Publicité
Publicité

Contenu connexe

Publicité

Plus de ครุศิลปะสร้างสรรค์งานศิลป์ กับศิลป(15)

Content03

  1. สมอง คื อ ผู ้ ก ำ ำ หนดหน้ ำ ที ่ ท ุ ก อย่ ำ งใน ร่ ำ งกำย รวมถึ ง ควบคุ ม พฤติ ก รรมพื ้ น ฐำนของ เรำทั ้ ง หมด ตั ้ ง แต่ ก ิ น นอน ไปจนถึ ง รั ก ษำ อุ ณ หภู ม ิ ใ นร่ ำ งกำย นอกจำกนี ้ ส มองยั ง ต้ อ ง คอยขำนรั บ ต่ อ กิ จ กรรมอั น สลั บ ซั บ ซ้ อ นของ มนุ ษ ย์ ด ้ ว ย เช่ น สร้ ำ งอำรยธรรม ดนตรี ศิ ล ปะ วิ ท ยำศำสตร์ และภำษำ ซึ ่ ง ทั ้ ง หมดนี ้ เ กิ ด ขึ ้ น ได้ ก็ เ พรำะมี ค วำมหวั ง ควำมคิ ด อำรมณ์ และ บุ ค ลิ ก ภำพของเรำซ่ อ นอยู ่ ภ ำยใน
  2. สมองของคนเรำถ้ ำ มองจำกด้ ำ นบน จะเห็ น ว่ ำ แยกออกเป็ น สองซี ก คื อ “ ซี ก ซ้ ำ ย” (Left hemisphere) และซี ก ขวำ (Right hemisphere) สมองซี ก ซ้ ำ ยจะควบคุ ม ร่ ำ งกำยด้ ำ นขวำ และสมอง ซี ก ขวำจะควบคุ ม ร่ ำ งกำยด้ ำ นซ้ ำ ย เป็ น กำรควบคุ ม ในลั ก ษณะไขว้ ด ้ ำ น
  3. นั ก วิ ท ยำศำสตร์ ใ นคริ ส ต์ ศ ตวรรษที ่ 19 ได้ เรี ย กสมองด้ ำ นซ้ ำ ยว่ ำ สมองซี ก เด่ น หรื อ สมองซี ก เอก และเรี ย กสมองด้ ำ นขวำว่ ำ สมองซี ก รอง
  4. ศำสตรำจำรย์ โ รเจอร์ สเปอร์ ร ี ย ์ กั บ ศำสตรำจำรย์ โรเบิ ร ์ ต ออร์ น สไตน์ ได้ ท ดลองให้ น ั ก ศึ ก ษำทำ ำ สิ ่ ง ต่ ำ ง ๆ ผลปรำกฏว่ ำ ซี ร ี บ รั ล คอร์ เ ท็ ก ซ์ ไ ด้ แ บ่ ง กำรทำ ำ งำนออก เป็ น สองส่ ว นใหญ่ ๆ โดยสมองซี ก ขวำทำ ำ หน้ ำ ที ่ เ กี ่ ย วกั บ จั ง หวะ รั บ รู ้ ท ี ่ ว ่ ำ ง มองภำพรวมจิ ต นำกำร ฝั น กลำงวั น สี ส ั น และมิ ต ิ ส่ ว นหน้ ำ ที ่ ข องสมองซี ก ซ้ ำ ยทำ ำ หน้ ำ ที ่ เ กี ่ ย ว กั บ คำ ำ พู ด ตรรกะ ตั ว เอง ลำ ำ ดั บ ขั ้ น ตอน กำรวิ เ ครำะห์ เ ชิ ง เส้ น และกำรจั ด ทำ ำ รำยกำรต่ ำ ง ๆ
  5. สมองแบ่ ง กำรทำ ำ งำนอย่ ำ งชั ด เจน สมองซี ก สมองซี ก ซ้ ำ ย คำ ำ /ภำษำ ขวำ จั ง หวะ ตรรกะ รู ้ ต ำ ำ แหน่ ง ตั ว เอง หน้ิ ำ ที ่ มิ ต ลำ ำ ดั บ จิ น ตนำกำร เส้ น ใจลอย วิ เ ครำะห์ สี รำยกำร รู ้ ภ ำพรวม
  6. เอ็ ด เวิ ร ์ ด เดอโบโน ศำสตรำจำรย์ น ำย แพทย์ ผ ุ ้ เ ชี ่ ย วชำญด้ ำ น ยุ ร ศำสตร์ ได้ พั ฒ นำกำรสอนทั ก ษะควำมคิ ด เชิ ง สร้ ำ งสรรค์ โดยเสนอควำมคิ ด ที ่ ม ี ช ื ่ อ เสี ย ง คื อ เรื ่ อ งควำมคิ ด คู ่ ข นำน คื อ สมองจะสร้ ำ งรู ป แบบ (pattern) ขึ ้ น มำหลั ง จำกที ่ ร ั บ ข้ อ มู ล ต่ ำ ง ๆ จำกภำยนอกเข้ ำ ไป สมองจะมี ร ะบบกำร จั ด เก็ บ ข้ อ มู ล ข้ อ มู ล ที ่ ถ ู ก จั ด เก็ บ ไว้ ใ นรู ป แบบของสมองนี ้ จ ะถู ก นำ ำ ออกมำใช้ อยู ่ เ สมอ
  7. เอ็ ด เวิ ร ์ ด เดอโบโน ให้ น ิ ย ำมของควำมคิ ด ว่ ำ ควำมคิ ด เป็ น กำรที ่ บ ุ ค คลได้ ส ำ ำ รวจ ตรวจสอบ ประสบกำรณ์ อ ย่ ำ งเจตนำ เพื ่ อ วั ต ถุ ป ระสงค์ อ ย่ ำ ง ใดอย่ ำ งหนึ ่ ง
  8. เฮนรี กลำยท์ แ มน นิ ย ำมควำมคิ ด คื อ กำร คิ ด เกี ่ ย วข้ อ งกั บ กำรให้ เ หตุ ผ ล กำรพิ น ิ จ พิ จ ำรณำ กำรตรึ ก ตรอง หรื อ กำรสะท้ อ นควำมรู ้ ส ึ ก ของ ตนเองที ่ ม ี ต ่ อ เรื ่ อ งต่ ำ ง ๆ ออกมำให้ ผ ู ้ อ ื ่ น รั บ รู ้
  9. มำกำเร็ ต ดั บ บลิ ว แมทลิ น กล่ ำ วว่ ำ ควำม คิ ด เป็ น กิ จ กรรมทำงสมองเป็ น กระบวนกำรทำง ปั ญ ญำ ซึ ่ ง ประกอบด้ ว ย กำรสั ม ผั ส กำรรั บ รู ้ กำร รวบรวม กำรจำ ำ กำรรื ้ อ ฟื ้ น ข้ อ มู ล เก่ ำ หรื อ ประสบกำรณ์
  10. •ควำมคิ ด รวบยอด (Concept) เป็ น ควำมคิ ด ที ่ เกิ ด จำกบุ ค คลพยำยำมจั ด วั ต ถุ สิ ่ ง ของ เหตุ ก ำรณ์ บุ ค คล และเรื ่ อ งอื ่ น ๆ เข้ ำ เป็ น กลุ ่ ม เป็ น พวกหรื อ เป็ น ชั ้ น โดยอำศั ย คุ ณ สมบั ต ิ ท ี ่ ม ี ร ่ ว มกั น อยู ่
  11. 2. ควำมคิ ด ทำงตรรกศำสตร์ (Logical Thinking) เป็ น กระบวนกำรคิ ด ที ่ ป ระกอบด้ ว ย Thinking กำรใช้ เ หตุ ผ ล กฎเกณฑ์ รวมทั ้ ง กำรสร้ ำ งหลั ก กำรหรื อ กฎเกณฑ์ จ ำกเหตุ ผ ลซึ ่ ง มี อ ยู ่ แ ต่ เ ดิ ม นำ ำ มำสร้ ำ งควำมสั ม พั น ธ์ ก ั บ ควำมรู ้ ใ หม่
  12. 3. กำรคิ ด แก้ ป ั ญ หำ (Problem Solving) Solving เป็ น กระบวนกำรคิ ด ในระดั บ สู ง ต้ อ งอำศั ย สติ ปั ญ ญำเข้ ำ มำช่ ว ยจั ด กำรเพื ่ อ ให้ ก ำรคิ ด เกิ ด ขึ ้ น ตำมขั ้ น ตอน เกิ ด ขึ ้ น จำกกำรที ่ บ ุ ค คลนำ ำ ควำมรู ้ ทั ก ษะจำกประสบกำรณ์ เ ก่ ำ มำสร้ ำ งควำมสั ม พั น ธ์ กั บ สิ ่ ง เร้ ำ ใหม่ เพื ่ อ สร้ ำ งหลั ก กำรหรื อ กฎเกณฑ์ อย่ ำ งถู ก ต้ อ งสำ ำ หรั บ กำรแก้ ป ั ญ หำ
  13. 4. กำรตั ด สิ น ใจ (Decision Making) เกิ ด ขึ ้ น เมื ่ อ บุ ค คลต้ อ งเผชิ ญ กั บ ปั ญ หำและจะต้ อ งคิ ด หำ ทำงเลื อ กตั ้ ง แต่ ส องทำงขึ ้ น ไป และบุ ค คลจำ ำ เป็ น ต้ อ งเลื อ กทำงใดทำงหนึ ่ ง
  14. 5. กำรคิ ด วิ เ ครำะห์ (Critical Thinking) เป็ น กำรคิ ด ที ่ อ ำศั ย กระบวนกำรทำงปั ญ ญำที ่ ซ ั บ ซ้ อ นหรื อ กระบวนกำรทำ ำ งำนของสมองในระดั บ ที ่ สู ง กว่ ำ กำรใช้ ค วำมคิ ด ตำมปกติ เป็ น กระบวนกำร คิ ด ที ่ เ กิ ด ขึ ้ น อย่ ำ งมี ร ะบบ ขั ้ น ตอน
  15. 6. โยนิ โ สมนสิ ก ำร (Yonisomanasikara) เป็ น กำรคิ ด ที ่ อ ำศั ย กระบวนกำรทำงปั ญ ญำหรื อ กำรทำ ำ งำนของสมองในระดั บ สู ง เช่ น เดี ว กั บ กำร คิ ด วิ เ ครำะห์ เป็ น กำรคิ ด ตำมหลั ก พุ ท ธธรรม มี หลั ก กำรสำ ำ คั ญ คื อ ใช้ ส ติ ส ั ม ปชั ญ ญะเข้ ำ มำร่ ว ม ทำ ำ งำนกั บ ปั ญ หำในกระบวนกำรคิ ด คิ ด ทำ ำ ให้ กระบวนกำรคิ ด ไม่ ต กอยู ่ ใ ต้ อ ำ ำ นำจของอำรมณ์ ควำมรู ้ ส ึ ก ควำมต้ อ งกำรหรื อ ควำมอยำกในรู ป แบบต่ ำ ง ๆ ซึ ่ ง รู ้ จ ั ก กั น ในชื ่ อ ของอวิ ช ชำ (ควำม โง่ ) และตั ณ หำ (ควำมอยำก)
  16. 7. จิ น ตนำกำร (Imagination) ควำมคิ ด ชนิ ด นี ้ เ กิ ด ขึ ้ น เมื ่ อ จิ ต ใจอยู ่ ใ นสภำวะสงบ หรื อ ปล่ อ ยวำง
  17. 8. สหั ช ญำณ หรื อ ญำณทั ศ นะ (Intuition) คื อ ควำมสำมำรถหยั ่ ง รู ้ เ ป็ น พิ เ ศษ หรื อ ควำมสำมำรถ ในกำรกำ ำ หนดรู ้ ส ิ ่ ง ต่ ำ ง ๆ ซึ ่ ง มนุ ษ ย์ ท ุ ก คนมี ติ ด ตั ว มำแต่ ก ำ ำ เนิ ด และแสดงออกมำได้ จ ำกจิ ต ใจ ที ่ ม ี ส มำธิ
  18. 9. ควำมคิ ด สร้ ำ งสรรค์ (Creative Thinking) เป็ น ควำม คิ ด ที ่ เ กิ ด ขึ ้ น โดย อำศั ย จิ น ตนำกำรเป็ น พื ้ น ฐำนสำ ำ คั ญ โดย อำศั ย พื ้ น ฐำนจำก ประสบกำรณ์ เ ดิ ม คื อ ควำมรู ้ ข้ อ มู ล ข่ ำ วสำร บุ ค คลใช้ ท ั ้ ง ประสบกำรณ์ เ ดิ ม และ ปั ญ ญำในกำรจั ด สิ ่ ง ต่ ำ ง ๆ ขึ ้ น เป็ น รู ป แบบ
  19. ควำมหมำยของควำมคิ ด สร้ ำ งสรรค์ เอ็ดเวิร์ด ดี. โบโน กล่ำวว่ำ ควำมคิดสร้ำงสรรค์ หมำยถึงควำมสำมำรถใน กำรคิดนอกกรอบ (Lateral Thinking) เพือสร้ำงแนวคิด ่ ใหม่ทจะนำำมำใช้แก้ปัญหำ ี่ ได้หลำย ๆ แนวคิด และนำำ แนวคิดเหล่ำนีไปพัฒนำต่อ ้ เพื่อให้สำมำรถใช้แก้ปัญหำ ทีต้องกำรได้ ่
  20. ควำมหมำยของควำมคิ ด สร้ ำ งสรรค์ วอลลำซและโคแกน มี ควำมเชื่อว่ำควำมคิด สร้ำงสรรค์หมำยถึง ควำม สำมำรถทีจะคิด “โยงสัมพันธ์” ่ กล่ำวคือ เมือระลึกสิ่งใดได้ก็จะ ่ เป็นสะพำนให้ระลึกสิงอื่นได้ต่อ ่ ไป สัมพันธ์กันเป็นลูกโซ่
  21. ควำมหมำยของควำมคิ ด สร้ ำ งสรรค์ ทอร์แรนซ์ ควำมคิดสร้ำงสรรค์ คือ กระบวน ประสำทสัมผัสอันฉับไวต่อปัญหำ ต่อสิงที่ขำดตกบกพร่อง ่ ต่อช่องว่ำงของควำมรู้ ต่อปัจจัยที่สญหำยไป ต่อสิ่งทีขำด ู ่ ควำมกลมกลืน
  22. เป็ น ลั ก ษณะควำมคิ ด แบบอเนกนั ย (Divergent thinking) คื อ กำรคิ ด หลำยๆ แง่ หลำย ๆ ทำง คิ ด ให้ ม ำกที ่ ส ุ ด ที ่ จ ะนึ ก ได้ กิ ล ฟอร์ ด คิ ด ว่ ำ คนที ่ ม ี ค วำมคิ ด แบบอเนก นั ย นั ้ น ต้ อ งมี ค ุ ณ สมบั ต ิ ด ั ง นี ้ ควำมคิ ด ริ เ ริ ่ ม (Originality) หมำยถึ ง ควำม คิ ด แปลก ๆ ใหม่ ๆ ที ่ แ ตกต่ ำ งจำกควำมคิ ด ธรรมดำของคนทั ่ ว ไป ไม่ ซ ำ ้ ำ ควำมคิ ด คนอื ่ น ๆ อำจเป็ น ควำมคิ ด ใหม่ ห รื อ ได้ จ ำกกำรดั ด แปลง ควำมคิ ด เดิ ม ของผู ้ อ ื ่ น ประยุ ก ต์ ใ ห้ เ ป็ น สิ ่ ง ใหม่
  23. ควำมคิ ด ยื ด หยุ ่ น (Flexibility) หมำยถึ ง ควำมสำมำรถที ่ จ ะคิ ด หำคำ ำ ตอบได้ อ ย่ ำ งคล่ อ งแคล่ ว ว่ อ งไว รวดเร็ ว และมี ค ำ ำ ตอบได้ จ ำ ำ นวนมำกที ่ ส ุ ด ใน เวลำจำ ำ กั ด
  24. ทดสอบสมองซี ก ขวำ หำหั ว คนใน ภำพนี ้ ในเวลำเท่ ำ ที ่ ค ุ ณ สำมำรถ จะทำ ำ ได้ ( แต่ ใ ห้ เ ร็ ว ที ่ ส ุ ด ) คุ ณ จะต้ อ งค้ น หำได้ เ พี ย งครั ้ ง เดี ย วเท่ ำ นั ้ น จนกว่ ำ จะเจอ 1. สำมำรถค้ น หำได้ ภ ำย ในเวลำ 25 วิ น ำที เป็ น คนที ่ ม ี ส มองข้ ำ งขวำดี ก ว่ ำ คนปกติ 2. สำมำรถค้ น หำได้ ภ ำย ในเวลำ 1 นำที สมองของคุ ณ พั ฒ นำตำมปกติ 3. หำกคุ ณ สำมำรถค้ น หำได้ ในเวลำ 1-3 นำที สมองข้ ำ งขวำของคุ ณ มี ป ฏิ ก ิ ร ิ ย ำช้ ำ ควร กิ น โปรตี น ให้ ม ำกขึ ้ น กว่ ำ เดิ ม 4. ค้ น หำเจอเกิ น กว่ ำ 3 นำที สมองมี ป ฏิ ก ิ ร ิ ย ำ
  25. ควำมคิ ด ละเอี ย ดลออ (Elaboration) หมำย (Elaboration ถึ ง กำรคิ ด ได้ ใ นรำยละเอี ย ด เพื ่ อ ขยำยหรื อ ตกแต่ ง ควำมคิ ด หลั ก ให้ ไ ด้ ค วำมหมำยที ่ ส มบู ร ณ์ ยิ ่ ง ขึ ้ น
  26. ควำมคิ ด โยงใย (Association) หมำยถึ ง ควำมสำมำรถในกำรคิ ด โยงใยต่ อ เชื ่ อ ม สำมำรถ คิ ด หำควำมคิ ด ที ่ ค ล้ ำ ยกั น หรื อ เหมื อ นกั น หรื อ มี ควำมสั ม พั น ธ์ เ ชื ่ อ มโยงเกี ่ ย วข้ อ งกั น ได้ ม ำกที ่ ส ุ ด
  27. หมำยถึ ง วิ ธ ี ค ิ ด หรื อ กระบวนกำรทำ ำ งำนของ สมองที ่ ม ี ข ั ้ น ตอนต่ ำ ง ๆ ในกำรคิ ด แก้ ป ั ญ หำจน สำ ำ เร็ จ เช่ น วอลลำส กล่ ำ วในหนั ง สื อ ของเขำ เรื ่ อ งศิ ล ปะกำรคิ ด มี ใจควำมว่ ำ กระบวนกำร ของควำมคิ ด สร้ ำ งสรรค์ เกิ ด จำกกำรคิ ด สิ ่ ง ใหม่ ๆ โดยกำรลองผิ ด ลองถู ก โดยแบ่ ง ไว้ 4 ขั ้ น ตอน คื อ •ขั ้ น เตรี ย มกำร (Preparation) เป็ น ขั ้ น
  28. 2. ขั ้ น ควำมคิ ด ฟั ก ตั ว (Incubation) เป็ น ขั ้ น ตอนที ่ อ ยู ่ ใ นควำมวุ ่ น วำยของข้ อ มู ล ต่ ำ ง ๆ ทั ้ ง เก่ ำ และใหม่ ป ะปนกั น
  29. 3. ขั ้ น ควำมคิ ด กระจ่ ำ งชั ด (Illumination) เป็ น ขั ้ น ที ่ ค วำมคิ ด สั บ สนต่ ำ ง ๆ ได้ ผ ่ ำ นกำรเรี ย บ เรี ย งและเชื ่ อ มโยงควำมสั ม พั น ธ์ ต ่ ำ ง ๆ เข้ ำ ด้ ว ย กั น ให้ ม ี ค วำมกระจ่ ำ งชั ด และสำมำรถมองเห็ น ภำพรวมของควำมคิ ด ได้
  30. 4. ขั ้ น ทดลองควำมคิ ด และพิ ส ู จ น์ ใ ห้ เ ห็ น จริ ง (Verification) เป็ น ขั ้ น ที ่ ร ั บ ควำมคิ ด จำกสำมขั ้ น แรกมำพิ ส ู จ น์ ว ่ ำ เป็ น ควำมคิ ด ที ่ จ ริ ง และถู ก ต้ อ ง หรื อ ไม่
  31. •กำรระดมสมอง (Brainstorming) รวบรวม ทำงเลื อ กต่ ำ ง ๆ
  32. 2. กำรปลู ก ฝั ง ควำมกล้ ำ ที ่ จ ะทำ ำ สิ ่ ง สร้ ำ งสรรค์ ด้ ว ยกำรทดลองกำรตั ้ ง คำ ำ ถำมง่ ำ ยๆ
  33. ดู ภ ำพข้ ำ งล่ ำ งพู ด ชื ่ อ สี ข อง แต่ ล ะคำ ำ ออกมำ เหลื อ ง นำ ้ ำ เงิ น ส้ ม ดำ ำ แดง เขี ย ว ม่ ว ง เหลื อ ง ส้ ม เขี ย ว ดำ ำ นำ ้ ำ เงิ น แดง ม่ ว ง เขี ย ว นำ ้ ำ เงิ น
  34. 3. กำรสร้ ำ งควำมคิ ด ใหม่ โดยกำรแจกแจงวิ ธ ี กำรที ่ ส ำมำรถใช้ ใ นกำร แก้ ป ั ญ หำใดปั ญ หำหนึ ่ ง มำ 10 วิ ธ ี ก ำร
  35. 4. กำรตรวจสอบ ควำมคิ ด เป็ น เทคนิ ค ที ่ ใ ช้ ใ นกำรค้ น หำ ควำมคิ ด หรื อ แนวทำงที ่ ใ ช้ ใ นกำร แก้ ป ั ญ หำต่ ำ ง ๆ ที ่ เกิ ด ขึ ้ น อย่ ำ งรวดเร็ ว
  36. วิ ธ ี ซ ิ เ นติ ก ส์ ์ ์ “ ซี เ นติ ก ส์ ์ เป็์ น คำ์ ำ์ ในภำษำกรี์ ก ์มี์ ค ์วำม ์์ ์ ์ ์ ์ ์ ์ ์ ์ ์ ์ ์ หมำยว่ ำ ม“ ““ “ “ “ “ “ “ ““ “ “ “ “ “ ” ” เทคนิ ค กำรเชื ่ อ ม “ “ “ กำรเสนอโดย บ W.J. Godon เป็ น วิ ธ ี ก ำร สร้ ำ งควำมคิ ด แผลง รรรร ร ร รร ร ร ร ร ร ร ร ร สร้ ำ งค ๆ ซึ ่ ร ตำมปกติ ม นุ ษ ย์ ง เรำนึ ก ไม่ ถ ึ ง ์ ์โดยกำรคิ์ ด ์ย้์ อ ์นไปมำเหมอน ์ ์ ์ ์ ์ ์ ์ ์ ์ ์ ์์ ์ ์ ์ ลู ก ตุ ้ ม นำฬิ ก ำที ่ แ กว่ ง อยู ่ ร ะหว่ ำ งควำม รู ้ ส ึ ก ที ่ ค ิ ด อย่ ำ งมี เ หตุ ม ี ผ ลกั บ กำรอุ ป มำ ำ เริ ่ ม ต้ น จำกวิ ธ ี ค ิ ด่ อย่ ำ งมี ต รรกะิ ดทำำำ งมี ต รรกะ ท เริ ม ต้ น จำกวิ ธ ี ค ำำ ำ ำ ำำ อย่กำร วิ เ ครำะห์ ส รรพสิ ่ ง โดยกำรสื บ สอบโมเดล ต่ ำ ง ลลลล ลล ลล ล ลล ล ล ลล ล ลล ลลลล ลล ล ๆ ทำ ำ ลล เ ป็ น ลั ล ษณะทั ่ ล ไป แล้ ล แปร ให้ ก ว ว เปลี ่ ย นสิ ่ ง ที ่ ไ ม่ ค ุ ้ น เคยให้ เ ป็ น สิ ่ ง ที ่ ค ุ ้ น เคย นนนนน นน นนนน นน นน ในขณะเดี ย วกั น ก็ น ำ ำ นนนนน นนนนน นน ท กำรอุ น มำแปร ป
  37. วิธีซิเนติกส์มการอุปมา 4 วิธี ดังนี้ ี 1. การอุปมาว่าเป็นคน ลองคิดดูว่าถ้าตนเองเป็นฝากระ ป๋อง 2. การอุปมาโดยตรง หยิบยกเอาสรรพสิ่งที่ดำารงอยู่ รอบตัวเรา ซึ่งมีความคล้ายคลึง กันขึ้นมาพิจารณา นำากฎเกณฑ์ ของสิ่งเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ เช่น ฝาหอยจุ๊บแจงคล้ายกับ อะไร 3. การอุปมาเชิง อุปมาจุดปัญหากับคำาพูดหรือ สัญลักษณ์ สัญลักษณ์ต่าง ๆ เช่น การปิด ประเทศเหมือนสัญลักษณ์เครื่อง กั้นปิดถนน 4. การอุปมาเชิง อุปมากับจินตนาการที่สร้างขึ้น จินตนาการ เองหรือสิ่งที่ไม่มีตัวตน เช่น ความคิดในนิยายกำาลังภายใน หรือนิทานอาหรับราตรี (วีรพจน์ ลือประสิทธิ์สกุล, 2538 : 156 – 157)
  38. กำรคิ ด แก้ ป ั ญ หำ หมำยถึ ง กำรคิ ด ที ่ ม ี บ ท สรุ ป หลั ง จำกคิ ด เสร็ จ แล้ ว เป็ น กำรคิ ด หำทำง แก้ ไ ขอุ ป สรรคที ่ เ กิ ด ขึ ้ น เพื ่ อ ให้ บ รรลุ ถ ึ ง จุ ด มุ ่ ง หมำย
  39. เจ พี กิ ล ฟอร์ ด นั ก จิ ต วิ ท ยำได้ ก ล่ ำ วไว้ ว ่ ำ “ กำรมี ช ี ว ิ ต คื อ กำรมี ป ั ญ หำ และกำรแก้ ป ั ญ หำ คื อ ควำม เจริ ญ งอกงำมอย่ ำ งมี ส ติ ปั ญ ญำ “ โดยกล่ ำ วถึ ง บุ ค ลิ ก ภำพของคนที ่ ม ี ค วำม คิ ด สร้ ำ งสรรค์ ว ่ ำ ต้ อ งมี ควำมฉั บ ไวที ่ จ ะรู ้ ป ั ญ หำ และมองเห็ น ปั ญ หำ มี ค วำม ว่ อ งไว สำมำรถ เปลี ่ ย นแปลงควำมคิ ด ใหม่ ๆ ได้ ง ่ ำ ย
  40. กำรคิ ด แก้ ป ั ญ หำอย่ ำ งสร้ ำ งสรรค์ ประกอบ ด้ ว ยกระบวนกำรคิ ด ขั ้ น ตอนต่ ำ ง ๆ 4 ขั ้ น ตอน คื อ •กำรค้ น หำควำมหมำยของปั ญ หำ (Define)
  41. กำรคิ ด แก้ ป ั ญ หำอย่ ำ งสร้ ำ งสรรค์ ประกอบ ด้ ว ยกระบวนกำรคิ ด ขั ้ น ตอนต่ ำ ง ๆ 4 ขั ้ น ตอน คื อ •กำรเปิ ด ใจกว้ ำ งต่ อ ควำมเห็ น ที ่ ห ลำกหลำยเป็ น จำ ำ นวนมำก (Open)
  42. กำรคิ ด แก้ ป ั ญ หำอย่ ำ งสร้ ำ งสรรค์ ประกอบ ด้ ว ยกระบวนกำรคิ ด ขั ้ น ตอนต่ ำ ง ๆ 4 ขั ้ น ตอน คื อ •กำรพิ ส ู จ น์ แ ยกแยะให้ ไ ด้ ค วำมคิ ด เห็ น ที ่ ด ี ท ี ่ ส ุ ด (Identify)
  43. กำรคิ ด แก้ ป ั ญ หำอย่ ำ งสร้ ำ งสรรค์ ประกอบ ด้ ว ยกระบวนกำรคิ ด ขั ้ น ตอนต่ ำ ง ๆ 4 ขั ้ น ตอน คื อ •กำรเปลี ่ ย นควำมคิ ด เห็ น ให้ เ ป็ น กำรกระทำ ำ (Transform)
  44. กำรคิ ด แก้ ป ั ญ หำอย่ ำ งสร้ ำ งสรรค์ ประกอบ ด้ ว ยกระบวนกำรคิ ด ขั ้ น ตอนต่ ำ ง ๆ 4 ขั ้ น ตอน คื อ •กำรเปลี ่ ย นควำมคิ ด เห็ น ให้ เ ป็ น กำรกระทำ ำ (Transform)
  45. ถ้ ำ ดู ย ั ง ไงๆ ก็ ห มุ น ตำม เข็ ม นำฬิ ก ำ   แสดงว่ ำ   นั ก ศึ ก ษำเป็ น คนช่ ำ งคิ ด ช่ ำ งฝั น มี ค วำมคิ ด สร้ ำ งสรรค์ เป็ น แนว ศิ ล ป์ และกำ ำ ลั ง ใช้ ส มอง ซี ก ขวำ แต่ ถ ้ ำ นั ก ศึ ก ษำดู ใ ห้ ด ี ดู อ ี ก ที ถ้ ำ หมุ น ทวนเข็ ม นำฬิ ก ำตะหำกล่ ะ แสดง ว่ ำ เป็ น คนอิ ง เหตุ อ ิ ง ผล มี ล อจิ ก เป็ น แนววิ ท ย์ และกำ ำ ลั ง ใช้ ส มองซี ก ซ้ ำ ย แต่ เ ดี ๋ ย วหมุ น ตำมเข็ ม เดี ๋ ย วก็ ห มุ น ทวนเข็ ม แสดงว่ ำ เป็ น มนุ ษ ย์ แ บบ ไหนกั น แน่ คิ ด เอำเอง
Publicité