SlideShare a Scribd company logo
1 of 23
Download to read offline
องคประกอบภายนอกของ
   ์
     คอมพิวเตอร ์


    computer
จอภาพ (Monitor)
    จอภาพเป็ นอุปกรณ์แสดงผลทีมช่อเรียกมากมาย เช่น Monitor, CRT
                             ่ ี ื
(Cathode Ray Tube) ปกติแล้วจอภาพสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ
1.จอภาพสีเดียว (Monochrome Monitor)

  จอภาพทีรบสัญญาณจากการ์ดควบคุม ในลักษณะของสัญญาณดิจตอล คือ 0 กับ 1
           ่ั                                              ิ
โดยการกวาดลาอิเล็กตรอนไปตกหน้าจอ แล้วเกิดเป็นจุดเรืองแสง จะให้สญญาณว่าจุด
                                                               ั
ไหนสว่าง จุดไหนดับ จอภาพสีเดียวเวลานี้ไม่มผนิยมแล้ว
                                          ี ู้
2. จอภาพหลายสี (Color Monitor)

         จอภาพทีรบสัญญาณดิจตอล 4 สัญญาณ คือ สัญญาณของสีแดง, เขียว
                ่ั         ิ
, น้าเงิน และสัญญาณความสว่าง ทาให้สามารถแสดงสีได้ 16 สี ถึง 32 ล้านสี
การทางานของจอภาพ เริมจากการกระตุนอุปกรณ์หลอดภาพให้รอน เกิดเป็ น
                              ่             ้                    ้
อิเล็กตรอนขึน และถูกยิงด้วยปื นอิเล็กตรอน ให้ไปยังจุดทีตองการแสดงผลบนจอภาพ
              ้                                        ่ ้
ซึงทีจอภาพจะมีการเคลือบสารฟอสฟอรัสเรืองแสง เมื่ออิเล็กตรอนเหล่านี้วงไปชน ก็จะ
  ่ ่                                                              ิ่
ทาให้เกิดแสงสว่าง ซึงจะประกอบกันเป็ นรูปภาพ ในการยิงลาแสดงอิเล็กตรอน มันจะ
                    ่
เคลื่อนทีไปตามแนวขวาง จากนันเมื่อกวาดภาพ มาถึงสุดขอบด้านหนึ่ง ปื นลาแสงก็จะ
         ่                      ้
หยุดยิง และ ปรับปื นอิเล็กตรอนลงมา 1 line และ เคลื่อนทีไปยังขอบอีกด้านหนึ่ง
                                                           ่
                                              ั
และทาการยิงใหม่ ลักษณะการยิงจึงเป็ นแบบฟนเลื่อย
            ่
เคส (Case)
จอภาพเป็ นอุปกรณ์แสดงผลทีมช่อเรียกมากมาย เช่น Monitor, CRT
                             ่ ี ื
(Cathode Ray Tube) ปกติแล้วจอภาพสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ
เคสของคอมพิวเตอร์ถงแม้จะมีคณสมบัตเป็ นเพียงเปลือกห่อหุมภายนอก แต่กม ี
                            ึ       ุ      ิ                 ้             ็
คุณสมบัติ หลายอย่างไปตามชนิดของเคส เช่น เคสแบบ ATX จะมีคณสมบัตในการ
                                                                 ุ    ิ
ระบายความร้อนได้ดกว่า เคสแบบ AT และมีคณสมบัตในการสนับสนุนระบบ
                      ี                      ุ       ิ
เพาเวอร์ชตดาวน์ ของระบบปฏิบตการรุนใหม่ๆ ซึงเคสแบบ AT นันไม่ม ี เคสจะมี
            ั                   ั ิ ่          ่               ้
สิงหนึ่งทีตดตังควบคูมากับเคสและก็มความสาคัญพอควร นันคือ เพาเวอร์ซพพลาย
  ่       ่ ิ ้     ่                 ี                ้           ั
ซึงเป็ นตัวจ่ายกระแสไฟฟ้า ให้กบอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบคอมพิวเตอร์ ในการเลือกเคส
    ่                         ั
ต้องคานึงถึง ตัวเพาเวอร์ซพพลายว่ามีกาลังในการจ่ายไฟให้กบอุปกรณ์เพียงพอ
                          ั                              ั
หรือไม่ และต้องเลือกใช้กบเมนบอร์ด ให้เข้ากันด้วยคือเมนบอร์ดแบบไหนก็เคสแบบ
                        ั
เดียวกัน
คียบอร์ด (Keyboard)
   ์
      คียบอร์ดเป็ นอุปกรณ์รบข้อมูลเบืองต้น มีลกษณะการทางานคล้ายคียบอร์ดของ
           ์                ั        ้        ั                   ์
                        ่ ่
เครื่องพิมพ์ดด แต่ได้เพิมปุมควบคุมเฉพาะสาหรับคอมพิวเตอร์ โดยปกติจะมี 101 คีย์
             ี
ซึงบางรุนอาจจะมีน้อย หรือมากกว่าก็ได้
  ่      ่
โดยสามารถแบ่งเป็ นกลุ่มๆ ได้ดงนี้
                             ั
    101-key Enhanced keyboard
    104-key Windows keyboard
    82-key Apple standard keyboard
    108-key Apple Extended keyboard
    Notebook & Palm keyboard
่
ปุมต่างๆ บนคียบอร์ดมีจานวนมาก ซึงสามารถแบ่งได้ 4 ส่วนหลัก คือ
              ์                 ่
                       ่
   Typing keys กลุ่มปุมพิมพ์อกขระ
                              ั
                          ่
   Numeric keypad กลุ่มปุมตัวเลข และเครืองหมายคานวณ
                                        ่
                         ่ ั ั
   Function keys กลุ่มปุมฟงก์ชน F1 - F12
                        ่                                             ่ ั ั
   Control keys กลุ่มปุมควบคุมต่างๆ เช่น ลูกศร, Ctrl, Alt เป็ นต้น ปุมฟงก์ชน
          ่
     และปุมควบคุม ทางบริษท IBM
                         ั
     (ค.ศ. 1986) ได้พฒนาเพิมเข้ามาในคียบอร์ด เพือช่วยให้การทางานมีความสะดวกมาก
                     ั     ่           ์       ่
     ขึน
       ้
์                      ่            ่
       การทางานของคียบอร์ด จะเกิดจากการเปลียนกลไกการกดปุม ให้เป็ น
สัญญาณทางไฟฟ้า เพื่อส่งให้คอมพิวเตอร์ โดยสัญญาณดังกล่าว จะบอกให้
คอมพิวเตอร์ทราบว่ามีการกดคียอะไร การทางานทังหมดจะถูกควบคุมด้วย
                            ์               ้
Microprocessor ขนาดเล็กทีบรรจุในคียบอร์ด และสัญญาณต่างๆ จะส่งผ่าน
                                ่         ์
สายสัญญาณผ่านทางขัวต่อ
                     ้
ซึงแบ่งได้ 4 ประเภท คือ
  ่
    5-pin DIN (Deustche Industrie Norm) connector เป็ นขัวต่อ
                                                          ้
     ขนาดใหญ่ ใช้กบคอมพิวเตอร์ในรุ่นแรก
                   ั
                                                              ั ั
    6-pin IBM PS/2 mini-DIN connector เป็ นขัวต่อขนาดเล็ก ปจจุบนพบ
                                                    ้
     ได้อย่างแพร่หลาย
    4-pin USB (Universal Serial Bus) connector เป็ นขัวต่อรุนใหม่
                                                          ้ ่
    internal connector เป็ นขัวต่อแบบภายใน พบได้ใน Notebook
                                     ้
     Computer
ั ั ์
          ปจจุบนคียบอร์ด มีการพัฒนาไปตามยุคสมัย โดยเฉพาะยุคโลกไร้พรมแดน
                                ั ้             ั             ์       ่ ี ุ่
ด้วยเทคโนโลยีอนเทอร์-เน็ต บริษทผูผลิตหลายบริษท ได้ทาการผลิตคียบอร์ด ทีมปม
                  ิ
  ั ั
ฟงก์ชนสาหรับตรวจสอบอีเมล์ และการเข้าสู่ อินเทอร์เน็ต ตลอดจนควบคุมระบบ
มัลติมเี ดียต่างๆ เพื่ออานวยความสะดวกให้กบผูใช้
                                         ั ้
เมาส์ (Mouse)
      อุปกรณ์รบข้อมูลทีนิยมรองจากคียบอร์ด ได้แก่ อุปกรณ์ชตาแหน่ง ทีเรียกว่า
                ั      ่            ์                    ้ี        ่
เมาส์ (Mouse) หรือ "หนูอเล็กทรอนิกส์" เนื่องจากเป็ น อุปกรณ์ท่มลกษณะคล้าย
                             ิ                                ี ีั
หนู มีสายต่ออยูทปลายลักษณะเดียวกับหางหนู เมาส์จะช่วยในการบ่งชีตาแหน่งว่า
                  ่ ่ี                                          ้
ขณะนี้กาลังอยู่ ณ จุดใดบนจอภาพ เรียกว่า "ตัวชีตาแหน่ง (Pointer)" ซึงอาศัย
                                              ้                       ่
                           ่
การเลื่อนเมาส์ แทนการกดปุมบังคับทิศทางบนคียบอร์ด์
เมาส์พฒนาขึนมาครังแรก ในศูนย์คนคว้าทีเมืองปาโลอัลโต้ ของบริษทซีรอก
               ั    ้      ้             ้    ่                       ั ็
(Xerox Corporation's Palo Alto Research Center) เมาส์ม ี
หลายรูปร่าง หลายลักษณะ โดยเฉพาะเมาส์รนใหม่ๆ จะออกแบบมาอย่างสวยงาม โดย
                                           ุ่
     ุ่                  ่                               ่
ปกติปมของเมาส์ จะมี 2 ปุมสาหรับเมาส์ของเครื่องพีซี และปุมเดียวสาหรับเครื่อง
                   ั ั                                         ่ ่
Macintosh ปจจุบนมีการพัฒนาให้เมาส์ใช้งานได้งายขึน โดยเพิมปุมเลื่อนตรง
                                                   ่ ้
กลาง มีลกษณะคล้ายล้อ ดังรูป เรียกว่า Intelli Mouse ซึงจะอานวยความ
         ั                                                 ่
สะดวกให้กบผูใช้ในการเลื่อนจอภาพเพื่อดูขอมูล นอกจากนี้ยงมีเมาส์ททางานด้วย
           ั ้                         ้               ั        ่ี
สัญญาณแสง ทีเรียกว่า Infrared หรือ Wireless Mouse
                 ่
้ ่ ิ ้ ่ ้            ุ่
       เมาส์ประกอบด้วย ลูกกลิงทีตดตังอยูดานล่าง และมีปมกดควบคุม (ตังแต่ 1 - 3
                                                                      ้
  ่
ปุม) การใช้เมาส์จะนาเมาส์วางไว้บนพืนราบ และเลื่อนเมาส์ไปในทิศทางทีตองการ บน
                                      ้                           ่ ้
จอภาพจะปรากฏ สัญลักษณ์ชตาแหน่ง เรียกว่า "Mouse Pointer" (มักจะเป็ น
                              ้ี
                                                      ่
รูปลูกศรเฉียงซ้าย) เมื่อต้องการจะทางานใดๆ ก็ทาการกดปุมเมาส์ ตามหลักการใช้
เมาส์ คอมพิวเตอร์จะรับสัญญาณ และทาการประมวลผลต่อไป
มี 3 ประเภท คือ Mechanical, Opto-Mechanical, Optical

 Mechanical
          เป็ นกลไกการทางานทีอาศัยลูกบอลยาง ทีสามารถกลิงไปมาได้ เมื่อทาการ
                                 ่              ่       ้
เคลื่อนย้ายตัวเมาส์ ซึงลูกบอลจะกดแนบอยู่กบลูกกลิง โดยแกนของลูกกลิง จะต่อกับจาน
                      ่                    ั      ้              ้
แปลรหัส (Encoder) บนจานจะมีหน้าสัมผัสเป็ นจุดๆ เมื่อจุดสัมผัสเลื่อนมาตรงแกน
สัมผัส ก็จะสร้างสัญญาณ บอกไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ โปรแกรมควบคุมเมาส์ จะทาหน้าที่
แปลเป็ นคาสั ่งเคลื่อนย้ายเคอร์เซอร์ บนจอภาพต่อไป
Opto-Mechanical

      กลไกการทางานคล้าย Mechanical แต่ตวรับการเคลื่อนทีของจาน
                                         ั             ่
Encoder จะมี LED อยูอกด้านหนึ่งของจานไว้คอยกาเนิดแสง และอีกด้านหนึ่ง
                        ่ ี
จะมี Opto-Transistor (ทรานซิสเตอร์ไวแสง) ไว้คอยตรวจจับแสงแทนการใช้
การสัมผัส
Optical

         กลไกการทางานทีอาศัยแผ่นรองชนิดพิเศษ ซึงมีผวมันสะท้อนแสง และมีตาราง
                         ่                      ่ ิ
เส้นตามแกน X , Y โดยแกนหนึ่งเป็ นสีน้ าเงิน อีกแกนเป็ นสีดา ตัดกันไว้คอยตรวจจับ
การเคลื่อนที่ ซึงบนเมาส์ จะมี LED 2 ตัวให้กาเนิดแสงออกมา 2 สี คือ สีดา และสี
                ่
น้ าเงิน LED ทีกาเนิดแสงสีดา จะดูดกลืนแสงสีน้ าเงิน LED ทีกาเนิดแสงสีน้ าเงิน
                  ่                                          ่
จะดูดกลืนแสงสีดา ซึงตัวตรวจจับแสง เป็ นทรานซิสเตอร์ไวแสง สีท่ตรวจจับได้จะบอก
                    ่                                          ี
ทิศทาง ส่วนช่วงของแสงทีหายไป จะบอกถึงระยะทางการเคลื่อนที่
                           ่
ลาโพง (Speaker)
    คือ อุปกรณภายนอกอีกชินหนึ่ง ทีเป็ น
                     ์                 ้       ่
อุปกรณสาหรับแสดงผล ซึงแสดงผลออกมาใน
           ์                       ่
รูปแบบของสั ญญาณเสี ยง คอมพิวเตอรสามารถ          ์
แทนชุดเครืองเสี ยงแบบมินคอมโปได้ สามารถใช้
               ่                 ิ
งานแทนเครืองเลนวิดโอและทีวได้ หลายคนคง
                 ่     ่     ี           ี
เคยไดยินเช่นนั้น การจะทาให้คอมพิวเตอรทางาน
         ้                                             ์
แทนแหลงบันเทิงเหลานั้นได้ ตองการฮารดแวร ์
             ่             ่               ้       ์
มัลติมเดีย ไดแก่ ไดรฟ์ซีดรอม ไดรฟ์ดีวด ี
       ี           ้                 ี               ี
การดเสี ยง การด MPEG, การถอดรหัส AC- 3
    ์                    ์
(AC-3 Decoding) การดประมวลผลดีวด ี และ
                               ์             ี
เครืองสารองไฟ
    ่
      (UPS)
UPS โดยทั ่วไปก็จะทาหน้าที่ สารองไฟไว้ใช้ในกรณีไฟฟ้าดับ หรือหาก
กระแสไฟฟ้า เกินหรือขาด ไปมากกว่าค่าทีกาหนดไว้ UPS ก็จะตัดเข้าจ่ายไฟจาก
                                         ่
แบตเตอรีภายใน UPS เองโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยงมี UPS บางยีหอทีเพิมส่วน
          ่                                        ั               ่ ้ ่ ่
ของ ตัวควบคุมเสถียรภาพของไฟฟ้า (Stabilizer) ซึงทาหน้าที่ควบคุม ให้
                                                       ่
กระแสไฟฟ้าทีจายออกจาก UPS มีคาอยูในช่วง 210- 230 โวลต์โดยตลอด อีกส่วน
               ่่                   ่ ่
หนึ่งที่ UPS สามารถป้องกันได้ ก็คอ ฟ้าผ่า เมื่อเกิดฟ้าผ่าไฟฟ้าสถิตย์จากฟ้าผ่าจะ
                                  ื
ทาให้เกิดแรงเหนี่ยวนาภายในสายไฟฟ้าแรงดันไฟฟ้าสูง บางทีอาจจะถึงหลายหมืน       ่
โวลต์ และนั ่นก็คออันตรายมากทีสุดสาหรับ เครื่องใช้ไฟฟ้า และรวมถึงคอมพิวเตอร์
                  ื            ่
ด้วย

More Related Content

What's hot

บัญชีคำพื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
บัญชีคำพื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔บัญชีคำพื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
บัญชีคำพื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
ผอ.พีระยศ บุญเพ็ง
 
03 บทที่ 3-วิธีดำเนินงานโครงงาน
03 บทที่ 3-วิธีดำเนินงานโครงงาน03 บทที่ 3-วิธีดำเนินงานโครงงาน
03 บทที่ 3-วิธีดำเนินงานโครงงาน
Champ Wachwittayakhang
 
เฉลยข้อสอบExcel 40 ข้อ
เฉลยข้อสอบExcel 40 ข้อเฉลยข้อสอบExcel 40 ข้อ
เฉลยข้อสอบExcel 40 ข้อ
peter dontoom
 
Powerpoint โครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
Powerpoint โครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดีPowerpoint โครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
Powerpoint โครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
อาภัสรา ยิ่งคำแหง
 
ปกนอก ปกใน
ปกนอก ปกในปกนอก ปกใน
ปกนอก ปกใน
amixdouble
 
หน้าปกโครงงานคอมพิวเตอร์
หน้าปกโครงงานคอมพิวเตอร์หน้าปกโครงงานคอมพิวเตอร์
หน้าปกโครงงานคอมพิวเตอร์
kand-2539
 
เค้าโครงโครงงานคอม
เค้าโครงโครงงานคอมเค้าโครงโครงงานคอม
เค้าโครงโครงงานคอม
Mark Siwadol
 
รายงาน สังคมออนไลน์
รายงาน สังคมออนไลน์รายงาน สังคมออนไลน์
รายงาน สังคมออนไลน์
Pimpimol Hueghok
 

What's hot (20)

บัญชีคำพื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
บัญชีคำพื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔บัญชีคำพื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
บัญชีคำพื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
 
คำนำ
คำนำคำนำ
คำนำ
 
03 บทที่ 3-วิธีดำเนินงานโครงงาน
03 บทที่ 3-วิธีดำเนินงานโครงงาน03 บทที่ 3-วิธีดำเนินงานโครงงาน
03 บทที่ 3-วิธีดำเนินงานโครงงาน
 
เฉลยข้อสอบExcel 40 ข้อ
เฉลยข้อสอบExcel 40 ข้อเฉลยข้อสอบExcel 40 ข้อ
เฉลยข้อสอบExcel 40 ข้อ
 
แนวข้อสอบความรู้ความสามารถด้านภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน(ชุด4)
แนวข้อสอบความรู้ความสามารถด้านภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน(ชุด4)แนวข้อสอบความรู้ความสามารถด้านภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน(ชุด4)
แนวข้อสอบความรู้ความสามารถด้านภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน(ชุด4)
 
บทที่ 3 วิธีดำเนินงานโครงงาน
บทที่ 3 วิธีดำเนินงานโครงงานบทที่ 3 วิธีดำเนินงานโครงงาน
บทที่ 3 วิธีดำเนินงานโครงงาน
 
โครงงานลายผ้าไหมไทย
โครงงานลายผ้าไหมไทยโครงงานลายผ้าไหมไทย
โครงงานลายผ้าไหมไทย
 
Powerpoint โครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
Powerpoint โครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดีPowerpoint โครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
Powerpoint โครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
 
ใบงาน 1.2 คำศัพท์เกี่ยวกับอุุปกรณ์คอมพิวเตอร์
ใบงาน 1.2 คำศัพท์เกี่ยวกับอุุปกรณ์คอมพิวเตอร์ใบงาน 1.2 คำศัพท์เกี่ยวกับอุุปกรณ์คอมพิวเตอร์
ใบงาน 1.2 คำศัพท์เกี่ยวกับอุุปกรณ์คอมพิวเตอร์
 
ใบงานที่ 6.1 เรื่อง อินเตอร์เน็ตและการใช้งาน
ใบงานที่  6.1 เรื่อง อินเตอร์เน็ตและการใช้งานใบงานที่  6.1 เรื่อง อินเตอร์เน็ตและการใช้งาน
ใบงานที่ 6.1 เรื่อง อินเตอร์เน็ตและการใช้งาน
 
ปกนอก ปกใน
ปกนอก ปกในปกนอก ปกใน
ปกนอก ปกใน
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เว็บไซต์ NIFTY HEALTH ด้วยภาษา HTML
โครงงานคอมพิวเตอร์  เรื่อง เว็บไซต์ NIFTY HEALTH ด้วยภาษา HTMLโครงงานคอมพิวเตอร์  เรื่อง เว็บไซต์ NIFTY HEALTH ด้วยภาษา HTML
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เว็บไซต์ NIFTY HEALTH ด้วยภาษา HTML
 
หน้าปกโครงงานคอมพิวเตอร์
หน้าปกโครงงานคอมพิวเตอร์หน้าปกโครงงานคอมพิวเตอร์
หน้าปกโครงงานคอมพิวเตอร์
 
แบบทดสอบ การเขียน ป.3
แบบทดสอบ การเขียน ป.3แบบทดสอบ การเขียน ป.3
แบบทดสอบ การเขียน ป.3
 
การอ่านเพื่อคาดคะเนเหตุการณ์และแสดงความ
การอ่านเพื่อคาดคะเนเหตุการณ์และแสดงความการอ่านเพื่อคาดคะเนเหตุการณ์และแสดงความ
การอ่านเพื่อคาดคะเนเหตุการณ์และแสดงความ
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์
 
เค้าโครงโครงงานคอม
เค้าโครงโครงงานคอมเค้าโครงโครงงานคอม
เค้าโครงโครงงานคอม
 
บทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจริยคุณ
บทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจริยคุณบทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจริยคุณ
บทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจริยคุณ
 
รายงาน สังคมออนไลน์
รายงาน สังคมออนไลน์รายงาน สังคมออนไลน์
รายงาน สังคมออนไลน์
 

Similar to อุปกรณ์ภายนอกของคอมพิวเตอร์

อุปกรณ์ภายนอกของคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์ภายนอกของคอมพิวเตอร์อุปกรณ์ภายนอกของคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์ภายนอกของคอมพิวเตอร์
Guntima Pisaidsin
 
บทที่ 4 อินพุตและเอาท์พุต
บทที่ 4 อินพุตและเอาท์พุตบทที่ 4 อินพุตและเอาท์พุต
บทที่ 4 อินพุตและเอาท์พุต
Pokypoky Leonardo
 
1.3 ทักษะการใช้เมาส์และแป้นพิมพ์
1.3 ทักษะการใช้เมาส์และแป้นพิมพ์1.3 ทักษะการใช้เมาส์และแป้นพิมพ์
1.3 ทักษะการใช้เมาส์และแป้นพิมพ์
Chatree MChatree
 
01 องค์ประกอบคอมพิวเตอร์
01 องค์ประกอบคอมพิวเตอร์01 องค์ประกอบคอมพิวเตอร์
01 องค์ประกอบคอมพิวเตอร์
Oh Aeey
 
ใบความรู้ที่ 2 หลักการพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ที่ 2 หลักการพื้นฐานของคอมพิวเตอร์ใบความรู้ที่ 2 หลักการพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ที่ 2 หลักการพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
Tay Chaloeykrai
 
คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง
คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงคุณลักษณะของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง
คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง
Nattapon
 
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
natthaphorn_thepyoo
 
อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์
อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์
อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์
พัน พัน
 
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์1
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์1อุปกรณ์คอมพิวเตอร์1
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์1
wanniphar1520
 
อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
Mai Lattapon
 
ฮาร์ดแวด์
ฮาร์ดแวด์ฮาร์ดแวด์
ฮาร์ดแวด์
sommat
 
ฮาร์ดแวด์
ฮาร์ดแวด์ฮาร์ดแวด์
ฮาร์ดแวด์
Nantawoot Imjit
 
ก้าวไกลทันเทคโนโลยี 2
ก้าวไกลทันเทคโนโลยี 2ก้าวไกลทันเทคโนโลยี 2
ก้าวไกลทันเทคโนโลยี 2
Kriangx Ch
 

Similar to อุปกรณ์ภายนอกของคอมพิวเตอร์ (20)

อุปกรณ์ภายนอกของคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์ภายนอกของคอมพิวเตอร์อุปกรณ์ภายนอกของคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์ภายนอกของคอมพิวเตอร์
 
บทที่ 4 อินพุตและเอาท์พุต
บทที่ 4 อินพุตและเอาท์พุตบทที่ 4 อินพุตและเอาท์พุต
บทที่ 4 อินพุตและเอาท์พุต
 
1.3 ทักษะการใช้เมาส์และแป้นพิมพ์
1.3 ทักษะการใช้เมาส์และแป้นพิมพ์1.3 ทักษะการใช้เมาส์และแป้นพิมพ์
1.3 ทักษะการใช้เมาส์และแป้นพิมพ์
 
01 องค์ประกอบคอมพิวเตอร์
01 องค์ประกอบคอมพิวเตอร์01 องค์ประกอบคอมพิวเตอร์
01 องค์ประกอบคอมพิวเตอร์
 
ใบความรู้ที่ 2 หลักการพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ที่ 2 หลักการพื้นฐานของคอมพิวเตอร์ใบความรู้ที่ 2 หลักการพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ที่ 2 หลักการพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
 
คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง
คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงคุณลักษณะของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง
คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง
 
Lesson 1
Lesson 1Lesson 1
Lesson 1
 
Computer1
Computer1Computer1
Computer1
 
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
 
อุปกรณ์คอมคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์คอมคอมพิวเตอร์อุปกรณ์คอมคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์คอมคอมพิวเตอร์
 
อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์
อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์
อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์
 
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์1
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์1อุปกรณ์คอมพิวเตอร์1
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์1
 
หน่วยรับข้อมูล
หน่วยรับข้อมูลหน่วยรับข้อมูล
หน่วยรับข้อมูล
 
อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
 
ฮาร์ดแวด์
ฮาร์ดแวด์ฮาร์ดแวด์
ฮาร์ดแวด์
 
ฮาร์ดแวด์
ฮาร์ดแวด์ฮาร์ดแวด์
ฮาร์ดแวด์
 
นวัตกรรม เรื่อง ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์
นวัตกรรม เรื่อง ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์นวัตกรรม เรื่อง ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์
นวัตกรรม เรื่อง ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์
 
ก้าวไกลทันเทคโนโลยี 2
ก้าวไกลทันเทคโนโลยี 2ก้าวไกลทันเทคโนโลยี 2
ก้าวไกลทันเทคโนโลยี 2
 
Computer system
Computer systemComputer system
Computer system
 
Chapter2 Input & Output Devices
Chapter2 Input & Output DevicesChapter2 Input & Output Devices
Chapter2 Input & Output Devices
 

อุปกรณ์ภายนอกของคอมพิวเตอร์

  • 1. องคประกอบภายนอกของ ์ คอมพิวเตอร ์ computer
  • 2. จอภาพ (Monitor) จอภาพเป็ นอุปกรณ์แสดงผลทีมช่อเรียกมากมาย เช่น Monitor, CRT ่ ี ื (Cathode Ray Tube) ปกติแล้วจอภาพสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ
  • 3. 1.จอภาพสีเดียว (Monochrome Monitor) จอภาพทีรบสัญญาณจากการ์ดควบคุม ในลักษณะของสัญญาณดิจตอล คือ 0 กับ 1 ่ั ิ โดยการกวาดลาอิเล็กตรอนไปตกหน้าจอ แล้วเกิดเป็นจุดเรืองแสง จะให้สญญาณว่าจุด ั ไหนสว่าง จุดไหนดับ จอภาพสีเดียวเวลานี้ไม่มผนิยมแล้ว ี ู้
  • 4. 2. จอภาพหลายสี (Color Monitor) จอภาพทีรบสัญญาณดิจตอล 4 สัญญาณ คือ สัญญาณของสีแดง, เขียว ่ั ิ , น้าเงิน และสัญญาณความสว่าง ทาให้สามารถแสดงสีได้ 16 สี ถึง 32 ล้านสี
  • 5. การทางานของจอภาพ เริมจากการกระตุนอุปกรณ์หลอดภาพให้รอน เกิดเป็ น ่ ้ ้ อิเล็กตรอนขึน และถูกยิงด้วยปื นอิเล็กตรอน ให้ไปยังจุดทีตองการแสดงผลบนจอภาพ ้ ่ ้ ซึงทีจอภาพจะมีการเคลือบสารฟอสฟอรัสเรืองแสง เมื่ออิเล็กตรอนเหล่านี้วงไปชน ก็จะ ่ ่ ิ่ ทาให้เกิดแสงสว่าง ซึงจะประกอบกันเป็ นรูปภาพ ในการยิงลาแสดงอิเล็กตรอน มันจะ ่ เคลื่อนทีไปตามแนวขวาง จากนันเมื่อกวาดภาพ มาถึงสุดขอบด้านหนึ่ง ปื นลาแสงก็จะ ่ ้ หยุดยิง และ ปรับปื นอิเล็กตรอนลงมา 1 line และ เคลื่อนทีไปยังขอบอีกด้านหนึ่ง ่ ั และทาการยิงใหม่ ลักษณะการยิงจึงเป็ นแบบฟนเลื่อย ่
  • 7. จอภาพเป็ นอุปกรณ์แสดงผลทีมช่อเรียกมากมาย เช่น Monitor, CRT ่ ี ื (Cathode Ray Tube) ปกติแล้วจอภาพสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ
  • 8. เคสของคอมพิวเตอร์ถงแม้จะมีคณสมบัตเป็ นเพียงเปลือกห่อหุมภายนอก แต่กม ี ึ ุ ิ ้ ็ คุณสมบัติ หลายอย่างไปตามชนิดของเคส เช่น เคสแบบ ATX จะมีคณสมบัตในการ ุ ิ ระบายความร้อนได้ดกว่า เคสแบบ AT และมีคณสมบัตในการสนับสนุนระบบ ี ุ ิ เพาเวอร์ชตดาวน์ ของระบบปฏิบตการรุนใหม่ๆ ซึงเคสแบบ AT นันไม่ม ี เคสจะมี ั ั ิ ่ ่ ้ สิงหนึ่งทีตดตังควบคูมากับเคสและก็มความสาคัญพอควร นันคือ เพาเวอร์ซพพลาย ่ ่ ิ ้ ่ ี ้ ั ซึงเป็ นตัวจ่ายกระแสไฟฟ้า ให้กบอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบคอมพิวเตอร์ ในการเลือกเคส ่ ั ต้องคานึงถึง ตัวเพาเวอร์ซพพลายว่ามีกาลังในการจ่ายไฟให้กบอุปกรณ์เพียงพอ ั ั หรือไม่ และต้องเลือกใช้กบเมนบอร์ด ให้เข้ากันด้วยคือเมนบอร์ดแบบไหนก็เคสแบบ ั เดียวกัน
  • 9. คียบอร์ด (Keyboard) ์ คียบอร์ดเป็ นอุปกรณ์รบข้อมูลเบืองต้น มีลกษณะการทางานคล้ายคียบอร์ดของ ์ ั ้ ั ์ ่ ่ เครื่องพิมพ์ดด แต่ได้เพิมปุมควบคุมเฉพาะสาหรับคอมพิวเตอร์ โดยปกติจะมี 101 คีย์ ี ซึงบางรุนอาจจะมีน้อย หรือมากกว่าก็ได้ ่ ่
  • 10. โดยสามารถแบ่งเป็ นกลุ่มๆ ได้ดงนี้ ั  101-key Enhanced keyboard  104-key Windows keyboard  82-key Apple standard keyboard  108-key Apple Extended keyboard  Notebook & Palm keyboard
  • 11. ่ ปุมต่างๆ บนคียบอร์ดมีจานวนมาก ซึงสามารถแบ่งได้ 4 ส่วนหลัก คือ ์ ่ ่  Typing keys กลุ่มปุมพิมพ์อกขระ ั ่  Numeric keypad กลุ่มปุมตัวเลข และเครืองหมายคานวณ ่ ่ ั ั  Function keys กลุ่มปุมฟงก์ชน F1 - F12 ่ ่ ั ั  Control keys กลุ่มปุมควบคุมต่างๆ เช่น ลูกศร, Ctrl, Alt เป็ นต้น ปุมฟงก์ชน ่ และปุมควบคุม ทางบริษท IBM ั (ค.ศ. 1986) ได้พฒนาเพิมเข้ามาในคียบอร์ด เพือช่วยให้การทางานมีความสะดวกมาก ั ่ ์ ่ ขึน ้
  • 12. ่ ่ การทางานของคียบอร์ด จะเกิดจากการเปลียนกลไกการกดปุม ให้เป็ น สัญญาณทางไฟฟ้า เพื่อส่งให้คอมพิวเตอร์ โดยสัญญาณดังกล่าว จะบอกให้ คอมพิวเตอร์ทราบว่ามีการกดคียอะไร การทางานทังหมดจะถูกควบคุมด้วย ์ ้ Microprocessor ขนาดเล็กทีบรรจุในคียบอร์ด และสัญญาณต่างๆ จะส่งผ่าน ่ ์ สายสัญญาณผ่านทางขัวต่อ ้
  • 13. ซึงแบ่งได้ 4 ประเภท คือ ่  5-pin DIN (Deustche Industrie Norm) connector เป็ นขัวต่อ ้ ขนาดใหญ่ ใช้กบคอมพิวเตอร์ในรุ่นแรก ั ั ั  6-pin IBM PS/2 mini-DIN connector เป็ นขัวต่อขนาดเล็ก ปจจุบนพบ ้ ได้อย่างแพร่หลาย  4-pin USB (Universal Serial Bus) connector เป็ นขัวต่อรุนใหม่ ้ ่  internal connector เป็ นขัวต่อแบบภายใน พบได้ใน Notebook ้ Computer
  • 14. ั ั ์ ปจจุบนคียบอร์ด มีการพัฒนาไปตามยุคสมัย โดยเฉพาะยุคโลกไร้พรมแดน ั ้ ั ์ ่ ี ุ่ ด้วยเทคโนโลยีอนเทอร์-เน็ต บริษทผูผลิตหลายบริษท ได้ทาการผลิตคียบอร์ด ทีมปม ิ ั ั ฟงก์ชนสาหรับตรวจสอบอีเมล์ และการเข้าสู่ อินเทอร์เน็ต ตลอดจนควบคุมระบบ มัลติมเี ดียต่างๆ เพื่ออานวยความสะดวกให้กบผูใช้ ั ้
  • 15. เมาส์ (Mouse) อุปกรณ์รบข้อมูลทีนิยมรองจากคียบอร์ด ได้แก่ อุปกรณ์ชตาแหน่ง ทีเรียกว่า ั ่ ์ ้ี ่ เมาส์ (Mouse) หรือ "หนูอเล็กทรอนิกส์" เนื่องจากเป็ น อุปกรณ์ท่มลกษณะคล้าย ิ ี ีั หนู มีสายต่ออยูทปลายลักษณะเดียวกับหางหนู เมาส์จะช่วยในการบ่งชีตาแหน่งว่า ่ ่ี ้ ขณะนี้กาลังอยู่ ณ จุดใดบนจอภาพ เรียกว่า "ตัวชีตาแหน่ง (Pointer)" ซึงอาศัย ้ ่ ่ การเลื่อนเมาส์ แทนการกดปุมบังคับทิศทางบนคียบอร์ด์
  • 16. เมาส์พฒนาขึนมาครังแรก ในศูนย์คนคว้าทีเมืองปาโลอัลโต้ ของบริษทซีรอก ั ้ ้ ้ ่ ั ็ (Xerox Corporation's Palo Alto Research Center) เมาส์ม ี หลายรูปร่าง หลายลักษณะ โดยเฉพาะเมาส์รนใหม่ๆ จะออกแบบมาอย่างสวยงาม โดย ุ่ ุ่ ่ ่ ปกติปมของเมาส์ จะมี 2 ปุมสาหรับเมาส์ของเครื่องพีซี และปุมเดียวสาหรับเครื่อง ั ั ่ ่ Macintosh ปจจุบนมีการพัฒนาให้เมาส์ใช้งานได้งายขึน โดยเพิมปุมเลื่อนตรง ่ ้ กลาง มีลกษณะคล้ายล้อ ดังรูป เรียกว่า Intelli Mouse ซึงจะอานวยความ ั ่ สะดวกให้กบผูใช้ในการเลื่อนจอภาพเพื่อดูขอมูล นอกจากนี้ยงมีเมาส์ททางานด้วย ั ้ ้ ั ่ี สัญญาณแสง ทีเรียกว่า Infrared หรือ Wireless Mouse ่
  • 17. ้ ่ ิ ้ ่ ้ ุ่ เมาส์ประกอบด้วย ลูกกลิงทีตดตังอยูดานล่าง และมีปมกดควบคุม (ตังแต่ 1 - 3 ้ ่ ปุม) การใช้เมาส์จะนาเมาส์วางไว้บนพืนราบ และเลื่อนเมาส์ไปในทิศทางทีตองการ บน ้ ่ ้ จอภาพจะปรากฏ สัญลักษณ์ชตาแหน่ง เรียกว่า "Mouse Pointer" (มักจะเป็ น ้ี ่ รูปลูกศรเฉียงซ้าย) เมื่อต้องการจะทางานใดๆ ก็ทาการกดปุมเมาส์ ตามหลักการใช้ เมาส์ คอมพิวเตอร์จะรับสัญญาณ และทาการประมวลผลต่อไป
  • 18. มี 3 ประเภท คือ Mechanical, Opto-Mechanical, Optical Mechanical เป็ นกลไกการทางานทีอาศัยลูกบอลยาง ทีสามารถกลิงไปมาได้ เมื่อทาการ ่ ่ ้ เคลื่อนย้ายตัวเมาส์ ซึงลูกบอลจะกดแนบอยู่กบลูกกลิง โดยแกนของลูกกลิง จะต่อกับจาน ่ ั ้ ้ แปลรหัส (Encoder) บนจานจะมีหน้าสัมผัสเป็ นจุดๆ เมื่อจุดสัมผัสเลื่อนมาตรงแกน สัมผัส ก็จะสร้างสัญญาณ บอกไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ โปรแกรมควบคุมเมาส์ จะทาหน้าที่ แปลเป็ นคาสั ่งเคลื่อนย้ายเคอร์เซอร์ บนจอภาพต่อไป
  • 19. Opto-Mechanical กลไกการทางานคล้าย Mechanical แต่ตวรับการเคลื่อนทีของจาน ั ่ Encoder จะมี LED อยูอกด้านหนึ่งของจานไว้คอยกาเนิดแสง และอีกด้านหนึ่ง ่ ี จะมี Opto-Transistor (ทรานซิสเตอร์ไวแสง) ไว้คอยตรวจจับแสงแทนการใช้ การสัมผัส
  • 20. Optical กลไกการทางานทีอาศัยแผ่นรองชนิดพิเศษ ซึงมีผวมันสะท้อนแสง และมีตาราง ่ ่ ิ เส้นตามแกน X , Y โดยแกนหนึ่งเป็ นสีน้ าเงิน อีกแกนเป็ นสีดา ตัดกันไว้คอยตรวจจับ การเคลื่อนที่ ซึงบนเมาส์ จะมี LED 2 ตัวให้กาเนิดแสงออกมา 2 สี คือ สีดา และสี ่ น้ าเงิน LED ทีกาเนิดแสงสีดา จะดูดกลืนแสงสีน้ าเงิน LED ทีกาเนิดแสงสีน้ าเงิน ่ ่ จะดูดกลืนแสงสีดา ซึงตัวตรวจจับแสง เป็ นทรานซิสเตอร์ไวแสง สีท่ตรวจจับได้จะบอก ่ ี ทิศทาง ส่วนช่วงของแสงทีหายไป จะบอกถึงระยะทางการเคลื่อนที่ ่
  • 21. ลาโพง (Speaker) คือ อุปกรณภายนอกอีกชินหนึ่ง ทีเป็ น ์ ้ ่ อุปกรณสาหรับแสดงผล ซึงแสดงผลออกมาใน ์ ่ รูปแบบของสั ญญาณเสี ยง คอมพิวเตอรสามารถ ์ แทนชุดเครืองเสี ยงแบบมินคอมโปได้ สามารถใช้ ่ ิ งานแทนเครืองเลนวิดโอและทีวได้ หลายคนคง ่ ่ ี ี เคยไดยินเช่นนั้น การจะทาให้คอมพิวเตอรทางาน ้ ์ แทนแหลงบันเทิงเหลานั้นได้ ตองการฮารดแวร ์ ่ ่ ้ ์ มัลติมเดีย ไดแก่ ไดรฟ์ซีดรอม ไดรฟ์ดีวด ี ี ้ ี ี การดเสี ยง การด MPEG, การถอดรหัส AC- 3 ์ ์ (AC-3 Decoding) การดประมวลผลดีวด ี และ ์ ี
  • 23. UPS โดยทั ่วไปก็จะทาหน้าที่ สารองไฟไว้ใช้ในกรณีไฟฟ้าดับ หรือหาก กระแสไฟฟ้า เกินหรือขาด ไปมากกว่าค่าทีกาหนดไว้ UPS ก็จะตัดเข้าจ่ายไฟจาก ่ แบตเตอรีภายใน UPS เองโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยงมี UPS บางยีหอทีเพิมส่วน ่ ั ่ ้ ่ ่ ของ ตัวควบคุมเสถียรภาพของไฟฟ้า (Stabilizer) ซึงทาหน้าที่ควบคุม ให้ ่ กระแสไฟฟ้าทีจายออกจาก UPS มีคาอยูในช่วง 210- 230 โวลต์โดยตลอด อีกส่วน ่่ ่ ่ หนึ่งที่ UPS สามารถป้องกันได้ ก็คอ ฟ้าผ่า เมื่อเกิดฟ้าผ่าไฟฟ้าสถิตย์จากฟ้าผ่าจะ ื ทาให้เกิดแรงเหนี่ยวนาภายในสายไฟฟ้าแรงดันไฟฟ้าสูง บางทีอาจจะถึงหลายหมืน ่ โวลต์ และนั ่นก็คออันตรายมากทีสุดสาหรับ เครื่องใช้ไฟฟ้า และรวมถึงคอมพิวเตอร์ ื ่ ด้วย