Publicité
Publicité

Contenu connexe

Publicité

Plus de maruay songtanin(20)

Publicité

Work + home + community + self

  1. พันเอก มารวย ส่งทานินทร์ maruays@hotmail.com 18 มีนาคม 2558
  2. by Stewart D. Friedman Harvard Business Review, Spring 2015 Stewart D. Friedman is the Practice Professor of Management at the University of Pennsylvania’s Wharton School and the author of the book Leading the Life You Want: Skills for Integrating Work and Life (Harvard Business Review Press, 2014).
  3. Stressed out. Overcommitted. Distracted. This is how many people feel today. Everyone is struggling to have meaningful work, domestic bliss, community engagement, and a satisfying inner life. But committing to better work/life balance isn’t the answer. It assumes you must make trade-offs among the four main aspects of your life: work, home, community, and self. A more realistic and gratifying goal is better integration through four-way wins, which improve performance in all domains. Integration starts with embracing three principles: Be real, be whole, and be innovative. This article outlines the skills that bring those principles to life and shows how to hone several critical skills with exercises such as: ■ Four circles, in which you compare the importance of each domain with the attention you devote to it and look at overlap between domains ■ Talent transfer, in which you examine all your skills, from mentoring colleagues to organizing family activities, and how each might be used to achieve different ends ■ Crowdsourcing, in which you gather solutions for problems from creative friends and test them out Through these and other exercises, executives can find the path to a more fulfilling and less hectic life.
  4. บทสรุปย่อสาหรับผู้บริหาร  ทุกคนดิ้นรน เพื่อการทางานที่มีความหมาย มีความสุขในชีวิตครอบครัว มีส่วน ร่วมในชุมชน และมีชีวิตส่วนตัวที่น่าพอใจ แต่การทาให้การทางาน/ชีวิตสมดุล (work/life balance) ไม่ใช่คาตอบ คุณต้องทาให้ทั้งสี่ด้านมีการบูรณาการ (integration) ด้วยสามหลักการคือ: เป็นจริง เป็นทั้งหมด และเป็นนวัตกรรม (Be real, be whole, and be innovative) และใช้วิธีการฝึกทักษะที่สาคัญ เช่น:  วงกลมสี่วง (Four circles) ที่ใช้เปรียบเทียบความสาคัญ ความสนใจที่คุณ ทุ่มเทให้กับมัน และดูการทับซ้อนกัน  ถ่ายโอนความเก่ง (Talent transfer) ที่ตรวจสอบทักษะของคุณ จากคาปรึกษา ของเพื่อนร่วมงาน และวิธีการที่อาจจะนามาใช้ เพื่อการบรรลุเป้าหมาย  รวมแหล่งในการแก้ปัญหา (Crowdsourcing) ที่รวบรวมแนวทางสาหรับ แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากเพื่อน จากความคิดสร้างสรรค์ และการทดสอบ  โดยแนวทางนี้ จะทาให้ผู้บริหารสามารถตอบสนองต่อสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น และ เกิดความวุ่นวายที่น้อยลง
  5. Stewart D. Friedman
  6.  เราต้องทางานหนักมาก จนสายตัวแทบขาด  นี่คือสิ่งที่เราหลายคนอธิบายตัวเองในวันนี้ เราได้ยินจากชายและ หญิง หนุ่มสาวและผู้อาวุโส ผู้บริหาร นักศึกษาปริญญาโท แพทย์ คนขายในร้านค้าปลีก ช่างฝีมือ นักวิจัย ทหาร พ่อแม่ที่อยู่ที่บ้าน ครู และวิศวกรทั่วโลก  ในยุคของการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง และความกดดันทาง เศรษฐกิจ ทุกคนจะต้องดิ้นรนเพื่อการทางานที่มีความหมาย มี ความสุขภายในครอบครัว มีส่วนร่วมในชุมชน และมีชีวิตส่วนตัว ที่น่าพอใจ
  7.  ความมุ่งมั่นในการสร้าง "สมดุลชีวิต/งาน" (work/life balance) ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหา มันเป็นการเข้าใจผิด  ความสมดุลแบ่งเป็นสองข้าง เพราะเราจะต้องทาการลดหรือเพิ่ม ในสี่ด้านหลักของชีวิตของเราคือ: ที่ทางานหรือโรงเรียน ที่บ้าน หรือครอบครัว (แล้วแต่คุณกาหนด) ชุมชน (เพื่อน เพื่อนบ้าน กลุ่มศาสนา หรือสังคม) และ ตนเอง (ร่างกาย จิตใจ จิต วิญญาณ)  เป้าหมายที่แท้จริงและทาให้เกิดความพอใจมากขึ้นคือ การบูร ณาการ (integration) หรือการผสมผสานที่ดีขึ้ นระหว่างการ ทางานและส่วนที่เหลือของชีวิต ผ่านการแสวงหาชัยชนะสี่ ทิศทาง (four-way wins) ซึ่งเป็นการปรับปรุงผลงานในทุกมิติ
  8.  การบูรณาการดังกล่าวเริ่มต้นด้วยการยึดหลักการสาคัญสาม ประการคือ เป็นจริง เป็นทั้งหมด และเป็นนวัตกรรม (be real, be whole, and be innovative) ที่ผู้ประพันธ์เคยอธิบายไว้ใน วารสาร HBR ปี ค.ศ. 2008 เรื่อง เป็นผู้นาที่ดี มีชีวิตที่ร่ารวย (Be a Better Leader, Have a Richer Life)  โดยต้องอาศัยทักษะบางอย่าง ที่จะนาหลักการเหล่านั้นมาใช้ใน การดารงชีวิต  ผู้ประพันธ์ได้พบ 18 ทักษะเฉพาะ ที่ส่งเสริมความสอดคล้อง และความสามัคคีในทั้งสี่ด้านของชีวิต
  9. เริ่มต้นด้วยทักษะการมุ่งเน้นที่ เป็นจริง (being real) ให้มีความ ชัดเจน และมีความสาคัญกับสิ่งที่คุณกาลังทาอยู่ โดยที่คุณจะต้อง: 1. รู้ว่าเป็นสิ่งที่สาคัญ (Know what matters) 2. เป็นค่านิยมที่มีความสม่าเสมอ (Embody values consistently) 3. ดาเนินการตรงกับค่านิยม (Align actions with values) 4. ถ่ายทอดค่านิยมให้เป็นเรื่องราว (Convey values with stories) 5. วาดภาพตานานของคุณเอง (Envision your legacy) 6. มีความรับผิดชอบ (Hold yourself accountable)
  10.  เริ่มต้นโดยการวาด วงกลม ที่เป็นตัวแทนของสี่ด้านคือ ที่ทางาน บ้าน ชุมชน และตัวเอง แตกต่างกันตามขนาดใหญ่หรือเล็ก ที่ สะท้อนให้เห็นถึงการที่คุณให้ความสาคัญกับแต่ละสิ่ง  ถัดไป คุณย้ายวงกลมที่แสดง ให้ทับซ้อนกันมากหรือน้อย แล้วแต่สิ่งคุณคิด เกี่ยวกับเป้าหมาย ผลประโยชน์ การกระทา และผลลัพธ์ ว่าแต่ละวงกลมมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันเพียงใด เข้ากันได้หรือขัดแย้งกัน?
  11.  ลองจินตนาการว่าชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไร ถ้าแรงบันดาลใจของ คุณในสี่วงกลมประสบความสาเร็จ จะมีการเรียงรายอย่างสมบูรณ์ เป็นเช่นวงแหวนศูนย์กลางลาต้นของต้นไม้ (คือทับซ้อนเป็นชั้น ๆ)  ส่วนใหญ่ของเรา ไม่สามารถทาให้บรรลุได้ แต่คุณยังสามารถทาการ ย้ายให้เกิดการทับซ้อนได้ (จากไม่ทับซ้อน หรือให้ทับซ้อนมากขึ้น)  คุณสามารถเปลี่ยนแปลง (change) วิธีการที่คุณทางาน หรือ แม้กระทั่งวิธีการที่คุณคิด เกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการทางานของ คุณ โดยไม่ต้องลดคุณค่าส่วนบุคคลได้หรือไม่?  คุณสามารถช่วยครอบครัวของคุณให้ดีขึ้น โดยให้ชีวิตธุรกิจของคุณมี ประโยชน์กับพวกเขา เพื่อให้พวกเขาสนับสนุนคุณมากขึ้นได้อย่างไร?
  12. A few small changes in approach might create much more overlap
  13.  ให้นาวัตถุจากชีวิตที่ไม่ใช่การทางานของคุณ (เช่นภาพถ่ายครอบครัว ของที่ระลึกการเดินทาง หรือรางวัล) เข้ามาในสานักงาน  ถ้าเพื่อนร่วมงานขอให้คุณช่วยอธิบายสิ่งนี้ ให้คุณบอกว่าสิ่งนี้ มี ความหมายกับคุณอย่างไร ช่วยคุณในการทางานได้อย่างไร จากนั้น คุณขอให้บุคคลนั้น นาสิ่งนอกเหนือจากการทางานของเขาหรือของ เธอเอง มาใช้ในการสนทนาด้วย  นอกจากนี้ คุณอาจนาสิ่งที่ได้จากการทางานของคุณไปที่บ้าน และ พูดคุยกับเพื่อนร่วมห้องของคุณ คู่สมรส บุตร หรือแขกรับเชิญ ใน เวลารับประทานอาหารเย็นก็ได้  บอกพวกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทา บทบาทของคุณในที่ทางาน โดย มุ่งเน้นโดยเฉพาะสิ่งที่มีความหมายสาหรับพวกเขา
  14. หลักการที่สอง เป็นทั้งหมด หรือทาหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต (being whole—or acting with integrity) คุณจะต้องสามารถ: 1. ชี้แจงความคาดหวัง (Clarify expectations) 2. ช่วยเหลือผู้อื่น (Help others) 3. สร้างเครือข่ายการสนับสนุน (Build supportive networks) 4. ใช้ทรัพยากรของคุณทั้งหมด (Apply all your resources) 5. จัดการขอบเขตอย่างชาญฉลาด (Manage boundaries intelligently) 6. สานเส้นที่แตกต่างกัน (Weave disparate strands)
  15.  หนึ่งในทักษะที่สาคัญที่สุดคือ การรู้วิธีการใช้ทรัพยากรทั้งหมดของ คุณ (เช่นความรู้ ทักษะ และรายชื่อผู้ที่ติดต่อด้วย) เพื่อใช้ประโยชน์ ในด้านอื่น ๆ  ให้บันทึกทักษะส่วนตัวที่คุณมี เช่น จากการให้คาปรึกษาของเพื่อน ร่วมงาน การจัดกิจกรรมในครอบครัว ศาสนา แล้วให้นาความคิดของ วิธีการแต่ละอย่าง มาใช้เพื่อบรรลุเป้าหมายที่แตกต่างกัน  การที่คุณสามารถระบุความสามารถของคุณ แล้วนาไปใช้กับสิ่งใหม่ ๆ เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงบางสิ่งบางอย่างที่ทาให้คุณรู้สึกดี เช่น จากความสาเร็จในการทางาน มิตรภาพ ความมุ่งมั่นของคุณในการ เต้นรา แล้วนามาใช้ในส่วนของชีวิตของคุณที่คุณต้องการปรับปรุง  ทักษะที่คุณใช้เพื่อให้บรรลุในอดีตที่อาจช่วยคุณในภายหน้าคืออะไร?
  16.  การจัดการขอบเขตอย่างชาญฉลาด เป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่สาคัญ  เริ่มต้นด้วยการคิดแยก (ระยะเวลาและพื้นที่) ระหว่างบทบาทที่ แตกต่างของคุณ  จากนั้นทาสิ่งตรงข้าม: คิดถึงโอกาสที่จะนาสองสิ่งมารวมกันในชีวิต ของคุณ เช่นคุณอาจให้บุตรมาร่วมกับกับบริษัทในการสนับสนุนการ ทางานการกุศล หรือนาผู้ร่วมงานมาร่วมงานเลี้ยงในชุมชนในละแวก บ้านของคุณ  หลังจากที่คุณได้พยายามแบ่งและรวม ให้จดข้อมูลเชิงลึกของคุณ เกี่ยวกับสิ่งที่ได้ผลและสิ่งที่ไม่ได้ผล สาหรับทั้งคุณและคนรอบตัวคุณ
  17. หลักการที่สามคือ เป็นนวัตกรรม (be innovative) ด้วยความคิดสร้างสรรค์ ในการระบุและใฝ่ หา การชนะสี่ทิศทาง (four-way wins) คุณจะต้อง: 1. มุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์ (Focus on results) 2. แก้ปัญหาความขัดแย้งสิ่งต่าง ๆ (Resolve conflicts among domains) 3. ท้าทายสภาพที่เป็นอยู่ (Challenge the status quo) 4. มีวิธีการในการทาสิ่งใหม่ ๆ (See new ways of doing things) 5. เปลี่ยนแปลงอย่างกล้าหาญ (Embrace change courageously) 6. สร้างวัฒนธรรมของนวัตกรรมรอบตัวคุณ (Create cultures of innovation around you)
  18.  การจาลองสถานการณ์ เป็นหนึ่งในหลายวิธีการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของคุณในการมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์ เพราะเป็นการประหยัดเวลาหรือพลังงาน  จาลองสถานการณ์เกี่ยวข้องกับเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงที่คุณ ต้องการ แล้วระบุสามทางเลือก รวมทั้งทรัพยากรที่ต้องการ และ ความท้าทายที่คุณจะต้องเผชิญ  การระดมความคิดนี้ จะช่วยกระตุ้นให้คุณมุ่งที่ผลลัพธ์  อีกวิธีหนึ่งคือ การทดลองพฤติกรรมรูปแบบใหม่ ทากิจกรรมใน ช่วงเวลาใหม่ หรือในสถานที่ที่แตกต่างกันออกไป
  19.  รวมแหล่งการแก้ปัญหา (Crowdsourcing) คือวิธีการช่วยให้คุณ ปฏิบัติด้วยวิธีการใหม่ ๆ  ให้รวบรวมกลุ่มเพื่อนที่มีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุด อธิบายถึง ปัญหาที่คุณกาลังเผชิญ แล้วขอความคิดเห็นเกี่ยวกับการ แก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และบันทึกสิ่งที่คุณได้ยิน  เลือกสิ่งที่คุณคิดว่าดีที่สุด ร่างแผนงาน และพยายามที่จะทาให้ มันเกิดขึ้น
  20.  การมีชีวิตที่คุณต้องการ คล้ายกับเป็นงานฝีมือ เช่นเดียวกับการ ร้องเพลง การเขียน การเต้นรา หรือเล่นกีฬาใด ๆ ที่คุณสามารถ ทาให้ดีได้โดยการฝึกฝน  เริ่มต้นด้วย สามแนวคิดคือ: เป็นจริง เป็นทั้งหมด และเป็น นวัตกรรม  เข้าใจทักษะที่จาเป็นในการประสบความสาเร็จในแต่ละแนวคิด จากนั้นก็มุ่งมั่นที่จะทาให้สนุกและมีผลสาเร็จในการทางาน แล้ว ทาให้สิ่งเหล่านั้น เป็นส่วนหนึ่งในการเป็นผู้นาของคุณ
  21. สรุป  ผู้ประพันธ์บทความนี้ มีแนวคิดที่จะทาให้ชีวิตและหน้าที่การงาน มีการบูรณาการกัน แทนที่การจัดการอย่างสมดุลของมิติทั้งสี่คือ ชีวิตส่วนตัว ครอบครัว การงาน และชุมชน เพราะเมื่อสิ่งหนึ่ง เปลี่ยนแปลงไป จะมีผลกระทบอีกสิ่งอื่นด้วย  วิธีการจัดการมีสามขั้นตอนคือ การประเมินตนเอง (โดยการใช้ วงกลมสี่วงเป็นสัญลักษณ์) การพิจารณาทุกบทบาทของตนเอง อย่างรอบคอบ แล้วทาการเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้ มิติทั้งสี่เกิดการผสมผสานอย่างลงตัว
  22. Joel Barker
Publicité