Publicité

How to prepare application report

Dentist à Pramongkutklao Hospital
3 Apr 2015
Publicité

Contenu connexe

Similaire à How to prepare application report(20)

Publicité

Plus de maruay songtanin(20)

How to prepare application report

  1. พันเอก มารวย ส่งทานินทร์ maruays@hotmail.com 4 เมษายน 2558
  2. by Glenn W. Bodinson Adapted from
  3. โดยย่อ  แม้ว่าคุณไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับรางวัล การส่งรายงานก็มี ประโยชน์มาก  การพัฒนาโครงการ การเขียนรายงาน ควรได้รับการสนับสนุน จากผู้นาระดับสูง  การเขียนรายงานที่เป็นมิตรกับผู้ตรวจประเมิน ทาให้คุณได้รับ คะแนนที่คุณสมควรได้รับ
  4. ทาไมคุณถึงใช้เวลามากในการทางาน เพื่อรางวัลคุณภาพแห่งชาติ?  "ถ้าคุณไม่ได้ใช้เวลาในการพัฒนาส่งมอบผลิตภัณฑ์ และบริการ ที่ลูกค้าต้องการ ...  ถ้าคุณไม่ได้ใช้เวลาในการพัฒนาพนักงาน และตอบสนองความ ต้องการของพวกเขา ...  ถ้าคุณไม่ได้ใช้เวลาในการปรับปรุงการผลิต และการทากาไร ...  คุณควรใช้เวลาของคุณทาอะไร? "
  5. Harry Hertz ผู้อานวยการโครงการรางวัล Baldrige กล่าวว่า  "แม้ว่าคุณไม่ได้คาดหวังที่จะชนะรางวัล Baldrige การส่งรายงานก็ มีประโยชน์ เพราะผู้สมัครทุกองค์กรจะได้รับรายงานเสนอแนะที่ มีรายละเอียด จากการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญภายนอก ที่ผ่าน การฝึกอบรมพิเศษ และได้รับการยอมรับ "  ความพยายามอาจแตกต่างกันไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายในการ ส่งรายงานของคุณว่าคืออะไร การได้รับข้อเสนอแนะ การได้รับ เยี่ยมชมสถานที่ หรือการเป็นผู้ที่ได้รับรางวัล
  6. รายงานที่เขียนได้ดี  จะเป็นการง่ายขึ้นสาหรับผู้ตรวจประเมิน ในการให้คะแนนที่ องค์กรของคุณมีสิทธิควรจะได้ และการได้ 50 คะแนนเพิ่มขึ้น สามารถสร้างความแตกต่าง ในการได้รับหรือไม่ได้รับการเยี่ยม ชมสถานที่  และในระหว่างการเยี่ยมชมสถานที่ การเขียนได้ดี จะช่วยให้การ ประเมินที่มุ่งเน้นการระบุจุดแข็งและโอกาสพัฒนาที่แท้จริงของ องค์กร ทาได้ตรงประเด็น มากกว่าการพยายามที่จะคิดว่า ที่เขียน ไว้ในรายงานของคุณนั้น หมายถึงอะไรกันแน่
  7. เริ่มอย่างไรดี?  เคล็ดลับคือ การมีคน กระบวนการ และผลลัพธ์ที่ดี รวมถึง ความสามารถบอกเล่าได้ว่า มันดีอย่างไร  การเขียนรายงาน ต้องการกระบวนการและแผนงานที่ดี (รูปที่ 1)  ตารางที่ 1 เป็นตัวอย่าง ที่แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนของการวางแผน โครงการ
  8. 1. กาหนดเป้าหมายของโครงการ คะแนนเป้าหมาย และขอบเขต  โค้ชที่มีประสบการณ์ มักจะแนะนาให้ตั้งเป้าหมายขั้นต่าคือ บรรลุการเยี่ยมชมสถานที่ (site visit) และเพื่อให้แน่ใจในการเข้าเยี่ยมชมสถานที่ เป้าหมายคะแนนคือ 70-85% สาหรับแต่ละหัวข้อ (Item)  เหตุผลแรกคือ ภาษาการให้คะแนนอธิบาย แนวทาง วิธีการปฏิบัติ การเรียนรู้ และ บูรณาการ (approach, deployment, learning and integration) ที่ง่ายต่อการทาความเข้าใจ สาหรับหมวดที่หนึ่งถึงหก ส่วนหมวดที่เจ็ด (ผลลัพธ์ทางธุรกิจ) เป็นการประเมิน ระดับ ปัจจุบัน แนวโน้ม การเปรียบเทียบ และบูรณาการ (level of performance, trends, comparisons and integration) กับสิ่งสาคัญที่สุดของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของคุณ  เหตุผลที่สองสาหรับการกาหนดเป้าหมายคือ มันจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเยี่ยมชม สถานที่ แม้ว่าคุณจะพลาดเป้าหมาย การได้ 60% หรือ 65% สาหรับแต่ละหัวข้อ ทาให้ ยังคงอยู่ในช่วงบวก 600 คะแนนที่จาเป็น
  9. 2. กาหนดบทบาทผู้มีความสาคัญ และระบุความจาเป็นของ ทรัพยากร  ในขณะที่บางองค์กรแต่งตั้งบุคคลหนึ่งเดียวเพื่อเตรียมรายงาน แต่ส่วนใหญ่พบว่า การใช้ทีมเป็นวิธีที่ดีที่สุด  ควรจะมีผู้นาโครงการหนึ่งคน และทีมงานของการเขียนรายงานที่ กาหนดบทบาทไว้อย่างชัดเจนเช่น ผู้ตรวจแก้ไข ผู้ออกแบบศิลปะ ผู้สร้างตาราง และผู้ทาสาเนา  หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดคือ กาหนดความรับผิดชอบของผู้นาอาวุโสใน แต่ละหมวดของกระบวนการ และผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้อง
  10. 3. แผนงานโครงการที่สมบูรณ์ด้วยระยะเวลา  การจัดเตรียมรายงาน เป็นโครงการที่สาคัญ และต้องการการ วางแผนงานโครงการ  ตัวอย่างของการวางแผนงานโครงการของผู้ที่ได้รับรางวัล แสดง ใน ตารางที่ 2  ในตารางนี้ มีหลายวงของการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (plan-do- study-act) ที่สร้างขึ้นสาหรับการเขียนรายงาน เพื่อสมัครเข้ารับ รางวัลคุณภาพแห่งชาติ
  11. 4. ให้ความรู้แก่ผู้บริหารระดับอาวุโส ในเรื่องเกณฑ์และแนว ทางการให้คะแนน  ผู้บริหารต้องเข้าใจเกณฑ์และแนวทางการให้คะแนน  วัตถุประสงค์การเรียนรู้รวมถึง การเข้าใจภาษา เข้าใจวิธีการตรวจ ประเมิน และกระบวนการการตัดสิน  นอกจากนี้ ผู้บริหารที่สาคัญ ควรเข้าใจความสัมพันธ์ของแนว ทางการให้คะแนนกับสิ่งที่ใช้ในการได้คะแนนเป้าหมายอย่าง ถูกต้อง และแนวทางการตอบสนองต่อคาถามกระบวนการและ ผลลัพธ์ในเกณฑ์
  12. 5. ระบุประเด็นหลักและจุดแข็ง  กรรมการตัดสิน จะขอให้ผู้ตรวจประเมินระบุประเด็นหลักขององค์กร และ จุดแข็งที่ตัดขวางระหว่างหมวดของเกณฑ์  มันเป็ นการดีที่สุด ถ้าคุณสามารถระบุสิ่งเหล่านี้ อย่างชัดเจนในรายงานของ คุณ ต่อคาถามดังต่อไปนี้ :  เราทาอะไรได้ดีที่สุด?  อะไรคือสิ่งที่เรามีความภูมิใจมากที่สุด?  หากองค์กรของเราได้รับรางวัล จุดเด่นสองหน้ากระดาษจะมีอะไรบ้าง?  สิ่งที่เป็นความคิดริเริ่มและการวางแผนที่สาคัญ ที่ผ่านมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ และในปัจจุบัน คืออะไร?  รางวัลได้ที่เราได้รับมีอะไรบ้าง?
  13. 6. จัดทาโครงร่างองค์กร  โครงร่างองค์กร (organizational profile) เป็นการสื่อสารกับผู้ตรวจ ประเมินและกรรมการตัดสิน ในสิ่งที่สาคัญที่สุดในองค์กรของคุณ  แม้ว่าส่วนนี้ จะไม่ได้คะแนน แต่ว่าเป็นสิ่งสาคัญ ให้จัดทาอย่าง รอบคอบ  โครงร่างองค์กร ควรได้รับการแก้ไขอีกครั้ง หลังจากทารายงาน อย่างสมบูรณ์ เพื่อให้แน่ใจว่า มีบูรณาการกับจุดแข็งจากขั้นตอนที่ ห้า  สาหรับองค์กรที่เริ่มต้น การจัดเตรียมโครงร่างองค์กร เป็ นวิธีที่ดีใน การประเมินตนเอง คุณสามารถเรียนรู้จากการทารายงานในขั้นนี้
  14. 7. สร้างกระบวนการสนับสนุน  เริ่มต้นกระบวนการที่สาคัญคือ จัดสรรหน้ากระดาษในแต่ละหมวด  ให้กาหนดสไตล์ และรูปแบบไว้ล่วงหน้า  มันเป็นสิ่งสาคัญที่จะมีกระบวนการในการจัดเก็บ ช่องว่างที่พบใน เอกสาร (documenting gaps) ช่องว่างนี้ เกิดขึ้นเมื่อคุณไม่มีคาตอบ สาหรับคาถามของเกณฑ์  นอกจากนี้ คุณควรสร้างกระบวนการที่จะให้มั่นใจในความสามารถ ของเครื่องพิมพ์ กาหนดตารางเวลาและระยะเวลาสาหรับการพิมพ์ เนื้ อหาที่ครอบคลุมและหน้าปก และวิธีการรวมเล่มของรายงาน
  15. 8. ดาเนินการประชุมเชิงปฏิบัติการ  การประชุมเชิงปฏิบัติการ ให้จัดกิจกรรมได้ตั้งแต่ครึ่งวันถึงสอง วัน เพื่อการระดมความคิด  เริ่มต้นด้วยสิ่งที่เกณฑ์ถาม และลงท้ายด้วยความสาเร็จของการ จัดทาแผนปฏิบัติการ ที่มีรายละเอียด และมีการบอกเล่าเรื่องราว โดยทีมงานแต่ละหมวด
  16. 9. รวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม  หนึ่งในผลลัพธ์ของการประชุมเชิงปฏิบัติคือ มีการระบุข้อมูล เพิ่มเติมและรวมถึงข้อมูลใด ๆ ก็ตาม ที่จาเป็นสาหรับการเตรียม ความพร้อมของการเขียนรายงาน
  17. 10. สร้างตารางและแผนภูมิ  ผู้สมัครที่เริ่มต้นการเขียนรายงานการสมัคร อาจมีปัญหาในการ ตอบคาถามของเกณฑ์ เพราะพวกเขาพยายามอธิบาย กระบวนการที่ซับซ้อน และหลงไปในรายละเอียด  ควรเริ่มต้นด้วย ภาพที่เป็นระบบของกระบวนการ จะทาให้เขียน รายงานได้ง่ายขึ้น  นอกจากนี้ ตารางและแผนภูมิ (Tables and charts) ยังสามารถใช้ ประโยชน์ในการถ่ายทอดข้อมูลจานวนมากในพื้นที่ที่จากัด ทาให้ ผู้ตรวจประเมินทางานง่ายขึ้น คะแนนของคุณจึงเพิ่มขึ้น
  18. 11. จัดทาและส่งแบบฟอร์มการขอสิทธิสมัครก่อนกาหนดเวลา  รายละเอียดรูปแบบการขอสิทธิ มีอยู่ในเว็บไซต์  ไม่ต้องรอจนกว่าจะถึงเส้นตาย รีบส่งเอกสารการรับรองสิทธิของ คุณ ทันทีที่คุณตัดสินใจที่จะสมัคร
  19. 12. เขียนและเทียบคะแนนที่ 70-85% สาหรับกระบวนการและ ผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของคุณ  เลือกหมวดกระบวนการ (เกณฑ์หมวดหนึ่งถึงหก) และหัวข้อ ผลลัพธ์ (7.1-7.5) ที่แข็งแกร่งที่สุดของคุณ  ประเมินและเทียบโดยใช้เกณฑ์ และแนวทางการให้คะแนนที่ เป้าหมาย 70-85%  มีโค้ชให้คะแนน และให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงคะแนนของคุณ จากนั้นให้ใช้การเรียนรู้นี้ กับทุกหมวดและผลลัพธ์  การเรียนรู้วิธีการเขียนให้อยู่ในระดับที่ 70-85% ก่อน เพื่อ หลีกเลี่ยงการทารายงานใหม่ ที่ต้องใช้เวลานาน
  20. 13. เขียนร่างแรกอย่างรวดเร็ว  เขียนรายงานร่างแรกของคุณอย่างรวดเร็ว โดยใช้รายละเอียด แผนภาพ และข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้มาใหม่  จะช่วยให้คุณเห็นรายงานทั้งหมดเป็นครั้งแรก
  21. 14. ตรวจสอบและแก้ไขช่องว่างของเอกสาร สาหรับร่างแรก  ทีมงานเขียนรายงานและโค้ชของคุณ ทบทวนร่างแรก  ปรับปรุงเอกสารที่จาเป็น ในการแก้ไขรายงาน และช่องว่างใด ๆ ที่จะต้องมีการปิด เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพขององค์กร
  22. 15. แก้ไขร่างแรกเป็นร่างที่สอง  ทีมแต่ละหมวด จะใช้ข้อเสนอแนะในการแก้ไข เพื่อเตรียมความ พร้อมร่างที่สอง ซึ่งจะมีความสมบูรณ์แบบและบูรณาการที่ดีขึ้น  ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ประเด็นหลักและจุดแข็งที่ระบุไว้ในขั้นตอน ที่ห้า ได้รับการแก้ไข  ให้แน่ใจว่า ทุกกระบวนการที่สาคัญมีการตั้งชื่อ รวมถึง รายละเอียดของการนาไปปฏิบัติ และวงรอบของการปรับปรุง  ให้แน่ใจว่าผลลัพธ์ที่คาดหวัง มีแสดงในหมวดเจ็ด
  23. 16. ทบทวนร่างที่สอง  ทบทวนร่างที่สอง เพื่อความชัดเจนและปรับปรุงคะแนน  เติมเต็มช่องว่างใด ๆ ในเอกสาร  เพิ่มสีสันบางอย่างที่จุดแข็งของคุณ  เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เป็ นสิ่งสาคัญที่ ผู้บริหารระดับอาวุโส ได้รับรู้ถึงการทบทวน และให้ข้อเสนอแนะ ในการปรับปรุงร่างนี้
  24. 17. การแก้ไขขั้นสุดท้ายและพิสูจน์อักษร  เป็นการแก้ไขขั้นสุดท้าย รวมถึงการแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ จาก ทีมงานตรวจสอบ  ตรวจสอบการอ้างอิงข้ามทุกหัวข้ออย่างระมัดระวัง เพื่อความ ถูกต้อง  ในขั้นตอนนี้ รายงานทั้งหมดควรได้รับการตรวจสอบ โดยผู้ที่มี ทักษะในการอ่าน และเป็นการอ่านรายงานครั้งแรกของเขา
  25. 18. ผลิตรายงาน  ข้อกาหนดของรายงานและส่วนประกอบรายงาน มีการอธิบายไว้ ในใบสมัคร  แนะนาให้มีคนดูแลขั้นตอนการพิมพ์ ตรวจสอบวัสดุที่เหมาะสม และมีการเรียงลาดับที่ถูกต้อง ก่อนที่จะทาสาเนาทั้งหมด  นอกเหนือจากจานวนสาเนาที่จาเป็นในการสมัครแล้ว คุณอาจจะ ต้องการสาเนาเพิ่มสาหรับบุคลากรที่สาคัญด้วย
  26. 19. ส่งรายงานสมัครก่อนกาหนด  มีการกาหนดเวลาที่สาคัญ สาหรับการส่งรายงานในรูปแบบ เอกสารที่เป็นกระดาษ  หนทางที่ดีที่สุดคือ วางแผนที่จะส่ง หนึ่งสัปดาห์ก่อนกาหนด เพื่อ เตรียมการไว้ หากมีเหตุการณ์ใด ๆ ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น  ใช้วิธีการจัดส่งที่ช่วยให้มีการติดตาม และมีหลักฐานในการรับ เอกสาร
  27. 20. เริ่มต้นการเตรียมความพร้อม การเข้าเยี่ยมชมสถานที่  ผู้สมัครส่วนใหญ่พบว่า มีประโยชน์มากในการเตรียมรายงาน อย่างย่อที่ใช้ร่วมกันทั้งองค์กร และใช้โอกาสนี้ มุ่งเน้นไปที่จุดแข็ง  ถ้าคุณคิดว่า มีโอกาสที่คุณจะได้รับการเยี่ยมชมสถานที่ ให้ทีม เตรียมความพร้อมทันทีที่ส่งรายงาน  ทีมสามารถทาแผนดาเนินการล่วงหน้า ดีกว่ารอจนคุณได้รับแจ้ง เรื่องของการเข้าเยี่ยมชมสถานที่
  28. 21. ดาเนินโครงการปรับปรุงเพื่อปิดช่องว่าง  รูปที่ 1 แสดงการปรับปรุงในขั้นตอนการเขียนรายงาน สองรอบ  รอบแรก มาจากช่องว่างที่ระบุในระหว่างการเตรียมรายงาน  รอบที่สอง มาจากโอกาสในการพัฒนาที่ระบุไว้ในรายงาน ข้อเสนอแนะของผู้ตรวจประเมิน  ช่องว่างที่สาคัญอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังอาจใส่ลงในขั้นตอนการ วางแผนเชิงกลยุทธ์ของคุณ
  29. 22. การประเมินผลและปรับปรุงรายงานและกระบวนการ  วิธีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องอย่างเป็นระบบ (systematic approach to continual improvement) คือการปฏิบัติที่ดีที่สุด
  30. การปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices)  องค์กรสามารถบรรลุความสาเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ เมื่อพวกเขาใช้ วิธีการที่ดีที่สุด ในการเตรียมความพร้อมการเขียนรายงานเพื่อ ขอรับรางวัล  การเลือกคาว่า "การเตรียมความพร้อม (preparing) " มากกว่า "การเขียน (writing) " เพราะความลับของรายงานที่ดี อยู่ที่การ วางแผนและการเตรียมการ ซึ่งจะทาให้การเขียนมีประสิทธิภาพ และมีประสิทธิผลมากขึ้น
  31. บทเรียนที่ได้รับและข้อแนะนาการปฏิบัติที่ดีที่สุด  ไม่เพียงแต่จะใช้เพื่อขอรับรางวัลคุณภาพแห่งชาติ (TQA) แต่ยัง ใช้ได้กับรางวัลอื่น ๆ เช่นกัน (PMQA, SEPA, HA, EdPEx etc.) เพราะหลักการและกระบวนการเตรียมรายงานจะใช้เหมือนกัน
  32. รายงานข้อเสนอแนะที่ได้รับ  การได้รับความคิดเห็นว่า "ไม่ชัดเจนว่า ... " ทาให้น่าผิดหวัง ซึ่งสามารถ ป้องกันได้โดยการทาต่อไปนี้ :  เรียนรู้วิธีการตอบสนองในกระบวนการและผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิผล ด้วยการศึกษา แนวทางการตอบสนองเกณฑ์อย่างรอบคอบ  สาหรับกระบวนการ อธิบายขั้นตอนสาคัญที่แสดงให้เห็นกระบวนการที่เป็นระบบ แสดงการนาไปปฏิบัติ แสดงหลักฐานของการเรียนรู้ และบูรณาการ  มุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์ที่สาคัญที่สุด โดยใช้กราฟและตาราง แสดงระดับของ ประสิทธิภาพ แนวโน้ม ใช้การเปรียบเทียบหรือมาตรฐาน ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็น เลิศของคุณ  บูรณาการข้อความอธิบายผลลัพธ์ ที่มีความสาคัญในหมวดเจ็ดและวิธีการที่ทาให้ ประสบความสาเร็จ
  33. ผลดีที่เกิดขึ้น  การจัดเตรียมรายงาน เป็นการลงทุนที่มีคุณค่า ของเวลาและ ความพยายาม  ผลตอบแทนคือ มีการสื่อสารที่ดีขึ้น ในขณะที่ทีมข้ามสายงานได้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจทั้งหมด  การปิดช่องว่างที่ระบุได้ในระหว่างขั้นตอนการเขียนรายงาน จะ ช่วยยกผลการดาเนินงานขององค์กรของคุณไปอีกระดับ  การเตรียมความพร้อมสาหรับการเข้าเยี่ยมชมสถานที่ จะเพิ่ม ความคมชัดขององค์กร ในการมุ่งเน้นความสอดคล้อง และการ นาไปปฏิบัติ
  34. ลงมือทา  หากคุณยังไม่พร้อมที่จะเขียนรายงาน วิธีการง่ายที่จะเริ่มใช้ ประโยชน์จากกรอบ และเกณฑ์ คือ ลงมือทา (Do it)  การใช้พลังของการมุ่งสู่ความเป็นเลิศ จะเป็นประโยชน์มหาศาล สาหรับองค์กรของคุณ
  35. ผมไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี  มีทรัพยากรต่างๆ ที่จะช่วยให้คุณเรียนรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับขั้นตอน การปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ  ขั้นแรก ให้ไปที่เว็บไซต์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ สาหรับสาเนาของ เกณฑ์ และคู่มือการประเมินตนเอง  คุณสามารถเริ่มต้นด้วยแนวคิดและค่านิยมหลักที่เรียบง่าย แต่มี ประสิทธิภาพในการระบุจุดแข็ง และโอกาสในการพัฒนา  นอกจากนี้ คุณยังอาจต้องการที่จะเรียนรู้วิธีปฏิบัติที่ดีที่สุด จากผู้ ได้รับรางวัล โดยการเข้าร่วมการประชุมรางวัลสู่ความเป็นเลิศ
  36. ขอให้ฉันเขียนรายงาน รู้สึกเหมือนขอให้ฉันกระโดดสูง 7 ฟุต  การเริ่มต้นในระดับมลรัฐ (ในสหรัฐอเมริกา) จะได้รับ ประสบการณ์ที่มีคุณค่า  เพราะในบางระดับ อาจใช้รายงานเพียง 10 หรือ 15 หน้า  David Branch ผู้เคยได้รับรางวัลระดับชาติกล่าวว่า "เราได้รับ ประโยชน์จากการเข้าร่วมรางวัลระดับมลรัฐ เพราะใช้จานวนหน้า น้อยกว่า มันเป็นบันไดที่ดี เพื่อใช้ในการสมัครขอรับรางวัล คุณภาพระดับชาติต่อไป "
  37. ฉันไม่ต้องการจะยื่นใบสมัคร จนกว่าเชื่อว่าเราจะได้รับรางวัล  Xerox พบ 512 ช่องว่างที่สาคัญในการทารายงานในปีแรก ก่อนที่ จะกลายเป็นผู้รับรางวัลระดับชาติ  Raymond Marlow ซีอีโอของ Marlow Industries Inc. ซึ่งได้รับรางวัล ประเภทธุรกิจขนาดเล็กในปี ค.ศ. 1991 กล่าวว่า "สิ่งที่แย่ที่สุด เกี่ยวกับการได้เป็นผู้รับรางวัลในปีแรกที่สมัครก็คือ คุณพลาดการ ปรับแต่งประจาปี (the annual cycles of refinement) จากการได้ เป็นผู้สมัครในหลาย ๆ ปี "
  38. เราไม่รู้กระบวนการต่างๆ ว่าต้องทาอย่างไร  หลายองค์กรตัดสินใจจ้างโค้ชผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประสิทธิผลมาก ที่สุด  Diane Bosworth ผู้ช่วยผู้จัดการของ Jenks (โรงเรียนของรัฐ) กล่าว ว่า "เราจ้างผู้ที่รู้และโค้ช สาหรับสาหรับบางสิ่งบางอย่าง ที่เป็น การปรับปรุง และผลลัพธ์ที่สาคัญ "  การมีโค้ชที่ถูกต้อง จะช่วยให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาส ในการพัฒนาในช่วงต้น มุ่งเน้นเนื้ อหาที่ถูกต้อง ให้ความมั่นใจใน การเขียนรายงานที่มีประสิทธิผล ขับเคลื่อนองค์กรโดยใช้ วัฒนธรรมมุ่งสู่ความเป็นเลิศ และการได้รับรางวัลคือเป้าหมาย
  39. เป็นผู้ตรวจประเมินรางวัลคุณภาพแห่งชาติ  วิธีการหนึ่ง ที่เป็นการเริ่มต้นในการมุ่งสู่ความเป็นเลิศคือ การเป็นผู้ตรวจ ประเมินรางวัลคุณภาพแห่งชาติ (award examiner)  หลายองค์กรมีผู้นาสาคัญของพวกเขาเป็นผู้ตรวจประเมินรางวัลคุณภาพ แห่งชาติ และได้เรียนรู้สิ่งที่ทีมงานตรวจประเมินมองหา  การเป็นผู้ตรวจประเมิน ทาให้มีความเข้าใจเกณฑ์และแนวทางการให้ คะแนนอย่างล้าลึก  ตามที่ JoAnn Brumit ซีอีโอของ Karlee ที่ได้รับรางวัลของ Texas และ Baldrige กล่าวว่า "การฝึกอบรมผู้นาในฐานะผู้ตรวจประเมิน เป็นการพัฒนา ภาวะผู้นาที่ฟรีและดีที่สุด นอกจากนี้ พวกเขาค้นพบการปฏิบัติที่ดีที่สุด และนามาใช้ในบริษัทของเรา "
  40. Malcolm Gladwell, Blink: The Power of Thinking Without Thinking, 2005
Publicité