Naranjo
- 1. Naranjo's algorithm: สําหรับประเมินความสัมพันธระหวางอาการไมพึงประสงคกับยาที่สงสัย
ชื่อผูปวย..................................................................................HN……………………………..อายุ…………………
ยาที่สงสัย.……….… …………………….. อาการไมพึงประสงค …………………………….…….……………
เลขที่แบบรายงาน ……………………… โรงพยาบาล ….………………………………………………..
คําถาม ใช ไมใช ไมทราบ คะแนน
1. เคยมีสรุปหรือรายงานการปฏิกิริยานี้มาแลวหรือไม +1 0 0
2. อาการไมพึงประสงคนี้เกิดขึ้นภายหลังจากไดรับยาที่คิดวาเปน
สาเหตุหรือไม
+2 -1 0
3. อาการไมพึงประสงคนี้ดีขึ้นเมื่อหยุดยาดังกลาว หรือเมื่อใหยา
ตานที่จําเพาะเจาะจง (specific antagonist) หรือไม
+1 0 0
4. อาการไมพึงประสงคดังกลาวเกิดขึ้นอีกเมื่อเริ่มใหยาใหม
หรือไม
+2 -1 0
5. ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นสามารถเกิดจากสาเหตุอื่น (นอกเหนือจากยา)
ของผูปวยไดหรือไม
-1 +2 0
6. ปฏิกิริยาดังกลาวเกิดขึ้นอีก เมื่อใหยาหลอกหรือไม -1 +1 0
7. สามารถตรวจวัดปริมาณยาไดในเลือด (หรือของเหลวอื่น) ใน
ปริมาณความเขมขนที่เปนพิษหรือไม
+1 0 0
8. ปฏิกิริยารุนแรงขึ้น เมื่อเพิ่มขนาดยาหรือลดความรุนแรงลงเมื่อ
ลดขนาดยาหรือไม
+1 0 0
9. ผูปวยเคยมีปฏิกิริยาที่เหมือนหรือคลายคลึงกันนี้มากอน ในการ
ไดรับยาครั้งกอน ๆ หรือไม
+1 0 0
10. อาการไมพึงประสงคนี้ ไดรับการยืนยันโดยหลักฐานที่เปน
รูปธรรม (objective evidence)หรือไม
+1 0 0
รวม
สรุป ระดับคะแนน คะแนนมากกวาหรือเทากับ 9 Definite ใชแน
คะแนนเทากับ 5-8 Probable ใช
คะแนนเทากับ 1-4 Possible อาจจะใช
คะแนนนอยกวาหรือเทากับ 0 Doubtful นาสงสัย
ลงชื่อ .....................................ผูประเมิน
วันที่........................................
- 2. คําแนะนําการกรอก Naranjo's algorithm
คําแนะนําทั่วไป
1. แบบ Naranjo,s algorithm 1 ฉบับ ใชประเมินความสัมพันธระหวางอาการไมพึงประสงค 1 ชนิด กับยา 1 ชนิด
2. Naranjo,s algorithm ประกอบดวย คําถาม 10 ขอ โดยมีคะแนนกํากับในกรณีที่ตอบ "ใช" "ไมใช" หรือ "ไมทราบ" นํา
คะแนนที่ตอบไดมารวมกันแลวจัดลําดับคะแนน
คะแนนนอยกวา 1 เปนระดับ "Doubtful" (นาสงสัย)
คะแนนเทากับ 1-4 เปนระดับ "Possible" (อาจจะใช)
คะแนนเทากับ 5-8 เปนระดับ "Probable" (นาจะใช)
คะแนนมากกวา 8 ขึ้นไป ระดับ "Definite" (ใชแน)
3.
บันทึกชื่อยาที่สงสัย และความผิดปกติที่พบ ชื่อโรงพยาบาล พรอมเลขที่รายงาน(ศูนยแมขาย) ในแบบ Naranjo's
algorithm
คําอธิบายคําถามในแบบ Naranjo's algorithm
ขอที่ 1 เคยมีสรุปหรือรายงานการเกิดปฏิกิริยานี้มาแลวหรือไม
หมายถึง : อาการไมพึงประสงคที่เกิดขึ้น เคยมีการสรุปหรือรายงานมากอนวา มีความ สัมพันธกับยาที่สงสัยใช
หรือไม
วิธีบันทึก :
(1) กรณีที่เคยมีสรุปหรือรายงานมากอน เชน ยา Penicillin ทําใหเกิดผื่นคัน ใหบันทึกคะแนน = +1
(2) กรณีที่ไมเคยมีการสรุปหรือรายงานมากอนใหบันทึกคะแนน = 0
(3) กรณีที่ไมทราบวาเคยมีการสรุป หรือรายงานมากอนหรือไมใหบันทึกคะแนน = 0
ขอที่ 2 อาการไมพึงประสงคนี้เกิดขึ้นภายหลังจากไดรับยาที่สงสัยวาเปนสาเหตุ หรือไม
หมายถึง : อาการไมพึงประสงคที่เกิดขึ้น พบวาเกิดขึ้นในชวงเวลาภายหลังจากที่ไดรับยาที่สงสัยใชหรือไม
วิธีบันทึก :
(1)
กรณีที่อาการไมพึงประสงคนั้นเกิดภายหลังจากไดรับยาที่สงสัย เชน รับประทานยา penicillin วันที่ 10
มกราคม 2543 ตอนบายหรือเกิดหลังจากวันที่ 10 มกราคม 2543 ตอนเชาเกิดอาการผื่นคัน ใหบันทึก
คะแนน = +2
(2)
กรณีที่อาการไมพึงประสงคนั้น เกิดขึ้นกอนวันที่ไดรับยาที่สงสัย เชนpenicillin วันที่ 10 มกราคม 2544
แตเกิดอาการผื่นคันวันที่ 9 มกราคม 2544 หรือกอนหนานั้น ใหบันทึกคะแนน = -1
(3) กรณีไมทราบขอมูลวันที่เกิดอาการไมพึงประสงค และวันที่ไดรับยา ใหบันทึกคะแนน = 0
ขอที่ 3 อาการไมพึงประสงคนี้ดีขึ้นเมื่อหยุดยาดังกลาวหรือเมื่อใหยาตานที่จําเพาะเจาะจง (specific antagonist) หรือไม
- 3. หมายถึง : อาการไมพึงประสงคที่เกิดขึ้น มีอาการดีขึ้นเมื่อหยุดยาที่สงสัย หรือเมื่อไดรับยาตานอาการที่จําเพาะเจาะจง
ใชหรือไม
วิธีบันทึก :
(1)
กรณีที่อาการไมพึงประสงคมีอาการดีขึ้น เมื่อหยุดยาที่สงสัย เชน เกิดอาการผื่นคัน หลังจากการไดรับ
ยา penicillin และเมื่อหยุดยา penicillin หรือเมื่อใหยาตานที่เฉพาะเจาะจงปรากฎวาอาการผื่นคัน
บรรเทาหรือหายไป บันทึกคะแนน = +1
(2)
กรณีที่อาการไมพึงประสงคไมดีขึ้น แมวาจะมีการหยุดยาที่สงสัย หรือเมื่อมีการใหยาตานเฉพาะเจาะจง
เชนเกิดอาการผื่นคัน หลังจากไดรับยา penicillin แตเมื่อหยุดยา penicillin หรือใหยาตานเฉพาะเจาะจง
แลวปรากฏวาผื่นคันยังคงอยูไมทุเลา ใหบันทึกคะแนน = 0
(3)
กรณีไมมีหรือไมทราบขอมูลอาการไมพึงประสงคภายหลังหยุดใชยา หรือภายหลังไดยาตาน
เฉพาะเจาะจง ใหบันทึกคะแนน = 0
ขอที่ 4 อาการไมพึงประสงคดังกลาวเกิดขึ้นอีกเมื่อเริ่มใหยาใหมซ้ําหรือไม
หมายถึง : อาการไมพึงประสงคดังกลาว เกิดขึ้นซ้ําอีกหรือไมเมื่อมีการใหยาที่สงสัยซ้ําอีกครั้ง
วิธีบันทึก :
(1)
กรณีที่เกิดอาการไมพึงประสงคแลวอาการดังกลาวหายไป ตอมาไดรับยาที่สงสัยเดิม เขาไปใหมอีก
ปรากฎอาการไมพึงประสงคเดิมเกิดขึ้นอีก เชน เกิดอาการผื่นคัน ภายหลังไดรับ penicillin เมื่อหยุดยา
penicillin ปรากฎวาอาการผื่นคันทุเลาและหายไป ตอไมไดรับยา penicillin เขาไปใหม (ไมวาจงใจ
ทดลองใชหรือไดรับเขาไปโดยไมตั้งใจ) ปรากฎวาอาการผื่นคันเกิดขึ้นอีกเชนเดียวกับครั้งกอนหนานี้
ใหบันทึกคะแนน = +2
(2) กรณีที่ดําเนินการเชนเดียวกับกรณีที่ 1 แตอาการไมพึงประสงคไมเกิดขึ้นอีกใหบันทึกคะแนน = -1
(3)
กรณีที่ไมทราบหรือไมมีขอมูลวามีการใหยาที่สงสัยใหมอีกครั้งหรือไม หรือไมทราบ หรือไมมีขอมูล
ผลการใหยาที่สงสัยใหมอีกวาเปนอยางไร ใหบันทึกคะแนน = 0
ขอที่ 5 ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นสามารถเกิดจากสาเหตุอื่น (นอกเหนือจากยา) ของผูปวยไดหรือไม
หมายถึง : อาการไมพึงประสงคที่เกิดขึ้น สามารถเกิดขึ้นจากสาเหตุอื่น (เชนโรคประจําตัว เปนตน (นอกเหนือจากยา)
ของผูปวยไดหรือไม
วิธีบันทึก :
(1)
กรณีที่อาการไมพึงประสงคที่เกิดขึ้นสามารถเกิดขึ้นจากสาเหตุอื่นของผูปวยได เชน ผูปวยไดรับยา
cisparide แลวเกิดอาการไมพึงประสงคเกี่ยวกับการเตนของหัวใจผิดปกติ โดยที่ผูปวยเปนโรคหัวใจอยู
กอนแลว ใหบันทึกคะแนน = -1
(2)
กรณีที่อาการไมพึงประสงคที่เกิดขึ้น ไมสามารถระบุไดวาเกิดจากสาเหตุอื่นของผูปวยใหบันทึก
คะแนน = +2
(3)
กรณีที่ไมทราบหรือไมมีขอมูลวา อาการไมพึงประสงคที่เกิดขึ้นสามารถเกิดขึ้นจากสาเหตุอื่นของ
ผูปวยไดหรือไม ใหบันทึกคะแนน = 0
- 4. ขอที่ 6 ปฏิกิริยาดังกลาวเกิดขึ้นอีก เพื่อใหยาหลอก (placebo) หรือไม
หมายถึง : เมื่อมีการใหยาหลอก ภายหลังจากอาการไมพึงประสงคไดหายแลว อาการไมพึงประสงคดังกลาวเกิดขึ้น
อีกใชหรือไม
วิธีบันทึก :
(1) กรณีที่ใหยาหลอกแลว อาการไมพึงประสงคดังกลาวเกิดขึ้นอีกใหบันทึกคะแนน = -1
(2) กรณีที่ใหยาหลอกแลว อาการไมพึงประสงคดังกลาวไมเกิดขึ้นใหบันทึกคะแนน = +1
(3)
กรณีไมทราบหรือไมมีขอมูลวาภายหลังการใหยาหลอก อาการไมพึงประสงคดังกลาวเปนอยางไร ให
บันทึกคะแนน = 0
ขอที่ 7 สามารถตรวจวัดปริมาณยาในเลือด (หรือของเหลงอื่น) ที่ในปริมาณความเขมขนที่เปนพิษหรือไม
หมายถึง : เมื่อตรวจวัดปริมาณยาใหเลือด (หรือของเหลวอื่น) ภายหลังเกิดอาการไมพึงประสงค แลวพบปริมาณความ
เขมขนของยาในเลือดที่บงบอกวาเปนพิษหรือไม
วิธีบันทึก :
(1)
กรณีเมื่อเกิดอาการไมพึงประสงคแลว ตรวจวัดปริมาณยาในเลือดพบความเขมขนของยาอยูในชวงที่
เปนพิษ เชน เกิดอาการหัวใจเตนผิดปกติ หายใจขัด ภายหลังไดรับ digoxin และเมื่อตรวจวัดปริมาณยา
digoxin ในเซรั่ม พบความเขมขันมากกวา 2 ng/ml ซึ่งเปนปริมาณความเขมขนในชวงที่ทําใหเกิดพิษ
ใหบันทึกคะแนน = +1
(2)
กรณีเชนเดียวกันกับกรณีที่ 1 แตปริมาณความเขมขนของยาไมไดอยูในชวงที่ไมทําใหเกิดพิษ ต่ํากวา 2
ng/ml ใหบันทึกคะแนน = 0
(3) กรณีที่ไมมีขอมูลการตรวจวัดปริมาณยาในเลือดของยาที่สงสัยใหบันทึกคะแนน = 0
ขอที่ 8 ปฏิกิริยารุนแรงขึ้น เมื่อเพิ่มขนาดยาหรือลดความรุนแรงลงเมื่อลดขนาดยาหรือไม
หมายถึง : ความรุนแรงของอาการไมพึงประสงคเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามขนาดยาที่ไดรับใชหรือไม
วิธีบันทึก :
(1)
กรณีที่อาการไมพึงประสงคมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเมื่อเพิ่มขนาดยา เชน ภาวะหัวใจเตนผิดปกติ จากการ
ไดรับยา digoxin มีอาการรุนแรงมากขึ้น เมื่อขนาดยาเพิ่มขึ้น ใหบันทึกคะแนน = +1
(2)
กรณีเชนเดียวกับกรณีที่ 1 ถาภาวะหัวใจเตนผิดปกติมีความรุนแรงลดลงเมื่อลดขนาดยา digoxin ให
บันทึกคะแนน = 0
(3)
กรณีที่ไมไมมีขอมูลวา อาการไมพึงประสงคจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามขนาดยาที่ได
เพิ่มขึ้นหรือลดลง ใหบันทึกคะแนน = 0
ขอที่ 9 ผูปวยเคยมีปฏิกิริยาที่เหมือนหรือคลายคลึงกันนี้มากอน เมื่อไดรับยานี้ในครั้งกอน ๆ หรือไม
หมายถึง : ผูปวยเคยมีประวัติเกิดอาการไมพึงประสงคลักษณะที่เหมือนหรือคลายคลึงกับอาการในครั้งนี้ จากการ
- 5. ไดรับยาที่สงสัยนี้มากอนหรือไม
วิธีบันทึก :
(1)
กรณีที่ผูปวยเคยมีประวัติเกิดอาการไมพึงประสงคลักษณะที่เหมือนหรือคลายคลึงกับอาการไมพึง
ประสงคในครั้งนี้ ภายหลังจากรับยาที่สงสัย เชน ผูปวยไดรับยา penicillin แลวเกิดอาการผื่นคัน และ
ผูปวยเคยมีประวัติ เกิดอาการผื่นคัน หลังจากไดรับ penicillin มากอนในลักษณะกับเหมือนหรือ
คลายคลึงกันที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ใหบันทึกคะแนน = +1
(2)
กรณีเชนเดียวกับกรณีที่ 1 ถาผูปวยไมเคยมีประวัติวาเกิดอาการผื่นคันภายหลังไดรับ penicillin ให
บันทึกคะแนน= 0
(3)
กรณีที่ไมทราบ หรือไมมีขอมูลวาผูปวยเคยมีประวัติเกิดอาการไมพึงประสงค ในลักษณะเหมือนหรือ
คลายคลึงกับอาการที่เกิดในครั้งนี้มากอนใหบันทึกคะแนน= 0
ขอที่ 10 อาการไมพึงประสงคนี้ ไดรับการยืนยันโดยหลักฐานที่เปนรูปธรรม (objective evidence) หรือไม
หมายถึง : อาการไมพึงประสงคที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มีหลักฐานที่เปนรูปธรรม เชนผลตรวจทางหองปฏิบัติการ ผลตรวจ
EKG ผลการวัดความดัน เปนตน ที่ยืนยันวาเกิดอาการไมพึงประสงคนั้น หรือไม
วิธีบันทึก :
(1) กรณีที่อาการไมพึงประสงคนั้น มีหลักฐานที่เปนรูปธรรมวาเกิดอาการไมพึงประสงคดังกลาว เชนเกิด
ภาวะตับอักเสบ และผลการตรวจทางหองปฏิบัติการ พบระดับ AST, ALT สูงกวาคาปกติ ใหบันทึก
คะแนน = +1
(2)
กรณีเชนเดียวกับขอ 1 แตผลการตรวจทางหองปฏิบัติการพบ AST, ALT อยูในระดับคาปกติ ใหบันทึก
คะแนน = 0
(3) กรณีที่ไมมีหลักฐานที่เปนรูปธรรมที่สามารถยืนยันอาการไมพึงประสงค นั้น ใหบันทึกคะแนน = 0