1. ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
โดย
นางสาวปาณิสรา สิงหพงษ์
นักศึกษาระดับปริญญาโท สาขาเทคโนโลยีการบริหารการศึกษา
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

2. ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (MIS)
(Management Information System )

3. ระบบสารสนเทศ
ระบบสารสนเทศ (Information System)
หมายถึง การรวบรวมองค์ประกอบต่างๆ เพื่อนาเข้า (Input) สู่ระบบ
ใดๆ แล้วนามาผ่านกระบวนการ (Process) เพื่อเรียบเรียง เปลี่ยนแปลง และ
จัดเก็บ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ (Output) ที่สามารถใช้สนับสนุนการตัดสินใจได้

4. เทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง เทคโนโลยีที่ประกอบขึ้นด้วยระบบจัดเก็บ
และประมวลผลข้อมูล ระบบสื่อสารโทรคมนาคม และอุปกรณ์สนับสนุนการ
ปฏิบัติงานด้านสารสนเทศที่มีการวางแผน จัดการ และใช้งานร่วมกันอย่างมี
ประสิทธิภาพ

5. คุณลักษณะของสารสนเทศ
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
มีความถูกต้อง (Accurate)
มีความสมบูรณ์ (Complete)
มีความคุ้มทุน (Economical)
มีความยืดหยุ่น (Flexible)
มีความเชื่อถือได้ (Reliable)
ตรงประเด็น (Relevant)
มีความง่าย (Simple)
มีความเหมาะสมกับสถานการณ์
ปัจจุบัน (Timely)
9. สามารถตรวจสอบได้ (Verifiable)

6. ระบบฐานข้อมูล
แนวความคิดของฐานข้อมูล
การใช้งานฐานข้อมูลเดียวสาหรับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันทั้งหมด โดย
ฐานข้อมูลดังกล่าวจะถูกควบคุมโดยซอฟต์แวร์ชุดหนึ่ง และมีการดูแล
โดยผู้ใช้กลุ่มต่างๆ กัน เป้าหมาย คือ การที่ข้อมูลแต่ละชุดถูกป้อนและ
จัดเก็บเพียงครั้งเดียว ผู้ใช้ที่ได้รับสิทธิ์ทุกคนสามารถเรียกใช้ข้อมูลที่
จัดเก็บอยู่ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว
ระบบฐานข้อมูลจะประกอบขึ้นจากคอมพิวเตอร์
ฮาร์ดแวร์
ซอฟต์แวร์ และผู้ใช้งาน นั่นก็คือ การทางานร่วมกันของฐานข้อมูล
ระบบจัดการฐานข้อมูล และบุคคลที่ใช้งานฐานข้อมูลนั้น

7. ประโยชน์ของฐานข้อมูล
 ลดความซ้าซ้อนของข้อมูล
 เพิ่มความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของข้อมูล
 ทาให้ข้อมูลเป็นอิสระ
 เพิ่มความสะดวกในการรวบรวม
และการแบ่งกันใช้ข้อมูล
 เพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงข้อมูล
 รวมศูนย์ความปลอดภัย
 ลดค่าใช้จ่าย

8. ความแตกต่างระหว่างข้อมูลกับสารสนเทศ
ข้อมูล (Data) คือ เหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นประจาวัน
ในการดาเนินธุรกิจขององค์กร ข้อมูลอาจเป็นได้หลายชนิด
เช่น ตัวเลข ตัวอักษร รูปภาพ รูปถ่าย หรือแม้กระทั่งเสียง
สารสนเทศ (Information) คือ ข้อมูลที่ผ่าน
กระบวนการเก็บรวบรวมและเรียบเรียง เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลที่
เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้
สารสนเทศที่ดี จะช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้
ถูกต้องแม่นยาขึ้น และช่วยให้การประมาณการในด้านต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนหรือยอดขายใกล้เคียงกับความเป็นจริง
ที่จะเกิดขึ้นได้มากที่สุด

9. คุณสมบัตของระบบสารสนเทศสาหรับผู้บริหาร
ิ

สนับสนุนการวางแผนกลยุทธ์
(Strategic Planning Support)

เชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อมภายนอกองค์กร
(External Environment Focus)


มีความสามารถในการคานวณภาพกว้าง
ง่ายต่อการเรียนรู้และใช้งาน
(Exceptional Ease of Learning and Use)

พัฒนาเฉพาะสาหรับผู้บริหาร
(Customization)

10. ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
(Management Information System : MIS)
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ หมายถึง ระบบที่รวบรวมและจัดเก็บ
ข้ อ มู ล จากแหล่ ง ข้ อ มู ล ต่ า งๆ ทั้ ง ภายใน และภายนอกองค์ ก ารอย่ า งมี
หลั ก เกณฑ์ เพื่ อ น ามาประมวลผลและจั ด รู ป แบบให้ ไ ด้ ส ารสนเทศที่ ช่ ว ย
สนับสนุนการทางานและการตัดสินใจในด้านต่าง ๆ ของผู้บริหารเพื่อให้การ
ดาเนินงานขององค์การเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

11. หน้าที่หลักของ MIS
1. เก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ
ทั้งจากภายในและภายนอกองค์การมา
ไว้ด้วยกันอย่างเป็นระบบ
2.
2 ทาการประมวลผลข้อมูลอย่างมี
ประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้สารสนเทศที่
ช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงานและการ
บริหารงานของผู้บริหาร

12. ลักษณะของระบบ MIS ที่ดี
สนับสนุนการทางานของระบบประมวลผล
ข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลรายวัน
 ใช้ฐานข้อมูลที่ถูกรวมเข้าด้วยกัน และสนับสนุน
ฐานข้
การทางานของฝ่ายต่าง ๆ ในองค์กร
 ช่วยให้ผู้บริหารระดับต้น ระดับกลาง และ
ระดับสูง เรียกใช้ข้อมูลที่เป็นโครงสร้างได้ตาม
เวลาที่ต้องการ
 มีความยืดหยุ่นและสามารถรองรับความ
ต้องการข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไปขององค์กร
 มีระบบรักษาความลับของข้อมูล และจากัดการ
ระบบรั
ใช้งานของบุคลเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น


13. องค์ประกอบของระบบ MIS
1) เครื่องมือในการสร้างระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
 ฐานข้อมูล (Data Base)
 เครื่องมือ (Tools)
2)
2 วิธีการหรือขั้นตอนการประมวลผล : มีการจัดลาดับ วางแผนงานและ
วิธีการประมวลผลให้ถูกต้อง เพื่อให้ได้ข้อมูลหรือสารสนเทศที่ต้องการ
3)
3 การแสดงผลลัพธ์ : ขึ้นอยู่กับลักษณะของข้อมูล และลักษณะของการ
นาไปใช้งาน

14. วิธีการหรือขั้นตอนการประมวลผล

15. คุณสมบัตทสาคัญของ MIS
ิ ี่
ข้ อ 1
ข้ อ 2
ความ
ความ
สามารถในการ ปลอดภัยของ
ข้ อมูล
จัดการข้ อมูล
(Data
Manipulation)
(Data Security)
ข้ อ 3
ข้ อ 4
ความ
ยืดหยุ่น
ความพอใจ
ของผู้ใช้
(Flexibility)
(User
Satisfaction)

16. ประโยชน์ของระบบ MIS
1) ช่วยให้ผใช้สามารถเข้าถึงสารสนเทศที่ต้องการ
ู้
ได้อย่างรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์
2) ช่วยผู้ใช้ในการกาหนดเป้าหมายกลยุทธ์และ
การวางแผนปฏิบัติการ
3) ช่วยผู้ใช้ในการตรวจสอบประเมินผลการ
ดาเนินงาน
4) ช่วยผู้ใช้ในการศึกษาและวิเคราะห์สาเหตุของ
ปัญหา
5) ช่วยให้ผใช้สามารถวิเคราะห์ปัญหาหรือ
ู้
อุปสรรคที่เกิดขึ้น
6) ช่วยลดค่าใช้จ่าย

17. ระบบสารสนเทศกับสถานศึกษา

18. การใช้คอมพิวเตอร์ในการบริหารโรงเรียน
(School Administration)
งานสานักงานและสารบรรณ

19. สารสนเทศงานวิชาการ
งานวิชาการถือว่าเป็นหัวใจของการบริหารการศึกษา เพราะจุดมุ่งหมาย
ของสถานศึ ก ษาก็ คื อ การจั ด การศึ ก ษาให้ มี คุ ณ ภาพ ซึ่ ง ขึ้ น อยู่ กั บ งาน
วิชาการทั้งสิ้น งานวิชาการเป็นกิจกรรมการจัดการเกี่ยวกับงานด้านหลักสูตร
การนาหลักสูตรไปใช้ แบบเรียน งานการเรียนการสอน งานสื่อการเรียน
การสอน งานวัดผลและประเมินผล งานห้องสมุด งานนิเทศการศึกษา
งานวางแผนการศึกษา และงานประชุมอบรมทางวิชาการ เพื่อส่งเสริมให้
ผู้เรียนบรรลุจุดหมายของการศึกษาที่กาหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพสูง

20. สารสนเทศงานวิชาการ
จัดตารางสอน / จัดห้องเรียน
การจัดหลักสูตร

21. คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
(Computer Assisted Instruction)
CAI หมายถึง การเรียนการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง
นักจิตวิทยา ชาวอเมริกาชื่อ บี เอฟ สกินเนอร์ (B .F. Skinner) ได้
ประดิษฐ์คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (teaching machine) ขึ้นมาในทศวรรษ
ที่ 1950 ซึ่ง เป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาโปรแกรมการเรียนด้วยตนเอง
โดยใช้ เ ครื่ อ งคอมพิ ว เตอร์ ซึ่ ง ได้ รั บ ความสนใจ และเป็ น ที่ รู้ จั ด ในวงการ
การศึกษาอย่างกว้างขวาง คอมพิวเตอร์ช่วยสอนเป็นระบบการศึกษาที่นาเอา
อุปกรณ์การสอนต่าง ๆ เช่น ตาราเรียนที่ใช้กับหลักการการเรียนรู้นั้นมา
โปรแกรมเอาไว้ในคอมพิวเตอร์ ( เรียกว่า programmed instruction)
เพื่อให้ผู้เรียนสามารถใช้อุปกรณ์เหล่านั้นเพื่อการศึกษาได้

22. คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
(Computer Assisted Instruction)

23. การประยุกต์ทางด้านห้องสมุด

24. เทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต
1) คอมพิวเตอร์ (Computer)
2) ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence ; AI)
3) ระบบสารสนเทศสาหรับผู้บริหาร
(Executive Information System ; EIS)
4)
4 การจดจาเสียง (Voice Recognition)
5)
5 การแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
(Electronics Data Interchange ; EDI)
6)
6 เส้นใยแก้วนาแสง (Fiber Optics)
7)
7 อินเตอร์เน็ต (Internet)
8)
8 ระบบเครือข่าย (Networking System)

25. เทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต
9) การประชุมทางไกล (Teleconference)
10)
10 โทรทัศน์ตามสายและผ่านดาวเทียม (Cable and Sattlelite TV)
11)
11 เทคโนโลยีมัลติมเี ดีย (Multimedia Technology)
12)
12 การใช้คอมพิวเตอร์ในการฝึกอบรม (Computer Based Training)
13)
13 การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบ
(Computer Aided Design ; CAD)
14)
14 การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการผลิต
(Computer Aided Manufacturing ; CAM)
15)
15 ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์
(Geographic Information System ; GIS)

26. สรุปการนาหลักการ MIS ไปใช้ในองค์การ
แนวโน้มของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศขององค์การ แสดงให้เห็นได้
ว่าในอนาคตผู้ที่จะเป็นนักบริหารที่ประสบความสาเร็จจะต้องไม่เพียงแค่รู้จัก
คอมพิวเตอร์ แต่จะต้องสามารถใช้คอมพิวเตอร์อย่างมีประสิทธิภาพ และ
รู้จักการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยผู้บริหารในอนาคตจะต้องรู้จัก
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีกับงานของตนเอง มีความคิดในการที่จะสร้าง
ระบบสารสนเทศที่ตนเองต้องการ เพื่อช่วยในการตัดสินใจในภาวะที่มีการ
แข่ ง ขั น สู ง ท าให้ ก ารบริ ห ารของตนเองมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ และประสบ
ความสาเร็จอย่างสูงสุด

27. จบการนาเสนอ
สวัสดีค่ะ