คำในภาษาไทย (1)

P
คำำไทย
             โดย
  นำงสำว อังศุมำลี อินวงค์ รหัส
        ๐๖๕๓๐๐๓๒
คณะศึกษำศำสตร์ วิชำเอก กำรสอน
          ภำษำไทย
คำำไทย
     คำำแต่ละคำำมีควำมหมำย ควำมหมำยของคำำ
จะปรำกฏชัดเมื่อ
อยู่ในประโยค กำรสังเกตตำำแหน่งและหน้ำของ
คำำในประโยค
จะช่วยให้เรำทรำบชนิดของคำำรวมทั้งควำม
หมำยด้วย
ดังนันกำรศึกษำให้เข้ำใจหน้ำที่และชนิดของคำำ
      ้
ในประโยคจึง
มีควำมสำำคัญมำกเพรำะจะช่วยให้เรำสำมำรถใช้
คำำได้ถูกต้อง
ชนิดของคำำไทย

       คำำไทยแบ่งออกเป็น ๗ ชนิด แต่ละชนิดมี
ลักษณะและหน้ำที่แตกต่ำงกันออกไป กำรเรียน
รู้เรื่องลักษณะของคำำเพื่อสร้ำงเป็นกลุ่มคำำและ
ประโยคเป็นเรื่องสำำคัญ และจำำเป็นอย่ำงยิ่งใน
กำรเรียนและกำรใช้ภำษำในชีวิตประจำำวัน
ในกำรใช้ภำษำจำำเป็นอย่ำงยิ่งที่เรำจะต้อง
ทรำบว่ำคำำไนมีที่ใช้อย่ำงไร เพือประโยชน์ใน
                               ่
กำรสือสำร นักไวยำกรณ์ได้สงเกตควำมหมำย
     ่                       ั
และหน้ำที่ของคำำในประโยค แล้วจึงแบ่งคำำใน
ภำษำไทยออกเป็นชนิดได้ ๗ ชนิด คือ
   ๑. คำำนำม              ๕. คำำบุรพบท
         ๒. คำำสรรพนำม                 ๖. คำำ
สันธำน
         ๓. คำำกริยำ             ๗. คำำอุทำน
         ๔. คำำวิเศษณ์
๑. คำำนำม
คำำนำม คือ คำำที่ใช้เรียกชือคน สัตว์สิ่งของ แบ่ง
                           ่
เป็น ๕ ชนิดคือ
    ๑.๑ สำมำนยนำม
         ๑.๒ วิสำมำนยนำม
         ๑.๓ สมุหนำม
         ๑.๔ ลักษณนำม
         ๑.๕ อำกำรนำม
๑.๑ สำมำนยนำม


ได้แก่ นำมที่เป็นชือทั่วๆไป เช่น หนู เป็ด โต๊ะ
                   ่
บ้ำน เป็นต้น
๑.๒ วิสำมนยนำม


       เป็นชือเฉพำะ เช่น นำยอัตถ์ ตูบ หรือ
              ่
   ชือวัน ชื่อเดือน เช่น
     ่
วันจันทร์ เดือนมกรำคม หรือชื่อจังหวัด
   จังหวัดสุพรรณบุรี
๑.๓ สมุหนำม

    นำมที่เป็นหมู่คณะ เช่น ฝูง โขลง กอง หรือ
คำำนำมที่มีควำมหมำยไปในทำงจำำนวนมำก เช่น
รัฐบำล องค์กร กรม บริษัท
๑.๔ ลักษณนำม


    เป็นคำำนำมที่บอกลักษณะของนำม มักใช้
ตำมหลังคำำวิเศษณ์ที่บอกจำำนวนนับ เช่น ภิกษุ
5 รูป นำฬิกำ 5 เรือน รูป และเรือนเป็น
ลักษณนำม
๑.๕ อำกำรนำม

   คือนำมที่เป็นชือกริยำอำกำรในภำษำไทย
                   ่
เรำมักมีคำำว่ำ “กำร” และ “ควำม” นำำหน้ำ เช่น
กำรกิน กำรนั่ง ควำมดี ควำมจน
๒. คำำสรรพนำม

คำำสรรพนำม คือคำำที่ใช้แทนคำำนำม แบ่งเป็น 6
ชนิดคือ
    ๒.๑ บุรุษสรรพนำม         ๒.๔ อนิยม
สรรพนำม
    ๒.๒ ประพันธสรรพนำม            ๒.๕
ปฤจฉำสรรพนำม
    ๒.๓ นิยมสรรพนำม          ๒.๖ วิภำค
สรรพนำม
๒.๑ บุรุษสรรพนำม

บุรุษสรรพนำม คือ สรรพนำมที่ใช้แทนชือเวลำ  ่
พูดจำกัน
        บุรุษที่ 1 ใช้แทนผู้พูด เช่น ผม ฉัน
        บุรุษที่ 2 ใช้แทนผู้ฟัง เช่น คุณ เธอ
        บุรุษที่ 3 ใช้แทนผู้ที่กล่ำวถึง เช่น เขำ
แก มัน
๒.๒ ประพันธสรรพนำม

       ประพันธสรรพนำม คือ คำำสรรพนำมที่ใช้
  แทน (เชือม) คำำนำมที่อยู่ข้ำงหน้ำ ได้แก่คำำ ที่
            ่
  ซึ่ง อัน เช่น
       คน “ที่” ออกกำำลังกำยอยู่เสมอ ร่ำงกำยมัก
  แข็งแรง
       เกำหลีใต้ “ซึ่ง” เป็นเจ้ำภำพจัดกำรแข่งขัน
  กีฬำโอลิมปิกกำำลัง
มีชอเสียงไปทั่วโลก
   ื่
       ศีล “อัน” พึงปฏิบติคือศีลห้ำ
                         ั
๒.๓ นิยมสรรพนำม

   นิยมสรรพนำม ได้แก่ สรรพนำมที่กำำหนด
ควำมให้รู้แน่นอน ได้แก่ นี่ นัน โน่น หรือ นี้ นัน
                              ่                 ้
โน้น เช่น
           นี่ เป็นเพื่อนฉัน
           นั่น อะไรนะ
           โน่น แน่ะของเธอละ
           ของเธออยู่ที่ นี้
๒.๔ อนิยมสรรพนำม
       อนิยมสรรพนำม ได้แก่สรรพนำมที่แทน
  สิงที่ไม่ทรำบ คือ
    ่
ไม่ชี้เฉพำะลงไป และไม่ได้กล่ำวในเชิงถำม
  หรือสงสัย ได้แก่ ใคร
อะไร ไหน ใด เช่น
            ใคร ขยันก็สอบไล่ได้
            เขำเป็นคนที่ไม่สนใจอะไร
๒.๕ ปฤจฉำสรรพนำม

    ปฤจฉำสรรพนำม ได้แก่ คำำสรรพนำมใช้เป็น
คำำถำม ได้แก่คำำ อะไร ใคร ที่ไหน แห่งใด ฯลฯ
เช่น
              ใคร อยู่ที่นน
                          ั่
                    อะไร เสียหำยบ้ำง
                    ไหน ล่ะโรงเรียนของเธอ
๒.๖ วิภำคสรรพนำม

      วิภำคสรรพนำม หมำยถึงคำำนำมที่ใช้แทนคำำ
  นำม ซึ่งแสดง
ให้เห็นว่ำ นำมนั้น จำำแนกออกเป็นหลำยส่วน
  ได้แก่คำำ ต่ำง บ้ำง กัน
เช่น              นักเรียน ต่ำง ก็อ่ำนหนังสือ
                        เขำตี กัน
                        นักเรียน บ้ำง ก็เรียน บ้ำง ก็
  เล่น
๓. คำำกริยำ

    คำำกริยำ คือ คำำที่แสดงอำกำรของคำำนำม
สรรพนำม แสดงกำรกระทำำในประโยค แบ่งออก
เป็น ๔ ชนิดคือ
    ๓.๑ สกรรมกริยำ
    ๓.๒ อกรรมกริยำ
    ๓.๓ วิกตรรถกริยำ
    ๓.๔ กริยำอนุเครำะห์
๓.๑ สกรรมกริยำ

สกรรมกริยำ คือคำำกริยำที่ต้องมีกรรมมำรับ เช่น

                 ฉัน กิน ข้ำว
                   เขำ เห็น นก
๓.๒ อกรรมกริยำ

  อกรรมกริยำ คือคำำกริยำที่ไม่ต้องมีกรรมมำรับ
  ก็ได้ควำมสมบูรณ์
เช่น เขำนัง เขำยืนอยู่
           ่
๓.๓ วิตรรถกริยำ
    วิกตรรถกริยำ คือคำำกริยำที่ไม่มีควำมหมำย
ในตัวเอง ใช้ตำมลำำพังแล้วไม่ได้ควำม ต้องมีคำำ
อื่นมำประกอบจึงจะได้ควำม คำำกริยำพวกนี้คือ
เป็น เหมือน คล้ำย เท่ำ คือ เช่น
               ผม เป็น นักเรียน
               ลูกคนนี้ คล้ำย พ่อ
                    เขำคือ ครูของฉัน
เอง
               รองเท้ำ 2 คูนี้เหมือนกัน
                           ่
๓.๔ กริยำนุเครำะห์

    กริยำอนุเครำะห์ คือคำำกริยำที่ไม่มีควำม
หมำยในตัวเอง ทำำหน้ำที่ชวยคำำกริยำให้มีควำม
                          ่
หมำยชัดเจนขึ้น ได้แก่คำำ จง กำำลัง จะ ย่อม คง
ยัง ถูกนะ เถอะ เทอญ ฯลฯ เช่น
               นำยแดง จะไป โรงเรียน
                    เขำ ถูก ตี
                    เธอ รีบ ไปเถอะ
๔. คำำวิเศษณ์
     คำำวิเศษณ์ คือคำำจำำพวกที่ประกอบคำำอื่น
เพือให้ได้ควำมชัดเจนยิ่งขึ้น แบ่งเป็น ๑๐ ชนิด
   ่
คือ
            ๔.๑ ลักษณวิเศษณ์ ๔.๖ อนิยม
วิเศษณ์
            ๔.๒ กำลวิเศษณ์       ๔.๗ ปฤจฉำ
วิเศษณ์         ๔.๓ สถำนวิเศษณ์ ๔.๘ ประ
ติเษธวิเศษณ์
            ๔.๔ ประมำณวิเศษณ์         ๔.๙ ประ
ติชญำวิเศษณ์
๔.๑ ลักษณวิเศษณ์
    ลักษณวิเศษณ์ เป็นคำำวิเศษณ์ขยำยนำม
สรรพนำม หรือกริยำ เพื่อบอก ชนิด ขนำด
สัณฐำน สี เสียง กลิ่น รส อำกำร สัมผัส เช่น
เล็ก แบน ยำว ขำว เหม็น หอม เปรี้ยว เช่น
          เขำร้องเพลง เพรำะ จริง
           มะม่วงผลนีมีรส เปรี้ยว
                       ้
         นักเรียน ดี ต้องอ่ำนหนังสือ
๔.๒ กำลวิเศษณ์

   กำลวิเศษณ์ คือคำำวิเศษณ์ที่ขยำยคำำอื่นเพื่อ
บอกเวลำ เช่น เร็ว ก่อน เช้ำ สำย บ่ำย เย็น คำ่ำ
นำน เสมอ เช่น
           เขำมำโรงเรียน สำย
๔.๓ สถำนวิเศษณ์


    สถำนวิเศษณ์ คือคำำวิเศษณ์บอกสถำนที่
ได้แก่คำำ บน ลำง เหนือ ใน นอก ใกล้ ไกล
เช่น
               เขำอยู่ไกล
๔.๔ ประมำณวิเศษณ์

      ประมำณวิเศษณ์ คือ คำำวิเศษณ์ที่บอก
ปริมำณ เช่น น้อย มำก จุ ทั้งปวง จำำแนกเป็น ๔
พวก
      ๔.๔.๑ บอกจำำนวนไม่จำำกัด ได้แก่คำำ หมด
สิน ทั้งปวง บรรดำ
  ้
      ๔.๔.๒ บอกจำำนวนไม่จำำกัด ได้แก่ จุ มำก
หลำย
      ๔.๔.๓ บอกจำำนวนนับ เช่น หนึ่ง สอง ที่
หนึง่
      ๔.๔.๔ บอกจำำนวนแบ่งแยก เช่น ต่ำง บ้ำง
๔.๕ นิยมวิเศษณ์


   นิยมวิเศษณ์ คือคำำวิเศษณ์ที่บอกควำม
แน่นอน ได้แก่คำำ นี้ นัน โน้น ทีเดียว แน่นอน
                       ้
เฉพำะ เช่น
           เขำเป็นคนขยัน แน่ๆ
              ฉันทำำ เอง
๔.๖ อนิยมวิเศษณ์

    อนิยมวิเศษณ์ คือคำำวิเศษณ์ที่ใช้ประกอบ
โดยไม่แสดงควำมกำำหนดแน่นอนลงไป ทั้ง
ไม่ใช่คำำถำมหรือแสดงควำมสงสัย ได้แก่คำำ อื่น
อื่นๆ ใคร ใครๆ อะไร ฉันใด เช่น
              เธอจะมำเวลำ ใด ก็ได้
                    เธอจะทำำ อย่ำงไร ก็ทำำ
เถอะ
                    เขำจะมำ กี่ คนก็ไม่เป็นไร
๔.๗ ปฤจฉำวิเศษณ์

    ปฤจฉำวิเศษณ์ คือคำำวิเศษณ์ที่ใช้เป็น
คำำถำมหรือแสดงควำมสงสัย ได้แก่คำำ อะไร
ไฉน ใด เหตุไร อย่ำงไร เช่น
             ตัว อะไร อยู่ใต้โต๊ะ
                  เขำกำำลังคิด อะไร นะ
                  ทำำไม เธอจึงทำำอะไรอย่ำง
นี้
๔.๘ ประติเษธวิเศษณ์

      ประติเษธวิเศษณ์ คือคำำวิเศษณ์ที่แสดง
  ควำมปฏิเสธ เช่น ไม่
ไม่ได้ มิได้ ไม่ใช่ หำมิได้ เช่น
                  ผมไม่ได้ทำำสิ่งนัน
                                   ้
๔.๙ ประติชญำวิเศษณ์


   ประติชญำวิเศษณ์ ได้แก่ คำำวิเศษณ์ที่ใช้ใน
กำรพูดจำกัน คำำจำำพวกขำนรับ คำำรับรอง เช่น
คะ ค่ะ ขำ ครับ จ๊ะ ขอรับ เช่น
              คุณ ครับ มีคนมำหำ ขอรับ
๔.๑๐ ประพันธวิเศษณ์

     ประพันธวิเศษณ์ คือ คำำวิเศษณ์ ที่ทำำหน้ำที่
เชือมคำำหรือควำมที่เขำมำข้ำงหน้ำ ได้แก่ ที่ ซึ่ง
   ่
อัน เช่น
                เขำคิดอย่ำง ที่ เธอคิด
                     เขำทำำควำมดี อัน หำที่สดุ
มิได้
๕. คำำบุรพบท
    คำำบุรพบท คือคำำที่ใช้นำำหน้ำนำม สรรพนำม
หรือกริยำบำงพวก ทำำหน้ำที่ให้ได้ควำมเนืองกัน
และได้ควำมชัดเจน จำำแนกออกเป็น
๒ ชนิด คือ
          ๕.๑ บุรพบทที่ไม่เชือมกับคำำอื่น
                              ่
    ๕.๒ บุรพบทที่เชื่อมกับคำำอื่น
๕.๑ บุรพบทที่ไม่เชื่อมกับคำำอื่น

    บุรพบทที่ไม่เชือมกับคำำอื่น หมำยถึง
                   ่
บุรพบทที่ใช้เป็นคำำเรียก ได้แก่คำำ ดูกร ข้ำแต่
หรืออำจเป็นพวก สำมำนยนำม หรือ
 วิสำมำนยนำมก็ได้ เช่น
               ดูกร ภิกษุทั้งหลำย
                     ท่ำนหลำย โปรดฟัง
ข้ำพเจ้ำ
                     คุณมำนี โปรดเชิญทำงนี้
๕.๒ บุรพบทที่เชื่อมกับคำำอื่น

    บุรพบทที่เชือมกับคำำอื่น ได้แก่บรพบทที่ใช้
                 ่                     ุ
นำำหน้ำคำำอื่น ทำำให้ได้ควำมรัดกุมขึ้น เช่น ใน
นอก แห่ง ของ ฯลฯ เช่น
                เสือตัวนี้ สำำหรับ เธอ
                   ้
                      ฉันรัก เฉพำะ เธอเท่ำนั้น
                      เขำมำ แต่ เช้ำ
                      บ้ำน ของ คุณน่ำอยู่ด้วย
จริงๆ
๖. คำำสันธำน
    สันธำน คือคำำที่ใช้เชือมคำำหรือข้อควำมให้
                           ่
ต่อเนื่องกัน คำำสันธำนนันเป็นคำำเดียวก็มี เช่น
                         ้
และ แต่ เป็นกลุ่มคำำก็มี เช่น เพรำะฉะนัน แต่
                                       ้
ทว่ำ หรือมิฉะนั้น เป็นกลุ่มแยกคำำกันก็มี เช่น
ฉันใด...ฉันนัน คงจะ...จึง ถ้ำ...ก็
              ้
    ลักษณะกำรเชื่อมของสันธำน พอจะจำำแนก
ได้ดังนี้
    ๖.๑ เชื่อมควำมให้คล้อยตำมกัน
    ๖.๒ เชือมควำมที่ขัดแย้งกัน
            ่
    ๖.๓ เชื่อมให้เลือกเอำ
๖.๔ เชื่อมควำมที่เป็นเหตุผล
๖.๕ เชือมควำมให้แยกต่ำงตอน
          ่
๖.๖ เชือมควำมแบ่งรับรอง
        ่
๖.๗ เชือมควำมให้สละสลวย
            ่
๖.๑ เชื่อมควำมให้คล้อยตำมกัน

    เชือมควำมให้คล้อยตำมกัน สันธำนพวกนี้
       ่
ได้แก่ ก็...จึง แล้วก็เช่น
          ...              ฉันเรียนหนังสือ
แล้วก็ กลับบ้ำน
         พระอรุณ และ พระฤทธิได้ไปครองกรุง
                               ์
ศรีสชนำลัย
     ั
         พระธรรมวงศ์ทรงสละรำชสมบัติ แล้วจึง
เสด็จออกทรงพรต
๖.๒ เชื่อมควำมที่ขัดแย้งกัน

    เชือมควำมที่ขัดแย้งกัน ได้แก่คำำ แต่ แต่
       ่
ทว่ำ ถึง...ก็ เช่น
          ถึง สิบปำกว่ำ ก็ ไม่เท่ำตำเห็น
          พระยำไชยบูรณ์ถูกเชือดเนือ แต่ก็
                                    ้
ไม่ยอมอ่อนน้อมต่อพกำหม่อง
           กว่ำ กองทัพจำกกรุงเทพฯขึ้นไป
ปรำบจลำจลพวกเงี้ยว ก็ทำำลำยเมืองแพร่เสีย
ยับเยิน
๖.๓ เชื่อมให้เลือกเอำ

      เชือมให้เลือกเอำ ได้แก่คำำ หรือ มิฉะนัน ไม่
         ่                                  ้
  ก็ เช่น
           เธอจะยืน หรือ จะนั่ง
                 เธอจะไป หรือ ไม่
           พระยำไชยบูรณ์ตองยกเมืองแพร่ให้
                           ้
  พกำหม่อง
มิฉะนั้น ตนเองจะต้องตำย
                 พระอรุณ หรือ พระฤทธิ์ เป็น
  บุตรของนำงอุทัย
๖.๔ เชื่อมควำมที่เป็นเหตุผล

    เชือมควำมที่เป็นเหตุผล ได้แก่คำำ จึง ฉะนั้น
         ่
ดังนั้น เช่น
           เขำดูหนังสือ จึง สอบไล่ได้
           บ้ำนเมืองอยู่ข้ำงหลังสวนเมืองนี้ จึง
ได้ชอว่ำ
      ื่
เมืองหลังสวน
            มัจฉำนุมีควำมกตัญญูต่อไมยรำพ
ฉะนั้นจึง ไม่ยอมบอกทำงไปเมืองบำดำลแก่
หนุมำนโดยตรง
๖.๕ เชื่อมควำมให้แยกต่ำงตอน

   เชือมควำมให้แยกต่ำงตอน ได้แก่คำำ ส่วน
      ่
ฝ่ำย หนึ่ง เช่น
                กองทัพเรำอยู่ใต้ลม
                    ฝ่ำยข้ำศึกอยู่เหนือลม
๖.๖ เชื่อมควำมแบ่งรับรอง


เชือมควำมแบ่งรับรอง ได้แก่ ถ้ำ ถ้ำ...ก็ เช่น
   ่

     ถ้ำ ฝนไม่ตก ฉัน ก็ จะไปโรงเรียน
๖.๗ เชื่อมควำมให้สละสลวย

      เชือมควำมให้สละสลวย ได้แก่ อย่ำงไร
         ่
ก็ตำม อย่ำงไรก็ดี อันที่ จริง เช่น
            อย่ำงไรก็ดี ฉันจะพยำยำมทำำให้ดี
ที่สด
    ุ
๗. คำำอุทำน

    อุทำน คือ คำำแสดงควำมรู้สกของผู้พด แบ่ง
                             ึ       ู
เป็น
         ๗.๑ อุทำนบอกอำกำร
         ๗.๒ อุทำนเสริมบท
๗.๑ อุทำนบอกอำกำร

     อุทำนบอกอำกำร อำจจะอุทำนแสดงควำม
เข้ำใจ ตกใจ โกรท เจ็บ ตื่นเต้น สงสัย เช่น อ๋อ
วุ้ย ต๊ำยตำย ไฮ้ เช่น อุ๊ย เจ็บจริง ชิ! ชิๆ! ชิชะ!
โธ่! วะ! วำ! หื้อหือ! เหม่! แหม! อนิจจัง! อ๊ะ! อือ!
อนิจจำ! อุบ๊ะ! เอ! เอ๊ะ! เอ๊ว! เอ้อเฮอ! โอ! โอย!
โอ๊ย! ฮะ! ฮ้ำ! ฮึ! เฮ้! เฮ้ย! เฮ้ว! เฮ้อ! ไฮ้!
     คำำอุทำนบอกอำกำรนี้ รวมทั้งที่แทรกอยู่ใน
คำำประพันธ์ต่ำงๆ โดยมำกก็เป็นคำำสร้อย เช่น
เฮย แฮ เอย นอ
๗.๒ อุทำนเสริมบท

      อุทำนเสริมบท เป็นคำำที่เพิ่มเข้ำมำโดยไม่ได้
ตังใจให้ควำมเพิ่มมำแต่อย่ำงใด เช่น แขนแมน
  ้
เสือสำด โต๊ะเต๊อะ จำนเจิน ไม่รู้ไม่ชี้ พระสงฆ์
    ่
องค์เจ้ำ โรงรำ่ำโรงเรียน ร้องห่มร้องไห้ สัญญิง
สัญญำ       หนังสือหนังหำ เป็นต้น
อ้ำงอิง
http://www.thaigoodview.com/library/
  teachershow/lopburi/srisuda_l/thai/index.
  html
http://st.mengrai.ac.th/users/mrsaengjan/
  sj20.htm
http://blog.eduzones.com/yimyim/3255
www.navy.mi.th/alumni/admincpo1_52/
  download/thai02.ppt
http://www.trueplookpanya.com/true/knowl
คำในภาษาไทย (1)
1 sur 50

Recommandé

คำในภาษาไทย par
คำในภาษาไทยคำในภาษาไทย
คำในภาษาไทยSiraporn Boonyarit
429 vues50 diapositives
แบบเรียนชนิดของคำ par
แบบเรียนชนิดของคำแบบเรียนชนิดของคำ
แบบเรียนชนิดของคำLadawan Munchit
32K vues21 diapositives
งานชนิดของคำ par
งานชนิดของคำงานชนิดของคำ
งานชนิดของคำspeedpiyawat
839 vues12 diapositives
ตัวอย่างงานการแนะนำหนังสืออ้างอิง par
ตัวอย่างงานการแนะนำหนังสืออ้างอิงตัวอย่างงานการแนะนำหนังสืออ้างอิง
ตัวอย่างงานการแนะนำหนังสืออ้างอิงSamorn Tara
1.1K vues2 diapositives
ใบความรู้การใช้ประโยคเพื่อสื่อสาร par
ใบความรู้การใช้ประโยคเพื่อสื่อสารใบความรู้การใช้ประโยคเพื่อสื่อสาร
ใบความรู้การใช้ประโยคเพื่อสื่อสารห้องเรียน ภาษาไทยออนไลน์
8.2K vues5 diapositives

Contenu connexe

Tendances

ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๖ ชุด ๒ par
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๖ ชุด ๒ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๖ ชุด ๒
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๖ ชุด ๒Manas Panjai
2.8K vues21 diapositives
โครงงานJ par
โครงงานJโครงงานJ
โครงงานJUnity' PeeBaa
3.6K vues6 diapositives
การเขียนตัวสะกดอันใหม่ 270856 par
การเขียนตัวสะกดอันใหม่ 270856การเขียนตัวสะกดอันใหม่ 270856
การเขียนตัวสะกดอันใหม่ 270856Rose'zll LD
7K vues74 diapositives
สไลด์สอน par
สไลด์สอนสไลด์สอน
สไลด์สอนNanthida Chattong
6K vues166 diapositives
เนื้อหาเล่ม 1 par
เนื้อหาเล่ม 1เนื้อหาเล่ม 1
เนื้อหาเล่ม 1Aon Narinchoti
11K vues22 diapositives
ประโยคในภาษาไทย par
ประโยคในภาษาไทยประโยคในภาษาไทย
ประโยคในภาษาไทยHansa Srikrachang
31.2K vues12 diapositives

Tendances(19)

ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๖ ชุด ๒ par Manas Panjai
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๖ ชุด ๒ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๖ ชุด ๒
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๖ ชุด ๒
Manas Panjai2.8K vues
การเขียนตัวสะกดอันใหม่ 270856 par Rose'zll LD
การเขียนตัวสะกดอันใหม่ 270856การเขียนตัวสะกดอันใหม่ 270856
การเขียนตัวสะกดอันใหม่ 270856
Rose'zll LD7K vues
เนื้อหาเล่ม 1 par Aon Narinchoti
เนื้อหาเล่ม 1เนื้อหาเล่ม 1
เนื้อหาเล่ม 1
Aon Narinchoti11K vues
ประโยคในภาษาไทย par Hansa Srikrachang
ประโยคในภาษาไทยประโยคในภาษาไทย
ประโยคในภาษาไทย
Hansa Srikrachang31.2K vues
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๓ ชุด ๒ par Manas Panjai
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๓ ชุด ๒ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๓ ชุด ๒
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๓ ชุด ๒
Manas Panjai766 vues
บัญชีคำพื้นฐาน par Patcha Linsay
บัญชีคำพื้นฐานบัญชีคำพื้นฐาน
บัญชีคำพื้นฐาน
Patcha Linsay35.3K vues
แผ่นพับการสร้างคำ par KORKORAWAN
แผ่นพับการสร้างคำแผ่นพับการสร้างคำ
แผ่นพับการสร้างคำ
KORKORAWAN2.2K vues
การสร้างคำในภาษาไทย par kruthai40
การสร้างคำในภาษาไทยการสร้างคำในภาษาไทย
การสร้างคำในภาษาไทย
kruthai403.5K vues
ลักษณะภาษาไทย par pinyada
ลักษณะภาษาไทยลักษณะภาษาไทย
ลักษณะภาษาไทย
pinyada11.4K vues
การแต่งคำประพันธ์กลอนสุภาพ par พัน พัน
การแต่งคำประพันธ์กลอนสุภาพการแต่งคำประพันธ์กลอนสุภาพ
การแต่งคำประพันธ์กลอนสุภาพ
พัน พัน11.7K vues
1 01+บาลีไวยกรณ์+สมัญญาภิธานและสนธิ par Tongsamut vorasan
1 01+บาลีไวยกรณ์+สมัญญาภิธานและสนธิ1 01+บาลีไวยกรณ์+สมัญญาภิธานและสนธิ
1 01+บาลีไวยกรณ์+สมัญญาภิธานและสนธิ
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๓ ชุด ๑ par Manas Panjai
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๓ ชุด ๑ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๓ ชุด ๑
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๓ ชุด ๑
Manas Panjai499 vues

En vedette

Presentation par
PresentationPresentation
PresentationAlstromergymnasiet
160 vues15 diapositives
2) Analisis De Suelos Unidades De Expresion De Resultados par
2) Analisis De Suelos Unidades De Expresion De Resultados2) Analisis De Suelos Unidades De Expresion De Resultados
2) Analisis De Suelos Unidades De Expresion De ResultadosU.C.A. Agrarias
3.6K vues28 diapositives
勉強会:武雄市 par
勉強会:武雄市勉強会:武雄市
勉強会:武雄市Satoko Yamashita
557 vues17 diapositives
Bmp De Los Fertilizantes par
Bmp De Los FertilizantesBmp De Los Fertilizantes
Bmp De Los FertilizantesU.C.A. Agrarias
355 vues4 diapositives
SOSYAL BİLİMLERİN ÖĞRETİMİNDE YENİLEŞME EĞİLİMLERİ par
SOSYAL BİLİMLERİN ÖĞRETİMİNDE YENİLEŞME EĞİLİMLERİSOSYAL BİLİMLERİN ÖĞRETİMİNDE YENİLEŞME EĞİLİMLERİ
SOSYAL BİLİMLERİN ÖĞRETİMİNDE YENİLEŞME EĞİLİMLERİAnka Bilişim Teknolojileri
455 vues17 diapositives
Fd seljak 07 par
Fd seljak 07Fd seljak 07
Fd seljak 07Slovenian Plant Protection
301 vues8 diapositives

En vedette(20)

2) Analisis De Suelos Unidades De Expresion De Resultados par U.C.A. Agrarias
2) Analisis De Suelos Unidades De Expresion De Resultados2) Analisis De Suelos Unidades De Expresion De Resultados
2) Analisis De Suelos Unidades De Expresion De Resultados
U.C.A. Agrarias 3.6K vues
社交工程郵件判斷技巧 20120120 par Jun-Wei Lin
社交工程郵件判斷技巧 20120120社交工程郵件判斷技巧 20120120
社交工程郵件判斷技巧 20120120
Jun-Wei Lin509 vues
スーパーウルトララピッドプロトタイピング par Akifumi Nambu
スーパーウルトララピッドプロトタイピングスーパーウルトララピッドプロトタイピング
スーパーウルトララピッドプロトタイピング
Akifumi Nambu1.8K vues
Quilombo Mata Cavalo: O negro e a identidade quilombola no mundo globalizado par Silvânio Barcelos
Quilombo Mata Cavalo: O negro e a identidade quilombola no mundo globalizadoQuilombo Mata Cavalo: O negro e a identidade quilombola no mundo globalizado
Quilombo Mata Cavalo: O negro e a identidade quilombola no mundo globalizado
Silvânio Barcelos1.7K vues
02 idc transformation d cs_15_5_final-ms par IDC_CEMA
02 idc transformation d cs_15_5_final-ms02 idc transformation d cs_15_5_final-ms
02 idc transformation d cs_15_5_final-ms
IDC_CEMA232 vues

Similaire à คำในภาษาไทย (1)

ชนิดของคำ par
ชนิดของคำชนิดของคำ
ชนิดของคำAnupong Juntakong
758 vues9 diapositives
คำสรรพนาม par
คำสรรพนามคำสรรพนาม
คำสรรพนามNongkran_Jarurnphong
42.6K vues12 diapositives
1 01+บาลีไวยกรณ์+สมัญญาภิธานและสนธิ par
1 01+บาลีไวยกรณ์+สมัญญาภิธานและสนธิ1 01+บาลีไวยกรณ์+สมัญญาภิธานและสนธิ
1 01+บาลีไวยกรณ์+สมัญญาภิธานและสนธิTongsamut vorasan
421 vues28 diapositives
บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5 par
บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5
บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5ปวริศา
22.1K vues56 diapositives
คำนาม par
คำนามคำนาม
คำนามNongkran_Jarurnphong
20.1K vues10 diapositives
ฉันทลักษณ์ par
ฉันทลักษณ์ฉันทลักษณ์
ฉันทลักษณ์krudow14
3.1K vues6 diapositives

Similaire à คำในภาษาไทย (1)(20)

1 01+บาลีไวยกรณ์+สมัญญาภิธานและสนธิ par Tongsamut vorasan
1 01+บาลีไวยกรณ์+สมัญญาภิธานและสนธิ1 01+บาลีไวยกรณ์+สมัญญาภิธานและสนธิ
1 01+บาลีไวยกรณ์+สมัญญาภิธานและสนธิ
บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5 par ปวริศา
บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5
บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5
ปวริศา22.1K vues
ฉันทลักษณ์ par krudow14
ฉันทลักษณ์ฉันทลักษณ์
ฉันทลักษณ์
krudow143.1K vues
รวบรวมลักษณนามหมวด ก แก้ใหม่2 par Sitthisak Thapsri
รวบรวมลักษณนามหมวด ก แก้ใหม่2รวบรวมลักษณนามหมวด ก แก้ใหม่2
รวบรวมลักษณนามหมวด ก แก้ใหม่2
Sitthisak Thapsri8.8K vues
4.ใบความรู้แผน ๑ หน่วย ๒ par Boom Beautymagic
4.ใบความรู้แผน ๑ หน่วย ๒4.ใบความรู้แผน ๑ หน่วย ๒
4.ใบความรู้แผน ๑ หน่วย ๒
Boom Beautymagic413 vues
หลักภาษา par sukuman139
หลักภาษาหลักภาษา
หลักภาษา
sukuman1396.5K vues
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยป6 par thaneerat
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยป6บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยป6
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยป6
thaneerat32.2K vues
หน่วยที่ 1 คำนาม par Dewry Ys
หน่วยที่ 1 คำนามหน่วยที่ 1 คำนาม
หน่วยที่ 1 คำนาม
Dewry Ys490 vues
ประโยคในภาษาไทย par Hansa Srikrachang
ประโยคในภาษาไทยประโยคในภาษาไทย
ประโยคในภาษาไทย
Hansa Srikrachang5.1K vues
หน่วยที่๑ par panjit
หน่วยที่๑หน่วยที่๑
หน่วยที่๑
panjit519 vues

คำในภาษาไทย (1)

  • 1. คำำไทย โดย นำงสำว อังศุมำลี อินวงค์ รหัส ๐๖๕๓๐๐๓๒ คณะศึกษำศำสตร์ วิชำเอก กำรสอน ภำษำไทย
  • 2. คำำไทย คำำแต่ละคำำมีควำมหมำย ควำมหมำยของคำำ จะปรำกฏชัดเมื่อ อยู่ในประโยค กำรสังเกตตำำแหน่งและหน้ำของ คำำในประโยค จะช่วยให้เรำทรำบชนิดของคำำรวมทั้งควำม หมำยด้วย ดังนันกำรศึกษำให้เข้ำใจหน้ำที่และชนิดของคำำ ้ ในประโยคจึง มีควำมสำำคัญมำกเพรำะจะช่วยให้เรำสำมำรถใช้ คำำได้ถูกต้อง
  • 3. ชนิดของคำำไทย คำำไทยแบ่งออกเป็น ๗ ชนิด แต่ละชนิดมี ลักษณะและหน้ำที่แตกต่ำงกันออกไป กำรเรียน รู้เรื่องลักษณะของคำำเพื่อสร้ำงเป็นกลุ่มคำำและ ประโยคเป็นเรื่องสำำคัญ และจำำเป็นอย่ำงยิ่งใน กำรเรียนและกำรใช้ภำษำในชีวิตประจำำวัน
  • 4. ในกำรใช้ภำษำจำำเป็นอย่ำงยิ่งที่เรำจะต้อง ทรำบว่ำคำำไนมีที่ใช้อย่ำงไร เพือประโยชน์ใน ่ กำรสือสำร นักไวยำกรณ์ได้สงเกตควำมหมำย ่ ั และหน้ำที่ของคำำในประโยค แล้วจึงแบ่งคำำใน ภำษำไทยออกเป็นชนิดได้ ๗ ชนิด คือ ๑. คำำนำม ๕. คำำบุรพบท ๒. คำำสรรพนำม ๖. คำำ สันธำน ๓. คำำกริยำ ๗. คำำอุทำน ๔. คำำวิเศษณ์
  • 5. ๑. คำำนำม คำำนำม คือ คำำที่ใช้เรียกชือคน สัตว์สิ่งของ แบ่ง ่ เป็น ๕ ชนิดคือ ๑.๑ สำมำนยนำม ๑.๒ วิสำมำนยนำม ๑.๓ สมุหนำม ๑.๔ ลักษณนำม ๑.๕ อำกำรนำม
  • 6. ๑.๑ สำมำนยนำม ได้แก่ นำมที่เป็นชือทั่วๆไป เช่น หนู เป็ด โต๊ะ ่ บ้ำน เป็นต้น
  • 7. ๑.๒ วิสำมนยนำม เป็นชือเฉพำะ เช่น นำยอัตถ์ ตูบ หรือ ่ ชือวัน ชื่อเดือน เช่น ่ วันจันทร์ เดือนมกรำคม หรือชื่อจังหวัด จังหวัดสุพรรณบุรี
  • 8. ๑.๓ สมุหนำม นำมที่เป็นหมู่คณะ เช่น ฝูง โขลง กอง หรือ คำำนำมที่มีควำมหมำยไปในทำงจำำนวนมำก เช่น รัฐบำล องค์กร กรม บริษัท
  • 9. ๑.๔ ลักษณนำม เป็นคำำนำมที่บอกลักษณะของนำม มักใช้ ตำมหลังคำำวิเศษณ์ที่บอกจำำนวนนับ เช่น ภิกษุ 5 รูป นำฬิกำ 5 เรือน รูป และเรือนเป็น ลักษณนำม
  • 10. ๑.๕ อำกำรนำม คือนำมที่เป็นชือกริยำอำกำรในภำษำไทย ่ เรำมักมีคำำว่ำ “กำร” และ “ควำม” นำำหน้ำ เช่น กำรกิน กำรนั่ง ควำมดี ควำมจน
  • 11. ๒. คำำสรรพนำม คำำสรรพนำม คือคำำที่ใช้แทนคำำนำม แบ่งเป็น 6 ชนิดคือ ๒.๑ บุรุษสรรพนำม ๒.๔ อนิยม สรรพนำม ๒.๒ ประพันธสรรพนำม ๒.๕ ปฤจฉำสรรพนำม ๒.๓ นิยมสรรพนำม ๒.๖ วิภำค สรรพนำม
  • 12. ๒.๑ บุรุษสรรพนำม บุรุษสรรพนำม คือ สรรพนำมที่ใช้แทนชือเวลำ ่ พูดจำกัน บุรุษที่ 1 ใช้แทนผู้พูด เช่น ผม ฉัน บุรุษที่ 2 ใช้แทนผู้ฟัง เช่น คุณ เธอ บุรุษที่ 3 ใช้แทนผู้ที่กล่ำวถึง เช่น เขำ แก มัน
  • 13. ๒.๒ ประพันธสรรพนำม ประพันธสรรพนำม คือ คำำสรรพนำมที่ใช้ แทน (เชือม) คำำนำมที่อยู่ข้ำงหน้ำ ได้แก่คำำ ที่ ่ ซึ่ง อัน เช่น คน “ที่” ออกกำำลังกำยอยู่เสมอ ร่ำงกำยมัก แข็งแรง เกำหลีใต้ “ซึ่ง” เป็นเจ้ำภำพจัดกำรแข่งขัน กีฬำโอลิมปิกกำำลัง มีชอเสียงไปทั่วโลก ื่ ศีล “อัน” พึงปฏิบติคือศีลห้ำ ั
  • 14. ๒.๓ นิยมสรรพนำม นิยมสรรพนำม ได้แก่ สรรพนำมที่กำำหนด ควำมให้รู้แน่นอน ได้แก่ นี่ นัน โน่น หรือ นี้ นัน ่ ้ โน้น เช่น นี่ เป็นเพื่อนฉัน นั่น อะไรนะ โน่น แน่ะของเธอละ ของเธออยู่ที่ นี้
  • 15. ๒.๔ อนิยมสรรพนำม อนิยมสรรพนำม ได้แก่สรรพนำมที่แทน สิงที่ไม่ทรำบ คือ ่ ไม่ชี้เฉพำะลงไป และไม่ได้กล่ำวในเชิงถำม หรือสงสัย ได้แก่ ใคร อะไร ไหน ใด เช่น ใคร ขยันก็สอบไล่ได้ เขำเป็นคนที่ไม่สนใจอะไร
  • 16. ๒.๕ ปฤจฉำสรรพนำม ปฤจฉำสรรพนำม ได้แก่ คำำสรรพนำมใช้เป็น คำำถำม ได้แก่คำำ อะไร ใคร ที่ไหน แห่งใด ฯลฯ เช่น ใคร อยู่ที่นน ั่ อะไร เสียหำยบ้ำง ไหน ล่ะโรงเรียนของเธอ
  • 17. ๒.๖ วิภำคสรรพนำม วิภำคสรรพนำม หมำยถึงคำำนำมที่ใช้แทนคำำ นำม ซึ่งแสดง ให้เห็นว่ำ นำมนั้น จำำแนกออกเป็นหลำยส่วน ได้แก่คำำ ต่ำง บ้ำง กัน เช่น นักเรียน ต่ำง ก็อ่ำนหนังสือ เขำตี กัน นักเรียน บ้ำง ก็เรียน บ้ำง ก็ เล่น
  • 18. ๓. คำำกริยำ คำำกริยำ คือ คำำที่แสดงอำกำรของคำำนำม สรรพนำม แสดงกำรกระทำำในประโยค แบ่งออก เป็น ๔ ชนิดคือ ๓.๑ สกรรมกริยำ ๓.๒ อกรรมกริยำ ๓.๓ วิกตรรถกริยำ ๓.๔ กริยำอนุเครำะห์
  • 20. ๓.๒ อกรรมกริยำ อกรรมกริยำ คือคำำกริยำที่ไม่ต้องมีกรรมมำรับ ก็ได้ควำมสมบูรณ์ เช่น เขำนัง เขำยืนอยู่ ่
  • 21. ๓.๓ วิตรรถกริยำ วิกตรรถกริยำ คือคำำกริยำที่ไม่มีควำมหมำย ในตัวเอง ใช้ตำมลำำพังแล้วไม่ได้ควำม ต้องมีคำำ อื่นมำประกอบจึงจะได้ควำม คำำกริยำพวกนี้คือ เป็น เหมือน คล้ำย เท่ำ คือ เช่น ผม เป็น นักเรียน ลูกคนนี้ คล้ำย พ่อ เขำคือ ครูของฉัน เอง รองเท้ำ 2 คูนี้เหมือนกัน ่
  • 22. ๓.๔ กริยำนุเครำะห์ กริยำอนุเครำะห์ คือคำำกริยำที่ไม่มีควำม หมำยในตัวเอง ทำำหน้ำที่ชวยคำำกริยำให้มีควำม ่ หมำยชัดเจนขึ้น ได้แก่คำำ จง กำำลัง จะ ย่อม คง ยัง ถูกนะ เถอะ เทอญ ฯลฯ เช่น นำยแดง จะไป โรงเรียน เขำ ถูก ตี เธอ รีบ ไปเถอะ
  • 23. ๔. คำำวิเศษณ์ คำำวิเศษณ์ คือคำำจำำพวกที่ประกอบคำำอื่น เพือให้ได้ควำมชัดเจนยิ่งขึ้น แบ่งเป็น ๑๐ ชนิด ่ คือ ๔.๑ ลักษณวิเศษณ์ ๔.๖ อนิยม วิเศษณ์ ๔.๒ กำลวิเศษณ์ ๔.๗ ปฤจฉำ วิเศษณ์ ๔.๓ สถำนวิเศษณ์ ๔.๘ ประ ติเษธวิเศษณ์ ๔.๔ ประมำณวิเศษณ์ ๔.๙ ประ ติชญำวิเศษณ์
  • 24. ๔.๑ ลักษณวิเศษณ์ ลักษณวิเศษณ์ เป็นคำำวิเศษณ์ขยำยนำม สรรพนำม หรือกริยำ เพื่อบอก ชนิด ขนำด สัณฐำน สี เสียง กลิ่น รส อำกำร สัมผัส เช่น เล็ก แบน ยำว ขำว เหม็น หอม เปรี้ยว เช่น เขำร้องเพลง เพรำะ จริง มะม่วงผลนีมีรส เปรี้ยว ้ นักเรียน ดี ต้องอ่ำนหนังสือ
  • 25. ๔.๒ กำลวิเศษณ์ กำลวิเศษณ์ คือคำำวิเศษณ์ที่ขยำยคำำอื่นเพื่อ บอกเวลำ เช่น เร็ว ก่อน เช้ำ สำย บ่ำย เย็น คำ่ำ นำน เสมอ เช่น เขำมำโรงเรียน สำย
  • 26. ๔.๓ สถำนวิเศษณ์ สถำนวิเศษณ์ คือคำำวิเศษณ์บอกสถำนที่ ได้แก่คำำ บน ลำง เหนือ ใน นอก ใกล้ ไกล เช่น เขำอยู่ไกล
  • 27. ๔.๔ ประมำณวิเศษณ์ ประมำณวิเศษณ์ คือ คำำวิเศษณ์ที่บอก ปริมำณ เช่น น้อย มำก จุ ทั้งปวง จำำแนกเป็น ๔ พวก ๔.๔.๑ บอกจำำนวนไม่จำำกัด ได้แก่คำำ หมด สิน ทั้งปวง บรรดำ ้ ๔.๔.๒ บอกจำำนวนไม่จำำกัด ได้แก่ จุ มำก หลำย ๔.๔.๓ บอกจำำนวนนับ เช่น หนึ่ง สอง ที่ หนึง่ ๔.๔.๔ บอกจำำนวนแบ่งแยก เช่น ต่ำง บ้ำง
  • 28. ๔.๕ นิยมวิเศษณ์ นิยมวิเศษณ์ คือคำำวิเศษณ์ที่บอกควำม แน่นอน ได้แก่คำำ นี้ นัน โน้น ทีเดียว แน่นอน ้ เฉพำะ เช่น เขำเป็นคนขยัน แน่ๆ ฉันทำำ เอง
  • 29. ๔.๖ อนิยมวิเศษณ์ อนิยมวิเศษณ์ คือคำำวิเศษณ์ที่ใช้ประกอบ โดยไม่แสดงควำมกำำหนดแน่นอนลงไป ทั้ง ไม่ใช่คำำถำมหรือแสดงควำมสงสัย ได้แก่คำำ อื่น อื่นๆ ใคร ใครๆ อะไร ฉันใด เช่น เธอจะมำเวลำ ใด ก็ได้ เธอจะทำำ อย่ำงไร ก็ทำำ เถอะ เขำจะมำ กี่ คนก็ไม่เป็นไร
  • 30. ๔.๗ ปฤจฉำวิเศษณ์ ปฤจฉำวิเศษณ์ คือคำำวิเศษณ์ที่ใช้เป็น คำำถำมหรือแสดงควำมสงสัย ได้แก่คำำ อะไร ไฉน ใด เหตุไร อย่ำงไร เช่น ตัว อะไร อยู่ใต้โต๊ะ เขำกำำลังคิด อะไร นะ ทำำไม เธอจึงทำำอะไรอย่ำง นี้
  • 31. ๔.๘ ประติเษธวิเศษณ์ ประติเษธวิเศษณ์ คือคำำวิเศษณ์ที่แสดง ควำมปฏิเสธ เช่น ไม่ ไม่ได้ มิได้ ไม่ใช่ หำมิได้ เช่น ผมไม่ได้ทำำสิ่งนัน ้
  • 32. ๔.๙ ประติชญำวิเศษณ์ ประติชญำวิเศษณ์ ได้แก่ คำำวิเศษณ์ที่ใช้ใน กำรพูดจำกัน คำำจำำพวกขำนรับ คำำรับรอง เช่น คะ ค่ะ ขำ ครับ จ๊ะ ขอรับ เช่น คุณ ครับ มีคนมำหำ ขอรับ
  • 33. ๔.๑๐ ประพันธวิเศษณ์ ประพันธวิเศษณ์ คือ คำำวิเศษณ์ ที่ทำำหน้ำที่ เชือมคำำหรือควำมที่เขำมำข้ำงหน้ำ ได้แก่ ที่ ซึ่ง ่ อัน เช่น เขำคิดอย่ำง ที่ เธอคิด เขำทำำควำมดี อัน หำที่สดุ มิได้
  • 34. ๕. คำำบุรพบท คำำบุรพบท คือคำำที่ใช้นำำหน้ำนำม สรรพนำม หรือกริยำบำงพวก ทำำหน้ำที่ให้ได้ควำมเนืองกัน และได้ควำมชัดเจน จำำแนกออกเป็น ๒ ชนิด คือ ๕.๑ บุรพบทที่ไม่เชือมกับคำำอื่น ่ ๕.๒ บุรพบทที่เชื่อมกับคำำอื่น
  • 35. ๕.๑ บุรพบทที่ไม่เชื่อมกับคำำอื่น บุรพบทที่ไม่เชือมกับคำำอื่น หมำยถึง ่ บุรพบทที่ใช้เป็นคำำเรียก ได้แก่คำำ ดูกร ข้ำแต่ หรืออำจเป็นพวก สำมำนยนำม หรือ วิสำมำนยนำมก็ได้ เช่น ดูกร ภิกษุทั้งหลำย ท่ำนหลำย โปรดฟัง ข้ำพเจ้ำ คุณมำนี โปรดเชิญทำงนี้
  • 36. ๕.๒ บุรพบทที่เชื่อมกับคำำอื่น บุรพบทที่เชือมกับคำำอื่น ได้แก่บรพบทที่ใช้ ่ ุ นำำหน้ำคำำอื่น ทำำให้ได้ควำมรัดกุมขึ้น เช่น ใน นอก แห่ง ของ ฯลฯ เช่น เสือตัวนี้ สำำหรับ เธอ ้ ฉันรัก เฉพำะ เธอเท่ำนั้น เขำมำ แต่ เช้ำ บ้ำน ของ คุณน่ำอยู่ด้วย จริงๆ
  • 37. ๖. คำำสันธำน สันธำน คือคำำที่ใช้เชือมคำำหรือข้อควำมให้ ่ ต่อเนื่องกัน คำำสันธำนนันเป็นคำำเดียวก็มี เช่น ้ และ แต่ เป็นกลุ่มคำำก็มี เช่น เพรำะฉะนัน แต่ ้ ทว่ำ หรือมิฉะนั้น เป็นกลุ่มแยกคำำกันก็มี เช่น ฉันใด...ฉันนัน คงจะ...จึง ถ้ำ...ก็ ้ ลักษณะกำรเชื่อมของสันธำน พอจะจำำแนก ได้ดังนี้ ๖.๑ เชื่อมควำมให้คล้อยตำมกัน ๖.๒ เชือมควำมที่ขัดแย้งกัน ่ ๖.๓ เชื่อมให้เลือกเอำ
  • 38. ๖.๔ เชื่อมควำมที่เป็นเหตุผล ๖.๕ เชือมควำมให้แยกต่ำงตอน ่ ๖.๖ เชือมควำมแบ่งรับรอง ่ ๖.๗ เชือมควำมให้สละสลวย ่
  • 39. ๖.๑ เชื่อมควำมให้คล้อยตำมกัน เชือมควำมให้คล้อยตำมกัน สันธำนพวกนี้ ่ ได้แก่ ก็...จึง แล้วก็เช่น ... ฉันเรียนหนังสือ แล้วก็ กลับบ้ำน พระอรุณ และ พระฤทธิได้ไปครองกรุง ์ ศรีสชนำลัย ั พระธรรมวงศ์ทรงสละรำชสมบัติ แล้วจึง เสด็จออกทรงพรต
  • 40. ๖.๒ เชื่อมควำมที่ขัดแย้งกัน เชือมควำมที่ขัดแย้งกัน ได้แก่คำำ แต่ แต่ ่ ทว่ำ ถึง...ก็ เช่น ถึง สิบปำกว่ำ ก็ ไม่เท่ำตำเห็น พระยำไชยบูรณ์ถูกเชือดเนือ แต่ก็ ้ ไม่ยอมอ่อนน้อมต่อพกำหม่อง กว่ำ กองทัพจำกกรุงเทพฯขึ้นไป ปรำบจลำจลพวกเงี้ยว ก็ทำำลำยเมืองแพร่เสีย ยับเยิน
  • 41. ๖.๓ เชื่อมให้เลือกเอำ เชือมให้เลือกเอำ ได้แก่คำำ หรือ มิฉะนัน ไม่ ่ ้ ก็ เช่น เธอจะยืน หรือ จะนั่ง เธอจะไป หรือ ไม่ พระยำไชยบูรณ์ตองยกเมืองแพร่ให้ ้ พกำหม่อง มิฉะนั้น ตนเองจะต้องตำย พระอรุณ หรือ พระฤทธิ์ เป็น บุตรของนำงอุทัย
  • 42. ๖.๔ เชื่อมควำมที่เป็นเหตุผล เชือมควำมที่เป็นเหตุผล ได้แก่คำำ จึง ฉะนั้น ่ ดังนั้น เช่น เขำดูหนังสือ จึง สอบไล่ได้ บ้ำนเมืองอยู่ข้ำงหลังสวนเมืองนี้ จึง ได้ชอว่ำ ื่ เมืองหลังสวน มัจฉำนุมีควำมกตัญญูต่อไมยรำพ ฉะนั้นจึง ไม่ยอมบอกทำงไปเมืองบำดำลแก่ หนุมำนโดยตรง
  • 43. ๖.๕ เชื่อมควำมให้แยกต่ำงตอน เชือมควำมให้แยกต่ำงตอน ได้แก่คำำ ส่วน ่ ฝ่ำย หนึ่ง เช่น กองทัพเรำอยู่ใต้ลม ฝ่ำยข้ำศึกอยู่เหนือลม
  • 44. ๖.๖ เชื่อมควำมแบ่งรับรอง เชือมควำมแบ่งรับรอง ได้แก่ ถ้ำ ถ้ำ...ก็ เช่น ่ ถ้ำ ฝนไม่ตก ฉัน ก็ จะไปโรงเรียน
  • 45. ๖.๗ เชื่อมควำมให้สละสลวย เชือมควำมให้สละสลวย ได้แก่ อย่ำงไร ่ ก็ตำม อย่ำงไรก็ดี อันที่ จริง เช่น อย่ำงไรก็ดี ฉันจะพยำยำมทำำให้ดี ที่สด ุ
  • 46. ๗. คำำอุทำน อุทำน คือ คำำแสดงควำมรู้สกของผู้พด แบ่ง ึ ู เป็น ๗.๑ อุทำนบอกอำกำร ๗.๒ อุทำนเสริมบท
  • 47. ๗.๑ อุทำนบอกอำกำร อุทำนบอกอำกำร อำจจะอุทำนแสดงควำม เข้ำใจ ตกใจ โกรท เจ็บ ตื่นเต้น สงสัย เช่น อ๋อ วุ้ย ต๊ำยตำย ไฮ้ เช่น อุ๊ย เจ็บจริง ชิ! ชิๆ! ชิชะ! โธ่! วะ! วำ! หื้อหือ! เหม่! แหม! อนิจจัง! อ๊ะ! อือ! อนิจจำ! อุบ๊ะ! เอ! เอ๊ะ! เอ๊ว! เอ้อเฮอ! โอ! โอย! โอ๊ย! ฮะ! ฮ้ำ! ฮึ! เฮ้! เฮ้ย! เฮ้ว! เฮ้อ! ไฮ้! คำำอุทำนบอกอำกำรนี้ รวมทั้งที่แทรกอยู่ใน คำำประพันธ์ต่ำงๆ โดยมำกก็เป็นคำำสร้อย เช่น เฮย แฮ เอย นอ
  • 48. ๗.๒ อุทำนเสริมบท อุทำนเสริมบท เป็นคำำที่เพิ่มเข้ำมำโดยไม่ได้ ตังใจให้ควำมเพิ่มมำแต่อย่ำงใด เช่น แขนแมน ้ เสือสำด โต๊ะเต๊อะ จำนเจิน ไม่รู้ไม่ชี้ พระสงฆ์ ่ องค์เจ้ำ โรงรำ่ำโรงเรียน ร้องห่มร้องไห้ สัญญิง สัญญำ หนังสือหนังหำ เป็นต้น
  • 49. อ้ำงอิง http://www.thaigoodview.com/library/ teachershow/lopburi/srisuda_l/thai/index. html http://st.mengrai.ac.th/users/mrsaengjan/ sj20.htm http://blog.eduzones.com/yimyim/3255 www.navy.mi.th/alumni/admincpo1_52/ download/thai02.ppt http://www.trueplookpanya.com/true/knowl