073หลักธรรมพื้นฐาน

niralai
073หลักธรรมพื้นฐาน
สติสติ
สัมปชัญญะสัมปชัญญะ
3.3. หิริหิริ3.3. หิริหิริ
4.4. โอตตัปปะโอตตัปปะ4.4. โอตตัปปะโอตตัปปะ
5.5.ขันติขันติ5.5.ขันติขันติ
6.6.โสรัจจะโสรัจจะ6.6.โสรัจจะโสรัจจะ
1.สติ1.สติ
2.2.สัมปชัญญะสัมปชัญญะ
7.บุพพการี7.บุพพการี
8. กตัญญูกตเวที8. กตัญญูกตเวที
ความละอายแก่ใ
ความระลึกได้
ความรู้ตัว
การตอบแทนคุณ
ความเกรงกลัวบา
ผู้ทำาอุปการะ
ความอดทน
ความสงบเสงี่ยม
ธรรมมีอุปการะธรรมมีอุปการะ
๒ อย่าง๒ อย่าง๑. สติ แปลว่า ความ
ระลึกได้
* ระลึกอย่างไร จึง
เรียกว่า สติ
๑. ความระลึกเป็นลักษณะ ระลึก
เรื่อง อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต
ม่ลืมเลือนเป็นกิจ ไม่ลืมเรื่อง อดีต-ปัจจุบัน
คลุมเป็นเครื่องปรากฏ ได้แก่ควบคุม การทำา-ค
๑.สติ ๑.สัมปชัญญ
. สัมปชัญญะ แปลว่าความ
รู้ตัว
รู้ตัวอย่างไร
๑. มีความไม่ฟั่นเฟือนเป็นลักษณะ
คือ การรู้ตัวทุกอิริยาบถตรองเป็นกิจ คือการพิจารณาเห็นคุณ ประโยชน์
ฟ้นเป็นเครื่องปรากฏ คือ ละสิ่งที่เป็นโทษ ประพฤติสิ่งที่
นั้น สัมปชัญญะ ทำาหน้าที่ ขณะทำา ขณะพูด ขณะ
งได้ชื่อว่ามีอุปการะมากเพราะเป็นอุปการธรรมอุดหนุนให้ส
วิธีฝึกให้มีสติ - สัมปชัญญะ
พูดจะคิดอะไร ให้ใคร่ควรเสียก่อน
ใดให้เอาใจจดจ่อต่อสิ่งนั้น อย่าทำาอะไร ๆ หลายอย่างในเว
ะมาทในการงานทั้งปวง
ากของมึนเมาและสิ่งเสพติดให้โทษ
ผลดีของการมีสติผลดีของการมีสติ -- สัมปชัญญะสัมปชัญญะ
4.4. ทำาให้เกิดผลดีในการทำา การพูด การคิดทำาให้เกิดผลดีในการทำา การพูด การคิด
 5.5.ทำาให้เป็นคนที่มีระเบียบวินัย มารยาททำาให้เป็นคนที่มีระเบียบวินัย มารยาท
เรียบร้อยเรียบร้อย
 6.6. ทำาให้เป็นที่รักใคร่นับถือของผู้อื่น และมีทำาให้เป็นที่รักใคร่นับถือของผู้อื่น และมี
ความเจริญก้าวหน้าความเจริญก้าวหน้า
 7.7. ทำาให้สังคมเป้นอยู่อย่างสันติสุขทำาให้สังคมเป้นอยู่อย่างสันติสุข
คุมรักษาสภาพจิตให้อยู่ในสภาพที่ต้องการคุมรักษาสภาพจิตให้อยู่ในสภาพที่ต้องการ
ให้ร่างกายและจิตใจเป็นของตัวเองให้ร่างกายและจิตใจเป็นของตัวเอง
ห้ไม่เป็นคนเผอเรอ ทำาอะไรก็ไม่ผิดพลาดห้ไม่เป็นคนเผอเรอ ทำาอะไรก็ไม่ผิดพลาด
๑๑..
หิริหิริ
๑๑..
หิริหิริ
๒๒.. โอตตัปปะโอตตัปปะ๒๒.. โอตตัปปะโอตตัปปะ
- มีความรังเกียจขยะแขยงบาปมีกาย
ทุจริตเป็นต้นเป็นลักษณะ
มีความเคารพยำาเกรงเป็นลักษณะ
เคารพยำาเกรง ๔ อย่าง
- – –เคารพ ชาติ ครูอาจารย์ ทรัพย์ -
- มีความรังเกียจขยะแขยงบาปมีกาย
ทุจริตเป็นต้นเป็นลักษณะ
มีความเคารพยำาเกรงเป็นลักษณะ
เคารพยำาเกรง ๔ อย่าง
- – –เคารพ ชาติ ครูอาจารย์ ทรัพย์ -
ริ แปลว่าความละอายแก่ใจ* ละอายแก่ใจในเรื่องอะไรบ้าง* ละอายแก่ใจในเรื่องอะไรบ้าง
หิ
ริ
หิ
ริ
ตตัปปะ แปลว่าแปลว่าความเกรงกลัวความเกรงกลัว*เกรงกลัวอะไรบ้าง*
ป็นผู้กลัวโทษและเห็นแจ้งซึ่งภัยเป็นลักษณะ โดยเห
ลัวตนเองไม่สบายใจ๒. กลัวคนอื่นติเตียน ๓. กลัวถูก
ลงโทษ
๔. กลัวตก
นรก
หิริและโอตตัปปะ เป็นธรรมคุ้มครอง
โลกให้อยู่อย่างสันติสุขได้
เพราะผู้มี หิริและโอตตัปปะปะ ย่อม
ขยะแขยงต่อการทำาความชั่ว และเกรง
๑.ขัน
ติ
๒.
โสรัจจะความหมาย
ความอดทน๑.ขันติ
แปลว่า
เป็นลักษณะของผู้มีนำ้าใจเข้ม
แข็ง หนักแน่น เป็นคุณสมบัติ
ของผู้ปกครอง และเป็นมงคล
เหตุแห่ง
สรัจจะ แปลว่า ความเสงี่ยม
ได้แก่การรู้จักทำาจิตใจให้แช่ม
ชื่นเบิกบาน มีกายวาจา
สงบเสงี่ยมเรียบร้อย คือมี
อาการปกติเยือกเย็น
ภายใน ไม่แสดงอาการขึ้นลง
1.บุพ
พการี
2. กตัญญู
กตเวที
ุพพการี แปลว่า บุคคลผู้ทำาอุปการะก
กตัญญูกตเวที แปลว่า
ลผู้รู้อุปการะที่ท่านทำาแล้วและตอบ
ได้แก่ บุคคลผู้
มีอัธยาศัยเผื่อ
แผ่ มีพรหม
วิหารประจำาใจ
คิดแต่จะให้แต่
ไม่คิดจะเอา สิ่ง
ใดเพื่อเป็นผล
ตอบแทนจาก
เรา
ตัวอย่าง บุพพการี
พระมหากษัตริย์
พ่อ แม่
ครูอาจารย์
ทหารตำารวจ
เรารู้คุณ
แล้วเราจะ
ตอบแทน
ยังไงจึงจะ
ได้ชื่อว่า
*บอกๆๆหน่อยสิ
บุคคลหาได้ยาก ๒ อย่างบุคคลหาได้ยาก ๒ อย่างบุพพการี แปลว่า บุคคลผู้ทำาอุปการะก่อน
กตัญญูกตเวที แปลว่า บุคคลผู้รู้อุปการะที่ท่านทำาแล้วและ
ตอบแทน
บุพพการี ได้แก่ บุคคลผู้มีอัธยาศัยเผื่อแผ่ มีพรหมวิหาร
ประจำาใจ คิดแต่จะ ให้แต่ไม่คิดจะเอา ท่านกำาหนดว่ามี ๔
ประเภท
๑ มารดาบิดา เป็นบุพพการีของบุตรธิดา เพราะเป็นผู้ให้
กำาเนิด ให้การเลี้ยงดู และให้การดูแลตามหลัก ๕ ประการ
๑. ห้ามมิให้ทำาความชั่ว
๒. สอนให้ตั้งอยู่ในความดี
๓. ให้ศึกษาศิลปวิทยา
๔. หาคู่ครองที่สมควรให้
๕. มอบสมบัติให้ในโอกาสอันคาร
 ๒. ครู อาจารย์ อุปัชฌาย์ เป็นบุพพการีของนักเรียน ศิษยานุศิษย์
เพราะเป็นผู้ให้การแนะนำาสั่งสอนให้มีความรู้ ความสามารถซึ่งมีหลัก
ที่ต้องปฏิบัติ ๕ ประการ
 ๑. แนะนำาดี ๒. ให้เรียนดี
 ๓. บอกศิลปให้สิ้นเชิง ๔. ยกย่องในที่ชุมชน
 ๕. ช่วยปกป้องและป้องกันศิษย์ ให้ปลอดในทุกสถาน
 ๓. พระมหากษัตริย์ เป็นบุพพการีของประชาราษฎร์ เพราะทรง
มีหน้าที่ดูแลบำาบัดทุกข์บำารุงสุขให้แก่ประชาราษฎร์ โดยทรงดำารงอยู่
ในทศพิธราชธรรม ๑๐ ประการ ได้แก่ ๑. ทาน ๒. ศีล ๓. บริจาค
 ๔. ความซื่อตรง ๕. ความอ่อนโยน ๖. คอยกำาจัดคนชั่ว ๗.
ความไม่โกรธ
 ๘. การไม่เบียดเบียน ๙. ความอดทน ๑๐. ความไม่ผิดทุกกรณีย์
รู้มากแต่นิ่งเฉยหาใช่เลยว่าเป็นบัณฑิต
ความจริงนั้นไซร้ปฏิบัตินั้นยากหนักหนา
ปฏิบัติธรรมเพียงข้อนิด คือชีวิตที่ไม่ประมาท
เรียนธรรมะอาจดูว่าง่าย
ละนิดจิตแจ่มใส เรียนมากไป เดี๊ยวเปงแบบนี้ เฮ้อ..
073หลักธรรมพื้นฐาน
 สามัญญลักษณ์ ๓ อย่าง
 ลักษณะที่เสมอกันแก่สังขารทั้งปวง เรียกว่า สามัญ
ญลักษณะ
 ๑. อนิจจตา ความเป็นของไม่เที่ยง
 ๒. ทุกขตา ความเป็นทุกข์
 ๓. อนัตตา ความเป็นของไม่ใช่ตัวตน
 อคติ ๔
 ๑. ลำาเอียงเพราะรักใคร่กัน เรียกว่า ฉันทาคติ
 ๑. ลำาเอียงเพราะไม่ชอบกัน เรียกว่า โทสาคติ
 ๑. ลำาเอียงเพราะความไม่รู้ เรียกว่า โมหาคติ
 ๑. ลำาเอียงเพราะกลัว เรียกว่า ภยาคติ
 ปธาน คือความเพียร ๔ อย่าง
 ๑. สังวรปธาน เพียรระวังไม่ให้บาปเกิดขึ้นในสันดาน
 ๒. ปหานปธาน เพียรละบาปเกิดขึ้นแล้ว
 ๓. ภาวนาปธาน เพียรให้กุศลเกิดขึ้นในสันดาน
 ๔. อนุรักขนาปธาน เพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้วไม่ให้เส
 อิทธิบาท คือคุณเครื่องให้สำาเร็จความประสงค์ ๔ อย่าง
 ๑. ฉันทะ พอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น
 ๒. วิริยะ เพียรประกอบสิ่งนั้น
 ๓. จิตตะ เอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้นไม่วางธุระ
 ๔. วิมังสา หมั่นตริตรองพิจารณาเหตุผลในสิ่งนั้น


 พรหมวิหาร ๔
 ๑. เมตตา ความรักใคร่ ปรารถนาจะให้เป็นส
 ๒. กรุณา ความสงสาร คิดจะช่วยให้พ้นทุกข
 ๓. มุทิตา ความพลอยยินดี เมื่อผู้อื่นได้ดี
 ๔. อุเบกขา ความวางเฉย ไม่ดีใจไม่เสียใจเมื่อ
อื่นถึงความวิบัติ
 สติปัฏฐาน ๔
 ๑. กายานุปํสสนา
 ๒. เวทนานุปํสสนา
 ๓. จิตตานุปํสสนา
 ๔. ธัมมานุปํสสนา
 อริยสัจ ๔
 ๑. ทุกข์
 ๒. สมุทัย คือ เหตุให้เกิดทุกข์
 ๓. นิโรธ คือ ความดับทุกข์
 ๔. มรรค คือ ข้อปฏิบัติใหัถึงความดับทุกข์
 อนันตริยกรรม ๕
 ๑. มาตุฆาต ฆ่ามารดา
 ๒. ปิตุฆาต ฆ่าบิดา
 ๓. อรหันตฆาต ฆ่าพระอรหันต์
 ๔. สังฆเภท ยังสงฆ์ให้แตกจากกัน
 ๕. โลหิตุปบาท ทำาร้ายพระพุทธเจ้าพระโลหิตให้ห้อขึ้น
 พละ คือ ธรรมเป็นกำาลัง ๕ อย่าง
 ๑. สัทธา ความเชื่อ
 ๒. วิริยะ ความเพียร
 ๓. สติ ความระลึกได้
 ๔. สมาธิ ความตั้งใจมั่น
 ๕. ปัญญา ความรอบรู้
 นิวรณ์ คือ ธรรมกั้นจิตใจไม่ให้บรรลุความดี มี ๕ อย่าง
 ๑. กามฉันทะ
 ๒. พยาบาท
 ๓. ถีนมิทธะ
 ๔. อุทธัจจกุกกุจจะ
 ๕. วิจิกิจฉา

 โลกธรรม ๘
 ๑. มีลาภ ๒. เสื่อมลาภ
 ๓. มียศ ๔. เสื่อมยศ
 ๕. นินทา ๖. สรรเสริญ
 ๗. สุข ๘. ทุกข์
 กุศลกรรมบท ๑๐
 กายกรรม ๓ ได้แก่
 ๑. ไม่ฆ่าสัตว์
 ๒. ไม่ลักขโมย
 ๓. ไม่ประพฤติผิดในกาม
 วจีกรรม ๔ ได้แก่
 ๑. ไม่พูดเท็จ
 ๒. ไม่พูดคำาหยาบ
 ๓. ไม่พูดส่อเสียด
 ๔. ไม่พูดเพ้อเจ้อ
 มโนกรรม ๓ ได้แก่
 ๑. ไม่โลภอยากได้
 ๒. ไม่ปองร้าย
 ๓. เห็นชอบตามทำานองคลองธรรม

1 sur 23

Recommandé

อริยสัจ ๔ ม.๒ par
อริยสัจ ๔ ม.๒อริยสัจ ๔ ม.๒
อริยสัจ ๔ ม.๒Evesu Goodevening
10.3K vues33 diapositives
หลักธรรมพุทธศาสนา par
หลักธรรมพุทธศาสนาหลักธรรมพุทธศาสนา
หลักธรรมพุทธศาสนาkruudompcccr
22.9K vues78 diapositives
อริยสัจ 4 par
อริยสัจ 4อริยสัจ 4
อริยสัจ 4Topbeekung Thongsophon
4.3K vues14 diapositives
อริยสัจ4และการปล่อยวาง par
อริยสัจ4และการปล่อยวางอริยสัจ4และการปล่อยวาง
อริยสัจ4และการปล่อยวางสาวกปิศาจ Kudo
18.2K vues51 diapositives
หลักอริยสัจ4 par
หลักอริยสัจ4หลักอริยสัจ4
หลักอริยสัจ4พัน พัน
6.6K vues24 diapositives
อริยสัจ 4 par
อริยสัจ 4อริยสัจ 4
อริยสัจ 4tassanee chaicharoen
973 vues7 diapositives

Contenu connexe

Tendances

บทที่ 7 สมถกัมมัฏฐาน par
บทที่ 7 สมถกัมมัฏฐานบทที่ 7 สมถกัมมัฏฐาน
บทที่ 7 สมถกัมมัฏฐานOnpa Akaradech
6.3K vues26 diapositives
อริยสัจ 4 par
อริยสัจ 4อริยสัจ 4
อริยสัจ 4ศศิพร แซ่เฮ้ง
264 vues6 diapositives
ปริเฉทที่ 3 par
ปริเฉทที่ 3ปริเฉทที่ 3
ปริเฉทที่ 3Onpa Akaradech
1.5K vues31 diapositives
อริยสัจ 4 par
อริยสัจ 4อริยสัจ 4
อริยสัจ 4ธนาภรณ์ กองวาจา
215 vues6 diapositives
บทที่ 1 นิพพิทา par
บทที่ 1 นิพพิทาบทที่ 1 นิพพิทา
บทที่ 1 นิพพิทาOnpa Akaradech
2K vues23 diapositives
บทเรียนพระพุทธศาสนา ป.๕ par
บทเรียนพระพุทธศาสนา ป.๕บทเรียนพระพุทธศาสนา ป.๕
บทเรียนพระพุทธศาสนา ป.๕Napakan Srionlar
3.4K vues34 diapositives

Tendances(20)

บทที่ 7 สมถกัมมัฏฐาน par Onpa Akaradech
บทที่ 7 สมถกัมมัฏฐานบทที่ 7 สมถกัมมัฏฐาน
บทที่ 7 สมถกัมมัฏฐาน
Onpa Akaradech6.3K vues
บทที่ 1 นิพพิทา par Onpa Akaradech
บทที่ 1 นิพพิทาบทที่ 1 นิพพิทา
บทที่ 1 นิพพิทา
Onpa Akaradech2K vues
บทเรียนพระพุทธศาสนา ป.๕ par Napakan Srionlar
บทเรียนพระพุทธศาสนา ป.๕บทเรียนพระพุทธศาสนา ป.๕
บทเรียนพระพุทธศาสนา ป.๕
Napakan Srionlar3.4K vues
กฏแห่งกรรม par june_yenta4
กฏแห่งกรรมกฏแห่งกรรม
กฏแห่งกรรม
june_yenta42.1K vues
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา par primpatcha
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
primpatcha14.3K vues
บทที่ 2 วิราคะ par Onpa Akaradech
บทที่ 2 วิราคะบทที่ 2 วิราคะ
บทที่ 2 วิราคะ
Onpa Akaradech6.6K vues
074หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา par niralai
074หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา074หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
074หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
niralai6.9K vues
สังสารวัฏ การเวียนว่ายตายเกิด par Padvee Academy
สังสารวัฏ การเวียนว่ายตายเกิดสังสารวัฏ การเวียนว่ายตายเกิด
สังสารวัฏ การเวียนว่ายตายเกิด
Padvee Academy6.6K vues
บทที่ 6 นิพพาน par Onpa Akaradech
บทที่ 6 นิพพานบทที่ 6 นิพพาน
บทที่ 6 นิพพาน
Onpa Akaradech2.5K vues
วิเคราะห์ปฏิจจสมุปบาท par Padvee Academy
วิเคราะห์ปฏิจจสมุปบาทวิเคราะห์ปฏิจจสมุปบาท
วิเคราะห์ปฏิจจสมุปบาท
Padvee Academy6.4K vues
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๔ ลำดับขั้นตอนการปฏิบัิติวิปัสสนากรรมฐาน par Padvee Academy
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๔ ลำดับขั้นตอนการปฏิบัิติวิปัสสนากรรมฐานธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๔ ลำดับขั้นตอนการปฏิบัิติวิปัสสนากรรมฐาน
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๔ ลำดับขั้นตอนการปฏิบัิติวิปัสสนากรรมฐาน
Padvee Academy5.1K vues
ธรรมที่จำเป็น สู่การพ้นทุกข์ 20170616 par Sombat Nakasathien
ธรรมที่จำเป็น สู่การพ้นทุกข์ 20170616ธรรมที่จำเป็น สู่การพ้นทุกข์ 20170616
ธรรมที่จำเป็น สู่การพ้นทุกข์ 20170616
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๓ การเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔ par Padvee Academy
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๓ การเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๓ การเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๓ การเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔
Padvee Academy8.9K vues

Similaire à 073หลักธรรมพื้นฐาน

รวมหลักธรรมสำหรับท่องจำแบบย่อ ธศ ตรี par
รวมหลักธรรมสำหรับท่องจำแบบย่อ ธศ ตรีรวมหลักธรรมสำหรับท่องจำแบบย่อ ธศ ตรี
รวมหลักธรรมสำหรับท่องจำแบบย่อ ธศ ตรีTheeraphisith Candasaro
1.1K vues10 diapositives
หลักธรรม ของ นักบริหาร par
หลักธรรม ของ นักบริหารหลักธรรม ของ นักบริหาร
หลักธรรม ของ นักบริหารPanuwat Beforetwo
14.7K vues13 diapositives
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรม par
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรมธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรม
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรมTaweedham Dhamtawee
601 vues16 diapositives
Sp1 sp5 par
Sp1 sp5Sp1 sp5
Sp1 sp5Pusadee Dang
895 vues91 diapositives
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ par
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์Nhui Srr
4.2K vues4 diapositives

Similaire à 073หลักธรรมพื้นฐาน(20)

รวมหลักธรรมสำหรับท่องจำแบบย่อ ธศ ตรี par Theeraphisith Candasaro
รวมหลักธรรมสำหรับท่องจำแบบย่อ ธศ ตรีรวมหลักธรรมสำหรับท่องจำแบบย่อ ธศ ตรี
รวมหลักธรรมสำหรับท่องจำแบบย่อ ธศ ตรี
หลักธรรม ของ นักบริหาร par Panuwat Beforetwo
หลักธรรม ของ นักบริหารหลักธรรม ของ นักบริหาร
หลักธรรม ของ นักบริหาร
Panuwat Beforetwo14.7K vues
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรม par Taweedham Dhamtawee
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรมธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรม
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรม
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ par Nhui Srr
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
Nhui Srr4.2K vues
สาระสำคัญของศาสนา par Min Kannita
สาระสำคัญของศาสนา สาระสำคัญของศาสนา
สาระสำคัญของศาสนา
Min Kannita4.3K vues
ทำอย่างไรชีวิตจึงจะมีความสุข par niralai
ทำอย่างไรชีวิตจึงจะมีความสุขทำอย่างไรชีวิตจึงจะมีความสุข
ทำอย่างไรชีวิตจึงจะมีความสุข
niralai2.1K vues
ศาสนาเปรียบเทียบ 1 par thnaporn999
ศาสนาเปรียบเทียบ 1ศาสนาเปรียบเทียบ 1
ศาสนาเปรียบเทียบ 1
thnaporn99939.5K vues
ชุดส่งเสริมความรู้ด้วยตนเองเรื่องอารมณ์และความเครียด par tassanee chaicharoen
ชุดส่งเสริมความรู้ด้วยตนเองเรื่องอารมณ์และความเครียดชุดส่งเสริมความรู้ด้วยตนเองเรื่องอารมณ์และความเครียด
ชุดส่งเสริมความรู้ด้วยตนเองเรื่องอารมณ์และความเครียด
เรียนรู้วิธีออกจากทุกข์ par Panda Jing
เรียนรู้วิธีออกจากทุกข์เรียนรู้วิธีออกจากทุกข์
เรียนรู้วิธีออกจากทุกข์
Panda Jing1.7K vues
คุณธรรมจริยธรรมผู้บริหาร 2 par Prapaporn Boonplord
คุณธรรมจริยธรรมผู้บริหาร 2คุณธรรมจริยธรรมผู้บริหาร 2
คุณธรรมจริยธรรมผู้บริหาร 2
บทที่ 4 วิสุทธิ par Onpa Akaradech
บทที่ 4 วิสุทธิบทที่ 4 วิสุทธิ
บทที่ 4 วิสุทธิ
Onpa Akaradech2.3K vues
พระไตรปิฏกฉบับหลวงเล่มที่๔๒ par Rose Banioki
พระไตรปิฏกฉบับหลวงเล่มที่๔๒พระไตรปิฏกฉบับหลวงเล่มที่๔๒
พระไตรปิฏกฉบับหลวงเล่มที่๔๒
Rose Banioki205 vues
สมุดประจำตัวสำหรับผู้เขาค่ายคุณธรรม par niralai
สมุดประจำตัวสำหรับผู้เขาค่ายคุณธรรมสมุดประจำตัวสำหรับผู้เขาค่ายคุณธรรม
สมุดประจำตัวสำหรับผู้เขาค่ายคุณธรรม
niralai11.3K vues

Plus de niralai

334กุศลกรรมบถ10 par
334กุศลกรรมบถ10334กุศลกรรมบถ10
334กุศลกรรมบถ10niralai
2.7K vues23 diapositives
332วันอาสาฬหบูชา par
332วันอาสาฬหบูชา332วันอาสาฬหบูชา
332วันอาสาฬหบูชาniralai
1.1K vues13 diapositives
331วันเข้าพรรษา par
331วันเข้าพรรษา331วันเข้าพรรษา
331วันเข้าพรรษาniralai
654 vues7 diapositives
338มารยาทไทย par
338มารยาทไทย338มารยาทไทย
338มารยาทไทยniralai
7.1K vues76 diapositives
337ประวัติพระพุทธศาสนา par
337ประวัติพระพุทธศาสนา337ประวัติพระพุทธศาสนา
337ประวัติพระพุทธศาสนาniralai
1.9K vues36 diapositives
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม) par
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)niralai
1.9K vues21 diapositives

Plus de niralai(20)

334กุศลกรรมบถ10 par niralai
334กุศลกรรมบถ10334กุศลกรรมบถ10
334กุศลกรรมบถ10
niralai2.7K vues
332วันอาสาฬหบูชา par niralai
332วันอาสาฬหบูชา332วันอาสาฬหบูชา
332วันอาสาฬหบูชา
niralai1.1K vues
331วันเข้าพรรษา par niralai
331วันเข้าพรรษา331วันเข้าพรรษา
331วันเข้าพรรษา
niralai654 vues
338มารยาทไทย par niralai
338มารยาทไทย338มารยาทไทย
338มารยาทไทย
niralai7.1K vues
337ประวัติพระพุทธศาสนา par niralai
337ประวัติพระพุทธศาสนา337ประวัติพระพุทธศาสนา
337ประวัติพระพุทธศาสนา
niralai1.9K vues
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม) par niralai
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)
niralai1.9K vues
336เบญจศีล par niralai
336เบญจศีล336เบญจศีล
336เบญจศีล
niralai883 vues
340วัฒนธรรมชาวพุทธ par niralai
340วัฒนธรรมชาวพุทธ340วัฒนธรรมชาวพุทธ
340วัฒนธรรมชาวพุทธ
niralai436 vues
339ระวังอย่าให้อาย! par niralai
339ระวังอย่าให้อาย!339ระวังอย่าให้อาย!
339ระวังอย่าให้อาย!
niralai341 vues
345สถานการณ์วัยรุ่นไทย par niralai
345สถานการณ์วัยรุ่นไทย345สถานการณ์วัยรุ่นไทย
345สถานการณ์วัยรุ่นไทย
niralai508 vues
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ par niralai
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ
niralai503 vues
343ศิลปการพูด par niralai
343ศิลปการพูด343ศิลปการพูด
343ศิลปการพูด
niralai531 vues
342วิธีสร้างสุข5 par niralai
342วิธีสร้างสุข5342วิธีสร้างสุข5
342วิธีสร้างสุข5
niralai522 vues
341วันออกพรรษา par niralai
341วันออกพรรษา341วันออกพรรษา
341วันออกพรรษา
niralai603 vues
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา par niralai
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา
niralai814 vues
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี par niralai
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี
niralai789 vues
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12 par niralai
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12
niralai443 vues
350สารานิยธรรม6 par niralai
350สารานิยธรรม6350สารานิยธรรม6
350สารานิยธรรม6
niralai266 vues
349สังคหวัตถุ4 par niralai
349สังคหวัตถุ4349สังคหวัตถุ4
349สังคหวัตถุ4
niralai241 vues
351หน้าที่ชาวพุทธ3 par niralai
351หน้าที่ชาวพุทธ3351หน้าที่ชาวพุทธ3
351หน้าที่ชาวพุทธ3
niralai2.3K vues

073หลักธรรมพื้นฐาน

  • 2. สติสติ สัมปชัญญะสัมปชัญญะ 3.3. หิริหิริ3.3. หิริหิริ 4.4. โอตตัปปะโอตตัปปะ4.4. โอตตัปปะโอตตัปปะ 5.5.ขันติขันติ5.5.ขันติขันติ 6.6.โสรัจจะโสรัจจะ6.6.โสรัจจะโสรัจจะ 1.สติ1.สติ 2.2.สัมปชัญญะสัมปชัญญะ 7.บุพพการี7.บุพพการี 8. กตัญญูกตเวที8. กตัญญูกตเวที ความละอายแก่ใ ความระลึกได้ ความรู้ตัว การตอบแทนคุณ ความเกรงกลัวบา ผู้ทำาอุปการะ ความอดทน ความสงบเสงี่ยม
  • 3. ธรรมมีอุปการะธรรมมีอุปการะ ๒ อย่าง๒ อย่าง๑. สติ แปลว่า ความ ระลึกได้ * ระลึกอย่างไร จึง เรียกว่า สติ ๑. ความระลึกเป็นลักษณะ ระลึก เรื่อง อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต ม่ลืมเลือนเป็นกิจ ไม่ลืมเรื่อง อดีต-ปัจจุบัน คลุมเป็นเครื่องปรากฏ ได้แก่ควบคุม การทำา-ค ๑.สติ ๑.สัมปชัญญ
  • 4. . สัมปชัญญะ แปลว่าความ รู้ตัว รู้ตัวอย่างไร ๑. มีความไม่ฟั่นเฟือนเป็นลักษณะ คือ การรู้ตัวทุกอิริยาบถตรองเป็นกิจ คือการพิจารณาเห็นคุณ ประโยชน์ ฟ้นเป็นเครื่องปรากฏ คือ ละสิ่งที่เป็นโทษ ประพฤติสิ่งที่ นั้น สัมปชัญญะ ทำาหน้าที่ ขณะทำา ขณะพูด ขณะ งได้ชื่อว่ามีอุปการะมากเพราะเป็นอุปการธรรมอุดหนุนให้ส
  • 5. วิธีฝึกให้มีสติ - สัมปชัญญะ พูดจะคิดอะไร ให้ใคร่ควรเสียก่อน ใดให้เอาใจจดจ่อต่อสิ่งนั้น อย่าทำาอะไร ๆ หลายอย่างในเว ะมาทในการงานทั้งปวง ากของมึนเมาและสิ่งเสพติดให้โทษ
  • 6. ผลดีของการมีสติผลดีของการมีสติ -- สัมปชัญญะสัมปชัญญะ 4.4. ทำาให้เกิดผลดีในการทำา การพูด การคิดทำาให้เกิดผลดีในการทำา การพูด การคิด  5.5.ทำาให้เป็นคนที่มีระเบียบวินัย มารยาททำาให้เป็นคนที่มีระเบียบวินัย มารยาท เรียบร้อยเรียบร้อย  6.6. ทำาให้เป็นที่รักใคร่นับถือของผู้อื่น และมีทำาให้เป็นที่รักใคร่นับถือของผู้อื่น และมี ความเจริญก้าวหน้าความเจริญก้าวหน้า  7.7. ทำาให้สังคมเป้นอยู่อย่างสันติสุขทำาให้สังคมเป้นอยู่อย่างสันติสุข คุมรักษาสภาพจิตให้อยู่ในสภาพที่ต้องการคุมรักษาสภาพจิตให้อยู่ในสภาพที่ต้องการ ให้ร่างกายและจิตใจเป็นของตัวเองให้ร่างกายและจิตใจเป็นของตัวเอง ห้ไม่เป็นคนเผอเรอ ทำาอะไรก็ไม่ผิดพลาดห้ไม่เป็นคนเผอเรอ ทำาอะไรก็ไม่ผิดพลาด
  • 7. ๑๑.. หิริหิริ ๑๑.. หิริหิริ ๒๒.. โอตตัปปะโอตตัปปะ๒๒.. โอตตัปปะโอตตัปปะ - มีความรังเกียจขยะแขยงบาปมีกาย ทุจริตเป็นต้นเป็นลักษณะ มีความเคารพยำาเกรงเป็นลักษณะ เคารพยำาเกรง ๔ อย่าง - – –เคารพ ชาติ ครูอาจารย์ ทรัพย์ - - มีความรังเกียจขยะแขยงบาปมีกาย ทุจริตเป็นต้นเป็นลักษณะ มีความเคารพยำาเกรงเป็นลักษณะ เคารพยำาเกรง ๔ อย่าง - – –เคารพ ชาติ ครูอาจารย์ ทรัพย์ - ริ แปลว่าความละอายแก่ใจ* ละอายแก่ใจในเรื่องอะไรบ้าง* ละอายแก่ใจในเรื่องอะไรบ้าง หิ ริ หิ ริ
  • 8. ตตัปปะ แปลว่าแปลว่าความเกรงกลัวความเกรงกลัว*เกรงกลัวอะไรบ้าง* ป็นผู้กลัวโทษและเห็นแจ้งซึ่งภัยเป็นลักษณะ โดยเห ลัวตนเองไม่สบายใจ๒. กลัวคนอื่นติเตียน ๓. กลัวถูก ลงโทษ ๔. กลัวตก นรก หิริและโอตตัปปะ เป็นธรรมคุ้มครอง โลกให้อยู่อย่างสันติสุขได้ เพราะผู้มี หิริและโอตตัปปะปะ ย่อม ขยะแขยงต่อการทำาความชั่ว และเกรง
  • 10. สรัจจะ แปลว่า ความเสงี่ยม ได้แก่การรู้จักทำาจิตใจให้แช่ม ชื่นเบิกบาน มีกายวาจา สงบเสงี่ยมเรียบร้อย คือมี อาการปกติเยือกเย็น ภายใน ไม่แสดงอาการขึ้นลง
  • 11. 1.บุพ พการี 2. กตัญญู กตเวที ุพพการี แปลว่า บุคคลผู้ทำาอุปการะก กตัญญูกตเวที แปลว่า ลผู้รู้อุปการะที่ท่านทำาแล้วและตอบ
  • 12. ได้แก่ บุคคลผู้ มีอัธยาศัยเผื่อ แผ่ มีพรหม วิหารประจำาใจ คิดแต่จะให้แต่ ไม่คิดจะเอา สิ่ง ใดเพื่อเป็นผล ตอบแทนจาก เรา ตัวอย่าง บุพพการี พระมหากษัตริย์ พ่อ แม่ ครูอาจารย์ ทหารตำารวจ เรารู้คุณ แล้วเราจะ ตอบแทน ยังไงจึงจะ ได้ชื่อว่า *บอกๆๆหน่อยสิ
  • 13. บุคคลหาได้ยาก ๒ อย่างบุคคลหาได้ยาก ๒ อย่างบุพพการี แปลว่า บุคคลผู้ทำาอุปการะก่อน กตัญญูกตเวที แปลว่า บุคคลผู้รู้อุปการะที่ท่านทำาแล้วและ ตอบแทน บุพพการี ได้แก่ บุคคลผู้มีอัธยาศัยเผื่อแผ่ มีพรหมวิหาร ประจำาใจ คิดแต่จะ ให้แต่ไม่คิดจะเอา ท่านกำาหนดว่ามี ๔ ประเภท ๑ มารดาบิดา เป็นบุพพการีของบุตรธิดา เพราะเป็นผู้ให้ กำาเนิด ให้การเลี้ยงดู และให้การดูแลตามหลัก ๕ ประการ ๑. ห้ามมิให้ทำาความชั่ว ๒. สอนให้ตั้งอยู่ในความดี ๓. ให้ศึกษาศิลปวิทยา ๔. หาคู่ครองที่สมควรให้ ๕. มอบสมบัติให้ในโอกาสอันคาร
  • 14.  ๒. ครู อาจารย์ อุปัชฌาย์ เป็นบุพพการีของนักเรียน ศิษยานุศิษย์ เพราะเป็นผู้ให้การแนะนำาสั่งสอนให้มีความรู้ ความสามารถซึ่งมีหลัก ที่ต้องปฏิบัติ ๕ ประการ  ๑. แนะนำาดี ๒. ให้เรียนดี  ๓. บอกศิลปให้สิ้นเชิง ๔. ยกย่องในที่ชุมชน  ๕. ช่วยปกป้องและป้องกันศิษย์ ให้ปลอดในทุกสถาน  ๓. พระมหากษัตริย์ เป็นบุพพการีของประชาราษฎร์ เพราะทรง มีหน้าที่ดูแลบำาบัดทุกข์บำารุงสุขให้แก่ประชาราษฎร์ โดยทรงดำารงอยู่ ในทศพิธราชธรรม ๑๐ ประการ ได้แก่ ๑. ทาน ๒. ศีล ๓. บริจาค  ๔. ความซื่อตรง ๕. ความอ่อนโยน ๖. คอยกำาจัดคนชั่ว ๗. ความไม่โกรธ  ๘. การไม่เบียดเบียน ๙. ความอดทน ๑๐. ความไม่ผิดทุกกรณีย์
  • 17.  สามัญญลักษณ์ ๓ อย่าง  ลักษณะที่เสมอกันแก่สังขารทั้งปวง เรียกว่า สามัญ ญลักษณะ  ๑. อนิจจตา ความเป็นของไม่เที่ยง  ๒. ทุกขตา ความเป็นทุกข์  ๓. อนัตตา ความเป็นของไม่ใช่ตัวตน  อคติ ๔  ๑. ลำาเอียงเพราะรักใคร่กัน เรียกว่า ฉันทาคติ  ๑. ลำาเอียงเพราะไม่ชอบกัน เรียกว่า โทสาคติ  ๑. ลำาเอียงเพราะความไม่รู้ เรียกว่า โมหาคติ  ๑. ลำาเอียงเพราะกลัว เรียกว่า ภยาคติ
  • 18.  ปธาน คือความเพียร ๔ อย่าง  ๑. สังวรปธาน เพียรระวังไม่ให้บาปเกิดขึ้นในสันดาน  ๒. ปหานปธาน เพียรละบาปเกิดขึ้นแล้ว  ๓. ภาวนาปธาน เพียรให้กุศลเกิดขึ้นในสันดาน  ๔. อนุรักขนาปธาน เพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้วไม่ให้เส  อิทธิบาท คือคุณเครื่องให้สำาเร็จความประสงค์ ๔ อย่าง  ๑. ฉันทะ พอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น  ๒. วิริยะ เพียรประกอบสิ่งนั้น  ๓. จิตตะ เอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้นไม่วางธุระ  ๔. วิมังสา หมั่นตริตรองพิจารณาเหตุผลในสิ่งนั้น  
  • 19.  พรหมวิหาร ๔  ๑. เมตตา ความรักใคร่ ปรารถนาจะให้เป็นส  ๒. กรุณา ความสงสาร คิดจะช่วยให้พ้นทุกข  ๓. มุทิตา ความพลอยยินดี เมื่อผู้อื่นได้ดี  ๔. อุเบกขา ความวางเฉย ไม่ดีใจไม่เสียใจเมื่อ อื่นถึงความวิบัติ  สติปัฏฐาน ๔  ๑. กายานุปํสสนา  ๒. เวทนานุปํสสนา  ๓. จิตตานุปํสสนา  ๔. ธัมมานุปํสสนา
  • 20.  อริยสัจ ๔  ๑. ทุกข์  ๒. สมุทัย คือ เหตุให้เกิดทุกข์  ๓. นิโรธ คือ ความดับทุกข์  ๔. มรรค คือ ข้อปฏิบัติใหัถึงความดับทุกข์  อนันตริยกรรม ๕  ๑. มาตุฆาต ฆ่ามารดา  ๒. ปิตุฆาต ฆ่าบิดา  ๓. อรหันตฆาต ฆ่าพระอรหันต์  ๔. สังฆเภท ยังสงฆ์ให้แตกจากกัน  ๕. โลหิตุปบาท ทำาร้ายพระพุทธเจ้าพระโลหิตให้ห้อขึ้น
  • 21.  พละ คือ ธรรมเป็นกำาลัง ๕ อย่าง  ๑. สัทธา ความเชื่อ  ๒. วิริยะ ความเพียร  ๓. สติ ความระลึกได้  ๔. สมาธิ ความตั้งใจมั่น  ๕. ปัญญา ความรอบรู้  นิวรณ์ คือ ธรรมกั้นจิตใจไม่ให้บรรลุความดี มี ๕ อย่าง  ๑. กามฉันทะ  ๒. พยาบาท  ๓. ถีนมิทธะ  ๔. อุทธัจจกุกกุจจะ  ๕. วิจิกิจฉา 
  • 22.  โลกธรรม ๘  ๑. มีลาภ ๒. เสื่อมลาภ  ๓. มียศ ๔. เสื่อมยศ  ๕. นินทา ๖. สรรเสริญ  ๗. สุข ๘. ทุกข์  กุศลกรรมบท ๑๐  กายกรรม ๓ ได้แก่  ๑. ไม่ฆ่าสัตว์  ๒. ไม่ลักขโมย  ๓. ไม่ประพฤติผิดในกาม
  • 23.  วจีกรรม ๔ ได้แก่  ๑. ไม่พูดเท็จ  ๒. ไม่พูดคำาหยาบ  ๓. ไม่พูดส่อเสียด  ๔. ไม่พูดเพ้อเจ้อ  มโนกรรม ๓ ได้แก่  ๑. ไม่โลภอยากได้  ๒. ไม่ปองร้าย  ๓. เห็นชอบตามทำานองคลองธรรม 

Notes de l'éditeur

  1. ระลึกอะไรบ้า
  2. 1. จะทำจะพูดจะคิดอะไร ให้ใคร่ควรเสียก่อน
  3. ละอายแก่ใจในเรื่องอะไรบ้าง
  4. เกรงกลัวอะไรบ้าง
  5. แปลว่า
  6. บอกๆๆๆๆหน่อยสิ
  7. เรียนวันละนิดจิตแจ่มใส เรียนมากไป เดี๊ยวเปงแบบนี้ เฮอ..