหากลไกกระบวน การอะไรที่ จะไม่ให้เกิดขึ้นอีกให้มันแก้ไขกันได้ในระบอบประชาธิปไตย” สรุปปฏิรูปการเมืองกลางพ.ย. สาหรับกรอบในการทางานของคณะกรรมการปฏิรูปเป็นไปตามกฎหมายกาหนดคือต้องเสร็จใน ขั้นที่ 1 คือผ่านเรื่องไปที่กรรมการยุทธศาสตร์ภายในสิ้นปีนี้ จากนั้นคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติจะ พิจารณาและส่งเรื่องไปให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ถ้าครม.เห็นชอบก็จะส่งไปให้สภานิติบัญญัติ แห่งชาติ (สนช.) รับทราบ กฎหมายกาหนดไว้ว่าต้องเสร็จสิ้นภายในเดือนเมษายน 2561 เพราะฉะนั้นทุกอย่างจะสาเร็จเป็นแผนได้และมีผลบังคับใช้ประมาณเมษายนปีหน้า จากนั้นก็จะทา หน้าที่ต่อไปอีกกว่า 4 ปี เพื่อกากับติดตามตรวจสอบดูว่าแผนที่เราเขียนได้รับความเห็นชอบจากครม. จากกรรมการยุทธศาสตร์ในทางปฏิบัตินาไปทาหรือไม่ หน่วยงานไหนไม่ทา หน่วยงานไหนทาดี หรือ ทาช้า ทายืดยาด ทาสับสน เราสามารถแจ้งให้เขาทราบหรือบอกผู้บังคับบัญชาให้ช่วยกวดขันดูแล ตักเตือน ถ้าเขาไม่ทาเลยก็จะนาเรื่องไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ก็ได้
  6. 6. ส่วนการทางานจะมีอนุกรรมการได้ชุดเดียวคือกรรมการติดตามความคิดเห็นประชาชน แล้วเอา แผนของกรรมการปฏิรูปการเมืองไปทาความเข้าใจกับประชาชน นอกจากนั้นได้ร่างแผนเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา เราได้คุยกันมาเกิน 10 ครั้ง เกี่ยวกับเรื่องเป้าหมาย หลักการ มีการพูดคุยกันในหลาย ประเด็น หลายวาระที่สาคัญ เพื่อนามาเป็นเนื้อหาในการเขียนแผน และตั้งกรรมการขึ้นมารับผิดชอบใน การเขียนแผน โดยนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ เริ่มเขียนแผนกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ใช้เวลาเขียน ประมาณ 1 เดือน เสร็จประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน จากนั้นจะมาพิจารณาต่ออีก 1 เดือน ประมาณ วันที่ 15 ธันวาคมนี้ ก็จะเสร็จในชั้นของกรรมการปฏิรูปการเมือง จากนั้นก็ส่งไปที่กรรมการยุทธศาสตร์ ชาติ ส่วนความคาดหวังในการปฏิรูปการเมืองในครั้งนี้ นายเอนก กล่าวว่า ครั้งนี้กรรมการปฏิรูป การเมืองไม่ได้นับหนึ่งใหม่ มีคนได้คิดให้เราไว้เยอะ เราก็ไปเก็บสิ่งที่เขาได้ทามาใช้ อาจจะไม่ทั้งหมด แต่ก็จะรับไว้มาก เพื่อจะได้ไม่ต้องมาทาเรื่องเก่าอีก หรือต้องมาคิดเรื่องใหม่ แต่ที่จริงก็คิดมาแล้ว เราก็ จะต่อยอด ก็ไม่ได้หนักใจอะไรกับการทางานครั้งนี้ เพราะเราเริ่มคิดทาเรื่องปฏิรูปมา 3 ปีแล้ว ทั้งสภา ปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.), คณะรักษาความ สงบแห่งชาติ (คสช.) ได้คิดและรวบรวมความเห็นว่าควรจะ ปฏิรูปอะไรจากประชาชนทั่วประเทศ จากหลายกลุ่ม และพรรคการเมือง รวมทั้งสภาขับเคลื่อนการ ปฏิรูปประเทศ (สปท.) ก็คิดและเขียนแผนอะไรมาเยอะแยะ เพราะฉะนั้นผมคิดว่าน่าจะไม่ยากนัก “ผมคิดว่า อันนี้ถ้าประคับประคองทาไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะจากรัฐบาลจากการเลือกตั้งด้วยก็จะ พลิกโฉมประเทศไทย ในตอนแรกๆ อาจจะไม่ค่อยเห็นผล แต่ถ้าทาต่อเนื่องกันไปทุก 5 ปี ก็จะทาให้ ประเทศไทยมีทิศทาง แทนที่จะขับไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าจะขับไปไหน แต่ครั้งนี้จะเป็นการบังคับให้ทา ตามแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิรูป ซึ่งแผนที่ดีการปฏิรูปที่ดีต้องปรับแก้ได้ตลอดเวลา ไม่ใช่เอาสิ่งที่ เป็นโบราณล้าหลังมาเป็นเข็มทิศในการพัฒนาประเทศ” ศ.ดร.เอนก ระบุ * * *

×