Contenu connexe
Similaire à ยุคภูมิธรรมและแนวคิดประชาธิปไตย
Similaire à ยุคภูมิธรรมและแนวคิดประชาธิปไตย (20)
ยุคภูมิธรรมและแนวคิดประชาธิปไตย
- 2. ยุคภูมิธรรมและแนวคิดประชาธิปไตย
ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ ได้นาไปสู่การ
ปฏิวัติทางภูมิปัญญา ในคริสต์ศตวรรษต่อมาอีกด้วย วิธีการทาง
วิทยาศาสตร์และการหลุดพ้นจากอานาจของคริสตจักรทาให้ชาวตะวันตก
กล้าใช้เหตุผลเพื่อแสดงความคิดเห็นทางสังคมและการเมืองมากขึน้ และ
เชื่อมนั่ว่าความมีเหตุผลสามารถเปลี่ยนแปลงชีวติและสังคมให้ดีขึน้ได้
ในคริสต์ศตวรรษที่18 นีจึ้งเปรียบเสมือนแสงสว่างที่ส่องนาทางให้
โลกตะวันตกเป็นสังคมที่รุ่งโรจน์ในวิชาการต่างๆ ทาให้ผู้คนมีความรู้ มี
สติปัญญาและความคิด ตลอดจนความสามารถได้รับการยกย่องจากสังคม
มากขึน้ และเป็นพืน้ฐานสาคัญที่ทาให้ชาติตะวันตกเข้าสู่ความเจริญในยุค
ใหม่ ดังนัน้ในคริสต์ศตวรรษนีจึ้งได้รับสมญาว่าเป็น ยุคภูมิธรรม
(Age of Enlightenment)
- 4. ทอมัส ฮอบส์ (Thomas Hobbes) ค.ศ. 1588 - 1679
นักปรัชญาชาวอังกฤษ ฮอบส์กล่าวว่าก่อนหน้าที่มนุษย์จะมาอยู่
รวมกันเป็นสังคมเมือง มนุษย์มีอิสระและเสรีภาพในการกระทาใดๆซึ่ง
ย่อมก่อให้เกิดความวุ่นวาย มนุษย์จึงตกลงกันที่จะหาคนกลางมาทา
หน้าที่ปกครองประชาชนโดยที่ประชาชนมีสิทธิเลือกผู้ปกครองตาม
ความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ เพื่อให้เกิดสังคมการเมืองที่อยู่
ร่วมกันอย่างสันติสุข ประชาชนทุกคนจะต้องเชื่อฟังผู้ปกครองซงึ่จะ
เป็นผู้ออกกฏหมายมาบังคับประชาชนต่อไป
- 5. ทอมัส ฮอบส์ (Thomas Hobbes) ค.ศ. 1588 - 1679
แนวคิดด้านการเมืองของฮอบส์ปรากฏใน
หนังสือ ลีไวอาทัน (Leviathan)
นอกจากนีฮ้อบส์ ยังโจมตีความเชื่อทาง
ศาสนาของมนุษย์ว่าเป็นเรื่องไร้เหตุผล มนุษย์
ควรมีชีวิตอยู่ด้วยเหตุผลและวิธีการทาง
วิทยาศาสตร์ ไม่ควรอยู่ด้วยความเชื่องมงาย
อย่างไรก็ตามฮอบส์มิได้ปฏิเสธพระเจ้า แต่
ปฏิเสธพิธีกรรมและผู้นาทางศาสนา
- 6. จอห์น ล็อก (John Locke) ค.ศ. 1632 - 1704
นักปรัชญาชาวอังกฤษ แนวคิดทางการเมืองของล็อกสรุปได้ว่า
ประชาชนเป็นที่มาของอานาจทางการเมืองและมีอานาจในการจัดตัง้
รัฐบาลขึน้ได้ รัฐและรัฐบาลจึงมีหน้าที่ปกครองโดยคานึงถึงประโยชน์
และสิทธิของประชาชน อันได้แก่ ชีวิต เสรีภาพ และทรัพย์สิน รัฐบาล
มีอานาจภายในขอบเขตที่ประชาชนมอบให้ และจะใช้เฉพาะเพื่อ
ผลประโยชน์ของประชาชนเท่านัน้ แนวคิดทางการเมืองดังกล่าวจึงเป็น
รากฐานความคิดของระบอบประชาธิปไตยสมัยใหม่ และมีอิทธิพล
ต่อปัญญาชนและปรัชญาเมธีของยุโรป
- 7. จอห์น ล็อก (John Locke) ค.ศ. 1632 - 1704
เป็นผู้เขียนหนังสือเรื่อง
Two Treatises of
Government ซึ่งแนวคิด
หลักของหนังสือ คือ การเสนอ
ทฤษฎีที่ว่ารัฐบาลจัดตัง้ขึน้โดย
ความยินยอมของประชาชน
และต้องรับผิดชอบต่อชีวิต
ความเป็นอยู่ของประชาชน
- 8. บารอน เดอ มองเตสกิเออร์ (Baron de Montesquieu)
ค.ศ. 1689 – 1755
ขุนนางฝรั่งเศส เป็นผู้เขียนหนังสือเรื่อง วิญญาณแห่ง
กฎหมาย (The Spirit of Laws) แนวคิดหลักของหนังสือ
สรุปได้ว่า กฎหมายที่รัฐบาลแต่ละสังคมบัญญัติขึน้ต้องสอดคล้อง
กับลักษณะภูมิประเทศและเงื่อนไขทางขนบธรรมเนียม ประเพณี
วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของแต่ละสังคม แต่การปกครองแบบ
กษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญเป็นรูปแบบการปกครองที่ดีที่สุด
- 9. บารอน เดอ มองเตสกิเออร์ (Baron de Montesquieu)
ค.ศ. 1689 – 1755
นอกจากนัน้อานาจการปกครองควรแยกออกเป็น 3 ฝ่าย คือ ฝ่าย
นิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการ การแบ่งอานาจดังกล่าว
เป็นเสมือนการสร้างระบบตรวจสอบและถ่วงอานาจ
แนวคิดในทางการเมืองของมองเตสกิเออร์ในหนังสือเล่มนีมี้
อิทธิพลต่อสังคมตะวันตก รัฐธรรมนูญการปกครองประเทศของ
สหรัฐอเมริกาซึ่งถือว่าเป็นแม่แบบของระบอบการปกครองใน
ระบอบประชาธิปไตยก็ใช้แนวคิดเรื่องการแบ่งแยกอานาจและระบบ
คานอานาจของมองเตสกิเออร์เป็นหลัก
- 10. วอล์แตร (Voltaire) ค.ศ.1694 - 1778
เป็นนักคิดและนักเขียนที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศส วอลแตร์ประทับใจ
ในระบอบการปกครองของอังกฤษมาก และตัง้ใจจะใช้งานเขียน
คัดค้านการปกครองแบบเผด็จการ และต่อต้านความงมงายไร้
เหตุผล เรียกร้องเสรีภาพในการในการแสดงออกซึ่งความคิดเห็น
ทางด้านต่างๆ วอล์แตรคิดว่าการใช้เหตุผลและสติปัญญา สามารถ
แก้ไขปัญหาสังคมและการเมืองได้
- 11. วอล์แตร (Voltaire) ค.ศ.1694 - 1778
ความคิดดังกล่าวของวอล
แตร์สะท้อนออกมาในหนังสือ
เรื่อง จดหมายปรัชญา
(The Philosophical
Letters)
เนือ้หาของหนังสือโจมตี
สถาบันและกฎระเบียบต่างๆที่
ล้าหลังของฝรั่งเศส วอลแตร์
เรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศ
ฝรั่งเศสให้ทันสมัยเหมือน
อังกฤษ
- 12. ชอง-ชาก รูโซ (Jean-Jacques Rousseau)
ค.ศ.1712-1778
เชือ้สายฝรั่งเศส เขาเขียนหนังสือหลายเล่มโจมตีวุ่นวายของสังคมและ
การบริหารที่ล้มเหลวของรัฐบาล นอกจากนีเ้ขายังแสดงทัศนะเกี่ยวกับระบบ
การศึกษาปัญหาความไม่เสมอภาคทางสังคมอันเป็นผลจากสภาวะแวดล้อม
งานเขียนชิน้เอกของเขาซงึ่เป็นตาราทางการเมืองที่สาคัญและมีอิทธิพล
มาก คือ สัญญาประชาคม (The Social Contract) ว่าด้วยปรัชญา
ทางการเมืองด้านการปกครองและพันธสัญญาทางการเมืองระหว่าง
รัฐบาลและประชาชน
- 13. ชอง-ชาก รูโซ (Jean-Jacques Rousseau)
ค.ศ.1712-1778
สัญญาประชาคม (The Social Contract) งานเขียน
เรื่องนีท้าให้รูโซได้ชื่อว่าเป็นผู้วางรากฐานอา นาจอธิปไตยของ
ประชาชน แนวคิดหลักของรูโซใน สัญญาประชาคม คือ มนุษย์ทุก
คนเกิดมาเป็นอิสระ แต่มนุษย์ต้องอยู่ภายใต้อานาจของผู้ปกครอง
รูโซเชื่อว่าถึงว่าเวลาที่จะทาลายข้อผูกพันเหล่านัน้แล้ว จึงจัดตัง้
รูปแบบของการปกครองขึน้มาใหม่โดยที่ให้ เจตจา นงร่วมของ
ประชาชน (general will) เป็นอานาจสูงสุด
- 14. ชอง-ชาก รูโซ (Jean-Jacques Rousseau)
ค.ศ.1712-1778
รูโซเห็นว่าควรมีการจัดทาข้อตกลงหรือสัญญาประชาคม ขึน้โดย
ที่ให้ประชาชนของประชาคมได้เข้ามาพิจารณาตัดสินปัญหาต่างๆ
ร่วมกัน เห็นถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว
รัฐบาลจึงควรเกิดจากความเห็นชอบร่วมกันของประชาชน
- 15. การปฏิวัติทางการเมืองการปกครองของอังกฤษ
หลังจากสมเดจ็พระราชินีนาถเอลิซาเบทที่ 1 สิน้พระชนม์ กษัตริย์อังกฤษ
องค์ต่อๆมามักจะมีความขัดแย้งกับรัฐสภาอยู่เสมอ เนื่องจากการใช้พระราช
อานาจเกินขอบเขต ใช้เงินแผ่นดินไปในทางที่ฟุ่มเฟือยและก่อสงคราม ความ
ขัดแย้งระหว่างรัฐสภากับกษัตริย์รุนแรงมากขึน้เรื่อยๆจนกลายเป็นสงคราม
กลางเมืองใน ค.ศ.1642 - 1649
พระเจ้าชาลส์ที่ 2 เข้ารีตนับถือนิกายโรมันคาทอลิกก่อนสวรรคต พระเจ้า
เจมส์ที่ 2 ทรงชักชวนให้ประชาชนหันมานับถือนิกายคาทอลิก และทรง
พยายามใช้อานาจอย่างสูงสุดอีก จึงก่อให้เกิดปฏิวัติขึน้ใน ค.ศ. 1688 พระเจ้า
เจมส์ที่2 เสด็จลภีั้ยไปฝรั่งเศส รัฐสภาได้อัญเชิญเจ้าชายวิลเลียมแหง่ราชวงศ์
ออเรนจ์ ซึ่งเป็นพระราชบุตรเขยของพระเจ้าเจมส์ที่ 2 แต่นับถือนิกาย
โปรเตสแตนต์ขึน้ครองราชย์ มีพระนามว่า พระเจ้าวิลเลียมที่ 3
- 16. การปฏิวัติทางการเมืองการปกครองของอังกฤษ
พระเจ้าวิลเลียมที่ 3 ทรงสัญญาว่าจะปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติ
ว่าด้วยสิทธิพนื้ฐานของพลเมือง (Bill of Rights) เหตุการณ์ครัง้
นีเ้รียกว่า การปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ (Glorious Revolution) เป็น
การปฏิวัติที่ไม่มีการเสียเลือดเนือ้ และได้รับการสนับสนุนจากชนทุกชัน้
นับแต่นัน้มารัฐสภาอังกฤษได้ออกกฎหมายให้สิทธิเสรีภาพแก่ชาว
อังกฤษก้าวหน้าไปตามลาดับจนถึงปัจจุบัน
- 18. การปฏิวัติของชาวอเมริกัน ค.ศ. 1776
สหรัฐอเมริกาเคยอยู่ภายใต้การครอบครองของอังกฤษ เขตอาณา
นิคมในดินแดนนี้3 เขต เขตอาณานิคมนิวอิงแลนด์ เขตอาณานิคม
และเขตอาณานิคมภาคใต้ รวมอาณานิคม 13 แห่ง
ชาวอังกฤษที่อพยพไปตัง้รกรากในสหรัฐอเมริกาในระยะแรกมี
ความผูกพันกับเมืองแม่ของตนเองด้วยการยอมรับนับถือกษัตริย์อังกฤษ
เป็นกษัตริย์ของตน และรวมกันปกครองตนเองในรูปแบบอาณานิคมขึน้
ตรงต่ออังกฤษ แต่ต่อมาเมื่ออังกฤษทาสงครามยืดเยือ้กับฝรั่งเศส
อังกฤษต้องใช้เงินจานวนมาก รัฐบาลอังกฤษจึงหันมาขูดรีด
ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของชาวอาณานิคมด้วยการเก็บภาษีชาว
อาณานิคมอย่างรุนแรงและเอาเปรียบทางการค้า
- 19. การปฏิวัติของชาวอเมริกัน ค.ศ. 1776
นอกจากนียั้งมีการคุกคามสิทธิและเสรีภาพทางการเมือง โดย
รัฐสภาอังกฤษออกพระราชบัญญัติควิเบก ตามพระบัญญัตินีอั้งกฤษมี
สิทธิที่จะยับยัง้สิทธิและเสรีภาพของชาวอาณานิคมได้ อีกทัง้ยังให้
เสรีภาพทางการเมือง ทางศาสนาแก่พวกคาทอลิคด้วย สร้างความไม่
พอใจแก่ชาวอาณานิคมเป็นอย่างมาก
ในวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1776 ชาวอาณานิคมจึงพร้อมใจกัน
ประกาศอิสรภาพจากอังกฤษ ทางฝ่ายอังกฤษส่งทหารมาปราบ
กลายเป็นสงคราม เรียกว่า สงครามประกาศอิสรภาพอเมริกัน ชาว
อาณานิคมได้รับความช่วยเหลือจากฝรั่งเศสและเป็นฝ่ายชนะ ใน ค.ศ.
1783 ได้ตัง้เป็นประเทศใหม่ คือ สหรัฐอเมริกา มีประธานาธิบดีเป็น
ประมุข
- 20. การปฏิวัติของชาวอเมริกัน ค.ศ. 1776
ชาวอเมริกันมีความคิดและจิตใจที่ยึดมนั่ในระบอบประชาธิปไตย
สามารถวางรากฐานการปกครองแบบประชาธิปไตยได้อย่างมนั่คง
ประธานาธิบดีอเมริกันผู้มีชื่อเสียงในการส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยและ
ความเสมอภาคในหมู่ประชาชนคือ ประธานาธิบดีเอบราแฮม ลิงคอล์น ได้
ประกาศเลิกทาสและให้ความเสมอภาคแก่ชาวผิวดา
ฝรั่งเศสได้ตัวอย่างการให้สิทธิประชาชนทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่มีการ
แบ่งชนชัน้ และไม่ให้ศาสนาเข้ามามีบทบาททางการเมืองจากอเมริกา
- 21. การปฏิวัติฝรั่งเศส ค.ศ. 1789
การปฏิวัติฝรั่งเศส เกิดจากปัญหาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง
สาเหตุของปัญหาเศรษฐกิจก็คือฝรั่งเศสต้องทาสงครามหลายครัง้
สงครามที่สิน้เปลืองมากที่สุด คือ การเข้าช่วยอาณานิคมรบกับอังกฤษ
ในสงครามประกาศอิสรภาพอเมริกัน ในด้านสังคม ฝรั่งเศสมีโครงสร้าง
สังคมแบบชนชัน้ซงึ่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารประเทศ โดยมีการแบ่ง
ชาวฝรั่งเศสออกเป็น 3 ฐานันดร
1. นักบวชนิกายโรมันคาทอลิก
2. ขุนนางและพวกผู้ดีมีตระกูล
3. ชนชัน้กลาง ชาวนาและกรรมกร
- 22. การปฏิวัติฝรั่งเศส ค.ศ. 1789
เมื่อฝรั่งเศสกาลังจะล้มละลาย เสนาบดีคลังเสนอให้มีการเก็บภาษี
จากประชาชนทุกคน แต่ก็ถูกต่อต้านจากฐานันดรที่ 1 และ 2 ที่ไม่เคย
จ่ายภาษีมาก่อน ปัญญาชนชาวฝรั่งเศสพยายามหาทางแก้ไข
สถานการณ์ต่างๆให้ดีขึน้
อังกฤษซึ่งปกครองในระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ และกาลัง
เจริญรุ่งเรืองจึงกลายเป็นแม่แบบให้กลุ่มปัญญาชนชาวฝรั่งเศสที่จะหา
หนทางให้ชาวฝรั่งเศสได้ชื่นชมกับเสรีภาพอย่างชาวอังกฤษบ้าง
นอกจากนีช้าวฝรั่งเศสเองยังมีความเชื่อว่าการปกครองแบบมีรัฐสภา
หรือรัฐบาลประชาธิปไตย จะนาความมงั่คงั่มาสู่ประเทศได้
- 23. การปฏิวัติฝรั่งเศส ค.ศ. 1789
ต่อมางานวรรณกรรมทางการเมืองของล็อก มองเตสกิเออร์ วอท
แตร์ และ รูโซ รวมทัง้ปัญญาชนคนอื่นๆ สร้างเงื่อนไขอันก่อให้เกิด
ความหวังใหม่ขึน้มาในหมู่ประชาชน ความคิดดังกล่าวเป็นรูปธรรมมาก
ขึน้เมื่อชาวอเมริกันได้ก่อการปฏิวัติ เพื่อแยกตัวเองเป็นอิสระจาการเป็น
อาณานิคมของอังกฤษ ดังนัน้อีก 13 ปีต่อมา ชาวฝรั่งเศสได้ก่อการ
ปฏิวัติครัง้ใหญ่เพื่อล้มล้างอานาจการปกครองแบบราชาธิปไตย และ
ต่อมาได้จัดตัง้ระบอบการปกครองแบบสาธารณรัฐ
- 24. การปฏิวัติฝรั่งเศส ค.ศ. 1789
การปฏิวัติฝรั่งเศส ได้ส่งผลกระทบให้แนวคิดเรื่องเสรีภาพ ความเสมอ
ภาค และภารดรภาพ แพร่กระจายไปทวั่ทวีปยุโรป โดยผ่านการที่ฝรั่งเศสทา
สงครามยึดครองประเทศต่างๆ ในยุโรปในช่วงสงครามปฏิวัติฝรั่งเศสแม้ว่า
ท้ายที่สุดฝรั่งเศสต้องพ่ายแพ้ก็ตาม
คาประกาศสิทธิมนุษยชนและพลเมืองของฝรั่งเศสที่ประกาศเมื่อวันที่
27 สิงหาคม ค.ศ. 1789 กล่าวได้ว่า แนวความคิดประชาธิปไตยของล็อก
มองเตสกิเออร์ วอทแตร์ และรูโซ มีผลในการปลุกเร้าจิตสานึกทางการเมือง
ของชาวตะวันตกเป็นอันมาก และก่อให้เกิดการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซงึ่
ประชาธิปไตยในประเทศต่างๆ เหตุการณ์ปฏิวัติทางการเมืองโดยเฉพาะการ
ปฏิวัติฝรั่งเศส ค.ศ. 1789 เป็นแม่แบบให้ชาวตะวันตกร่วมเรียกร้องสิทธิ
เสรีภาพทางการทางการเมืองมากขึน้