SlideShare a Scribd company logo
1 of 10
Download to read offline
ทรัพยากรธรรมชาติ
ความหมายของทรัพยากรธรรมชาติ
            ทรัพยากรธรรมชาติ (Natural resources) หมายถึงสิ่งที่ปรากฏอยู่ตามธรรมชาติหรือสิ่งที่ขึ้นเอง
อานวยประโยชน์แก่มนุษย์และธรรมชาติด้วยกันเอง (ทวี ทองสว่าง และทัศนีย์ ทองสว่าง,2523:4) ถ้าสิ่งนั้น
ยังไม่ให้ประโยชน์ต่อมนุษย์ ก็ไม่ถือว่าเป็นทรัพยากรธรรมชาติ (เกษม จันทร์แก้ว,2525:4)
ความหมายของทรัพยากรธรรมชาติมักจะมองในแง่ที่ว่า เป็นสิ่งอานวยประโยชน์แก่มนุษย์ทั้งทางตรงและ
ทางอ้อม หากไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรเลยก็คงไม่ใช่ทรัพยากรธรรมชาติ ดังนั้นจึงมีการจัดประเภท
ทรัพยากรธรรมชาติไว้หลายประเภทด้วยกัน เช่น ดิน น้า ป่าไม้ สัตว์ป่า แร่ธาตุ ฯลฯ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่เป็น
แหล่งพลังงานสาคัญ
            การใช้คาว่า "ทรัพยากรธรรมชาต" และคาว่า "สิ่งแวดล้อม" บางครั้งผู้ใช้อาจจะเกิดความสับสนไม่
                                             ิ
ทราบว่าจะใช้คาไหนดี จึงน่าพิจารณาว่าคาทั้งสองนี้มีความคล้ายคลึงและแตกต่างกันอย่างไร ในเรื่องนี้
เกษม จันทร์แก้ว (2525:7-8) ได้เสนอไว้ดังนี้
            1. ความคล้ายคลึงกัน ในแง่นี้พิจารณาจากที่เกิด คือ เกิดขึ้นตามธรรมชาติเหมือนกัน
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่างเป็นสิ่งที่ให้ประโยชน์ต่อมนุษย์เช่นกัน มนุษย์รู้จักใช้ รู้จักคิดในการ
นาทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ และมนุษย์อาศัยอยู่ในทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ ก็ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ทรัพยากรธรรมชาติ แล้วมนุษย์ก็เรียกสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดว่า "สิ่งแวดล้อม" ความคล้ายคลึงกันของคาว่า
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอยู่ที่ว่าทรัพยากรธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อม
            2. ความแตกต่าง ทรัพยากรธรรมชาติเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่สิ่งแวดล้อมนั้น
ประกอบด้วยทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยอาศัยทรัพยากรธรรมชาติ หากขาด
ทรัพยากรธรรมชาติ มนุษย์จะไม่สามารถสร้างสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ได้เลย
ถ้าแยกมนุษย์ออกมาในฐานะผู้ใช้ประโยชน์จากสิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้ เมื่อกล่าวถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
จึงควรใช้คาว่า "ทรัพยากรธรรมชาติ" แต่ถ้าต้องการกล่าวรวม ๆ ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและสิ่งที่มนุษย์
สร้างขึ้นก็ควรใช้คาว่า "สิ่งแวดล้อม" แต่ถ้าต้องการเน้นเรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ
กัน ก็ควรใช้คาว่า "ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม"
            เมื่อกล่าวถึงสิ่งแวดล้อมหลาย ๆ คน จะเข้าใจถึงเรื่องของน้าเสีย ควันพิษในอากาศ ไอเสียจาก
รถยนต์ ขยะมูลฝอย ฯลฯ ซึ่งในความเป็นจริง สิ่งแวดล้อม มีความหมายกว้างมาก มีความสัมพันธ์กับทุก ๆ
สิ่งที่มีชีวิต และไม่มีชีวิต ใน Module นี้ จะสนทนากัน ในเรื่องของคน มีความสัมพันธ์กับ สิ่งแวดล้อม
อย่างไร โดยที่ตระหนักอยู่เสมอว่า ในอดีตที่ ผ่านมา ปัญหาเรื่อง ความสมดุลย์ของ ธรรมชาติกับคนยังไม่มี
คนส่วนใหญ่ในยุคต้น ๆ จึงมีชีวิตอยู่ใต้ อิทธิพลของธรรมชาติ ความเปลี่ยนแปลง ทางด้านธรรมชาติ และ
สภาพแวดล้อม มีลักษณะที่ ค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งไม่ก่อให้เกิดผลกระทบ ทางสิ่งแวดล้อมมากนัก แต่เนื่องจาก
มีความเจริญก้าวหน้า ด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม ขยายตัวมากขึ้น ประกอบด้วย ความ
ต้องการของมนุษย์ มีอยู่ไม่จากัด จึงทาให้เกิดปัญหา ทางด้านสิ่งแวดล้อม ขึ้นในโลกสีเขียวของเรา เช่น
ปัญหาทางด้าน ภาวะมลพิษทางเสียและน้า ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติ เสื่อมสลาย ปัญหาการตั้ งถิ่นฐาน และ
ชุมชน ดังนั้น จึงมีความจาเป็น ที่จะต้องกล่าวถึง มนุษย์กับความสัมพันธ์ กับสิ่งแวดล้อมอย่างไร

ประเภทของทรัพยากรธรรมชาติ
         การแบ่งประเภทของทรัพยากรธรรมชาติมีการแบ่งกันหลายลักษณะ แต่ในทีนี้ แบ่งโดยใช้เกณฑ์
ของการนามาใช้ แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
         1. ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วไม่หมดสิ้น (Inexhaustible natural resources) เป็น
ทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดขึ้นก่อนที่จะมีมนุษย์ เมื่อมีมนุษย์เกิดขึ้นมาสิ่งเหล่านี้ก็มีความจาเป็นต่อการ
ดารงชีวิตของมนุษย์ จาแนกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
                 1.1 ประเภทที่คงสภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลง (Immutuable) ได้แก่ พลังงานจากดวงอาทิตย์
ลม อากาศ ฝุ่น แม้กาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าใดก็ตามสิ่งเหล่านี้ก็ยังคงมีไม่เปลี่ยนแปลง
                 1.2 ประเภทที่มีการเปลี่ยนแปลง (Mutuable) การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากการใช้
ประโยชน์อย่างผิดวิธี เช่น การใช้ที่ดิน การใช้นาโดยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง ทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้ง
ทางด้านกายภาพ และด้านคุณภาพ
         2. ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วทดแทนได้ (renewable natural resources) เป็น
ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้ไปแล้วสามารถเกิดขึ้นทดแทนได้ ซึ่งอาจจะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กันชนิดของ
ทรัพยากรธรรมชาติประเภทนั้น ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วทดแทนได้ เช่น พืช ป่าไม้ สัตว์ป่า มนุษย์
ความสมบูรณ์ของดิน คุณภาพของน้า และทัศนียภาพที่สวยงาม เป็นต้น
         3. ทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถนามาใช้ใหม่ได้ (Recycleable natural resources) เป็น
ทรัพยากรธรรมชาติจาพวกแร่ธาตุที่นามาใช้แล้วสามารถนาไปแปรรูปให้กลับไปสู่สภาพเดิมได้ แล้วนา
กลับมาใช้ใหม่อีก (อู่แก้ว ประกอบไวยกิจ เวอร์,2525:208) เช่น แร่โลหะ แร่อโลหะ ได้แก่ เหล็ก ทองแดง
อะลูมิเนียม แก้ว ฯลฯ
         4. ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดสิ้นไป (Exhausting natural resources) เป็น
ทรัพยากรธรรมชาติที่นามาใช้แล้วจะหมดไปจากโลกนี้ หรือสามารถเกิดขึ้นทดแทนได้ แต่ต้องใช้เวลา
ยาวนานมาก ทรัพยากรธรรมชาติประเภทนี้ ได้แก่ น้ามันปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน เป็นต้น

ความสาคัญและผลกระทบของทรัพยากรธรรมชาติ
          ทรัพยากรธรรมชาติมีความสาคัญต่อมนุษย์มากมายหลายด้านดังนี้
          1. การดารงชีวิต ทรัพยากรธรรมชาติเป็นต้นกาเนิดของปัจจัย 4 ในการดารงชีวิตของมนุษย์พบว่า
มนุษย์จะต้องพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติเพื่อสนองความต้องการทางด้านปัจจัยสี่ คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่
อยู่อาศัย และยารักษาโรค
- อาหารที่มนุษย์บริโภคแรกเริ่มส่วนหนึ่งได้จากทรัพยากรธรรมชาติ เช่น เผือก มัน ปลาน้า
จืดและปลาน้าเค็ม เป็นต้น
                    - เครื่องนุ่งห่ม แรกเริ่มมนุษย์ประดิษฐ์เครื่องนุ่งห่มจากทรัพยากรธรรมชาติ เช่น จากฝ้าย
ป่าน ลินิน ขนสัตว์ ฯลฯ ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ต่อมาเมื่อจานวนประชากรเพิ่มขึ้น ความต้องการเครื่องนุ่งห่มก็
เพิ่มขึ้นด้วย จึงจาเป็นต้องปลูกหรือเลี้ยงสัตว์ เพื่อการทาเครื่องนุ่งห่มเอง และในที่สุดก็ทาเป็นอุตสาหกรรม
                    - ที่อยู่อาศัย การสร้างที่อยู่อาศัยของชนเผ่าต่าง ๆ จะพยายามหาทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีอยู่
ในท้องถิ่นมาเป็นองค์ประกอบหลักในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยขึ้นมา ตัวอย่างเช่น ในเขตทะเลทรายที่แห้งแล้ง
บ้านที่สร้างขึ้นในเขตภูเขาจะทาด้วยดินเหนียว แต่ถ้าเป็นบริเวณที่แห้งแล้ง และไร้พืชพรรณธรรมชาติ บ้าน
ที่สร้างขึ้นอาจจะเจาะเป็นอุโมงค์เข้าไปตามหน้าผา บ้านคนไทยในชนบทสร้างด้วยไม้ ไม้ไผ่ หลังคามุงด้วย
จากหรือหญ้า เป็นต้น
                    - ยารักษาโรค ตั้งแต่สมัยโบราณมนุษย์รู้จักนาพืชสมุนไพรมาใช้ในการรักษาโรค เช่น คน
ไทยใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโรคหวัด หอบ หืด หัวไพล ขมิ้น น้าผึ้งใช้บารุงผิว
           2. การตั้งถิ่นฐานและการประกอบอาชีพ ทรัพยากรธรรมชาติเป็นปัจจัยพื้นฐานในการตั้งถิ่นฐาน
และประกอบอาชีพของมนุษย์ เช่น แถบลุ่มแม่น้าหรือชายฝั่งทะเลที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชและสัตว์ จะมี
ประชาชนเข้าไปตั้งถิ่นฐานและประกอบอาชีพทางการเกษตรกรรมประมง เป็นต้น
           3. การพัฒนาทางเศรษฐกิจ จาเป็นต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
           4. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การประดิษฐ์เครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องจักร เครื่องผ่อนแรง ต้อง
อาศัยทรัพยากรธรรมชาติ
           5. การรักษาสมดุลธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติเป็นปัจจัยในการรักษาสมดุลธรรมชาติ

กิจกรรมของมนุษย์ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ได้แก่
          1. กิจกรรมทางด้านอุตสหกรรม โดยไม่มีการคานึงถึงสิ่งแวดล้อม มีการนาใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
มากมาย และก่อให้เกิดมลพิษ ต่อสิ่งแวดล้อม เช่น อุตสาหกรรมเหมืองแร่ มีการเปิดหน้าดิน ก่อให้เกิดปัญหา
การชะล้าง พังทลายของดิน และปัญหาน้าทิ้ง จากเหมืองลงสู่แหล่งน้า ก่อให้เกิดพลพิษทางน้า
          2. กิจกรรมทางการเกษตร เช่น มีการใช้ยาฆ่าแมลง เพื่อเพิ่มผลผลิต ส่งผลให้เกิดอันตราย ต่อ
สิ่งแวดล้อม และสุขภาพอนามัยของมนุษย์ เนื่องจากมีการสะสมสารพิษ ไว้ในร่างกายของสิ่งมีชีวิต และ
สิ่งแวดล้อม ก่อให้เกิดอันตราย ในระยะยาวและเกิดความสูญ ทางด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากการเจ็บป่วย ของ
ประชาชน และคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่แย่ลง
          3. กิจกรรมการบริโภคของมนุษย์ ส่งผลให้ มีการใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย ขาดการคานึงถือ
สิ่งแวดล้อม ก่อให้เกิดปัญหา สิ่งแวดล้อมตามมา เช่น ปริมาณขยะที่มากขึ้น จากการบริโภคของเรานี้ ที่มาก
ขึ้นซึ่งยากต่อการกาจัด โดยเกิดจาการใช้ทรัพยากร อย่างไม่คุ้มค่า ทาให้ปริมาณทรัพยากรธรรมชาติ ลด
น้อยลง เป็นต้น
สาเหตุที่มนุษย์ลาบายสิ่งแวดล้อมมีหลายสาเหตุดังนี้
         1. การเพิ่มของประชากร การเพิ่มของประชากรโลก เป็นไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความเจริญ
ทางด้านการแพทย์ ช่วยลดอัตราการตาย โดยการเพิ่มประชากรนี้ ก่อให้เกิดการบริโภคทรัพยากรมากขึ้น มี
ของเสียมากขึ้น
         2. พฤติกรรมการบริโภค อันเนื่องมาจาก ต้องการให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น มีความสุขสบาย มากขึ้น มี
การนาใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างสิ้นเปลือง มีขยะและของเสียมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมและ
ตัวมนุษย์เอง
         3. ความโลภของมนุษย์ โดยนาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมมาใช้ เพื่อให้ตนเองมีความ
ร่ารวย มีความสะดวกสบาย มีความเห็นแก่ตัว ขาดสติยั้งคิด ถึงสิ่งแวดล้อม อันจะเป็นผลส่งให้เกิดปัญหา
สิ่งแวดล้อม ที่มากระทบต่อมนุษย์เองในที่สุด
         4. ความไม่รู้ สิ่งที่ทาให้มนุษย์ ขาดการรู้เท่าทัน บนรากฐานแห่งความจริง อย่างลึกซึ้งใน
สิ่งแวดล้อม และธรรมชาติ ส่งผลให้มนุษย์ขาดสต ิในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ มีพฤติกรรมการบริโภค
อันเป็นการทาลายสิ่งแวดล้อม โดยขาดการคาดการณ์ ผลที่จะเกิดตามมา จะส่งผลให้เกิดปัญหาสิ่ง แวดล้อม
และนาไปสู่ความเสียหาย ทั้งตนเองและธรรมชาติ

วิกฤตการทรัพยากรธรรมชาติในปัจจุบัน
           ทรัพยากรธรรมชาติมีความสาคัญต่อมนุษย์มากมายหลายด้านดังนี้
ประเภทของสัตว์ป่า
           พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ในพระปรมาภิไทยพระบาทสมเด็จพระ
เจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ให้ไว้ ณ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2535 เป็นปีที่ 47 ในรัชกาลปัจจุบัน แบ่งสัตว์ป่า
ออกเป็น 2ประเภท คือ
1. สัตว์ป่าสงวน เป็นสัตว์ป่าที่หายากและปัจจุบันมีจานวนน้อยชนิดมาก บางชนิดสูญพันธุ์ไปแล้ว มี 15 ชนิด
คือ นกเจ้าฟ้าหญิงสิริธร แรด กระซู่ กูปรีหรือโคไพร ควายป่า ละอง หรือละมั่ง สมันหรือเนื้อสมัน เลียงผา
นกแต้วแล้วท้องดา นกกระเรียน แมวลายหินอ่อน สมเสร็จ เก้งหม้อ และพยูนหรือหมูน้า
2. สัตวป่าคุ้มครอง เป็นสัตว์ที่ทั้งปกติไม่นิยมใช้ใช้เป็นอาหารและใช้เป็นอาหาร ทั้งที่ไม่ใช่ล่าเพื่อการกีฬา
และล่าเพื่อการกีฬา ตามที่กฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กาหนดไว้ มากกว่า 200 ชนิด เช่น ค่าง ชะนี อีเห็น
ไก่ฟ้า เหยี่ยว ช้างป่า แร้ง กระทิง หมีควาย อีเก้ง นกเป็ดน้า เป็นต้น
บทลงโทษ ทั้งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง และซากของสัตว์ป่า
สงวนหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง ห้ามมิให้ผู้ใดทาการล่า มีไว้ใน
ครอบครอง ค้าขายและนาเข้า หรือส่งออก หากผู้ใดฝ่าฝืนระวาง
โทษจาคุกไม่เกินสี่ปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจาทั้งปรับ
ทรัพยากรธรรมชาติที่สาคัญ




        เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ขาดไม่ได้ต่อการดาเนินชีวิต เพราะเป็นสิ่งจาเป็นต่อการดาเนินชีวิต
ตลอดเวลา จึงให้ความสาคัญเป็นอย่างยิ่ง และจะต้องเอาใจใส่ดูแลเพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาตินั้นให้คงไว้
ใช้ได้นาน ทรัพยากรธรรมชาติที่ว่านั้น ได้แก่
                - ทรัพยากรน้า
                - ทรัพยากรดิน
                - ทรัพยากรป่าไม้
                - ทรัพยากรสัตว์ป่า
                - ทรัพยากรแร่ธาตุ
                - ทรัพยากรพลังงาน
                - ทรัพยากรป่าชายเลน
                - ทรัพยากรปะการัง

ทรัพยากรน้า
           น้าเป็นทรัพยากรที่มีความสาคัญต่อชีวิตคน พืช และสัตว์มากที่สุดแต่ก็มีค่าน้อยที่สุดเมื่อ
เปรียบเทียบกับทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ น้าเป็นปัจจัยสาคัญในการดารงชีวิตของมนุษย์และเป็น
องค์ประกอบที่สาคัญของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
ความสาคัญของทรัพยากรน้า
           1. ใช้สาหรับการบริโภคและอุปโภค เพื่อดื่มกิน ประกอบอาหาร ชาระร่างกาย ทาความสะอาด ฯลฯ
           2. ใช้สาหรับการเกษตร ได้ แก่ การเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ แหล่งน้าเป็นที่อยู่อาศัยของปลาและสัตว์น้า
อื่น ๆ ซึ่งคนเราใช้เป็นอาหาร
3. ด้านอุตสาหกรรม ต้องใช้น้าในกระบวนการผลิต ล้างของเสีย หล่อเครื่องจักร และระบายความ
ร้อน ฯลฯ
         4. การทานาเกลือ โดยการระเหยน้าเค็มจากทะเล หรือระเหยน้าที่ใช้ละลายเกลือสินเธาว์
         5. น้าเป็นแหล่งพลังงานในการผลิตกระแสไฟฟ้า
         6. เป็นเส้นทางคมนาคมที่สาคัญ แม่น้า ลาคลอง ทะเล มหาสมุทร เป็นเส้นทางคมนาคมที่สาคัญมา
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
         7. เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทัศนียภาพของริมฝั่งทะเล และแหล่งน้าที่ใสสะอาดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
ของมนุษย์




ทรัพยากรดิน
          ดินหมายถึง เทหวัตถุธรรมชาติที่ปกคลุมผิวโลก เกิดจากการแปรสภาพหรือสลายตัวของหินแร่ธาตุ
และอินทรีย์วัตถุผสมคลุกเคล้ากันตามธรรมชาติรวมกันเป็นชั้นบาง ๆ เมื่อมีน้าและอากาศที่เหมาะสมก็จะทา
ให้พืชเจริญเติบโตและยังชีพอยู่ได้
          เนื่องจากภาคตะวันตกส่วนใหญ่เป็นเขตเทือกเขาสูง เพราะฉะนั้นวัตถุแม่ดิน หรือแหล่งกาเนิดดิน
ต้องเกิดจากการสลายตัวของหินที่เป็นกรด ดังนั้นดินจึงมีความอุดมสมบูรณ์ ค่อนข้างต่า ดินชนิดนี้ เรียกว่า
ดินเรดเยลโล-พอดโซลิก (Red-yellow Podzolic Soils) ดินชนิดนี้ มีในเขตภูเขาที่เป็นกรด ส่วนในเขตที่มี
หินปูน เช่น บริเวณเทือกเขาในเขตอาเภออุ้มผาง จังหวัดตาก และบริเวณปลายเทือกเขาถนนธงชัยระหว่าง
แม่น้าแควใหญ่กับแควน้อยจะเป็นพวกเรด-บราวด์ เอิท (Red-Brown earth) นอกจากนั้นยังมีดินที่เกิดจาก
การสลายตัวของสารหรือ หินภูเขาไฟ เราเรียกว่า ดินภูเขาไฟ ได้แก่พื้นที่บริเวณจังหวัดตาก เขตอาเภออุ้มผาง
ที่ราบลุ่มน้าแควน้อย เขตอาเภอสังขละบุรี อาเภอทองผาภูมิ อาเภอไทรโยค และบริเวณแก่งกระจาน เป็นต้น
ในด้านสมรรถนะของที่ดินในภาคตะวันตกปรากฏว่าพื้นที่เหมาะสาหรับการปลูกพืชไร่ มีประมาณ 25 %
ของเนื้อที่ภาค ทานา 5% ที่เหลือ 70 % ไม่เหมาะแก่การเพาะปลูก เพราะเป็น ที่ลาดชันมาก หรือ มีดินเป็น
ทรายจัด
ความสาคัญของทรัพยากรดิน
         ดินมีประโยชน์มากมายมหาศาลต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ คือ
                                                    1. ใช้ในการเกษตรกรรม ดินเป็นต้นกาเนิดของการ
                                           เกษตรกรรม เป็นแหล่งผลิตอาหารของมนุษย์ อาหารที่มนุษย์
                                           เราบริโภคทุกวันนี้มาจากการเกษตรกรรมถึง 90 %
                                                    2. ใช้ในการเลี้ยงสัตว์ พืชและหญ้าที่ขึ้นอยู่บนดิน
                                           เป็นแหล่งอาหารสัตว์ ตลอดจนเป็น แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์
                                                    บางชนิด เช่น งู หนู แมลง นาก ฯลฯ
                                           3. เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย พื้นดินเป็นแหล่งที่ตั้งของเมือง
                                           บ้านเรือน ทาให้เกิดวัฒนธรรม และอารยธรรมของชุมชนต่าง
                                           ๆ มากมาย
                                                    4. เป็นแหล่งกักเก็บน้า ถ้าน้าซึ่งอยู่ในรูปของ
ความชื้นในดินมีอยู่มาก ๆ ก็จะกลายเป็นน้าซึมอยู่ในดิน คือน้าใต้ดิน น้าเหล่านี้จะค่อย ๆ ซึมลงที่ต่า เช่น
แม่น้า ลาคลอง ทาให้เรามีน้าใช้ตลอดปี
ทรัพยากรป่าไม้
ความสาคัญของทรัพยากรป่าไม้
          ป่าไม้มีประโยชน์มากมายต่อการดารชีวิตของมนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนี้
          1. ประโยชน์ทางตรง (Direct benefits) ได้แก่การนามาใช้สนองปัจจัยพื้นฐานในการดารงชีวิตของ
มนุษย์ 4 ประการ ได้แก่
                   1. นามาสร้างอาคารบ้านเรือนและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์ กระดาษ ไม้ขีดไฟ ฟืน
เป็นต้น
                   2. ใช้เป็นอาหาร
                   3. ใช้เส้นใยที่ได้จากเปลือกไม้และเถาวัลย์ มาถักทอเป็นเครื่องนุ่งห่ม เชือก และอื่น ๆ
                   4. ใช้ทายารักษาโรคต่าง ๆ
          2. ประโยชน์ทางอ้อม (Indirect benefits)
                   1. ป่าไม้เป็นแหล่งกาเนิดต้นน้าลาธาร เพราะต้นไม้จานวนมากในป่า จะทาให้น้าฝนที่ตกลง
มาค่อย ๆ ซึมซับลงในดิน กลายเป็นน้าใต้ดินซึ่งจะไหลซึมมาหล่อเลี้ยงให้แม่น้าลาธารมีน้าไหลอยู่ตลอดปี
                   2. ป่าไม้ทาให้เกิดความชุมชื้นและควบคุมสภาวะอากาศ ไอน้าซึ่งเกิดจากการหายใจของพืช
จานวนมากในป่า ทาให้อากาศเหนือป่ามีความชื้นสูง เมื่ออุณหภูมิลดต่าลงไอน้า เหล่านั้นก็จะกลั่นตัว
กลายเป็นเมฆแล้วกลายเป็นฝนตกลงมา ทาให้บริเวณที่มีพื้นที่ป่าไม้มีความชุมชื้นอยู่เสมอ ฝนตกต้องตาม
ฤดูกาลและไม่เกิดความแห้งแล้ง
                   3. ป่าไม้เป็นแหล่งพักผ่อนและศึกษาหาความรู้ บริเวณป่าไม้จะมีภูมิประเทศที่ สวยงามจาก
ธรรมชาติรวมทั้งสัตว์ป่าจึงเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจได้ดี นอกจากนั้นป่าไม้ยังเป็นที่รวมของพันธุ์พืชและ
พันธุ์สัตว์จานวนมาก จึงเป็นแหล่งให้มนุษย์ได้ศึกษาหาความรู้
                   4. ป่าไม้ช่วยบรรเท่าความรุนแรงของลมพายุและป้องกันอุทกภัย โดยช่วยลดความเร็วของ
ลมพายุที่พัดผ่านได้ตั้งแต่ 11-44% ตามลักษณะของป่าไม้แต่ละชนิดจึงช่วยให้บ้านเมือง รอดพ้นจากวาตภัย
ได้ ซึ่งเป็นการป้องกันและควบคุมน้าตามแม่น้าไม่ให้สูงขึ้นอย่างมารวดเร็วล้นฝั่งกลายเป็นอุทกภัย
                   5. ป่าไม้ช่วยป้องกันการกัดเซาะและพัดพาหน้าดิน จากน้าฝนและลมพายุโดยลดแรงปะทะ
ลง การหลุดเลื่อนของดินจึงเกิดขึ้นน้อย และยังเป็นการช่วยให้แม่น้าลาธารต่าง ๆ ไม่ ตื้นเขินขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ป่าไม้จะเป็นเสมือนเครื่องกีดขวางตามธรรมชาติ จึงนับว่ามีประโยชน์ในทางยุทธศาสตร์ด้วย
เช่นกัน
                   6. ช่วยให้เกิดวัฎจักรของน้า (Water Cycling) วัฎจักรของออกซิเจน วัฎจักรของคาร์บอน
และวัฎจักรของไนโตรเจน ในเขตนิเวศ(Ecosphere)
                   7. ช่วยดูดซับมลพิษของอากาศ
แร่ธาตุ
ความสาคัญของแร่ธาตุ
         1. ด้านความมั่นคงและมั่งคั่งของประเทศ ประเทศที่มีแร่ธาตุต่าง ๆ มากมายและสามารถนาไปใช้
แปรรูปเป็นผลผลิตต่าง ๆ ที่ทาประโยชน์ต่อมนุษย์ เช่น ด้านอาวุธ ด้านอุตสาหกรรม
         2. ด้านความเป็นอยู่ของมนุษย์ ได้มีการนาแร่ธาตุต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์และสร้างขึ้นเป็นสิ่งต่าง ๆ
เช่น ภาชนะใช้สอย พาหนะที่ช่วยในการคมนาคม อาคารบ้านเรือน ก๊าซหุงต้ม พลังงานไฟฟ้า
         3. ด้านการสร้างงานแก่ประชาชน ทาให้ประชาชนมีรายได้จากการขุดแร่ ไปจนถึงแปรรูปเป็น
ผลิตภัณฑ์ไปสู่ผู้บริโภค
         นอกจากนี้แร่ธาตุชนิดต่าง ๆ มีคุณสมบัติต่างกัน จึงมีประโยชน์แตกต่างกัน เช่น แร่วุลแฟรม นามา
ทาไส้หลอดไฟฟ้า ใช้ในอุตสาหรกรรมเครื่องแก้ว แร่พลวงนามาใช้ทาตัวพิมพ์หนังสือ ทาสี แบตเตอรี รัตน
ชาติ เป็นแร่ที่มีสีสันสวยงาม นามาใช้ทาเครื่องประดับต่าง ๆ มากมาย

แนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
           การเพิ่มประชากรอย่างรวดเร็ว (Exponential) ทาให้มีการนาทรัพยากรธรรมชาติมาใช้สนองความ
ต้องการในการดารงชีวิตมากยิ่งขึ้นทั้งทางด้านปริมาณและคุณภาพ ซึ่งบางครั้งเกินความจาเป็น จนทาให้
ระบบนิเวศต่าง ๆ เสียสมดุล ทรัพยากรธรรมชาติบางอย่างเสื่อมโทรม ร่อยหรอหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงจน
ไม่สามารถเอื้อประโยชน์ได้เช่นเดิม จึงมีความจาเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาวิธีการ หรือมาตรการในการใช้
ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเหมาะสมและมีเหตุผลเพียงพอ ทั้งนี้รวมไปถึงการควบคุมขนาดประชากรโลกให้มี
ความเหมาะสมกับทรัพยากรของโลก ขณะเดียวกันก็ต้องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย ในการอนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติตามหัวข้อที่ 3.1.3นั้น ควรเน้นทรัพยากรธรรมชาติประเภทที่ 1 และ2 โดยมีมาตรการที่
ทาให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ตลอดไปทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ ส่วนทรัพยากรธรรมชาติประเภทที่ 3
และ 4 ควรใช้กันอย่างประหยัดและเหมาะสม ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดสิ้นไปควรใช้อย่างประหยัด
ที่สุด
แนวคิดการพัฒนาแบบยั่งยืน (Sustainable Development-S.D.)
           WCED World Commission on Environment and Development ได้ให้ความหมายของการพัฒนา
แบบยั่งยืนไว้ว่า เป็นการพัฒนา ที่สามารถตอบสนอง ต่อความต้องการขั้นพื้นฐาน ของคนในรุ่นปัจจุบัน เช่น
อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย ฯลฯ โดยไม่ทาให้ ความสามารถ ในการตอบสนอง ความ
ต้องการดังกล่าว ของคนรุ่นต่อไปต้องเสียไป ("Development that meets the needs of the present without
compromising the ability of Future generation to meet their own needs")
ซึ่งเพื่อพิจารณาแล้ว จะเห็นว่า S.D เป็นเรื่องเกี่ยวข้อง กับความเท่าเทียมกัน ของคนในปัจจุบันรุ่นเดียวกัน
และความเท่าเทียมกัน ของคนระหว่างรุ่นปัจจุบัน และรุ่นต่อไป เป็นความเท่าเทียมกัน ที่มุ่งให้เกิดความ
ยุติธรรม ในการกระจายความมั่งคั่ง (รายได้) และการให้ทรัพยากร ตลอดจนการอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อมโดย
S.D. จะเกี่ยวข้องกับ ความสัมพันธ์ของระบบ 3 ระบบ คือ ระบบนิเวศ/สิ่งแวดล้อม ระบบเศรษฐกิจ และ
ระบบสังคม มีเป้าหมายคือ การทาให้บรรลุเป้าหมายทั้ง 3 ระบบนี้ให้มากที่สุด เพื่อให้มีความเจริญเติบโต
พร้อมกันจากคนในรุ่นปัจจุบัน และมีความยั่งยืน ไปจนถึงลูกหลานในอานาคต
แนวทางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อสิ่งแวดล้อม
         มนุษย์เป็นผู้ใช้ทรัพยากรโดยตรง ซึ่งย่อมจะต้องได้รับผลกระทบ อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลง
ของสิ่งแวดล้อม ถ้าหากพิจารณา ถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมแล้ว จะเห็นได้ว่า ล้วนเป็นเหตุมาจาก การเพิ่มจานวน
ประชากร และการเพิ่มปริมาณ การบริโภคทรัพยากร ของมนุษย์เอง โดยมุ่งยกระดับมาตรฐาน การดารงชีวิต
และมีการผลิตเครื่องอุปโภคมากขึ้น มีการนาใช้ ทรัพยากรธรรมชาติมากขึ้น ก่อให้เกิดสารพิษ อย่างมากมาย
สิ่งแวดล้อมหรือธรรมชาติ ไม่สามารถจะปรับตัวได้ทัน และทาให้ธรรมชาติ ไม่สามารถรักษาสมดุลไว้ได้
อันจะส่งผลต่อมนุษย์และโลกในที่สุด
ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นนี้ จะเห็นได้ว่า เกิดจากการขาดความรู้ ความเข้าใจในความเป็นจริง ของ
สิ่งแวดล้อม และธรรมชาติ ขาดความรู้ความเข้าใจ ในความเป็นจริงของชีวิต และองค์ประกอบอื่น ของความ
เป็นมนุษย์ โดยที่มนุษย์เอง ก็เป็นส่วนหนึ่ง ของสิ่งแวดล้อม และธรรมชาติ ดังนั้น การนาความรู้ ความเข้าใจ
มาปรับปรุง พัฒนาการดารงชีวิต ของมนุษย์ให้กลมกลืน กับสิ่งแวดล้อม จึงน่าจะเป็น มาตราการที่ดีที่สุด ใน
การที่จะทาให้มนุษย์ สามารถที่จะดารงชีวิตอยู่ได้ อย่างมั่นคง มีความสอดคล้อง และสามารถกลมกลืน กับ
สิ่งแวดล้อมได้ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต
แนวทางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อสิ่งแวดล้อมควรมีดังนี้
         1. การให้การศึกษาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม โดยเน้นให้ผู้เรียน ได้รู้จักธรรมชาติ ที่อยู่รอบตัวมนุษย์อย่าง
แท้จริง โดยให้มีการศึกษาถึง นิเวศวิทยา และความสัมพันธ์ ระหว่างมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มีความรู้
จริง ในการดารงชีวิต ให้ผสมกลมกลืน กับธรรมชาติที่อยู่โดยรอบ ได้มุ่งสอน โดยยึดหลักศาสนา โดยสอน
ให้คนมีชีวิต ความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ไม่ทาลายชีวิตอื่น ๆ ที่อยู่ในธรรมชาติด้วยกัน พิจารณาถึง ความ
เป็นไปตามธรรมชาติที่เป็นอยู่ ยอมรับความเป็นจริง ของธรรมชาติ และยอมรับความจริงนั้น โดยไม่ฝืน
ธรรมชาติ ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ อย่างสิ้นเปลืองน้อยที่สุด ทาให้เกิดทรัพยากรมนุษย์ ที่มีคุณภาพเป็นที่
ต้องการ ของสังคมและประเทศชาติ ในการพัฒนา
         2. การสร้างจิตสานึกแห่งการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นการทาให้บุคคล เห็นคุณค่าและตระหนัก ใน
สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ รวมทั้งผลกระทบ จากการทากิจกรรม ที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความรู้สึก
รับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ระหว่างสิ่งแวดล้อม และการพัฒนา การสร้างจิตสานึก โดยการให้การศึกษา
เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม จะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาจิตใจ ของบุคคล และยังมีผลต่อ พฤติกรรม ของบุคคล ให้มี
การเปลี่ยนแปลง การดาเนินชีวิต ได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกลมกลืน กับธรรมชาติ
         3. การส่งเสริมให้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยให้เอื้อต่อสิ่งแวดล้อม ดารงชีวิต โดยสอดคล้องกับ
ธรรมชาติ ซึ่งการปรับเปลี่ยน พฤติกรรม ที่เอื้อต่อสิ่งแวดล้อมนี้ จะเป็นสิ่งที่เกิดตามมา จากการให้การศึกษา
และการสร้างจิตสานึก ทาให้มีการดารงชีวิต โดยไม่เบียดเบียนธรรมชาติ

More Related Content

What's hot

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม part 2
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม part 2ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม part 2
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม part 2Green Greenz
 
แผ่นใสหน่วยที่ 3
แผ่นใสหน่วยที่ 3แผ่นใสหน่วยที่ 3
แผ่นใสหน่วยที่ 3juejan boonsom
 
อ.ศุภวััฒน์ พื้นที่คุ้มครองจันทบุรี
อ.ศุภวััฒน์ พื้นที่คุ้มครองจันทบุรีอ.ศุภวััฒน์ พื้นที่คุ้มครองจันทบุรี
อ.ศุภวััฒน์ พื้นที่คุ้มครองจันทบุรีyah2527
 
การประเม นผลกระทบส _งแวดล_อม
การประเม นผลกระทบส _งแวดล_อมการประเม นผลกระทบส _งแวดล_อม
การประเม นผลกระทบส _งแวดล_อมQuartz Yhaf
 
ทรัพยากรน้ำ
ทรัพยากรน้ำทรัพยากรน้ำ
ทรัพยากรน้ำlinnoi
 
โครงการปลูกป่าคืนชีวิตสู่ธรรมชาติ
โครงการปลูกป่าคืนชีวิตสู่ธรรมชาติโครงการปลูกป่าคืนชีวิตสู่ธรรมชาติ
โครงการปลูกป่าคืนชีวิตสู่ธรรมชาติพัน พัน
 
โครงการ ปลูกป่าคืนชีวิตสู่ธรรมชาติ
โครงการ ปลูกป่าคืนชีวิตสู่ธรรมชาติโครงการ ปลูกป่าคืนชีวิตสู่ธรรมชาติ
โครงการ ปลูกป่าคืนชีวิตสู่ธรรมชาติPim Untika
 
กฎหมายนโยบายทรัพยากรธรรมชาติ ภาค 1 ป 2557
กฎหมายนโยบายทรัพยากรธรรมชาติ ภาค 1 ป 2557กฎหมายนโยบายทรัพยากรธรรมชาติ ภาค 1 ป 2557
กฎหมายนโยบายทรัพยากรธรรมชาติ ภาค 1 ป 2557Narong Jaiharn
 
นิเวศวิทยา
นิเวศวิทยานิเวศวิทยา
นิเวศวิทยาheroohm
 
Biome and Biodiversity
Biome and BiodiversityBiome and Biodiversity
Biome and BiodiversityWan Kanlayarat
 
ระบบนิเวศ001
ระบบนิเวศ001ระบบนิเวศ001
ระบบนิเวศ001suttidakamsing
 
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมบทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมฟลุ๊ค ลำพูน
 
ระบบนิเวศ
ระบบนิเวศระบบนิเวศ
ระบบนิเวศJira Boonjira
 

What's hot (17)

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม part 2
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม part 2ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม part 2
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม part 2
 
แผ่นใสหน่วยที่ 3
แผ่นใสหน่วยที่ 3แผ่นใสหน่วยที่ 3
แผ่นใสหน่วยที่ 3
 
3p
3p3p
3p
 
อ.ศุภวััฒน์ พื้นที่คุ้มครองจันทบุรี
อ.ศุภวััฒน์ พื้นที่คุ้มครองจันทบุรีอ.ศุภวััฒน์ พื้นที่คุ้มครองจันทบุรี
อ.ศุภวััฒน์ พื้นที่คุ้มครองจันทบุรี
 
การประเม นผลกระทบส _งแวดล_อม
การประเม นผลกระทบส _งแวดล_อมการประเม นผลกระทบส _งแวดล_อม
การประเม นผลกระทบส _งแวดล_อม
 
06_การจัดการสิ่งแวดล้อม Vol.1 No.1
06_การจัดการสิ่งแวดล้อม Vol.1 No.106_การจัดการสิ่งแวดล้อม Vol.1 No.1
06_การจัดการสิ่งแวดล้อม Vol.1 No.1
 
ทรัพยากรน้ำ
ทรัพยากรน้ำทรัพยากรน้ำ
ทรัพยากรน้ำ
 
โครงการปลูกป่าคืนชีวิตสู่ธรรมชาติ
โครงการปลูกป่าคืนชีวิตสู่ธรรมชาติโครงการปลูกป่าคืนชีวิตสู่ธรรมชาติ
โครงการปลูกป่าคืนชีวิตสู่ธรรมชาติ
 
โครงการ ปลูกป่าคืนชีวิตสู่ธรรมชาติ
โครงการ ปลูกป่าคืนชีวิตสู่ธรรมชาติโครงการ ปลูกป่าคืนชีวิตสู่ธรรมชาติ
โครงการ ปลูกป่าคืนชีวิตสู่ธรรมชาติ
 
กฎหมายนโยบายทรัพยากรธรรมชาติ ภาค 1 ป 2557
กฎหมายนโยบายทรัพยากรธรรมชาติ ภาค 1 ป 2557กฎหมายนโยบายทรัพยากรธรรมชาติ ภาค 1 ป 2557
กฎหมายนโยบายทรัพยากรธรรมชาติ ภาค 1 ป 2557
 
นิเวศวิทยา
นิเวศวิทยานิเวศวิทยา
นิเวศวิทยา
 
Biome and Biodiversity
Biome and BiodiversityBiome and Biodiversity
Biome and Biodiversity
 
ระบบนิเวศ001
ระบบนิเวศ001ระบบนิเวศ001
ระบบนิเวศ001
 
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมบทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
 
น้ำ (Water) m2
น้ำ (Water) m2น้ำ (Water) m2
น้ำ (Water) m2
 
04
0404
04
 
ระบบนิเวศ
ระบบนิเวศระบบนิเวศ
ระบบนิเวศ
 

Viewers also liked

กลุ่มตนเป็นที่พึ่งแห่งตน --นิเวศวิทยากับศาสนา
กลุ่มตนเป็นที่พึ่งแห่งตน --นิเวศวิทยากับศาสนากลุ่มตนเป็นที่พึ่งแห่งตน --นิเวศวิทยากับศาสนา
กลุ่มตนเป็นที่พึ่งแห่งตน --นิเวศวิทยากับศาสนาfreelance
 
ใบความรู้+อากาศเคลื่อนที่ได้อย่างไร+ป.3+246+dltvscip3+55t2sci p03 f18-4page
 ใบความรู้+อากาศเคลื่อนที่ได้อย่างไร+ป.3+246+dltvscip3+55t2sci p03 f18-4page ใบความรู้+อากาศเคลื่อนที่ได้อย่างไร+ป.3+246+dltvscip3+55t2sci p03 f18-4page
ใบความรู้+อากาศเคลื่อนที่ได้อย่างไร+ป.3+246+dltvscip3+55t2sci p03 f18-4pagePrachoom Rangkasikorn
 
แบบฝึกหัดเอกภพ
แบบฝึกหัดเอกภพแบบฝึกหัดเอกภพ
แบบฝึกหัดเอกภพJiraporn
 
Best practice2013
Best practice2013Best practice2013
Best practice2013Jiraporn
 
การสอนแบบเปิด1
การสอนแบบเปิด1การสอนแบบเปิด1
การสอนแบบเปิด1Apinun Nadee
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 สิ่งแวดล้อมกับสุขภาพ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 สิ่งแวดล้อมกับสุขภาพแผนการจัดการเรียนรู้ที่1 สิ่งแวดล้อมกับสุขภาพ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 สิ่งแวดล้อมกับสุขภาพUmmara Kijruangsri
 
โรคทางพันธุกรรม
โรคทางพันธุกรรมโรคทางพันธุกรรม
โรคทางพันธุกรรมJiraporn
 
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคน ขี้เล่า
 
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4krunuy5
 
ภูมิศาสตร์
ภูมิศาสตร์ภูมิศาสตร์
ภูมิศาสตร์koorimkhong
 
ทรัพยากรดิน
ทรัพยากรดินทรัพยากรดิน
ทรัพยากรดินRoongroeng
 
ทรัพยากรน้ำ
ทรัพยากรน้ำทรัพยากรน้ำ
ทรัพยากรน้ำJiraporn
 

Viewers also liked (12)

กลุ่มตนเป็นที่พึ่งแห่งตน --นิเวศวิทยากับศาสนา
กลุ่มตนเป็นที่พึ่งแห่งตน --นิเวศวิทยากับศาสนากลุ่มตนเป็นที่พึ่งแห่งตน --นิเวศวิทยากับศาสนา
กลุ่มตนเป็นที่พึ่งแห่งตน --นิเวศวิทยากับศาสนา
 
ใบความรู้+อากาศเคลื่อนที่ได้อย่างไร+ป.3+246+dltvscip3+55t2sci p03 f18-4page
 ใบความรู้+อากาศเคลื่อนที่ได้อย่างไร+ป.3+246+dltvscip3+55t2sci p03 f18-4page ใบความรู้+อากาศเคลื่อนที่ได้อย่างไร+ป.3+246+dltvscip3+55t2sci p03 f18-4page
ใบความรู้+อากาศเคลื่อนที่ได้อย่างไร+ป.3+246+dltvscip3+55t2sci p03 f18-4page
 
แบบฝึกหัดเอกภพ
แบบฝึกหัดเอกภพแบบฝึกหัดเอกภพ
แบบฝึกหัดเอกภพ
 
Best practice2013
Best practice2013Best practice2013
Best practice2013
 
การสอนแบบเปิด1
การสอนแบบเปิด1การสอนแบบเปิด1
การสอนแบบเปิด1
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 สิ่งแวดล้อมกับสุขภาพ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 สิ่งแวดล้อมกับสุขภาพแผนการจัดการเรียนรู้ที่1 สิ่งแวดล้อมกับสุขภาพ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 สิ่งแวดล้อมกับสุขภาพ
 
โรคทางพันธุกรรม
โรคทางพันธุกรรมโรคทางพันธุกรรม
โรคทางพันธุกรรม
 
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
 
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
 
ภูมิศาสตร์
ภูมิศาสตร์ภูมิศาสตร์
ภูมิศาสตร์
 
ทรัพยากรดิน
ทรัพยากรดินทรัพยากรดิน
ทรัพยากรดิน
 
ทรัพยากรน้ำ
ทรัพยากรน้ำทรัพยากรน้ำ
ทรัพยากรน้ำ
 

Similar to ทรัพยากรธรรมชาติ

สไลด์ การใช้ทรัพยากรกับชุมชน+506+dltvsocp6+55t2soc p06 f05-1page
สไลด์  การใช้ทรัพยากรกับชุมชน+506+dltvsocp6+55t2soc p06 f05-1pageสไลด์  การใช้ทรัพยากรกับชุมชน+506+dltvsocp6+55t2soc p06 f05-1page
สไลด์ การใช้ทรัพยากรกับชุมชน+506+dltvsocp6+55t2soc p06 f05-1pagePrachoom Rangkasikorn
 
สไลด์ การใช้ทรัพยากรกับชุมชน+506+dltvsocp6+55t2soc p06 f05-4page
สไลด์  การใช้ทรัพยากรกับชุมชน+506+dltvsocp6+55t2soc p06 f05-4pageสไลด์  การใช้ทรัพยากรกับชุมชน+506+dltvsocp6+55t2soc p06 f05-4page
สไลด์ การใช้ทรัพยากรกับชุมชน+506+dltvsocp6+55t2soc p06 f05-4pagePrachoom Rangkasikorn
 
ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม human and enveronment
ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม human and enveronmentความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม human and enveronment
ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม human and enveronmentssusera700ad
 
il-pornprasert
il-pornprasertil-pornprasert
il-pornprasert0846054411
 
โครงการพระราชดำริ
โครงการพระราชดำริโครงการพระราชดำริ
โครงการพระราชดำริtipfylovely
 
โครงการพระราชดำร
โครงการพระราชดำร โครงการพระราชดำร
โครงการพระราชดำร pang_patpp
 
natural resources 201114
natural resources 201114 natural resources 201114
natural resources 201114 Issara Mo
 
il-pornprasert
il-pornprasertil-pornprasert
il-pornprasert0846054411
 
il-pornprasert
il-pornprasertil-pornprasert
il-pornprasert0846054411
 
il-pornprasert
il-pornprasertil-pornprasert
il-pornprasert0846054411
 
il-pornprasert
il-pornprasertil-pornprasert
il-pornprasert0846054411
 
โครงการ คนรักป่า ป่ารักชุมชน
โครงการ คนรักป่า ป่ารักชุมชนโครงการ คนรักป่า ป่ารักชุมชน
โครงการ คนรักป่า ป่ารักชุมชนPrintZii Subruang
 
สิ่งแวดล้อมศึกษาเบื้องต้น
สิ่งแวดล้อมศึกษาเบื้องต้นสิ่งแวดล้อมศึกษาเบื้องต้น
สิ่งแวดล้อมศึกษาเบื้องต้นSompop Petkleang
 
รายงานผลการวิจัย ปี 2553 การจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
รายงานผลการวิจัย ปี 2553 การจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์รายงานผลการวิจัย ปี 2553 การจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
รายงานผลการวิจัย ปี 2553 การจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์Kobwit Piriyawat
 
ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม
ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม
ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมkrudararad
 
มลพิษและสิ่งแวดล้อม
มลพิษและสิ่งแวดล้อมมลพิษและสิ่งแวดล้อม
มลพิษและสิ่งแวดล้อมkoradalerttayakun
 

Similar to ทรัพยากรธรรมชาติ (20)

สไลด์ การใช้ทรัพยากรกับชุมชน+506+dltvsocp6+55t2soc p06 f05-1page
สไลด์  การใช้ทรัพยากรกับชุมชน+506+dltvsocp6+55t2soc p06 f05-1pageสไลด์  การใช้ทรัพยากรกับชุมชน+506+dltvsocp6+55t2soc p06 f05-1page
สไลด์ การใช้ทรัพยากรกับชุมชน+506+dltvsocp6+55t2soc p06 f05-1page
 
สไลด์ การใช้ทรัพยากรกับชุมชน+506+dltvsocp6+55t2soc p06 f05-4page
สไลด์  การใช้ทรัพยากรกับชุมชน+506+dltvsocp6+55t2soc p06 f05-4pageสไลด์  การใช้ทรัพยากรกับชุมชน+506+dltvsocp6+55t2soc p06 f05-4page
สไลด์ การใช้ทรัพยากรกับชุมชน+506+dltvsocp6+55t2soc p06 f05-4page
 
ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม human and enveronment
ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม human and enveronmentความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม human and enveronment
ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม human and enveronment
 
il-pornprasert
il-pornprasertil-pornprasert
il-pornprasert
 
โครงการพระราชดำริ
โครงการพระราชดำริโครงการพระราชดำริ
โครงการพระราชดำริ
 
โครงการพระราชดำร
โครงการพระราชดำร โครงการพระราชดำร
โครงการพระราชดำร
 
natural resources 201114
natural resources 201114 natural resources 201114
natural resources 201114
 
il-pornprasert
il-pornprasertil-pornprasert
il-pornprasert
 
il-pornprasert
il-pornprasertil-pornprasert
il-pornprasert
 
il-pornprasert
il-pornprasertil-pornprasert
il-pornprasert
 
il-pornprasert
il-pornprasertil-pornprasert
il-pornprasert
 
โครงการ คนรักป่า ป่ารักชุมชน
โครงการ คนรักป่า ป่ารักชุมชนโครงการ คนรักป่า ป่ารักชุมชน
โครงการ คนรักป่า ป่ารักชุมชน
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
 
สิ่งแวดล้อมศึกษาเบื้องต้น
สิ่งแวดล้อมศึกษาเบื้องต้นสิ่งแวดล้อมศึกษาเบื้องต้น
สิ่งแวดล้อมศึกษาเบื้องต้น
 
รายงานผลการวิจัย ปี 2553 การจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
รายงานผลการวิจัย ปี 2553 การจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์รายงานผลการวิจัย ปี 2553 การจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
รายงานผลการวิจัย ปี 2553 การจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
 
ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม
ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม
ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม
 
3p
3p3p
3p
 
3p
3p3p
3p
 
3p
3p3p
3p
 
มลพิษและสิ่งแวดล้อม
มลพิษและสิ่งแวดล้อมมลพิษและสิ่งแวดล้อม
มลพิษและสิ่งแวดล้อม
 

ทรัพยากรธรรมชาติ

  • 1. ทรัพยากรธรรมชาติ ความหมายของทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติ (Natural resources) หมายถึงสิ่งที่ปรากฏอยู่ตามธรรมชาติหรือสิ่งที่ขึ้นเอง อานวยประโยชน์แก่มนุษย์และธรรมชาติด้วยกันเอง (ทวี ทองสว่าง และทัศนีย์ ทองสว่าง,2523:4) ถ้าสิ่งนั้น ยังไม่ให้ประโยชน์ต่อมนุษย์ ก็ไม่ถือว่าเป็นทรัพยากรธรรมชาติ (เกษม จันทร์แก้ว,2525:4) ความหมายของทรัพยากรธรรมชาติมักจะมองในแง่ที่ว่า เป็นสิ่งอานวยประโยชน์แก่มนุษย์ทั้งทางตรงและ ทางอ้อม หากไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรเลยก็คงไม่ใช่ทรัพยากรธรรมชาติ ดังนั้นจึงมีการจัดประเภท ทรัพยากรธรรมชาติไว้หลายประเภทด้วยกัน เช่น ดิน น้า ป่าไม้ สัตว์ป่า แร่ธาตุ ฯลฯ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่เป็น แหล่งพลังงานสาคัญ การใช้คาว่า "ทรัพยากรธรรมชาต" และคาว่า "สิ่งแวดล้อม" บางครั้งผู้ใช้อาจจะเกิดความสับสนไม่ ิ ทราบว่าจะใช้คาไหนดี จึงน่าพิจารณาว่าคาทั้งสองนี้มีความคล้ายคลึงและแตกต่างกันอย่างไร ในเรื่องนี้ เกษม จันทร์แก้ว (2525:7-8) ได้เสนอไว้ดังนี้ 1. ความคล้ายคลึงกัน ในแง่นี้พิจารณาจากที่เกิด คือ เกิดขึ้นตามธรรมชาติเหมือนกัน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่างเป็นสิ่งที่ให้ประโยชน์ต่อมนุษย์เช่นกัน มนุษย์รู้จักใช้ รู้จักคิดในการ นาทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ และมนุษย์อาศัยอยู่ในทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ ก็ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทรัพยากรธรรมชาติ แล้วมนุษย์ก็เรียกสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดว่า "สิ่งแวดล้อม" ความคล้ายคลึงกันของคาว่า ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอยู่ที่ว่าทรัพยากรธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อม 2. ความแตกต่าง ทรัพยากรธรรมชาติเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่สิ่งแวดล้อมนั้น ประกอบด้วยทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยอาศัยทรัพยากรธรรมชาติ หากขาด ทรัพยากรธรรมชาติ มนุษย์จะไม่สามารถสร้างสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ได้เลย ถ้าแยกมนุษย์ออกมาในฐานะผู้ใช้ประโยชน์จากสิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้ เมื่อกล่าวถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ จึงควรใช้คาว่า "ทรัพยากรธรรมชาติ" แต่ถ้าต้องการกล่าวรวม ๆ ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและสิ่งที่มนุษย์ สร้างขึ้นก็ควรใช้คาว่า "สิ่งแวดล้อม" แต่ถ้าต้องการเน้นเรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน ก็ควรใช้คาว่า "ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม" เมื่อกล่าวถึงสิ่งแวดล้อมหลาย ๆ คน จะเข้าใจถึงเรื่องของน้าเสีย ควันพิษในอากาศ ไอเสียจาก รถยนต์ ขยะมูลฝอย ฯลฯ ซึ่งในความเป็นจริง สิ่งแวดล้อม มีความหมายกว้างมาก มีความสัมพันธ์กับทุก ๆ สิ่งที่มีชีวิต และไม่มีชีวิต ใน Module นี้ จะสนทนากัน ในเรื่องของคน มีความสัมพันธ์กับ สิ่งแวดล้อม อย่างไร โดยที่ตระหนักอยู่เสมอว่า ในอดีตที่ ผ่านมา ปัญหาเรื่อง ความสมดุลย์ของ ธรรมชาติกับคนยังไม่มี คนส่วนใหญ่ในยุคต้น ๆ จึงมีชีวิตอยู่ใต้ อิทธิพลของธรรมชาติ ความเปลี่ยนแปลง ทางด้านธรรมชาติ และ สภาพแวดล้อม มีลักษณะที่ ค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งไม่ก่อให้เกิดผลกระทบ ทางสิ่งแวดล้อมมากนัก แต่เนื่องจาก มีความเจริญก้าวหน้า ด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม ขยายตัวมากขึ้น ประกอบด้วย ความ
  • 2. ต้องการของมนุษย์ มีอยู่ไม่จากัด จึงทาให้เกิดปัญหา ทางด้านสิ่งแวดล้อม ขึ้นในโลกสีเขียวของเรา เช่น ปัญหาทางด้าน ภาวะมลพิษทางเสียและน้า ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติ เสื่อมสลาย ปัญหาการตั้ งถิ่นฐาน และ ชุมชน ดังนั้น จึงมีความจาเป็น ที่จะต้องกล่าวถึง มนุษย์กับความสัมพันธ์ กับสิ่งแวดล้อมอย่างไร ประเภทของทรัพยากรธรรมชาติ การแบ่งประเภทของทรัพยากรธรรมชาติมีการแบ่งกันหลายลักษณะ แต่ในทีนี้ แบ่งโดยใช้เกณฑ์ ของการนามาใช้ แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้ 1. ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วไม่หมดสิ้น (Inexhaustible natural resources) เป็น ทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดขึ้นก่อนที่จะมีมนุษย์ เมื่อมีมนุษย์เกิดขึ้นมาสิ่งเหล่านี้ก็มีความจาเป็นต่อการ ดารงชีวิตของมนุษย์ จาแนกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1.1 ประเภทที่คงสภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลง (Immutuable) ได้แก่ พลังงานจากดวงอาทิตย์ ลม อากาศ ฝุ่น แม้กาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าใดก็ตามสิ่งเหล่านี้ก็ยังคงมีไม่เปลี่ยนแปลง 1.2 ประเภทที่มีการเปลี่ยนแปลง (Mutuable) การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากการใช้ ประโยชน์อย่างผิดวิธี เช่น การใช้ที่ดิน การใช้นาโดยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง ทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้ง ทางด้านกายภาพ และด้านคุณภาพ 2. ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วทดแทนได้ (renewable natural resources) เป็น ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้ไปแล้วสามารถเกิดขึ้นทดแทนได้ ซึ่งอาจจะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กันชนิดของ ทรัพยากรธรรมชาติประเภทนั้น ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วทดแทนได้ เช่น พืช ป่าไม้ สัตว์ป่า มนุษย์ ความสมบูรณ์ของดิน คุณภาพของน้า และทัศนียภาพที่สวยงาม เป็นต้น 3. ทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถนามาใช้ใหม่ได้ (Recycleable natural resources) เป็น ทรัพยากรธรรมชาติจาพวกแร่ธาตุที่นามาใช้แล้วสามารถนาไปแปรรูปให้กลับไปสู่สภาพเดิมได้ แล้วนา กลับมาใช้ใหม่อีก (อู่แก้ว ประกอบไวยกิจ เวอร์,2525:208) เช่น แร่โลหะ แร่อโลหะ ได้แก่ เหล็ก ทองแดง อะลูมิเนียม แก้ว ฯลฯ 4. ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดสิ้นไป (Exhausting natural resources) เป็น ทรัพยากรธรรมชาติที่นามาใช้แล้วจะหมดไปจากโลกนี้ หรือสามารถเกิดขึ้นทดแทนได้ แต่ต้องใช้เวลา ยาวนานมาก ทรัพยากรธรรมชาติประเภทนี้ ได้แก่ น้ามันปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน เป็นต้น ความสาคัญและผลกระทบของทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติมีความสาคัญต่อมนุษย์มากมายหลายด้านดังนี้ 1. การดารงชีวิต ทรัพยากรธรรมชาติเป็นต้นกาเนิดของปัจจัย 4 ในการดารงชีวิตของมนุษย์พบว่า มนุษย์จะต้องพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติเพื่อสนองความต้องการทางด้านปัจจัยสี่ คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่ อยู่อาศัย และยารักษาโรค
  • 3. - อาหารที่มนุษย์บริโภคแรกเริ่มส่วนหนึ่งได้จากทรัพยากรธรรมชาติ เช่น เผือก มัน ปลาน้า จืดและปลาน้าเค็ม เป็นต้น - เครื่องนุ่งห่ม แรกเริ่มมนุษย์ประดิษฐ์เครื่องนุ่งห่มจากทรัพยากรธรรมชาติ เช่น จากฝ้าย ป่าน ลินิน ขนสัตว์ ฯลฯ ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ต่อมาเมื่อจานวนประชากรเพิ่มขึ้น ความต้องการเครื่องนุ่งห่มก็ เพิ่มขึ้นด้วย จึงจาเป็นต้องปลูกหรือเลี้ยงสัตว์ เพื่อการทาเครื่องนุ่งห่มเอง และในที่สุดก็ทาเป็นอุตสาหกรรม - ที่อยู่อาศัย การสร้างที่อยู่อาศัยของชนเผ่าต่าง ๆ จะพยายามหาทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีอยู่ ในท้องถิ่นมาเป็นองค์ประกอบหลักในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยขึ้นมา ตัวอย่างเช่น ในเขตทะเลทรายที่แห้งแล้ง บ้านที่สร้างขึ้นในเขตภูเขาจะทาด้วยดินเหนียว แต่ถ้าเป็นบริเวณที่แห้งแล้ง และไร้พืชพรรณธรรมชาติ บ้าน ที่สร้างขึ้นอาจจะเจาะเป็นอุโมงค์เข้าไปตามหน้าผา บ้านคนไทยในชนบทสร้างด้วยไม้ ไม้ไผ่ หลังคามุงด้วย จากหรือหญ้า เป็นต้น - ยารักษาโรค ตั้งแต่สมัยโบราณมนุษย์รู้จักนาพืชสมุนไพรมาใช้ในการรักษาโรค เช่น คน ไทยใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโรคหวัด หอบ หืด หัวไพล ขมิ้น น้าผึ้งใช้บารุงผิว 2. การตั้งถิ่นฐานและการประกอบอาชีพ ทรัพยากรธรรมชาติเป็นปัจจัยพื้นฐานในการตั้งถิ่นฐาน และประกอบอาชีพของมนุษย์ เช่น แถบลุ่มแม่น้าหรือชายฝั่งทะเลที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชและสัตว์ จะมี ประชาชนเข้าไปตั้งถิ่นฐานและประกอบอาชีพทางการเกษตรกรรมประมง เป็นต้น 3. การพัฒนาทางเศรษฐกิจ จาเป็นต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติ 4. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การประดิษฐ์เครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องจักร เครื่องผ่อนแรง ต้อง อาศัยทรัพยากรธรรมชาติ 5. การรักษาสมดุลธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติเป็นปัจจัยในการรักษาสมดุลธรรมชาติ กิจกรรมของมนุษย์ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ได้แก่ 1. กิจกรรมทางด้านอุตสหกรรม โดยไม่มีการคานึงถึงสิ่งแวดล้อม มีการนาใช้ทรัพยากรธรรมชาติ มากมาย และก่อให้เกิดมลพิษ ต่อสิ่งแวดล้อม เช่น อุตสาหกรรมเหมืองแร่ มีการเปิดหน้าดิน ก่อให้เกิดปัญหา การชะล้าง พังทลายของดิน และปัญหาน้าทิ้ง จากเหมืองลงสู่แหล่งน้า ก่อให้เกิดพลพิษทางน้า 2. กิจกรรมทางการเกษตร เช่น มีการใช้ยาฆ่าแมลง เพื่อเพิ่มผลผลิต ส่งผลให้เกิดอันตราย ต่อ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพอนามัยของมนุษย์ เนื่องจากมีการสะสมสารพิษ ไว้ในร่างกายของสิ่งมีชีวิต และ สิ่งแวดล้อม ก่อให้เกิดอันตราย ในระยะยาวและเกิดความสูญ ทางด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากการเจ็บป่วย ของ ประชาชน และคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่แย่ลง 3. กิจกรรมการบริโภคของมนุษย์ ส่งผลให้ มีการใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย ขาดการคานึงถือ สิ่งแวดล้อม ก่อให้เกิดปัญหา สิ่งแวดล้อมตามมา เช่น ปริมาณขยะที่มากขึ้น จากการบริโภคของเรานี้ ที่มาก ขึ้นซึ่งยากต่อการกาจัด โดยเกิดจาการใช้ทรัพยากร อย่างไม่คุ้มค่า ทาให้ปริมาณทรัพยากรธรรมชาติ ลด น้อยลง เป็นต้น
  • 4. สาเหตุที่มนุษย์ลาบายสิ่งแวดล้อมมีหลายสาเหตุดังนี้ 1. การเพิ่มของประชากร การเพิ่มของประชากรโลก เป็นไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความเจริญ ทางด้านการแพทย์ ช่วยลดอัตราการตาย โดยการเพิ่มประชากรนี้ ก่อให้เกิดการบริโภคทรัพยากรมากขึ้น มี ของเสียมากขึ้น 2. พฤติกรรมการบริโภค อันเนื่องมาจาก ต้องการให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น มีความสุขสบาย มากขึ้น มี การนาใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างสิ้นเปลือง มีขยะและของเสียมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมและ ตัวมนุษย์เอง 3. ความโลภของมนุษย์ โดยนาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมมาใช้ เพื่อให้ตนเองมีความ ร่ารวย มีความสะดวกสบาย มีความเห็นแก่ตัว ขาดสติยั้งคิด ถึงสิ่งแวดล้อม อันจะเป็นผลส่งให้เกิดปัญหา สิ่งแวดล้อม ที่มากระทบต่อมนุษย์เองในที่สุด 4. ความไม่รู้ สิ่งที่ทาให้มนุษย์ ขาดการรู้เท่าทัน บนรากฐานแห่งความจริง อย่างลึกซึ้งใน สิ่งแวดล้อม และธรรมชาติ ส่งผลให้มนุษย์ขาดสต ิในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ มีพฤติกรรมการบริโภค อันเป็นการทาลายสิ่งแวดล้อม โดยขาดการคาดการณ์ ผลที่จะเกิดตามมา จะส่งผลให้เกิดปัญหาสิ่ง แวดล้อม และนาไปสู่ความเสียหาย ทั้งตนเองและธรรมชาติ วิกฤตการทรัพยากรธรรมชาติในปัจจุบัน ทรัพยากรธรรมชาติมีความสาคัญต่อมนุษย์มากมายหลายด้านดังนี้ ประเภทของสัตว์ป่า พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ในพระปรมาภิไทยพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ให้ไว้ ณ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2535 เป็นปีที่ 47 ในรัชกาลปัจจุบัน แบ่งสัตว์ป่า ออกเป็น 2ประเภท คือ 1. สัตว์ป่าสงวน เป็นสัตว์ป่าที่หายากและปัจจุบันมีจานวนน้อยชนิดมาก บางชนิดสูญพันธุ์ไปแล้ว มี 15 ชนิด คือ นกเจ้าฟ้าหญิงสิริธร แรด กระซู่ กูปรีหรือโคไพร ควายป่า ละอง หรือละมั่ง สมันหรือเนื้อสมัน เลียงผา นกแต้วแล้วท้องดา นกกระเรียน แมวลายหินอ่อน สมเสร็จ เก้งหม้อ และพยูนหรือหมูน้า 2. สัตวป่าคุ้มครอง เป็นสัตว์ที่ทั้งปกติไม่นิยมใช้ใช้เป็นอาหารและใช้เป็นอาหาร ทั้งที่ไม่ใช่ล่าเพื่อการกีฬา และล่าเพื่อการกีฬา ตามที่กฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กาหนดไว้ มากกว่า 200 ชนิด เช่น ค่าง ชะนี อีเห็น ไก่ฟ้า เหยี่ยว ช้างป่า แร้ง กระทิง หมีควาย อีเก้ง นกเป็ดน้า เป็นต้น บทลงโทษ ทั้งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง และซากของสัตว์ป่า สงวนหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง ห้ามมิให้ผู้ใดทาการล่า มีไว้ใน ครอบครอง ค้าขายและนาเข้า หรือส่งออก หากผู้ใดฝ่าฝืนระวาง โทษจาคุกไม่เกินสี่ปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจาทั้งปรับ
  • 5. ทรัพยากรธรรมชาติที่สาคัญ เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ขาดไม่ได้ต่อการดาเนินชีวิต เพราะเป็นสิ่งจาเป็นต่อการดาเนินชีวิต ตลอดเวลา จึงให้ความสาคัญเป็นอย่างยิ่ง และจะต้องเอาใจใส่ดูแลเพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาตินั้นให้คงไว้ ใช้ได้นาน ทรัพยากรธรรมชาติที่ว่านั้น ได้แก่ - ทรัพยากรน้า - ทรัพยากรดิน - ทรัพยากรป่าไม้ - ทรัพยากรสัตว์ป่า - ทรัพยากรแร่ธาตุ - ทรัพยากรพลังงาน - ทรัพยากรป่าชายเลน - ทรัพยากรปะการัง ทรัพยากรน้า น้าเป็นทรัพยากรที่มีความสาคัญต่อชีวิตคน พืช และสัตว์มากที่สุดแต่ก็มีค่าน้อยที่สุดเมื่อ เปรียบเทียบกับทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ น้าเป็นปัจจัยสาคัญในการดารงชีวิตของมนุษย์และเป็น องค์ประกอบที่สาคัญของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ความสาคัญของทรัพยากรน้า 1. ใช้สาหรับการบริโภคและอุปโภค เพื่อดื่มกิน ประกอบอาหาร ชาระร่างกาย ทาความสะอาด ฯลฯ 2. ใช้สาหรับการเกษตร ได้ แก่ การเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ แหล่งน้าเป็นที่อยู่อาศัยของปลาและสัตว์น้า อื่น ๆ ซึ่งคนเราใช้เป็นอาหาร
  • 6. 3. ด้านอุตสาหกรรม ต้องใช้น้าในกระบวนการผลิต ล้างของเสีย หล่อเครื่องจักร และระบายความ ร้อน ฯลฯ 4. การทานาเกลือ โดยการระเหยน้าเค็มจากทะเล หรือระเหยน้าที่ใช้ละลายเกลือสินเธาว์ 5. น้าเป็นแหล่งพลังงานในการผลิตกระแสไฟฟ้า 6. เป็นเส้นทางคมนาคมที่สาคัญ แม่น้า ลาคลอง ทะเล มหาสมุทร เป็นเส้นทางคมนาคมที่สาคัญมา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน 7. เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทัศนียภาพของริมฝั่งทะเล และแหล่งน้าที่ใสสะอาดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ของมนุษย์ ทรัพยากรดิน ดินหมายถึง เทหวัตถุธรรมชาติที่ปกคลุมผิวโลก เกิดจากการแปรสภาพหรือสลายตัวของหินแร่ธาตุ และอินทรีย์วัตถุผสมคลุกเคล้ากันตามธรรมชาติรวมกันเป็นชั้นบาง ๆ เมื่อมีน้าและอากาศที่เหมาะสมก็จะทา ให้พืชเจริญเติบโตและยังชีพอยู่ได้ เนื่องจากภาคตะวันตกส่วนใหญ่เป็นเขตเทือกเขาสูง เพราะฉะนั้นวัตถุแม่ดิน หรือแหล่งกาเนิดดิน ต้องเกิดจากการสลายตัวของหินที่เป็นกรด ดังนั้นดินจึงมีความอุดมสมบูรณ์ ค่อนข้างต่า ดินชนิดนี้ เรียกว่า ดินเรดเยลโล-พอดโซลิก (Red-yellow Podzolic Soils) ดินชนิดนี้ มีในเขตภูเขาที่เป็นกรด ส่วนในเขตที่มี หินปูน เช่น บริเวณเทือกเขาในเขตอาเภออุ้มผาง จังหวัดตาก และบริเวณปลายเทือกเขาถนนธงชัยระหว่าง แม่น้าแควใหญ่กับแควน้อยจะเป็นพวกเรด-บราวด์ เอิท (Red-Brown earth) นอกจากนั้นยังมีดินที่เกิดจาก การสลายตัวของสารหรือ หินภูเขาไฟ เราเรียกว่า ดินภูเขาไฟ ได้แก่พื้นที่บริเวณจังหวัดตาก เขตอาเภออุ้มผาง ที่ราบลุ่มน้าแควน้อย เขตอาเภอสังขละบุรี อาเภอทองผาภูมิ อาเภอไทรโยค และบริเวณแก่งกระจาน เป็นต้น ในด้านสมรรถนะของที่ดินในภาคตะวันตกปรากฏว่าพื้นที่เหมาะสาหรับการปลูกพืชไร่ มีประมาณ 25 % ของเนื้อที่ภาค ทานา 5% ที่เหลือ 70 % ไม่เหมาะแก่การเพาะปลูก เพราะเป็น ที่ลาดชันมาก หรือ มีดินเป็น ทรายจัด
  • 7. ความสาคัญของทรัพยากรดิน ดินมีประโยชน์มากมายมหาศาลต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ คือ 1. ใช้ในการเกษตรกรรม ดินเป็นต้นกาเนิดของการ เกษตรกรรม เป็นแหล่งผลิตอาหารของมนุษย์ อาหารที่มนุษย์ เราบริโภคทุกวันนี้มาจากการเกษตรกรรมถึง 90 % 2. ใช้ในการเลี้ยงสัตว์ พืชและหญ้าที่ขึ้นอยู่บนดิน เป็นแหล่งอาหารสัตว์ ตลอดจนเป็น แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ บางชนิด เช่น งู หนู แมลง นาก ฯลฯ 3. เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย พื้นดินเป็นแหล่งที่ตั้งของเมือง บ้านเรือน ทาให้เกิดวัฒนธรรม และอารยธรรมของชุมชนต่าง ๆ มากมาย 4. เป็นแหล่งกักเก็บน้า ถ้าน้าซึ่งอยู่ในรูปของ ความชื้นในดินมีอยู่มาก ๆ ก็จะกลายเป็นน้าซึมอยู่ในดิน คือน้าใต้ดิน น้าเหล่านี้จะค่อย ๆ ซึมลงที่ต่า เช่น แม่น้า ลาคลอง ทาให้เรามีน้าใช้ตลอดปี
  • 8. ทรัพยากรป่าไม้ ความสาคัญของทรัพยากรป่าไม้ ป่าไม้มีประโยชน์มากมายต่อการดารชีวิตของมนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนี้ 1. ประโยชน์ทางตรง (Direct benefits) ได้แก่การนามาใช้สนองปัจจัยพื้นฐานในการดารงชีวิตของ มนุษย์ 4 ประการ ได้แก่ 1. นามาสร้างอาคารบ้านเรือนและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์ กระดาษ ไม้ขีดไฟ ฟืน เป็นต้น 2. ใช้เป็นอาหาร 3. ใช้เส้นใยที่ได้จากเปลือกไม้และเถาวัลย์ มาถักทอเป็นเครื่องนุ่งห่ม เชือก และอื่น ๆ 4. ใช้ทายารักษาโรคต่าง ๆ 2. ประโยชน์ทางอ้อม (Indirect benefits) 1. ป่าไม้เป็นแหล่งกาเนิดต้นน้าลาธาร เพราะต้นไม้จานวนมากในป่า จะทาให้น้าฝนที่ตกลง มาค่อย ๆ ซึมซับลงในดิน กลายเป็นน้าใต้ดินซึ่งจะไหลซึมมาหล่อเลี้ยงให้แม่น้าลาธารมีน้าไหลอยู่ตลอดปี 2. ป่าไม้ทาให้เกิดความชุมชื้นและควบคุมสภาวะอากาศ ไอน้าซึ่งเกิดจากการหายใจของพืช จานวนมากในป่า ทาให้อากาศเหนือป่ามีความชื้นสูง เมื่ออุณหภูมิลดต่าลงไอน้า เหล่านั้นก็จะกลั่นตัว กลายเป็นเมฆแล้วกลายเป็นฝนตกลงมา ทาให้บริเวณที่มีพื้นที่ป่าไม้มีความชุมชื้นอยู่เสมอ ฝนตกต้องตาม ฤดูกาลและไม่เกิดความแห้งแล้ง 3. ป่าไม้เป็นแหล่งพักผ่อนและศึกษาหาความรู้ บริเวณป่าไม้จะมีภูมิประเทศที่ สวยงามจาก ธรรมชาติรวมทั้งสัตว์ป่าจึงเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจได้ดี นอกจากนั้นป่าไม้ยังเป็นที่รวมของพันธุ์พืชและ พันธุ์สัตว์จานวนมาก จึงเป็นแหล่งให้มนุษย์ได้ศึกษาหาความรู้ 4. ป่าไม้ช่วยบรรเท่าความรุนแรงของลมพายุและป้องกันอุทกภัย โดยช่วยลดความเร็วของ ลมพายุที่พัดผ่านได้ตั้งแต่ 11-44% ตามลักษณะของป่าไม้แต่ละชนิดจึงช่วยให้บ้านเมือง รอดพ้นจากวาตภัย ได้ ซึ่งเป็นการป้องกันและควบคุมน้าตามแม่น้าไม่ให้สูงขึ้นอย่างมารวดเร็วล้นฝั่งกลายเป็นอุทกภัย 5. ป่าไม้ช่วยป้องกันการกัดเซาะและพัดพาหน้าดิน จากน้าฝนและลมพายุโดยลดแรงปะทะ ลง การหลุดเลื่อนของดินจึงเกิดขึ้นน้อย และยังเป็นการช่วยให้แม่น้าลาธารต่าง ๆ ไม่ ตื้นเขินขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ป่าไม้จะเป็นเสมือนเครื่องกีดขวางตามธรรมชาติ จึงนับว่ามีประโยชน์ในทางยุทธศาสตร์ด้วย เช่นกัน 6. ช่วยให้เกิดวัฎจักรของน้า (Water Cycling) วัฎจักรของออกซิเจน วัฎจักรของคาร์บอน และวัฎจักรของไนโตรเจน ในเขตนิเวศ(Ecosphere) 7. ช่วยดูดซับมลพิษของอากาศ แร่ธาตุ
  • 9. ความสาคัญของแร่ธาตุ 1. ด้านความมั่นคงและมั่งคั่งของประเทศ ประเทศที่มีแร่ธาตุต่าง ๆ มากมายและสามารถนาไปใช้ แปรรูปเป็นผลผลิตต่าง ๆ ที่ทาประโยชน์ต่อมนุษย์ เช่น ด้านอาวุธ ด้านอุตสาหกรรม 2. ด้านความเป็นอยู่ของมนุษย์ ได้มีการนาแร่ธาตุต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์และสร้างขึ้นเป็นสิ่งต่าง ๆ เช่น ภาชนะใช้สอย พาหนะที่ช่วยในการคมนาคม อาคารบ้านเรือน ก๊าซหุงต้ม พลังงานไฟฟ้า 3. ด้านการสร้างงานแก่ประชาชน ทาให้ประชาชนมีรายได้จากการขุดแร่ ไปจนถึงแปรรูปเป็น ผลิตภัณฑ์ไปสู่ผู้บริโภค นอกจากนี้แร่ธาตุชนิดต่าง ๆ มีคุณสมบัติต่างกัน จึงมีประโยชน์แตกต่างกัน เช่น แร่วุลแฟรม นามา ทาไส้หลอดไฟฟ้า ใช้ในอุตสาหรกรรมเครื่องแก้ว แร่พลวงนามาใช้ทาตัวพิมพ์หนังสือ ทาสี แบตเตอรี รัตน ชาติ เป็นแร่ที่มีสีสันสวยงาม นามาใช้ทาเครื่องประดับต่าง ๆ มากมาย แนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การเพิ่มประชากรอย่างรวดเร็ว (Exponential) ทาให้มีการนาทรัพยากรธรรมชาติมาใช้สนองความ ต้องการในการดารงชีวิตมากยิ่งขึ้นทั้งทางด้านปริมาณและคุณภาพ ซึ่งบางครั้งเกินความจาเป็น จนทาให้ ระบบนิเวศต่าง ๆ เสียสมดุล ทรัพยากรธรรมชาติบางอย่างเสื่อมโทรม ร่อยหรอหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงจน ไม่สามารถเอื้อประโยชน์ได้เช่นเดิม จึงมีความจาเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาวิธีการ หรือมาตรการในการใช้ ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเหมาะสมและมีเหตุผลเพียงพอ ทั้งนี้รวมไปถึงการควบคุมขนาดประชากรโลกให้มี ความเหมาะสมกับทรัพยากรของโลก ขณะเดียวกันก็ต้องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย ในการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติตามหัวข้อที่ 3.1.3นั้น ควรเน้นทรัพยากรธรรมชาติประเภทที่ 1 และ2 โดยมีมาตรการที่ ทาให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ตลอดไปทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ ส่วนทรัพยากรธรรมชาติประเภทที่ 3 และ 4 ควรใช้กันอย่างประหยัดและเหมาะสม ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดสิ้นไปควรใช้อย่างประหยัด ที่สุด แนวคิดการพัฒนาแบบยั่งยืน (Sustainable Development-S.D.) WCED World Commission on Environment and Development ได้ให้ความหมายของการพัฒนา แบบยั่งยืนไว้ว่า เป็นการพัฒนา ที่สามารถตอบสนอง ต่อความต้องการขั้นพื้นฐาน ของคนในรุ่นปัจจุบัน เช่น อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย ฯลฯ โดยไม่ทาให้ ความสามารถ ในการตอบสนอง ความ ต้องการดังกล่าว ของคนรุ่นต่อไปต้องเสียไป ("Development that meets the needs of the present without compromising the ability of Future generation to meet their own needs") ซึ่งเพื่อพิจารณาแล้ว จะเห็นว่า S.D เป็นเรื่องเกี่ยวข้อง กับความเท่าเทียมกัน ของคนในปัจจุบันรุ่นเดียวกัน และความเท่าเทียมกัน ของคนระหว่างรุ่นปัจจุบัน และรุ่นต่อไป เป็นความเท่าเทียมกัน ที่มุ่งให้เกิดความ ยุติธรรม ในการกระจายความมั่งคั่ง (รายได้) และการให้ทรัพยากร ตลอดจนการอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อมโดย S.D. จะเกี่ยวข้องกับ ความสัมพันธ์ของระบบ 3 ระบบ คือ ระบบนิเวศ/สิ่งแวดล้อม ระบบเศรษฐกิจ และ
  • 10. ระบบสังคม มีเป้าหมายคือ การทาให้บรรลุเป้าหมายทั้ง 3 ระบบนี้ให้มากที่สุด เพื่อให้มีความเจริญเติบโต พร้อมกันจากคนในรุ่นปัจจุบัน และมีความยั่งยืน ไปจนถึงลูกหลานในอานาคต แนวทางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อสิ่งแวดล้อม มนุษย์เป็นผู้ใช้ทรัพยากรโดยตรง ซึ่งย่อมจะต้องได้รับผลกระทบ อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลง ของสิ่งแวดล้อม ถ้าหากพิจารณา ถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมแล้ว จะเห็นได้ว่า ล้วนเป็นเหตุมาจาก การเพิ่มจานวน ประชากร และการเพิ่มปริมาณ การบริโภคทรัพยากร ของมนุษย์เอง โดยมุ่งยกระดับมาตรฐาน การดารงชีวิต และมีการผลิตเครื่องอุปโภคมากขึ้น มีการนาใช้ ทรัพยากรธรรมชาติมากขึ้น ก่อให้เกิดสารพิษ อย่างมากมาย สิ่งแวดล้อมหรือธรรมชาติ ไม่สามารถจะปรับตัวได้ทัน และทาให้ธรรมชาติ ไม่สามารถรักษาสมดุลไว้ได้ อันจะส่งผลต่อมนุษย์และโลกในที่สุด ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นนี้ จะเห็นได้ว่า เกิดจากการขาดความรู้ ความเข้าใจในความเป็นจริง ของ สิ่งแวดล้อม และธรรมชาติ ขาดความรู้ความเข้าใจ ในความเป็นจริงของชีวิต และองค์ประกอบอื่น ของความ เป็นมนุษย์ โดยที่มนุษย์เอง ก็เป็นส่วนหนึ่ง ของสิ่งแวดล้อม และธรรมชาติ ดังนั้น การนาความรู้ ความเข้าใจ มาปรับปรุง พัฒนาการดารงชีวิต ของมนุษย์ให้กลมกลืน กับสิ่งแวดล้อม จึงน่าจะเป็น มาตราการที่ดีที่สุด ใน การที่จะทาให้มนุษย์ สามารถที่จะดารงชีวิตอยู่ได้ อย่างมั่นคง มีความสอดคล้อง และสามารถกลมกลืน กับ สิ่งแวดล้อมได้ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต แนวทางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อสิ่งแวดล้อมควรมีดังนี้ 1. การให้การศึกษาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม โดยเน้นให้ผู้เรียน ได้รู้จักธรรมชาติ ที่อยู่รอบตัวมนุษย์อย่าง แท้จริง โดยให้มีการศึกษาถึง นิเวศวิทยา และความสัมพันธ์ ระหว่างมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มีความรู้ จริง ในการดารงชีวิต ให้ผสมกลมกลืน กับธรรมชาติที่อยู่โดยรอบ ได้มุ่งสอน โดยยึดหลักศาสนา โดยสอน ให้คนมีชีวิต ความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ไม่ทาลายชีวิตอื่น ๆ ที่อยู่ในธรรมชาติด้วยกัน พิจารณาถึง ความ เป็นไปตามธรรมชาติที่เป็นอยู่ ยอมรับความเป็นจริง ของธรรมชาติ และยอมรับความจริงนั้น โดยไม่ฝืน ธรรมชาติ ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ อย่างสิ้นเปลืองน้อยที่สุด ทาให้เกิดทรัพยากรมนุษย์ ที่มีคุณภาพเป็นที่ ต้องการ ของสังคมและประเทศชาติ ในการพัฒนา 2. การสร้างจิตสานึกแห่งการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นการทาให้บุคคล เห็นคุณค่าและตระหนัก ใน สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ รวมทั้งผลกระทบ จากการทากิจกรรม ที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความรู้สึก รับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ระหว่างสิ่งแวดล้อม และการพัฒนา การสร้างจิตสานึก โดยการให้การศึกษา เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม จะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาจิตใจ ของบุคคล และยังมีผลต่อ พฤติกรรม ของบุคคล ให้มี การเปลี่ยนแปลง การดาเนินชีวิต ได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกลมกลืน กับธรรมชาติ 3. การส่งเสริมให้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยให้เอื้อต่อสิ่งแวดล้อม ดารงชีวิต โดยสอดคล้องกับ ธรรมชาติ ซึ่งการปรับเปลี่ยน พฤติกรรม ที่เอื้อต่อสิ่งแวดล้อมนี้ จะเป็นสิ่งที่เกิดตามมา จากการให้การศึกษา และการสร้างจิตสานึก ทาให้มีการดารงชีวิต โดยไม่เบียดเบียนธรรมชาติ