1. เครื่องมือการออกแบบโปรแกรมและโปรแกรมโครงสร้าง

2. เครื่องมือการออกแบบโปรแกรม แบ่งได้เป็น 2 ลักษณะดังนี้
1. คาบรรยาย เป็นการเขียนเค้าโครงการบรรยายเป็นภาษาที่มนุษย์ใช้
สื่อสารเพื่อให้ทราบขั้นตอนการทางานของโปรแกรมแต่ละขั้นตอน
บางครั้งอาจใช้คาสั่งของภาษาที่ใช้เขียนโปรแกรม
2. สัญลักษณ์ คือเครื่องหมายรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งใช้สาหรับสื่อความหมายให้
เข้าใจตรงกัน ปกติใช้ของ สถาบันมาตรฐานแห่งชาติอเมริกัน ( The
American National Standard Institute , ANSI) ซึ่งได้กาหนด
สัญลักษณ์เป็นมาตรฐานไว้

3. สัญลักษณ์ ( Symbol )
เครื่องหมายรูปแบบต่างๆใช้สาหรับสื่อความหมายให้
เข้าใจตรงกันปกติใช้ของสถาบันมาตรฐานแห่งชาติ
อเมริกันThe American National Standard Institute
(ANSI) กาหนดสัญลักษณ์เป็นมาตรฐานไว้ ดังตัวอย่าง

5. เครื่องมือในการออกแบบโปรแกรม
เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทางานไปตามขั้นตอนที่ผู้เขียน
โปรแกรมเขียนไว้เครื่องมือที่สาคัญในการออกแบบ
โปรแกรมคือ
ผังงาน(Flow chart)ซึ่งแบ่งได้ 2 แบบคือ
1. ผังงานระบบ ( system Flowchart )
2. ผังงานโปรแกรม (Program Flowchart)

6. ประโยชน์ที่ได้จากการเขียนผังงาน
 เป็นสื่อความหมายที่ดีให้ผู้เกี่ยวข้องกันคอมพิวเตอร์ทราบขั้นตอนและรายละเอียด
ของโปรแกรมได้ง่ายและรวดเร็ว
 ตรวจสอบและทาความเข้าใจกับระบบที่จะใช้คอมพิวเตอร์ได้ง่ายและรวมถึงการ
ตรวจสอบทางตรรกะของโปรแกรมด้วย
 ช่วยทาให้การพัฒนาและทดสอบโปรแกรมเป็นไปง่ายและรวดเร็ว
 ช่วยในการลงรหัสโปรแกรมด้วยภาษาต่างๆ ได้ถูกต้องตามขั้นตอน
 ช่วยในการทาให้การแก้ไขและเพิ่มเติมโปรแกรมเป็นไปได้ง่าย
 ช่วยในการทาเอกสารประกอบโปรแกรม

7. โปรแกรมโครงสร้าง
การออกแบบโปรแกรม
วิธีการที่นิยมคือ การออกแบบโปรแกรมแบบมีโครงสร้าง
 โปรแกรมโครงสร้างคือ โครงสร้างที่ใช้รูปแบบพื้นฐานมาแสดงลาดับ
ขั้นตอนการทางานของโปรแกรม
 มี 3 รูปแบบ ได้แก่
1. โครงสร้างรูปแบบลาดับ
2. โครงสร้างรูปแบบเลือก
3. โครงสร้างรูปแบบทาซ้า

8. โครงสร้างรูปแบบลาดับ
แสดงลาดับกิจกรรมว่า กิจกรรมใดจะต้องทาก่อนหรือหลังตามลาดับ
เขียนขั้นตอนการทางานของโปรแกรม ดังนี้

9. โครงสร้างรูปแบบเลือก แบ่ง ได้ 2 แบบ คือ
1. แบบเลือกสองทาง (IF-THEN-ELSE)
2. แบบเลือกมากกว่าสองทางหรือแบบกรณี(CASE)
******
โปรแกรมโครงสร้างแบบเลือกสองทาง (IF-THEN-ELSE)
แบ่งย่อยเป็น2ประเภทคือ
1. แบบที่มีการทากิจกรรมตามเงื่อนไขทั้งสองทางเลือก (แต่เป็นกิจกรรมที่
ต่างกัน)
2. แบบที่มีการทากิจกรรมตามเงื่อนไขที่กาหนดเพียงทางเลือกเดียว

13. โครงสร้างรูปแบบเลือกมากกว่าสองทางหรือแบบกรณี(CASE)
มีเงื่อนไขให้เลือกมากกว่า 2 ทางคือ 3ทางหรือมากกว่า
เมื่อเลือกเงื่อนไขต่างเส้นทางกันจะมีกิจกรรมที่ตามมาต่างกัน
เช่น กรณีโครงสร้างแบบ 4 ทางเลือกเขียนขั้นตอนวิธีและผังงานได้ดังนี้

14. กรณีโครงสร้างแบบ 4 ทางเลือกเขียนขั้นตอนวิธีและผังงานดังนี้

15. โครงสร้างรูปแบบทาซ้าหรือวนซ้า
แบ่งเป็น 3 แบบ คือ
1. รูปแบบทาซ้าในขณะที่เงื่อนไขเป็นจริง (Do While)
2. รูปแบบทาซ้าจนกระทั่งเงื่อนไขเป็นจริง (Do Until)
3. รูปแบบทาซ้าจากค่าเริ่มต้นจนถึงค่าสุดท้าย (For)

16. โครงสร้างรูปแบบทาซ้าในขณะที่เงื่อนไขเป็นจริง
เป็นโครงสร้างแบบที่ตรวจเงื่อนไข ถ้าเงื่อนไขเป็นจริง ทา
กิจกรรม แล้วกลับมาตรวจสอบเงื่อนไข
ถ้าเงื่อนไขยังเป็นจริงก็ทากิจกรรมแล้วกลับไปตรวจสอบ
เงื่อนไขใหม่
ถ้าเงื่อนไขไม่เป็นจริง โปรแกรมออกจากการทาซ้า

18. โครงสร้างรูปแบบทาซ้าจากค่าเริ่มต้นจนถึงค่าสุดท้าย