Accueil
Explorer
Soumettre la recherche
Mettre en ligne
S’identifier
S’inscrire
Publicité
Check these out next
พื้นฐานชีวิต 4.pptx
SunnyStrong
ยาหอมลมหายใจแห่งชีวิต
Wasan Yodsanit
โหงวเฮ้งกับงาน HR
Aek Samroeng
เรื่องการสืบพันธ์ของสุนัข
ต๊อบ แต๊บ
พื้นฐานชีวิต 9.pptx
SunnyStrong
สำนักปฏิบัติธรรมสุธัมมสถาน มงคลสามสิบแปด
Tongsamut vorasan
Case study โรคลม
tacrm
หลวงพ่อทูล วัฏฏะสงสาร
guestf16531
1
sur
158
Top clipped slide
พื้นฐานชีวิต 5.pptx
28 Mar 2023
•
0 j'aime
0 j'aime
×
Soyez le premier à aimer ceci
afficher plus
•
13 vues
vues
×
Nombre de vues
0
Sur Slideshare
0
À partir des intégrations
0
Nombre d'intégrations
0
Télécharger maintenant
Télécharger pour lire hors ligne
Signaler
Formation
ดวงจีน
SunnyStrong
Suivre
Publicité
Publicité
Publicité
Recommandé
พื้นฐานชีวิต 14.pptx
SunnyStrong
12 vues
•
214 diapositives
พื้นฐานชีวิต 33.pptx
SunnyStrong
16 vues
•
317 diapositives
สังสารวัฏ การเวียนว่ายตายเกิด
Padvee Academy
6.3K vues
•
44 diapositives
พื้นฐานชีวิต 38.pptx
SunnyStrong
13 vues
•
278 diapositives
พื้นฐานชีวิต 20.pptx
SunnyStrong
5 vues
•
275 diapositives
กลอน
Tongsamut vorasan
1.5K vues
•
19 diapositives
Contenu connexe
Similaire à พื้นฐานชีวิต 5.pptx
(20)
พื้นฐานชีวิต 4.pptx
SunnyStrong
•
7 vues
ยาหอมลมหายใจแห่งชีวิต
Wasan Yodsanit
•
1.7K vues
โหงวเฮ้งกับงาน HR
Aek Samroeng
•
17.7K vues
เรื่องการสืบพันธ์ของสุนัข
ต๊อบ แต๊บ
•
29.8K vues
พื้นฐานชีวิต 9.pptx
SunnyStrong
•
8 vues
สำนักปฏิบัติธรรมสุธัมมสถาน มงคลสามสิบแปด
Tongsamut vorasan
•
627 vues
Case study โรคลม
tacrm
•
12.8K vues
หลวงพ่อทูล วัฏฏะสงสาร
guestf16531
•
756 vues
Sale person's communication
Watcharin Chongkonsatit
•
394 vues
ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว
Panda Jing
•
3.4K vues
สุภีร์ ทุมทอง สติปัญญา
Tongsamut vorasan
•
355 vues
พื้นฐานชีวิต 37.pptx
SunnyStrong
•
10 vues
พื้นฐานชีวิต 41.pptx
SunnyStrong
•
10 vues
พื้นฐานชีวิต 30.pptx
SunnyStrong
•
11 vues
Primate-15-ก.ย.64.pdf
ssuser93bc4c
•
2 vues
ตายแล้วไปไหน
Panda Jing
•
1.2K vues
พื้นฐานชีวิต 27.pptx
SunnyStrong
•
8 vues
ค้นหาตัวเอง Usa
Taraya Srivilas
•
1.6K vues
แรงบันดาลใจจากความตาย
Maha Duangthip Dhamma
•
4.3K vues
การออกแบบสื่อนำเสนอ
Pises Tantimala
•
1.6K vues
Plus de SunnyStrong
(20)
คุณเป็นใคร 2.docx
SunnyStrong
•
23 vues
คุณเป็นใคร 3.docx
SunnyStrong
•
12 vues
คุณเป็นใคร 1.docx
SunnyStrong
•
23 vues
Austria.docx
SunnyStrong
•
7 vues
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
SunnyStrong
•
4 vues
7 Fear Archetypes.docx
SunnyStrong
•
5 vues
คุณเป็นใคร.docx
SunnyStrong
•
18 vues
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
SunnyStrong
•
5 vues
12 Poems.docx
SunnyStrong
•
11 vues
Mom's Telling Stories1.docx
SunnyStrong
•
3 vues
12 Poems.docx
SunnyStrong
•
5 vues
100 words for people.docx
SunnyStrong
•
8 vues
Main Character vs. Supporting Characters in Story Development.docx
SunnyStrong
•
3 vues
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
SunnyStrong
•
5 vues
Here are The Character Development Questions You Should Be Asking.docx
SunnyStrong
•
4 vues
characterdevelopmentquestions.docx
SunnyStrong
•
3 vues
characterdevelopmentquestions.docx
SunnyStrong
•
5 vues
ฟาร์มสุข 1.docx
SunnyStrong
•
6 vues
ฟาร์มสุข 2.docx
SunnyStrong
•
8 vues
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
SunnyStrong
•
7 vues
Publicité
Dernier
(20)
label stoi exercise.pptx
ssuseref5b61
•
5 vues
Brand guidelines อำเภอเมืองปทุมธานี.pdf
Bangkok University
•
5 vues
เทคนิตการสอนดนตรี.pptx
NaphatwarunAinsuwan1
•
3 vues
4conic_formula.pdf
SunisaTheswan
•
2 vues
m5lp ต้นไม้ทายใจ.pptx
PajeeluckKwanjai1
•
8 vues
คลองหลวง เที่ยวชิดติดกรุง.pdf
Bangkok University
•
5 vues
กิจกรรมชุมนุม ม.ต้น.pdf
ssusera453671
•
0 vue
ก่อนเรียนIS-20201.docx
วีระศักดิ์ ไชยขันธุ์
•
7 vues
STUDENT HANDBOOK 2566 v2.pdf
jintana ver
•
16 vues
ด้านการปฏิบัติตน ตัวชี้วัดที่ 4.pdf
PhanumatPH
•
8 vues
คู่มือmanual.pptx
rdbkk02
•
2 vues
การทำวิทยฐานะ.ppt
send2temp1
•
12 vues
หลักการและเหตุผลงานพัสดุ 2560.pdf
Naruechon Khwanpremruethai
•
1 vue
สารอินทรีย์ และหมู่ฟังก์ชัน : Organic Compounds and Functional Groups
Dr.Woravith Chansuvarn
•
42 vues
research 653.pdf
peter dontoom
•
17 vues
Luận văn thạc sĩ toán học.
ssuser499fca
•
9 vues
Math1 Calculus1 เซตSet (Basic) #1
TeerawutSavangboon
•
15 vues
ด้านการปฏิบัติงาน ตัวชี้วัดที่ 4.pdf
PhanumatPH
•
6 vues
ด้านการปฏิบัติงาน ตัวชี้วัดที่ 6.pdf
PhanumatPH
•
7 vues
Water_Cycle_watcchakrnam.pdf
Kru Bio Hazad
•
5 vues
พื้นฐานชีวิต 5.pptx
พื้นฐานชีวิต 5 ผู้เรียบเรียงรุ่นหลัง65 02/08/2565 09.59น.
สารบัญ ที่มาของโหราศาสตร ์จีน 中国占卜学
24 รูปทรง & ระบบ 5 ธาตุ 43 อ่าน นรลักษณ์ โหงวเฮ้ง ไม่ได้อ่าน แค่ ใบหน้า 80 เมื่อโลกหมุน โชคชะตาเปลี่ยน .. มนุษย์ก็ต้องปรับ 126 กินเสริมดวง 143
หัวข ้อตามวิชาจีนโบราณ (ตามความเข ้าใจของผู้เรียบเรียงฯ) หยิน-หยาง 5ธาตุจีน ฤดูกาล ฟ้า คน ดิน ปฏิกิริยา5ธาตุกับดิถี ปฏิกิริยานักษัตรกับดิถี ปฏิกิริยาระหว่างนักษัตร
ลักษณะการผันแปร 1
https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551 ลักษณะการผันแปร 2
ลักษณะการผันแปร 3 https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551
จาแนกพลังตามลักษณะของการ ทางาน ๑. พลังงานศักย์ (Potential
Energy) เป็นพลังงานที่เกิดขึ้น เมื่อวัตถุถูกวางอยู่ในตาแหน่งที่สามารถเคลื่อนที่ได ้ ไม่ว่าจากแรงโน้มถ่วง หรือแรงดึงดูดจากแม่เหล็ก เช่น ก ้อนหินที่วางอยู่บนขอบที่สูง
๒. พลังงานจลน์ (Kinetic
Energy) เป็นพลังงานที่เกิดขึ้นเมื่อวัตถุเคลื่อนที่ เช่น รถที่กาลังวิ่ง ธนูที่พุ่งออกจากแหล่ง จักรยานที่กาลังเคลื่อนที่ เป็นต ้น
๓. พลังงานสะสม (Stored
Energy) เป็นพลังงานที่เก็บสะสมในวัสดุหรือสิ่งของต่างๆ เช่น พลังงานเคมีที่เก็บสะสมไว ้ในอาหาร ในก ้อนถ่านหิน น้ามัน หรือไม ้ฟืน ซึ่งพลังงานดังกล่าว จะถูกเก็บไว ้ในรูปขององค์ประกอบทางเคมีหรือของ วัสดุหรือ สิ่งของนั้น ๆ และจะถูกปล่อยออกมา เมื่อวัสดุหรือสิ่งของดังกล่าวมีการเปลี่ยนรูป เช่น การเผาไม ้ฟืนจะให ้พลังงานความร ้อน
ลักษณะอาการของพลัง องค์ประกอบข ้างในพลังมีดังนี้ ๑.
ถูกผลัก (ชง) ๒. ถูกดึง (ฮะ) ๓. ระเบิด ปะทะ เสียดสี (เฮ ้ง, ไห่, ผัวะ) ๔. กดดัน (คัก/ขัก/เก๋อ)
ฤดูใบไม ้ผลิ ฤดูร ้อน ฤดูใบไม
้ร่วง ฤดูหนาว
พลังงาน หมวด นักษัตรจีน
นักษัตรไทย ศักย์ ความรัก,ของสวยงาม (แม่ ธาตุ) 子 午 卯 酉 ชวด มะเมีย เถาะ ระกา จลน์ อานาจ (พาหะ) 寅 申 巳 亥 ขาล วอก มะเส็ง กุน สะสม เงินทอง (คลังขุมทรัพย์) 辰 戌 丑 未 มะโรง จอ ฉลู มะแม
แผนผังสี่สัตว์เทพ N
https://bit.ly/3OC2Kjo ผังภาพจาลองท ้องฟ้าอย่างย่อ
นาฬิกาจีนโบราณ https://bit.ly/3zrljm1
• เมื่อถึงสมัยฉินและฮั่น สัตว์เทพทั้งสี่
ก็เป็ นที่ยอมรับ กันทั่วไป ในฐานะตัวแทนของฤดูกาลและสีสันทั้งสี่
ฤดูกาลและสีสันทั้งสี่
ฤดูกาลจีนทั้ง ๔
เซียนเทียนปากว ้า (先天八卦) และโฮ่วเทียนปากว
้า (后天八卦) https://www.facebook.com/udeeland/posts/650998372005210/
แผนภูมิกาเนิดปากว ้า ที่มา เครื่องหมาย
และชื่อเรียก
โฮ่วเทียนปากว ้า (后天八卦) ผังหลังฟ้า
กับ บุคคล
ภูมิสวรรค์ (60กะจื้อ)
ที่มาของโหราศาสตร์จีน 中国占卜 学 • อิทธิพลของโหราศาสตร
์จีน ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังเป็นต ้นมา จนกลายเป็น มหาอานาจแห่งเอเชีย วัฒนธรรมจีนที่ส่งผลต่อโลก โดยเฉพาะได ้มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมเอเชียตะวันออก ซึ่งวัฒนธรรมที่ส่งอิทธิพลนั้น ได ้รวมถึงวิชาพยากรณ์ของจีนด ้วย https://bit.ly/3zrljm1
• วิชาพยากรณ์แบบจีน ซึ่งมีหลายแขนงหลายแบบฉบับ เริ่มต ้นได
้รับการพัฒนาศึกษาเรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรม โดยโหรหลวงในราชสานักจีน และอามาตย์ขันทีต่างๆ แล ้วก็ค่อยๆถ่ายทอดลงไปสู่ข ้าราชการชั้นล่าง จนกระทั่งสู่สามัญชน แต่ก็ได ้ส่งอิทธิพลอย่างแพร่หลายไปทั่ว ดังเช่น ธง ชาติของเกาหลี และสานักเต๋าหยินหยางของญี่ปุ่ น
ความแตกต่างกับโหราศาสตร ์ ตะวันตก • วิชาพยากรณ์ของตะวันตก ก็คือการคานวณดวงชะตา โดยใช
้หลักโหราศาสตร์ซึ่งเกี่ยวพันธ์กับดวงดาวและ แผนภูมิดวงชะตา หากจะพูดแบบตรงๆแล ้วล่ะก็ วิชาโหราศาสตร์แบบตะวันตกนั้น อาจจะเรียกได ้เพียงว่าเป็น”วิชา” แต่ไม่อาจจะเรียกได ้ว่าเป็น”ศาสตร์”
ซึ่งความแตกต่างก็อยู่ที่… • ถึงแม ้ว่าทั้งสองวิชาล
้วนแล ้วแต่มีพื้นฐานและหลักการ คล ้ายคลึงกัน แต่ระบบศาสตร์พยากรณ์ของจีนนั้น ได ้รวบรวมเอาทั้งหลักการและเหตุผล ที่ผสมผสานกันอย่างเป็นระบบจนเป็นหนึ่งเดียวกัน อย่างเป็นรูปธรรม และอ ้างอิงหลักเหตุและผลเป็นหลักพื้นฐาน ซึ่งก็เหมาะสมกับหลักการความหมายของคาว่า” ศาสตร์”
• ดังนั้นวิชาพยากรณ์แบบจีนกับแบบตะวันตกนั้น ย่อมที่จะมีมุมมองต่อเรื่องราวต่างๆ ทั้งชะตาชีวิต บุคคล
สังคม จนแม ้กระทั่งผลของการพยากรณ์ที่ละเอียด ซับซ้อน และแตกต่างกันอย่างมากมาย
ทาไมต้องเป็ นโหราศาตร ์จีน •
ประเทศจีน เป็นต ้นกาเนิดวัฒธรรมแบบตะวันออก แนวคิดจิตและวิญญาณแบบตะวันออกนี้เอง ที่ได ้ส่งอิทธิพลอันยิ่งใหญ่ต่อวัฒนธรรมแบบ ตะวันออก โดยเฉพาะความลึกซึ้งและสลับซับซ ้อน ของเนื้อหาของโหราศาสตร์จีน ที่แตกต่างโหราศาสตร์ตะวันตกอย่างเห็นได ้ชัด ซึ่งก็มาจากการสร ้างสรรค์ของจิตวิญญาณแบบ ตะวันออก ที่แตกต่างจากตะวันตก
• หากจะนาความรู้ทางโหราศาสตร์ มาแบ่งของผู้คนบนโลกนี้ให ้เห็นชัดเจนมากขึ้น ก็จะพบว่าชาวตะวันออกมีสภาวะเป็น”หยิน” ดังนั้นแนวคิด
พฤติกรรม การแสดงออก ก็จะเป็น ลักษณะแบบ”หยิน” ซึ่งก็หมายถึง จิตวิญญาณ ,นามธรรม,ภาษาศาสตร์ , ความอ่อนโยน , ความละเอียดอ่อน,การปลอบโยนและความสงบ
ส่วนชาวตะวันตกนั้น มีสภาวะเป็นหยาง • ซึ่งความหมายของหยางก็คือ วัตถุ,การต่อสู้โดยใช
้ กาลัง, ความเข ้มแข็ง,ความคุ้มทุน,การเคลื่อนไหว ฯลฯ ซึ่งแทบจะเรียกได้ว่า ตรงกันข้ามกับชาวตะวันออก เกือบทั้งสิ้น
ในกรณีนี้เราอาจจะยกตัวอย่างให ้ดู เกี่ยวกับแนวคิดของชนชาติ ตะวันออกและตะวันตกได ้ •
เช่นสมมุติว่า มีแตงโมลูกหนึ่ง หากเราอยากจะรู้ว่าสุกหรือไม่สุก คนชาวตะวันออกตั้งแต่โบราณ ปกติมักจะไม่ทาลายไม ้ผลหากยังไม่สุกพอแก่การ บริโภค แต่มักจะใช ้วิธีตรวจดูจากน้าหนัก สีของผลไม ้ดม กลิ่น หรือการเคาะเพื่อฟังเสียง เพื่อตรวจดูว่าผลไม ้นั้น สุกพอแก่การบริโภคแล ้วหรือ ยัง
ส่วนชาวตะวันตก มักจะใช ้การตรวจพินิจพิเคราะห์จาก เครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆ • เพื่อที่จะพิสูจน์ผลที่สามารถมองเห็นและตรวจสอบได
้ อย่างเป็นรูปธรรม เช่นการใช ้มีด แว่นขยาย ฯลฯ เพื่อที่จะดาเนินการพิสูจน์และตัดสิน • ในกรณีนี้ก็คือการผ่าผลแตงโมออกมาเพื่อพิสูจน์ว่า สุกหรือไม่ นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งจากวิธีการและแนวคิดของทาง ตะวัน จนกลายมาเป็นการค ้นคว ้าและวิจัย จนกลายมาเป็นวิทยาศาตร์แบบในปัจจุบัน ซึ่งพัฒนามาจากชาวตะวันตก ไม่ใช่ตะวันออก
แนวคิดแบบตะวันออก เน้นไปทางวิจัยแบบองค์รวม • เพื่อที่จะได ้พิสูจน์ผล จนได
้หลักวิธีการ จนกลายมาเป็นทฤษฎี ซึ่งเต็มไปด ้วยความคิดที่มีลักษณะกว้างขวาง และขัดแย้งในตัวมันเอง โดยการนาเอาจักรวาลทั้งจักรวาล มาเป็นมูลเหตุ เพื่ออธิบายปรากฏารณ์ของสิ่งๆหนึ่ง
แนวคิดแบบตะวันออก เน้นไปทางวิจัยแบบองค์รวม
• วิธีการแบบนี้ก็ย่อมมีลักษณะเฉพาะตัวอย่างยิ่ง โดยที่สามารถคัดกรองเลือกเฟ้น จนได ้กฏเกณฑ์ที่เป็นเหตุเป็นผลออกมาอย่างชัดแจ
้ง จนสามารถนาไปอธิบายเรื่องราว และปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ทุกเรื่องราวในโลกและจักรวาลนี้.... • https://bit.ly/3zrljm1
รูปทรง & ระบบ
5 ธาตุ • แนวคิดในการออกแบบทางศาสตร์วิชา 風水 (ฮวง จุ้ย) ไม่ว่าจะเป็นระดับพื้นฐานหรือระดับสูงเพียงใด ล ้วนคานึงถึงเรื่องหลักความสัมพันธ์ ระหว่างรูปทรงสัณฐานกับระบบเบญจธาตุ เป็นลาดับสาคัญ • http://fengshuibizdesigner.com/request.php?id=148&&sub=content
แผนภูมิกาเนิดปากว ้า ที่มา เครื่องหมาย
และชื่อเรียก
• เหตุเพราะรูปทรงลักษณะต่างๆ สามารถถ่ายทอดสื่อความหมายได ้ต่างกันตามรูปทรง นั้นๆ อาทิ
เช่น รูปลักษณะทรงกลม จะสื่อแทนความหมายถึง ท ้องฟ้า ส่วนรูปลักษณะทรงสี่เหลี่ยม จะสื่อแทนความ หมายถึง พื้นดิน แสดงถึงความรู้สึกที่นิ่ง สงบสุข ไม่ต ้องการความเคลื่อนไหวที่วุ่นวาย
ผังก่อนฟ้า
https://medium.com/@QiMenAlchemy/feng-shui-basic-gua-432a0b11564b
https://medium.com/@QiMenAlchemy/feng-shui-basic-gua-432a0b11564b
• ซึ่งหากพิจารณาบ ้านอยู่อาศัยทั่วไปแล
้ว ไม่ว่าจะเป็นอาคารบ ้านชั้นเดียวหรือสองชั้นก็ตาม รูปทรงลักษณะของอาคารส่วนใหญ่ ล ้วนมีรูปทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งมีนัยแฝงความหมายถึง ธาตุดิน เกือบทั้งสิ้น
• และด ้วยเหตุผลในหลักแห่งความสัมพันธ์ ระหว่างรูปทรงสัณฐานกับระบบเบญจธาตุต่างๆเหล่านี้ การออกแบบรูปทรงลักษณะอาคาร จึงควรใช้รูปทรงแบบธาตุดิน เป็
นเกณฑ์ในการกาหนดแบบเป็ นหลักสาคัญ หรือแม ้แต่ลักษณะรูปทรงของห ้องนอนที่ดี ก็ควรเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม
กลับไปสู่ ครรภคฤหะ
กลับไปสู่ ครรภคฤหะ
ไม่ว่าจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ ้าหรือ สี่เหลี่ยมจัตุรัสก็ได ้ ที่แสดงถึงความสงบนิ่ง
มั่นคง • อีกทั้งงานออกแบบชิ้นงานตกแต่งทั้งภายในและ ภายนอก ไม่ว่าจะเป็นประตู หน้าต่าง เตียงนอน เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ ควรมีรูปทรงเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมด ้วยเช่นกัน
• อีกทั้งยังสามารถใช ้แบบรูปทรงลักษณะอื่นๆที่ชื่น ชอบ ไม่ว่าจะเป็นทรงกลม
ทรงสามเหลี่ยม ฯลฯ เพื่อเป็นเพียงส่วนประกอบร่วมผสมผสานเข ้าด ้วยกัน ก็ย่อมจะกระทาได ้ เพียงแต่ให ้ฐานเป็ นรูปทรงสี่เหลี่ยมเท่านั้นก็พอ
• ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์พื้นฐานที่ว่า ต้องการให้อาคารสถานที่นั้นๆออกแบบในลักษณะ ใด หรือเพื่อสนองความต้องการใด อาทิเช่น หากเป็นแหล่งสถานบันเทิงเริงรมย์ ที่ต
้องการบรรยากาศเพื่อให ้ความรู้สึกที่คึกคัก เคลื่อนไหว รูปทรงที่ออกแบบ ก็ไม่จาเป็นต ้องใช ้รูปทรงสี่เหลี่ยม เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
• หากแต่จะใช ้ลักษณะรูปทรงที่เป็นลูกคลื่น
ธาตุน้า หรือทรงกลม ธาตุทองก็ได ้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของรูปแบบที่จะนาไปใช ้ • อีกหนึ่งปัจจัยในการออกแบบรูปทรงตัวบ้านและ อาคาร จาเป็ นจะต้องคานึงถึงระบบเบญจธาตุทั้ง 5 เพื่อสอดรับระหว่างรูปลักษณ์กับทิศทาง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ผังหลังฟ้า
รูปทรงธาตุดิน • มีลักษณะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม เช่น ตึกแถว
อาคารพาณิชย์ บ ้านชั้นเดียว หรือบ ้านสองชั้นทั่วๆไป รูปทรงแบบนี้ เหมาะกับทิศทางที่มาส่งเสริมตัวอาคารที่เป็นธาตุดิน ดังเช่น ทิศใต้ ซึ่งเป็ นธาตุไฟ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ และทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่ง เป็นธาตุดิน ถือว่ารูปทรงอาคารธาตุดินนี้ เหมาะกับทิศทางทั้ง 3 ทิศที่กล่าวมาข ้างต ้นนี้
ผังหลังฟ้า ไฟ ทิศใต ้ ดิน ทิศตะวันตกเฉียงใต ้ ดิน ทิศ ตะวันออกเฉียงเหนื อ
รูปทรงธาตุทอง • มีหลังคาเป็นลักษณะทรงกลม หรือหลังคาโค
้ง มักไม่พบบ่อยนักที่จะใช ้ในการออกแบบให ้แก่หลังคา บ ้านช่องทั่วไป บ่อยครั้งที่จะเห็นกับตัวอาคาร สถานที่หน่วยงานรัฐ หรือสถานประกอบการของเอกชนบางแห่ง โดยมีลักษณะเป็นโดมทรงกลมจัดว่าเป็นรูปทรง ลักษณะธาตุทอง รูปทรงแบบนี้จะเหมาะกับทิศทางที่มาส่งเสริมตัวบ ้าน ที่เป็นธาตุทอง ดังเช่น ทิศตะวันตกเฉียงใต้ และทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่ง เป็นธาตุดิน ทิศตะวันตก และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ที่เป็นธาตุ ทอง
รูปทรงธาตุน้า • มีหลังคาโค ้งเป็นลูกคลื่นหลายๆโค
้ง จัดเป็นลักษณะแบบอาคารที่เป็นธาตุน้า รูปทรงแบบนี้จะเหมาะกับทิศทางที่มาส่งเสริมตัว อาคารที่เป็นธาตุน้า ดังเช่น ทิศตะวันตก ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นธาตุทอง ทิศเหนือ ที่เป็นธาตุน้า ถือว่ารูปทรงอาคารแบบธาตุน้านี้ เหมาะกับทิศทางทั้ง 3 ทิศที่กล่าวมาข ้างต ้นนี้
ผังหลังฟ้า น้า ทิศเหนือ
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1892079337492830&set=pcb.1892081460825951
รูปทรงธาตุไม้ • เป็นอาคารทรงสูงตั้งแต่ 5
ชั้นขึ้นไป จัดเป็นลักษณะแบบอาคารที่เป็นธาตุไม ้ รูปทรงแบบนี้จะเหมาะกับทิศทางที่มาส่งเสริมตัวบ ้าน ที่เป็นธาตุไม ้ดังเช่น ทิศเหนือ ซึ่งเป็นธาตุน้า ทิศตะวันออก และทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นธาตุ ไม ้ ถือว่ารูปทรงอาคารแบบธาตุไม ้นี้ เหมาะกับทิศทางทั้ง 3 ทิศที่กล่าวมาข ้างต ้นนี้
ผังหลังฟ้า ไม ้ ทิศตะวันออก น้า ทิศเหนือ ไม ้ ทิศตะวันออกเฉียง ใต
้
รูปทรงธาตุไฟ • มีหลังคาทรงแหลม หรือทรงสามเหลี่ยม เช่น
หลังคาแบบบ ้านทรงไทย จัดเป็นลักษณะแบบอาคารที่เป็นธาตุไฟ รูปทรงแบบนี้จะเหมาะกับทิศทางที่มาส่งเสริมตัวบ ้าน ที่เป็นธาตุไฟ ดังเช่น ทิศตะวันออก ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นธาตุไม ้ ทิศใต้ ที่เป็ น ธาตุไฟ ถือว่ารูปทรงอาคารแบบธาตุไฟนี้ เหมาะกับทิศทางทั้ง 3 ทิศที่กล่าวมาข ้างต ้นนี้
ผังสี่สัตว์เทพ
ผังสี่สัตว์เทพ (ฮวงจุ้ย) N
https://bit.ly/3OC2Kjo
http://fengshuibizdesigner.com/request.php?id=148&&sub=content • ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เป็ นแบบแผนในการนาธาตุประจาทิศทาง มาเสริมสร้างกระแสพลังให้เกิดแก่ลักษณะรูปทรง บ้านและอาคาร เพื่อเป็
นหลักในการออกแบบลักษณะรูปทรง ให ้สอดรับกับตาแหน่งทิศประธาน ด ้านหลังของตัวบ ้านและตัวอาคาร
อ่าน นรลักษณ์ โหงวเฮ
้ง ไม่ได ้ อ่านแค่ ใบหน้า • วิชาที่เราเรียก โหงวเฮ ้งๆ เรียกให ้ถูกต ้องเรียก เมี่ยนเซียง 面相 ซึ่งเป็นแขนงหนึ่งของ 相法 เซียงฝ่ า หมายถึงการพิจารณาลักษณะของคน เพื่อทราบอุปนิสัยใจคอ ที่เป็นตัวส่งผลต่อชะตาชีวิตดีร ้ายของแต่ละคน https://bit.ly/3Sg4SAq
https://pantip.com/topic/38578946
ทั้งนี้เนื่องจาก ดวงตาเป็นหน้าต่าง ของดวงใจ • หน้าตาเป็นบริเวณที่สังเกตอารมณ์ความรู้สึกได
้ไว ที่สุด เด่นชัดสุด เลยมาเน้นหนักที่ 面相 หรือที่ใบหน้า แต่การพิจารณาแท้จริง ต้องดูประกอบกันทั้งอากัปรกิริยาต่างๆ การยืน เดิน นั่ง นอน พูดจา ฟังเสียง ฯ ประกอบ
• ทุกคนอาจเคยได ้ยินเรื่องเล่าจีนจาก
《涅盘经》 ว่า ลมพัดตุงไหว ตุงจริงๆ เพราะคาว่า 幡 ในเรื่องเล่านี้ แปลว่า ตุง ครับ ตุงแบบภาคเหนือบ ้านเรานี่หละ พระรูปนึงบอกว่า ลม ที่เคลื่อนไหว พระอีกรูปบอกว่า ตุง ที่เคลื่อนไหว
• ท่านเถระ 惠能
ฮุ่ยเหนิง กล่าวว่า ไม่ใช่ลมเคลื่อน ไม่ใช่ตุงไหว แต่ใจต่างหากที่มันเคลื่อนไหว เหตุเพราะการเข ้าใจความหมายของวลีที่ว่า 相由心 生 • ถ ้า 相(ลักษณะ)เคลื่อนไหว ก็แปลว่า ใจเรานี้หละ ได ้เคลื่อนไหวละ เพราะใจนี้เองเป็นตัวรับรู้และเป็นตัวกาหนดการ แสดงออก
• ถ ้าแปลสานวนนี้แบบหมอดูจีน ก็จะแปลว่า ใบหน้าที่ใช
้ดูโหงวเฮ ้ง เป็นหน้าต่างของดวงชะตา มีที่มาจากจิตใจ แต่ถ ้าแปลแบบธรรมะ ต ้องแปลว่า กิริยา กาย วาจา ที่แสดงออก เกิดจากความรู้สึก นึก คิด จิตใจ ที่ออกมา
• 相由心生 วลีจีนกล่าวไว ้
เซียงโหยวซินเซิง ลักษณะของคนเกิดจากจิตใจหนุนส่ง แสดงออกมา
• 七尺之躯不如七寸之面, 七寸之面不如三寸之鼻, 三寸之鼻不如一点之心 • ก่อนอื่นต
้องทราบหน่วยวัดของจีนก่อน ว่า 寸 ก็คือ นิ้ว คาอธิบายในพจนานุกรม บอกว่า 寸 คือหนึ่งในสิบส่วนของ 尺 ทีนี้ประโยคนี้แปลว่าอะไรครับ
ประโยคนี้แปลว่า • ร่างกายคน(ซึ่งสูงใหญ่ เจ็ดฟุต)
ยังไม่เทียมเท่า หน้า คน(ซึ่งยาวเจ็ดนิ้ว) หน้าคน(ซึ่งยาวเจ็ดนิ้ว) ยังไม่เทียมเท่า จมูก (ซึ่งยาว สามนิ้ว) จมูก (ซึ่งยาวสามนิ้ว) ยังไม่เทียมเท่า ใจ เล็กๆ จุดนึง • หมายความว่า ในทางวิชาโหงวเฮ ้ง บางที่แปลว่า นรลักษณ์ (ลักษณะของนร หรือ ลักษณะของคน) ให ้ความสาคัญของจุดเล็กจุดน้อย อันเป็นจุดสังเกต สาคัญ
ในตาแหน่งต่างๆของร่างกาย มี ความหมายและฟังก์ชั่นต่างๆกันไป • เขาเลยเปรียบเปรยว่า มองคนทั้งร่าง
ยังไม่รู้จักเขาเท่ามองที่หน้า มองหน้าทั้งหน้ายังไม่สู้ดูที่จมูกเป็นสาคัญ มองที่จมูกก็ยังไม่เท่ารู้ถึงจิตใจเขา ซึ่งวลีนี้กาลังจะบอกว่า จุดเล็กๆน้อยๆนี่หละมี ความสาคัญนักแล อาจทาให ้เราทราบภาพรวมทั้งหมดได ้ คล ้ายๆกับจุดศูนย์กลาง
ละทาไมมันต ้องจมูก • ก็ตาบอดไม่ตาย
หูหนวกไม่ตาย ปากเป็นใบ ้ก็ไม่ตาย แต่ถ ้าจมูกบอด หายใจไม่ได ้ ตายหละครับ เพราะฉะนั้น ลมหายใจ หรือลักษณะการหายใจ มีผลต่อจิตใจอย่างเลี่ยงไม่ได ้ จิตใจก็มีผลต่อลมหายใจทางตรง
บ่อยที่สุดที่เราจะสังเกตกันได ้คือ ตอนเซ็ง • เราจะถอนหายใจออกมา
เห ้ออออ ใหญ่ทันทีทันใด หรือตอนตื่นเต ้นหรือต ้องการกาลังใจว่า ต่อไปนี้ ฉันจะกล ้า ฉันจะสะตรอง เราก็จะสูดหายใจลึกๆ โดยอัตโนมัติ • จุดๆนี้เองนึกถึงเรื่องตลกมาก ที่ผมเคยถูกชายชราผู้มีวิชาไทเก็ก ผลักให ้ถอยได ้หลายสิบเมตร เหตุเพราะเขาบอกว่ามีเทคนิคผสมกันหลายแบบ แต่อันนึงที่ใช ้คือ เธอหายใจเข ้าฉันผ่อนแรง เธอ หายใจออกฉันดันฉันผลัก เหตุนี้เธอเลยไม่อาจผลักฉันได ้
โห เขาสังเกต กระทั่งเห็นได ้ว่า ตอนไหนเราหายใจเข
้าหรือหายใจ ออกเชียว • ความลึกล้าของวิชาจีนอยู่ตรงนี้ บางทีเห็นนิ่งๆ แต่รู้ไส ้รู้พุงหมดเสียละหละ แทบไม่ต ้องปริปากพูดอะไรกัน จะไต่ถามก็เพื่ออยากทราบภูมิปัญญาเท่านั้น นิสัยใจคอพอทราบได ้จากการดูโหงวเฮ ้ง แต่ ขงจื้อ กล่าวว่า จะทราบภูมิปัญญาคนได ้ ก็ต่อเมื่อ สนทนา หรือฟังสิ่งที่เขาพูด
ทีนี้ทาไมต ้องลงด ้วย
เจ็ด หรือ สาม เช่น เจ็ดฟุต เจ็ดนิ้ว สามนิ้ว • 七寸 นอกจากแปลได ้ว่า เจ็ดนิ้วแล ้ว ยังมีความหมายแฝง เป็นศัพท์แสลงพื้นบ ้านทั่วไป แปลว่า จุดบอด จุดอ่อน จุดตาย ดั่งสานวนว่า 打蛇要打七寸 ตีงูต ้องตีที่เจ็ดฟุต หมายถึงว่า ตีงูให ้ตายต ้องตีที่เจ็ดนิ้วนับจากหัว
อ ้าวแต่ก็มีงูบางตัว สั้นไม่ถึงเจ็ดนิ้ว นี่ •
การตีความตามตัวอักษรนั้นจึงไม่รัดกุมนัก ที่ถูกของความมุ่งหมายนี้คือ ให ้ตีที่ท ้องหรือแถวๆ อวัยวะเพศ • อันนี้เรื่องจริงนะ เคยเรียนกับครูฝึกทหาร ถ ้าจาไม่ผิดบอกว่า ถ ้าโดนงูเหลือมรัดกลางป่ า ให ้คลาๆ ถึงกลางลาตัวค่อนมาทางหาง ก็จะเจอเดือย หรืออวัยวะเพศมัน ทาร ้าย ณ จุดๆนั้น งูจะปล่อย
• ส่วนคาว่า 打蛇打三寸 ซึ่งเป็นอีกสานวนบอกว่า
ตีงูต ้องตีที่สามนิ้ว หมายถึง ราวสามนิ้วนับจาก หัวงู จะเป็นตาแหน่งหัวใจงู และโครงสร ้างกระดูกที่อ่อน กว่าที่อื่น
• อันนี้ตาราเขาแปลมาแบบนี่นะ แต่ถ ้าให
้ผมแปล ผมจะแปลว่า หนึ่งในเจ็ดส่วน กับ หนึ่งในสามส่วน คือใช ้สายตากะเอา แบ่งเป็นส่วนๆช่องๆ ตามสรีระ ยาวหรือสั้นของงู ถ ้าแบ่งตามนี้ เจ็ดก็คือนับจากหัวมาหาง สามก็คือนับ จากหางไปหัว ก็จุดๆเดียวกันนั้นหละ ..อันนี้ความเห็นส่วนตัว https://bit.ly/3Sg4SAq
ทีนี้ประเด็นที่สาคัญมากที่อยากจะ พูด คือ การดูสัดส่วน • แน่นอนว่าตาราบอกไว
้ว่า ตาแหน่งไหนจะอยู่ที่ไหน ในการหาแต่ละจุด แต่ละตาแหน่งของวิชาโหงวเฮ ้ง แต่ตาราไม่ได ้สอนมาตรวัดว่า วัดอย่างไร กี่นิ้ว กี่เซนติเมตรกันแน่ แบบเป๊ ะๆ เรื่องนี้ต ้องอาศัย คาสอนของครู และประสบการณ์ในการค ้นหา
• เหมือนที่ตาราจับชีพจรจีน บอกว่า การจับชีพจร
ชุ่น กวน ฉื่อ ให ้ใช ้สามนิ้ว ชี้ กลาง นาง โดยวางนิ้วชี้ที่บริเวณกระดูกข ้อมืออันแรก ครั้นพอเราไปคุยกับหมอจีนที่มีความชานาญ เขากลับบอกว่า ก็วางตรงไหนก็วาง เลื่อนๆจับๆให ้เข ้า ที่ อันไหนจับละชัดก็อันนั้นหละ ไม่เห็นต ้องไปเป๊ ะตามหนังสือ
• อันเนี้ยะหละคือ copy
right ประสบการณ์นี้หละคือ ลิขสิทธิ์ คือ ทรัพย์สินทางปัญญาที่ไม่สามารถก ้อปปี้กันได ้ ตราบใดที่ยังสร ้างหุ่นยนต์ให ้มีหัวใจไม่ได ้ ก็จะไม่มีโปรแกรมให ้หุ่นยนต์ใดดูดวงได ้แม่นกว่าคน เสน่ห์ของความเป็นคน อยู่ที่ความไม่เป๊ ะนี่หละ
• ทีนี้อะไรไม่เป๊ ะอีก
ก็คือ หน่วยวัดจีนไม่เป๊ ะ ตอนต ้นบอกไปว่า ชุ่น 寸 คือหนึ่งนิ้ว 尺 คือหนึ่งฟุต คนโบราณ โดยเฉพาะอาวุธก็ดี หรือร่างกายคนก็ดี • สมัยสามก๊ก จากตารานั้นมักบรรยายว่า หลายคนสูง เจ็ดฟุต หลาย คนสูงถึงเก ้าฟุต ดูใหญ่โตมโหฬารเกินชาวเอเชียมากๆ เลยทาให ้คิดว่า หน่วยวัดโบราณเป็นอย่างไรกันแน่
จากข ้อมูลที่พอหาได ้ ในแต่ละยุคสมัยของจีนนั้น •
หน่วยวัด 尺 หรือฟุต มีความแตกต่างคลาดเคลื่อนกัน ฟุตอาจสั้นที่สุดถึง ราวสิบเจ็ดเซน (ครึ่งหนึ่งของฟุต ปัจจุบัน) หรือยาวถึง สามสิบเอ็ดเซนกว่า ในบางยุค ดังนี้ • 商代,一尺合今16.95cm, 按这一尺度,人高约一丈左右, 故有“丈夫”之称; 周代,一尺合今23.1cm ; 秦时,一尺约23.1cm ;
• 汉时,一尺大约21.35——23.75cm ; 战国楚
一尺大约22.7cm 三国,一尺合今24.2cm ; 南朝,一尺约25.8cm ; 北魏,一尺合今30.9cm ; 隋代,一尺合今29.6cm ; 唐代,一尺合今30.7cm ; 宋元时,一尺合今31.68cm ; 明清时,木工一尺合今31.1cm。
• บางตารากล่าวว่า ฟุต ในสมัยก่อน
คงสั้นกว่าเมื่อเทียบกับ ฟุตปัจจุบัน โดยสมัยแรกเริ่ม ฟุต ถือเอาความยาวระหว่างนิ้วโป้งถึงนิ้วกลาง ที่บ ้านเราเรียกว่า คืบ นั้นเป็นเกณฑ์ตั้งต ้น ก็ราวๆ 20 เซนติเมตรได ้
• นอกจากหน่วยวัดที่แปลว่า ฟุต
อย่าง ฉื่อ 尺แล ้ว ยังมีหน่วยวัดที่ใกล ้กับ 尺 เรียกว่า จื่อ咫 โดยวัดแบบที่วัดคืบของชาย แต่เนื่องจากเป็นมือหญิงก็เลยสั้นกว่า • อ ้อ ทาให ้นึกขึ้นได ้ว่าบทความเรื่องอายุจรบนในหน้า โหงวเฮ ้งที่เขียนเมื่อวาน บางตาราจะบอกว่า ชาย หญิงต ้องสลับกัน ชายเริ่มที่หูซ ้ายนับหนึ่งขวบ แต่หญิงเริ่มที่หูขวา https://bit.ly/3Sg4SAq
• โดยหน่วยวัดนี้ บอกว่า สมัยราชวงศ์โจว
กล่าวว่า มีความยาว แปดนิ้ว แต่ถ ้าเทียบตามปัจจุบัน จะยาวแค่ 六寸二分二厘 เท่านั้น ภายหลังได ้กลายเป็นสานวน หมายความว่า สั้น ระยะสั้นๆ ดั่งคาว่า 近在咫尺
• ตารา《四库全书》 จักรพรรดิคังซี มีเขียนเล่าไว ้ 未相人之相, 先听人之声, 未听人之声, 先察人之行, 未察人之行先观人之心
• ก่อนที่จะพิจารณานรลักษณ์คน ให
้ฟังน้าเสียงก่อน ก่อนที่จะฟังน้าเสียง ให ้มองการเคลื่อนไหวก่อน ก่อนที่จะมองการเคลื่อนไหว ให ้ใส่ใจสังเกตจิตใจ • อันนี้กาลังเตือนว่าอะไร ผมกาลังเตือนว่า คนสมัยนี้ พอพูดถึงโหงวเฮ ้ง ก็ชอบเอารูปหน้าตัวเองมาถาม แท ้จริงวิชาโหงวเฮ ้งใช ้ประสาทสัมผัสทุกประสาทใน การรับสัมผัส ไม่ว่าจะเป็ น การมอง ด้วยตา การฟังเสียง การ สัมผัส การได้กลิ่น คือมองให ้ครบอายตนะภายนอกทั้งสิ้นทั้งปวง
• สมัยราชวงศ์ซ่ง ตอนต
้น 陈希夷 กล่าวว่า 心者貌之根, 审心而善恶自见; 行者心之发, 观行而祸福可知。
• กิริยา (มันไม่ใช่แค่อากัปกิริยา แต่หมายถึง
อุปนิสัยใจคอ รวมไว ้ด ้วย) มีจิตมีใจเป็นราก เบื้องลึกของจิตใจว่าดีว่าเลว ก็จะแสดงออกมาได ้ การแสดงออก การเคลื่อนไหวต่างๆ มีใจเป็ นที่กาหนดออกมา ดูสิ่งที่เคลื่อนไหว เคลื่อนคล้อย แปรไปเหล่านี้ ทาให้ทราบดีร้ายโชควาสนาได้
• ตาราพุทธฝ่ ายจีน มีวลีกล่าวว่า 有物则有体,有体则有形,有形则有相 มีวัตถุแปลว่าต
้องมีสภาวะ มีสภาวะแปลว่าต ้องมีปกติ มีปกติแปลว่าต ้องมีลักษณะ
• เช่นว่า เรามีสภาพความเป็นคน
คนมีปกติเคลื่อนไหว การเคลื่อนไหว ยืนเดินนั่งนอนมีลักษณะ เช่นบางคนนอนหงาย นอนตะแคง เดินไว เดินช ้า และแปลในทางกลับกัน ว่า สิ่งที่มีลักษณะเลื้อยไปกับดิน มีเกล็ด มีปกติอาศัยอยู่ในป่ า หากินอย่างสัตว์ป่ า มีสภาพของความเป็นสัตว์
• 体 สภาวะ น.
สภาพ ; ปรกติวิสัย . n. state ; condition. • 形 ปกติ น.มาจากบาลี ปกติ, สันสกฤต ปรกฺฤติ สภาพธรรมดา ; ความคงที่ n. original or natural state ; common.
• ไฟมีเปลวเป็นสภาวะ มีปกติธรรมดาให
้ความร ้อนได ้ ให ้แสงได ้ และมีลักษณะร ้อน ลักษณะสว่าง • 相 ถ ้าจะแปลกันจริงๆให ้เข ้ากับความเป็นพุทธ ก็แปลว่า ลักขณะ หรือ ลักษณะ เป็นคู่กับคาว่า 性
• 相 คือสิ่งที่แสดงออกมา แต่
性 คือสิ่งที่อยู่ภายใน สองสิ่งนี้มีผลต่อกัน กล่าวคือ 是相積習成性,譬如人瞋, 日習不已,則成惡性」。
• ลักษณะการคิด การกระทา
การมองโลกของเรา ที่แสดงออกมาก็ตาม อันนี้ก็เรียกว่า 相 สันดานภายในคือ 性 ซึ่งการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสันดานตัวนี้ ทาได ้ด ้วยการปรับปรุงการแสดงออก ทาการแสดงออกอะไรบ่อยๆเข ้า ย่อมกลายเป็นสันดาน ความเคยชิน
• หากว่าไม่สารวจพิจารณาเตือนตนบ่อยๆ ช ้านานไปก็จะกลายเป็นสันดานห่วยๆ การฝึกฝนคือการขึ้นที่สูง
การฝืนใจตน เพราะใจคนมีปกติรักสบาย ใฝ่ ต่าเสมอ แต่ว่าสันดานเปลี่ยนยากมาก ดังคาว่า 江山易改,稟性難移 ย ้ายแม่น้า ขุดรื้อภูเขา ยังง่ายเสียกว่า รื้อรากถอนโค่น สันดานคน
• ตารา《智論》 กล่าวว่า 相不定,從身出,性則言其實。 ลักษณะภายนอกมันบ่แน่นักดอก
มันปลอมมันแปลง กันได ้ สันดานภายในต่างหากที่เป็นของจริง ฟังได ้จากการพูดการจาเป็นหลักด ้วย 如見黃色是金相,而內是銅……。
• เหมือนสีทองอร่ามเป็นลักษณะของทอง คือเป็น
相 ของทอง แต่ข ้างในจริงๆอาจเป็นทองแดง คนเราก็เหมือนกัน วันนี้อาจดี พรุ่งนี้อาจร ้าย เมื่อวานอาจชั่ว มาวันนี้อาจจะดีก็ได ้ • การเข ้าใจความหมายของคาว่า 相 เป็นอนัตตาไม่มี ตัวตน ไม่ได ้แปลว่าเราจะทาอะไรก็ได ้ตามอาเภอใจชอบ แต่แปลว่า เมื่อมันไม่มีตัวตนเหตุเพราะมัน เปลี่ยนแปลงได้
• คัมภีร์《黄帝内经》 กล่าว:“心者,君主之官也,神明出焉。 อันว่าจิตใจนั้นเป็นประธานใหญ่สุด เป็นช่องทางแสดงออก ศักยภาพทางความคิดและความมีชีวิตของคนเรา
• อยากเป็นหมอดูที่แม่น อยากรู้วิชาดวงจีน
ฮวงจุ้ย โหงวเฮ ้ง สิ่งแรกที่ต ้องฝึกปรือ คือ 性相 แบบหมอดู อยากปราดเปรื่องในวิชาดวงจีน แม ้นไม่ได ้เกิดมาเพื่อเป็นหมอดูจีน แต่ต ้องกินอยู่ใช ้ชีวิตอย่างหมอดูจีน แต่ถ ้าอยากรวย ก็ให ้อยู่อย่างคนจน เพราะอยู่อย่างคนจนไม่มีวันจน
• สรุปวันนี้อยากจะบอกว่า การเรียนรู้อะไรก็ตามมันมีขั้นมีตอนมีลาดับของมัน การวิเคราะห์โหงวเฮ ้งก็มีขั้นมีตอน
การดูดวงก็มีขั้นมี ตอน ทาตามขั้นตอนอย่างรอบคอบจะประสบผลดี วิชานี้เป็นวิชาเข ้าใจธรรมชาติ เข ้าใจว่าอะไร เข ้าใจว่า มันไม่มีอะไร เป๊ ะ ชั่งตวงวัดได ้เป๊ ะๆ ไม่มี เพราะฉะนั้นอย่ามาหวังว่า ดูดวงแล ้วคาทานายมัน จะต ้องเป๊ ะ สันดานเปลี่ยน ดวงก็เปลี่ยนตาม • https://bit.ly/3Sg4SAq
• ตัวอักษรจีน เขียนจากบนลงล่างก็จริง แต่ให
้ความสาคัญจากล่างขึ้นบน เช่นคาว่า 想 ที่แปลว่า ความคิด เป็นตัวชี้ชัดสานวนว่า 相由心生 คือ ความคิดที่แสดงออกมาเป็นผลมาจากจิตใจ เอาคาว่า 相 วางบนคาว่า 心 …วางใจ
相 = 想 心
https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551 ลักษณะการผันแปร
https://pantip.com/topic/38578946
ลักษณะการผันแปร https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551
เมื่อโลกหมุน โชคชะตาเปลี่ยน .. มนุษย์ก็ต้องปรับ •
โลกหมุนหนึ่งรอบ เท่ากับ หนึ่งปี และในหนึ่งปี ผลัดเปลี่ยน 4 ฤดูกาล นั่นคือความสัมพันธ ์ ระหว่าง "ธาตุทั้งห้า" และ "ฤดูกาล" เริ่มต ้นจาก .. 1. ดิถีธาตุไม้ ธาตุไม้ในฤดูใบไม้ผลิ เดือนกุมภาพันธ์ 寅 อากาศหนาวต ้องเสริมด ้วย "ไฟ" เพิ่มความอบอุ่น และถ ้าพลังไม ้อ่อนจะกลัวทองทาร ้าย เดือนมีนาคม 卯 ต ้องใช ้ดินมาเป็นปุ ๋ ย เดือนเมษายน 辰 อากาศเริ่มมีความร ้อนใช ้น้ามาเสริม
• ธาตุไม้ในฤดูร้อน เดือนพฤษภาคม
ถึง กรกฎาคม 巳 午 未 ไฟมาก ไม ้จะแห ้งต ้องใช ้น้า ถ ้าน้าไม่มีกาลังให ้เสริม ด ้วยทอง ธาตุไม้ในฤดูใบไม้ร่วง เดือนสิงหาคม ถึง ตุลาคม 申 酉戌 ทองมาก ใช ้ไฟมาเผาทอง หรือน้าถ่ายเททองเสริม ไม ้ ธาตุไม้ในฤดูหนาว เดือนพฤศจิกายน ถึง มกราคม 亥 子 丑 ใช ้ดินปิดกั้นน้า
2. ดิถีธาตุไฟ • ธาตุไฟในฤดูใบไม้ผลิ เดือนกุมภาพันธ์
寅 อากาศยังคงหนาวอยู่ต ้องการไม ้ และ ไฟเข ้ามาเสริม เดือนมีนาคม 卯 และเดือนเมษายน 辰 อากาศเริ่ม อบอุ่นใช ้ดินและทอง
• ธาตุไฟในฤดูร้อน เดือนพฤษภาคม
ถึง กรกฎาคม 巳 午 未 ต ้องการดินและทอง มาถ่ายเทพลัง จะมีน้าก็ได ้ ธาตุไฟในฤดูใบไม้ร่วง เดือนสิงหาคม ถึง ตุลาคม 申 酉戌 กลัวน้าต ้องเอาไม ้มา เสริมไฟให ้มีกาลัง ธาตุไฟในฤดูหนาว เดือนพฤศจิกายน ถึง มกราคม 亥子 丑 ต ้องเอาไม ้มาเสริม ไฟ หากน้ามากต ้องใช ้ดินปิดกั้น
3. ดิถีธาตุดิน • ธาตุดินในฤดูใบไม้ผลิ เดือนกุมภาพันธ์
ถึง เมษายน 寅卯辰 ใช ้ไฟมาช่วย
• ธาตุดินในฤดูร้อน เดือนพฤษภาคม
ถึง กรกฎาคม 巳 午 未 ดินแห ้งมาก ต ้องใช ้น้า หรือทองมาเกิดน้า ธาตุดินในฤดูใบไม้ร่วง เดือนสิงหาคม ถึง ตุลาคม 申 酉戌 ทองมากดินอ่อนกาลัง ต ้องมีไฟมาควบคุมทอง ธาตุดินในฤดูหนาว เดือนพฤศจิกายน ถึง มกราคม 亥子 丑 ต ้องใช ้ไฟมาเสริม ใช ้ไม ้มาเกิดไฟและไฟมาเกิดดินก็ จะดี
4. ดิถีธาตุทอง • ธาตุทองในฤดูใบไม้ผลิ เดือนกุมภาพันธ์
ถึง เมษายน 寅卯辰 เสริมด ้วยดิน แต่ทองในเดือนเมษายน 辰 ดินมากต ้องใช ้ไม ้แทง ดิน
• ธาตุทองในฤดูร้อน เดือนพฤษภาคม
ถึง กรกฎาคม 巳 午 未 ไฟมากใช ้น้า มาควบคุมไฟ และมีทองกับดินชื้นก็จะดี ขึ้น ธาตุทองในฤดูใบไม้ร่วง เดือนสิงหาคม ถึง ตุลาคม 申 酉戌 ต ้องนาไฟกับ น้ามาใช ้โดยเฉพาะเดือนตุลาคม 戌 ต ้องมีไม ้กับไฟเล็กน้อย ธาตุทองในฤดูหนาว เดือนพฤศจิกายน ถึง มกราคม 亥子 丑 น้ามาก ใช ้ดินมาเสริมทองและปิดกั้นน้า ต ้องมีไฟมา
5. ดิถีธาตุน้า • ธาตุน้าในฤดูใบไม้ผลิ เดือนกุมภาพันธ์
ถึง เมษายน 寅卯辰 ใช ้ทองมาเสริม น้า เดือนมีนาคม 卯 เริ่มร ้อน ต ้องใช ้ทั้งน้าและทอง เดือนเมษายน 辰 ดินแน่นใช ้ไม ้มาเขี่ยดิน
• ธาตุน้าในฤดูร้อน เดือนพฤษภาคม
ถึง กรกฎาคม 巳 午 未 ต ้องใช ้ทองกับน้า ธาตุน้าในฤดูใบไม้ร่วง เดือนสิงหาคม ถึง ตุลาคม 申 酉戌 ทองก่อเกิดน้ามาก ต ้องใช ้ไม ้ถ่ายเทและใช ้ไฟ ควบคุมทอง โดยเฉพาะเดือนตุลาคม 戌 ดินมากต ้องใช ้ไม ้ควบคุม ดิน หรือนาทองมาเพิ่มน้า
• ธาตุน้าในฤดูหนาว เดือนพฤศจิกายน ถึง
มกราคม 亥子 丑 ต ้องถ่ายเทด ้วย ไม ้กับไฟ ถ ้าน้ามากไปต ้องใช ้ดินมาควบคุมน้า โดยเฉพาะเดือนมกราคม 丑 ต ้องใช ้ไม ้และไฟเป็น ธาตุสาคัญ
• ระบบเบญจธาตุทั้งห ้านั้น มีส่วนสัมพันธ์กันกับฤดูกาล ที่สามารถส่งเสริม
ลดทอน เกื้อกูลกันได ้อย่างเป็น เหตุเป็นผล .. นั่นคือ ฮวงจุ้ย มิใช่ศาสตร์ที่เป็นเพียงเรื่อง "งมงาย" แต่แท ้จริงแล ้วเป็นเรื่องที่มีเกี่ยวข ้องกับมนุษย์อย่าง ยากที่จะปฎิเสธ
ดังนั้นจึงตรงกับประโยคที่ว่า โลกหมุน โชคชะตาเปลี่ยน มนุษย์ก็ต้องปรับ • เมื่อรู้ตัวตน
“สี่เสาแห่งโชคชะตา" หรือ八字四柱 (โป๊ ยหยี่ซี๊เถียว) โดยใช ้พลังของเวลา วัน เดือน ปี ซึ่งในตัวของแต่ละบุคคลจะแตกต่าง กันไป ไม่ เหมือนกัน และนั่นเปรียบเสมือน "เส ้นทางแห่งโชคชะตา" ที่เมื่อเรารู้แล ้ว สิ่งที่ควรปฎิบัติ คือ ปรับ เปลี่ยน ลด เสริม โดยใช ้"ฮวงจุ้ย" เข ้าช่วย นั่นเองครับ .. • http://fengshuibizdesigner.com/request.php?id=57&&sub=content
กินเสริมดวง บอกเล่าการเลือก "กิน" ทาอย่างไรให
้ถูกโฉลก เสริม ดวงชะตา หลักการของฮวงจุ้ย คือ การเลือก และ สร้างสภาพแวดล้อม ให้เกิดความ สมดุล กับพลังงานในร่างกาย ดังนั้น เมื่อพลังงานในร่างกายมีความสมดุล จะนามาซึ่ง พลังกาย และใจที่แข็งแรง พร ้อมที่จะออกไปต่อสู้ สร ้างชีวิต นามาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง https://www.blockdit.com/posts/5f81806e64c0c10cc819539f
เมื่อความสมดุล นี่เอง ที่ชีวิต ต
้องการ สิ่งสาคัญที่ต ้องใช ้ควบคู่ไปกับการจัดฮวงจุ้ย ก็คือ ดวง ชะตา ดวงชะตาที่ใช ้ในการเสริมฮวงจุ้ย จะยึดตามหลักดวงจีน นั่นเอง หลักการของดวงจีน คือ เรื่องของการสร ้างความสมดุล ของ ธาตุทั้ง 5 ( ดิน ทอง น้า ไม ้ไฟ ที่มีอยู่ในร่างกายของเรา )
• ดวงจีน (ปาจื่อ) คือ
ลักษณะของพลังธรรมชาติที่ประจุเข ้าสู่ร่างกาย เป็นครั้งแรกของชีวิต (การหายใจครั้งแรก) • ซึ่งแต่ละคนก็จะประจุพลังธรรมชาติแตกต่างกัน ตาม ปี เดือน วัน ยาม ของการถือกาเนิดแต่ละคน ทาให ้เรารู้ว่าธาตุต่างๆ ในดวงของเรา มีธาตุใดบ ้างที่ อ่อนแอ หรือ แข็งแรง
• เราจะหาวิธีปรับความสมดุลให ้กับธาตุในร่างกายได
้ อย่างไร จึงเป็นที่มาของการหา ธาตุสาคัญ คือ ส่วนที่สาคัญ ที่สุดของดวงจีน ธาตุสาคัญ คือ ธาตุที่ทาให้ดวงเกิดความสมดุล มีทั้งธาตุที่ให้คุณ และ ให้โทษ (ต้องทาการผูกดวงชะตาก่อนถึงจะรู ้)
• เมื่อพลังงานในร่างกาย มีการไหลเวียนอย่างมีความสมดุล จึงนามาซึ่งสุขภาพกาย และใจที่ดี มีพลังในการดาเนินชีวิต ช่วยส่งเสริมการแสดงออก
คิด พูด ทา ไปในทางที่ดี ต่อชีวิต นามาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง หรือ เรียกว่า มีดวงชะตาที่ดีนั่นเอง
ดวงจีน จะบ่งบอกโรคภัย หรือ ปัญหาสุขภาพที่เฉพาะเจาะจงใน แต่ละคน •
You are what you eat “คุณกินอะไรเข ้าไป คุณก็เป็น อย่างนั้น” • อาหารเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยปรับสมดุลกับกับ ร่างกาย • การทานอย่างสมดุล คือ ไม่เลือกทานอย่างใดอย่าง หนึ่ง แต่ควรเลือกทานให ้หลากหลาย บริโภคให ้ครบทุกหมู่ และไม่ทานรสจัดจ ้านมากเกินไป จึงจะทาให ้ร่างกายได ้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ ครบถ ้วน ทาให ้มีสุขภาพที่ดีและแข็งแรง
🚩ในศาสตร์ของดวงจีน จะแบ่งรสชาติของอาหารตาม ธาตุ ออกเป็น 5
ประเภท คือ รสเปรี้ยว รสขม รสหวาน รส เผ็ด และ รสเค็ม หลัก ปัญจธาตุ มีวงจรตามการก่อเกิด และพิฆาต ควบคุม ดังนี้
จากผังวงจรแสดงการก่อเกิด และ พิฆาตควบคุม ของธาตุทั้ง 5
จะขอยกตัวอย่างเพื่อให ้ เข ้าใจได ้มากขึ้น ดังนี้ 1.รสเปรี้ยว(ธาตุไม ้) บารุงตับ เส ้นเอ็น เหมาะกับผู้ที่มักมีอาการเส ้นเอ็นอักเสบบ่อยๆ และ อักเสบเรื้อรัง แต่ถ้าเปรี้ยวเกินไปจะทาลาย ม ้าม กระเพาะอาหาร จะกระทบระบบย่อย และดูดซึมอาหาร โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร(ธาตุไม ้พิฆาต ธาตุดิน) และทาลาย ตับ ไม่เหมาะ กับดวงชะตาที่มี ธาตุไม ้ให ้โทษ
2. รสเผ็ด(ธาตุทอง) บารุงปอด ช่วยให
้ปอดทางานอย่างมี ประสิทธิภาพ และช่วยป้องกันโรค หวัด • แต่ถ ้ากินเผ็ดมากเกินไปจะทาลายตับ เส ้นเอ็น กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทาให ้เส ้นเอ็นหดตัว เจ็บป่ วยที่ระบบเส ้นเอ็น (ธาตุ ทอง พิฆาต ธาตุไม ้) และทาลาย ปอด ไม่เหมาะ กับดวงชะตาที่มี ธาตุทองให ้โทษ
3.รสหวาน(ธาตุดิน) บารุงม ้าม กระเพาะอาหาร ช่วยบารุงระบบย่อยอาหาร ลดอาการท
้องอืด ถ่ายเป็นก ้อนดีขึ้น • แต่ถ ้ากินหวานมากเกินไปจะทาลายไต ทาให ้สะสมความร ้อนและชื้นในร่างกาย เกิดการตกค ้างของอาหารและของเสียได ้ง่าย (ธาตุ ดิน พิฆาต ธาตุน้า) และทาลาย ม ้าม ไม่เหมาะ กับดวงชะตาที่มี ธาตุดินให ้โทษ
4.รสเค็ม(ธาตุน้า) บารุงไต ช่วยรักษาสมดุลของระดับน้าในร่างกาย ช่วยให ้ไตขับน้ามากขึ้น และช่วยให
้คนธาตุน้าที่ตัวบวมน้ามีอาการ ดีขึ้น • แต่ถ ้ากินเค็มมากเกินไปจะทาลายหัวใจ จะกระทบกระเทือนหัวใจ ทาให ้หลอดเลือดหดตัว ความดันเลือดสูง(ธาตุน้า พิฆาต ธาตุไฟ) และ ทาลาย ไต ไม่เหมาะ กับดวงชะตาที่มี ธาตุน้าให ้โทษ
5.รสขม(ธาตุไฟ) บารุงหัวใจ ช่วยปรับธาตุไฟในร่างกาย ช่วยบารุง เลือด รวมถึงเสริมสร
้างความแข็งแรงแก่ หลอดเลือด • แต่ถ ้ากินขมมากเกินไปจะทาลายปอด ทาให ้ผิวหนังแห ้ง และระบบการย่อยอาหารอ่อนแอ จะแสดงอาการไอ ไอแบบมีเสมหะ (ธาตุไฟ พิฆาต ธาตุทอง) และ ทาลาย หัวใจ ไม่เหมาะ กับดวงชะตาที่มี ธาตุไฟให ้โทษ
มีไฟ ย่อมมีดิน
ยกตัวอย่าง เช่น ดวงชะตาชอบ ธาตุน้า
กับ ธาตุทอง • ให ้กินอาหารรสเค็ม และเผ็ดเล็กน้อยเป็นตัวนา และวัตถุดิบให ้เน้นไปที่ สีดา และ สีขาวเป็นหลัก เป็นการเสริมดวงชะตา และช่วยสร ้างความสมดุลให ้กับพลังงานธาตุใน ร่างกาย • ดังนั้นห ้าม กินรสจัด เพราะจะไปทาลายธาตุ(อวัยวะ)ที่เป็นตัวแทนรสชาติ นั้นๆ และ ยังไปทาลายธาตุโดยตรง ใน วงจรพิฆาต-ก่อเกิด ในวงจร ปัญจธาตุอีกด ้วย เช่น กินเค็มเกินไป จะทาลายไต และ ความเค็ม คือ ธาตุน้า จะไปพิฆาต ธาตุไฟ คือ
🚩สุดท ้ายนี้ ขอให
้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงทั้งร่างกาย และจิตใจ มีความสุขกับการกินให ้ถูกทาง ถูกโฉลกนะครับ https://www.blockdit.com/posts/5f81806e64c0c10cc819539f
Publicité