โวหารภาพพจน์

Rodchana Pattha
Rodchana Patthaครูผู้ช่วย à Thai Teacher
โวหารภาพพจน์
ความหมายของโวหารภาพพจน์
โวหาร คือ การใช้ถ้อยคำาอย่างมีชั้นเชิง เป็นการ
แสดงข้อความออกมาในทำานองต่างๆ เพื่อให้ข้อความได้เนื้อ
ความดี มีความหมายแจ่มแจ้ง เหมาะสมน่าฟัง ในการเขียนเรื่อง
ราวอาจใช้โวหารต่างๆ กัน แล้วแต่ชนิดของข้อความ (สมถวิล
วิเศษสมบัติ. ๒๕๔๔ : ๑๒๙)
โวหารภาพพจน์ คือ กลวิธีการนำาเสนอสารโดย
การพลิกแพลงภาษาที่ใช้พูด หรือเขียนให้แปลกออกไปจากภาษา
ตามตัวอักษรทำาให้ผู้อ่านเกิดภาพในใจ เกิดความประทับใจ
เกิดความรู้สึกสะเทือนใจ เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่าง
ชัดเจน )
ประเภทของโวหารภาพพจน์
1. อุปมาโวหาร (Simile)
อุปมา คือ การเปรียบเทียบว่าสิ่งหนึ่งเหมือนกับ
สิ่งหนึ่งโดยใช้คำาเชื่อมที่มีความหมายเช่นเดียวกับคำาว่า “
เหมือน ” เช่น ดุจ ดั่ง ราว ราวกับ เปรียบ ประดุจ เฉก เล่ห์
ปาน ประหนึ่ง เพียง เพี้ยง พ่าง ปูน ถนัด ละหม้าย เสมอ กล
อย่าง ฯลฯ
ตัวอย่างเช่น
ปัญญาประดุจดังอาวุธ
ไพเราะกังวานปานเสียงนกร้อง
ท่าทางหล่อนราวกับนางพญา
จมูกเหมือนลูกชมพู่ ใบหู
เหมือนทอดมันร้อนๆ
ปากเธอเหมือนกระจับอ่อนๆ ฟันเรียง
สลอนเหมือนข้าวโพดพันธุ์ดี
ตาเหมือนตามฤคมาศ พิศ
คิ้วพระลอราช
ประดุจแก้วเกาทัณฑ์ ก่งนา
สูงระหงทรงเพรียวเรียวลูด งาม
ละม้ายคล้ายอูฐกะหลาป๋า
พิศแต่หัวจรดเท้าขาวแต่ตา สอง
แก้มกัลยาดังลูกยอ
คิ้วก่งดังก่งเขาดีดฝ้าย
จมูกละม้ายคล้ายพร้าขอ
หูกลวงดวงพักตร์หักงอ ลำา
คอโตตันสั้นกลม
สองเต้าห้อยตุงดังถุงตะเคียว โคน
เหี่ยวแห้งรวบเหมือนบวบต้ม
เสวยสลายาจุกพระโอษฐ์อม มัน
น่าเชยน่าชมนางเทวี
(ระเด่นลันได
: พระมหามาตรี (ทรัพย์))
2. อุปลักษณ์ ( Metaphor )
อุปลักษณ์ ก็คล้ายกับอุปมาโวหารคือเป็นการ
เปรียบเทียบเหมือนกัน แต่เป็นการเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่ง
หนึ่ง การเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่ง มักจะมีคำา เป็น คือ
มี ๓ ลักษณะ
๑. ใช้คำากริยา เป็น คือ = เปรียบเป็น
เช่น โทสะคือไฟ
๒. ใช้คำาเปรียบเป็น เช่น ไฟโทสะ ดวง
ประทีปแห่งโลก ตกเหวรักจะดิ้นรนไปจนตาย
๓. แสดงการเปรียบเทียบโดยปริยาย
เช่น มโหรีจากราวป่ามาเรื่อยรี่
อุปลักษณ์จะไม่กล่าวโดยตรงเหมือนอุปมา แต่ใช้วิธี
กล่าวเป็นนัยให้เข้าใจเอาเอง ที่สำาคัญอุปลักษณ์จะไม่มีคำาเชื่อม
เหมือนอุปมา
ตัวอย่างเช่น ขอเป็นเกือกทองรองบาทา ไปจนกว่า
ชีวันจะบรรลัย
ทหารเป็นรั้วของชาติ
เธอคือดอกฟ้าแต่ฉันนั้นคือหมาวัด
เธอเป็นดินหรือเธอเป็นหญ้าแท้จริงมีค่า
กว่าใครนิรันดร์
ชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของชาติ
ครูคือแม่พิม์ของชาติ
ชีวิตคือการต่อสู้ ศัตรูคือยากำาลัง
3. สัญลักษณ์ ( symbol )
สัญลักษณ์ เป็นการเรียกชื่อสิ่งๆหนึ่งโดยใช้คำาอื่น
มาแทน ไม่เรียกตรงๆ ส่วนใหญ่คำาที่นำามาแทนจะเป็นคำาที่เกิด
จากการเปรียบเทียบและตีความ ซึ่งใช้กันมานานจนเป็นที่เข้าใจ
และรู้จักกันโดยทั่วไป ทั้งนี้อาจเป็นเพราะผู้ประพันธ์ต้องการ
เปรียบเทียบเพื่อสร้างภาพพจน์หรือมิฉะนั้นก็อาจจะอยู่ในภาวะที่
กล่าวโดยตรงไม่ได้ เพราะไม่สมควรจึงต้องใช้สัญลักษณ์แทน
ตัวอย่างเช่น เมฆหมอก แทน
อุปสรรค
สีดำา แทน ความ
ตาย ความชั่วร้าย
สีขาว แทน ความ
บริสุทธิ์
กุหลาบแดง แทน ความรัก
หงส์ แทน คนชั้น
สูง
กา แทน คน
ตำ่าต้อย
ดอกไม้ แทน ผู้หญิง
แสงสว่าง แทน สติ
ปัญญา
เพชร แทน ความ
แข็งแกร่ง ความเป็นเลิศ
แก้ว แทน ความดี
งาม ของมีค่า
ลา แทน คนโง่
คนน่าสงสาร
ลา แทน คน
พาล คนคด
สุนัขจิ้งจอก แทน คนเจ้าเล่ห์
ยักษ์ แทน อธรรม
อันของสูงแม้ปองต้องจิต ถ้า
ไม่คิดปีนป่ายจะได้หรือ
ไม่ใช่ของตลาดที่อาจซื้อ ฤๅ
แย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม
ไม่คิดสอยมัวคอยดอกไม้ร่วง คง
ชวดดวงบุปผชาติสะอาดหอม
ดูแต่ภุมรินเที่ยวบินตอม จึ่ง
ได้ดอมดมกลิ่นสุมาลี
(ท้าว
แสนปม : พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว)
4. บุคลาธิษฐาน ( Personification )
บุคลาธิษฐาน หรือ บุคคลวัต บุคคลสมมติ คือการ
กล่าวถึงสิ่งต่างๆ ที่ไม่มีชีวิต ไม่มีความคิด ไม่มีวิญญาณ เช่น
โต๊ะ เก้าอี้ อิฐ ปูน หรือสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์ เช่น ต้นไม้
สัตว ์์ โดยให้สิ่งต่างๆเหล่านี้ แสดงกิริยาอาการและความรู้สึก
ได้เหมือนมนุษย์ ให้มีคุณลักษณะต่างๆ เหมือนสิ่งมีชีวิต ( บุคลา
ธิษฐาน มาจากคำาว่า บุคคล + อธิษฐานหมายถึง อธิษฐานให้
กลายเป็นบุคคล )
ตัวอย่างเช่น มองซิ..มองทะเล เห็นลมคลื่นเห่
จูบหิน
บางครั้งมันบ้าบิ่น กระแทกหิน
ดังครืนครืน
ทะเลไม่เคยหลับไหล ใครตอบได้
ไหมไฉนจึงตื่น
บางครั้งยังสะอื้น ทะเลมันตื่น
อยู่รำ่าไป
ฟ้าหัวเราะเยาะข้าชะตาหรือ ดินนั้นถืออภิสิทธิ์
ชีวิตข้าเองไม่เกรงดินฟ้า
ไส้เดือนเที่ยวเกี้ยวสาว
ชาวอัปสรนอนชั้นฟ้า
ทุกจุลินทรีย์
อะมีบา เชิดหน้าได้ดิบได้
เสียงร้องไห้รำ่าหาเหมือนฟ้าร้อง พระ
เสื้อเมืองเมินมองแล้วร้องไห้
พระธรณีตีอกด้วยตกใจ โล
กบาลถอนฤทัยไม่อาจมอง
5. อธิพจน์ ( Hyperbole )
อติพจน์ หรือ อธิพจน์ คือโวหารที่กล่าวเกิน
ความจริง เพื่อสร้างและเน้นความรู้สึกและอารมณ์ ทำาให้ผู้ฟังเกิด
ความรู้สึกที่ลึกซึ้ง ภาพพจน์ชนิดนี้นิยมใช้กันมากแม้ในภาษาพูด
เพราะเป็นการกล่าวที่ทำาให้เห็นภาพได้ง่ายและแสดงความรู้สึก
ของกวีได้อย่างชัดเจน
ตัวอย่างเช่น คิดถึงใจจะขาด
คอแห้งเป็นผง
ร้อนตับจะแตก
หนาวกระดูกจะหลุด
การบินไทยรักคุณเท่าฟ้า
คิดถึงเธอทุกลมหายใจเข้าออก
เอียงอกเทออกอ้าง อวดองค์ อร
เอย
เมรุชุบสมุทรดินลง เลขแต้ม
อากาศจักจารผจง จารึก พอ
ฤา
โฉมแม่หยาดฟ้าแย้ม อยู่ร้อนฤา
เห็น
*ในกรณีที่ใช้โวหารตำ่ากว่าจริง
เรียกว่า "อวพจน์"
ตัวอย่างเช่น เล็กเท่าขี้ตาแมว
เพียงชั่วลัดนิ้วมือเดียว
รอสักอึดใจเดียว
6. สัทพจน์ ( Onematoboeia )
สัทพจน์ หมายถึง ภาพพจน์ที่เลียนเสียงธรรมชาติ
เช่น เสียงดนตรี เสียงสัตว์ เสียงคลื่น เสียงลม เสียงฝน
ตก เสียงนำ้าไหล ฯลฯ การใช้ภาพพจน์ประเภทนี้จะทำาให้
เหมือนได้ยินเสียงนั้นจริง ๆ
ตัวอย่างเช่น ลูกหมาร้องบ๊อก ๆ ๆ ลุกนกร้องจิ๊บๆๆ
ลูกแมวร้องเหมียว ๆ ๆ
เปรี้ยง ๆ ดังเสียงฟ้าฟาด
ตะแลกแต๊กแต๊กตะแลกแต๊กแต๊ก
กระเดื่องดังแทรกสำารวลสรวลสันต์
คลื่นซัดครืนครืนซ่าที่ผาแดง
นำ้าพุพุ่งซ่า ไหลมาฉาดฉาน เห็น
ตระการ เสียงกังวาน
มันดังจอกโครม จอกโครม มันดังจอก
จอก โครม โครม
บัดเดี๋ยวดังหง่างเหง่งวังเวงแว่ว
อ้อยอี๋เอียง อ้อยอี๋เอียงส่งเสียงร้อง
เสียงลิงค่างบ่างชะนีวะหวีดโหวย
กระหึมโหยห้อยไม้น่าใจหาย
ป๊ะโท่นป๊ะโท่นป๊ะโท่นโท่น
7. นามนัย ( Metonymy )
นามนัย คือ การใช้คำาหรือวลีซึ่งบ่งลักษณะหรือ
คุณสมบัติของสิ่งใดสิ่งหนึ่งแทนอีกสิ่งหนึ่ง คล้ายๆ สัญลักษณ์
แต่ต่างกันตรงที่ นามนัยนั้นจะดึงเอาลักษณะบางส่วนของสิ่งหนึ่ง
มากล่าวให้หมายถึงส่วนทั้งหมด หรือใช้ชื่อส่วนประกอบสำาคัญ
ของสิ่งนั้นแทนสิ่งนั้นทั้งหมด
ตัวอย่างเช่น เมืองโอ่ง หมายถึง
จังหวัดราชบุรี
เมืองย่าโม หมายถึง
จังหวัดนครราชสีมา
ทีมเสือเหลือง หมายถึง ทีม
มาเลเซีย
ทีมกังหันลม หมายถึง ทีม
เนเธอร์แลนด์
ทีมสิงโตคำาราม หมายถึง
อังกฤษ
ฉัตร มงกุฎ หมายถึง
กษัตริย์
เก้าอี้ หมายถึง
ตำาแหน่ง หน้าที่
มือที่สาม หมายถึง ผู้
ก่อความเดือดร้อน
เอวบาง หมายถึง
นาง ผู้หญิง
8. ปรพากย์ ( Paradox )
ปฏิพากย์ หรือ ปรพากย์ คือการใช้ถ้อยคำาที่มี
ความหมายตรงกันข้ามหรือขัดแย้งกันมากล่าว อย่างกลมกลืนกัน
เพื่อเพิ่มความหมายให้มีนำ้าหนักมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเช่น เลวบริสุทธิ์ บาปบริสุทธิ์
สวยเป็นบ้า สวยอย่างร้ายกาจ
สนุกฉิบหาย สวรรค์บนดิน
ยิ่งรีบยิ่งช้า
นำ้าร้อนปลาเป็น นำ้าเย็นปลา
ตาย
เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสีย
ง่าย
รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ
แพ้เป็นพระ ชนะเป็น
มาร

Recommandé

โวหารภาพพจน์ par
โวหารภาพพจน์โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์krubuatoom
67K vues19 diapositives
5ความร้อน และการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ par
5ความร้อน และการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ5ความร้อน และการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
5ความร้อน และการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพWijitta DevilTeacher
11K vues11 diapositives
สามัคคีเภทคำฉันท์ par
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์Sudarat Makon
31.7K vues32 diapositives
โวหารในการเขียน par
โวหารในการเขียนโวหารในการเขียน
โวหารในการเขียนkrubuatoom
136.2K vues14 diapositives
การใช้โวหารในภาษาไทย par
การใช้โวหารในภาษาไทยการใช้โวหารในภาษาไทย
การใช้โวหารในภาษาไทยโก๋แก่ มันทุกเม็ด
28K vues14 diapositives
1 ธรรมชาติและพลังของภาษาไทย(5-34) par
1 ธรรมชาติและพลังของภาษาไทย(5-34)1 ธรรมชาติและพลังของภาษาไทย(5-34)
1 ธรรมชาติและพลังของภาษาไทย(5-34)อัมพร ศรีพิทักษ์
33K vues30 diapositives

Contenu connexe

Tendances

สามัคคีเภทคำฉันท์ par
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์Kannaree Jar
18.9K vues15 diapositives
บทที่ 1 ที่มาและความสำคัญ par
บทที่ 1 ที่มาและความสำคัญบทที่ 1 ที่มาและความสำคัญ
บทที่ 1 ที่มาและความสำคัญneeranuch wongkom
3.8K vues2 diapositives
สามัคคีเภทคำฉันท์Pdf par
สามัคคีเภทคำฉันท์Pdfสามัคคีเภทคำฉันท์Pdf
สามัคคีเภทคำฉันท์PdfMind Candle Ka
31.5K vues25 diapositives
ถอดความบทประพันธ์เรื่อง โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการ par
ถอดความบทประพันธ์เรื่อง โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการถอดความบทประพันธ์เรื่อง โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการ
ถอดความบทประพันธ์เรื่อง โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการsupaporn2516mw
289.6K vues6 diapositives
คำอุทาน par
คำอุทานคำอุทาน
คำอุทานNanthida Chattong
31.9K vues16 diapositives
สามัคคีเภทคำฉันท์ par
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์Jariya Huangjing
21.4K vues17 diapositives

Tendances(20)

สามัคคีเภทคำฉันท์ par Kannaree Jar
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์
Kannaree Jar18.9K vues
บทที่ 1 ที่มาและความสำคัญ par neeranuch wongkom
บทที่ 1 ที่มาและความสำคัญบทที่ 1 ที่มาและความสำคัญ
บทที่ 1 ที่มาและความสำคัญ
neeranuch wongkom3.8K vues
สามัคคีเภทคำฉันท์Pdf par Mind Candle Ka
สามัคคีเภทคำฉันท์Pdfสามัคคีเภทคำฉันท์Pdf
สามัคคีเภทคำฉันท์Pdf
Mind Candle Ka31.5K vues
ถอดความบทประพันธ์เรื่อง โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการ par supaporn2516mw
ถอดความบทประพันธ์เรื่อง โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการถอดความบทประพันธ์เรื่อง โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการ
ถอดความบทประพันธ์เรื่อง โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการ
supaporn2516mw289.6K vues
สามัคคีเภทคำฉันท์ par Jariya Huangjing
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์
Jariya Huangjing21.4K vues
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ par Surapong Klamboot
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิแบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
Surapong Klamboot112K vues
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ par Nat Ty
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จวิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
Nat Ty35.9K vues
Testแนวการออกข้อสอบวัดการคิดระดับสังเคราะห์ par Nonsawan Exschool
  Testแนวการออกข้อสอบวัดการคิดระดับสังเคราะห์  Testแนวการออกข้อสอบวัดการคิดระดับสังเคราะห์
Testแนวการออกข้อสอบวัดการคิดระดับสังเคราะห์
ภูมิศาสตร์ par koorimkhong
ภูมิศาสตร์ภูมิศาสตร์
ภูมิศาสตร์
koorimkhong76.7K vues
ใบงานที่ 1.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เครื่องมือเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 par Thanawut Rattanadon
ใบงานที่ 1.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เครื่องมือเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4ใบงานที่ 1.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เครื่องมือเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ใบงานที่ 1.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เครื่องมือเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
Thanawut Rattanadon144.9K vues
4แบบฝึกขนาดอนุภาคเผยแพร่ par npapak74
4แบบฝึกขนาดอนุภาคเผยแพร่4แบบฝึกขนาดอนุภาคเผยแพร่
4แบบฝึกขนาดอนุภาคเผยแพร่
npapak7418.9K vues
ปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๑ ความหมายและขอบเขตของปรัชญา par Padvee Academy
ปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๑ ความหมายและขอบเขตของปรัชญาปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๑ ความหมายและขอบเขตของปรัชญา
ปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๑ ความหมายและขอบเขตของปรัชญา
Padvee Academy105.1K vues
แบบทดสอบหลังเรียนเรื่องบทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจาริยคุณ_ม.4 par Sivagon Soontong
แบบทดสอบหลังเรียนเรื่องบทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจาริยคุณ_ม.4แบบทดสอบหลังเรียนเรื่องบทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจาริยคุณ_ม.4
แบบทดสอบหลังเรียนเรื่องบทนมัสการมาตาปิตุคุณและอาจาริยคุณ_ม.4
Sivagon Soontong69.4K vues
(M5) แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี par Sivagon Soontong
(M5) แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี(M5) แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
(M5) แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
Sivagon Soontong91K vues
ร่ายสุภาพ par khorntee
ร่ายสุภาพร่ายสุภาพ
ร่ายสุภาพ
khorntee44.5K vues
2กฎของพาสคัล และหลักของอาร์คีมิดีส par Wijitta DevilTeacher
2กฎของพาสคัล  และหลักของอาร์คีมิดีส2กฎของพาสคัล  และหลักของอาร์คีมิดีส
2กฎของพาสคัล และหลักของอาร์คีมิดีส
Wijitta DevilTeacher105.8K vues

Similaire à โวหารภาพพจน์

Thai1 par
Thai1Thai1
Thai1guest6d4ac5
50.6K vues17 diapositives
สะเรนเหลา : โวหารภาพพจน์ par
สะเรนเหลา : โวหารภาพพจน์สะเรนเหลา : โวหารภาพพจน์
สะเรนเหลา : โวหารภาพพจน์Prasong Somarat
675 vues11 diapositives
โวหารในวรรณคดี par
โวหารในวรรณคดีโวหารในวรรณคดี
โวหารในวรรณคดีSaimai Jitlang
17.7K vues11 diapositives
โวหารภาพพจน์สำหรับนักเรียนม.ปลาย par
โวหารภาพพจน์สำหรับนักเรียนม.ปลายโวหารภาพพจน์สำหรับนักเรียนม.ปลาย
โวหารภาพพจน์สำหรับนักเรียนม.ปลายคุณานนต์ ทองกรด
15.5K vues11 diapositives
ชนิดของคำ par
ชนิดของคำชนิดของคำ
ชนิดของคำAnupong Juntakong
758 vues9 diapositives
คำในภาษาไทย par
คำในภาษาไทยคำในภาษาไทย
คำในภาษาไทยSiraporn Boonyarit
429 vues50 diapositives

Similaire à โวหารภาพพจน์(20)

สะเรนเหลา : โวหารภาพพจน์ par Prasong Somarat
สะเรนเหลา : โวหารภาพพจน์สะเรนเหลา : โวหารภาพพจน์
สะเรนเหลา : โวหารภาพพจน์
Prasong Somarat675 vues
โวหารในวรรณคดี par Saimai Jitlang
โวหารในวรรณคดีโวหารในวรรณคดี
โวหารในวรรณคดี
Saimai Jitlang17.7K vues
ทัศนธาตุ par sarungolf
ทัศนธาตุทัศนธาตุ
ทัศนธาตุ
sarungolf11.2K vues
ฉันทลักษณ์ par krudow14
ฉันทลักษณ์ฉันทลักษณ์
ฉันทลักษณ์
krudow143.1K vues
คำในภาษาไทย (1) par perunruk
คำในภาษาไทย (1)คำในภาษาไทย (1)
คำในภาษาไทย (1)
perunruk360 vues
ใบงานที่ 1เรื่องการเขียนเรียงความ par marisa724
ใบงานที่ 1เรื่องการเขียนเรียงความใบงานที่ 1เรื่องการเขียนเรียงความ
ใบงานที่ 1เรื่องการเขียนเรียงความ
marisa72417.1K vues
1 11+อธิบายบาลีไวยากรณ์+นามกิตก์+และกิริยากิตก์ par Wataustin Austin
1 11+อธิบายบาลีไวยากรณ์+นามกิตก์+และกิริยากิตก์1 11+อธิบายบาลีไวยากรณ์+นามกิตก์+และกิริยากิตก์
1 11+อธิบายบาลีไวยากรณ์+นามกิตก์+และกิริยากิตก์
Wataustin Austin1.4K vues
1 11+อธิบายบาลีไวยากรณ์+นามกิตก์+และกิริยากิตก์ par Tongsamut vorasan
1 11+อธิบายบาลีไวยากรณ์+นามกิตก์+และกิริยากิตก์1 11+อธิบายบาลีไวยากรณ์+นามกิตก์+และกิริยากิตก์
1 11+อธิบายบาลีไวยากรณ์+นามกิตก์+และกิริยากิตก์
Tongsamut vorasan1.1K vues
บทวิจารณ์หนังสือลักษณะแห่งพระพุทธศาสนา par solarcell2
บทวิจารณ์หนังสือลักษณะแห่งพระพุทธศาสนา บทวิจารณ์หนังสือลักษณะแห่งพระพุทธศาสนา
บทวิจารณ์หนังสือลักษณะแห่งพระพุทธศาสนา
solarcell2120 vues
คำคมภาษาญี่ปุ่น par masha199409
คำคมภาษาญี่ปุ่นคำคมภาษาญี่ปุ่น
คำคมภาษาญี่ปุ่น
masha19940942 vues

โวหารภาพพจน์

  • 1. โวหารภาพพจน์ ความหมายของโวหารภาพพจน์ โวหาร คือ การใช้ถ้อยคำาอย่างมีชั้นเชิง เป็นการ แสดงข้อความออกมาในทำานองต่างๆ เพื่อให้ข้อความได้เนื้อ ความดี มีความหมายแจ่มแจ้ง เหมาะสมน่าฟัง ในการเขียนเรื่อง ราวอาจใช้โวหารต่างๆ กัน แล้วแต่ชนิดของข้อความ (สมถวิล วิเศษสมบัติ. ๒๕๔๔ : ๑๒๙) โวหารภาพพจน์ คือ กลวิธีการนำาเสนอสารโดย การพลิกแพลงภาษาที่ใช้พูด หรือเขียนให้แปลกออกไปจากภาษา ตามตัวอักษรทำาให้ผู้อ่านเกิดภาพในใจ เกิดความประทับใจ เกิดความรู้สึกสะเทือนใจ เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่าง ชัดเจน ) ประเภทของโวหารภาพพจน์ 1. อุปมาโวหาร (Simile) อุปมา คือ การเปรียบเทียบว่าสิ่งหนึ่งเหมือนกับ สิ่งหนึ่งโดยใช้คำาเชื่อมที่มีความหมายเช่นเดียวกับคำาว่า “ เหมือน ” เช่น ดุจ ดั่ง ราว ราวกับ เปรียบ ประดุจ เฉก เล่ห์ ปาน ประหนึ่ง เพียง เพี้ยง พ่าง ปูน ถนัด ละหม้าย เสมอ กล อย่าง ฯลฯ ตัวอย่างเช่น ปัญญาประดุจดังอาวุธ ไพเราะกังวานปานเสียงนกร้อง ท่าทางหล่อนราวกับนางพญา จมูกเหมือนลูกชมพู่ ใบหู เหมือนทอดมันร้อนๆ ปากเธอเหมือนกระจับอ่อนๆ ฟันเรียง สลอนเหมือนข้าวโพดพันธุ์ดี ตาเหมือนตามฤคมาศ พิศ คิ้วพระลอราช ประดุจแก้วเกาทัณฑ์ ก่งนา
  • 2. สูงระหงทรงเพรียวเรียวลูด งาม ละม้ายคล้ายอูฐกะหลาป๋า พิศแต่หัวจรดเท้าขาวแต่ตา สอง แก้มกัลยาดังลูกยอ คิ้วก่งดังก่งเขาดีดฝ้าย จมูกละม้ายคล้ายพร้าขอ หูกลวงดวงพักตร์หักงอ ลำา คอโตตันสั้นกลม สองเต้าห้อยตุงดังถุงตะเคียว โคน เหี่ยวแห้งรวบเหมือนบวบต้ม เสวยสลายาจุกพระโอษฐ์อม มัน น่าเชยน่าชมนางเทวี (ระเด่นลันได : พระมหามาตรี (ทรัพย์)) 2. อุปลักษณ์ ( Metaphor ) อุปลักษณ์ ก็คล้ายกับอุปมาโวหารคือเป็นการ เปรียบเทียบเหมือนกัน แต่เป็นการเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่ง หนึ่ง การเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่ง มักจะมีคำา เป็น คือ มี ๓ ลักษณะ ๑. ใช้คำากริยา เป็น คือ = เปรียบเป็น เช่น โทสะคือไฟ ๒. ใช้คำาเปรียบเป็น เช่น ไฟโทสะ ดวง ประทีปแห่งโลก ตกเหวรักจะดิ้นรนไปจนตาย ๓. แสดงการเปรียบเทียบโดยปริยาย เช่น มโหรีจากราวป่ามาเรื่อยรี่ อุปลักษณ์จะไม่กล่าวโดยตรงเหมือนอุปมา แต่ใช้วิธี กล่าวเป็นนัยให้เข้าใจเอาเอง ที่สำาคัญอุปลักษณ์จะไม่มีคำาเชื่อม เหมือนอุปมา ตัวอย่างเช่น ขอเป็นเกือกทองรองบาทา ไปจนกว่า ชีวันจะบรรลัย ทหารเป็นรั้วของชาติ เธอคือดอกฟ้าแต่ฉันนั้นคือหมาวัด เธอเป็นดินหรือเธอเป็นหญ้าแท้จริงมีค่า กว่าใครนิรันดร์ ชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ครูคือแม่พิม์ของชาติ
  • 3. ชีวิตคือการต่อสู้ ศัตรูคือยากำาลัง 3. สัญลักษณ์ ( symbol ) สัญลักษณ์ เป็นการเรียกชื่อสิ่งๆหนึ่งโดยใช้คำาอื่น มาแทน ไม่เรียกตรงๆ ส่วนใหญ่คำาที่นำามาแทนจะเป็นคำาที่เกิด จากการเปรียบเทียบและตีความ ซึ่งใช้กันมานานจนเป็นที่เข้าใจ และรู้จักกันโดยทั่วไป ทั้งนี้อาจเป็นเพราะผู้ประพันธ์ต้องการ เปรียบเทียบเพื่อสร้างภาพพจน์หรือมิฉะนั้นก็อาจจะอยู่ในภาวะที่ กล่าวโดยตรงไม่ได้ เพราะไม่สมควรจึงต้องใช้สัญลักษณ์แทน ตัวอย่างเช่น เมฆหมอก แทน อุปสรรค สีดำา แทน ความ ตาย ความชั่วร้าย สีขาว แทน ความ บริสุทธิ์ กุหลาบแดง แทน ความรัก หงส์ แทน คนชั้น สูง กา แทน คน ตำ่าต้อย ดอกไม้ แทน ผู้หญิง แสงสว่าง แทน สติ ปัญญา เพชร แทน ความ แข็งแกร่ง ความเป็นเลิศ แก้ว แทน ความดี งาม ของมีค่า ลา แทน คนโง่ คนน่าสงสาร ลา แทน คน พาล คนคด สุนัขจิ้งจอก แทน คนเจ้าเล่ห์ ยักษ์ แทน อธรรม อันของสูงแม้ปองต้องจิต ถ้า ไม่คิดปีนป่ายจะได้หรือ ไม่ใช่ของตลาดที่อาจซื้อ ฤๅ แย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม
  • 4. ไม่คิดสอยมัวคอยดอกไม้ร่วง คง ชวดดวงบุปผชาติสะอาดหอม ดูแต่ภุมรินเที่ยวบินตอม จึ่ง ได้ดอมดมกลิ่นสุมาลี (ท้าว แสนปม : พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว) 4. บุคลาธิษฐาน ( Personification ) บุคลาธิษฐาน หรือ บุคคลวัต บุคคลสมมติ คือการ กล่าวถึงสิ่งต่างๆ ที่ไม่มีชีวิต ไม่มีความคิด ไม่มีวิญญาณ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ อิฐ ปูน หรือสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์ เช่น ต้นไม้ สัตว ์์ โดยให้สิ่งต่างๆเหล่านี้ แสดงกิริยาอาการและความรู้สึก ได้เหมือนมนุษย์ ให้มีคุณลักษณะต่างๆ เหมือนสิ่งมีชีวิต ( บุคลา ธิษฐาน มาจากคำาว่า บุคคล + อธิษฐานหมายถึง อธิษฐานให้ กลายเป็นบุคคล ) ตัวอย่างเช่น มองซิ..มองทะเล เห็นลมคลื่นเห่ จูบหิน บางครั้งมันบ้าบิ่น กระแทกหิน ดังครืนครืน ทะเลไม่เคยหลับไหล ใครตอบได้ ไหมไฉนจึงตื่น บางครั้งยังสะอื้น ทะเลมันตื่น อยู่รำ่าไป ฟ้าหัวเราะเยาะข้าชะตาหรือ ดินนั้นถืออภิสิทธิ์ ชีวิตข้าเองไม่เกรงดินฟ้า ไส้เดือนเที่ยวเกี้ยวสาว ชาวอัปสรนอนชั้นฟ้า ทุกจุลินทรีย์ อะมีบา เชิดหน้าได้ดิบได้ เสียงร้องไห้รำ่าหาเหมือนฟ้าร้อง พระ เสื้อเมืองเมินมองแล้วร้องไห้ พระธรณีตีอกด้วยตกใจ โล กบาลถอนฤทัยไม่อาจมอง 5. อธิพจน์ ( Hyperbole )
  • 5. อติพจน์ หรือ อธิพจน์ คือโวหารที่กล่าวเกิน ความจริง เพื่อสร้างและเน้นความรู้สึกและอารมณ์ ทำาให้ผู้ฟังเกิด ความรู้สึกที่ลึกซึ้ง ภาพพจน์ชนิดนี้นิยมใช้กันมากแม้ในภาษาพูด เพราะเป็นการกล่าวที่ทำาให้เห็นภาพได้ง่ายและแสดงความรู้สึก ของกวีได้อย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น คิดถึงใจจะขาด คอแห้งเป็นผง ร้อนตับจะแตก หนาวกระดูกจะหลุด การบินไทยรักคุณเท่าฟ้า คิดถึงเธอทุกลมหายใจเข้าออก เอียงอกเทออกอ้าง อวดองค์ อร เอย เมรุชุบสมุทรดินลง เลขแต้ม อากาศจักจารผจง จารึก พอ ฤา โฉมแม่หยาดฟ้าแย้ม อยู่ร้อนฤา เห็น *ในกรณีที่ใช้โวหารตำ่ากว่าจริง เรียกว่า "อวพจน์" ตัวอย่างเช่น เล็กเท่าขี้ตาแมว เพียงชั่วลัดนิ้วมือเดียว รอสักอึดใจเดียว 6. สัทพจน์ ( Onematoboeia ) สัทพจน์ หมายถึง ภาพพจน์ที่เลียนเสียงธรรมชาติ เช่น เสียงดนตรี เสียงสัตว์ เสียงคลื่น เสียงลม เสียงฝน ตก เสียงนำ้าไหล ฯลฯ การใช้ภาพพจน์ประเภทนี้จะทำาให้ เหมือนได้ยินเสียงนั้นจริง ๆ ตัวอย่างเช่น ลูกหมาร้องบ๊อก ๆ ๆ ลุกนกร้องจิ๊บๆๆ ลูกแมวร้องเหมียว ๆ ๆ เปรี้ยง ๆ ดังเสียงฟ้าฟาด ตะแลกแต๊กแต๊กตะแลกแต๊กแต๊ก กระเดื่องดังแทรกสำารวลสรวลสันต์ คลื่นซัดครืนครืนซ่าที่ผาแดง นำ้าพุพุ่งซ่า ไหลมาฉาดฉาน เห็น ตระการ เสียงกังวาน
  • 6. มันดังจอกโครม จอกโครม มันดังจอก จอก โครม โครม บัดเดี๋ยวดังหง่างเหง่งวังเวงแว่ว อ้อยอี๋เอียง อ้อยอี๋เอียงส่งเสียงร้อง เสียงลิงค่างบ่างชะนีวะหวีดโหวย กระหึมโหยห้อยไม้น่าใจหาย ป๊ะโท่นป๊ะโท่นป๊ะโท่นโท่น 7. นามนัย ( Metonymy ) นามนัย คือ การใช้คำาหรือวลีซึ่งบ่งลักษณะหรือ คุณสมบัติของสิ่งใดสิ่งหนึ่งแทนอีกสิ่งหนึ่ง คล้ายๆ สัญลักษณ์ แต่ต่างกันตรงที่ นามนัยนั้นจะดึงเอาลักษณะบางส่วนของสิ่งหนึ่ง มากล่าวให้หมายถึงส่วนทั้งหมด หรือใช้ชื่อส่วนประกอบสำาคัญ ของสิ่งนั้นแทนสิ่งนั้นทั้งหมด ตัวอย่างเช่น เมืองโอ่ง หมายถึง จังหวัดราชบุรี เมืองย่าโม หมายถึง จังหวัดนครราชสีมา ทีมเสือเหลือง หมายถึง ทีม มาเลเซีย ทีมกังหันลม หมายถึง ทีม เนเธอร์แลนด์ ทีมสิงโตคำาราม หมายถึง อังกฤษ ฉัตร มงกุฎ หมายถึง กษัตริย์ เก้าอี้ หมายถึง ตำาแหน่ง หน้าที่ มือที่สาม หมายถึง ผู้ ก่อความเดือดร้อน เอวบาง หมายถึง นาง ผู้หญิง 8. ปรพากย์ ( Paradox ) ปฏิพากย์ หรือ ปรพากย์ คือการใช้ถ้อยคำาที่มี ความหมายตรงกันข้ามหรือขัดแย้งกันมากล่าว อย่างกลมกลืนกัน เพื่อเพิ่มความหมายให้มีนำ้าหนักมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น เลวบริสุทธิ์ บาปบริสุทธิ์ สวยเป็นบ้า สวยอย่างร้ายกาจ
  • 7. สนุกฉิบหาย สวรรค์บนดิน ยิ่งรีบยิ่งช้า นำ้าร้อนปลาเป็น นำ้าเย็นปลา ตาย เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสีย ง่าย รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ แพ้เป็นพระ ชนะเป็น มาร