More Related Content
More from Prachaya Sriswang
More from Prachaya Sriswang (20)
คางทูม
- 3. สาเหตุ
เกิดจากเชื้อไวรัส ในกลุ่ม Paramyxovirus
โดยเชื้อนี้จะอยู่ในน้าลายของผู้ป่วย
ติดต่อถึงกันผ่านการไอ จามรดกัน
สัมผัสสิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนน้าลาย
ของผู้ป่วย
21 July 2014 3
- 5. 21 July 2014 5
พยาธิสภาพ มีการบวมที่แนวแก้ม เป็นสีแดงก่าและ
บวมโต ซึ่งแสดงว่าต่อมน้าลายมีการ อักเสบมาก ต่อเมื่อ
อาการบวมแดงหายไปแล้วจึงจะพ้นระยะติดต่อ
- 8. อาการ
มีอาการไข้ต่า อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร
ปวดเมื่อยตามตัว
ต่อมา 1-2 วัน จะมีอาการปวดหู เจ็บบริเวณ
ขากรรไกรต่อมน้าลายหน้าหูจะโตขึ้นจนคลาได้ โดย
ค่อยๆ โตขึ้นจนถึงบริเวณหน้าหูและขากรรไกร บาง
รายโตขึ้นจนถึงระดับตา ประมาณ 1 สัปดาห์ จะค่อยๆ
ลดขนาดลง
21 July 2014 8
- 10. โรคแทรกซ้อน
1. เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง
2. โรคแทรกซ้อนที่นับว่ารุนแรงคือ สมองอักเสบ พบได้
ประมาณ 1 ใน 6,000 ราย ซึ่งอาจทาให้ถึงเสียชีวิตได้
3. ถ้าเป็นในเด็กชายวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่อาจมีการอักเสบของ
อัณฑะ ซึ่งในบางรายอาจทาให้เป็นหมันได้
4. โรคแทรกซ้อนอื่นๆ ที่อาจพบได้น้อยมาก คือ ข้ออักเสบ
ตับอ่อนอักเสบ และหูหนวก
21 July 2014 10
- 14. การดูแลผู้ป่วยโรคคางทูม
ใช้น้าอุ่นจัด ๆ ประคบตรงบริเวณที่เป็นคางทูม วัน
ละ 2 ครั้ง แต่ถ้าปวดให้เปลี่ยนไปใช้น้าเย็น หรือ
น้าแข็งแทน
ควรเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่เคี้ยวยาก ๆ อาหารรส
เปรี้ยว เพราะจะทาให้ปวดมากขึ้น ที่สาคัญควรหยุด
พักรักษาตัวอยู่บ้าน เพื่อป้ องการการแพร่เชื้อสู่คนอื่น
21 July 2014 14
- 16. การป้ องกันโรคคางทูม
สามารถป้ องกัน โรคคางทูม ได้ด้วยการฉีด
วัคซีนรวมป้ องกันหัด คางทูม หัดเยอรมัน
(MMR) เริ่มฉีดตั้งแต่อายุ 9-12 เดือน และ
ฉีดซ้าอีก 1 ครั้ง ตอนอายุ 4-6 ปี
21 July 2014 16
- 17. 21 July 2014 17
ช่องทางในการติดต่อ…
เข้า facebook :
prachaya56@hotmail.com
เข้าร่วมในกลุ่ม คลินิกอาชีวอนามัย
Editor's Notes
- โรคคางทูม เกิดจากเชื้อไวรัส และไม่ได้มีโรคแทรกซ้อนร้ายแรง ดูแลรักษาตามอาการ ก็สามารถรักษาให้หายได้เองตามธรรมชาติ โดยจะมีอาการไข้อยู่ 1-6 วัน ส่วนคางทูมจะยุบเองในไม่เกิน 10 วัน และจะหายสนิทใน 2 สัปดาห์
ผู้ป่วยควรดูแลร่างกายด้วยการพักผ่อนมาก ๆ อย่าทำงานหนัก
ดื่มน้ำมาก ๆ และทานยาลดไข้ ในเวลาที่มีไข้สูง
ใช้น้ำอุ่นจัด ๆ ประคบตรงบริเวณที่เป็นคางทูม วันละ 2 ครั้ง แต่ถ้าปวดให้เปลี่ยนไปใช้น้ำเย็น หรือน้ำแข็งแทน
ควรเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่เคี้ยวยาก ๆ อาหารรสเปรี้ยว เพราะจะทำให้ปวดมากขึ้น ที่สำคัญควรหยุดพักรักษาตัวอยู่บ้าน เพื่อป้องการการแพร่เชื้อสู่คนอื่น