More Related Content Similar to โครงงานคณิตศาสตร์ (1) Similar to โครงงานคณิตศาสตร์ (1) (20) More from Nomjeab Nook (17) โครงงานคณิตศาสตร์ (1)2. นางสาวชลธิชา อวยพร เลขที่
19
นางสาวณัฐชา เพียสังกะ เลขที่
20
นางสาววรรณิสา ยืนยง
เลขที่23
นางสาวอินทิรา สุขกรม เลขที่
26
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษารายวิชา
คณิตศาสตร์ 6 (ค33102)
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์
กาญจนบุรี
ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 8
4. ครูที่ปรึกษาโครงงาน
ครูศศิชา ทรัพย์ล้น
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษารายวิชา
คณิตศาสตร์ 6 (ค33102)
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์
กาญจนบุรี
ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 8
ชื่อโครงงาน การสารวจหมู่เลือดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์
กาญจนบุรี
ประเภทของโครงงาน สารวจและประยุกต์ใช้
ผู้จัดทา 1. นายอดิศักดิ์ กระต่าย เลขที่ 7
2.นายภาณุพงศ์ ปัจศรี เลขที่ 4
3.นางสาวชลธิชา อวยพร เลขที่
19
4.นางสาวณัฐชา เพียสังกะ เลขที่ 20
5. 5.นางสาวรรณิสา ยืนยง เลขที่
23
6.นางสาวอินทิรา สุขกรม เลขที่
26
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1
ครูที่ปรึกษา นางสาวศศิชา ทรัพย์ล้น
สถานศึกษา โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์
กาญจนบุรี
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี
ปีการศึกษา 2557
บทคัดย่อ
โครงงานเรื่องการสารวจหมู่เลือดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
4-6 ของโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี
เป็นโครงงานที่จัดทาขึ้นเพื่อสารวจหมู่เลือดของนักเรียนพร้อมทั้งให้ควา
มรู้เกี่ยวกับการให้เลือดผ่านทางเว็บไซต์และสารวจความพึงพอใจของผู้
ที่เข้าชมเว็บไซต์นี้ เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ
วิธีดาเนินงาน เริ่มจาก
นาแบบสารวจหมู่เลือดให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6
โดยให้ทาแบบสารวจหมู่เลือดของตนเอง
6. ผลการดาเนินงาน พบว่ามีนักเรียนหมู่เลือด O 42.54% หมู่เลือด
B 29.10% หมู่เลือด A20.16% หมู่เลือด AB7.46%
และผู้ที่ไม่ทราบหมู่เลือด 0.93% จากจานวนนักเรียนทั้งหมด
536พบผู้ที่มีโรคประจาตัว 3.92%
ทาให้ทราบจานวนของผู้ที่สามารถบริจาคเลือดได้ 95.15%
แล้วนาข้อมูลทีได้ไปเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์โดยใช้โปรแกรม google
site ที่สามารถสารวจความพึงพอใจของผู้ที่เข้ามาชมเว็บไซต์ได้
กิตติกรรมประกาศ
การจัดทาโครงงานคณิตศาสตร์เรื่องการสารวจหมู่เลือดของนักเรี
ยนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี
ประจาปีการศึกษา 2557
เป็นโครงการที่แสดงความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
โดยโครงการนี้จัดทาขึ้น
เพื่อแสดงให้เห็นความสาคัญของวิชาคณิตศาสตร์
สาเร็จได้ด้วยความอนุเคราะห์จาก ครูศศิชา ทรัพย์ล้น ครูผู้สอน
ที่ให้คาแนะนาตลอดจนการให้คาปรึกษา นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-
6 ( ปีการศึกษา 2557) ที่ให้ความร่วมมือตอบแบบสารวจความคิดเห็น
และสมาชิกที่ให้ความช่วยเหลือจนโครงการนี้สาเร็จลุล่วงไปด้วยดี
11. ข้อเสนอแนะ 11
บรรณานุกรม
12
ภาคผนวก 13
รูปภาพ ก. รูปการทาแบบสารวจ
รูปภาพ ข. รูปการจัดทารายงาน
รูปภาพ ค. รูปการทาแผ่นพับ
รูปภาพ ง รูปแบบสารวจหมู่เลือด
สารบัญตาราง
เรื่อง หน้า
ตารางที่ 1 ตารางการรับและให้หมู่เลือด
4
ตารางที่ 2 ตารางแสดงขั้นตอนการดาเนินงาน
9
ตารางที่ 3
ตารางแสดงสถิติหมู่เลือดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 4-6
10
ห้อง 4/1 – 6/5
ของโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี
13. สารบัญรูปภาพ
เรื่อง หน้า
รูปที่ 1 รูปการให้เลือด
รูปที่ 2 รูปแอนติเจนของหมู่เลือดต่างๆ
รูปที่ 3 รูปกระบวนการของเลือดในหญิงตั้งครรภ์
รูปที่ 4 รูปการทาแบบสารวจหมู่เลือด
รูปที่ 5 รูปการรวบรวมข้อมูล
รูปที่ 6 รูปการทาเว็บไซต์
รูปที่ 7 รูปแผนภูมิแสดงปริมาณนักเรียนที่มีหมู่เลือดต่างๆ
16. โครงงานเรื่อง การสารวจหมู่เลือดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
4-6 เป็นโครงงานประเภท สารวจและประยุกต์ใช้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ
สารวจหมู่เลือกของนักเรียนขั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 เพื่อ
เพื่อเผยแพร่ข้อมูล
หมู่เลือดพร้อมทั้งให้ความรู้เรื่องการให้เลือดผ่านทางเว็บไซต์และสารวจ
ความพึงพอใจของผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์
โดยคณะผู้จัดทาได้ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง
และได้นาเสนอตามหัวข้อต่อไปนี้
1. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับวิชาคณิตศาสตร์
2. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีววิทยา
3. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับวิชาการเขียนโปรแกรมประยุกต์
4. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
1.เอกสารที่เกี่ยวข้องกับวิชาคณิตศาสตร์
สถิติ (Statistic) หมายถึง
1. ตัวเลขแทนปริมาณจานวนข้อมูล หรือข้อเท็จจริงของสิ่งต่าง ๆ
ที่คนโดยทั่วไปต้องการศึกษาหาความรู้
เช่นต้องการทราบปริมาณน้าฝนที่ตกในกรุงเทพมหานครปี 2541
เป็นต้น
2.
ค่าตัวเลขที่เกิดจากการคานวณมาจากกลุ่มตัวอย่าง(Sample) หรื
อคิดมาจากนิยามทางคณิตศาสตร์
เช่นคานวณหาค่าเฉลี่ย ค่าความแปรปรวน
ค่าที่คานวณได้เรียกว่าค่าสถิติ ( A Statistic)
ส่วนค่าสถิติทั้งหลายเรียกว่า ค่าสถิติหลาย ๆ ค่า (Statistics)
3. วิชาการแขนงหนึ่งที่จัดเป็นวิชาวิทยาศาสตร์
และเป็นทั้งวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์
17. และยังหมายรวมถึงระเบียบวิธีการสถิติอันประกอบไปด้วยขั้นตอน
4 ขั้นตอนที่ใช้ในการศึกษาได้แก่
- การเก็บรวบรวมข้อมูล(Collection of Data)
- การนาเสนอข้อมูล(Presentation of Data)
- การวิเคราะห์ข้อมูล (Analysis of Data)
-การวิเคราะห์ข้อมูล (Analysis of Data)
ข้อมูล(Data) หมายถึง รายละเอียดข้อเท็จจริงของสิ่งต่าง ๆ
ทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรมซึ่งตรงกับสิ่งที่ผู้วิจัยต้องการศึกษา
ประเภทของวิชาสถิติ แบ่งประเภทตามลักษณะของข้อมูลได้เป็นส
องประเภทคือ
- สถิติเชิงอนุมาน (Inductive Statistics) หมายถึง
สถิติที่ใช้จัดกระทากับข้อมูลที่ได้มาเพียงบางส่วนของข้อมูลทั้งหม
ด
- สถิติเชิงบรรยาย(Descriptive Statistics) หมายถึง
สถิติที่ใช้จัดกระทากับข้อมูลที่ได้มาเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
2.เอกสารที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีววิทยา
หมู่เลือดและการให้เลือด
เมื่อคนไข้มีการเสียเลือดมากไม่ว่าจากอุบัติเหตุหรือจากการ
ผ่าตัดจาเป็นต้องมีการให้เลือด ( Blood transfusion ) แก่คนไข
คนไข้จะได้รับเลือดจากผู้บริจาค ( Donor )
โดยผ่านทางสายยางเข้าสู่เวน
ซึ่งมักจะใช้บริเวณหน้าแขนของคนไข้
18. การให้เลือดนั้นอาจจะให้เลือดทั้งหมด หรือให้เฉพาะน้าเลือด
เพลตเลต หรือเม็ดเลือดขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้รักษา
การให้เลือดนั้นผู้ให้ต้องมีอายุตั้งแต่ 17 ปีขึ้นไป
พร้อมกับตรวจหมู่เลือดรวมทั้งโรคที่ติดต่อทางเลือด เช่น
ไวรัสตับอักเสบ เอดส์
จากนั้นจะดูดเลือดของผู้บริจาคออกทางเส้นเวน
แล้วจึงนาไปเก็บไว้ในขวดที่มีสารป้องกันการแข็งตัวของเลือด
และสารอาหารสาหรับเซลล์เม็ดเลือด
เลือดจะถูกนาไปเก็บในธนาคารเลือด ( Blood bank ) ที่อุณหภูมิ
4 C สามารถเก็บไว้ได้นาน
นายแพทย์ชาวเวียนนา ชื่อ คาลแลนสไตเนอร์ ( Karl
Landsteiner ) พบว่าหากมีการถ่ายเลือดผิดหมู่
จะเกิดปฏิกิริยาระหว่างแอนติเจนและแอนติบอดี ( Antigen –
antibody ) จับกลุ่มกันตกตะกอน
( Agglutination ซึ่งต่างจากการแข็งตัวของเลือดเมื่อเกิดบาดแผล
ซึ่งเรียกว่า Coagulation )
นายแพทย์ผู้นี้ได้แบ่งเลือดออกเป็น 4 หมู่ใหญ่ ๆ คือ เลือดหมู่ A
, B , AB และ O ซึ่งมีคุณสมบัติต่างกันคือ
เลือดหมู่ A มีแอนติเจน A ที่ผิวเม็ดเลือดแดง
มีแอนติบอดี b ในน้าเลือด
เลือดหมู่ B มีแอนติเจน B ที่ผิวเม็ดเลือดแดง
มีแอนติบอดี a ในน้าเลือด
19. เลือดหมู่ AB มีแอนติเจน A และ B ที่ผิวเม็ดเลือดแดง
แต่ไม่มีแอนติบอดี
เลือดหมู่ O ไม่มีแอนติเจน แต่มีแอนติบอดี
ทั้ง a และ b ในน้าเลือด
การให้เลือดโดยทั่วไปจะให้เลือดกับคนที่มีเลือดหมู่เดีย
วกันจะปลอดภัยที่สุด แต่ถ้าหาไม่ได้จริง ๆ
จะต้องไม่ให้แอนติเจนของผู้ให้ตรงกับแอนติบอดีของผู้รับเด็ดขาด
มิฉะนั้นเลือดจะตกตะกอน หลักการให้เลือดอาจสรุปเป็นแผนผัง
รูปภาพที่ 1 รูปการให้เลือด
จากผังข้างต้นเลือดหมู่ O จะให้เลือดได้กับคนทุกหมู่
จึงมักเรียกว่า ผู้ให้สากล ()
แต่คนที่มีเลือดหมู่ O นี้จะรับได้เฉพาะจากคนที่มีเลือดหมู่ O เท่านั้
น สาหรับคนหมู่ AB รับเลือดได้จากทุกหมู่เลือด จึงเรียกว่า
ผู้รับสากล () แต่ไม่สามารถให้เลือดกับคนหมู่อื่นได้เลย
ส่วนเลือดหมู่ A รับได้จากหมู่ O และหมู่ของตัวเอง
รวมทั้งสามารถให้เลือดแก่คนหมู่ AB ได้อีก
คนเลือดหมู่ B รับได้จากหมู่ O และหมู่ของตัวเอง
รวมทั้งสามารถให้เลือดแก่คนหมู่ AB ได้อีกด้วย
20. ในประชากรทั้งหมดคนที่มีเลือดหมู่ O จะมีมากที่สุดมีอ
ยู่ราว ๆ 40 – 50 % หมู่ A มีประมาณ 40 % หมู่ B มีอยู่ราว ๆ 10
-50 % หมู่ AB มีอยู่ราว ๆ 5 %
ตารางที่1 ตารางรับและการให้หมู่เลือด
หมู่เลือดผู้รับ
A B C D
หมู่เลือดของผู้ให้ A / X / X
B X / / X
C X X / X
D / / / /
ถ้าผู้รับมีเลือดหมู่ B จะรับเลือดจากหมู่ AB ไม่ได้
เพราะหมู่ AB มีแอนติเจน
ทั้ง A และ B ส่วนผู้รับคือหมู่ B มีแอนติบอดีa สามารถจับกลุ่มต
กตะกอนกับแอนติเจน A ได้
ถ้าผู้รับมีหมู่เลือด O จะรับเลือดได้เฉพาะหมู่ O เท่านั้น
เพราะหมู่ O มีแอนติบอดี
ทั้ง a และ b ซึ่งจะตรงกับแอนติเจนของหมู่ A
,B และ AB จึงรับเลือดหมู่อื่นไม่ได้
21. จะเห็นว่าการให้เลือดนั้นพิจารณาเฉพาะแอนติเจนของผู้ให้
กับแอนติบอดีของผู้รับเท่านั้น ไม่ต้องพิจารณาถึงแอนติบอดีของผู้
ให้และแอนติเจนของผู้รับ เพราะหากนามาพิจารณาพร้อม ๆ กัน
ก็จะเหลือแต่การให้และรับเฉพาะหมู่เลือดเดียวกันเท่านั้น โดยทั่ว
ๆ
ไปแล้วแอนติบอดีของผู้ให้ไม่ค่อยมีผลกับแอนติเจนของผู้รับมากนั
ก เนื่องจากเลือดที่ให้มีปริมาณน้อยกว่าเลือดของผู้รับ
การตกตะกอนเกิดขึ้นบ้างเพียงเล็กน้อย
การรับและการให้ดังแผนภาพและตารางจึงใช้ได้
นอกจากหมู่เลือดที่สาคัญ 4 หมู่
แล้วยังมีหมู่เลือดอีกหมู่ที่มีความสาคัญแก่ชีวิต นั่นคือ
หมู่เลือดระบบ Rh ซึ่งได้มาจากคาว่า Rhesus
monkey ซึ่งเป็นลิงวอกชนิดหนึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Macacam
ulutta หมู่เลือดระบบ Rh แบ่งเป็น 2 พวก คือ Rh+และ Rh-
คนที่มีหมู่เลือด Rh+ มีแอนติเจน Rh ที่ผิวเม็ดเลือดแดง แต่ไม่
มีแอนติบอดี Rh ในน้าเลือด
คนที่มีหมู่เลือด Rh- ไม่มีแอนติเจน Rh ที่ผิวเม็ดเลือดแดง
และไม่มีแอนติบอดี Rh ในน้าเลือด
แต่คนที่มี Rh- นี้สามารถสร้างแอนติบอดี Rh ในน้าเลือดได้
เมื่อได้รับเลือดหมู่ Rh+ เข้าไป
ในการถ่ายเลือดต้องคานึงถึงเลือด Rh ด้วย
เพราะคนที่มีเลือด Rh-
ครั้งแรกเมื่อได้รับเลือด Rh+ อาจถูกกระตุ้นให้สร้างแอนติบอดี R
22. h ในร่างกายผู้รับและมีการสะสมแอนติบอดี Rh ในการรับเลือดคร
าวต่อไปอาจมีการจับกลุ่มของเม็ดเลือดแดงทาให้ถึงตายได้
รูปภาพที่ 2 รูปแอนติเจนของหมู่เลือดต่างๆ
ในกรณีที่หญิงมีเลือด Rh-
แต่งงานกับชายที่มีเลือด Rh+ หากเกิดทารกในครรภ์มีเลือด Rh+
ซึ่งได้ยีนมาจากพ่อ
เลือดทารกในครรภ์นั้นจะกระตุ้นให้แม่สร้างแอนติบอดี Rh ขึ้นมา
ต่อต้าน Rh+ ทารกคนแรกอยู่ในครรภ์เพียง 9
เดือนแอนติบอดี Rh ของแม่ยังไม่มากพอที่จะทาลาย Rh+ ได้
ลูกคนแรกจึงคลอดออกมาปกติ
แต่ถ้าลูกคนถัดมาเกิดมี Rh+ เป็นคนที่สองอีก
24. ในคนไทยส่วนใหญ่แล้วไม่ได้คิดเลือดหมู่ Rh- กันเท่าใดนัก
เพราะส่วนใหญ่มากกว่า 99 % เป็น Rh+ มีเพียง 1 ใน 500
เท่านั้น ที่เป็น Rh-
นอกจากเลือดระบบ ABO และ Rh แล้วยังมีหมู่เลือดอีกมาก
มาย ซึ่งไม่กล่าวถึงในที่นี้ เช่น หมู่เลือด MN และอื่น ๆ
3. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับวิชาการเขียนโปรแกรมประยุกต์
Google Sites คือเว็บไซต์ของ Google
ที่ให้บริการสร้างเว็บไซต์ฟรี
ซึ่งเราสามารถสร้างเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย โดยผู้ใช้สามารถ
ปรับแต่งลักษณะของเว็บไซต์ได้ตามความต้องการ
สามารถรวบรวมความหลากหลายของข้อมูลไว้ในที่เดียวได้
เช่น วิดีโอ ปฏิทินการนาเสนอเอกสารหรือสิ่งที่แนบ
และข้อความ
รวมไปถึงความสามารถในการกาหนดความเป็นส่วนตัวของเว็บ
ไซต์ด้วย
1. เข้าสู่ Google Sites ที่ https://sites.google.com/
2. ทาการ Login ด้วย Account ของ Gmail
3. กดปุ่ม "Create"
4. กรอกชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการ
5. จากนั้นเลือก "Select a theme"
6. แล้วกดปุ่ม "Create Site"
7. เป็นอันเสร็จสิ้นการสร้างเว็บไซต์ที่ Google Site
25. 4.งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
1.สถิติ การสารวจหมู่เลือดของนักเรียนชั้นม.5-
6ของโรงเรียนบางเลนวิทยาประจาปีการศึกษา 2554
โครงงานเรื่อง สถิติ การสารวจหมู่เลือดของนักเรียนชั้นม.5-
6 ของ โรงเรียนบางเลนวิทยา ประจาปีการศึกษา 2554
เป็นโครงงานที่จัดทาเพื่อสารวจหมู่เลือดของนักเรียนภายในโรงเรี
ยนบางเลนวิทยา โดยมุ่งเน้นสารวจชั้น ม.5 – ม.6 จานวน 159 คน
ในการดาเนินงานของโครงงานได้นาแบบสารวจหมู่เลือดไปให้ชั้
นม.5-6 โดยให้เขียนหมูเลือดของตนเองโดยการสารวจจะต้องขีด
ในหมู่เลือดของตนเองและนักเรียน 1คนจะตอบได้
หรือตอบไม่ได้ถ้าไม่ทราบหมู่เลือด แล้ว
ในการสารวจพบว่านักเรียนที่มีหมู่เลือด A มี 25 คน คิดเป็น
15.72 % นักเรียนที่มีหมู่เลือด B มี 71 คน คิดเป็น 44.65 %
นักเรียนที่มีหมู่เลือด O มี 44 คน ซึ่งคิดเป็น 27.67 %
นักเรียนที่มีหมู่เลือด AB มี 16 คน ซึ่งคิดเป็น 10.06 %
และนักเรียนที่ไม่ทราบหมู่เลือด 3คน ซึ่งคิดเป็น 1.90 %
จึงทาให้รู้ว่า ภายในนักเรียนม. 5- 6 มีหมู่เลือดอย่างไร (นายเผด็จ
สวิพันธุ์ ,ราตรี สิงห์กวาง , นางสาวพิไลพร ไทรทองมี)
28. 6. นาข้อมูลต่างๆ
และข้อสรุปมานาเสนอผ่านเว็บไซต์
รูปภาพที่ 6 รูปการทาเว็บไซต์
7. ตรวจสอบความถูกต้อง
ตารางที่ 2ตารางแสดงขั้นตอนการดาเนินงาน
การดาเนินงาน วัน/เดือน/
ปี
ผู้รับผิด
ชอบ
1. ขั้นวางแผน
1.1 จัดกลุ่ม
สมาชิกและคิดหัวข้อโครงงานคณิตศาส
ตร์
1.2 เสนอโค
รงงานกับอาจารย์ที่ปรึกษา
1.3 คิดแบบ
สารวจหมู่เลือด
1-9
ก.พ.58
สมาชิกทุ
กคนใน
กลุ่ม
29. 2. ขั้นดาเนินงาน
2.1 ให้นักเรี
ยนชั้น ม.4-6 ทาแบบสารวจหมู่เลือด
2.2 รวบรวม
ข้อมูลแล้วนามาวิเคราะห์
2.3 ศึกษาข้
อมูลเกี่ยวกับการให้เลือด
2.4 นาข้อมู
ลไปเผยแพร่ทางเว็บไซต์
2.5 สารวจค
วามพึงพอใจของผู้เข้าชมเว็บไซต์
10-17
ก.พ.58
สมาชิกทุ
กคนใน
กลุ่ม
3. ขั้นตอนการเขียนรายงาน 18-21
ก.พ.58
สมาชิกทุ
กคนใน
กลุ่ม
4. ขั้นตอนการจัดทาบอร์ดแสดงโครงงาน 22
ก.พ.58-
1 มี.ค.58
สมาชิกทุ
กคนใน
กลุ่ม
บทที่ 4
ผลการศึกษา
ตารางที่
3ตารางแสดงสถิติหมู่เลือดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 4-6
30. ห้อง 4/1 – 6/5
ของโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี
ห้อง หมู่เลือด
A B AB O ไม่ทราบหมู่เลือด โรคประจาตัว รว
4/1 6 14 1 18 - -
4/2 9 14 3 12 - -
4/3 3 9 2 17 - 3
4/4 7 5 4 16 - -
4/5 7 7 4 9 2 7
5/1 8 9 6 15 - 3
5/2 6 16 2 14 - -
5/3 4 15 1 19 2 1
5/4 10 13 2 11 - 4
5/5 13 7 5 11 - -
6/1 9 7 3 19 - 1
6/2 3 11 3 18 1 -
6/3 8 10 3 15 - -
6/4 8 5 1 21 - -
6/5 6 14 - 13 - 2
31. รวม 107 156 40 228 5 21
คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 20.16% 29.10
%
7.46
%
42.54
%
0.93% 3.92 %
แล้วนาข้อมูลที่สารวจมได้มาเผยแพร่ทางเว็บไซต์
https://sites.google.com/site/adisakjamejame/
บทที่ 5
สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
สรุปผลการวิเคราะห์โครงงาน
จากการศึกษาและสารวจหมู่เลือด ของนักเรียนชั้นม.4-6
พบว่าหมูเลือด O มีมากกว่าหมูเลือดอื่น รองลงมาก็หมู่เลือด BA และ AB
ตามลาดับ
จาการทาโครงงานนี้ในกลุ่มข้าพเจ้าทราบว่าประชาการนักเรียน ม.4-6
ปีการศึกษา 2557 ว่าประมาณเท่าใดมีหมู่เลือดมากที่สุด
นอกจากนี้โครงงานนี้ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้สามารถสรุปเป็นแ
ผนภูมิวงกลมได้ดังนี้
34. เอกสารอ้างอิง
เผด็จ สวิพันธุ์,ราตรี สิงห์กวาง,พิไลพร ไทรทองมี .2554.การสารวจ
สถิติหมู่เลือด.(ออนไลน์).แหล่งที่มา :
https://sites.google.com/site/khorngngankhnitsastr/about-
me
Thai Study Focus.2558.สถิติ.(ออนไลน์).แหล่งที่มา :
http://www.thaistudyfocus.com/คณิตศาสตร์/
สถิติ-คณิตศาสตร์/
บริษัท โกลบอล ไอซีที (ประเทศไทย) จากัด.2557.การใช้google
site.(ออนไลน์).แหล่งที่มา : http://