SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  235
Title: Love Story: KyuHae
Subtitle: เรื่องราวความรักของคยูเฮ
Paring: KyuHae Ft. WonHyuk
Author: mkyuhae139
Part.15 จอมโจร จอมใจ
คฤหาสน์หลังสวย ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่กลางไร่ขนาดใหญ่
กลางเขาลูกใหญ่ที่เป็นเหมือนกาแพงกั้นท้องทะเลออกจากอาณาเขตไร่ส้มและฟาร์มปสุสัตว์
แสงไฟระยับประดับประดาจากตัวบ้านจนถึงขอบรั้วที่กั้นไร่ส้มและคอกม้าจนสว่างไสวไปทั่วบริเวณนั้น
เสียงเพลงเสียงพูดคุยดังโหวกเหวกแข่งกันจนจับใจความไม่ได้
เพราะเจ้าของคฤหาสน์จัดงานเลี้ยงปีใหม่ให้กับคนงานในไร่
ที่ห้องโถงของบ้าน ชายหนุ่มร่างสูงรูปร่างหน้าตาสมบูรณ์แบบจนน่าอิจฉา
กาลังคลึงแก้วไวน์ยิ้มอารมณ์ดีกับชายหนุ่มรูปร่างมาดแมนส่วนสูงได้มาตรฐานชายเอเชีย
แต่ใบหน้าหล่อคมปนน่ารักที่กาลังยิ้มจนตาหยีกลับดูน่ารักจนลดทอนความเข้มคมแบบผู้ชายแท้ลงไป
แต่ก็ยังหล่อเหลาแบบกินกันไม่ลง
“ทงเฮหนีเที่ยวคราวนี้ ชั้นต้องรบกับพวกคนงานคนเดียว คราวนี้คงหลับเป็นตายทุกวัน
เราน่าจะได้ไปเที่ยวด้วยกันนะนี่”
“ไปไม่กี่วันเอง พี่ฮีชอลกับซองมินก็อยู่”
“นินทาอะไรพี่หรือสองหนุ่ม”หนุ่มใหญ่วัยกลางคน
ใบหน้าที่เค้าหน้ายังดูสวยทั้งที่วัยล่วงเลยวัยใสมาเป็นรอบแล้วก็ตาม
ตาคมหวานปนดุยังดูแวววาวราวกับวัยแรกรุ่นเหมือนเดิม
ใบหน้าที่ยิ้มร่าอารมณ์ดีเข้าร่วมวงสนทนายิ่งลดทอนอายุจริงจนเกือบเหมือนรุ่นเดียวกันกับซีวอนและทงเฮ
“เปล่าครับ ซีวอนเขากาลังงอแงไม่อยากทางาน จะตามผมไปเที่ยว”
“พี่ฮีชอลอย่าไปเชื่อครับ ทงเฮใส่ความผม”ยิ้มอารมณ์ดีจนแก้มบุ๋ม
“จะตามอะไร ทงเฮไม่รู้หรือ เขานัดกับซองมินไว้จะไปเที่ยวยุโรปกัน”
“เซอร์ไพรส์!”ชายหนุ่มหน้าหวานจมูกคมรับกับปากรูปกระจับ ยิ้มอวดฟันกระต่ายเดินเข้ามาสมทบอีกคน
พร้อมกับเกี่ยวแขนซีวอนอย่างสนิทสนม
“โหยยยยพี่ฮีชอล ทาไมโลกมันไม่ยุติธรรมกับผมเลย ผมแค่เที่ยวในประเทศ แต่ซีวอนกับซองมินไปยุโรป
คุณลุงลาเอียง”เข้ากอดฮีชอลแล้วซบใบหน้ากับอกกว้างด้วยอาการออดอ้อนเป็นเด็กๆ
“พี่ฮีชอลดูนะ ใครกันแน่ที่งอแง”ซีวอนบอกยิ้มๆ
“ไม่คุยด้วยแล้ววันนี้งอน
ไปร่วมวงกับคนงานดีกว่า”เดินลิ่วออกไปสมทบกับคนงานที่กาลังฉลองกันเสียงดังสนุกสนาน
“เราตามทงเฮออกไปสมทบกับคนงานดีกว่านะครับ”เดินนาทุกคนออกไปที่สนามหน้าบ้านโดยมีซองมินเดิ
นเกี่ยวแขนยิ้มร่าอารมณ์ดี
คนงานร่วมวงดื่มกินกันอย่างเอร็ดอร่อย เพราะเหน็ดเหนื่อยจากการทางานมานาน
ฮีชอลกับซองมินเข้าร่วมวงกับกลุ่มคนงานอย่างสนิทสนมเพราะทางานด้วยกันคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
ซีวอนกับทงเฮเดินแยกออกมาคุยกันอีกมุมของสนามแต่ยังอยู่ในบริเวณงาน
“เตรียมของพร้อมแล้วใช่ไหม”
“แล้ว ไม่ต้องมาพูดดีเลย งอนอยู่นะนี่ งอนอยู่”ยู่ปากจนจมูกยู่ตามอย่างขัดใจ
จนซีวอนคว้าตัวเข้ามากอดอย่างต้องการการแกล้ง
“ปล่อยเลยนะ ให้เราเที่ยวในเกาหลี
ตัวเองหนีไปเที่ยวยุโรป”ปัดป้ องอ้อมกอดซีวอนเต็มที่พร้อมกับขึงตาอย่างเอาเรื่อง
แต่เรียวปากเล็กกลับกลั้นยิ้มจนแก้มบุ๋ม
“อะไรของนายเนี่ย สะบัดสะบิ้งทาตัวเป็นเด็กเก้าขวบ นายบอกอยากไปเที่ยวทะเลก็ขอคุณพ่อให้
ทั้งที่ชั้นต้องรับช่วงงานนายจนหัวปั่น แล้วมางอแงเป็นเด็กขี้อิจฉาไปได้”
“ก็นายไม่ชวนชั้นเลย แต่ชวนซองมิน ฮึ่ยเจ็บใจ เดี๋ยวชวนพี่ฮีชอลไปก็ได้”
“ลูกชายเขาจะมา ต้องดูลูกไม่มีเวลาพานายเที่ยวหรอก”ยิ้มแก้มบุ๋มพร้อมกับเลิกคิ้ว
“ฮยอกแจจะมาเหรอ ทาไมไม่มีใครบอกเลย
โหยป่านนี้คงเป็นหนุ่มแล้วแน่เลยไม่เจอตั้งหลายปี”เข้ากอดซีวอนอย่างตื่นเต้น
“ตอนที่พ่อรับทงเฮกับซองมินมา ฮยอกแจเพิ่งสามขวบ ตอนนี้ทงเฮยี่สิบแปด
เด็กหน้าแป้ นนั่นก็ราวๆสิบสามสิบสี่ปีแล้วล่ะ กาลังแตกเนื้อหนุ่ม”
“อยากเจอ พี่ฮีชอลคงตื่นเต้นมากแน่เลย ลูกชายจะมาอยู่ด้วย”
“เห็นเตรียมห้องไว้ให้แล้ว คงอยากเอาใจลูกที่กาพร้าแม่
แถมพี่ฮีชอลก็มาขลุกอยู่บนเขากับพวกเรานานๆจะลงไปเยี่ยมลูกสักที”
“กลับจากเที่ยวต้องมาผูกมิตรสักหน่อย ตอนเด็กยิ้มหน้าแป้ นเหงือกบาน น่ารักน่าหยิกมาก”
“อยากเจอเหมือนกัน อยู่กับคุณตาคุณยายซะนาน จะจาอาซีวอนได้หรือเปล่าก็ไม่รู้”
“จาไม่ได้ก็ผูกมิตรใหม่สิ ฮยอกแจร่าเริงเข้ากับคนง่าย”
“เข้ากับคนง่าย แต่บทจะงอน พ่อเจ้าประคุณเงียบไม่ปริปาก มองเราแทบจะค้อน”
“ตอนนั้นจาได้ว่าจะไปนอนบนที่นอนด้วย ไอ้เราก็กลัวว่าจะฉี่รดที่นอนเลยโวยไปว่า
กลับไปหาพ่อฮยอกแจไป”
“เจ้าเด็กนั่นกัดปากมองชั้นตาปริบๆ แล้วก็ไม่คุยกับชั้นอีกเลยจนพีฮีชอลพาไปส่งบ้าน”
“เอาอะไรกะเด็กสามขวบ ป่านนี้จาไม่ได้หรอกว่า ใครทาอะไรไว้บ้าง เห็นอาซีวอน
ขี้คร้านจะอ้อนจนเบื่อ”มองกันแล้วหัวเราะชอบใจ
สองหนุ่มคุยกันสลับกับหัวเราะคิกคักเมื่อพูดถึงหลานชาย
กิริยาอาการเหล่านั้นไม่ได้ลอดพ้นสายตาของคนที่แอบอยู่ในมุมหนึ่งของตัวบ้าน
และจดจ้องพวกเขาไม่วางตา ราวกับสปอร์ตไลท์ชั้นดีที่ส่องตามทุกฝีก้าวที่ทั้งสองเดินคุยกันไป
ทงเฮลุกขึ้นแต่งตัวในตอนเช้ามืด พร้อมกับส่องกระจกดูความเรียบร้อยก่อนออกเดินทาง
แต่เขากลับรู้สึกเหมือนมีใครจ้องเขาอยู่ จนต้องหันขวับไปข้างหลัง
ว่างเปล่า
“ไม่มีอะไร เราคงคิดไปเอง”ก้มเข้าหากระจกเงานิ้วเรียวยกขึ้นลูบคางก่อนจะเดินไปเปิดประตู
แต่ดวงตากลมโตที่สบกับเขาอยู่หน้าประตูในระยะกระชั้นชิดถึงกับทาให้เขาใจหายวาบ
“พี่ฮีชอล! ผมตกใจหมด”
“อะไรแค่นี้ตกใจ พี่แค่แวะมาดูว่าเราเสร็จหรือยัง”
“ครับ กาลังจะลงข้างล่างพอดี”
“คุณพ่อกับซีวอน ไปรอส่งทงเฮแล้ว”
“หรือครับ งั้นเราลงข้างล่างกันดีกว่า”
เดินเคียงข้างกันไปที่ห้องโถงที่ประมุขของบ้าน และลูกชายนั่งคุยกันอยู่
ทงเฮเดินเข้าไปน้อมศีรษะทาความเคารพ
“คุณลุงไม่น่าต้องลาบากลุกมาส่งผมแต่เช้ามืดแบบนี้เลย น่าจะนอนพักผ่อนให้สบายมากกว่า”
“ไม่ลาบากอะไรหรอก คนแก่นอนยากตื่นง่าย ได้ยินเสียงซองมินเอาม้าออกแต่เช้า ลุงก็เลยลุกมารอเรา”
“ซองมินออกตรวจไร่แต่เช้าเลยหรือ
ขยันจริงๆ”ฮีชอลกล่าวยิ้มๆแล้วสายตาก็กวาดไปที่ไร่ส้มอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
“ชั้นก็ตื่นเช้าเพื่อมาส่งทงเฮไม่เห็นจะพูดอะไรกับชั้นเลย”ยิ้มหวานประจบคนตัวเล็ก
“ขอบคุณที่ยังคิดถึงกันอยู่”สบตาพลางอมยิ้มนัยน์ตาไหวระริกปนค้อนหน่อยๆจนซีวอนยิ้มร่าแล้วดึงร่างเล็กเ
ข้ามากอดแน่น
“เดินทางปลอดภัยนะ กลับมาเดี่ยวจะพาไปลุยยุโรป”
“ฮื่อ ดูแลคุณลุงดีๆนะ ฝากเรื่องงานด้วย”
“ไม่ต้องห่วง เที่ยวให้สนุกเถอะ”ผละออกจากกัน ทงเฮน้อมศีรษะให้ประมุขชเวและฮีชอลอีกรอบ
“เที่ยวให้สนุกนะ”ฮีชอลกอดคนตัวเล็กพร้อมกับนิ้วยาวลูบผมลูบหลังด้วยความเอ็นดูราวกับทงเฮยังเป็นเด็ก
“ขึ้นรถได้แล้ว พ่อบ้านคิมขนของขึ้นรถเสร็จแล้วล่ะ”ทุกคนเดินไปส่งทงเฮที่รถ
“เอ๊ะ พ่อบ้านคิมจะไปส่งผมหรือ ผมคิดว่าพ่อบ้านยุนจะไปส่งซะอีก”ขึ้นนั่งบนรถแล้วโบกไม้โบกมือ
“พ่อบ้านยุนเข้าไร่ครับ ต้องสะสางงานหลายอย่างก่อนจะไปรับคุณหนูฮยอกแจ”
“เสียดายจังผมไม่ได้อยู่รอรับหลาน”
“กลับมาก็เจอกันครับ คุณทงเฮรัดเข็มขัดด้วยนะครับ ทางอันตรายเขาค่อนข้างชัน”
“ครับ”รัดเข็มขัดพร้อมกับพ่อบ้านคิมเคลื่อนรถออกจากตัวบ้าน
รถของทงเฮออกจากบ้านไปเกือบชั่วโมง ภาพมุมกว้างเริ่มโฟกัสตามรถทงเฮไป
มันเริ่มใกล้เข้าไปเรื่อยๆจนรถแล่นเรียบแนวเขาสูงชันขอบถนนกั้นด้วยแนวรั้วที่ทาจากท่อนซุง
เพื่อกั้นถนนให้มีความปลอดภัย เพราะหลุดจากนอกรั้วที่กั้นไว้
มันก็คือหุบเหวที่ลึกชนิดที่มีอะไรร่วงลงไปมันคงจะละเอียดไม่มีชิ้นดี
แล้วภาพรถของทงเฮที่กาลังแล่นด้วยความเร็วต่าจนแทบจะเป็นคลานก็ใกล้เข้าจุดโฟกัสพร้อมกับเสียงโครม
ที่ดังจนปวดหู สะเทือนจนยอกในอก
รถแฉลบแต่พ่อบ้านคิมก็ปฏิกิริยาไวจนควบคุมรถเอาไว้ได้
“คุณทงเฮเป็นยังไงบ้างครับ”
โครมมมมม!
สิ้นคาถาม รถถึงกับเสียหลักยกล้อ พ่อบ้านคิมควบคุมพวงมาลัยเต็มที่ และเริ่มรับรู้ว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุ
รถที่ชนรถเขาตั้งใจจะให้รถเขาเสียหลักตกเหว เพื่ออะไร
แล้วคนในรถกระบะคันเก่าสนิมเกรอะกรังนั่นคือใครกัน ถึงตั้งใจปลิดชีพเขา
“คุณทงเฮระวังตัวนะครับ มีคนตั้งใจขับรถชนเรา”
“ตอนแรกผมคิดว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว”กดมือถือด้วยมือสั่นระริก
“คุณทงเฮระวัง!”
มือถือร่วงจากมือทงเฮพร้อมกับสะเทือนไปทั้งร่างอีกครั้ง
พ่อบ้านคิมบังคับรถให้ทรงตัวได้หลังจากโดนรถกระบะคันนั้นขับเบียด
จนด้านข้างรถครูดไปกับท่อนซุงที่มีนอตขนาดใหญ่ยึดเป็นรั้วกั้นถนนเอาไว้และถ้าจาไม่ผิด
อีกร้อยเมตรข้างหน้ามันจะเป็นช่วงรั้วกั้นที่ยังซ่อมไม่เสร็จ
“คุณทงเฮ อีกห้าสิบเมตรคุณเตรียมกระโดดลงรถ และหาทางหนีให้ได้ผมจะยิงคุ้มกันให้
“แต่ผมจะทิ้งพ่อบ้านคิมได้ยังไง”
“เร็วสิครับเราไม่มีเวลาแล้วนะ พอรถเบรกคุณรีบหาทางหนีให้เร็วที่สุด”
“ไม่ครับ เราต้องสู้พร้อมกันสิ”พยายามควานมือหามือถือที่ร่วงอยู่ใต้เบาะ
เปรี้ยง!
เสียงปืนนัดแรกดังขึ้นพร้อมกับร่างของพ่อบ้านคิมกระตุกเฮือก
“คุณทงเฮรีบลงรถครับ ไม่อย่างนั้นผมสู้กับมันไม่ถนัดเพราะคอยห่วงคุณ”
เอี๊ยดดดดดดดดด!
รถยังเบียดกันฉวัดเฉวียนไปมา
“แต่พ่อบ้านคิมถูกยิง”มองไหล่ซ้ายที่เลือดไหลจนชุ่มออกมานอกเสื้อสูทสีดาจนเป็นดวง
พลันน้าตาก็เอ่อจนล้นกรอบตาเพราะสงสารคนเก่าแก่ประจาบ้าน
“เชื่อผมนะครับ ผมเอาตัวรอดได้
ลงรถแล้วหาทางเอาตัวรอดให้เร็วที่สุด”มือควบคุมพวงมาลัยแล้วหักขวางถนน
พร้อมกับยิงต่อสู้จนรถคันนั้นเบรกจนสุดตัว แต่มันก็ไม่พ้น รถแล่นเข้าประสานงากันจนเสียงดังสนั่น
พ่อบ้านคิมเริ่มตาลายเพราะเสียเลือดมาก
เขามองชายนิรนามชุดขาวที่มีหมวกไหมพรมคลุมใบหน้าเอาไว้จนมองเห็นแค่ดวงตาดาขลับกาลังลงจากรถ
และวิ่งตามทงเฮไป
เขาพยายามมองหามือถือที่ร่วงกระจัดกระจายในรถ
สายตาที่เริ่มเรือนลางเพราะเลือดไหลไม่หยุดยิ่งเป็นอุปสรรคต่อการมองเห็น
หางคิ้วที่เศษกระจกบาดจนเลือดเริ่มไหลเข้าตามันยิ่งลดทอนความสามารถในการมองเห็น
นิ้วที่สั่นระริกเอื้อมเข้าหามือถือและกดเบอร์ฉุกเฉินถึงซีวอนทันที
เขารอปลายสายด้วยเรี่ยวแรงที่เริ่มถดถอยการหายใจเริ่มรวยริน
(“ครับพ่อบ้านคิม”เสียงซีวอนดังมาเข้าหูราวกับอยู่ไกลแสนไกล
“ช่วยด้วย”กล่าวออกไปด้วยเสียงแหบโหยก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มลางเลือนแล้วทุกอย่างก็ดับวูบ
“เดี่ยว พ่อบ้านคิมเกิดอะไรขึ้น”เสียงปลายสายเงียบไปถึงกับทาให้ซีวอนลุกพรวดพราด
“คุณพ่อครับ ผมไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พ่อบ้านคิมบอกแค่ว่าช่วยด้วยแล้วก็เงียบไป
คงเกิดอันตรายกับทงเฮและพ่อบ้านคิมแน่ๆผมจะไปดูสักหน่อย”
“เดี๋ยวพ่อไปด้วย ฮีชอลไปเกณฑ์คนงานออกไปสักสี่ห้าคน เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน”
“ครับคุณพ่อ”
ทุกคนแยกย้ายกันไปที่รถและขับออกตามทันที
ทงเฮวิ่งขึ้นเขาด้วยใจที่ตุ้มๆต่อมๆด้วยระวังหลังและหาทางหนีทีไล่
และพยามจะไม่ล่วงล้าไปในเขตตรงข้ามที่ทางไร่มีกฎห้ามไว้เพราะเป็นดินแดนบ้านป่าเมืองเถื่อนกลางเขานี้
และรวมไปถึงแหล่งซ่องสุมทั้งกองกาลังอิสระและเส้นทางการขนยาเสพติดที่ยังเป็นตลาดมืดที่เจ้าหน้าที่เข้า
ไปไม่ถึง เขาไม่อยากก้าวล่วงล้าเข้าเขตนั้น
แต่ชายนิรนามที่กาลังตามเขาไม่ลดละนั่นถึงกับทาให้ทงเฮเหงื่อแตกพลั่ก เขากาลังเข้าสู่ภาวะจนตรอก
ก้าวก็ตายถอยก็ตายและเขากาลังหาทางถอย
แต่ทางนั้นมันกาลังแคบลงเพราะทะเลกว้างใหญ่มันเริ่มกว้างออกจนเหลือพื้นที่ให้เขาถอยน้อยเหลือเกิน
จากป่าหน้าทึบที่พอจะอาพรางตัวเขาได้ ต้นไม้เริ่มบางตาจนต่างฝ่ายต่างเริ่มมองเห็นกัน
จุดโฟกัสที่ตามร่างทงเฮเริ่มใกล้เข้าหาร่างสันทัดนั้นจนเริ่มโฟกัสกว้างออกจนเห็นหน้าผาอันสูงชัน
และท้องทะเลสุดลูกหูลูกตา
ทงเฮหันขวับเผชิญหน้าชายนิรนามเมื่อถอยไปหยุดที่หน้าผาและหาทางหนีต่อไปไม่ได้
“แกเป็นใคร ต้องการอะไรกันแน่”ถามพร้อมกับถอยอีกหนึ่งก้าวเมื่อชายนิรนามเล็งปืนไปที่เขา
ชายคนนั้นก้าวเข้าหาทีละก้าว ขณะที่ทงเฮถอยไปเรื่อยๆจนหูเขารับรู้เสียงก้อนหินร่วงครืนลงหน้าผาแห่งนั้น
เขาถอยไม่ได้แล้ว
นิ้วในถุงมือสีดาสนิทที่เคลื่อนเข้าหาโก่งไกทาให้ทงเฮถึงกับกลั้นหายใจ
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นพร้อมกับร่างทงเฮผวาเฮือก และปลิวหวือลงหน้าผาราวกับนกปีกหัก
“ขอให้โชคดี”ชายนิรนามกล่าวออกมาแล้วถอยกลับลงเขาไป
ซีวอนเบรกรถจนตัวโก่งเมื่อมีรถกระบะคันเก่ากับรถยนต์คันหรูที่พ่อบ้านคิมขับมาส่งทงเฮประสานงาขวาง
ทางอยู่
“ทงเฮ พ่อบ้านคิม”เปิดประตูรถแล้ววิ่งถลาไปที่รถที่อัดก็อปปี้ กันอยู่
เปิดประตูแล้วเข้าดูพ่อบ้านคิมที่ซบใบหน้ากับพวงมาลัย สภาพแน่นิ่งจนน่าตกใจ
ซีวอนแตะนิ้วที่จมูกก่อนจะอุ้มพ่อบ้านคิมออกมา
“เราต้องพาพ่อบ้านคิมไปโรงพยาบาลที่ท่าเรือ”อุ้มร่างที่ไร้สติไปที่รถ
“ซีวอนพาพ่อบ้านคิมไปโรงพยาบาลเดี๋ยวพ่อกับคนงานจะดูรอบๆบริเวณนี้ก่อนว่าทงเฮหายไปไหน”
บอกลูกก่อนจะหันไปสั่งคนงานให้เคลื่อนย้ายรถออกจากการขวางถนนพร้อมกับฮีชอลขับรถสวนกับซีวอน
มาจอดลงใกล้กัน
“ได้เรื่องยังไงบ้างครับคุณพ่อ”
“รถทงเฮกับกระบะคันนี้ชนกัน พ่อบ้านคิมอาการสาหัส แต่เราหาทงเฮไม่พบ”
“งั้นเราต้องแบ่งคนแยกย้ายกันตามหาแล้วละครับ”
“ฮีชอลพาลูกน้องหาด้านแถบที่ติดชายทะเลนะ
เดี่ยวพ่อกับคนงานอีกส่วนจะไปหาแถบที่ติดกับเขตต้องห้าม”
“คุณพ่อระวังตัวด้วยนะครับ”
“แกก็เหมือนกันระวังตัวด้วย เราไม่รู้สาเหตุว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถ้าไร้ร่องรอยให้รีบถอยนะ
มันค่อนข้างอันตราย”
“ครับแยกย้ายตรงนี้นะครับ”
ทุกคนแยกย้ายกันออกสารวจพื้นที่เผื่อจะพบร่องรอยอะไรให้ตามหาทงเฮได้บ้าง
ซองมินบังคับม้าจนจะเข้าคอกแล้วแต่ม้ากลับกระโจนยกขาหน้าขึ้นจนเขาตกลงไปนอนคลุกฝุ่นและนอนนิ่ง
อยู่ชั่วครู่เพราะลุกไม่ขึ้น
พ่อบ้านยุนถลาออกมาจากคอกม้าเข้าพยุงร่างนั้นทันที
“คุณซองมินทาอีท่าไหนครับถึงได้ลงไปนอนอยู่แบบนั้น”
“เจ้าลีโอมันตกใจตะขาบวิ่งขวางทาง มันเลยกระโจนยกขาหน้าขึ้น ผมไม่ทันระวังเลยร่วงไม่เป็นท่าเลยครับ”
“ดูซิเหงื่อไหลไคลย้อยเลย
มาครับผมจะกลับบ้านใหญ่พอดี”พยุงซองมินไปที่รถแล้วขับกลับบ้านขณะที่คนงานนาเจ้าลีโอเข้าคอก
ถึงตัวบ้านกลับเงียบผิดปกติ พ่อบ้านยุนพยุงซองมินที่เดินเกผกลงจากรถเข้าบ้าน
“ไปส่งทงเฮกันหมดเลยหรือ ทาไมบ้านเงียบจัง”
“คงจะยังงั้นละครับ นานๆคุณทงเฮจะฉายเดี่ยวออกจากบ้านสักที”
“โอ๋กัน จนทงเฮไม่ยอมโตสักที”ยิ้มแต้มใบหน้าด้วยความเอ็นดูน้องชาย
พ่อบ้านยุนพยุงเจ้านายให้มานั่งลงที่โซฟาตัวใหญ่กลางบ้าน
และเข้าดูอาการถลอกตามแขนขาและรอยฟกช้าที่แก้มและหน้าผากที่เริ่มปูดอย่างเห็นได้ชัด
เดี๋ยวผมทาแผลและประคบให้คุณซองมินดีกว่าครับ”เข้าไปเอากล่องปฐมพยาบาลพร้อมกับซีวอนเดินหน้าเค
รียดเข้าบ้าน
“อ้าวซีวอนส่งทงเฮกลับมาแล้ว เป็นไงงอแงอะไรอีกไหม”ยิ้มใสอวดฟันกระต่าย
“เรายังหาตัวทงเฮไม่พบเลย รถที่พ่อบ้านคิมขับไปส่งเกิดอุบัติเหตุ แต่ไม่พบตัวทงเฮ
พ่อบ้านคิมก็อาการสาหัสเพราะเสียเลือดมาก”
“ไม่พบทงเฮ แล้วทงเฮจะหายไปได้ยังไง ป่านนี้จะเป็นตายร้ายดียังไง
ผมจะไปตามน้อง”ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ แต่แล้วก็หน้าเหยเกจนซีวอนต้องเข้าพยุงให้นั่งลง
“พี่ไปทาอะไรมาทาไมถึงได้ฟกช้าไปทั้งตัวขนาดนี้”
“คุณซองมินตกม้าครับกาลังจะเข้าคอกอยู่แล้ว”
“มันตกใจตะขาบน่ะ เลยกระโจนและสะบัดจนตก ไม่ทันระวังตัวด้วย
สภาพเลยอย่างที่เห็น”กัดฟันแน่นเมื่อพ่อบ้านยุนล้างแผลที่แขนให้
ประมุขชเวเดินหน้าเครียดพร้อมกับฮีชอลเดินตามหลังมาจนซีวอนต้องเข้าไปพยุง
“ได้เรื่องไหมครับคุณพ่อ”
“ไร้ร่องรอยเลย ไม่มีอะไรจะให้เราตามได้เลย จะว่าตกเหวไปแล้วก็ไม่น่าจะใช่”
“เดี่ยวจะโทรให้เจ้าหน้าที่ประจาเขตเข้าตรวจสอบพื้นที่อีกที ทงเฮจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้างก็ไม่รู้”
“ผมว่าคุณพ่อพักผ่อนก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมกับพี่ๆจะปรึกษากันอีกที
และรอพ่อบ้านคิมฟื้นก่อนเราจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”ซีวอนกล่าวพร้อมกับเดินไปส่งบิดาขึ้นข้างบน
เขาเดินกลับมาทรุดนั่งลงข้างซองมินพร้อมกับเอนตัวไปกับโซฟาแล้วกับหลับตานิ่ง
“ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น เห็นแบบนี้ไม่อยากให้ฮยอกแจมาเลย พี่ห่วงลูก
แล้วป่านนี้ทงเฮจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”ฮีชอลบอกออกมาหน้าเครียด
“อย่าคิดมากเลยครับ ถ้าหลานมาผมจะช่วยพี่ดูแลหลานเอง
อีกอย่างถ้าเราไม่พบศพเรายังมีหวังว่าทงเฮยังไม่เป็นอะไร”ซีวอนปลอบใจพี่ชายทั้งที่ตัวเองกลุ้มจนหน้านิ่วคิ้
วขมวด
“พี่ก็หวังให้เป็นแบบนั้น”
“พี่ฮีชอลยังมีผมอีกคนนะครับ ผมจะช่วยดูแลหลานเอง
ส่วนทงเฮผมหวังว่าเขาจะไม่เป็นอะไร”ซองมินปลอบพี่ชายอีกแรง
“เดี๋ยวออกไปดูงานก่อนนะครับสักพักเจ้าหน้าที่คงจะมาแล้วล่ะ เราอาจจะได้เรื่องเพิ่มขึ้น”
“พี่ก็จะพักเหมือนกัน ถ้าแผลระบมมากก็จะไปให้หมอดูสักหน่อย ตอนนี้เหมือนโดนทุบไปทั้งตัว”
“เดี๋ยวพี่ก็จะเข้าไร่เหมือนกัน บ่ายๆจะไปรับฮยอกแจกับพ่อบ้านยุน”ฮีชอลบอกแล้วเดินตามซีวอนออกไป
ทิ้งให้พ่อบ้านยุนพยุงซองมินกลับห้องเพียงลาพัง
ทงเฮเดินโซซัดโซเซขึ้นจากทะเลด้วยตัวเปียกโชก เสื้อแขนยาวโดนเกี่ยวจนฉีกขาด
เลือดไหลจากนิ้วมือหยดลงพื้นจนแดงเป็นแนวตามชายหาด เขาล้าจนขาสั่นแทบจะยืนไม่อยู่
รองเท้าเขาก็ถอดทิ้งทะเลเพราะมันหนัก ตอนเยียบย่างบนพื้นทราย ร้อนยังกับถูกนาบด้วยไฟ
ก้าวขาที่สั่นเทาเข้าหาแนวป่าเมื่อใบหน้าถูกเผาจากเปลวแดดจนร้อนราวกับจะไหม้
เขาพยายามมองหาว่าเขาอยู่ส่วนไหนของชายทะเลแห่งนี้
แต่ท้องทะเลสุดลูกหูลูกตากับป่าทึบจนมองดูลึกลับมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาได้เลย
เขาเหนื่อยจนนึกไม่ออกว่าทิศไหนเป็นตะวันออกตะวันตก เพราะหวาดระแวงจนสมองประมวลผลไม่ทัน
หนังตาเริ่มจะปิดเพราะอ่อนเพลีย แต่เสียงคนเดินใกล้เข้ามา
เขาถึงกับรีบลืมตาและลนลานเข้าหากลุ่มคนพวกนั้น
“ช่วยด้วยครับ
ช่วยผมด้วย”ลนลานวิ่งเข้าหากลุ่มชายฉกรรจ์สี่คนที่มีหมวกไหมพรมสีดาและชุดดามองผิวเผินเหมือนหน่วย
คอมมานโด แต่อาวุธครบมือที่สะพายบ้างแบกเอาไว้บ้างก็ทาให้ทงเฮถึงกับกลืนน้าลายฝืดคอ
“ขนาดรุ่งริ่งหน้าตาบวมปูด ยังดึงดูดอารมณ์ทางเพศได้มากขนาดนี้
น้องชายจะให้พี่ช่วยอะไรหรือจ๊ะ”ชายร่างใหญ่บึกบึนจนแผงอกที่พ้นสาบเสื้อมองเห็นเส้นเลือดขนาดใหญ่ปู
ดโปน แสยะยิ้มเดินเข้าหาจนทงเฮต้องถอยร่น
“ไม่เอาน่าคังชิก เดี๋ยวนายรู้เข้าก็เป็นเรื่องอีก เรามาทางานนะ”ชายร่างใหญ่พอกันห้ามปรามเสียงเรียบ
“จงกุ๊กแกพาพวกนี้นาหน้าไปก่อน เดี๋ยวชั้นแวะสวรรค์ชั้นเจ็ดแล้วจะตามพวกแกไป”
“ตามใจ เกิดอะไรขึ้น
นายรับผิดชอบเองนะ”ชายฉกรรจ์ทั้งสามเดินผ่านไปทิ้งให้ทงเฮเดินถอยหนีร่างที่ย่างสามขุมเข้าหา
“พี่ชายอย่าทาอะไรผมเลยผมขอร้องล่ะ
ผมกาลังถูกตามล่ามา”ขุกเข่าขอร้องเพราะเขาหมดแรงจะถอยหนีไปไหนแล้ว
ยิ่งใกล้พลบค่าเขายิ่งมืดแปดด้านว่าจะไปทางไหนดี
ร่างใหญ่คุกเข่าลงตรงหน้าทงเฮมือใหญ่และหยาบกร้านแตะเข้าที่เรียวคางและลูบไล้เบามือ
“ทาตัวน่ารักๆ เดี๋ยวชั้นจะพาขึ้นสวรรค์”ลูบไล้ไปตามแก้มลาคอสวยและอกแน่นตึงของทงเฮอย่างย่ามใจ
ลิ้นสากเลียแผ่วเบาบริเวณมุมปากแล้วลากไล้มาที่ลาคอแกร่งแล้วดูดเม้มอย่างเริ่มจะคุมอารมณ์ไม่ได้
ทงเฮหมดเรี่ยวแรงจะขัดขืนเขาปล่อยให้กากเดนมนุษย์คนนั้นย่ามใจฉีกเสื้อเขาออกจากร่าง
ตาเขามองหาทางหนีทีไล่มือเล็กลูบไล้แผ่นหลังอย่างเอาใจ จนร่างนั้นเริ่มวางอาวุธและเตรียมปลดซิปกางเกง
ทงเฮถีบเปรี้ยงเข้าที่ยอดอกของมันแต่มือใหญ่ของมันกลับคว้าข้อเท้าของเขาเอาไว้แน่น
แล้วฝ่ามือใหญ่ก็ตบเปรี้ยงเข้าที่ใบหน้าบวมช้าอย่างไม่มีความปรานี
“ชอบความรุนแรงก็ไม่บอก มานี่เดี๋ยวจัดให้
จะเอาให้คลานเข้าส้วมเลยมึง”ลากขาทงเฮเข้าหาตัวจนหลังที่เปล่าเปลือยครูดไปกับพื้นจนโดนกิ่งไม้เกี่ยวจน
เลือดไหลซิบ
มันพยายามปลดตะขอกางเกงของทงเฮแต่เขาก็ดิ้นสุดฤทธิ์ จนมันฟาดฝ่ามืออีกรอบจนเลือดกลบปาก
เขาหมดแรงจนแทบจะหายใจไม่ออก แต่เขาจะสลบไม่ได้ไม่งั้นเขาไม่เหลือชิ้นดีแน่ๆ
มันก้มลงเลียไปตามอกแกร่งลากเรื่อยไปที่หน้าท้องแบนราบแล้วมันก็สั่นสะเทือนไปทั้งศีรษะเมื่อทงเฮคว้าเ
อ็ม16ฟาดเข้าที่ใบหน้านั้นสุดแรง แต่เรี่ยวแรงที่ถดถอยมันก็ไม่สามารถคว่าชายร่างยักษ์ลงได้
กาปั้นไร้นวมเสยเข้าที่ปลายคางจนดาวลอยว่อน
เขาจะสลบไม่ได้
พร่าบอกตัวเองในใจเขาพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อไม่ให้อาการวูบมันทาร้ายเขาได้
แต่เรี่ยวแรงจะกระดิกตัวแทบจะไม่เหลือ
“ฤทธิ์มากนัก เดี๋ยวพ่อจับเชือดซะเลยนี่”
เสียงรูดซิปดังมาเข้าหู ทงเฮถึงกับขนลุกเกรียว ลมหายใจฝืดฝาดผสมกลิ่นสาบเหงื่อที่เหม็นจนหืน
เขายิ่งหมดเรี่ยวแรง ความเย็นชื้นที่แต่งแต้มหน้าท้องเรื่อยเลยไปหาจุดกระสัน
ปัง!
ชายฉกรรจ์สามคนถึงกับชะงักเมื่อเสียงปืนดังขึ้น
“คังชิกแม่งมันโหดฉิบหาย เขาหนีตายมาจนคางเหลืองยังไม่เว้น แถมฆ่าหมกป่าอีก เลวระยาเกินไปแล้ว
นายสั่งแล้วสั่งอีกไม่ให้ก่อเรื่องยังจะหาเรื่องจนได้”จงกุ๊กสบถออกมาอย่างไม่ชอบใจ
“เฮ้ยพวกเรา
ไปรอนายที่จุดนัดพบอีกสักพักนายกับคนของนายก็คงมาถึง”พาลูกน้องเดินต่อโดยไม่สนใจคังชิกอีก
สิ้นเสียงปืนทุกอย่างหยุดชะงัก ชายร่างยักษ์ซุกซบใบหน้ากับหน้าท้องของทงเฮด้วยดวงตาเหลือกโพลง
เลือดสดๆไหลทะลักออกทางหูสมองแตกกระจุยจนกระเด็นเต็มตัวเขา
มือที่กากระบอกปืนขนาด11มม.วางราบลงกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง
ใบหน้าที่ฟกช้าบวมปูดถึงกับเบ้หน้าร้องไห้ออกมาอย่างอดสูปนโล่งใจ
เขาพยายามพลิกตัวแล้วใช้เท้าถีบร่างใหญ่ให้พ้นร่างเขาก่อนจะพลิกตัวนอนคว่าแล้วสะอื้นออกมา
เขาไม่อยากฆ่าใคร แต่นายยักษ์ปักหลั่นนั่นมันทาร้ายเขาเอง
นอนซบพื้นนิ่งอยู่ชั่วครู่แล้วร่างเล็กก็ตัวแข็งทื่อเมื่อมีบางอย่างจ่อเข้าที่ท้ายทอยเขาจนรับรู้ความเย็นของโลห
ะชนิดนั้น มือเล็กกาปืนแน่นนิ้วเรียวขยับเข้าหาโก่งไกอัตโนมัติ
แต่เท้าที่หุ้มด้วยคอมแบ็ทเหยียบลงมาบนมือเล็กจนกระดูกเขาแทบหัก
“วางปืนไอ้น้อง ไม่งั้นสมองแกเละเหมือนคังชิกแน่”
ทงเฮวางปืนแล้วสูดลมหายใจเข้าปอด เอาเถอะอยากจะฆ่าจะแกงเขาก็เชิญ
เขารอดมาได้ขนาดนี้ก็ถือว่าดวงแข็งมากแล้ว ตอนนี้จะเป็นจะตายเขาไม่สนใจแล้ว
“ลุกขึ้นแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วอย่าตุกติกไม่งั้นยิงไส้ทะลัก”
“เขาจะลุกไม่ไหวแล้วจองซู
หน้าซีดเป็นไก่ต้ม”ชายร่างสูงหนวดเคราเฟิ้มที่เห็นแค่ดวงตาดาขลับคมปนเศร้ากับจมูกคม
เรียวปากที่โผล่ให้เห็นพ้นแนวหนวดเรียวบางได้รูปบอกเสียงเรียบ
ทงเฮลุกนั่งและจัดการตัวเองก่อนจะพยายามลุกขึ้นยืนด้วยแข้งขาที่สั่นเทาเพราะหมดแรง
“ดองกันซักประวัติซิ
เดี๋ยวขออัดบุหรี่สักมวน”ชายหนวดเคราเฟิ้มคนนั้นบอกแล้วถอยไปนั่งที่ตอไม้พร้อมกับจุดบุหรี่สูบสายตาจั
บจ้องเขานิ่ง
“ชื่ออะไรนะเรา”
ชายที่ชื่อดองกันถามแล้วยืนกอดอกส่วนนายหนวดนั่นมองโดยรอบแล้วหันสบตาเขาเพียงแวบเดียว
ส่วนชายที่ชื่อจองซูก็เล็งปืนกลางขมับเขาพร้อมจะเหนี่ยวไกตลอดเวลา
“อี ทงเฮ”
“แล้วทาไมถึงมาอยู่ที่นี่ในสภาพแบบนี้”
“ผมถูกตามล่าตกหน้าผา แล้วขอความช่วยผู้ชายสี่คนแต่คนนี้มันจะข่มขืนผม”
“ไม่รู้หรือว่าที่นี่เขาไม่ขอความช่วยเหลือใครสุ่มสี่สุ่มห้า”
“ผมหนีตายมา ไม่รู้ด้วยซ้าว่าที่นี่ไหน”
“ที่นี่คือแนวตะเข็บที่จะไปฝั่งเหนือและเป็นเขตเดินเรือของแผ่นดินใหญ่”
“ดองกัน!”
ชายหนวดเคราเฟิ้มนั้นปรามเสียงเรียบ
“นายทาคนของเราตาย นายต้องทางานชดใช้ครอบครัวเขาจนกว่านายใหญ่จะอนุญาตให้นายกลับได้”
“บ้าหรือ ไอ้คนเฮงซวยนั่นมันซ้อมชั้นแทบตาย แถมจะข่มขืนอีก พวกนายมันเผด็จการเห็นแก่ตัว”
ดองกันเงื้อฝ่ามือหมายจะฟาดไปที่ใบหน้าของทงเฮ
“ไม่ต้องดองกัน เดี่ยวชั้นเจรจาเอง”
นายหนวดที่ท่าทางจะเป็นหัวหน้าของพวกนี้อัดบุหรี่เข้าปอดแล้วโยนลงพื้นก่อนจะใช้เท้าที่หุ้มด้วยคอมแบ็ท
เหยียบจนมันดับก่อนจะเดินมาหยุดลงตรงหน้าทงเฮ
“ถิ่นนี้มันที่ของเขา นายมาเสนอตัวให้เขาเอง แล้วยังเอาชีวิตเขาอีก นายมันทาเกินกว่าเหตุ”
“บ้าหรือ ทีไอ้กากนั่นทั้งชกทั้งต่อยชั้นแถมจะข่มขืนชั้นมันไม่ผิดใช่ไหม”
“ชกกับต่อยมันเหมือนกัน นายอย่ามาบวกข้อหาให้คังชิกมันเพิ่ม”สบตาทงเฮนิ่ง
กวนตีน
ทงเฮเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจ
“แล้วอีกอย่างเขายังไม่ข่มขืนนาย”
“ต้องให้มันเสียบก่อนค่อยฆ่าหรือไงละ บ้าไปแล้ว”บ่นงึมงาจนดองกันกับจองซูต้องอมยิ้ม
แต่นายหนวดคนนั้นมีแค่ดวงตาเท่านั้นที่ไหวระริก แต่พอสายตานั้นตวัดผ่านหน้า ทั้งสองจึงหุบยิ้มทันที
“ชั้นไม่สนว่ามันจะได้เสียบก่อนโดนฆ่า หรือโดนฆ่าทั้งที่ยังไม่ได้เสียบ แต่ที่นี่ชั้นคือผู้คุมกฎ
นายฆ่าคนของชั้น ฉะนั้นชีวิตนายเป็นของชั้น”
“มันกฎบ้านป่าเมืองเถื่อนอะไรไม่ยุติธรรมเลย”
“การที่ชั้นไม่ฆ่านายให้ตายตามคังชิก นั่นคือความปรานีที่สุดที่ชั้นมอบให้นายแล้ว อี
ทงเฮ”มือหยาบตบแปะๆที่ใบหน้าเขาแล้วแสยะยิ้ม
“ขอต่อรอง”ยกแขนที่ฟกช้าขึ้นไขว้กันเป็นกากบาท
“นายไม่มีสิทธิต่อรองตั้งแต่คังชิกหมดลมหายใจแล้ว”
“อย่างน้อยๆไอ้ห่านั่นมันก็ทาร้ายชั้นก่อน”
“แต่นายแล่นมาให้เขาเล่นงานเอง”นิ้วยาวบีบแก้มทงเฮจนหน้าเหยเก
“ถ้ารู้ว่าจะหนีตายมาเจอคนเฮงซวยอย่างพวกนาย ใครมันจะวิ่งมาละ
ให้ปลาฉลามกินหรือเสือขย้ายังจะมีเกียรติมากกว่าอีก”
“อยู่เป็นคนของชั้นนี่ล่ะ มีเกียรติที่สุดของลมหายใจนายแล้ว”
“มันต้องมีเวลาปลดปล่อย ไม่อย่างนั้นชั้นขอยอมตาย”
“โอเคด้วยเกียรติของผู้คุมกฎ คังชิกเป็นคนของชั้นมาหกปี โทษฐานที่มันทาเฮงซวยห่าเหวกับนาย
ลดหย่อนโทษให้กึ่งหนึ่ง”
“ค่อยยังชั่ว”
“นายต้องทางานรับใช้ชั้นสามปี”
“บ้าเหรอ สามปีอยู่กับคนเฮงซวยแบบพวกนายก็หัวหงอกกันพอดี”โวยวายอย่างไม่ยอม
ตอนแรกหน้าเหลืองยังกับจะน็อกในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง ตอนนี้เถียงเขาคอเป็นเอ็นมันน่านัก
เหลือบสบตาแวบเดียวก่อนจะเอ่ยต่อ
“นายจะรอดชีวิตและอยู่อย่างปลอดภัย ไม่ต้องคอยระวังว่าใครจะมาดักรอเสียบ เพราะนายคือคนของชั้น
นี่คือความปรานีของผู้คุมกฎ”
“ความปรานีห่านอะไรตั้งสามปี มันก็เหมือนติดคุกดีๆนี่เอง”
“นายไม่มาเจอพวกชั้น นายก็ต้องเจอพวกอื่น เส้นทางนี้คือทางสัญจรของหมู่โจร และพวกอิทธิพลมืด
คนของชั้นมีแค่คังชิกที่หื่นกาม แต่กับคนอื่น นายโดนรุมโทรมไปแล้วทงเฮ”
ความจาแม่นฉิบหาย เอ่ยชื่อเขายังกับรู้จักกันมาเป็นสิบปี ทั้งที่เขาเพิ่งแนะนาแท้ๆ
“แต่คาดว่าผู้คุมกฎของที่อื่นคงจะไม่เผด็จการเหมือนนายแน่ๆ”ต่อตาไม่ยอมหลบ
“อย่าตัดสินคน แค่เห็นเขาครั้งแรก และรู้จักเพียงผิวเผินทงเฮ คนหน้าใสใจคดมีเยอะแยะไป”
“คนหน้าใสยังใจคด คนหน้ารกมันจะใสก็ให้มันรู้ไป”สิ้นคาของทงเฮดองกันกับจองซูก็ต้องอมยิ้มอีกรอบ
คนหนวดเคราเฟิ้มถึงกับชะงัก นิ้วยาวลูบเคราและไรหนวดอย่างลืมตัว
“ดองกันจองซู พวกนายยิ้มอะไร”
“เอ่อเปล่าครับนาย”ทั้งสองปฏิเสธละล่าละลัก
“งั้นเตรียมตัวเดินทาง ป่านนี้จงกุ๊กคงไปรอที่จุดนัดหมายนานแล้ว”
“เราด้วย เดินให้เก่งอย่างที่เถียงชั้นนะ ไม่งั้นชั้นจะให้ลูกน้องชั้นส่งนายลงเหว”
พรึ่บ!
จบประโยคก็โยนเสื้อตัวนอกมาคลุมศีรษะของทงเฮแล้วเดินลิ่วนาหน้าทุกคนไป
ทงเฮรีบสวมเสื้อแล้วเขยกตามทุกคนไป
“หิวน้า ขอน้าหน่อยสิ”บอกออกมาลอยๆเพราะเขาจาชื่อใครไม่ได้เลย
“จองซูจัดการซิ”
“ครับนาย”
จองซูปลดน้าที่แขวนไว้ที่เอวส่งให้ทงเฮ เขาค่อยๆจิบเพราะกลัวจะจุก เพราะในกระเพาะเขาไม่มีอาหารเลย
“เก่งเหมือนกันนี่ รู้หรือว่าเวลาเข้าป่าเราต้องจิบน้าเพราะมันหาน้ายาก”
“ไม่รู้หรอก แต่กลัวลมตีขึ้น ไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เมื่อเช้า”
“มีอะไรให้จัดการอีกไหมครับนาย”จองซูถามแผ่นหลังคนที่ตั้งหน้าตั้งตาเดินโดยไม่สนใจคนข้างหลัง
“ไม่ต้อง เขาไม่ตายลงทันดีทันใดหรอก อดอีกแป๊ บเดียวก็ถึงจุดนัดหมายแล้ว ค่อยกินพร้อมกัน”
“ครับนาย”
“แค่จะกินข้าวยังต้องรอคาสั่งหรือ”
“เงียบ เดี๋ยวถึงเวลาจะไม่ได้กิน”ดองกันปรามออกมาอีกแรง
“ปกครองแบบทาสชัดๆ”
เดินเขยกจนจองซูต้องช่วยพยุง
“หิวจนตาลายแล้วเนี่ย”
“ถ้าบ่นอีกคา ชั้นจะให้จองซูเอาไปขังให้นอนในถ้า ให้ค้างคาวทึ้ง”
“เงียบนะ มันเป็นข้อกาหนดโทษ ไม่ใช่คาขู่”จองซูขู่สาทับ
ฮึ่ย!ไอ้หนวดเฟิ้ม มองแผ่นหลังกว้างของคนตัวสูงแทบจะค้อน
ไม่รู้ไปกินอะไรมาตัวสูงเชียว มองทีจนคอจะตั้งบ่าส่วนสูงก็ไม่น่าจะเกินซีวอน แต่ที่สูงมาก
คงเพราะส้นรองเท้าคอมแบ็ทแน่ๆ เขาเหนื่อย การเดินเท้าเปล่าในป่ามันไม่ใช่เรื่องตลก
หนามทิ่มกิ่งไม่ข่วนจนเลือดซิบ มองจะไม่เห็นอะไรแล้ว มันเริ่มมืดจนเห็นดาวระยิบระยับ คิดถึงซีวอน
คิดถึงทุกคนที่บ้าน หิ่งห้อยก็บินว่อนเลย
หิ่งห้อย
ร่างที่โงนเงนทาให้จองซูต้องแบกขึ้นบ่าแทนพยุง
“ทนอีกนิด เดี๋ยวเราก็ถึงที่หมายแล้ว”
“ปฐมพยาบาลหน่อยซิจองซู เดี่ยวใจเสาะตายก่อนรับใช้ชั้นพอดี”
จองซูวางร่างที่หายใจรวยรินลงพื้น โดยมีเจ้านายหนวดเฟิ้มโยนเป้ ใบเล็กมาให้รองศีรษะ
“ตัวร้อนมากเลยครับนาย ท่าทางจะไข้ขึ้น แผลตามตัวก็บวมและอักเสบมาก”
“คิดว่าตัวเองเป็นนางเอกละครหรือไง นิดหน่อยก็ไข้ขึ้น”
“ไม่หน่อยนะครับนาย แผลเต็มตัวเลย”
“เต็มตัวก็กรอกยาสิ ต้องให้สั่งทุกอย่างหรือไง”
“ครับๆดูเดี๋ยวนี้แล้วครับ”
“ดองกันอยู่เป็นเพื่อนจองซูนะ เดี๋ยวชั้นจะไปพบจงกุ๊กก่อน รอนานเดี๋ยวกลับลาบาก
เดี๋ยวเจ้าตัวเล็กนั่นฟื้นค่อยพาตามไป”
“ครับนาย”
ร่างสูงออกเดินทางต่อเพียงลาพังปล่อยให้ลูกน้องปฐมพยาบาลทงเฮ
ไม่นานร่างเล็กก็เริ่มรู้สึกตัว
“กินขนมปังร้องท้องสักนิดนะจะได้กินยา”จองซูแกะขนมปังให้อย่างใจดี
“ขอบคุณนะดองกัน”
“จองซูไม่ใช่ดองกัน”
“เหรอ งั้นพี่ชายคนนั้นก็ชื่อดองกัน”
“ใช่ รีบๆกินเราจะได้เดินทางต่อ ถ้ามืดแล้วลาบาก”
“ทาไมละ เสือเยอะหรือ”
“ทั้งเสือทั้งคนเลยละ”จองซูบอกยิ้มๆแล้วมองทงเฮกินขนมปังอย่างหิวจัด
“แล้วนายหนวด เอ่อ นายของพี่จองซูชื่อไรละ”
“คุ่ยเสียน”
“ชื่อแปลกจัง”
“รีบๆกินเราจะออกเดินทางแล้ว”ดองกันบอกเสียงเรียบพร้อมกับคว้าสัมภาระ
ทงเฮรีบกลืนและรับยาจากจองซูเข้าปากแล้วดื่มน้าตาม
ทั้งสามออกเดินทางตามหลังเจ้านายทันที
>>>>>>>>>>>>>> Love Story15 <<<<<<<<<<<<<
ชายฉกรรจ์สามคนที่นั่งรออยู่หน้าปากถ้าบนเขาลูกใหญ่
ด้านหน้าของปากถ้าเป็นลานกว้างจนจรดหน้าผาสูงชัน มองเห็นทิวทัศน์ของท้องทะเลสุดลูกหูลูกตา
ส่วนอีกด้านเป็นแนวป่าทึบที่เขียวขจีจนส่งให้อากาศสดชื่น เย็นสบาย
พอชายหนุ่มร่างสูงหนวดเคราเฟิ้มเดินเข้าไป ชายฉกรรจ์ทั้งสามรีบลุกต้อนรับอย่างเป็นระเบียบ
“มีข่าวอะไรส่งมาไหมจงกุ๊ก”
“มีคาสั่งบอกให้นายกลับออกจากป่าครับ”
“ภารกิจยังไม่เสร็จ ถ้าเรียบร้อยเมื่อไหร่จะกลับ ฝากบอกนายใหญ่ด้วย”
“อ้อ รายงานนายใหญ่ด้วยว่า คังชิกโดนระเบิดสมองไปแล้ว”
“ใครทาอะไรมันครับนาย”
“มันทาอะไรใครไว้ละ”
“ไอ้ตัวเล็กนั่นโค่นคังชิกได้หรือ ไม่น่าเชื่อ”
“มันบ้ากามจนหน้ามืดไง พ่อเลยส่องสมองเละเลย”
“ของอยู่ในเป้ ทั้งหมดนะครับนาย นายใหญ่จัดการทุกอย่างเองเลย”
“ขอบใจทุกคนมาก กลับกันได้แล้วล่ะ ถ้ามืดจะลาบาก เดี๋ยวจองซูกับดองกันมาถึง ชั้นจะออกทางลัดเลย”
“งั้นพวกเราลานะครับนาย”น้อมศีรษะแล้วออกเดินทาง
ร่างสูงทรุดกายลงข้างกระเป๋ าเป้ ใบใหญ่แล้วสารวจสิ่งที่อยู่ภายใน
ทองคาแท่งที่เรียงเป็นตับเต็มกระเป๋ า
อีกหนึ่งใบบรรจุกระสุนหลายขนาดสาหรับอาวุธของเขารวมถึงยาสามัญประจาบ้านที่จาเป็นอีกหนึ่งกล่อง
คุ่ยเสียนมองสิ่งของตรงหน้าพลันใจเขาก็คิดถึงคนให้
แล้วใบหน้าที่รกด้วยหนวดเคราก็อดยิ้มออกมาน้อยๆไม่ได้
จนใบหน้าที่รกไปด้วยหนวดเคราดูละมุนละไมจนทงเฮที่เพิ่งเดินมาถึงมองตาไม่กระพริบ
จนเขาหันไปสบตาร่างเล็กถึงได้มองเมินไปทางอื่น
“มาขนของเร็ว เราจะออกทางลัด”สั่งลูกน้องพร้อมกับตัวเองคว้าเป้ มาสะพายเองหนึ่งใบ
“ได้ครับนาย”
“ต้องเดินอีกแล้วหรือ ไกลไหม ชั้นไม่ไหวแล้ว”
“คิดซะว่ากาลังหนีตาย ถ้านายอยู่ที่นี่ ไม่โดนเสือขย้า ก็โดนโจรปล้า”
“สารรูปตอนนี้ ใครมันหน้ามืดก็ปล่อยมันเถอะ ชั้นไม่ไหว ล้าจนอยากจะอวกออกมาเป็นเลือด”
“จะอยู่ที่นี่ก็ตามใจ จองซูกับดองกันต้องกลับพร้อมชั้น ไปพวกเรา”เดินลิ่วนาหน้าลูกน้อง
“บอกให้เอาบุญนะทงเฮ กลางป่าแบบนี้ ศพมันยังข่มขืนเลย
เพราะมันได้อารมณ์มากกว่าช่วยตัวเอง”เข้าไปกระซิบกระซาบที่หูจนทงเฮตกใจอ้าปากหวอ
แล้วเดินลิ่วไม่เหลียวหลังโดยมีจองซูกับดองกันนาทาง
“คุ่ยเสียนชั้นไปด้วย”ลนลานตามร่างสูงอย่างไม่รู้เรี่ยวแรงมาจากไหน
และคงลืมอีกอย่างว่าเขาจาชื่อคุ่ยเสียนได้ทั้งที่จองซูบอกแค่ครั้งเดียว
“ใครเป็นคนพรีเซนท์ชื่อชั้น”
“จองซู”ตอบแทนจองซูที่เดินอยู่หน้าสุด
“มันน่าจะให้อดข้าวซักสามวันจริงๆ โทษฐานปากพร่อย”
“โหยชื่อออกจะโหล แค่นี้หวง”
“ถึงเวลาปีนข้ามเขาด้วยสะลิงให้มันเก่งอย่างปากนะ ไม่งั้นพ่อจะยันลงเหว”
“พวกชอบใช้กาลังเอะอะก็จะยันๆ”บ่นงึมงาตามหลังขาเริ่มล้าจนแทบก้าวไม่ออก
เดินก้มหน้าก้มตาตามไปด้วยอาการล่อแล่
“กินเหล้าผสมช้างผสมม้ามาหรือไง เดินไม่รู้จักเหนื่อย
อ๊ะ!”จบประโยคเขาก็โดนคว้าตัวจนล้มทั้งยืนพร้อมกับกลิ้งหลุนๆลงหลุมที่ต้นไม้ใหญ่โค่นราบลงไปกับเขา
สูงชัน
เขาเตรียมโวยวายแต่มือใหญ่ปิดปากเขาแน่นพร้อมกับขึงตา นิ้วยาวจ่อเข้าที่ปาก
เสียงกิ่งไม้หักเสียงคุยกันฟังไม่ได้ศัพท์ และคนน่าจะมากกว่าพวกเขา
ทงเฮกลั้นหายใจเมื่อเสียงนั้นใกล้เข้ามา
ภาษาที่ใช้คุยกันเขาฟังไม่รู้เรื่องเสียงนั้นใกล้เข้ามาราวกับกาลังพูดอยู่บนศีรษะจนเขาต้องหลับตาปี๋
เสียงพูดคุยเริ่มห่างออกไป เขาจึงเริ่มผ่อนลมหายใจออกมา
“ค่อยยังชั่ว ลุ้นจนฉี่จะราด”ลุกขึ้นปัดฝุ่นและเศษกิ่งไม้ตามตัว
ปัง!
ร่างทงเฮปลิวหวือเมื่อคุ่ยเสียนกระโจนคว้าตัวเขาจนล้มกลิ้งหลุนๆลงไปติดที่กิ่งไม้ต้นที่โค่นล้มอยู่
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงปืนดังสู้กัน ทงเฮพยุงตัวเตรียมลุก แต่เขากลับโดนคุยเสียนถีบจนล้มถลาลงอีกรอบ
ปัง!
ร่างชายนิรนามลอยหวือราวกับนกปีกหักเข้าหาเขาเมื่อเจอกับลูกกระสุนของคุ่ยเสียน
แต่ร่างเล็กก็พลิกตัวหนีตามสัญชาตญาณเอาตัวรอด
“นายเป็นไงบ้าง”จองซูกับดองกันวิ่งเข้ามาดูอาการผู้เป็นนาย
“ไม่เป็นไร แล้วที่เหลือละ”
“ตายหนึ่งหนีสองครับนาย”ดองกันรายงาน
“ยังไม่รู้จักกันเลย ฆ่ากันแล้ว”
“โจรบ้านนายก่อนจะปล้นมันซักประวัตินายก่อนหรือไง อย่าโลกสวย”
โดนอีกหนึ่งดอก
เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจ
“รีบออกเดินทางเถอะ
ยิ่งมืดเราจะยิ่งลาบาก”ถึงที่พักสักสามทุ่มก็ยังดี”คุ่ยเสียนบอกแล้วคว้าสัมภาระสะพายอีกรอบก่อนจะเดินตาม
จองซูและดองกันไป
ทงเฮได้ยินแบบนั้นเข่าเขาแทบทรุด ตอนนี้มันน่าจะประมาณหกโมงเย็นเขาต้องเดินอีกตั้งหลายชั่วโมง
แต่พอเห็นทุกคนลาบากเพราะต้องต่อสู้เอาชีวิตรอดเขาก็ไม่กล้าบ่น
ในป่าลึกแบบนี้คนมีสารพัดรูปแบบ ไว้ใจใครไม่ได้เลย
ที่เขายอมมากับทั้งสามก็เพราะไว้ใจได้ที่สุดเท่าที่เขาเจอคนแปลกหน้ามาเท่านั้นเอง
เขาหวังว่าหากเขามีชีวิตรอดออกไปจากป่านี้ในสักวัน เขาจะได้กลับไปหาครอบครัวเขา
ตอนนี้สิ่งที่ทาได้คือเดินตามทุกคนไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง
ฮีชอลรอรับลูกชายที่สถานีรถไฟ พร้อมพ่อบ้านยุน เขามองซ้ายมองขวาว่าลูกชายอยู่ส่วนไหนของสถานี
แต่จนแล้วจนรอดก็หากันไม่เจอ
นิ้วเรียวกดมือถือโทรหาลูกชายหัวคิ้วขมวดมุ่นด้วยความเป็นห่วง
แล้วเสียงเพลงรอสายเพลงประกอบการ์ตูนชื่อดังของญี่ปุ่นก็ดังขึ้นด้านหลังเขาจนต้องหันมอง
“คุณฮี”
หนุ่มน้อยตัวขาวร่างบาง ยิ้มอวดเหงือกก่อนจะผวาเข้ากอดฮีชอลที่กางแขนรอ
“ตัวป่วนของคุณฮี โตเป็นหนุ่มแล้ว”
“เจ๋งใช่ไหมครับ คุณฮียังหนุ่ม มีลูกชายโตเป็นหนุ่มและหล่อขนาดนี้”
“ครับเจ๋งครับ”สองพ่อลูกกอดกันหัวเราะร่า
“ทาความเคารพพ่อบ้านยุนก่อนเร็ว”
“สวัสดีครับพ่อบ้านยุน”น้อมศีรษะพร้อมกับยิ้มเหงือกบาน
“สวัสดีครับ คุณหนูฮยอกแจโตเป็นหนุ่มจนผมจาแทบไม่ได้เห็นตั้งแต่คุณสามขวบ ดีว่าหน้าไม่เปลี่ยนมาก
ยังยิ้มหน้าเป็นเหมือนเดิม”
“ผมหน้าตาดีเหมือนคุณฮี”กอดเอวฮีชอลแล้วเดินตามกันไปที่รถเพื่อจะกลับขึ้นเขาไปยังบ้านตระกูลชเว
ฮยอกแจลงจากรถแล้วเกาะแขนฮีชอลสายตากราดมองไปรอบๆบริเวณ ไร่ส้มขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา
ฟาร์มปสุสัตว์และทิวเขาที่เขียวขจี เขามาบ้านหลังนี้ครั้งแรกตอนที่เด็กมาก
เด็กจนจาไม่ค่อยได้ว่ามันเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง
แต่เท่าที่เห็นตอนนี้คือบรรยากาศดีมาก เขาชอบ วันหลังจะไปหัดขี่ม้า
มองโดยรอบจนมาหยุดที่ชายสามคนที่ยืนรออยู่หน้าคฤหาสน์
เขารู้จักทุกคนเพราะมีรูปญาติฝ่ายพ่อติดอยู่ที่บ้านทุกคน แต่เขาจาไม่ได้ว่าเคยสนิทกันยังไง
“คุณฮี แล้วอาทงเฮละ”
“เดี๋ยวค่อยคุยกันครับ ไปทาความเคารพคุณปู่กับคุณอาทั้งสองก่อนเร็ว”
หนุ่มน้อยเข้าไปน้อมศีรษะทาความเคารพทุกคนและแจกกอดจนครบทุกคนเหมือนกัน
“โตเป็นหนุ่ม หุ่นบางร่างเพรียวเป็นเด็กผู้หญิงเลยเรา”ประมุขชเวกอดพร้อมกับทักทายหลานชายยิ้มๆ
“สมัยนี้เขาฮิตหุ่นแบบนี้ครับคุณปู่ จะได้ไม่ต้องรักษาโรคอ้วน”ยิ้มอวดเหงือกอีกรอบ
“เข้าบ้านดีกว่านะมาเหนื่อยๆจะได้ทานอาหารกัน พรุ่งนี้เดี่ยวพ่อเราคงพาเที่ยวไร่”
“พรุ่งนี้ต้องออกท่าเรือไปพบเจ้าหน้าที่เรื่องทงเฮครับพ่อ
แล้วจะแวะไปดูอาการพ่อบ้านคิมด้วย”ฮีชอลบอกตามหลังมา
“เดี๋ยวผมพาหลานเที่ยวเองก็ได้ครับ”ซองมินบอกพร้อมกับยิ้มอวดฟันกระต่ายอย่างใจดี
“ไม่กวนอาซองมินหรอกครับ ผมรอคุณฮีก็ได้ ตัวคุณอายังไม่หายช้าเลย”
“ซองมินเขาตกม้าเมื่อวาน
วันนี้เลยดูช้าเลือดช้าหนองอยู่”ประมุขชเวพูดกลั้วหัวเราะบอกหลานชายและจับจูงไปนั่งลงเก้าอี้ติดกันที่โต๊ะ
อาหาร
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมอาสาพาหลานเที่ยวเองก็ได้ครับ ต้องออกไร่ตอนเช้าพอดี คงมีเวลาอยู่กับเขาหลายชั่วโมง
ตอนบ่ายถึงจะเข้าออฟฟิศ”ซีวอนอาสาเสียงเรียบ
แต่ดวงตาใสแจ๋วที่มองสบมาอย่างขอบคุณมันก็ทาให้เขาปลื้มเปรมในอกอย่างประหลาด
คงจะเป็นที่ความภาคภูมิใจที่ทาให้หลานชายตัวบางถูกใจกระมังถึงได้รู้สึกดีขนาดนี้
“ถ้าทงเฮอยู่อีกคนคงได้สปอยหลานจนเสียผู้เสียคนแน่ๆ
ป่านนี้เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้”ฮีชอลพูดขึ้นทาลายภวังค์ของซีวอน จนทุกคนหน้าหมองไปถนัด
“พรุ่งนี้ทางตารวจคงจะจัดหน่วยสืบสวนออกตามหา ทางเราก็จ้างสายสืบอีกทางหนึ่ง
น่าจะได้ข่าวคราวอะไรบ้าง”
“พรุ่งนี้รอฟังจากปากพ่อบ้านคิมเราคงได้เบาะแสเพิ่มขึ้น”ประมุขชเวพูดด้วยเสียงเนือยๆก่อนมองเห็นหลาน
ชายที่กาลังตั้งใจฟังจนอ้าปากหวอ
“อ้าวดูซิฮยอกแจเลยอ้าปากหวอเลยลูก เอ้าลงมือทานข้าวกันดีกว่า
พรุ่งนี้จะได้มีแรงสู้กับงาน”ลงมือรับประทานอาหารกันเงียบๆโดยไม่มีใครปริปากขึ้นมาอีกเลย
ด้วยกาลังเป็นห่วงทงเฮ
หลังจากอิ่มอาหารต่างแยกย้ายกันพักผ่อน ฮีชอลโอบไหล่ลูกชายขึ้นบ้านและพาไปชมห้องนอน
“วันนี้ขอนอนกับคุณฮีก่อน พรุ่งนี้จะนอนห้องตัวเอง นะครับ”กระโจนขึ้นเตียงแล้วพูดงึมงา
“ทาไมละ กลัวผี?”เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“ถามแบบนี้โกรธ”ดึงหมอนมาปิดหน้า
“ทาไมละ คุณฮียังไม่ได้ว่าอะไรเลย”
“ก็มาหาทั้งที ผลักไสไล่ส่งลูกตัวเอง”
“โอ๋ มาจุ๊บเหม่งปลอบ”ดึงหมอนออกจากใบหน้าแล้วจุมพิตหน้าผากมนของลูกชายเพราะนึกหมั่นเขี้ยว
“คุณฮีไม่จุ๊บนะ โตแล้ว”หลบเรียวปากบิดาเป็นพัลวันจนเข้ากอดเอวแล้วซบใบหน้าที่ตักอย่างออดอ้อน
“คิดถึงที่สุดเลย”ซบหน้าแล้วกอดเอวแน่น
“คุณฮีก็คิดถึงลูก วันนี้เราจะนอนด้วยกัน”
“รักที่สุด”แหงนเงยใบหน้ายิ้มอวดเหงือกจนตาหยี จนฮีชอลจุมพิตหน้าผากมนด้วยความเอ็นดู
“คุณอาบน้าก่อน ฮยอกแจไปอาบน้าที่ห้องไป จะได้ไม่ต้องรอคุณ”
“คุณฮีนอนก่อนเลยครับ
ผมจะไปเดินเที่ยวรอบบ้าน”วิ่งออกจากห้องไม่เหลียวหลังจนฮีชอลต้องส่ายศีรษะยิ้มๆด้วยความระอาปนเอ็
นดู
จุดโฟกัสตามจับภาพฮยอกแจที่กาลังเดินสารวจบริเวณบ้าน
หนุ่มน้อยวัยใสรูปร่างโปร่งบางผิวขาวจนอมชมพู ดูผิวเผินเหมือนหนุ่มน้อยวัยรุ่นทั่วไป
แต่รูปร่างบอบบางกับการแต่งตัวที่ดูสดใสสมวัย
ด้วยเสื้อฮู๊ดตัวสวยกับกางเกงยีนส์ขาเดปที่เอวโหลดต่าพองามรัดด้วยเข็มขัดเส้นสวย
ทาให้เห็นเอวสอบแบบบางกับสะโพกเพรียวที่ใครมองก็ต้องหวั่นไหวในอารมณ์ไม่ว่าหญิงหรือชาย
ใบหน้าแป้ นแล่นนั้นมองผิวเผินก็เด็กตาตี่ธรรมดา แต่แววตาสดใสบวกเครื่องหน้ากระจุ๋มกระจิ๋ม
เขาก็ดูโดดเด่นอย่างหาตัวจับยากเลยที่เดียว
หนุ่มน้อยเดินไปเกาะรั้วมองไร่ส้มและคอกม้าเมื่อซีวอนกาลังเดินเข้าไปหา
“ไม่อาบน้าพักผ่อนละ มาถึงเหนื่อยๆ”ยิ้มแก้มบุ๋มให้หลานชาย
“เดี๋ยวค่อยอาบครับคุณอา ผมอยากมาดูม้า”
“ขี่ม้าเป็นหรือ”
“ไม่เป็นครับแต่ม้ามันสวย ขี่แล้วดูสง่าเหมือนราชา ผมอยากขี่เป็นอย่างนั้นบ้าง”
“วันหลังอาสอนขี่ม้าเอาไหม”
“คุณอาพูดจริงนะ”เข้าเกาะแขนอย่างลิงโลด
“จริงสิ อาจะหลอกเราทาไม”
“คุณอาใจดีที่สุดเลย พรุ่งนี้ผมจะตื่นแต่เช้าคุณอาต้องรอผมนะ ห้ามเข้าไร่ก่อนนะ”
“โอเค เข้าบ้านเถอะยิ่งมืด ยุงยิ่งชุม”
“ถ้าผมไม่ตื่นอาต้องเข้าไปปลุกนะ
ห้ามเกรงใจนะ”เอียงหน้าเข้าหาจนปากจะชนแก้มพร้อมกับเกี่ยวแขนเดินเข้าบ้าน
“โอเคครับคุณหลาน”หัวเราะคิกคักเกี่ยวแขนกันเข้าบ้านโดยไม่รู้เลยว่ากาลังตกอยู่ในสายตาของบุคคลนิรนา
ม
“อ้าว สองอาหลานไปเที่ยวไหนกันมา ยุงไม่หามแย่หรือ”ยิ้มใสอวดฟันกระต่าย
“กลัวยุงหามนี่ละครับ เลยรีบพาฮยอกแจเข้าบ้าน พี่ซองมินจะไปไหนหรือครับ”
“ว่าจะเข้าห้องหนังสือสักหน่อย ช่วงนี้ติดนิยาย”
“งั้นผมขอพาหลานขึ้นบ้านก่อนนะครับ
พรุ่งนี้นัดกันจะไปหัดให้เขาขี่ม้า”ยิ้มแก้มบุ๋มให้ซองมินแล้วดันตัวหลานชายให้เดินนาขึ้นบ้าน
“เห่อคุณหลานเป็นการใหญ่”ยิ้มใส ก่อนจะฮัมเพลงโปรดไปที่ห้องหนังสือเพื่อหาหนังสือเล่มโปรดอ่าน
ยิ่งมืดอากาศรอบด้านยิ่งเย็นจัดจนทงเฮสะบัดร้อนสะบัดหนาว บาดแผลตามตัวก็อักเสบจนปวดตุบไปทั้งตัว
กราดสายตามองทิวเขาที่อากาศรอบด้านเริ่มมืดครึ้มมันยิ่งดูน่ากลัวและหนาวเหน็บจนจับขั้วหัวใจ
แล้วลวดสลิงเส้นเท่าแขนที่ขึงไปอีกฝั่งของเขาอีกลูกมันมีในป่านี้ได้ยังไง
เข็มขัดนิรภัยที่เกี่ยวกับลวดเส้นขนาดใหญ่เพื่อรองรับน้าหนักคนที่ห้อยระโยงรยางค์นั่นอีก
มองสามหนุ่มที่กาลังตรวจสอบสภาพการใช้งานของเข็มขัดนิรภัยก่อนจะใช้เข็มขัดรัดตัว
เขาถึงกับทรุดนั่งอย่างหมดแรงจริงๆ
“อย่าบอกนะว่าเราจะต้องข้ามไปฟากโน้นด้วยการไต่ลวดสลิงเส้นนั้น”ถามออกมาเสียงแหบโหย
“ไม่ใช้ลวด นายจะบินข้ามหุบเหวหรือไงละ”คุ่ยเสียนถามเสียงเยาะ
“มันไม่มีทางอื่นแล้วหรือไง ชั้นข้ามไม่ได้หรอก ก้าวขาจะไม่ออกแล้ว ที่อยู่มีเยอะแยะ
ทาไมต้องลาบากลาบนดั้นด้นเข้าไปอยู่ในป่าด้วย”
“ทางอื่นมี แต่ต้องเดินอีกเป็นวัน แต่ทางนี้สามสี่ชั่วโมงก็ถึงแล้ว”
“คนที่เขาไม่มีสัญชาติหรือแม้แต่ที่จะซุกหัวนอนเพราะไม่มีใครต้อนรับเขาเป็นพลเมือง
ในป่าลึกแบบนี้มันคืออาณาจักรที่เขาหาได้ เขาได้ที่อยู่อาศัยเหมือนเป็นที่ของเขาเอง”
“อย่าว่าแต่สามชั่วโมงเลย สามนาทีชั้นก็ก้าวขาไม่ออกแล้ว อีกอย่างอย่ามาเรียกอาณาจงอาณาจักรหน่อยเลย
ลักลอบอยู่ในประเทศเขาแท้ๆ”
“ตอนนี้นายกาลังเป็นอย่างที่ด่าเขานั่นละทงเฮ แผ่นดินที่นายกาลังเหยียบตอนนี้
มันไม่ใช่แผ่นดินประเทศนาย”
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15
Love story15

Contenu connexe

Plus de SATANAPUN

Plus de SATANAPUN (20)

Hbd.donghae 2013
Hbd.donghae 2013Hbd.donghae 2013
Hbd.donghae 2013
 
Part11
Part11Part11
Part11
 
Hbd.heechul
Hbd.heechulHbd.heechul
Hbd.heechul
 
Hbd. kyuhyun
Hbd. kyuhyunHbd. kyuhyun
Hbd. kyuhyun
 
Valentine day kyuhae
Valentine day kyuhaeValentine day kyuhae
Valentine day kyuhae
 
Love story13
Love story13Love story13
Love story13
 
Love story.12
Love story.12Love story.12
Love story.12
 
Part24
Part24Part24
Part24
 
Part23
Part23Part23
Part23
 
Part11
Part11Part11
Part11
 
Part10
Part10Part10
Part10
 
Part9
Part9Part9
Part9
 
Part7
Part7Part7
Part7
 
Part6
Part6Part6
Part6
 
Part5
Part5Part5
Part5
 
Love story11
Love story11Love story11
Love story11
 
Dictionary
DictionaryDictionary
Dictionary
 
Love story10 special
Love story10 specialLove story10 special
Love story10 special
 
Love story10
Love story10Love story10
Love story10
 
Forbidden love 5
Forbidden love 5Forbidden love 5
Forbidden love 5
 

Love story15