Contenu connexe
Similaire à Taxonomy (20)
Taxonomy
- 16. • ไดโคโตมัสคีย์ เป็นเครื่องมือที่ใช้จัดจาแนกสิ่งมีชีวิตออกเป็นกลุ่มย่อย โดยพิจารณาโครงสร้างที่แตกต่างกันเป็นคู่ๆ ทีละลักษณะ ซึ่งทาให้การพิจารณาง่ายขึ้น
• สิ่งมีชีวิตแต่ละกลุ่มจะมีไดโคโตมัสคีย์ที่ใช้แยกกลุ่มย่อยของสิ่งมีชีวิตนั้นๆ
เกณฑ์ในการจัดจาแนกสิ่งมีชีวิต
1. ก. มีขน.........................................................................................................................ดูข้อ 2.
ข. ไม่มีขน..................................................................................................................ดูข้อ 3.
2. ก. ขนเป็นเส้น.............................................................................สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
ข. ขนเป็นแผงแบบขนนก..............................................................................สัตว์ปีก
3. ก. มีครีบคู่ มีช่องเหงือก...............................................................สัตว์น้ำพวกปลำ
ข. ไม่มีครีบคู่............................................................................................................ดูข้อ 4.
4. ก. ผิวหนังมีเกล็ด.................................................................................สัตว์เลื้อยคลำน
ข. ผิวหนังไม่มีเกล็ด.....................................................สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก
- 17. สปีชีส์ (Species)
จีนัส (Genus)
แฟมิลี (Family)
ออร์เดอร์ (Order)
คลาส (Class)
ไฟลัม (Phylum) หรือดิวิชัน (Division)
อาณาจักร (Kingdom)
คาโรลัส ลินเนียส นักธรรมชาติวิทยาชาวสวีเดน ได้ริเริ่มการจัดจาแนกสิ่งมีชีวิต โดยการคัดเลือกประเภทที่มีความใกล้เคียงกันไว้ด้วยกัน ซึ่งจะเริ่มจาก
ขอบเขตที่กว้าง แล้วค่อยๆ แคบลง
ลาดับในการจัดจาแนกสิ่งมีชีวิต
- 18. ชื่อสามัญ
• ชื่อที่เรียกกันทั่วไป ตามลักษณะหรือรูปร่างของสิ่งมีชีวิตชนิดนั้น ตัวอย่างเช่น ดาวทะเล ว่านหางจระเข้ ทากบก เป็นต้น
ชื่อวิทยาศาสตร์
• ชื่อที่กาหนดขึ้นตามหลักสากลและเป็นที่ยอมรับกันในกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ ซึ่ง
คาโรลัส ลินเนียส เป็นผู้ริเริ่มการใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ โดยกาหนดให้สิ่งมีชีวิตทุกชนิดประกอบด้วยชื่อ 2 ชื่อ โดยชื่อหน้า คือ ชื่อสกุล และชื่อหลัง คือ คาระบุชนิด
• การเรียกชื่อดังกล่าวเรียกว่า การตั้งชื่อแบบทวินาม
ชื่อของสิ่งมีชีวิต
- 19. มะม่วงหิมพานต์ ชื่อวิทยาศาสตร์:
Anacardium occidentale L.
ข้าว ชื่อวิทยาศาสตร์: Oryza sativa L.
หลักเกณฑ์การตั้งชื่อแบบทวินาม
• อักษรตัวแรกของชื่อสกุลต้องเป็นภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ ตัวอักษรที่เหลือเป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมด
• การเขียนจะต้องแตกต่างจากอักษรตัวอื่น โดยการเขียนตัวเอน ตัวหนา หรือขีดเส้นใต้ อย่างใดอย่างหนึ่ง
- 21. อาริสโตเติล
จัดจาแนกสิ่งมีชีวิต ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่
1. กลุ่มพืช ใช้อายุและความสูงเป็นเกณฑ์ แบ่งออกเป็น3กลุ่ม คือไม้
ยืนต้น
ไม้พุ่ม และไม้ล้มลุก
2. กลุ่มสัตว์ ใช้สีของเลือดเป็นเกณฑ์ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่มีเลือดสีแดง และกลุ่มที่ไม่มีเลือดสีแดง
แนวคิดการจัดจาแนกสิ่งมีชีวิต
- 22. เอิร์นสต์ แฮคเกล
จัดจาแนกสิ่งมีชีวิต เป็น 3 อาณาจักร
1. อาณาจักรพืช คือ พวกที่สามารถสร้างอาหารเองได้ และเคลื่อนที่ด้วย
ตัวเองไม่ได้
2. อาณาจักรสัตว์ คือ พวกที่ไม่สามารถสร้างอาหารเองได้ และเคลื่อนที่
ด้วยตัวเองได้
3. อาณาจักรโพรทิสตา คือ พวกที่ก้ากึ่งระหว่างพืชและสัตว์ มีโครงสร้าง
ไม่ซับซ้อนนัก เช่น ยูกลีนา พารามีเซียม เป็นต้น
- 23. เฮอร์เบิร์ต โคปแลนด์
จัดจาแนกสิ่งมีชีวิต เป็น 4 อาณาจักร
1. อาณาจักรมอเนอรา คือ สิ่งมีชีวิตที่มีเซลล์แบบโพรแคริโอต (ไม่มีเยื่อ
หุ้มนิวเคลียส) ได้แก่ แบคทีเรีย และสาหร่ายสีเขียวแกมน้าเงิน
2. อาณาจักรโพรทิสตา คือ สิ่งมีชีวิตที่มีเซลล์แบบยูแคริโอต (มีเยื่อหุ้ม
นิวเคลียส) แต่เซลล์ยังไม่รวมกลุ่มกันเป็นเนื้อเยื่อและอวัยวะ ได้แก่ โพรโตซัว รา
สาหร่าย และราเมือก
3. อาณาจักรพืช คือ สิ่งมีชีวิตที่มีเซลล์แบบยูแคริโอต ซึ่งมีเซลล์หลาย
เซลล์ทางานร่วมกันเป็นระบบเกิดเป็นเนื้อเยื่อและอวัยวะ และสามารถสังเคราะห์ด้วยแสง
ได้
4. อาณาจักรสัตว์ คือ สิ่งมีชีวิตที่มีเซลล์แบบยูแคริโอต ไม่สามารถสังเคราะห์ด้วยแสงได้ จึงต้องได้รับอาหารจากสิ่งมีชีวิตอื่น
- 24. รอเบิร์ต วิตเทเกอร์
จัดจาแนกสิ่งมีชีวิต เป็น 5 อาณาจักร ซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
1. อาณาจักรมอเนอรา คล้ายกับแนวคิดของโคปแลนด์
2. อาณาจักรโพรทิสตา คือ กลุ่มสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะแตกต่างกันมาก
และมีลักษณะก้ากึ่งระหว่าพืชและสัตว์
3. อาณาจักรฟังไจ คือ กลุ่มสิ่งมีชีวิตที่ ไม่สามารถสร้างอาหารเองได้
ได้รับอาหารจากการดูดซึมจากภายนอก โดยการปล่อยเอนไซม์ไปย่อยอาหารภายนอก
เซลล์
4. อาณาจักรพืช คือ กลุ่มสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ายกับแนวคิดของโคปแลนด์
5. อาณาจักรสัตว์ คือ กลุ่มสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ายกับแนวคิดของโคปแลนด์
- 26. อาณาจักรมอเนอรา (Kingdom Monera)
- เป็นสิ่งมีชีวิตจาพวกที่นิวเคลียสไม่มีผนัง
ห่อหุ้ม (prokaryotic nucleus)
ภายในเซลล์ไม่แสดงขอบเขตของ
นิวเคลียสชัดเจน
- เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว หรือต่อกันเป็น
สาย
- 28. อาร์เคียแบคทีเรีย ผนังเซลล์ไม่มี เพปทิโดไกลแคน ดารงชีวิตในแหล่ง
น้าพุร้อน ทะเลที่มีน้าเค็มจัด บริเวณที่มีความเป็นกรดสูง และบริเวณทะเล
ลึก แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มยูริอาร์เคียโอตา (Euryarchaeota) ซึ่งสร้างมีเทนและชอบความเค็ม
จัด
2. กลุ่มครีนาร์เคียโอตา (Crenarchaeota) ซึ่งชอบอุณหภูมิสูงและกรดจัด
อาณาจักรย่อยอาร์เคียแบคทีเรีย
(Subkingdom Archaebacteria)
- 36. Lactobacillus sp. เป็นพวกผลิตกรดแลกติก ได้ เช่นจึงนามาใช้ใน
อุตสาหกรรมอาหาร ได้แก่ การทาเนย ผักดองและโยเกิร์ต
ไมโคพลาสมา (mycoplasma) เป็นเซลล์ที่ไม่มีผนังเซลล์มีเพียง เยื่อหุ้มเซลล์
ที่ประกอบด้วยชั้นของไขมัน ส่วนใหญ่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอื่น
แต่มีบางพวกทาให้เกิดโรคปอดบวมในคนและวัว
- 38. กลุ่มไซยาโนแบคทีเรีย (Cyanobacteria)
สังเคราะห์แสงได้ มี คลอโรฟิลล์ เอ แคโรทีนอยด์ และไฟโคบิลิน
นักวิทยาศาสตร์คาดว่า เป็นพวกทาให้ออกซิเจนในบรรยากาศเพิ่มมากขึ้นก่อให้เกิด
วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตที่หายใจโดยใช้ออกซิเจนในปัจจุบัน
แอนาบีนา (Anabaena) นอสตอก
(Nostoc) และออสิลลาทอเรีย
(Oscillatoria) สามารถตรึงแก๊สไนโต
เจนในอากาศ ให้เป็นสารประกอบไน
เตรต
- 41. - สาหร่ายเกลียวทองเป็นสาหร่ายที่มีโปรตีนสูงถึงร้อยละ 60-70 เมื่อ
เปรียบเทียบกับพืชชนิดอื่นๆ เช่น ถั่วเหลือง และยังพบว่าโปรตีน
ของสาหร่ายเกลียวทองมีปริมาณสูงกว่าเนื้อสัตว์
- มีวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินบี 1,2,3 และ 12 วิตามินซี
วิตามินอี และเบตาแคโรทีน และยังประกอบไปด้วยกรดแกมมาลิ
โนเลนิก (GLA) แหล่งของโอเมกา 3 (Omega 3)
- 43. อาณาจักรโพรติสตา ( Kingdom Potista )
ลักษณะของสิ่งมีชีวิต
- เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวหรือหลายเซลล์
- บางชนิดมีคลอโรพลาสต์เหมือนพืช
- บางชนิดมีแฟลเจลลัม บางชนิดมีซีเลีย เป็นโครงสร้างในการเคลื่อนที่
- เป็นยูคาริโอตกลุ่มแรกที่มีวิวัฒนาการมาจากเซลล์โพคาริโอต
- พวกเซลล์เดียวมีขนาดเล็ก พวกหลายเซลล์มีขนาดใหญ่แต่ยังไม่พัฒนาเป็นเนื้อเยื่อ
- การดารงชีวิต มีการดารงชีวิตแบบอิสระ พึ่งพา หรือ ปรสิต
- 44. อาณาจักรโพรติสตา ( Kingdom Potista )
ไฟลัมดิโพลโมนาดิดา ( Diplomonadida )
- เป็นกลุ่มโพติสที่เป็นเซลล์ยูคาริโอตที่ยังไม่มีออรืแกเนลล์ที่มีเยื่อหุ้ม
- มีนิวเคลียส 2 อัน
- มีแฟลเจลลาหลายเส้น
Ex. Giardia lamblia ปรสิตในลาไส้คน
- 45. อาณาจักรโพรติสตา ( Kingdom Potista )
ไฟลัมพาราบาซาลิด ( Parabasalid )
เป็นโพรทิสต์ที่มีแฟลเจลลาเป็นคู่และผิวเยื่อหุ้ม ลักษณะเป็นรอยหยักคล้าย
คลื่น เช่น
- ไตรโคนิมฟา (trichonympha) ที่อาศัยอยู่ในลาไส้ปลวก
จะดารงชีวิตแบบภาวะพึ่งพา โดยสร้างเอนไซม์ย่อยเซลลูโลสในไม้ให้กับปลวก
- ไตรโคโมแนส (trichomonas) เป็นโพรทิสต์ที่ทาให้เกิดอาการติดเชื้อในช่องคลอด
- 46. อาณาจักรโพรติสตา ( Kingdom Potista )
ไฟลัมยูกลีโนซัว (Euglenozoa)
เป็นโพรทิสต์กลุ่มที่เคลื่อนที่โดยใช้แฟลเจลลาและขณะเคลื่อนที่รูปร่างจะไม่
คงที่ มีเซลล์เดียว ไม่มีผนังเซลล์ บางชนิดมีรงควัตถุพวกคลอโรฟิลล์จึงสามารถ
สร้างอาหารเองได้โดยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง พบดารงชีวิตในแหล่งน้าจืดเป็น
ส่วนใหญ่โดยเฉพาะบริเวณที่มีอินทรียสารมาก จึงเป็นสาเหตุทาให้เกิด
water bloom เช่นเดียวกับพวกสาหร่ายสีเขียว มีการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ
- 47. อาณาจักรโพรติสตา ( Kingdom Potista )
ไฟลัมยูกลีโนซัว ( Euglenozoa )
Ex. ยูกลีนา ( Euglena ) เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่มีสารสีแคโรทีน และ
คลอโรฟิลล์ มีอายสปอต ในการตอบสนองต่อแสง
ทริปพาโนโซม ( Trypanosoma ) โพรติสต์ที่ดารงชีวิตเป็นปรสิตในเลือดสัตว์
ของสัตว์มีกระดูกสันหลัง ทาให้เกิดโรคเหงาหลับ
- 48. อาณาจักรโพรติสตา ( Kingdom Potista )
ไฟลัมแอลวีโอลาตา ( Alveolata )
- โพรติสต์เซลล์เดียว ที่มีช่องว่างใต้เยื่อหุ้มเซลล์ เรียก “ แอลวีโอไล ”
ไดโนฟลเจลเลต
เป็นโพรติสต์เซลล์เดียวที่มีสารแคโรทีน และคลอโรพลาสติด มีแฟลเจลัม 2
เส้น มีการสะสมสารพิษในตัว เมื่อน้าทะเลมีสารอินทรีย์จากมลภาวะซึ่งเป็นอาหารของ
มัน จะมีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ ( Red tide )
- 49. อาณาจักรโพรติสตา ( Kingdom Potista )
ไฟลัมแอลวีโอลาตา ( Alveolata )
เอพลิคอมเพลซา
1. เป็นโพรทิสต์ที่มีขนาดเล็ก ส่วนใหญ่ดารงชีวิตเป็นปรสิต
2. ไม่มีโครงสร้างในการเคลื่อนที่ ยกเว้นในเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้
3. มีโครงสร้างสาหรับแทงผ่านเซลล์โฮสต์
Ex. พลาสโมเดียม (Plasmodium)
ทาให้เกิดโรคมาลาเรียในคนและสัตว์อื่นๆ
โดยมียุงก้นปล่องเป็นพาหะ
- 50. อาณาจักรโพรติสตา ( Kingdom Potista )
ไฟลัมแอลวีโอลาตา ( Alveolata )
ซิลิเอต(Ciliates) จัดเป็นกลุ่มที่มีความหลากหลายของสปีชีส์มากที่สุด มีลักษณะดังนี้
1. เป็นโพรทิสต์ที่ใช้ซิเลียในการเคลื่อนที่
2. อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีน้าหรือความชื้นสูง
Ex. ตัวอย่างของโพรทิสต์กลุ่มซิลิเอต ได้แก่
พารามีเซียม (Paramecium)
วอร์ติเซลลา (Voticella)
- 51. อาณาจักรโพรติสฟตา ( Kingdom Potista )
ไฟลัมสตรามีโนพิลา ( Stramenopila )
เป็นโพรทิสต์ที่ส่วนใหญ่สร้างอาหารโดยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง เรียกกัน
ทั่วไปว่า สาหร่ายหรือแอลจี (Algae)
Ex. สาหร่ายสีน้าตาล (brown algae) สาหร่ายเคลป์ (kelp) สาหร่ายทุ่น ซากัส
ซัม (Sargassum sp.)
- มีรงควัตถุสีน้าตาลที่เรียกว่าฟิวโคแซนทินมากกว่าแคโรทีนและคลอโรฟิลล์
- อาศัยอยู่ในทะเลมักอยู่ในกระแสน้าเย็น
- มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ เช่น สาหร่ายทุ่นหรือซากัสซัมเป็น
สาหร่ายที่มีไอโอดีนสูง
- 52. อาณาจักรโพรติสตา ( Kingdom Potista )
ไฟลัมสตรามีโนพิลา ( Stramenopila )
ไดอะตอม ( Diatom ) เป็นสาหร่ายที่พบมากที่สุดในกลุ่มนี้ที่สารวจพบแล้ว
มี 5,000 ชนิด
- เซลล์ประกอบด้วยฝา 2 ฝาครอบกันสนิท ผนังเซลล์ประกอบด้วยซิลิกา
แข็งแรงและคงรูป ไม่สลายตัวได้ง่าย
- ซากของไดอะตอมที่ตายทับถมกันนาน ๆ จะกลายเป็นส่วนของพื้นดินใต้แหล่งน้าที่
เรียกว่า ไดอะตอมเอเชียเอิร์ท (diatomaceous earth)
- มีปริมาณมากทั้งในแหล่งน้าจืดและแหล่งน้าเค็ม
- 53. อาณาจักรโพรติสตา ( Kingdom Potista )
ไฟลัมโรโดไฟตา ( Rhodophyta )
เรียกโพรทิสต์กลุ่มนี้ว่า สาหร่ายสีแดง (red algae) ซึ่งมีอยู่ประมาณ
3,900 สปีชีส์ ได้แก่ จีฉ่ายหรือพอร์ไฟรา (Porphyra sp.) สาหร่าย
ผมนางหรือกราซิลาเรีย (Gracilarai sp.)
- มีคลอโรฟิลล์เอและดี แคโรทีน แซนโทฟิลล์ และ ไฟโคอิริทริน
(phycoerythrin)
- ผนังเซลล์เป็นสารเซลลูโลส พอลิแซคคาไรด์ที่เป็นเมือกบางชนิดมีแคลเซียม
ด้วย เรียกว่า คาร์แรกจีแนน (carrageenan) สามารถนามาผลิตเป็นวุ้น
- 54. อาณาจักรโพรติสตา ( Kingdom Potista )
ไฟลัมคลอโรไฟตา (Phylum Chlorophyta)
ได้แก่สาหร่ายสีเขียว ( green algae) มีทั้วหมดประมาณ 17,500 สปีชีส์
พบอยู่ในน้าจืดมากกว่าในน้าเค็ม พบในดินที่เปียกชื้น แม่น้าลาคลอง ทะเลสาบ และ
ในทะเล แหล่งที่พบ พบทั่วไปตามน้าจืด และในทะเล เช่น อะเซตาบูลาเรีย (มีมาก
เกิดปรากฎการณ์ เรียกว่า วอเตอร์บลูม
Ex. คลอเรลลา (chlorella sp.)
- 55. อาณาจักรโพรติสตา ( Kingdom Potista )
ไฟลัมมิกโซไมโคไฟตา (Phylum Myxomycophyta)
- เป็นโปรตีสต์ที่มีช่วงชีวิตที่มีลักษณะคล้ายสัตว์และช่วงชีวิตที่มีลักษณะคล้ายพืช
- แหล่งที่พบ ส่วนใหญ่พบในทะเล
Ex. ราเมือก (Slime mold)
- 57. Kingdom Fungi
ลักษณะสาคัญ
- Eukaryotic cell มีผนังเซลล์เป็นสาร chitin
- Heterotrophs ( ไม่มี Chloroplast )
รับสารอาหารโดยวิธี absorption
- unicellular / multicellular organisms
( no tissue ) ต่อกันเป็นสายยาวเรียกว่า Hypha
- 58. * เส้นใยมีผนังกั้น (Septate hypha)
* ส้นใยไม่มีผนังกั้น (non-septate hypha)
กลุ่มของเส้นใย เรียกว่า (mycelium)
ซึ่งบางครั้งจะรวมกันเป็นรูปร่างเฉพาะ เรียกว่า
Fruiting body
- 61. ชนิดของ Hypha แบ่งตามหน้าที่
1.Haustoria แทงเข้าไปในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตและดูด cytoplasm
มาใช้ ประโยชน์
2.Rhizoid ยึดเกาะและดูดซึมสารอาหารที่ย่อยแล้วเข้าสู่เซลล์
3.Stolon ทอดขนานไปบนผิว
4.Sporangiophore ชูตั้งฉากกับพื้นผิวทาหน้าที่สร้างอับสปอร์
- 62. โทษ - ก่อโรคในมนุษย์ เช่น กลากเกลื้อน
ประโยชน์ อาหาร ( เห็ดชนิดต่าง ๆ )
อยู่ร่วมกับรากของพืชแบบ
พึ่งพาอาศัย เช่น ราไมคอไรซา
- วงชีวิตส่วนใหญ่ - haploid(n)
- ผนังเซลล์ ประกอบด้วยสารประกอบพวก chitin
- 67. 1. Phylum Chytridiomycota
2. Phylum Zygomycota
3. Phylum Ascomycota
4. Phylum Basidiomycota
** กลุ่ม Deuteromycetes **
Classification of fungi
- 74. zygospores (n)
สร้างสปอร์ผนังหนา เรียก ไซโกตสปอร์ (Zygospore)
โดยวิธี conjugation
Conjugation tube (suspensor)
รา 2 strain
fusion ของนิวเคลียส
zygote (2n)
Zygosporangium
(2n)
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
Meiosis
- 78. 3. Phylum Ascomycota (sac fungi)
- การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
สร้าง ascospore ภายในถุง ascus
(พหูพจน์; asci)
- การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ
* สร้าง conidia (สปอร์ที่ไม่มีอับสปอร์หุ้ม)
* แตกหน่อ (budding)
เส้นใยมีผนังกั้น (septate hyphae)
- 83. 4. Phylum Basidiomycota
ระยะที่ 1 แต่ละเซลล์มีจานวน
โครโมโซม 1 ชุด
ระยะที่ 2 แต่ละเซลล์มี
2 นิวเคลียส เรียก dikaryon
ระยะที่ 3 mycelium มารวม
เป็นเนื้อเยื่อ -> ดอกเห็ด
เส้นใยมีผนังกั้น --> 3 ระยะคือ
- 101. รา + สาหร่าย :
แบบพึ่งพาอาศัย มี 3 แบบ :
1. ครัสโตสไลเคนส์ (Crustose Lichen)
2. โฟลิโอสไลเคนส์ (Foliose Lichen)
3. ฟรูติโคสไลเคนส์ (Fruticose Lichen)
ไลเคนส์ (Lichen)
- 108. 1. Division Bryophyta มอส
ลักษณะสาคัญ : ไม่มีราก มีแต่ส่วน
คล้ายราก เรียกว่า ไรซอยด์ ไม่มีลา
ต้นที่แท้จริงสืบพันธุ์โดยการสร้างสปอร์
- 115. 2. Division Psilophyta หวายทะนอย
ลักษณะสาคัญ : เป็นพืชโบราณ มี
ลาต้นเป็นเหลี่ยมสีเขียว ไม่มีรากแต่
มี ไรซอยด์ และใบเป็นเกล็ด แตก
กิ่งออกเป็นคู่
- 117. ลักษณะสาคัญ : เป็นพืชขนาดเล็ก มี
รากลาต้นใบที่แท้จริง ใบที่ปลายยอด
กิ่งเรียงอัดแน่น เรียกว่า สตรอบีลัส
(Strobilus) ทาหน้าที่สร้างสปอร์
3. Division Lycophyta พวกสร้อยสุกรม
- 139. พืชใบเลี้ยงคู่
มีใบเลี้ยง 2 ใบ เส้นใบเป็นร่างแห ท่อลาเลียงน้า
และอาหารภายในลาต้นเรียงตัวเป็นระเบียบดอกมักมี
กลีบดอกจานวน 4 หรือ 5 กลีบ หรือทวีคูณของ 5
เช่น มะม่วง หูกวาง จามจุรี หางนกยูง กะเพรา
พริก บัว สาหร่ายหางกระรอก
- 144. สิ่งมีชีวิตที่จัดอยู่ในอาณาจักรมีมากกว่า 1.7 ล้านสปีชีส์ ในจานวน
นี้เป็นแมลงประมาณ 6 แสนชนิด สัตว์ถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสาคัญต่อ
ระบบนิเวศในแง่ของผู้บริโภค ซึ่งเป็นผลทาให้มีการถ่ายทอดพลังงานไปยัง
ผู้บริโภคระดับต่างๆ นอกจากนี้สัตว์ยังเป็นตัวทาให้เกิดแก๊ส
คาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งมีความสาคัญในการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช และ
ก่อให้เกิดความสมดุลในธรรมชาติ
สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ ไม่มีคลอโรฟิลล์จึงไม่สามารถสร้าง
อาหารได้เอง และมีระยะตัวอ่อน (EMBRYO) สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรสัตว์แบ่ง
ออกเป็นไฟลัมต่างๆดังนี้
- 145. ไฟลัมพอริเฟอรา(PHYLUM PORIFERA)
สัตว์ที่ลาตัวเป็นรูพรุน ได้แก่ ฟองน้า
ลักษณะสาคัญของสัตว์ใน Phylum Porifera
- เป็นสัตว์ที่มีวิวัฒนาการต่าสุด และ ไม่มีเนื้อเยื่อแท้จริง (Parazoa)
- ตัวเต็มวัยเกาะกับที่ จึงไม่มี nervous system และ sense organ
- มีทั้งอาศัยในน้าจืดและน้าเค็ม
- มีสีสดใส (แดง ส้ม เหลือง ม่วง) เกิดจากรงควัตถุที่อยู่ในเซลล์ผิว
- ฟองน้าที่มีรูปร่างซับซ้อนน้อยที่สุดจะมีสมมาตรรัศมี แต่ฟองน้าส่วนใหญ่ไม่มีสมมาตร
- จะสร้าง Gemmule (แตกหน่อ)เวลาสภาวะแวดล้อมไม่เหมาะสม
- มีโครงร่างแข็งค้าจุน (Spicule ที่เป็นหินหรือแก้ว , Spongin ที่เป็นเส้นใย
โปรตีน)
- 147. ไฟลัมซีเลนเทอราตา(PHYLUM COELENTERATA)
ได้แก่ แมงกะพรุน ดอกไม้ทะเล ปะการัง กัลปังหา และไฮดรา
ลักษณะสาคัญของสัตว์ใน Phylum Coelenterata
- ร่างกายประกอบด้วย เนื้อเยื่อ 2 ชั้นคือ Epidermis เเละ Gastrodermis
- ระหว่างชั้นเนื้อเยื่อมีสารคล้ายวุ้นเรียกว่า Mesoglea เเทรกอยู่
- ลาตัวกลวงลักษณะเป็นถุงตันมีช่องเปิดช่องเดียวเรียกว่า gastrovascula cavity ทา
หน้าที่เป็นทางเดินอาหารอาหารเข้าเเละกากอาหารออกทางช่องเปิดเดียวกัน
- มีหนวดอยู่รอบปากเรียกว่า เทนทาเคิล ( tentacle )ใช้สาหรับจับเหยื่อ
- ที่หนวดมีเซลล์สาหรับต่อยเรียกว่า cnidocyte เเละมีเข็มสาหรับต่อยเรียกว่า
nematocyst
- มีวงจรชีพสลับ
- สืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ โดยการแตกหน่อ
- มี 2 เพศในตัวเดียวกัน
- 149. ไฟลัมแพลทิเฮลมินทิส(PHYLUM PLATYHELMINTHES)
ได้แก่ พยาธิใบไม้ พยาธิตัวตืด และพลานาเรีย
ลักษณะสาคัญของสัตว์ใน Phylum Platyhelminthes
- มีสมมาตรเป็นแบบครึ่งซีก (Bilateral symmetry)
- ไม่มีช่องว่างในลาตัว (Acoelomate animal) เนื่องจากเนื้อเยื่อชั้นกลางมีเนื้อเยื่อหยุ่นๆบรรจุอยู่
เต็มไปหมด
- ไม่มีระบบหมุนเวียนโลหิต ไม่มีเส้นเลือด ไม่มีหัวใจ สารอาหารไปเลี้ยงเซลล์โดยการแพร่จาก
ทางเดินอาหารเข้าสู่เซลล์โดยตรง
- มีระบบทางเดินอาหารเป็นแบบไม่สมบูรณ์มีปากแต่ไม่มีทวารหนัก และในพวกพยาธิตัวตืดไม่มี
ทางเดินอาหาร
- มีระบบประสาทอยู่ทางด้านหน้าและแตกแขนงออกไปทางด้านข้างของลาตัว
- มีทั้งสองเพศในตัวเดียวกัน สามารถผสมพันธุ์ได้ภายในตัวเอง (Self fertilization) และผสม
พันธุ์ข้ามตัว (Cross fretilization)
- 151. ไฟลัมนีมาโทดา(PHYLUM NEMATOD)
ได้แก่ พยาธิตัวกลมต่างๆ เช่น พยาธิไส้เดือน ไส้เดือนฝอย และหนอนในน้าส้มสายชู
ลักษณะสาคัญของสัตว์ใน Phylum Nemetoda
- ลาตัวกลมยาวหัวท้ายเเหลม ไม่มีรยางค์
- มีเปลือกเป็นคิวติเคิลหนาปกคลุม
- สมมาตรครึ่งซีก
- มีทางเดินอาหารสมบูรณ์ มีทั้งปากเเละทวารหนัก
- ร่างกายมีเนื้อเยื่อ 3 ชั้น
- มีช่องลาตัวเทียม ( pseudocoelom )อยู่ระหว่างมีโซเดิร์มเเละเอนโดเดิร์มซึ่งมีของเหลว
บรรจุอยู่เต็ม
- ระบบประสาท เป็นวงเเหวนรอบคอ ต่อกับเส้นประสาทที่ยาวตลอดลาตัว
- ไม่มีระบบไหลเวียนเลือดเเละระบบหายใจ
- การสืบพันธุ์เเบบอาศัยเพศ มีตัวผู้ตัวเมียคนละตัวกัน ไข่มีสารไคตินหุ้มจึงทนทานต่อสภาพ
เเวดล้อมได้ดี
- 153. ไฟลัมแอนนิลิดา (PHYLUM ANNILIDA)
ได้แก่ ไส้เดือนดิน แม่เพรียง ทากดูดเลือด และปลิงน้าจืด
ลักษณะสาคัญของสัตว์ใน Phylum Annilida
- มีลาตัวกลมยาวเป็นปล้องๆ มองเห็นภายนอกเป็นวงเเละภายในมีเนื้อเยื่อกั้นระหว่าง
ปล้องเรียกว่า เซปตา ( septa )
- เเต่ละปล้องมีอวัยวะ คือ เดือย ( saeta ) 4 คู่ เนฟริเดีย ( อวัยวะขับถ่าย )1 คู่
เส้นประสาท 3 คู่ ทางเดินอาหารเเละช่องลาตัวส่วนหนึ่ง ยกเว้นปล้อง
- ที่มีหัวที่ซึ่งมีอวัยวะสาคัญ ( สมอง คอหอย หัวใจ )
- ร่างกายมีสมมาตรครึ่งซีก
- มีเนื้อเยื่อ 3 ชั้น
- มีช่องลาตัวเเท้จริง ( coelom ) ซึ่งเป็นช่องลาตัวในเนื้อเยื่อมีโซเดิร์ม
- ระบบประสาทประกอบด้วย ปมสมองที่หัว 1 คู่ และ เส้นประสาทใหญ่ด้านท้อง
- 155. ไฟลัมอาร์โทรโปดา (PHYLUM ARTHROPODA)
ได้แก่ กุ้ง กั้ง ปู แมลง เห็บ ไร ตะขาบ กิ้งกือ แมงมุม แมงดาทะเล
ลักษณะสาคัญของสัตว์ใน Phylum Arthropoda
- มีลาตัวเป็นปล้องและมีรยางค์เป็นข้อๆต่อกัน (jointed appendage) ยื่นออกมาจากแต่ละปล้อง
ของลาตัว
- มีจานวนชนิดมากที่สุดในอาณาจักรสัตว์ ประมาณว่ามีถึงกว่า 9 แสนชนิดที่มนุษย์เราได้ค้นพบ
- สามารถอาศัยอยู่ได้ในแทบทุกสภาพภูมิประเทศบนโลก นับว่าประสบความสาเร็จในการดารงชีวิต
บนโลกเป็นอย่างมาก เห็นได้จากการที่เราพบสัตว์เหล่านี้ได้แทบทุกหนทุกแห่ง ทุกฤดูกาล และพบเป็น
จานวนมาก
- มีโครงสร้างของร่างกายที่แข็งแรง
- มีระบบประสาทที่เจริญดี มีอวัยวะรับความรู้สึกหลายชนิด
- มีการแบ่งสัดส่วนของร่างกายเป็นข้อปล้องชัดเจน 3ส่วน คือ หัว(Head) , อก(Thorax) และ
ท้อง(Abdomen)
- ระบบหมุนเวียนเป็นระบบเปิด ประกอบไปด้วยหัวใจ เลือด และแอ่งเลือด (Hemocoel)
- 157. ไฟลัมมอลลัสกา(PHYLUM MOLLUSCA)
สัตว์ที่มีลาตัวอ่อนนุ่ม ได้แก่ หมึกและหอยชนิดต่างๆ
ลักษณะสาคัญของสัตว์ใน Phylum Mollusca
- ร่างกายจะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่
1. head and foot
2. visceral mass
3. mantle, palium เกิด mantle cavity มีเหงือกภายใน
- สัตว์ในไฟลัมนี้มีลาตัวอ่อนนุ่ม บางชนิดอาจมีเปลือกแข็งหุ้มลาตัวเป็น CaCO3
- แยกเพศผู้-เมีย
- ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในน้าทั้งน้าจืดและน้าทะเล มีอาศัยอยู่บนบกบ้าง
- อวัยวะในการแลกเปลี่ยนแก๊สประกอบด้วย
1. เหงือก (gill) อยู่ภายในช่องแมนเติล พบในมอลลัสทั่วไป
2. ผิวตัว ในทากทะเล (sea slug, nudibranch) ผิวตัวจะเปลี่ยนรูปไปเป็นแขนงอยู่บนลาตัว เรียกว่า เซอรา
ตา (cerata) หรือบางชนิดมีอยู่รอบทวารหนัก (anal gill)
3. ช่องแมนเติลหรือปอด หอยฝาเดียวที่ขึ้นมาอยู่บนบกจะมีช่องแมนเติลที่มีผนังยื่นลงมากั้นเป็นห้อง มีของเหลว
หล่อเลี้ยงในช่องนี้ทาให้สามารถแลกเปลี่ยนแก๊สได้
- 159. ไฟลัมเอไคโนเดอร์มาตา (PHYLUM ECHINODERMATA)
สัตว์ที่ผิวหนังมีหนามขุรขระ ได้แก่ ดาวทะเล เม่นทะเล เหรียญทะเล ปลิงทะเล ดาวเปราะ
ลักษณะสาคัญของสัตว์ใน Phylum Echinoderm
- สมมาตรร่างกาย ตัวอ่อนเป็นเเบบครึ่งซีก ตัวเต็มวัยมีเมเเทมอร์โฟซิสกลายเป็นสมมาตร
เเบบรัศมี
- ลาตัวเเบ่งเป็น 5 ส่วนหรือ ทวีคูณของ 5 ยื่นออกมาจากเเผ่นกลมที่เป็นศูนย์กลาง
- มีโครงร่างเเข็งภายใน มีเเผ่นหินปูนเล็กๆ ที่ยึดติดกันด้วยกล้ามเนื้อหรือผิวหนังที่ปกคลุม
อยู่บางชนิด
- มีเส้นประสาทเป็นวงเเหวนรอบปาก เเละเเยกเเขนงไปตามเเขน
- การเคลื่อนไหวใช้ระบบท่อน้า ( water vascula system ) ภายในร่างกาย
- การสืบพันธุ์ แบ่งเป็นเเบบอาศัยเพศโดยมีการปฎิสนธิภายนอก และ เเบบไม่อาศัยเพศ
บางชนิด เช่น การขาดของเเขนใดเเขนหนึ่ง ส่วนที่ขาดก็จะเจริญไปเป็นตัวเต็มอีกทีหนึ่ง
- 161. ไฟลัมคอร์ดาตา (PHYLUM CHORDATA)
คุณสมบัติเฉพาะของ Phylum Chordata
- มีโนโตคอร์ด (Notochord) ซึ่งเป็นแกนค้าจุนหรือพยุงกายเกิดขึ้นในระยะใดระยะหนึ่ง
ของชีวิต หรือตลอดชีวิต ในพวกสัตว์ชั้นสูงมีกระดูกอ่อนหรือกระดูกแข็งแทนโนโตคอร์ด
- มีไขสันหลังเป็นหลอดยาวกลวงอยู่ทางด้านหลัง (Dorsal hollow nerve tube) เหลือ
ทางเดินอาหารซึ่งแตกต่างจากสัตว์พวกไม่มีกระดูกสันหลัง ซึ่งมีระบบประสาทอยู่ทางด้านท้อง
(Ventral nerve cord) ใต้ทางเดินอาหารและเป็นเส้นตัน
- มีช่องเหงือก (Gill slit) ในระยะใดระยะหนึ่งของชีวิต หรือตลอดชีวิตในพวหสัตว์มี
กระดูกสันหลังชั้นสูง เช่น สัตว์ปีก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้านมจะมีช่องเหงือกตอนเป็นตัวอ่อนเท่านั้น
เมื่อโตขึ้นช่องเหงือกจะปิดส่วนปลามีช่องเหงือกตลอดชีวิต
- มีหางเป็นกล้ามเนื้อ (Muscular post anal tail)