More Related Content Similar to 3.4 อารยธรรมกรีก (20) More from Jitjaree Lertwilaiwittaya (19) 3.4 อารยธรรมกรีก4. ปั จจัยทางภูมศาสตร์ กับการตังถิ่นฐาน(ต่ อ)
ิ
้
รวมเนือที่ทงหมดประมาณ 5 หมื่นตารางไมล์ ในจํานวนนี ้
้ ั้
ดินแดนส่ วนใหญ่ คือ ประมาณ 4 ใน 5 คือ ดินแดนกรี กบนผืน
แผ่ นดินใหญ่ ในทวีปยุโรปดินแดนตอนนีแบ่ งออกเป็ นภาคใหญ่ ๆ
้
ได้ 3 ภาค คือ
1.กรี กภาคเหนือ อันได้ แก่ แคว้ นมาซีโดเนีย เทสซาลี เอไพรั ส
รวมอาณาบริเวณประมาณครึ่งของดินแดนกรี กบนผืนแผ่ นดินใหญ่ ใน
สมัยคลาสสิค ไม่ นิยมรวมมาซีโดเนียเป็ นส่ วนหนึ่งของกรี ก
2.กรี กภาคกลาง ได้ แก่ บริเวณซึ่งเป็ นเนินเขาสูง ระหว่ างกรี ก
ภาคกลาง และอ่ าวคอรินธ์ ตรงปลายสุดด้ านตะวันออกของบริเวณนีคือ
้
แคว้ นอันติก อันมีเมืองหลวงคือนครรั ฐเอเธนส์ ที่กาเนิดของศิลป
ํ
วิทยาการ ปรั ชญาและระบอบการปกครองอันมีช่ ือเสียง
http://en.wikipedia.org/wiki/Isthmus_of_Corinth
5. ปั จจัยทางภูมศาสตร์ กับการตังถิ่นฐาน(ต่ อ)
ิ
้
3.เพลอปปอนเนซุส ได้ แก่ บริเวณคาบสมุทร ซึ่งอยู่ทางตอน
ใต้ ของ อ่ าวคอรินธ์ เชื่อมติดกับภาคกลางและภาคเหนือด้ วยคอคอด
คอรินธ์ ใต้ คอคอดนีลงมาคือที่ตงของเมืองอาร์ กอลิส เป็ นศูนย์ กลาง
้
ั้
ของอารยธรรม กรีกที่เจริญขึนเป็ นครั งแรก ใจกลางคาบสมุทรแห่ ง
้
้
นีเ้ ป็ นที่ตงของนครรัฐสปาร์ ตา ซึ่งมีช่ ือเสียงในด้ านการรบ เมือง
ั้
โอลิมเปี ย ที่สิงสถิตของบรรดาเทพเจ้ ากรี กอยู่ชิดกับฝั่ งทะเลไอโอ
เนีย ด้ านตะวันตกของคาบสมุทรเพลอปปอนเนซุส
http://www.thamwebsite.com/cty/tiplearn/old/pages/olympic.htm
7. ปั จจัยทางภูมศาสตร์ กับการตังถิ่นฐาน(ต่ อ)
ิ
้
ดินแดนกรีซเป็ นดินแดนที่ปัจจัยทางภูมิศาสตร์ มีอทธิพลต่ อ
ิ
การตังถิ่นฐานและการดํารงชีวิตของประชาชน เนื่องจากลักษณะ
้
ทางภูมิศาสตร์ มีอทธิพลต่ อพัฒนาการของอารยธรรมกรีก มี 3
ิ
ประการ คือ ภูเขา พืนดิน และทะเล
้
1.สภาพดินแดนของกรี ซเต็มไปด้ วยภูเขา ภูเขาเหล่ านีแบ่ ง
้
กรี ซออกเป็ นที่ราบในหุบเขาเล็ก แยกออกจากกัน ภูเขาเป็ น
อุปสรรคสําคัญในการติดต่ อคมนาคม หมู่บ้านตามหุบเขาเหล่ านีจง
้ึ
มักปกครองตนเองเป็ นอิสระต่ อกัน
http://kootation.com/download-meteora-monastery-on-rocwallpaper/
8. ปั จจัยทางภูมศาสตร์ กับการตังถิ่นฐาน(ต่ อ)
ิ
้
2.สภาพพืนดินส่ วนใหญ่ ขาดความอุดมสมบูรณ์ แม่ นําใน
้
้
กรีกเป็ นแม่ นําสายสันๆในฤดูท่ มีนําไหลมาก นําจะพัดพาเอาดินที่
้
้
ี ้
้
อุดมสมบูรณ์ ไป ส่ วนพืนที่ราบตามหุบเขาแม้ จะมีความอุดม
้
สมบูรณ์ แต่ มีพนที่ขนาดเล็ก ไม่ สามารถเพาะปลูกได้ มากนัก จึงไม่
ื้
สามารถผลิตพืชผลได้ เพียงพอต่ อความต้ องการของประชากร
http://kootation.com/downloadmeteora-monastery-on-rocwallpaper/
9. ปั จจัยทางภูมศาสตร์ กับการตังถิ่นฐาน(ต่ อ)
ิ
้
3. ทะเลกรี ก จัดเป็ นประเทศที่มีความสะดวกสบายใน
ทางออกทะเล ดินแดนกรี ซส่ วนใหญ่ มีลักษณะคล้ ายแหลมยื่น
ไปในทะเล ชายฝั่ งทะเลใช้ เป็ นอ่ าวจอดเรื อได้ เป็ นอย่ างดี
เป็ นปั จจัยส่ งเสริมให้ ชาวกรี กหันมาทําการค้ าขายทางทะเลกับ
ดินแดนอื่นๆ ทําให้ ชาวกรี กได้ เรี ยนรู้ อารยธรรมอื่นๆ เช่ น
อารยธรรมของอียปต์ อารยธรรมเมโสโปเตเมีย
ิ
http://kootation.com/download-meteora-monastery-on-rocwallpaper/
10. ปั จจัยทางภูมศาสตร์ กับการตังถิ่นฐาน(ต่ อ)
ิ
้
หมู่เกาะในทะเลอีเจียนที่สาคัญ คือ เกาะครีต(Crete) ซึ่ง
ํ
เป็ นเกาะใหญ่ อันดับหนึ่ง และมีความสําคัญในฐานะเป็ นต้ นกําเนิด
อารยธรรมกรีก
ที่มา : http://panupong088.wordpress.com/2012/12/06/อารยธรรมกรี ก
เกาะครีต
12. ปั จจัยทางภูมศาสตร์ กับการตังถิ่นฐาน(ต่ อ)
ิ
้
ดินแดนคาบสมุทรกรี ซ เป็ นดินแดนที่มีทรั พยากร
พอสมควร ได้ แก่ เหล็ก ทอง เงิน หินอ่ อน ดังนันชาวกรีซจึงนํา
้
หินอ่ อนมาใช้ ก่อสร้ างบ้ านเรื อนและศาสนสถานต่ างๆ
ที่มา : http://www.tourtooktee.com/webboard-each.php?id=248
14. อารยธรรมกรีกสมัยก่ อนประวัตศาสตร์ (ต่ อ)
ิ
ผู้คนในดินแดนแถบนีดารงชีวตด้ วยการเกษตรเป็ น
้ ํ
ิ
หลัก สิ่งก่ อสร้ างบางแห่ งมีลักษณะคล้ ายปอมปราการ
้
สันนิษฐานว่ าอาจมีการจัดระเบียบการปกครองในชุมชนกัน
แล้ ว
ที่มา : http://writer.dek-d.com/106601/story/viewlongc.php?id=669092&chapter=9
15. อารยธรรมกรีกสมัยก่ อนประวัตศาสตร์ (ต่ อ)
ิ
ในราว 3,000-2,000 ปี ก่ อนคริสต์ ศักราช บนเกาะครีตรู้จักใช้
โลหะ ได้ แก่ ทองแดง สําริด ซึ่งเข้ าใจว่ าคงรั บมาจากอารยธรรม
อียปต์ โบราณ เนื่องจากเกาะครี ตตังอยู่ทางตอนใต้ สุดของกรีซ ใต้
ิ
้
เกาะครี ตลงไปคืออียปต์ โดยมีทะเลเมดิเตอร์ เรเนียนอยู่ระหว่ าง
ิ
กลาง
รูปภาพ : คอลดรอนสําริดที่ทาในกรีซ พบในเนินบรรจุศพวีซ์ในฝรั่งเศสซึ่งเป็ นที่ฝัง
ํ
ศพของสตรีสูงศักดิ์จากศตวรรษที่ 6
ที่มา : http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=vinitsiri&month=052011&date=05&group=64&gblog=188
16. อารยธรรมกรี กสมัยประวัตศาสตร์
ิ
อารยธรรมกรีกเป็ ยอารยธรรมเก่ าแก่ เรื่ องราวเกี่ยวกีบกรีก
ในระยะแรกๆค่ อนค่ างเรื อนราง มีลักษณะนิยายปรัมปรา แต่ จาก
หลักฐานการขุดค้ นของนักโบราณคดีท่ เมืองทรอย ไมซีเน และเมือง
ี
อื่นๆตามที่มหากวีโฮเมอร์ ได้ กล่ าวในมหากาพย์ อเลียด และโอดิส
ิ
ซีย์ ช่ วยเปิ ดเผยความจริงเกี่ยวกับการสร้ างอารยธรรมกรีกใน
ระยะแรกๆเป็ นอันมาก จากการสํารวจค้ นคว้ าของนักโบราณคดีและ
นักประวัตศาสตร์ ในสมัยต่ อมายังทําให้ เราทราบว่ าอารยธรรมกรีก
ิ
ปรากฏครังแรกที่เกาะครี ตในทะเลอีเจียน เมื่อประมาณเกือบ
้
๒,๐๐๐ ปี ก่ อนคริสต์ ศักราช อารยธรรมในทะเลอีเจียนประกอบด้ วย
อารยธรรมไมนวนและอารยธรรมไมซีเน
ที่มา http://staff.harrisonburg.k12.va.us/~cwalton/walton/solpracticetest.htm
17. อารยธรรมไมนวน
อารยธรรมไมนวน(Minoan Civilization)เกิดขึนบน
้
เกาะครี ต ชาวครีตหรือชาวครี ตนเป็ นชนพืนเมืองส่ วนใหญ่ ประกอบ
ั
้
อาชีพค้ าขาย การพบแผ่ นดินเผาจารึกตัวอักษรจํานวนมากใน
เกาะครี ต ทังอักษรภาพ และตัวอักษรที่เป็ นเส้ นตรง แสดงว่ าชาว
้
กรีกสามารถใช้ ตวอักษรได้ เป็ นอย่ างดี
ั
ที่มา : http://writer.dekd.com/cammy/story/viewlongc.php?id=486572&chapter=497
18. อารยธรรมไมนวน(ต่ อ)
กษัตริย์ท่ มีอานาจมากที่สุด คือ พระเจ้ ามินอส(Minos)
ี ํ
อารยธรรมของชาวครีตนได้ ช่ ือว่ า อารยธรรมไมนวน ตามพระนาม
ั
ของกษัตริย์องค์ นี ้
อารยธรรมไมนวนเจริญสูงสุดในระหว่ าง 1,800 – 1,500
ปี ก่ อนคริสต์ ศักราชในระยะเวลานีเ้ รี ยกว่ าเป็ นสมัยวัง เพราะชาวครี
ตันได้ ใช้ ความรู้ ความสามารถในการก่ อสร้ างและขยายวังให้ ใหญ่ โต
มโหฬาร วังที่สาคัญ ได้ แก่ วังนอสซัส(Knossos)
ํ
ประมาณ 1,400 ปี ก่ อนคริสต์ ศักราช อารยธรรมไมนวนที่
เกาะครี ตถึงจุดสินสุดเมื่อถูกพวกไมซีเนียนจากผืนแผ่ นดินใหญ่
้
รุ กราน
ที่มา : http://nuyiiz.blogspot.com/2012_09_01_archive.html
20. อารยธรรมไมนวน(ต่ อ)
Naval Fresco from Akrotiri, Thera, c. 1650-1500 B.C.
Octopus Vase (Marine Style), c. 1500 B.C.
ที่มาhttp://employees.oneonta.edu/farberas/arth/
arth209/minoan_mycenaean.html
"Spring" fresco from Thera, c. 1650.
21. อารยธรรมไมนวน(ต่ อ)
Pyxis(เซรามิก), ca. 1400–1100 B.C.; Late
Minoan IIIB
Lentoid seal with a griffin, ca.
1450–1400 B.C.; Late Minoan II
Rhyton in the form of a
bull's head(ดินเผา), ca. 1450–
1400 B.C.; Late Minoan II
Larnax (chest-shaped coffin)(ดินเผา),
mid-13th century B.C.; Late Minoan
IIIB
ที่มา : http://www.metmuseum.org/toah/hd/mino/hd_mino.htm
22. อารยธรรมไมซีเน
อารยธรรมไมซีเน(Mycenae Civilization) เป็ นอารย
ธรรมของพวกไมซีเนียน เจริญรุ่ งเรื องอยู่ประมาณ 1,400-1,100
ปี ก่ อนคริสต์ ศักราช มีศูนย์ กลางอยู่ท่ เมืองไมซีเนบนคาบสมุทรเพโล
ี
พอนนีซัส
http://employees.oneonta.edu/farberas/arth/arth209/minoan_mycenaean.html
23. อารยธรรมไมซีเน(ต่ อ)
บรรพบุรุษของชาวไมซีเนียน คือ พวกเอเคียน ซึ่งเป็ นกลุ่ม
คนที่พูดภาษาอินโด-ยูโรเปี ยน อพยพมาจากทางเหนือประมาณ
2,000 ปี ก่ อนคริสต์ ศักราช พวกเอเคียนมีความสามารถทางด้ าน
การรบและการค้ า รับแลกเปลี่ยนอารยธรรมกับดินแดนใกล้ เคียงที่
ติดต่ อกันทางการค้ า เช่ น เกาะครี ต อียปต์ คาบสมุทรอานาโตเลีย
ิ
ประมาณ 1,460 ปี ก่ อนคริสต์ ศักราช พวกเอเคียนโจมตี
เกาะครี ตทําลายพระราชวังนอสซัสและครอบครองเกาะครีต ต่ อมา
1,400 ปี ก่ อนคริสต์ ศักราช ได้ สร้ างเมืองไมซีเนที่มีปองปราการ
้
แข็งแรง พวกเอเคียนจึงมีช่ ือใหม่ ว่าไมซีเนียนตามชื่อเมือง
24. อารยธรรมไมซีเน(ต่ อ)
อารยธรรมสําคัญของชาวไมซีเนียน คือ ตัวอักษรไมซีเนียน
ซึ่งเป็ นรากฐานของตัวอักษรกรี กนอกจากนียังมีการสร้ างถนน
้
สะพาน และรู้ จักทําท่ อส่ งนําแบบท่ อประปา
้
ด้ านความเชื่อทางศาสนา ชาวไมซีเนียนนับถือเทพเจ้ า
หลายองค์ รวมทังเทพเจ้ าซูส(Zeus) ซึ่งชาวกรี กในสมัยต่ อมานับถือ
้
เป็ นเทพเจ้ าสูงสุด
อารยธรรมไมซีเนสินสุดลงเพราะถูกพวกดอเรียน(Dorian)
้
ซึ่งเป็ นชาวกรีกเผ่ าหนึ่งรุ กราน ทําให้ อารธรรมในทะเลอีเจียนต้ อง
ยุตลงชั่วขณะ
ิ
http://gwenminor.com/?tag=mycenae
26. อารยธรรมไมซีเน(ต่ อ)
Interior of "Treasury of Atreus"
(corbeled arch)
Royal Tomb (Tholos) so-called Treasury of
Atreus, c. 1300-1250.
สร้ างโดยยกหินขึนวางและถมดินตามทีละ
้
ชันๆใช้ นําหนักของดินเป็ นแรงกดด้ านนอก
้
้
ทําให้ หนไม่ ถล่ มลงมา และตัดหินภายในให้
ิ
เรียบ ใช้ เป็ นที่เก็บศพของกษัตริย์
ที่มาhttp://employees.oneonta.edu/farbera
s/arth/arth209/minoan_mycenaean.html
27. อารยธรรมไมซีเน(ต่ อ)
Golden Death mask, Found in Tomb
V, Grave Circle A at Mycenae.
Small vase carved out of rock crystal, Found
in Grave O, Grave circle B, at Mycenae.
Bronze dagger decorated with gold(กริช), Found
in Tomb IV, Royal Grave Circle A, Mycenae
Funeral Diadem (Gold)ใช้ ประดับเจ้ าหญิง
Found at tomb III, Royal Grave Circle A
28. อารยธรรมไมซีเน(ต่ อ)
Gold rhyton, Tomb IV, Grave
Circle A, Mycenaean Acropolis
Gold ring,used as a seal(ตราประทับ)
16th century. B.C. Mycenae
Two Golden goblets.Found in
Royal Tomb V, Grave Circle A,
at Mycenae
ที่มาhttp://www.greeklandscapes.com/gr
eece/athens_museum_mycenae.html
29. นครรั ฐของกรี ก
ลักษณะภูมิประเทศของกรี ซทําให้ การตังถิ่นฐานแบ่ งเป็ น
้
นครรั ฐ (city-state)ซึ่ งชาวกรี กนิยมเรี ยกว่ า โพลิส(polis) แต่ ละ
นครรั ฐต่ างมีสภาพสังคมและวัฒนธรรมเป็ นของตัวเอง
การปกครองหลัง 800 ปี ก่ อนคริสต์ ศักราช หรือที่เรียกว่ า
ยุคคลาสสิก(Classic Age) บางนครรั ฐปกครองในระบอบกษัตริย์
และบางนครรัฐปกครองในระบอบคณาธิปไตย
ที่มา : http://worldcoincatalog.com/AC/C2/Greece/AG/CSofGreece.htm
30. นครรัฐของกรีก(ต่ อ)
แต่ อย่ างไรก็ดี ใน 700 ปี ก่ อนคริสต์ ศักราช กษัตริย์ได้
สูญเสียอํานาจทังหมดให้ แก่ พวกขุนนาง ซึ่งต่ อมาปกครองด้ วย
้
ระบอบประชาธิปไตย ให้ สิทธิการเลือกตังรวมทังการดํารงตําแหน่ ง
้
้
ผู้ปกกครองและบริหารนครรั ฐแก่ ราษฎรชายที่บรรลุนิตภาวะ และ
ิ
เป็ นพลเมืองของนครรัฐ
อุดมการณ์ ประชาธิปไตยของกรี กนับว่ าเป็ นมรดกทางอารย
ธรรมที่สาคัญอย่ างหนึ่งที่ถ่ายทอกให้ แก่ โลกตะวันตก จนเกิด
ํ
พัฒนาการณ์ กลายเป็ นระบอบประชาธิปไตยในปั จจุบัน
ที่มา : https://sites.google.com/site/tripbkk/sthan-thi-theiyw-thawpi/6-xnusawriy-prachathiptiy
31. นครรัฐของกรีก(ต่ อ)
ประมาณ 500 ปี ก่ อนคริสต์ ศักราช ศูนย์ กลางความเจริญ
ของกรีกได้ ย้ายมาสู่นครรั ฐเอเธนส์ (Athens) ในแคว้ นแอตติกะ
(Attica) สถาปั ตยกรรม วรรณคดี ประวัตศาสตร์ การแพทย์
ิ
และปรั ชญาเจริญขึนอย่ างรวดเร็ว แต่ ในขณะเวลาเดียวกันนี ้
้
เอเธนส์ และนครรัฐอื่นๆในกรีกก็ผนึกกําลังกันเพื่อทําสงคราม
ปองกันการรุ กรานจากเปอร์ เซียในระหว่ าง 470-429 ปี ก่ อน
้
คริสต์ ศักราช
http://www.mitchellteachers.org/World
History/AncientGreece/TouringAthensDu
ringtheGoldenAge.htm
32. นครรั ฐของกรีก(ต่ อ)
ผลของสงครามเอเธนส์ เป็ นฝ่ ายชนะ ทําให้ เอเธนส์ เป็ นผู้นํา
ของนครรัฐต่ างๆ
ผู้นําทัพของเอเธนส์ ในขณะที่รบกับเปอร์ เซีย คือ เธมิสโต
คลีส เขาได้ ออกแบบเรื อไทรรี ม(Trireme) ซึ่งมีสามฝี พายสาม
ระดับชันใช้ ฝีพาย 170 นาย เรื อไทรรี มสามารถมีความเร็วได้ 8-9
้
นอต(1=1.852 กิโลเมตรต่ อชั่วโมง) และด้ วยความเร็วนีทาให้ หวเรือ
้ ํ
ั
ที่ห้ ุมด้ วยสําริดสามารถพุ่งชนเรื อของข้ าศึกให้ พังได้
ที่มา : http://www.ancient.eu.com/image/1184/
33. นครรั ฐของกรี ก(ต่ อ)
ต่ อมาเอเธนส์ ได้ จัดตังสมาพันธรั ฐแห่ งหมู่เกาะเดลอส(Delos)
้
ขึนที่เกาะเดลอส ซึ่งใช้ เป็ นศูนย์ เก็บรั กษาทรั พย์ สมบัติ ต่ อมาสมาพัธรั ฐ
้
ได้ ย้ายศูนย์ กลางไปอยู่ท่ เอเธนส์ ในระยะนีเ้ อเธนส์ มีความเจริญสูงสุด
ี
จนเรี ยกว่ า ยุคทองของเอเธนส์
วิหารพาร์ เธนอน(Parthenon)ซึ่งสร้ างจากหินอ่ อนภายใน
บรรจุรูปปั ้นเทพีอาเธน่ สูงประมาณ10-11เมตรทําจากทองและงาช้ าง
เป็ นเครื่ องยืนยันความมั่งคั่งของเอเธนส์ ในยุคนัน
้
ที่มาhttp://www.mitchellteachers.org/WorldHistory/AncientGreece/Touri
ngAthensDuringtheGoldenAge.htm
34. นครรั ฐของกรี ก(ต่ อ)
ความมั่งคั่งของเอเธนส์ ได้ นําเอเธนส์ เข้ าสู่สงครามเพโล
พอนเนเซียน(Peloponnesian War 431-404 ปี ก่ อน
คริสต์ ศักราช) ซึ่งเป็ นสงครามระหว่ างเอเธนส์ และสปาร์ ตา
เนื่องจากขณะนันสปาร์ ตาเป็ นนครรั ฐทหารและเป็ นคู่แข่ งที่สาคัญ
้
ํ
ในการแย่ งชิงอํานาจเพื่อเป็ นผู้นํากรี ก
จนในที่สุดในปี 404 ก่ อนคริสต์ ศักราช เอเธนส์ ก็ล่มสลาย
35. นครรั ฐของกรี ก(ต่ อ)
สงครามเพโลพอนเนเซียนนําความเสื่อมมาสู่นครรัฐกรีก
และเปิ ดโอกาศให้ มาซิโดเนียซึ่งเป็ นอาณาจักรเล็กๆทางตอนเหนือที่
มีวัฒนธรรมด้ อยกว่ าขยายอํานาจเข้ าครอบครองกรีกได้ ในสมัย
พระเจ้ าอะเล็กซานเดอร์ มหาราช(Alexander the Great
336-323ปี ก่ อนคริสต์ ศักราช) เรี ยกว่ ายุค เฮลเลนิสติก
(Hellenistic Age)
ในยุคนีกรีกสามารถขยายดินแดนครอบคลุมอียปต์ เอเชีย
้
ิ
ไมเนอร์ เปอร์ เซีย ไปจนถึงอินเดีย ทําให้ ศิลปวัฒนธรรมของกรีก
แพร่ หลายไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง
36. นครรั ฐของกรี ก(ต่ อ)
นอกจากนียังมีการจัดตังเมืองอะเล็กซานเดรีย
้
้
(Alexandria)ในอียปต์ เพื่อเป็ นศูนย์ กลางการค้ าและ
ิ
ศิลปวัฒนธรรมของกรี ก
38. สถาปั ตยกรรม
1.สถาปั ตยกรรม เนื่องจากระบอบการปกครองของกรีกใน
ยุคคลาสสิกเป็ นแบบนครรั ฐที่ไม่ มีกษัตริย์เป็ นประมุข งานก่ อสร้ างจึง
ไม่ ใช่ พระราชวังหรูหราเหมือนในสมัยไมนวนแต่ จะเป็ นวิหารสําหรับ
เทพเจ้ า ซึ่งชาวกรีกให้ ความสําคัญอย่ างสูง
วิหารที่กรีกไว้ บูชาเทพเจ้ านัน นิยมสร้ างบนเนินดินหรือภูเขา
้
เล็กๆ ซึ่งมีช่ ือเรียกว่ าอะครอโพลิส(Acropolis) วิการที่สาคัญ ได้ แก่
ํ
วิหารพาร์ เธนอน(Parthenon) ที่อะครอโพลิสในนครรัฐเอเธนส์
39. สถาปัตยกรรม(ต่ อ)
ลักษณะของเสากรี กมี 3 แบบ คือ
1)Doric Order เป็ นเสาโรมันแบบที่เรี ยบง่ าย มั่นคง
แข็งแรง เป็ นแบบแพร่ หลายมากที่สุดและเก่ าแก่ ท่ สุด ตัวอย่ างของ
ี
อาคารที่ใช้ เสาแบบดอริกคือวิหารพาร์ เธนอนเนื่องจากชาวกรี กนิยม
ความเรียบง่ าย
ลักษณะของเสาส่ วนล่ างจะใหญ่ แล้ วเรี ยวขึนเล็กน้ อย ตาม
้
เสาจะแกะเป็ นร่ องลึกเว้ าตามแนวยาว หัวเสาเป็ นแผ่ นหินเรียบ
40. สถาปัตยกรรม(ต่ อ)
2)Ionic Order ลักษณะเรี ยวกว่ าเสาแบบดอริก หัวเสา
เป็ นลายโค้ งม้ วนย้ อยลงมาทังสองข้ าง ทําให้ ดอ่อนช้ อย ตัวอย่ าง
้
ู
อาคารที่ใช้ เสาแบบนี ้ เช่ น วิหารอีเรกเธอัม(Erectheum)ที่
เอเธนส์ สร้ างอุทศแก่ อีเรกเธอัส(Erectheus) วีรบุรุษของเอเธนส์
ิ
ในนิยายกรีก
42. มรดกทางวัฒนธรรมของกรี ก(ต่ อ)
3) Corinthian Order ให้ ความรู้ สึกหรู หรา ฟุ่ มเฟื อย
นิยมนํามาเป็ นแบบอย่ างใน สมัยโรมัน ลักษณะหัวเสามีการตกแต่ ง
โดยแกะเป็ นรู ปดอกไม้ ใบไม้ ทําเป็ นใบซ้ อนกันสองชัน แล้ วแต่ ง
้
ด้ วยดอกไม้ ส่ วนล่ างของเสามีฐานรองรั บแบบเดียวกับไอโอนิค เป็ น
เสาโรมันที่มีความงดงามมาก
44. ประติมากรรม
2.ประติมากรรม งานประติมากรรมของกรีกสะท้ อนให้ เห็น
ลักษณะธรรมชาตินิยมของมนุษย์
งานประติมากรรมของกรี กในช่ วงแรกรั บอิทธิพลมาจาก
อียปต์ ซ่ งมีลักษณะหน้ าตรงแข็งทื่อ
ิ ึ
ต่ อมาในสมัยคลาสสิก งานประติมากรรมเป็ นภาพเปลือย
แสดงกล้ ามเนือตามหลักกายวิภาคศาสตร์ และแกะสลักหินอ่ อนเป็ น
้
เสือผ้ าที่ดพลิว
้
ู ้
46. จิตรกรรม
3.จิตรกรรม งานจิตกรรมในยุคแรกๆของกรี กส่วนใหญ่เป็ นงาน3.จิตรกรรมบนภาชนะของใช้ ต่างๆที่ทาจาก
ํ
เครื่องปั ้นดินเผา ชาวกรี กได้ พัฒนาลวดลายโบราณที่คล้ ายลาย
เรขาคณิตของเมโสโปเตเมีย ภาพที่นิยมวาดในตอนแรกมันเป็ นรูป
สัตว์ เป็ นส่ วนใหญ่ แต่ ต่อมาได้ มีการวาดคนลงไปด้ วย
ในระยะแรกนิยมใช้ สีแดงเป็ นพืนและวาดรูปด้ วยสีดา
้
ํ
เรี ยกว่ า แจกันลวดลายคนสีดา(Black Figure Vase)
ํ
47. จิตรกรรม(ต่ อ)
ต่ อมาในยุคคลาสสิกรูปวาดและสีพนจะสลับกัน มีช่ ือว่ า
ื้
แจกันลวดลายคนสีแดง (Red Figure Vase) รูปที่วาดเป็ น
เรื่องราวจากเทพปกรณัม(mythology)และมหากาพย์ โฮเมอร์ มี
รู ปเถาเครือไม้ ประกอบ นับเป็ นงานศิลปะที่ลาค่ า กลายเป็ น
ํ้
แม่ แบบของจิตรกรรมบนภาชนะที่นิยมในสมัยต่ อมา
48. จิตรกรรม(ต่ อ)
ในยุคเฮลเลนิสติกกรี กได้ พบเทคนิกใหม่ ในการวาดภาพ
ประดับฝาผนังขนาดใหญ่ โดยใช้ หนหรื อกระเบืองสีมาประดับ
ิ
้
เรี ยกว่ า โมเสก(mosaic) ซึ่งมีความคงทนถาวร ภาพโมเสกนี ้
ได้ รับความนิยมมาก และได้ ถ่ายทอดไปยังจักรวรรดิโรมันอีกด้ วย
49. นาฏกรรม
4. นาฏกรรม ควการละครของชาวกรี กเกี่ยวพันใกล้ ชดกับ
ิ
การบวงสรวงและเฉลิมฉลองให้ แก่ เทพเจ้ าไดโอนิซัส ซึ่งเป็ นเทพ
เจ้ าแห่ งความอุดมสมบูรณ์ ต่ อมาจึงพัฒนาเป็ นโศกนาฏกรรมและ
สุขนาฏกรรม
การแสดงนาฏกรรมของกรี กใช้ นักแสดงชายทังหมด โดย
้
ทุกคนจะสวมหน้ ากากและมีผ้ ูพากย์ และหมู่นักร้ อง เวทีการแสดง
เป็ นโรคละครกลางแจ้ งมีอัฒจันทร์ ล้อมรอบ
50. มรดกทางวัฒนธรรมของกรีก(ต่ อ)
5.วรรณกรรม งานประพันธ์ ของกรี กถือเป็ นมรดกทาง
วัฒนธรรมที่สาคัญ และถือว่ าเป็ นการเริ่มต้ นของวิชาปรัชญาและ
ํ
ประวัตศาสตร์ อีกด้ วย
ิ
งานวรรณกรรมที่ได้ รับการยกย่ องว่ าเป็ นแม่ แบบของ
วรรณกรรมคือ มหากาพย์ อเลียด และ โอดิสซีย์ ของมหากวีโฮ
ิ
เมอร์
6.คณิตศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ เด่ นของกรี ก ได้ แก่ ปิ ทา
โกรั สผู้คดค้ นทฤษฎีบทปิ ทาโกรั ส และยูคลิดผู้เขียนหนังสือชุดซึ่งมี
ิ
จํานวน 13 เล่ ม เนือหาส่ วนใหญ่ กล่ าวถึงเรขาคณิตและระนาบ
้
51. มรดกทางวัฒนธรรมของกรีก(ต่ อ)
7.ฟิ สิกส์ อาร์ คมีดส เป็ นผู้คดระหัดวิดนําแบบเกลียวรอก
ิ ี
ิ
้
ชุด ตังกฎของคานงัด และพบวิธีหาปริมาตรของวัตถุโดยการ
้
แทนที่นํา
้
8.การแพทย์ ฮิปโปคราตีส ได้ รับการยกย่ องเป็ น “บิดาแห่ ง
การแพทย์ ” มีความเชื่อว่ าโรคทุกโรคเกิดจากธรรมชาติ ไม่ ใช่ พระ
เจ้ าลงโทษ เป็ นคนแรกที่ตดชินส่ วนของมนุษย์ เพื่อศึกษา และ
ั ้
พบว่ าสมองเป็ นศูนย์ กลางของระบบประสาท ได้ รับการยกย่ องเป็ น
“บิดาแห่ งกายวิภาคศาสตร์ ”
52. มรดกทางวัฒนธรรมของกรีก(ต่ อ)
9.ภูมิศาสตร์ เอราทอสทินีส เป็ นนักดาราศาสตร์ และนัก
ภูมิศาสตร์ สามารถคํานวณเส้ นรอบโลกได้
10.ประวัตศาสตร์ เฮโรโดตัส เดินทางไปยังดินแดนต่ างๆ
ิ
แล้ วเขียนหนังสือชื่อ ประวัตศาสตร์ กล่ าวถึงขนบทําเนียม
ิ
ประเพณี ตํานาน และประวัตศาสตร์ ของโลกสมัยโบราณ
ิ
ส่ วนท้ ายของหนังสือกล่ าวถึงความขัดแย้ งระหว่ างกรีกและเปอร์ เซีย
53. มรดกทางวัฒนธรรมของกรีก(ต่ อ)
ศิลปวัฒนธรรมกรี กได้ กลายเป็ นมรดกที่สาคัญที่ชาวกรีก
ํ
มอบให้ กับโลกตะวันตก โดยมีชาวโรมันเป็ นสื่อกลางในการ
ถ่ ายทอด แม้ ในปั จจุบันโลกทัศน์ ของชาวตะวันตกจะเปลี่ยนไปมาก
แต่ ความคิดสร้ างสรรค์ ต่างๆของชาวกรี กยังคงได้ รับการยกย่ อง
อย่ างสูงและเป็ นแม่ แบบของความเจริญและอารยธรรมตะวันตก
อย่ างแท้ จริง
54. บรรณานุกรรม
• หนังสือเรี ยนประวัติศาสตร์ ม.4-6 หน้ า86-95
• http://writer.dek-d.com/abjmpsocial/story/viewlongc.php?id=773121&chapter=19
• http://panupong088.wordpress.com/2012/12/06/%E0%B8%AD%E0
%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B
8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%
81/
• http://202.143.144.83/~skb/computor/ganjana/west_old_greek2.ht
m
• http://writer.dekd.com/history612/story/viewlongc.php?id=479463&chapter=10
• http://www.youtube.com/watch?v=-smCOHEw6y8
• http://doricorder.blogspot.com/2011/10/blog-post.html