2. ๑
(ร่าง) แผนจัดการมลพิษ พ.ศ. 2566 – 2570
1. หลักการและเหตุผล
กรมควบคุมมลพิษ ในฐานะหน่วยงานหลักในการเสนอนโยบายการจัดการมลพิษของประเทศ
ได้จัดทาแผนจัดการมลพิษ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นกรอบและทิศทางในการจัดการมลพิษของประเทศ
ที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศและการเปลี่ยนแปลงบริบทในระดับประเทศและระดับโลก และ
เป็นแนวทางเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการพัฒนาประเทศด้านการจัดการมลพิษที่มีเป้าหมาย
และทิศทางร่วมกัน ซึ่งแผนจัดการมลพิษฉบับแรก คือ แผนจัดการมลพิษ พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙ และเมื่อปี 2560
ได้จัดทายุทธศาสตร์การจัดการมลพิษ 20 ปี และแผนจัดการมลพิษ พ.ศ. 2560-2564 เนื่องจากประเทศไทย
มีการจัดทายุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี เพื่อใช้เป็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศในระยะยาว และ
มีความประสงค์ที่จะให้ประเทศไทยมีการวางแนวทางในการดาเนินงานด้านต่างๆ ในระยะยาวให้สอดคล้องกับ
กรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี กรมควบคุมมลพิษจึงได้จัดทายุทธศาสตร์การจัดการมลพิษ 20 ปี เพื่อให้
สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี เพื่อกาหนดทิศทางการจัดการมลพิษของประเทศไทยในระยะยาว
และกาหนดแนวทางการดาเนินงานในแต่ละช่วงทุก 5 ปี โดยในช่วงระยะ 5 ปีแรก ได้จัดทาแผนจัดการมลพิษ
พ.ศ. 2560-2564 เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสิ่งแวดล้อมใน
ระดับประเทศ รวมทั้งนโยบายรัฐบาล การปฏิรูปประเทศไทย แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12
(พ.ศ. 2560-2564) แผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ และนโยบายเกี่ยวกับการจัดการ
มลพิษที่สาคัญในระดับสากล โดยเฉพาะเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals:
SDGs) ในขณะนั้น โดยใช้กรอบแนวคิดบนหลักการของการพัฒนาที่มุ่งไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว ส่งเสริมให้เป็น
สังคมของการผลิตและบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และทุกภาคส่วนร่วมรับผิดชอบสิ่งแวดล้อมและจัดการ
ปัญหามลพิษร่วมกัน เพื่อนาไปสู่คุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ได้มาตรฐานและการพัฒนาที่ยั่งยืน
เนื่องด้วยแผนจัดการมลพิษ พ.ศ. 2560-2564 ระยะ 5 ปีแรก สิ้นสุดลง กรมควบคุมมลพิษจึง
ได้วิเคราะห์ผลการดาเนินงานตามมาตรการภายใต้ยุทธศาสตร์การจัดการมลพิษ ๒๐ ปี และแผนจัดการมลพิษ
พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ ในช่วงที่ผ่านมา และได้วิเคราะห์ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
แผนการปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 และได้พิจารณาให้สอดคล้องกับ
บริบทและสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งส่วนหนึ่งจะต้องมีการปรับตัวให้สอดคล้องกับ
การดาเนินวิถีชีวิตแบบใหม่ ภายหลังจากการได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
โคโรนาในช่วงปี 2563 – 2564 การดาเนินการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย
โดยเฉพาะในสาขาการจัดการของเสีย รวมทั้งสถานการณ์ในอนาคต และได้คานึงถึงนโยบายที่กระแสโลก
ให้ความสาคัญ เช่น การขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน การพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-
เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Model) การพัฒนาสู่สังคมคาร์บอนต่า เป็นต้น
Should be 5 years
In summary, the strategy does not state what PCD and Thailand's waste management will be in 5 years.
Not to mention monitoring and control of these outcomes. Thus measuring the success of it will be impossible.
A good strategy should align with the goals of the firm. In this case, we see some strategy addressing
works that are only related to their department/field of interest.Board industries and area of focus were also found
making it harder for staffs to achieve targets stated.
Several action plans are vague and duplicate with other agencies. An integration collaboration between agencies is
a must when working with pollution management and control, especially non-point source pollution like pm2.5.
Not to mention working with international agencies that already have their own pollution standards e.g. IFOAM.
Industrial waste measure is also limited when compared with municipal waste.
The strategic also does not state resource allocation (staffs - knowledge/skill/ budget) monitoring and control mechanism
to ensure effectiveness, not to mention host/leadership for each strategy within the plan period.
3. ๒
(ร่าง) แผนจัดการมลพิษ พ.ศ. 2566 – 2570
2. ผลการดาเนินงานที่สาคัญตามแนวทางการจัดการมลพิษภายใต้แผนจัดการมลพิษ
พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔
ยุทธศาสตร์ที่ 1 การป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง
1. การผลิตภาคอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
จัดทาแผนปฏิบัติการการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ส่งเสริมสถานประกอบการในการผลิต
ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Production) ให้คาปรึกษาแนะนาแก่ SMEs ในด้านเทคโนโลยีสะอาด
และเทคโนโลยีสีเขียว ให้คาปรึกษาแนะนาด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco -
Packaging) แก่สถานประกอบการ และส่งเสริมผลิตภัณฑ์จากวัสดุเหลือใช้ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
(G -Upcycle) การเลิกใช้พลาสติกหุ้มฝาขวดน้าดื่ม (No Plastic Bottle Cap Seal) การเลิกใช้ไมโครบีดส์
จากพลาสติก (Microbeads) การเลิกใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วขนาดบางร่วมกับภาคีเครือข่าย
2. การผลิตภาคเกษตรกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โครงการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning by Agri-Map) ถอดบทเรียน Smart Farmer
ด้านการประมง และคัดเลือกเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และสหกรณ์ที่มีผลงานดีเด่น เพื่อเป็นการยกย่อง
ประกาศเกียรติคุณ
3. การท่องเที่ยวและธุรกิจบริการต่อเนื่องที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
กาหนดจานวนนักท่องเที่ยวที่เข้าไปในอุทยานแห่งชาติ เช่น หมู่เกาะสิมิลัน ส่งเสริมการท่องเที่ยว
กลุ่มGreen Tourismเผยแพร่ข้อปฏิบัติสาหรับนักท่องเที่ยว บนเว็บไซต์ของกรมการท่องเที่ยว ตรวจประเมิน
และรับรองคุณภาพมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว และจัดประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
(Thailand Tourism Awards)
4. การคมนาคมขนส่งและการใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
พัฒนาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ก่อสร้างทางจักรยานโครงข่ายทางหลวงชนบท สนับสนุน
การใช้เชื้อเพลิงสะอาดสาหรับยานพาหนะ จัดเก็บภาษีน้ามันเชื้อเพลิงตามหลักการด้านสิ่งแวดล้อม
และรับรองอาคารเขียว (Green building)
5. การส่งเสริมการบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ส่งเสริมสานักงานสีเขียว (Green Office) ส่งเสริมการใช้ระบบบัตรสะสมคะแนนในการซื้อสินค้า
และบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Card) ผลิตและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ สร้างกระแสค่านิยม
การผลิต การบริการ และการบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่านช่องทางสื่อต่างๆ และจัดทาแผน
ส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔
ยุทธศาสตร์ที่ 2 เพิ่มประสิทธิภาพในการบาบัด กาจัดของเสีย และควบคุมมลพิษจากแหล่งกาเนิด
1. การจัดการขยะมูลฝอยชุมชน ของเสียอันตรายชุมชน และมูลฝอยติดเชื้อ
โครงการทาความดีด้วยหัวใจ ลดภัยมลพิษ การจัดทาและขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการจัดการขยะมูลฝอย
ชุมชน “จังหวัดสะอาด” ตามแนวทางประชารัฐ โครงการบริหารจัดการขยะมูลฝอยแบบรวมกลุ่ม (Clusters)
ส่งเสริมการแยกทิ้งของเสียอันตรายจากชุมชนออกจากมูลฝอยทั่วไป และมีจุดทิ้งของเสียอันตรายจากชุมชน
(จุด Drop off) ทุกชุมชน เพื่อรวบรวมนาไปบาบัดและกาจัดอย่างถูกหลักวิชาการ จัดทา Roadmap การ
จัดการขยะพลาสติก แผนปฏิบัติการจัดการขยะพลาสติก มาตรการการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ จัดทา
(ร่าง) พระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
Should identify
industry/zone/area as it
is to board, hard to
define KPI
Similar to Strategy 1,
should specify
province/industry/area
of focus.
which province? state it
in the statement
Already have -
https://www.pcd.go.th/
wp-
content/uploads/2020/0
5/pcdnew-2020-05-
27_06-47-
53_174751.pdf
จัดทํา?
4. ๓
(ร่าง) แผนจัดการมลพิษ พ.ศ. 2566 – 2570
2. การจัดการกากอุตสาหกรรม
จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือและติดตามการต่ออายุโรงงานที่ขาดอายุในการดาเนินการจัดการกากอุตสาหกรรม
และโครงการยกระดับผู้ประกอบการจัดการของเสีย
3. การจัดการสารอันตรายในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม
ตรวจสอบติดตามการปนเปื้อนโลหะหนักและสารพิษตกค้างในพื้นที่เกษตร และจัดทาระบบ
รายงานข้อมูลการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายมลพิษจากโรงงานที่มีการถือครองสารเคมีเป้าหมาย
4. การจัดการน้าเสียชุมชน
การจัดทาและขับเคลื่อนแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี (พ.ศ. 2561- 2580)
แผนปฏิบัติการด้านการจัดการน้าเสียชุมชน ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2561 – 2580) แผนแม่บทด้าน
การจัดการคุณภาพน้าของประเทศ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) และการบริหารจัดการและ
บารุงรักษาระบบบาบัดน้าเสียรวมชุมชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
5. การตรวจสอบและควบคุมแหล่งกาเนิด
กาหนด/ปรับปรุงมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมและมาตรฐานการระบายมลพิษจากแหล่งกาเนิดมลพิษ
ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น มาตรฐานค่าความเข้มกลิ่นของอากาศเสียที่ปล่อยทิ้งจาก
โรงงานผลิตยาง มาตรฐานระดับเสียงของรถยนต์ไฮบริด มาตรฐานระดับเสียงของรถจักรยานยนต์
มาตรฐานควบคุมการระบายน้าทิ้งจากแหล่งกาเนิดประเภทการเลี้ยงสุกร เป็นต้น ตรวจสอบเงื่อนไข
ในใบอนุญาตการประกอบกิจการของโรงงานก่อนหมดอายุใบอนุญาต และกากับดูแลแหล่งกาเนิดมลพิษ
ทั้งประเภทอาคาร การจัดสรรที่ดิน บริการชุมชน การติดตามตรวจสอบการดาเนินการตามมาตรการ
ที่กาหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และให้หน่วยงานท้องถิ่นนาไปใช้ในการกากับ
บังคับใช้กฎหมาย อนุมัติ อนุญาตและต่อใบอนุญาตก่อสร้าง ติดตามตรวจสอบ กากับดูแล ควบคุม
แหล่งกาเนิดมลพิษตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ให้ปฏิบัติ
ตามมาตรฐานควบคุมการระบายน้าทิ้งตามที่กฎหมายกาหนด การเสริมสร้างศักยภาพและยกระดับ
ขีดความสามารถเจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และ
การพัฒนาผู้ประกอบการ เจ้าของแหล่งกาเนิดมลพิษให้มีศักยภาพในการปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม
6. การตรวจสอบและควบคุมยานพาหนะ
ติดตั้งระบบตรวจสภาพรถยนต์ให้กับสานักงานขนส่งจังหวัดและสาขาทั่วประเทศ พัฒนา
เครื่องมือตรวจวัดสารมลพิษจากไอเสียรถยนต์เพื่อรองรับมาตรฐานไอเสียรถยนต์ระดับยูโร 5/6
ตรวจสอบ ตรวจจับ และห้ามใช้ยานพาหนะที่ระบายมลพิษเกินค่ามาตรฐาน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
และจังหวัดที่เป็นพื้นที่วิกฤติด้านฝุ่นละออง กาหนดให้ใช้เครื่องมือวัดความดัน ระบบวัดความทึบแสง
ในการวัดควันดาจากรถยนต์จุดระเบิดด้วยการอัด และการกาหนดให้รถโดยสารเป็นแหล่งกาเนิดมลพิษ
ทางอากาศ
7. การจัดการปัญหาหมอกควัน
กิจกรรมรณรงค์ในพื้นที่เสี่ยงไฟป่าและกิจกรรมรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า สร้างแนวร่วม
ภาคประชาชน ในการเฝ้าระวังและป้องกันการเผาในที่โล่งและลดหมอกควัน การระดมสรรพกาลัง
เพื่อเฝ้าระวัง ลาดตะเวนดับไฟ บังคับใช้กฎหมาย การบริหารจัดการเชื้อเพลิงเพื่อลดการเผา และ
ส่งเสริมการหยุดการเผาในพื้นที่การเกษตร
The center is already up
and running? why
establish more?
This database is already
available at BOI, no
need to create a new
one.
already have -
http://www.onwr.go.th/
?page_id=4207
Should focus on
community cooperation
plan.
Should develop
monitoring and control
dashboard for operation
and management.
ที่เขียนเป็นงานปกติของกร
มอยู่แล ้ว
ไม่น่าจะเอามาใส่ในแผน
ทําไมไม่ใช ้ของกรมการขน
ส่ง? งบซํ้าซ ้อน
ซํ้าซ ้อนกับหน่วยงานอื่น
More EVs are in plan for
city transport
Which area/province?
How? Should state.
5. ๔
(ร่าง) แผนจัดการมลพิษ พ.ศ. 2566 – 2570
8. การจัดการมลพิษเชิงพื้นที่
การจัดทาและขับเคลื่อนแผนสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 – 2564
และดาเนินงานภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จัดทาแผนพัฒนาภาค
พ.ศ.2560-2565 ฉบับทบทวน ติดตามตรวจสอบ เฝ้าระวังและควบคุมมลพิษจากแหล่งกาเนิดมลพิษ
ในพื้นที่ รวมทั้งตรวจสอบและแก้ไขปัญหามลพิษจากอุบัติภัยฉุกเฉินจากสารเคมี การลักลอบทิ้งกาก
ของเสีย ปัญหาเรื่องร้องเรียนและความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษในพื้นที่
ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก
ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาระบบการบริหารจัดการมลพิษ
1. การบริหารจัดการในภาพรวม
พัฒนาปรับปรุงระบบการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง จัดทาฐานข้อมูล เช่น
ระบบฐานข้อมูลคุณภาพน้าแหล่งน้าผิวดินทั่วประเทศ (IWIS) ฐานข้อมูลคุณภาพอากาศ ฐานข้อมูล
สินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น การพัฒนาระบบการจัดการและแก้ไขปัญหาข้อ
ร้องเรียนด้านมลพิษให้กับประชาชนได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพจนได้ข้อยุติ จัดทา
Application Air4Thai มีการแจ้งเตือน และนาข้อมูลการพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา และ
แบบจาลองมาใช้ในการจัดการคุณภาพอากาศและแจ้งเตือนล่วงหน้า
2. การใช้มาตรการทางเศรษฐศาสตร์และมาตรการทางสังคม
สนับสนุนให้ภาคีเครือข่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการติดตามตรวจสอบการดาเนินงานตาม
มาตรการในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และเปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนได้รับทราบ
กาหนดอัตราค่าบริการกาจัดขยะมูลฝอย/บาบัดน้าเสียขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับ
การจัดสรรเงินกองทุนสิ่งแวดล้อม ตามมาตรา 88 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพ
สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ผลักดันองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกเทศบัญญัติการจัดเก็บ
ค่าบริการบาบัดน้าเสียชุมชน
3. การเพิ่มประสิทธิภาพด้านกฎหมาย
ปรับปรุงระเบียบกรมเจ้าท่าว่าด้วยหลักเกณฑ์การออกหนังสือรับรองผู้ให้บริการจัดเก็บและบาบัด
ของเสียจากเรือ ประเภทขยะและกากของเสียต่างๆ พ.ศ. ๒๕๖๐ และจัดทาแนวทางการควบคุมกิจการ
ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับปรับปรุง)
4. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและเครือข่ายของภาคส่วนต่างๆ ในการจัดการมลพิษ
สนับสนุนให้ ทสม. มีบทบาทเฝ้าระวัง แจ้งเหตุมลพิษ ส่งเสริมการรวมตัว เป็นกลุ่ม และสร้าง
เครือข่ายทางด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กรเอกชน องค์กรอิสระ และอาสาสมัครสิ่งแวดล้อม
5. การดาเนินงานตามพันธกรณีและความร่วมมือระหว่างประเทศ
เข้าร่วมและดาเนินการตามพันธกรณีและความร่วมมือระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เช่น เข้าร่วม
เป็นภาคีอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท ข้อตกลงอาเซียนเรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน จัดทา
แผนการดาเนินงานภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
และข้อตกลงปารีส ด้านปฏิบัติการเสริมพลังรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
This is a good example.
Should include plan for
Open Data (DGA) to
enable data sharing.
How? Should clearly
state methodology.
Already have -
http://www.oic.go.th/FI
LEWEB/CABINFOCENTE
R38/DRAWER027/GENE
RAL/DATA0001/000012
60.PDF
องค์กรไหนบ ้าง
หลายองค์กรมีแล ้ว -
https://www.songkhlacit
y.go.th/2020/files/com_
content/2015-
02/20150216_mjluvwas.
pdf
ระเบียบมีอยู่แล ้ว
น่าจะระบุเรื่องการมาตรการ
ในการบังคับใช ้มากกว่า
ควรเพิ่มการบูรณาการกฏห
มายกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยว
ข ้องเพื่อความสะดวกและป
ระสิทธิภาพในการบังคับใข ้
Should create tools or
platform for ทสม. to
report/monitor and
control like traffy fondue
Should prioritize the
colloboration, which is
more important as from
the statement, it is not.