More Related Content
More from อำนาจ ศรีทิม (20)
การฝึกบุคคลท่าอาวุธ
- 1. คู่มอการฝึ ก
ื
ว่ าด้ วย
แบบฝึ กบุคคลท่ าอาวุธ
คฝ.๗-๕ พ.ศ.๒๕๔๔
บทที๑ - กล่ าวทัวไป ๑
บทที ๒ - การฝึ กบุคคลท่ าอาวุธ ๕
- ท่ าเรียบอาวุธ ๕
- ท่ าพัก ๖
- ท่ าหันอยู่กบที
ั ๑๐
- ท่ าคอนอาวุธ ๑๔
- ท่ าเฉียงอาวุธ ๑๕
- ท่ าอาวุธพร้ อม ๑๙
- ท่ าสะพายอาวุธ ๒๐
- ท่ าสะพายขวาง ๒๕
- ท่ าแบกอาวุธ ๒๘
- ท่ าเดิน ๓๑
- ท่ าเคารพ ๓๙
- ท่ าตรวจอาวุธ ๔๗
- ท่ ารวมอาวุธ ๖๘
- ท่ าติดดาบปลดดาบ ๗๔
- ท่ าถอดหมวกสวมหมวก ๗๙
- ท่ าหมอบและลุก ๘๓
บทที ๓ - การฝึ กแถวชิ ด ๘๘
- 2. - ๑ -
บทที ๑
กล่าวทัวไป
๑. กล่าวนํา
๑.๑ บุคคลพลเรือนซึงเข้ารับราชการทหารในโอกาสเริมแรกนัน ไม่ว่าจะเข้ามารับราชการใน
ฐานะเข้ารับราชการตามพระราชบัญญัตรบราชการทหาร เข้ารับราชการเป็ นนักเรียนนายสิบ เข้ารับ
ิั
ราชการเป็ นนักเรียนนายทหาร หรือสมัครเข้ารับราชการในอัตราทหารซึงทางราชการจะต้องแต่งตัง
ยศทหารให้กตาม จําเป็ นจะต้องได้รบการฝึกท่าบุคคลท่าเบืองต้นก่อนเสมอ เพือประสงค์จะฝึกให้
็ ั
บุคคล พลเรือนเหล่านีมีบุคคลิกลักษณะเป็ นทหารโดยสมบูรณ์ และให้มความรอบรูในลักษณะท่าทาง
ี ้
ส่วนบุคคล ซึงมีความจําเป็ นจะต้องนําไปใช้ในการปฏิบตตนในเรืองเกียวกับวินยและแบบธรรมเนียม
ั ิ ั
ของทหารตลอดเวลาทีรับราชการทหาร
๑.๒ การฝึกบุคคลท่าเบืองต้น จึงถือได้ว่าเป็ นการฝึกเริมแรกทีมีความสําคัญอย่างยิงต่อการเข้า
รับราชการ เนืองจากการฝึกนีจะเป็ นเครืองช่วยปูพนฐานบุคคลพลเรือนให้เปลียนลักษณะท่าทางเป็ น
ื
ทหารได้โดยสมบูรณ์ในโอกาสต่อไป
๒. ความมุ่งหมาย
คู่มอการฝึกเล่มนีกําหนดขึนโดยมีความมุงหมายเพือให้หน่ วยทหาร หรือผูทมีหน้าทีรับผิดชอบใน
ื ่ ้ ี
การฝึกท่าเบืองต้นให้กบบุคคลประเภทต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น ได้นําไปใช้เป็ นแบบฉบับในการฝึก
ั
บุคคลท่าอาวุธให้เป็ นมาตรฐานอันเดียวกัน เพือปรับลักษณะท่าทางของบุคคลพลเรือนให้เป็ นทหาร
โดยสมบูรณ์
๓. ขอบเขต
คู่มอการฝึกเล่มนีจะกล่าวถึงการฝึกบุคคลท่าอาวุธ สําหรับ ปลย.เอ็ม.๑๖ และ ปลย.๑๑ ซึง
ื
ครอบคลุมท่าทีสําคัญ ๆ และเป็ นท่าหลัก ๆ อันได้แก่ ท่าเรียบอาวุธ, ท่าหัน, ท่าคอนอาวุธ, ท่าเฉียง
อาวุธ, ท่าอาวุธพร้อม, ท่าสะพายอาวุธ, ท่าสะพายขวาง, ท่าแบกอาวุธ, ท่าเดิน, ท่าเคารพ, ท่าตรวจ
อาวุธ, ท่ารวมอาวุธ, ท่าติดดาบและปลดดาบ, ท่าถอดหมวกและสวมหมวก, ท่าหมอบและลุก และ
รวมถึงการฝึกแถวชิดด้วย
๔. การบรรลุผล
เพือให้การฝึกบรรลุความมุงหมายดังกล่าวข้างต้น ผูบงคับบัญชาทุกระดับชัน ตลอดจนผูมหน้าที
่ ้ ั ้ ี
ฝึกทุกนาย จะต้องคอยกวดขันและหมันดูแลการฝึกให้ดาเนินไปด้วยดีทสุด โดยจะต้องพยายามคิด
ํ ี
ค้นหาวิธฝึกและใช้อุบายในการฝึกอย่างประณีต รอบคอบ เอาใจใส่ และเมือพบข้อบกพร่องทีเกิดขึน
ี
จากการฝึกจะต้องจัดการแก้ไขทันที
๕. การนําไปใช้
๕.๑ ผูฝึกจะต้องใช้ดุลพินิจในการกําหนดวิธการฝึก เพือให้เหมาะสมกับ จํานวนผูรบการฝึก
้ ี ้ั
จํานวนเครืองช่วยฝึก ครูฝึกและผูช่วยครูฝึกทีมีอยู่ ทังนีเพือเป็ นการป้องกันไม่ให้ผรบการฝึกต้อง
้ ู้ ั
๑
- 3. - ๒ -
รอคอยการฝึก อันเนืองจากความจํากัดของเครืองช่วยฝึก นอกจากนันเพือให้สามารถกํากับดูแล
การปฏิบตของครูฝึกและผูช่วยครูฝึกได้อย่างใกล้ชดมิให้ทาการฝึกไปในทางผิด ๆ จากทีกําหนดไว้ใน
ั ิ ้ ิ ํ
แบบฝึก
๕.๒ เนืองจากท่าอาวุธของ ปลย. เอ็ม.๑๖ และ ปลย.๑๑ มีท่าอาวุธทีเหมือนกันเป็ นส่วนใหญ่
และมีขอแตกต่างกันเฉพาะเป็ นบางท่าซึงมีเป็ นส่วนน้อยเท่านัน
้ จึงได้รวมคู่มอการฝึกไว้เป็ นเล่ม
ื
เดียวกัน ดังนันขอให้ผใช้ค่มอได้ทาความเข้าใจเสียก่อนว่าท่าใดก็ตามทีในคู่มอมิได้บ่งว่าเป็ นท่าอาวุธ
ู้ ู ื ํ ื
ของอาวุธใด ให้เข้าใจว่าเป็ นท่าอาวุธทีนําไปใช้ได้ทงผูทถือ ปลย. เอ็ม.๑๖ และ ปลย.๑๑ และท่าใด
ั ้ ี
ที คู่มอบ่งว่า “ใช้เฉพาะ” กับอาวุธใด ก็ให้นําไปใช้กบอาวุธชนิดนันเท่านัน
ื ั
๖. การปรับปรุงแก้ไข
หากผูใช้ค่มอเล่มนีประสงค์ทจะให้ขอเสนอแนะในการเปลียนแปลงแก้ไข หรือให้ขอคิดเห็นต่าง ๆ
้ ู ื ี ้ ้
เพือปรับปรุงคู่มอให้ดขนย่อมกระทําได้ ข้อคิดเห็นต่าง ๆ ทีเสนอจะให้เปลียนแปลงเหล่านี ควรจะ
ื ี ึ
บ่งหน้า ข้อ และบรรทัด ทีปรากฎในคู่มอด้วย และควรให้เหตุผลประกอบเพือให้เกิดความเข้าใจ
ื
อย่างชัดเจน และสามารถนํามาเป็ นข้อมูลประกอบการพิจารณาได้อย่างสมบูรณ์ ข้อคิดเห็นเหล่านี
ขอให้ส่งตรงไปยังแผนกการฝึก กองวิทยาการ ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ อําเภอปราณบุร ี
จังหวัดประจวบคีรขนธ์ ๗๗๑๖๐
ี ั
๗. คําแนะนําในการใช้คาบอก ํ
เพือให้ผมหน้าทีในการฝึกได้มความเข้าใจ และสามารถใช้คาบอกตามทีกําหนดไว้ในคู่มอเล่มนี
ู้ ี ี ํ ื
เพือสังการปฏิบตท่าต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง ไม่สบสน และเป็ นไปในแนวทางเดียวกัน จึงแนะนําให้
ั ิ ั
ผูใช้ค่มอได้ทราบถึงรายละเอียดเกียวกับการใช้คาบอก ดังต่อไปนี
้ ู ื ํ
๗.๑ ประเภทคําบอก คําบอกทีกําหนดไว้ในคู่มอเล่มนีแบ่งออกเป็ น ๔ ประเภท คือ
ื
๗.๑.๑ คําบอกแบ่ง
๗.๑.๒ คําบอกเป็ นคํา ๆ
๗.๑.๓ คําบอกรวด
๗.๑.๔ คําบอกผสม
๗.๒ การใช้คาบอก ลักษณะทีต่างกันของคําบอกประเภทต่าง ๆ จะเป็ นเครืองบ่งให้ทราบถึง
ํ
ลักษณะการปฏิบตของท่านัน ๆ
ั ิ แนวทางในการใช้นําเสียงเพือสังการและเขียนไว้ให้เห็นความ
แตกต่างกันอย่างเด่นชัด โดยการแสดงเครืองหมายไว้
๒
- 4. - ๓ -
๗.๒.๑ คําบอกแบ่ง (รูปที ๑)
หัน
ขวา
รูปที ๑ แสดงการบอก คําบอกแบ่ง
เป็ นคําบอกทีใช้เพือออกคําสังสําหรับท่าฝึกทีส่วนใหญ่ มักจะกําหนดไว้ให้ปฏิบตเป็ นจังหวะ ๆ
ั ิ
ได้ ( หรือจังหวะเดียว ) คําบอกแบ่งนีผูให้คาบอกจะต้องเปล่งเสียงบอกในคําแรกด้วยการลากเสียง
้ ํ
ค่อนข้างยาว แล้วเว้นจังหวะไว้เล็กน้อยก่อนทีจะเปล่งเสียงบอกในคําหลัง การเปล่งเสียงบอกในคํา
หลัง ต้องเน้นเสียงให้หนักแน่ นและสัน การเขียนคําบอกชนิดนีจะแสดงไว้ให้เห็นโดยใช้เครืองหมาย -
คันกลางไว้ระหว่างคําบอก คําหน้า และคําหลัง ตัวอย่างเช่น “ขวา - หัน” เป็ นต้น
๗.๒.๒ คําบอกเป็ นคํา ๆ (รูปที ๒)
ตาม พัก
ระเบียบ
รูปที ๒ แสดงการบอก คําบอกเป็ นคํา ๆ
เป็ นคําบอกทีใช้เพือออกคําสังสําหรับท่าฝึกทีส่วนใหญ่แล้ว มักจะไม่กําหนดให้ปฏิบตแบ่งเป็ น
ั ิ
จังหวะไว้ (แต่สามารถแบ่งการปฏิบตออกเป็ นตอน ๆ ได้) และจําเป็ นต้องใช้คาบอกยืดยาวซึงอาจจะ
ั ิ ํ
มีหลายพยางค์กได้ จึงจําเป็ นต้องเว้นจังหวะการบอกไว้เป็ นตอน ๆ หรือ คํา ๆ คําบอกเป็ นคํา ๆ นี
็
ผูให้คาบอกจะต้องเปล่งเสียงบอกทังในคําแรกและคําหลังด้วยการวางนําหนักเสียงไว้เท่า ๆ กัน โดย
้ ํ
เว้นจังหวะระหว่างคําไว้เล็กน้อย และไม่ตองลากเสียงยาวในคําแรกและเน้นหนักในคําหลังเหมือน
้
คําบอกแบ่ง การเขียนคําบอกชนิดนีจะแสดงไว้ให้เห็นโดยการใช้เครืองหมาย, คันกลางไว้ระหว่าง
คําบอกคําหน้าและคําหลัง ตัวอย่างเช่น “ตามระเบียบ, พัก” เป็ นต้น
๗.๒.๓ คําบอกรวด (รูปที ๓)
ถอด
หมวก
รูปที ๓ แสดงการบอก คําบอกรวด
๓
- 5. - ๔ -
เป็ นคําบอกทีใช้เพือออกคําสังสําหรับท่าฝึกทีส่วนใหญ่แล้ว มักจะไม่กําหนดให้แบ่งการปฏิบติ
ั
ไว้เป็ นจังหวะ (แต่สามารถแบ่งการฝึกออกเป็ นตอน ๆ ได้) และเป็ นคําบอกทีไม่ยดยาวหรือมีหลาย
ื
พยางค์ จึงไม่มความจําเป็ นต้องเว้นจังหวะการบอกไว้เป็ นตอน ๆ หรือ คํา ๆ คําบอกรวดนีไม่ว่าจะมี
ี
กีพยางค์กตาม ผูให้คาบอกจะต้องบอกรวดเดียวจบโดยวางนําหนักเสียงเป็ นระดับเดียวกัน การเขียน
็ ้ ํ
คําบอกชนิดนีจะแสดงไว้ให้เห็นโดยเขียนเป็ นคําติดต่อกันทังหมด ไม่ใช้เครืองหมายใด ๆ ทังสิน
ตัวอย่างเช่น “ถอดหมวก” หรือ “ติดดาบ” เป็ นต้น
๗.๒.๔ คําบอกผสม (รูปที ๔)
ทํา
ทางขวา แลขวา
เป็ นคําบอกทีมีลกษณะคล้ายคําบอกเป็ นคํา ๆ จะผิดกันก็ตรงทีคําบอกในคําหลังจะเป็ นคํา
ั
บอกแบ่ง ดังนันคําบอกประเภทนีจึงเป็ นคําบอกทีใช้เพือออกคําสังสําหรับท่าฝึกทีส่วนใหญ่ มักจะ
กําหนดให้ปฏิบตแบ่งเป็ นจังหวะ ๆ ได้ตามลักษณะของคําบอกแบ่งทีผสมอยูในคําหลังของคําบอก
ั ิ ่
ผสมนีเป็ นหลัก คําบอกผสมนี ผูให้คาบอกจะต้องเปล่งเสียงในคําบอกช่วงแรกเช่นเดียวกับคําบอก
้ ํ
เป็ นคํา ๆ คือ วางนําหนักเสียงไว้เท่า ๆ กัน ส่วนการเปล่งเสียงในคําช่วงหลัง ก็คงเปล่งเสียงใน
ลักษณะเดียวกันกับคําบอกแบ่ง คือเปล่งเสียงบอกในคําแรกด้วยการลากเสียงค่อนข้างยาว และเว้น
จังหวะไว้เล็กน้อยก่อนทีจะเปล่งเสียงบอกในคําหลังด้วยการเน้นเสียงให้หนักและสัน การเขียนคํา
บอกชนิดนีจะแสดงไว้ให้เห็นโดยใช้เครืองหมาย , คันกลางไว้ระหว่างคําบอกช่วงแรกและช่วงหลัง
ส่วนคําบอกในช่วงหลัง คงใช้เครืองหมายเช่นเดียวกับคําบอกแบ่ง คือ ใช้เครืองหมาย - คันกลาง ไว้
ระหว่างคําหน้าและคําหลังตัวอย่างเช่น “ทางขวา, แลขวา - ทํา” เป็ นต้น
๘. คําแนะนําในการฝึ ก
๘.๑ ฝึกปิดตอนหรือปิดจังหวะ ก่อนการฝึกเปิดตอนหรือเปิดจังหวะเพือให้งายต่อการปฏิบตและ
่ ั ิ
การตรวจสอบความถูกต้อง
๘.๒ การใช้คาบอกปิดขันตอน
ํ
๘.๒.๑ “จังหวะ” ใช้กบคําบอกแบ่งและคําบอกผสม
ั
๘.๒.๒ “ตอน” ใช้กบคําบอกเป็ นคํา ๆ และคําบอกรวด
ั
๘.๓ ก่อนการฝึกปิดขันตอนทุกครัง ผูฝึกจะต้องแจ้งให้ทหารทราบก่อนว่า จะฝึกท่าอะไร แบบ
้
ปิดตอนหรือปิดจังหวะ โดยใช้คาบอกเช่นเดียวกับเปิดตอนหรือเปิดจังหวะ เมือสินคําบอกให้ทหาร
ํ
ปฏิบตเฉพาะตอนทีหนึงหรือจังหวะหนึงค้างไว้ สําหรับตอนหรือจังหวะทีเหลือใช้คาบอก “ต่อไป”
ั ิ ํ
ทีละตอนหรือจังหวะตามลําดับ โดยทหารจะต้องปฏิบตไปทีละตอนหรือจังหวะแล้วค้างไว้จนกว่าจะสัง
ั ิ
ให้ปฏิบตต่อไป
ั ิ
๔
- 6. - ๕ -
บทที ๒
การฝึ กบุคคลท่าอาวุธ
๘. ท่าเรียบอาวุธ (รูปที ๕)
ด้านหน้า (๕ ก.) ด้านหลัง (๕ ข.)
ปลย.๑๑ (๕ ค.)
รูปที ๕ ท่าเรียบอาวุธ
๕
- 7. - ๖ -
๘.๑ คําบอก “แถว - ตรง” (เป็ นคําบอกแบ่ง)
๘.๒ การปฏิบติ ท่านีมีจงหวะเดียว
ั ั
๘.๒.๑ ลักษณะของท่าเรียบอาวุธมีดงนี คือ จะต้องยืนให้สนเท้าชิดและอยูในแนวเดียวกัน
ั ้ ่
ปลายเท้าทังสองแบะออกไปทางข้างเท่า ๆ กัน ปลายเท้าห่างกันประมาณ ๑ คืบ หรือให้ทามุม ํ
ประมาณ ๔๕ องศา เข่าเหยียดตรงและบีบเข้าหากัน มือขวาจับปืนทางด้านสันตรงส่วนใดก็ได้
พอทีจะไม่ทาให้ไหล่ขวาเอียงเมือยืนในท่าตรง ให้สนปืนอยูระหว่างนิวหัวแม่มอกับนิวชี นิวอืนเรียงชิด
ํ ั ่ ื
กับนิวชีตามลําดับ (อุงมือหันลงพืน) ให้แนวปืนตังตรงแนบขาขวา ด้ามปืนหันออกไปทางข้างหน้า
้
วางพานท้ายปืนลงบนพืนให้แง่หน้าของพานท้ายวางเสมอกับปลายนิวก้อยของเท้าขวา แขนทังสอง
่
อยูขางลําตัวในลักษณะงอข้อศอกไว้จนเกิดช่องว่างห่างจากลําตัวประมาณ ๑ ฝามือ พลิกข้อศอกไป
่ ้
ข้างหน้าเล็กน้อยจนไหล่ทงสองข้างตึงและเสมอกัน นิวมือซ้ายทังห้าเหยียดตรงเรียงชิดกัน ให้ปลาย
ั
่
นิวกลางแตะไว้ตรงกึงกลางขาซ้ายท่อนบนประมาณแนวตะเข็บกางเกง เปิดฝามือทางด้านนิวก้อย
ออกเล็กน้อย ลําคอและใบหน้าตังตรง ไม่ยนคาง สายตามองตรงไปข้างหน้าในแนวระดับวางนําหนัก
ื
ตัวอยูบนเท้าทังสองข้างเท่ากันแล้วนิง
่
๘.๒.๒ เมือได้ยนคําบอก “แถว” ในขณะอยูในท่าพักตามปกติทหารจะต้องจัดส่วนต่าง ๆ
ิ ่
ของร่างกายให้ยนอยูในลักษณะของท่าเรียบอาวุธตามทีได้กล่าวไว้ในข้อ ๘.๒.๑ ข้างต้น ยกเว้นเข่า
ื ่
ขวาหย่อนไว้เล็กน้อย พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดให้เต็มทีและยกอกให้ผงผาย ึ
๘.๒.๓ เมือได้ยนคําบอก “ตรง” ให้ทหารกระตุกเข่าขวาเข้ามาอย่างรวดเร็วและแข็งแรง
ิ
โดยพยายามรักษาไม่ให้ส่วนใด ๆ ของร่างกายมีการเคลือนไหว เข่าตึงในลักษณะบีบเข่าทังสองเข้า
หากันแล้วนิง
๘.๓ คําแนะนําสําหรับผูฝึก ในการฝึกท่าเรียบอาวุธนันจําเป็ นจะต้องสอนให้ผรบการฝึกได้เรียนรู้
้ ู้ ั
ในเรืองท่าพักเสียก่อน แล้วจึงทําการฝึกทังท่าเรียบอาวุธและท่าพักควบคู่กนไป
ั
๙. ท่าพัก
ท่าพักแบ่งออกเป็ น ๕ ท่า คือ ท่าพักตามปกติ, ท่าพักตามระเบียบ ท่าพักตามสบาย ท่าพักแถว
และท่าเลิกแถว
๙.๑ ท่าพักตามปกติ (รูปที ๖)
๙.๑.๑ คําบอก “พัก” (คําบอกรวด)
๙.๑.๒ การปฏิบติ ท่านีมีจงหวะเดียว แต่ให้ปฏิบตไปตามลําดับขันตอนดังต่อไปนี
ั ั ั ิ
๙.๑.๒.๑ ในขันตอนแรกเมือได้ยนคําบอก “พัก” ให้ทหารหย่อนเข่าขวาลงเล็กน้อย
ิ
พยายามไม่ให้ส่วนอืน ๆ ของร่างกายเคลือนไหวอย่างกระทันหัน มือขวายังคงจับถือปืนอยูในลักษณะ
่
ของท่าเรียบอาวุธโดยไม่มการเคลือนไหวใด ๆ ทังสิน
ี
๙.๑.๒.๒ สําหรับในขันตอนต่อไปนัน ท่านีอนุ ญาตให้ทหารเคลือนไหวส่วนต่าง ๆ
ของร่างกายและเปลียนเข่าพักได้ตามสมควรและเท่าทีจําเป็ น
๙.๑.๒.๓ ท่านีห้ามทหารขยับเขยือนหรือเปลียนทียืนของเท้าทังสองข้าง และห้าม
พูดคุยกัน
๖
- 8. - ๗ -
๙.๑.๒.๔ เมือได้ยนคําบอก “แถว” ให้ทหารยืดตัวขึน พร้อมกับสูดลมหายใจเข้า
ิ
ปอดจนเต็มที แล้วจัดทุกส่วนของร่างกายให้อยูในลักษณะของท่าเรียบอาวุธเว้นเข่าขวายังหย่อนอยู่
่
๙.๑.๒.๕ เมือได้ยนคําบอก “ตรง” ให้กระตุกเข่าขวากลับมาอยูในลักษณะของ
ิ ่
ท่าเรียบอาวุธอย่างรวดเร็ว และแข็งแรง แล้วนิง
รูปที ๖ ท่าพักตามปกติ
๗
- 9. - ๘ -
๙.๒ ท่าพักตามระเบียบ
๙.๒.๑ สําหรับปืนเล็กยาว เอ็ม.๑๖ (รูปที ๗)
๙.๒.๑.๑ คําบอก “ตามระเบียบ, พัก” (คําบอกเป็ นคํา ๆ)
ด้านหน้า (๗ ก.) ด้านขวา (๗ ข.) ด้านหลัง (๗ ค.)
รูปที ๗ ท่าพักตามระเบียบสําหรับ ปลย.เอ็ม.๑๖
๙.๒.๑.๒ การปฏิบติ ท่านีมีจงหวะเดียว แต่ให้ปฏิบตไปตามลําดับขันตอนดังต่อไปนี
ั ั ั ิ
๙.๒.๑.๒.๑ เมือได้ยนคําบอก “ตามระเบียบ, พัก” ให้ทหารแยกเท้าซ้ายออกไป
ิ
ทางด้านซ้ายประมาณ ๓๐ ซม. หรือ ประมาณครึงก้าวอย่างแข็งแรงและผึงผาย ในขณะเดียวกันให้ใช้
มือขวาเลือนขึนมาจับลํากล้องปืนตรงประมาณเหนือศูนย์หน้า แล้วผลักปืนให้เฉียงออกไปทาง
ข้างหน้าตามแนวของปลายเท้าขวา หรือ ทํามุมกับลําตัวประมาณ ๔๕ องศา แขนขวาเหยียดตึง
พร้อมกับนํามือซ้ายไปวางไว้ทางด้านหลัง หันหลังมือแตะไว้ประมาณแนวใต้เข็มขัด นิวทังห้าเหยียด
ตรงเรียงชิดกัน แบะข้อศอกออกไปทางข้างหน้าเล็กน้อยแต่พอสบาย ลักษณะของการยืนจะต้องให้ขา
ทังสองข้างตึง นําหนักตัวอยูบนเท้าทังสองเท่ากัน ยกอกให้สง่าผ่าเผย จัดไหล่ทงสองให้เสมอกัน
่ ั
ลําคอและใบหน้าตังตรง สายตามองตรงไปข้างหน้าในแนวระดับแล้วนิง
๙.๒.๑.๒.๒ เมือได้ยนคําบอก “แถว -” ให้ทหารสูดลมหายใจเข้าปอดจนเต็มที
ิ
๙.๒.๑.๒.๓ เมือได้ยนคําบอก “ตรง” ให้ชกเท้าซ้ายกลับมาชิดเท้าขวาโดยให้
ิ ั
ส้นเท้าทังสองชิดกันและอยูในแนวเดียวกัน ปลายเท้าทังสองแบะออกไปทางข้าง ข้างละเท่ากันห่าง
่
กันประมาณ ๑ คืบ หรือประมาณ ๔๕ องศา พร้อมกันนันให้ใช้มอขวาดึงปืนเข้ามาหาลําตัวพร้อมกับ
ื
เปลียนท่าการจับปืนไปเป็ นการจับปืนในท่าเรียบอาวุธ และลดมือซ้ายกลับมาอยูในลักษณะของท่า
่
เรียบอาวุธอย่างแข็งแรง แล้วนิง
๘
- 10. - ๙ -
๙.๒.๒ สําหรับปืนเล็กยาว ๑๑ (รูปที ๘)
๙.๒.๒.๑ คําบอก “ตามระเบียบ, พัก” (คําบอกเป็ นคํา ๆ)
๙.๒.๒.๒ การปฏิบติ ท่านีมีจงหวะเดียว แต่ให้ปฏิบตไปตามลําดับขันตอนดังต่อไปนี
ั ั ั ิ
๙.๒.๒.๒.๑ เมือได้ยนคําบอก “ตามระเบียบ, พัก” ให้ทหารแยกเท้าซ้าย
ิ
ออกไปทางด้านซ้ายประมาณ ๓๐ ซม. หรือ ประมาณครึงก้าวอย่างแข็งแรงและผึงผาย ในขณะ
เดียวกันให้ใช้มอขวาจับลํากล้องปืนตรงประมาณเหนือศูนย์หน้า จับไว้ดวยปลายนิวทังห้า ให้นิวหัว
ื ้
แม่มออยูทางซ้าย นิวทีเหลือทังสีเรียงชิดกันอยูทางขวาลํากล้องปืน ลํากล้องปืนวางอยูในง่ามนิว
ื ่ ่ ่
หัวแม่มอกับนิวชีแล้วผลักปืนให้เฉียงออกไปทางข้างหน้าตามแนวของปลายเท้าขวา แขนขวาเหยียด
ื
ตึงพร้อมกับนํามือซ้ายไปวางไว้ทางด้านหลังลําตัว หันหลังมือแตะไว้ประมาณแนวเข็มขัด นิวทังห้า
เรียงชิดกันและแบมือออกตามธรรมชาติ แบะข้อศอกออกไปทางข้างหน้าเล็กน้อย แต่พอสบาย
ลักษณะของการยืนจะต้องให้ขาทังสองข้างตึง นําหนักตัวอยูบนเท้าทังสองข้างเท่ากัน ยกอกให้
่
สง่าผ่าเผย จัดไหล่ทงสองข้างให้เสมอกัน ลําคอและใบหน้าตังตรงสายตามองตรงไปข้างหน้าในแนว
ั
ระดับแล้วนิง
ด้านหน้า (๘ ก.) ด้านขวา (๘ ข.) ด้านหลัง (๘ ค.)
รูปที ๘ ท่าพักตามระเบียบสําหรับ ปลย.๑๑
๙.๒.๒.๒.๒ เมือได้ยนคําบอก
ิ “แถว -” ให้ทหารสูดลมหายใจเข้าปอด
จนเต็มที
๙.๒.๒.๒.๓ เมือได้ยนคําบอก “ตรง” ให้ชกเท้าซ้ายกลับมาชิดเท้าขวา
ิ ั
ให้สนเท้าทังสองชิดและอยูในแนวเดียวกัน ปลายเท้าทังสองแบะออกไปทางข้าง เท่า ๆ กัน ห่าง
้ ่
ประมาณ ๑ คืบ หรือประมาณ ๔๕ องศา พร้อมกันนันให้ใช้มอขวาดึงปืนเข้ามาอยูขางลําตัว มือขวา
ื ่ ้
เปลียนไปจับปืนในท่าเรียบอาวุธ และลดมือซ้ายกลับมาอยูในลักษณะท่าเรียบอาวุธอย่างแข็งแรง
่
แล้วนิง
๙
- 11. - ๑๐ -
๙.๓ ท่าพักตามสบาย
๙.๓.๑ คําบอก “ตามสบาย, พัก” (คําบอกเป็ นคํา ๆ)
๙.๓.๒ การปฏิบติ ท่านีมีจงหวะเดียว แต่ให้ปฏิบตไปตามลําดับขันตอนดังต่อไปนี
ั ั ั ิ
๙.๓.๒.๑ หย่อนเข่าขวาลงเล็กน้อย โดยพยายามไม่ให้ส่วนอืนของร่างกายมีการ
ไหวติงอย่างกระทันหัน เช่นเดียวกับการทําท่าพักตามปกติในขันตอนแรก
๙.๓.๒.๒ สําหรับในขันตอนต่อไปนัน อนุ ญาตให้ทหารเคลือนไหวอิรยาบถ ห้าม
ิ
พูดคุยกันถ้าไม่ได้รบอนุ ญาต ปืนและเท้าข้างใดข้างหนึงจะต้องอยูกบที
ั ่ ั
๙.๓.๒.๓ สําหรับการพักในท่านี ห้ามทหารออกนอกแถว และถ้าไม่ได้รบอนุ ญาต
ั
ให้นง ทหารจะนังไม่ได้ ถ้าได้รบอนุ ญาตให้นงจะต้องนังในลักษณะทีเท้าข้างใดข้างหนึงเป็ นหลักอยู่
ั ั ั
กับทีและวางปืนไว้กบหน้าตักให้ลากล้องปืนหันไปทางด้านซ้าย
ั ํ
๙.๓.๒.๔ เมือได้ยนคําบอก “แถว -” ไม่ว่าทหารจะอยูในอิรยาบถใดก็ตาม ให้
ิ ่ ิ
ทหารรีบกลับมายืนในท่าเรียบอาวุธ ยกเว้นเข่าขวาหย่อนเล็กน้อย พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดจน
เต็มทีและยกอกให้ผงผายึ
๙.๓.๒.๕ เมือได้ยนคําบอก “ตรง” ให้ทหารกระตุกเข่าขวาเข้ามาอยูในลักษณะ
ิ ่
ของท่าเรียบอาวุธอย่างรวดเร็วและแข็งแรงแล้วนิง
สําหรับท่าพักแถวและท่าเลิกแถว คงยึดถือปฎิบตเช่นเดียวกับท่าพักแถวและเลิกแถวของ
ั ิ
บุคคลท่ามือเปล่า แต่เพิมเติมเฉพาะการถืออาวุธด้วยมือขวาเท่านัน
๑๐. ท่าหันอยู่กบที
ั
ท่าหันอยูกบทีแบ่งออกเป็ น ๓ ท่า คือ ท่าขวาหัน, ท่าซ้ายหัน, และท่ากลับหลังหัน
่ ั
๑๐.๑ ท่าขวาหัน (รูปที ๙)
เริมจังหวะหนึง (๙/๑ ก.) สินสุดจังหวะหนึง (๙/๑ ข.) จังหวะสอง (๙/๒)
รูปที ๙ ท่าขวาหัน
๑๐
- 12. - ๑๑ -
๑๐.๑.๑ คําบอก “ขวา - หัน” (คําบอกแบ่ง)
๑๐.๑.๒ การปฏิบติ ท่านีแบ่งออกเป็ น ๒ จังหวะดังต่อไปนี
ั
๑๐.๑.๒.๑ จังหวะหนึง เมือได้ยนคําบอก “ขวา - หัน” ให้ทหารใช้มอขวาทีจับถือ
ิ ื
่
ปืนอยูในท่าเรียบอาวุธนัน ยกปืนสูงขึนจากพืนเล็กน้อย (ประมาณ ๑ ฝามือ) โดยจับถือปืนในท่าเดิม
่
แล้วยกปืนให้สงขึนในแนวดิง และบังคับให้ปืนแนบชิดอยูกบขาข้างขวา พยายามให้แนวปืนตังได้ฉาก
ู ่ ั
กับพืนดิน ข้อศอกขวางอเล็กน้อยตามธรรมชาติ ขณะเดียวกันนันให้ทหารเปิดปลายเท้าขวาให้สงขึน ู
จากพืนเล็กน้อยโดยพยายามกดส้นเท้าให้ตรึงอยูกบที และเปิดส้นเท้าซ้ายให้ปลายเท้าซ้ายกดแน่ นไว้
่ ั
กับพืนเพือช่วยในการทรงตัวขณะหมุนตัว แล้วใช้ตะโพกเหวียงตัวไปทางขวาจนลําตัวหมุนไปได้ ๙๐
องศา โดยใช้สนเท้าขวาเป็ นจุดหมุน ขณะทีหมุนตัวไปนันจะต้องพยายามรักษาทรวดทรงของลําตัว
้
แขนและมือซ้ายบังคับให้อยูในลักษณะของท่าเรียบอาวุธตลอดเวลา เมือหมุนตัวไปได้ทแล้วทหารจะ
่ ี
ยืนอยูในลักษณะนําหนักตัวอยูบนเท้าข้างขวา ขาซ้ายเหยียดตึงไปทางด้านหลังทางซ้าย ส้นเท้าเปิด
่ ่
และบิดออกทางด้านนอกลําตัว
๑๐.๑.๒.๒ จังหวะสอง ชักเท้าซ้ายมาชิดกับเท้าขวาเพือยืนในลักษณะของท่า
เรียบอาวุธอย่างรวดเร็วและแข็งแรง ในขณะเดียวกันนันก็ให้ลดปืนให้ตําลงในแนวดิง จนกว่าพานท้าย
ปืนจะวางอยูบนพืนในลักษณะของท่าเรียบอาวุธโดยสมบูรณ์
่
๑๐.๑.๓ คําแนะนําสําหรับผูฝึก ในการฝึกปิดจังหวะ ผูฝึกจะต้องแจ้งให้ทหารทราบก่อนว่า
้ ้
จะฝึกท่าขวาหันแบบปิดจังหวะ แล้วใช้คาบอกเช่นเดียวกับท่าขวาหันเปิดจังหวะคือ “ขวา - หัน” เมือ
ํ
จะให้ทหารปฏิบตในจังหวะต่อไปก็ให้ใช้คาบอก “ต่อไป”
ั ิ ํ
๑๐.๒ ท่าซ้ายหัน (รูปที ๑๐)
๑๐.๒.๑ คําบอก “ซ้าย - หัน” (คําบอกแบ่ง)
๑๐.๒.๒ การปฏิบตท่านีแบ่งการปฏิบตออกเป็ น ๒ จังหวะ ดังต่อไปนี
ั ิ ั ิ
๑๐.๒.๒.๑ จังหวะหนึง เมือได้ยนคําบอก “ซ้าย - หัน” ให้ทหารใช้มอขวาทีจับ
ิ ื
่ ่
ถือปืนอยูในท่าเรียบอาวุธนัน ยกปืนสูงขึนจากพืนเล็กน้อย (ประมาณ ๑ ฝามือ) โดยให้จบปืนในท่า ั
เดิมแล้วยกปืนให้สงขึนในแนวดิง และบังคับให้ปืนแนบชิดอยูกบขาข้างขวา พยายามให้ปืนตังได้ฉาก
ู ่ ั
กับพืนดิน ข้อศอกขวางอเล็กน้อยตามธรรมชาติ ขณะเดียวกันนันให้ทหารเปิดปลายเท้าซ้ายให้สงขึน ู
จากพืนเล็กน้อยโดยพยายามกดส้นเท้าให้ตรึงอยูกบที และเปิดส้นเท้าขวาใช้ปลายเท้าขวากดแน่ นไว้
่ ั
กับพืนเพือช่วยในการทรงตัวขณะหมุนตัว แล้วใช้ตะโพกเหวียงตัวไปทางซ้ายจนลําตัวหมุนไปได้
๙๐ องศา โดยใช้สนเท้าซ้ายเป็ นจุดหมุน ขณะทีหมุนตัวไปนันจะต้องรักษาทรวดทรงของลําตัว แขน
้
และมือซ้ายให้อยูในลักษณะท่าเรียบอาวุธอยูตลอดเวลา เมือหมุนตัวไปได้ทแล้วทหารจะยืนอยูใน
่ ่ ี ่
ลักษณะนําหนักตัวอยูบนเท้าข้างซ้าย ขาขวาเหยียดตึงไปทางด้านหลังทางขวา ส้นเท้าเปิดและบิด
่
ออกทางด้านนอกลําตัว
๑๑
- 13. - ๑๒ -
เริมจังหวะหนึง (๑๐/๑ ก.) สินสุดจังหวะหนึง (๑๐/๑ ข.) จังหวะสอง (๑๐/๒)
รูปที ๑๐ ท่าซ้ายหัน
๑๐.๒.๒.๒ จังหวะสอง ชักเท้าขวามาชิดกับเท้าซ้ายเพือยืนในลักษณะของท่า
เรียบอาวุธอย่างรวดเร็วและแข็งแรง ในขณะเดียวกันนันก็ให้ลดปืนให้ตําลงในแนวดิง จนกว่าพานท้าย
ปืนจะวางอยูบนพืนในลักษณะของท่าเรียบอาวุธโดยสมบูรณ์
่
๑๐.๒.๓ คําแนะนําสําหรับผูฝึก ในการฝึกปิดจังหวะผูฝึกจะต้องแจ้งให้ทหารทราบก่อน
้ ้
ว่าจะฝึกท่าซ้ายหันแบบปิดจังหวะ แล้วใช้คาบอกเช่นเดียวกับท่าซ้ายหันเปิดจังหวะ คือ “ซ้าย - หัน”
ํ
เมือจะให้ทหารปฏิบตในจังหวะต่อไปก็ให้ใช้คาบอก “ต่อไป”
ั ิ ํ
๑๐.๓ ท่ากลับหลังหัน (รูปที ๑๑)
๑๐.๓.๑ คําบอก “กลับหลัง - หัน” (คําบอกแบ่ง)
๑๐.๓.๒ การปฏิบติ ท่านีแบ่งการปฏิบตออกเป็ น ๒ จังหวะดังต่อไปนี
ั ั ิ
๑๐.๓.๒.๑ จังหวะหนึง เมือได้ยนคําบอก “กลับหลัง - หัน” ให้ทหารใช้มอขวาที
ิ ื
่ ู ่
จับถือปืนอยูในท่าเรียบอาวุธนัน ยกปืนให้สงขึนจากพืนเล็กน้อย (ประมาณ ๑ ฝามือ) ในแนวดิงโดย
ให้จบปืนในท่าเดิมแล้วยกปืนให้สงขึนในแนวดิง และบังคับให้ปืนแนบชิดอยูกบขาข้างขวาพยายาม
ั ู ่ ั
ให้ปืนตังได้ฉากกับพืนดิน ข้อศอกขวางอเล็กน้อยตามธรรมชาติ ขณะเดียวกันนันให้ทหารเปิดปลาย
เท้าขวาให้สงขึนจากพืนเล็กน้อย โดยพยายามกดส้นเท้าให้ตรึงอยูกบที และเปิดส้นเท้าซ้ายใช้ปลาย
ู ่ ั
เท้ากดไว้กบพืน เพือช่วยในการทรงตัวขณะหมุนตัวแล้วใช้ตะโพกเหวียงตัวไปทางขวา
ั
๑๒
- 14. - ๑๓ -
เริมจังหวะหนึง (๑๑/๑ ก.) เปลียนรูป (๑๑/๑ ข.) จังหวะสอง (๑๑/๒)
รูปที ๑๑ ท่ากลับหลังหัน
จนได้ ๑๘๐ องศา (กลับหน้าเป็ นหลัง) ด้วยการใช้สนเท้าขวาเป็ นจุดหมุน ขณะเดียวกันนันให้เหวียง
้
เท้าซ้ายไปทางซ้ายตามจังหวะการหมุนตัว และเมือหมุนตัวไปได้ทแล้ว (๑๘๐ องศา) ให้นําปลาย
ี
เท้าซ้ายไปแตะพืนไว้ทางด้านหลังในทิศทางเฉียงไปข้างหลังทางซ้าย ส้นเท้าเปิด เข่าเหยียดตึง
ในขณะทีหมุนตัวไปนันจะต้องพยายามรักษาทรวดทรงของลําตัว และวางมือซ้ายให้อยูในลักษณะของ
่
ท่าเรียบอาวุธตลอดเวลาด้วย เมือหมุนตัวไปได้ทแล้วนําหนักตัวอยูบนเท้าขวา ขาซ้ายเหยียดตึง
ี ่
ปลายเท้าข้างซ้ายวางอยูทางด้านหลังทางซ้าย ส้นเท้าเปิดและบิดออกข้างนอกลําตัว
่
๑๐.๓.๒.๒ จังหวะสอง ชักเท้าซ้ายมาชิดกับเท้าขวาเพือยืนในลักษณะของท่า
เรียบอาวุธอย่างรวดเร็วและแข็งแรง ในขณะเดียวกันนันก็ให้ลดปืนให้ตําลงในแนวดิง จนกว่าพานท้าย
ปืนจะวางอยูบนพืนในลักษณะของท่าเรียบอาวุธโดยสมบูรณ์
่
๑๐.๓.๓ คําแนะนําสําหรับผูฝึก ในการฝึกปิดจังหวะผูฝึกจะต้องแจ้งให้ทหารก่อนว่าจะฝึก
้ ้
ท่ากลับหลังหันแบบปิดจังหวะ แล้วใช้คาบอกเช่นเดียวกับท่ากลับหลังหันเปิดจังหวะ คือ “ กลับหลัง
ํ
– หัน ” เมือจะให้ทหารปฏิบตในจังหวะต่อไปก็ให้ใช้คาบอก “ ต่อไป ”
ั ิ ํ
สําหรับท่าหันอยูกบทีนี นอกเหนือไปจากท่าขวาหัน, ท่าซ้ายหัน, และท่ากลับหลังหันตามทีได้
่ ั
กล่าวไปแล้ว อาจจะให้ทาท่ากึงขวาหรือท่ากึงซ้ายหันอีกก็ได้ ส่วนการปฏิบตในท่าดังกล่าวนี ก็คงมี
ํ ั ิ
ลักษณะเช่นเดียวกันกับท่าขวาหันหรือท่าซ้ายหันนันเอง จะแตกต่างกันเฉพาะให้ทาท่าหันไปทางขวา
ํ
หรือทางซ้ายเพียง ๔๕ องศา เท่านัน
๑๓
- 15. - ๑๔ -
๑๑. ท่าคอนอาวุธ
ท่าคอนอาวุธแบ่งการปฏิบตออกเป็ น ๒ ท่า คือ ท่าคอนอาวุธ, และท่าเรียบอาวุธ
ั ิ
๑๑.๑ ท่าคอนอาวุธ (รูปที ๑๒)
๑๑.๑.๑ คําบอก “คอน, อาวุธ” (คําบอกเป็ นคํา ๆ)
๑๑.๑.๒ การปฏิบติ เมือได้ยนคําบอก “คอน, อาวุธ” ให้ทหารใช้มอขวาทีจับถือปืนอยู่
ั ิ ื
่
ในท่าเรียบอาวุธนัน มากํารอบบริเวณใต้ศูนย์หน้าในลักษณะหันฝามือเข้าหาลําตัว พร้อมกับยกปืนให้
สูงขึนจากพืนในแนวดิงมากดแนบไว้กบตะโพกประมาณใต้เข็มขัดเล็กน้อย โดยข้อศอกขวากางออก
ั
ตามธรรมชาติ แล้วผลักปากลํากล้องปืนเฉียงออกไปข้างหน้า และพานท้ายปืนชีเฉียงไปทางข้างหลัง
ให้แนวตัวปืนทํามุมกับลําตัว ประมาณ ๑๕ องศา ส่วนอืน ๆ ของร่างกายยังคงอยูในลักษณะท่า
่
เรียบอาวุธ
ด้านหน้า (๑๒ ก.) ด้านขวา (๑๒ ข.)
รูปที ๑๒ ท่าคอนอาวุธ
๑๑.๒ ท่าเรียบอาวุธ (จากท่าคอนอาวุธ)
๑๑.๒.๑ คําบอก “เรียบ, อาวุธ” (คําบอกเป็ นคํา ๆ)
๑๑.๒.๒ การปฏิบติ เมือได้ยนคําบอก “เรียบ, อาวุธ” ให้เลือนมือขวาทีกําปืนอยูในท่า
ั ิ ่
คอนอาวุธค่อย ๆ ลดปืนตําลงไปในแนวดิง ในขณะเดียวกันนันก็ให้เปลียนมือจากท่ากํามือใต้
ศูนย์หน้าไปเป็ นการจับปืนในท่าเรียบอาวุธคือจับปืนทางด้านสันตรงส่วนใดก็ได้ โดยไหล่ขวาไม่เอียง
๑๔
- 16. - ๑๕ -
และให้สนปืนอยูระหว่างนิวหัวแม่มอกับนิวชี พยายามรักษาแนวปืนให้ตงตรงในแนวดิง จากนันก็ลด
ั ่ ื ั
ปืนลงจนกว่าพานท้ายปืนจะวางอยูบนพืนในลักษณะของท่าเรียบอาวุธ โดยไม่กระแทกแล้วยืนอยูใน
่ ่
ท่าเรียบอาวุธ
๑๑.๓ คําแนะนําสําหรับผูฝึก
้
๑๑.๓.๑ ในการดําเนินการฝึกผูฝึกจะต้องให้ทหารเรียนรูทงท่าคอนอาวุธและท่าเรียบอาวุธ
้ ้ ั
เสียก่อนแล้วจึงจะเริมให้ทหารฝึกปฏิบติั
๑๑.๓.๒ ผูฝึกควรอธิบายเพิมเติมให้ทหารทราบว่าท่าคอนอาวุธนี เป็ นท่าทีนําไปใช้ใน
้
โอกาสทีทหารจะต้องเคลือนทีระยะใกล้ ๆ ขณะถืออาวุธปืนเล็กทังในขณะทีอยูตามลําพังและอยูใน
่ ่
แถวภายใต้การควบคุม เช่น ทหารได้ยนผูควบคุมแถวให้คาบอก “ข้างหน้า ๕ ก้าว, หน้า - เดิน”
ิ ้ ํ
“ก้าวทางขวา ๗ ก้าว, ทํา” หรือ “ก้าวถอยหลัง ๖ ก้าว , ทํา” เป็ นต้น ก่อนทีทหารจะปฏิบตตาม ั ิ
คําสัง ทหารจะต้องทําท่าคอนอาวุธเองตามลําพังก่อนโดยไม่ตองรอคําสัง และเมือได้ปฏิบตการ
้ ั ิ
เคลือนทีไปครบตามจํานวนก้าวทีผูควบคุมแถวสังแล้ว ให้ทาท่าเรียบอาวุธเองโดยไม่ตองรอคําสัง
้ ํ ้
เช่นเดียวกัน
๑๑.๓.๓ หากประสงค์จะให้แถวทหารเคลือนทีไปข้างหน้าระยะค่อนข้างไกลและประสงค์
ให้ทหารถือปืนในท่าคอนอาวุธ ก็ยอมจะกระทําได้โดยให้ผควบคุมแถวใช้คาบอกดังนี “คอน, อาวุธ”
่ ู้ ํ
“หน้า - เดิน” “แถว - หยุด” “เรียบ , อาวุธ” ตามลําดับเป็ นต้น และในกรณีเช่นนีทหารจะทําท่าคอน
อาวุธและท่าเรียบอาวุธเองโดยอัตโนมัตไม่ได้คงปฏิบตไปตามคําสังของผูควบคุมแถว
ิ ั ิ ้
๑๑.๓.๔ ในการฝึกควรจะได้ให้ทหารปฏิบตท่าคอนอาวุธ ทังโดยมีการสังการและไม่ตอง
ั ิ ้
สังการทังสองกรณี
๑๒. ท่าเฉี ยงอาวุธ
ท่าเฉียงอาวุธแบ่งการปฏิบตออกเป็ น ๒ ท่า คือ ท่าเฉียงอาวุธ และท่าเรียบอาวุธ
ั ิ
๑๒.๑ ท่าเฉียงอาวุธ (รูปที ๑๓)
๑๒.๑.๑ คําบอก “เฉียง, อาวุธ” (คําบอกเป็ นคํา ๆ)
๑๒.๑.๒ การปฏิบติ ท่านีแบ่งการปฏิบตออกได้เป็ น ๒ ตอน ดังต่อไปนีคือ
ั ั ิ
๑๒.๑.๒.๑ ตอนทีหนึง เมือได้ยนคําบอก “เฉียง, อาวุธ” ให้ทหารใช้มอขวาที
ิ ื
จับปืนอยูในท่าเรียบอาวุธนัน ยกปืนขึนเฉียงผ่านไปทางข้างหน้า พร้อมกับเปลียนท่าการจับถือปืนไป
่
เป็ นท่ากําปืนแบบท่าคอนอาวุธ ให้ดามปืนหันไปทางข้างหน้าปากลํากล้องปืนชีไปทางเบืองบน
้
ด้านซ้าย พานท้ายปืนชีไปทางเบืองล่างด้านขวา ให้ปืนไปหยุดอยูตรงข้างหน้าลําตัว บังคับให้
่
่ ่ ่
กระบอกปืนอยูในลักษณะทะแยงกับลําตัว และอยูห่างจากลําตัวประมาณหนึงฝามือ ลํากล้องปืนเฉียง
ขึนบนอยูประมาณหน้าไหล่ซาย พานท้ายปืนอยูทางขวาของตะโพกขาขวา มือขวากําปืนสูงเสมอ
่ ้ ่
ระดับไหล่ซาย กางข้อศอกขวาออกจนแขนท่อนบนขนานกับพืนระดับ ขณะเดียวกันนันก็ให้ยกมือ
้
ซ้ายมาจับปืนในลักษณะกํารอบใต้มอขวา ประมาณกึงกลางฝาประกับลํากล้องปืน (ปลย. เอ็ม.๑๖)
ื
๑๕
- 17. - ๑๖ -
่
หรือประมาณกึงกลางรองลํากล้องปืน (ปลย.๑๑) หันฝามือไปทางด้านขวาและบีบข้อศอกซ้ายแนบชิด
กับลําตัว
ตอนทีหนึง (๑๓/๑) ตอนทีสอง (๑๓/๒)
รูปที ๑๓ ท่าเฉี ยงอาวุธ
๑๒.๑.๒.๒ ตอนทีสอง ลดมือขวาลงไปกําคอปืนในลักษณะควําฝามือลง ่
ข้างล่างอย่างแข็งแรง และให้มอขวาอยูบริเวณระดับแนวเข็มขัดทางขวาของสะเอว ข้อศอกขวากาง
ื ่
ออกเล็กน้อยประมาณให้แนวแขนขวาท่อนล่างตังฉากกับแนวตัวปืน ยืนอยูในลักษณะท่าตรงแล้วนิง
่
๑๒.๒ ท่าเรียบอาวุธ (จากท่าเฉียงอาวุธ)
๑๒.๒.๑ คําบอก “เรียบ, อาวุธ” (คําบอกเป็ นคํา ๆ)
๑๒.๒.๒ การปฏิบติ ท่านีแบ่งการปฏิบตออกได้เป็ น ๓ ตอน ดังนี
ั ั ิ
๑๒.๒.๒.๑ ตอนทีหนึง เมือได้ยนคําบอก “เรียบ, อาวุธ” ให้ทหารปล่อยมือ
ิ
่
ขวาทีกําคอปืนขึนไปจับปืนในลักษณะกํารอบเหนือมือซ้ายหันฝามือไปทางด้านซ้าย กางข้อศอกขวา
ออกจนแขนท่อนล่างและแขนท่อนบนขนานกับพืนระดับ
๑๒.๒.๒.๒ ตอนทีสอง ปล่อยมือซ้าย แล้วใช้มอขวานําปืนลดลงไปอยูทางขวา
ื ่
ชิดข้างลําตัวทางด้านขวา ให้กระบอกปืนตังดิงได้ฉากกับพืนระดับ พร้อมกับเปลียนลักษณะการจับ
ปืนไปเป็ นการจับปืนด้วยนิวหัวแม่มออยูดานใน และนิวทังสีเรียงชิดกันอยูดานนอกแบะข้อศอกขวา
ื ่ ้ ่ ้
ไปทางข้างหลังจนรูสกว่าไหล่ขวาตึง ขณะทีลดปืนลงไปอยูขางลําตัวทางขวานันให้นํามือซ้ายไปจับ
้ ึ ่ ้
บริเวณปลอกลดแสง โดยให้นิวหัวแม่มออยูดานในและให้นิวทังสีซึงเรียงชิดกันอยูดานนอก ปลายนิว
ื ่ ้ ่ ้
ทังสีเฉียงลงข้างล่างทางขวาเล็กน้อย แล้วนําปากกระบอกปืนวางไว้ในร่องไหล่ขวา ยกศอกซ้ายสูงขึน
จนแขนท่อนล่างและท่อนบนขนานกับพืนระดับ ส่วนอืนของร่างกายอยูในลักษณะท่าตรง
่
๑๖
- 18. - ๑๗ -
ตอนทีหนึง (๑๔/๑) ตอนทีสอง (๑๔/๒) ตอนทีสาม (๑๔/๓)
รูปที ๑๔ ท่าเรียบอาวุธ (จากท่าเฉี ยงอาวุธ)
๑๒.๒.๒.๓ ตอนทีสาม ใช้มอขวาทีจับปืนอยูนน ลดปืนลงจนกว่าพานท้ายปืน
ื ่ ั
จะวางอยูบนพืนในลักษณะของท่าเรียบอาวุธโดยไม่กระแทก พร้อมกับปล่อยมือซ้ายแล้วสะบัดลงไป
่
อยูขางลําตัวอย่างแข็งแรงในท่าเรียบอาวุธแล้วนิง
่ ้
๑๒.๓ คําแนะนําสําหรับผูฝึก
้
๑๒.๓.๑ ในการฝึกปิดตอน ผูฝึกจะต้องแจ้งให้ทหารทราบก่อนว่า จะฝึกท่าเฉียงอาวุธ
้
และท่าเรียบอาวุธจากท่าเฉียงอาวุธแบบปิดตอน โดยใช้คาบอกเช่นเดียวกับเปิดตอน คือ
ํ
๑๒.๓.๑.๑ ท่าเฉียงอาวุธ ใช้คาบอก “เฉียง, อาวุธ” ให้ทหารปฏิบตเฉพาะตอน
ํ ั ิ
ทีหนึงแล้วค้างไว้ สําหรับตอนทีสองใช้คาบอก “ต่อไป”
ํ
๑๒.๓.๑.๒ ท่าเรียบอาวุธ ใช้คาบอก “เรียบ, อาวุธ” ให้ทหารปฏิบตเฉพาะตอน
ํ ั ิ
ทีหนึงแล้วค้างไว้ สําหรับตอนทีสองและตอนทีสาม ใช้คาบอก “ต่อไป” ทีละตอนตามลําดับ
ํ
๑๒.๓.๒ การฝึกท่าเรียบอาวุธ ผูฝึกจะต้องให้ทหารเรียนรูทงท่าเฉียงอาวุธและท่าเรียบ
้ ้ ั
อาวุธเสียก่อน แล้วจึงเริมฝึกปฏิบติ
ั
๑๒.๓.๓ อธิบายให้ทหารทราบว่า ท่าเฉียงอาวุธนีจะนําไปใช้ในโอกาสทีทหารจะต้อง
เคลือนทีในระยะไกล ขณะถืออาวุธปืนเล็กทังในขณะอยูตามลําพังและอยูในแถวภายใต้การควบคุม
่ ่
๑๗
- 19. - ๑๘ -
๑๓. ท่าอาวุธพร้อม
ท่าอาวุธพร้อมแบ่งการปฏิบตออกเป็ น ๒ ท่า คือ ท่าอาวุธพร้อม และท่าเรียบอาวุธ
ั ิ
๑๓.๑ ท่าอาวุธพร้อม (รูปที ๑๕)
ตอนทีหนึง (๑๕/๑) ตอนทีสอง (๑๕/๒) ตอนทีสาม (๑๕/๓)
รูปที ๑๕ ท่าอาวุธพร้อม
๑๓.๑.๑ คําบอก “พร้อม, อาวุธ” (คําบอกเป็ นคํา ๆ)
๑๓.๑.๒ การปฏิบติ ท่านีแบ่งการปฏิบตออกเป็ น ๓ ตอนดังต่อไปนี
ั ั ิ
๑๓.๑.๒.๑ ตอนทีหนึง เมือได้ยนคําบอก “พร้อม, อาวุธ” ให้ทหารใช้มอขวาทีจับ
ิ ื
ปืนอยูนน ยกปืนขึนให้เฉียงผ่านไปทางข้างหน้า พร้อมกับเปลียนท่าการจับปืนเป็ น ท่ากําปืนแบบท่า
่ ั
คอนอาวุธ ให้ดามปืนหันไปข้างหน้าแนวปืนเฉียงจากไหล่ซายมายังแนวโคนขาขวาในลักษณะ
้ ้
่ ่
ทะแยงกับลําตัว และอยูห่างจากลําตัวประมาณหนึงฝามือ มือขวากําปืนอยูเสมอระดับไหล่ซาย
่ ้
พานท้ายปืนอยูทางขวาของตะโพกขาขวา ข้อศอกขวากางออกจนแขนท่อนล่างและท่อนบนขนานกับ
่
พืนระดับ ขณะเดียวกันให้ยกมือซ้ายขึนจับปืนในลักษณะกํารอบใต้มอขวา หรือประมาณกึงกลาง
ื
ฝาประกับ ลํากล้องปืน (สําหรับ ปลย.เอ็ม.๑๖) หรือประมาณกึงกลางรองลํากล้องปืน (สําหรับ
่
ปลย.๑๑) หันฝามือไปทางด้านขวาและบีบศอกซ้ายแนบชิดกับลําตัว
๑๓.๑.๒.๒ ตอนทีสอง ลดมือขวาลงไปจับกําทีด้ามปืนในลักษณะนิวหัวแม่มอ ื
อยูทางด้านล่างและนิวทังสีเรียงชิดกันอยูดานบน โดยให้นิวชีเหยียดตรงทาบติดกับทางด้านขวาของ
่ ่ ้
โกร่งไก ต่อจากนันใช้มอซ้ายผลักกระบอกปืนให้เฉียงไปข้างหน้าทางขวาจนแขนเหยียดตึง มือขวาดึง
ื
พานท้ายปืนเข้าหาลําตัวให้พานท้ายปืนวางอยูทหน้าท้องทางขวาประมาณเหนือแนวเข็มขัด และให้
่ ี
พลิกปืนหงายไปทางขวาเล็กน้อย เพือให้ทางด้านขวาของพานท้ายปืนวางอยูบนแขนขวาท่อนล่าง
่
พยายามบีบข้อศอกขวาให้แนบชิดกับลําตัวแต่พอสบาย แนวปืนทํามุมประมาณ ๔๕ องศากับลําตัว
๑๘
- 20. - ๑๙ -
ขณะเดียวกันก็ให้แยกเท้าซ้ายออกไปทางซ้ายประมาณ ๓๐ ซม. หรือ ประมาณครึงก้าวอย่างแข็งแรง
และผึงผาย
๑๓.๑.๒.๓ ตอนทีสาม ให้ปล่อยมือซ้ายจากการจับถือปืนแล้วนํามือซ้ายไปวาง
ทาบไว้ทางเบืองหลังในลักษณะหันหลังมือเข้าหาลําตัวและแนบไว้ประมาณใต้แนวเข็มขัด ส่วนนิวทัง
ห้าเหยียดตรงเรียงชิดกัน แบะข้อศอกซ้ายออกไปข้างหน้าเล็กน้อยแต่พอสบาย ส่วนมือขวาให้ยกปาก
กระบอกปืนให้สงขึนเล็กน้อยเพือจับปืนได้อย่างมันคง การยืนต้องให้ขาทังสองข้างตึง นําหนักตัวอยู่
ู
บนเท้าทังสองเท่ากัน ยกอกให้ผงผาย จัดไหล่ทงสองข้างให้เสมอกัน ลําคอและใบหน้าตังตรง สายตา
ึ ั
มองตรงออกไปข้างหน้าในแนวระดับแล้วนิง
๑๓.๒ ท่าเรียบอาวุธ (จากท่าอาวุธพร้อม) รูปที ๑๖
๑๓.๒.๑ คําบอก “เรียบ, อาวุธ (คําบอกเป็ นคํา ๆ)
๑๓.๒.๒ การปฏิบติ ท่านีแบ่งการปฏิบตออกเป็ น ๔ ตอน ดังต่อไปนี
ั ั ิ
๑๓.๒.๒.๑ ตอนทีหนึง เมือได้ยนคําบอก “เรียบ, อาวุธ” ให้ทหารยกมือซ้าย
ิ
ไปจับปืนตรงประมาณกึงกลางฝาประกับลํากล้องปืน (สําหรับ ปลย.เอ็ม.๑๖) หรือประมาณกึงกลาง
รองลํากล้องปืน (สําหรับ ปลย.๑๑) แขนเหยียดตึงพร้อมกับชักเท้าซ้ายมาชิดเท้าขวาให้สนเท้าทังสอง
้
ชิดและอยูในแนวเดียวกัน ปลายเท้าทังสองข้างแบะออกไปทางข้างเท่า ๆ กัน และห่างกันประมาณ
่
หนึงคืบ
๑๓.๒.๒.๒ ตอนทีสอง ใช้มอซ้ายดึงลํากล้องปืนเข้าหาลําตัว พร้อมกับใช้มอ
ื ื
ขวาทีกําด้ามปืนอยูผลักพานท้ายปืนให้ห่างออกไปจากลําตัว โดยให้อยูในลักษณะทีให้กระบอกปืน
่ ่
่ ่
วางทะแยงและอยูห่างจากลําตัวประมาณหนึงฝามือคล้ายท่าเฉียงอาวุธ มือซ้ายสูงเสมอระดับไหล่ซาย ้
ข้อศอกซ้ายและข้อศอกขวาอยูห่างลําตัวเล็กน้อย ต่อจากนันให้ปล่อยมือขวาจากการกําด้ามปืนมาจับ
่
ปืนเหนือมือซ้ายในลักษณะกําปืนประมาณใต้ศูนย์หน้า ยกข้อศอกขวาให้สงจนแขนท่อนบน และท่อน
ู
ล่างขนานกับพืนระดับ
ตอนทีหนึง (๑๖/๑) ตอนทีสอง (๑๖/๒) ตอนทีสาม (๑๖/๓) ตอนทีสี (๑๖/๔)
รูปที ๑๖ ท่าเรียบอาวุธ (จากท่าอาวุธพร้อม)
๑๙