More Related Content
Similar to 469-02.pdf (20)
469-02.pdf
- 3. คานา
ปัจจุบันอาหารอีสานเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น จึงมีการลงทุนเปิดร้านอาหารอีสานกันอย่าง
แพร่หลาย โดยอาหารยอดนิยมของผู้บริโภคส่วนใหญ่คือส้มตา ซึ่งในร้านขนาดใหญ่จะเกิดกรณีของการ
ซอยมะละกอค้างคืนเตรียมไว้เพื่อให้ทันต่อการจาหน่าย ซึ่งก็อาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการในวันต่อวัน
ของการจาหน่ายและเส้นที่ค้างคืนก็จะมีคุณภาพต่าลงด้วย บางร้านอาจจะต้องจ้างแรงงานเพิ่มในการซอย
มะละกอเพื่อให้เพียงพอต่อการจาหน่อย ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองแรงงานและสิ้นเปลืองเงินมาก ทาง คณะ
ผู้จัดทาจึงได้จัดทาโครงงานเล่มนี้ขึ้น เพื่อช่วยลดการใช้แรงงานโดยสิ้นเปลือง และแก้ปัญหาการซอย
มะละกอค้างคืนเพื่อให้ได้เส้นมะละกอที่มีคุณภาพและดีต่อผู้บริโภค
ทางคณะผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงงานเล่มนี้จะสามารถเป็นประโยชน์ต่อร้านอาหารอีสาน
และการเรียนรู้ของบุคคลทั่วไป
หากมีการผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ณ ที่นี้ด้วย
คณะผู้จัดทา
- 4. ก
โครงงาน เครื่องซอยมะละกอ
ผู้จัดทา นางสาวกนกอร รักมิตร
นางสาวรัตนากร อ่อนละออ
นางสาววิภาวรรณ ทองสุทธิ์
อาจารย์ที่ปรึกษา คุณครูสหัสนัยน์ อึ๊งภากรณ์
สถานที่ศึกษา โรงเรียนเบญจมเทพอุทิศจังหวัดเพชรบุรี
บทคัดย่อ
เนื่องจากปัจจุบันส้มตาเป็นอาหารที่มีผู้คนรับประทานกันอย่างแพร่หลาย จึงทาให้ร้ายขายส้มตาชื่อดังหลายๆร้าน
ซอยมะละกอเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบไม่ทัน ทาให้ต้องซอยมะละกอเตรียมไว้ก่อน มีผลให้คุณภาพของมะละกอไม่ดีเท่าที่ควร
เนื่องจากการเก็บรักษาโดยการแช่น้าแข็งค้างคืนไว้หรือบางร้านต้องเสียค่าแรงในการจ้างลูกจ้างเอาไว้เพื่อซอยมะละกอ
จากปัญหานี้จึงทาให้ผู้พัฒนาคิดประดิษฐ์เครื่องซอยมะละกอขึ้นสาหรับใช้ในการซอยละกอครั้งละจานวนมากและมี
ประสิทธิภาพดีกว่าเครื่องซอยมะละกอตามท้องตลาด เพื่อประหยัดค่าแรงงาน ประหยัดเวลาในการซอยมะละกอ อีกทั้งยัง
ได้คุณภาพมะละกอที่ดี สดและใหม่ไม่ค้างคืน
- 6. ค
สารบัญ
เรื่อง หน้า
บทคัดย่อ ก
กิตติกรรมประกาศ ข
สารบัญ ค
สารบัญตาราง ช
สารบัญภาพ ซ
บทที่ ๑ บทนา
ที่มาและความสาคัญ 1
จุดประสงค์ของโครงงาน 1
ขอบเขตของโครงงาน 1
สมมติฐาน 2
ตัวแปรที่ศึกษา 2
นิยามศัพท์เฉพาะ 2
บทที่๒ เอกสารอ้างอิง 3-6
บทที่๓ วิธีการดาเนินงาน 7-10
บทที่๔ ผลการทดลอง 11
บทที่๕ สรุป อภิปรายผล ข้อเสนอแนะ 12
ภาคผนวก 13-17
บรรณานุกรม 18
- 8. ซ
สารบัญรูปภาพ
รูป หน้า
รูปที่ 1 รูปมะละกอ 3
รูปที่ 2 รูปตลับลูกปืน 3
รูปที่ 3 รูปจานใบมีด 3
รูปที่ 4 สายพานส่งกาลัง 3
รูปที่ 5 สายพานส่งกาลังตัววีร่องเรียบ 4
รูปที่ 6 พูลเล่ 4
รูปที่ 7 แผ่นสแตนเลส 4
รูปที่ 8 เพลา 4
รูปที่ 9 มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบอินดักชั่น 1.5 kw 5
รูปที่ 10 ตะปูเกลียว 5
รูปที่ 11 เครื่องซอยมะละกอตามท้องตลาดทั่วไป 5
รูปที่ 12-19 รูปการออกแบบโดยใช้โปรแกรม 8-9
รูปที่ 20-25 รูปเครื่องซอยมะละกอก่อนปรับแก้ 9-10
รูปที่ 26-29 รูปเครื่องซอยมะละกอหลังปรับแก้ 10
รูปที่ 30 รูปชนิดของสายพานส่งกาลัง 14-15
- 9. 1
บทที่ 1
บทนำ
ที่มำและควำมสำคัญ
เนื่องจากสมาชิกในกลุ่มไปได้รับประทานส้มตาที่ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งและมีลูกค้าในร้าน
จานวนมาก ทาให้ส้มตาที่สั่งมาเสิร์ฟช้ามาก สาเหตุเนื่องจากมีลูกค้าจานวนมากจึงทาให้เส้นมะละกอที่
จัดเตรียมไว้ไม่เพียงพอต่อผู้ที่มาบริโภค จึงทาให้ทางร้านต้องซอยมะละกอเพิ่ม ซึ่งในการซอยมะละกอโดย
ใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ตามท้องตลาด ทาให้ใช้เวลานานและไม่ได้เส้นมะละกอที่สวยงามและมีคุณภาพ ซึ่งทาให้
ลูกค้าที่มารับประทานต้องรอนาน ทาให้ลูกค้าเสียอารมณ์ เสียเวลา และไม่พึงพอใจต่อการบริการ ซึ่งอาจจะ
ทาให้การตัดสินใจในการมาบริโภคอาหารที่ร้านนี้ในคราวต่อไปลดลง จึงทาให้เสียลูกค้าไปไม่มากก็น้อย
กลุ่มของข้าพเจ้าจึงคิดว่าร้านใหญ่ๆ ควรจะมีเครื่องซอยมะละกอ เพื่อใช้แทนการซอยด้วยอุปกรณ์ตาม
ท้องตลาดที่มีอยู่ในปัจจุบันจึงทาให้กลุ่มของข้าพเจ้าเกิดความสนใจที่จะประดิษฐ์เครื่องซอยมะละกอนี้ขึ้นมา
เพื่อตอบโจทย์กับปัญหาของการเสียเวลาจากการซอยมะละกอโดยใช้อุปกรณ์ตามท้องตลาดของทาง
ร้านอาหารที่มีการบริโภคสูงหรือร้านใหญ่ๆ
จุดประสงค์
1. เพื่อสร้างเครื่องมือสาหรับการซอยมะละกอขึ้นมาใช้ได้จริง
2. เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพของเส้นมะกอที่ได้มาจากเครื่องซอยมะละกอและที่ใช้ซอยมะละกอตาม
ท้องตลาดทั่วไป
3. เพื่อเปรียบเทียบเวลาที่ใช้ในการซอยมะละกอจากเครื่องซอยมะละกอและที่ใช้ซอยมะละกอตาม
ท้องตลาดทั่วไป
ขอบเขตกำรศึกษำ
รายการ ระยะเวลา ปี
ศึกษาปัญหาในการซอยมะละกอ พฤษภาคม – มิถุนายน 2556
ศึกษาการทาเครื่องซอยมะละกอ มิถุนายน – ธันวาคม 2556
เสนอโครงงานกับอาจารย์ที่ปรึกษา กรกฎาคม 2556
ออกแบบเครื่องซอยมะละกอ กรกฎาคม – พฤศจิกายน 2556
เริ่มประดิษฐ์เครื่องซอยมะละกอ มกราคม – กุมภาพันธ์ 2556
- 11. 3
บทที่ 2
เอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง
มะละกอ
จำนใบมีด
ตลับลูกปืน Bearing Housing Units
Type (ชุดลูกปืนตุ๊กตำ)
ตลับลูกปืนตุ๊กตาทาหน้าที่ รองรับและ
ประคองการหมุนของเพลา ทั้งเพลางาน และ
เพลาชุดเฟือง ทดรอบ และทาหน้าที่ถ่ายทอด
หรือส่งถ่ายแรงที่เกิดขึ้นจากการทางานบนเพลา
ให้ผ่านลงไป สู่ฐานเครื่องและสามารถที่จะทา
การยึด หรือ ประกอบเข้ากับการเชื่อมต่อได้
หลายลักษณะ เพราะโครงสร้างหลักมีรูไว้
สาหรับทาการยึดกับสกรูได้จึงสะดวกในการ
ติดตั้ง
รัศมี 6 นิ้ว ทาด้วยอะลูมิเนียม
ใช้เป็นใบมีดซอยมะละกอ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Carica papaya L.
ชื่อสามัญ : Papaya, Pawpaw, Tree melon
วงศ์ : Caricaceae
สายพันธุ์ที่ใช้
1.พันธุ์แขกนวล นิยมปลูกเพื่อขายผลดิบลักษณะ
ผลยาวผิวผลเรียบสีเขียวอ่อน นวล เนื้อแน่นกรอบ
เหมาะสาหรับทาส้มตาผลสุกเนื้อสีส้มแดง
2.พันธุ์แขกดา เป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกกันมาก ขายได้
ทั้งผลดิบและผลสุก ผลสุกมีรสหวานมีเม็ดน้อยเนื้อ
สีส้มแดงผลดิบเนื้อแน่นกรอบใช้ทาส้มตาได้ดี
สำยพำนส่งกำลัง ใช้ส่งกาลังจากจุดหนึ่งไป
อีกจุดหนึ่ง
สำยพำนส่งกำลัง (Transmission Belt)
- 13. 5
มอเตอร์ไฟฟ
้ ำกระแสสลับ 3 เฟส แบบอินดักชั่น
1.5 kw
หลักกำรทำงำนของอินดักชั่ นมอเตอร์
เมื่อจ่ายไฟฟ้าสลับ 3 เฟสให้ที่ขดลวดทั้ง 3
ของตัวสเตเตอร์จะเกิดสนามแม่เหล็กหมุนรอบๆ
ตัวสเตเตอร์ ทาให้ตัวหมุน(โรเตอร์) ได้รับการ
เหนี่ยวนาทาให้เกิดขั้วแม่เหล็กที่ตัวโรเตอร์ และ
ขั้วแม่เหล็กนี้ จะดึงดูดสนามแม่เหล็กที่หมุนอยู่
รอบๆ ทาให้มอเตอร์ของอินดักชั่นมอเตอร์หมุนไป
ได้ ความเร็วของสนามแม่เหล็กหมุนที่ตัวสเตเตอร์
นี้จะคงที่ตามความถี่ของไฟฟ้ ากระแสสลับ ดังนั้น
โรเตอร์ของอินดักชั่น มอเตอร์ จึงหมุนตาม
สนามแม่เหล็กดังกล่าวด้วยความเร็วเท่ากับ
ความเร็วของสนามแม่เหล็ก
ตะปูเกลียว
ตะปูเกลียวหรือตะปูควง วัสดุยึด
ชิ้นงานที่ต้องการให้มีแรงยึดสูง เกลียวจะ
แทรกเข้าไปฝังยึดในเนื้อวัสดุและป้ องกัน
แรงดึงได้ดี ลักษณะของหัวตะปูเกลียวมี
แบบหัวกลม แบบหัวเรียบขนาดของตะปู
เกลียว นิยมเรียกเป็ นเบอร์ โดยมีการ
กาหนดเส้นผ่านศูนย์กลาง และความยาว
ของตะปู มีหน่วยเรียกเป็นหุน และนิ้ว
เครื่องซอยมะละกอตามท้องตลาดทั่วไป คือ
อุปกรณ์ที่ใช้สาหรับซอยมะละกอ มะม่วง แครอท
แตงกวา ให้เป็นเส้นๆแทนการสับ
เครื่องซอยมะละกอตำมท้องตลำดทั่วไป
- 14. 6
ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงชิ้นงำนกับสมกำรฟิสิกส์
1. กำรเคลื่อนที่แบบวงกลม
การหมุนของจานใบมีดซอยมะละกอ หมุนโดยพลังงานจากมอเตอร์
ความสัมพันธ์ระหว่างคาบกับความถี่
T = ช่วงเวลาของการเคลื่อนที่ของจานใบมีดที่เคลื่อนที่ครบ 1 รอบ
F = จานวนรอบของการเคลื่อนที่ของจานใบมีดในหนึ่งหน่วยเวลา
2. โมเมนตัม
ชนแบบยืดหยุ่น มาพิจารณาลักษณะเพิ่มเติม โดยกาหนดให้วัตถุ 2 ก้อนมีมวล, ความเร็วต้นและ
ความเร็วปลาย เป็น และ ตามลาดับเมื่อวัตถุทั้ง 2 ชนกัน เกิดการทรงโมเมนตัม และ
พลังงานจลน์
3. แรง
โมดูลัสของแรงเฉือน (shear modulus), G หรือ S บางครั้งหมายถึง โมดูลัสของควำมคงรูป
(modulus of rigidity) นิยามจากอัตราส่วนระหว่าง ความเค้นเชิงเฉือน (shear stress) ต่อความเครียดเชิง
เฉือน (shear strain):
เมื่อ F/A คือความเค้นเชิงเฉือน และ Δx/h คือความเครียดเชิงเฉือน
โมดูลัสเชิงเฉือนมักวัดในหน่วย ksi (หลายพันปอนด์ต่อตารางนิ้ว) หรือ GPa (จิกะพาสคัล)
- 15. 7
บทที่ 3
วิธีกำรทดลอง
วัสดุ
1.ตลับลูกปืนแบบตุ๊กตา 2 ตับ
2.จานใบมีด 1 แผ่น
3.เพลา 1 อัน
4.มอเตอร์ 1 ตัว
5.บานพับ 4 บาน
6.ตะปูเกลียว 4 ตัว
7.พูลเล่ 2 อัน
8.สแตนเลส 1 แผ่น
9.ตะปูเกลียว 8 ตัว
10.เหล็กทาโครง
11.เหล็กแผ่น 5 แผ่น
อุปกรณ์
1.เครื่องเชื่อมเหล็ก
2.สว่านไฟฟ้า
3.เลื่อยไฟฟ้า
- 19. 11
บทที่ 4
ผลกำรทดลอง
เมื่อทดลองโดยการเปรียบเทียบเวลาที่ใช้ในการซอยมะละกอแต่ละครั้ง โดยเปรียบเทียบระหว่าง
แม่ค้าซอยมะละกอจานวน 5 คน คนทั่วไปจานวน 5 คน และเครื่องที่ประดิษฐ์ขึ้นมาซอยจานวน 5 ครั้ง ซึ่ง
จะใช้มะละกอขนาด 1 กิโลกรัม จานวนทั้งหมด 15 ผล ในการทดลอง โดยได้ผลการทดลองดังนี้
ตำรำงผลกำรทดลอง
เปรียบเทียบการซอยมะละกอโดยใช้เครื่องกับใช้คน
ครั้ง/คนที่ เครื่องซอยมะละกอ
(วินาที/1 ผล)
คนทั่วไป
(วินาที/1ผล)
แม่ค้า
(วินาที/1 ผล)
1 26 498 177
2 25 241 186
3 27 256 142
4 26 272 290
5 24 236 306
เวลาเฉลี่ย 25.6 324 228
หมำยเหตุ ปัญหาที่พบคือ ขนาดของเส้นมะละกอที่ได้จากชิ้นงานที่ประดิษฐ์ขึ้นนั้นมีขนาดเล็กกว่าเครื่อง
ซอยมะละกอตามท้องตลาดทั่วไป
- 21. 13
ภาคผนวก
มะละกอ
สายพันธุ์ :
1.พันธุ์แขกนวล นิยมปลูกเพื่อขายผลดิบลักษณะผลยาวผิวผลเรียบสีเขียวอ่อน นวล เนื้อแน่นกรอบเหมาะสาหรับทาส้มตา
ผลสุกเนื้อสีส้มแดง
2.พันธุ์แขกดา เป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกกันมาก ขายได้ทั้งผลดิบและผลสุก ผลสุกมีรสหวานมีเม็ดน้อยเนื้อสีส้มแดงผลดิบเนื้อ
แน่นกรอบใช้ทาส้มตาได้ดี
3.พันธุ์แขกดาท่าพระมีลักษณะดีคือมีความต้านทานต่อโรคไวรัสจุดวงแหวนได้ในระดับหนึ่งต้นเตี้ยน้าหนักผลเฉลี่ย 1.5
กิโลกรัม/ผลเนื้อหนาผลสุกเนื้อสีเหลืองอมส้ม
4.พันธุ์ฮอลแลนด์ เหมาะสาหรับขายผลสุก ผลรูปทรงกระบอก น้าหนักผลประมาณ 8 ขีด ถึง 1.5 กิโลกรัม เนื้อสีส้มแดง
เนื้อหนาและแน่น ไม่เละ มีกลิ่นหอม รสชาติอร่อย ความหวานสูง
5.พันธุ์ปากช่อง เหมาะสาหรับขายผลสุก เป็นพันธ์ที่สถานีวิจัยปากช่อง ทาการผสมและปรับปรุงพันธุ์จากมะละกอพันธุ์ซัน
ไรส์โซโล ของประเทศใต้หวัน ขนาดผลประมาณ 3-5 ขีด เนื้อสีส้มแข็งกรอบรสหวานมีเปอร์เซนต์น้าตาลสูง
6.พันธุ์เรดเลดี้ เป็นพันธุ์ที่ติดผลดก น้าหนักผลเฉลี่ย 1.5-2 กิโลกรัม เหมาะสาหรับขายผลสุกเนื้อสีแดงหวานกรอบกลิ่นหอม
- 22. 14
สำยพำนส่งกำลัง (Transmission Belt )
1. สายพานส่งกาลังตัววีร่องเรียบ(Wrapped V-Belt)
2.สายพานส่งกาลังตัววีเปลือยข้าง(Raw Edge V-Belt)
>>เป็นสายพานที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายราคาประหยัด
>>พัฒนาคุณภาพวัตถุดิบการผลิตอย่างต่อเนื่อง
>>สายพานมีการหุ้มผ้าใบทั้งเส้น มีความเสถียรสูงด้านขนาด
>>ทนความร้อน ทนน้ามัน รับโหลดได้ดี ป้ องกันไฟฟ้าสถิต
>>เหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรมทั่วไป
>>มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมาก ใช้งานได้หลากหลาย
>>เป็นสายพานร่องวี(V-Belt)อีกชนิดหนึ่งที่ใช้กันแพร่หลาย
>>แต่งต่างจาก Wrapped V-Belt ที่เทคนิคการผลิต
>>Raw Edge ผลิตเป็นผืนใหญ่ๆและผ่าแบ่งตามชนิดเกรด
>>ด้านข้างจะเห็นเส้นยางรับแรงอัดและเส้นด้านชัดเจน
>>ทนต่อแรงเสียดสีเสียดทานได้น้อยกว่าเล็กน้อยเท่านั้น
>>การผลิตครั้งละมากๆ ทาให้ต้นทุนต่า ราคาถูกกว่า
- 24. 16
สแตนเลสแผ่น
คุณสมบัติเชิงกลของสแตนเลส
สแตนเลสโดยทั่วไปจะ มีส่วนผสมของเหล็กประมาณ 70-80% จึงทาให้มีคุณสมบัติของเหล็กที่สาคัญ 2 ประการ
คือ ความแข็งและความแกร่ง สแตนเลสให้ค่า ที่เป็นกลางของทั้งความแข็ง ความแกร่ง และความเหนียว เนื่องจากมี
ส่วนผสมของธาตุเหล็กอยู่มาก และจะมีเพิ่มขึ้นอีกในชนิดออสเตนิติก และตารางที่ 3 จะแสดงให้เห็นค่าความแข็งแรงสูงสุด
(Ultimate Tensile Strength) ของ สแตนเลส ไม่ว่าจะชนิดที่อ่อนตัวง่าย ซึ่งสามารถทาให้ขึ้นรูปเย็นได้ดี เช่น การขึ้นรูปลึก
(Deep Drawing) จนถึงชนิดความแข็งแรงสูงสุด ซึ่งได้จากการขึ้นรูปเย็นหรือการทาให้เย็นตัวโดยเร็ว (Quenching) หรือ
ชนิดชุบแข็ง แบบตกผลึก (Preciptation Hardening) ซึ่งเหมาะใช้ทาสปริง
ตะปูเกลียว
พิจารณาประกอบในการเลือกซื้อให้เหมาะสมกับการใช้งาน
เครื่องหมาย # และตามด้วยตัวเลข บอกถึงเส้นผ่านศูนย์กลางของหัวตะปู
# 8 หมายถึงหัวตะปูเกลียว เส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 8 mm
ถัดมาจะเป็นระยะความยาวตะปูเกลียวมีหน่วยเป็นนิ้ว เช่น #8 X ¾ นิ้ว หมายถึงความยาวของตะปูอยู่ที่ 3/4 นิ้ว คราวนี้มาดู
รหัสข้างกล่องแบบเต็มๆ
EX # X F F หมายถึง ตะปูหัว EX # X P P/F มีหน่วยเป็น mm P หมายถึง ตะปูเกลียวหัวกลม
F หมายถึง ตะปูเกลียวหัวแบน
- 25. 17
ชนิดของแรง
โมดูลัสของแรงบีบอัด หรือ บัลก์ มอดุลัส (bulk modulus) (K) คือ การเปลี่ยนแปลงของปริมาตรสัมพัทธ์ของวัตถุที่มี
ต่อการเปลี่ยนแปลงความดัน ซึ่งจาเป็นในการวัดความต้านทานของวัตถุที่มีต่อการบีบอัด อย่างสม่าเสมอ
ค่าโมดูลัสของแรงบีบอัดของของไหลหรือของแข็ง เขียนอยู่ในรูปสมการได้เป็น
เมื่อ P คือความดันและ V คือปริมาตร
โมดูลัสของแรงเฉือน (shear modulus), G หรือ S บางครั้งหมายถึง โมดูลัสของความคงรูป (modulus of rigidity)
นิยามจากอัตราส่วนระหว่าง ความเค้นเชิงเฉือน (shear stress) ต่อความเครียดเชิงเฉือน (shear strain):
เมื่อ F/A คือความเค้นเชิงเฉือน และ Δx/h คือความเครียดเชิงเฉือน
โมดูลัสเชิงเฉือนมักวัดในหน่วย ksi (หลายพันปอนด์ต่อตารางนิ้ว) หรือ GPa (จิกะพาสคัล)
โมดูลัสแรงดึงควำมยืดหยุ่น
โมดูลัสสัมผัสหรือโมดูลัสซีแคนท์ของความยืดหยุ่นวัสดุภายใต้แรงดึง คาที่สามารถใช้แทนกันได้คือโมดูลัสของ
ยังและโมดูลัสความยืดหยุ่นจากแรงดึง สามารถตรวจวัดผ่านการทดสอบแรงดึงหรือในการทดสอบเชิงพลวัตรซึ่งมี
ความสัมพันธ์กับความถี่พ้องบนก้านทรงกระบอกตามสมการต่อไปนี้
โดย E หมายถึงโมดูลัสความยืดหยุ่น 1 หมายถึงความยาวชุดแกน p หมายถึงความหนาแน่น f หมายถึงความถี่พ้อง
k หมายถึงรัศมีไจเรชั่นบริเวณชุดแกนตามแนวแกนและระนาบการเคลื่อนที่ (d/4 สาหรับก้านทรงกระบอก) และ j เป็นตัว
แปรตามคงที่ในโหมดการสั่นสะเทือน โมดูลัสแรงดึงความยืดหยุ่นจะใกล้เคียงกับโมดูลัสแรงอัดความยืดหยุ่นภายใต้พิกัด
สัดส่วน