SlideShare a Scribd company logo
1 of 45
บทที่ 1
 เทคโนโลยี
คอมพิว เตอร์
คอมพิว เตอร์
• คอมพิว เตอร์ (Computer) หมาย
  ถึง การนับ หรือ การคำา นวณ
• คอมพิว เตอร์ หมายถึง อุป กรณ์
  ทางอิเ ล็ก ทรอนิก ส์ ที่ม นุษ ย์ใ ช้
  เป็น เครื่อ งมือ ในการจัด การกับ
  ข้อ มูล ที่เ ป็น ได้ท ง ตัว เลข ตัว
                        ั้
  อัก ษร หรือ สัญ ลัก ษณ์อ ื่น ๆที่ใ ช้
  แทนความหมายของข้อ มูล
คุณสมบัตที่สำาคัญของ
        ิ
คอมพิวเตอร์
1. คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์
   อิเล็กทรอนิกส์
2. คอมพิวเตอร์มีหน่วยความจำา
   ภายในเครื่อง
3. ผู้ใช้สามารถเขียนโปรแกรม ให้
   คอมพิวเตอร์ทำางานหรือประมวล
   ผลข้อมูลตามคำาสังนันๆ
                   ่ ้
4. คอมพิวเตอร์สามารถถ่ายโอน
หลักการทำางานของ
     คอมพิวเตอร์

นำาเข้า   ประมวลผล    ส่งออก
(input)   (Process)   (Output)
แบบฝึกหัดที่ 1
1. ให้นักศึกษาทำารายงานเรื่อง “วิวัฒนาการของ
    คอมพิวเตอร์”
2. และตอบคำาถามต่อไปนี้
   – ต้นกำาเนิดของคอมพิวเตอร์ คืออะไร
   – บิดาของวิชาคอมพิวเตอร์คือใคร
   – โปรแกรมเมอร์คนแรกของโลกคือใคร
   – คอมพิวเตอร์ที่ใช้อยูในปัจจุบันใช้
                         ่
      สถาปัตยกรรมของใคร
   – คอมพิวเตอร์ที่ทำางานโดยใช้กระแสไฟฟ้า
      เครื่องแรกของโลกชื่อว่าอะไร
   – คอมพิวเตอร์ที่สามารถบวก ลบ คูณ หาร และ
      ถอดราก เครื่องแรกของโลกชื่อว่าอะไร
ยุค ของ
คอมพิว เตอร์
•ยุค ที่ 1 (พ.ศ.
 2488 - 2501)
 ใช้ห ลอดสููญ
 ญากาศเป็น
 อุป กรณ์ส ำา คัญ
 สื่อ ที่ใ ช้บ ัน ทึก
 ข้อ มูล สำา รองคือ
 บัต รเจาะรู
MARK I




                 UNIVAC

ENIAC
           ENIAC
•ยุค ที่ 2 (ค.ศ. 2502 -
 2506)
 ใช้ท รานซิส เตอร์แ ทน
 หลอดสูญ ญากาศใช้จส เตอ
               หลอดทรานซิ าน
               หลอดทรานซิส เตอ
 แม่เ หล็ก ในการเก็บ
 ข้อ มูล
• เป็นคอมพิวเตอร์ทใช้ทรานซิสเตอร์
                    ี่
  โดยมีแกนเฟอร์ไรท์เป็นหน่วยความ
  จำา มีอุปกรณ์เก็บข้อมูลสำารองในรูป
  ของสือบันทึกแม่เหล็ก เช่น จานแม่
         ่
  เหล็ก ส่วนทางด้านซอฟต์แวร์ก็มี
  การพัฒนาดีขึ้น โดยสามารถเขียน
  โปรแกรมด้วยภาษาระดับสูงซึ่งเป็น
  ภาษาทีเขียนเป็นประโยคทีคน
           ่                 ่
  สามารถเข้าใจได้ เช่น ภาษาฟอร์
  แทน ภาษาโคบอล เป็นต้น ภาษา
•ยุค ที่ 3 (ค.ศ. 2507 –
 2512)ได้มีการนำา แผงวงจรรวม (IC หรือ
ในยุคที่ 3 เป็นยุคของอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ที่มี
การเติบโตมาก
 integrated circuits) ซึ่งประกอบด้วย
 ทรานซิสเตอร์และวงจรไฟฟ้าที่รวมอยู่บนแผ่นซิลิ
 กอนเล็ก ๆ มาแทนการประกอบแผ่นวงจรพิมพ์ลาย
 ทำาให้เวลาการทำางานของคอมพิวเตอร์ลดลงอยู่ใน
 หน่วยหนึ่งส่วนพันล้านวินาที นอกจากนี้ มินิ
 คอมพิวเตอร์ได้ถือกำาเนิดขึ้นในปี ค.ศ.1965 คือ
 เครื่อง PDP-8 ของ Digital Equipment
 Corportion (DEC) ซึ่งต่อมาก็มีการใช้มินิ
IC : Integrated Circuit
IC : Integrated Circuit
เปรียบเทียบขนาดของวัสดุ
• ยุค ที่ 4 (ค.ศ.2513 – ปัจ จุบ น )
                                  ั
• เป็น ยุค ของคอมพิว เตอร์ท ี่ใ ช้ว งจรรวม
ความจุส ง มาก(Very Large Scale
           ู
Integration : VLSI) เช่น ไมโคร
โพรเซสเซอร์ท ี่บ รรจุท รานซิส เตอร์น ับ
หมื่น นับ แสนตัว ทำา ให้ข นาดเครื่อ ง
คอมพิว เตอร์ม ีข นาดเล็ก ลงสามารถตั้ง บน
โต๊ะ ในสำา นัก งานหรือ พกพาเหมือ น
กระเป๋า หิ้ว ไปในที่ต ่า ง ๆ ได้ ขณะเดีย วกัน
ระบบซอฟต์แ วร์ก ็ไ ด้พ ัฒ นาขีด ความ
สามารถสูง ขึ้น มาก มีโ ปรแกรมสำา เร็จ ให้
Microprocessor – VLSI
(Very Large Scale Integration)
CPU ที่จำาหน่ายในท้องตลาด
ประเภทของ
คอมพิว เตอร์
แบ่ง ตามสมรรถนะ
แบ่ง ตามสมรรถนะ
 ขนาดและราคา
 ขนาดและราคา
1.ซูเ ปอร์ค อมพิว เตอร์
2.เมนเฟรม
 คอมพิว เตอร์
3.มิน ิค อมพิว เตอร์
4.เวิร ค สเตชัน
       ์
1. ซูเ ปอร์ค อมพิว เตอร์
   (Super Compuer)
• เป็นคอมพิวเตอร์ทมขนาดใหญ่ทสุด รุ่นแรกสร้างในปี
                     ี่ ี        ี่
  ค.ศ. 1960 ทีองค์การทหารของสหรัฐอเมริกา สร้าง
               ่
  สามารถประมวลผลได้กว่า 100 ล้านคำาสั่งต่อวินาที จึง
  ทำาให้ทำางานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง มีราคา
  แพงทีสุด เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ทเหมาะกับงาน
        ่                           ี่
  คำานวณที่ต้องคำานวณตัวเลขจำานวนมหาศาลให้เสร็จ
  ภายในระยะเวลาอันสั้น โดยต้องอยู่ในห้องทีมการ
                                            ่ ี
  ควบคุมอุณหภูมและปราศจากฝุ่นละออง มักใช้กับ
                   ิ
  องค์กรทีมขนาดใหญ่เท่านัน เนืองจากสามารถรองรับ
           ่ ี             ้   ่
  การใช้งานของผู้ใช้จำานวนมากพร้อม ๆ กันได้ เรียกว่า
  มัลติโปรเซสซิ่ง (Multiprocessing) อันเป็นการใช้
  หน่วยประมวลผลหลายตัว เพือให้คอมพิวเตอร์สามารถ
                             ่
  ทำางานหลายงานพร้อม ๆ กันได้ จึงนิยมใช้กับงานที่
  การคำานวณทีซับซ้อน เช่น การพยากรณ์อากาศ การ
                 ่
  ทดสอบทางอวกาศ การคำานวณทางวิทยาศาสตร์
  การบิน อุตสาหกรรมนำ้ามัน ตลอดจนการวิจัยในห้อง
2. เมนเฟรมคอมพิว เตอร์
 (Mainframe Computer)
• เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่มความเร็วในการ
                                    ี
  ประมวลผลสูงรองลงมาจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ต้อง
  อยู่ในห้องทีควบคุมอุณหภูมและปราศจากฝุ่นละออง
               ่            ิ
  และได้รับการพัฒนาให้มหน่วยประมวลผลหลาย
                          ี
  หน่วยทำางานพร้อม ๆ กันเช่นเดียวกับซูเปอร์
  คอมพิวเตอร์ แต่มจำานวนหน่วยประมวลผลทีน้อยกว่า
                    ี                       ่
   จึงทำาให้สามารถประมวลผลคำาสั่งได้หลายสิบล้านคำา
  สั่งต่อวินาที ระบบคอมพิวเตอร์ของเครื่องเมนเฟรม
  ส่วนมากจะมีระบบคอมพิวเตอร์ยอย ๆ ประกอบอยู่
                                  ่
  ด้วย เพือช่วยในการทำางานบางประเภทให้กับเครื่อง
           ่
  หลัก มีราคาแพงมาก (แต่น้อยกว่าซูเปอร์
  คอมพิวเตอร์) เหมาะกับงานทีมข้อมูลทีมปริมาณมาก
                              ่ ี      ่ ี
  ต้องประมวลผลพร้อมกันโดยผู้ใช้นับพันคน (Multi-
  user) ใช้กับองค์กรใหญ่ ๆ ทัวไป เช่น งานด้าน
                               ่
  วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์ การควบคุม
3. มิน ิค อมพิว เตอร์
   (Minicompuer)
• เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ทมีขนาดกลางที่มี
                           ี่
  ประสิทธิภาพในการทำางานน้อยกว่าเมนเฟรมแต่
  สูงกว่าไมโครคอมพิวเตอร์ สามารถรองรับการ
  ทำางานจากผูใช้หลายร้อยคน (Multi-user) ในการ
               ้
  ทำางานที่แตกต่างกัน (Multi Programming) เช่นเดียว
  กับเครื่องเมนเฟรม แต่สิ่งทีแตกต่างกันระหว่าง
                              ่
  เครื่องเมนเฟรมและเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ คือ
  ความเร็วในการทำางาน เนื่องจากมินิคอมพิวเตอร์
  ทำางานได้ช้ากว่า และควบคุมผู้ใช้งานต่าง ๆ ใน
  จำานวนทีน้อยกว่า รวมทั้งสื่อที่เก็บข้อมูลมีความ
            ่
  จุนอยกว่าเมนเฟรม จึงเหมาะกับองค์กรขนาด
     ้
  กลาง เพราะมีราคาถูกกว่าเครื่องเมนเฟรมมาก
  ทำางานเฉพาะด้าน เช่น การคำานวณทางด้าน
  วิศวกรรม การจองห้องพักของโรงแรม การ
  ทำางานด้านบัญชีขององค์การธุรกิจ เป็นต้น ใน
4. เวิร ค สเตชัน
        ์
  คอมพิว เตอร์
  (Workstation Compuer)
• เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ ทีสนับสนุนการ
                                       ่
  ทำางานของคอมพิว เตอร์เ ครือ ข่า ย ซึ่งใช้ในการ
  จัดสรรและใช้ทรัพยากรร่วมกัน เช่น แฟ้มข้อมูล
  โปรแกรมประยุกต์ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เช่น
  เครื่องพิมพ์และอุปกรณ์อื่น ๆ โดยการเชื่อมโยง
  กับเทอร์มนัล (Terminal) หลาย ๆ เครื่อง อีกทังได้
             ิ                                  ้
  ถูกออกแบบมาให้มความสามารถในการคำานวณ
                     ี
  ด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม หรืองานอื่น ๆ ที่เน้น
  การแสดงผลด้านกราฟิก เช่น การนำามาช่วย
  ออกแบบภาพกราฟิกทีมความละเอียดสูง ทำาให้
                         ่ ี
  เวิร์คสเตชันใช้หน่วยประมวลผลที่มประสิทธิภาพสูง
                                     ี
  และมีหน่วยเก็บข้อมูลสำารองจำานวนมากด้วย ผู้ใช้
  บางกลุ่มจะเรียกเครื่องระดับเวิร์คสเตชันนีว่า ซู
                                           ้
  เปอร์ไ มโคร (Supermicro) เพราะถูกออกแบบให้
  ใช้งานแบบตั้งโต๊ะ แต่ชิปที่ใช้ทำางานนันแตกต่าง
                                         ้
  กันมาก เนืองจากเวิร์คสเตชันส่วนมากใช้ชิปทีลด
               ่                                  ่
  จำานวนคำาสั่งทีสามารถใช้สั่งงานให้เหลือเฉพาะที่
                 ่
5. ไมโครคอมพิว เตอร์
   (Microcompuer)
• เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ราคาถูกสามารถ
  เรียกได้อีกอย่างหนึงว่า เครื่อ งคอมพิว เตอร์ส ว น
                       ่                            ่
  บุค คล (Personal Computer หรือ PC) มีการพัฒนา
  ขึ้นในปี ค.ศ. 1975 ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอันมาก
  เมือ IBM ได้สร้างเครื่อง IBM PC ออกมา ซึ่งความ
      ่
  แตกต่างระหว่างเวิร์คสเตชันคอมพิวเตอร์ และ
  ไมโครคอมพิวเตอร์ได้ลดน้อยลงเรื่อย ๆ เนื่องจาก
  เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ระดับสูงในปัจจุบันมี
  ประสิทธิภาพ และมีความเร็วในการแสดงผลที่ดกว่า    ี
  เวิร์คสเตชันคอมพิวเตอร์มาก สามารถใช้งานโดย
  ใช้คนเดียว (Stand-alone) หรือเชื่อมต่อเป็นเครือข่าย
  เพื่อติดต่อสื่อสารกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นได้ จาก
  การทีเทคโนโลยีที่ก้าวนำาสมัยทำาให้ PC สามารถ
         ่
  เชื่อมโยงเข้ากับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตติดต่อ
  สื่อสารกับคนอื่นได้ทวโลก เหมาะกับงานทัวไป
                         ั่                   ่
  เช่น การประมวลผลคำา (Word Processing) การ
  คำานวณ (Spreadsheet) การบัญชี (Accounting) จัดทำา
ไมโคร
คอมพิว เตอร์        มีร ูป ร่า งต่า งๆ
                    กัน ไปน่ะ ครับ

Desktop Computer / P

Notebook Computer
             Plam
       PDA
 Pocker PC
องค์ป ระกอบของ
 ระบบคอมพิว เตอร์ ว
ฮาร์ด แวร์ ซอฟต์แ
ฮาร์ด แวร์             ซอฟต์แ ว
                         ร์
                         ร์
            บุค ลากร
            บุค ลากร

กระบวนกา
กระบวนกา           ข้อ มูล /สา
                   ข้อ มูล /สา
 รทำา งาน
 รทำา งาน          รสนเทศ
                   รสนเทศ
ประมวลผล
 ประมวลผล
   ของ
    ของ
คอมพิว เตอร์
คอมพิว เตอร์
1.การประมวลผลส่ว น
  บุค คล (Personal
    ไมโครคอมพิวเตอร์ หรือคอมพิวเตอร์
  Computing)
   ส่วนบุคคล (Personal Computer: PC)
   จะมีการประมวลผลโดยใช้เครื่อง
   คอมพิวเตอร์เครื่องเดียวที่เป็นอิสระจาก
   กัน เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะ
   ไม่สามารถติดต่อสือสาร เชื่อมโยงข้อมูล
                     ่
   ร่วมกันได้ ซึ่งหากต้องการใช้ข้อมูลร่วม
   กันจะต้องคัดลอกไปยังหน่วยความจำา
   สำารอง เช่น แผ่นดิสก์ หรือ handy
2. การประมวลผล
 แบบรวมศูน ย์
   (Centralized
 Computing)
3.การประมวลผล
  แบบกระจาย
  (Distributed
Client                     Client


  Computing)
Client




         Server   Server
Client
• เมื่อมีการใช้งานคอมพิวเตอร์ใน
 องค์กรทีมีขนาดใหญ่ขึ้น อาจมีการ
           ่
 ขยายสาขาออกไป ทำาให้มีระบบ
 การทำางานที่มขนาดใหญ่ จึงมี
                ี
 การนำาการประมวลผลแบบกระจาย
 จากศูนย์กลางมาใช้ เพือชดเชยข้อ
                       ่
 จำากัดของการประมวลแบบรวมศูนย์
 ที่คอนข้างล่าช้า ส่งผลให้สามารถ
      ่
 จัดสรรทรัพยากร เพื่อกระจายและ
 แจกจ่ายการใช้งานข้อมูลต่าง ๆ
 ร่วมกันได้ทวทังองค์กรและรวดเร็ว
             ั่ ้
คอมพิว เตอร์
ความจำา (Storage)
ความเร็ว (Speed)
การปฏิบ ัต ิง าน
 อัต โนมัต ิ (Self
 Action)
ความจำา
(Storage)
เป็น ความ
สามารถใน
 การเก็บ
ความเร็ว
    ความสามารถในการ
     (Speed)อ มูล
     ประมวลผลข้
   (Processing Speed)
ความถี่ (Frequency) ุด
  ภายในเวลาที่ส ั้น ที่ส
Hz (Hertz = Cycle/Second
มีค วามเร็ว ในการ
ประมวลผล 2.5 GHz
  หมายความว่า
ประมวลผลได้ 2,500
     ล้า นคำา สั่ง
    ใน 1 วิน าที
การปฏิบ ัต ง าน
            ิ

เป็น ความสามารถของ
เครื่อ งคอมพิว เตอร์
ในการประมวลผลข้อ มูล
ตามลำา ดับ คำา สัง่
ได้อ ย่า งถูก ต้อ งและต่อ
ความน่า เชือ     ่
  ถือ (Sure)
การประมวลผลทีส ่ง ผลให้
             ่
เกิด ผลลัพ ธ์ท ี่ถ ก ต้อ ง
                   ู
 GIGO - Garbage In
    Garbage Out
ใช้แ ทนความน่า เชื่อ ถือ
   ของคอมพิว เตอร์
ข้อ จำา กัด ของ
 คอมพิว เตอร์
1.การวางระบบ
  คอมพิว เตอร์ต ้อ งใช้
  เวลานานมาก และค่า
  ใช้จ ่า ยสูง
2.การรบกวนระบบงาน
  ปกติ

More Related Content

What's hot

บทที่ 2-ระบบคอมพิวเตอร์
บทที่ 2-ระบบคอมพิวเตอร์บทที่ 2-ระบบคอมพิวเตอร์
บทที่ 2-ระบบคอมพิวเตอร์Timmy Printhong
 
บทที่ 2. ระบบคอมพิวเตอร์
บทที่ 2. ระบบคอมพิวเตอร์บทที่ 2. ระบบคอมพิวเตอร์
บทที่ 2. ระบบคอมพิวเตอร์Pokypoky Leonardo
 
คอมพิวเตอร์ ม.1 คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
คอมพิวเตอร์ ม.1 คอมพิวเตอร์เบื้องต้นคอมพิวเตอร์ ม.1 คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
คอมพิวเตอร์ ม.1 คอมพิวเตอร์เบื้องต้นพัน พัน
 
บทที่ 2 ส่วนประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
บทที่ 2 ส่วนประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์บทที่ 2 ส่วนประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
บทที่ 2 ส่วนประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์Kriangx Ch
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ยุทธกิจ สัตยาวุธ
 
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ (Introduction to Operating System)
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ (Introduction to Operating System) ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ (Introduction to Operating System)
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ (Introduction to Operating System) Petpayao Yamyindee
 
เรื่อง ระบบคอมพิวเตอร์กับเทคโนโลยีสารสนเทศ
เรื่อง ระบบคอมพิวเตอร์กับเทคโนโลยีสารสนเทศเรื่อง ระบบคอมพิวเตอร์กับเทคโนโลยีสารสนเทศ
เรื่อง ระบบคอมพิวเตอร์กับเทคโนโลยีสารสนเทศArm'Physics Sonsern-Srichai
 
หน่วยที่ 2-องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอม
หน่วยที่ 2-องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอมหน่วยที่ 2-องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอม
หน่วยที่ 2-องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอมnawapornsattasan
 
ใบความรู้ที่ 2 ส่วนประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ที่ 2 ส่วนประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ใบความรู้ที่ 2 ส่วนประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ที่ 2 ส่วนประกอบของระบบคอมพิวเตอร์Nattapon
 
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์deepre
 
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์naruemon wimonrat
 

What's hot (18)

บทที่ 2-ระบบคอมพิวเตอร์
บทที่ 2-ระบบคอมพิวเตอร์บทที่ 2-ระบบคอมพิวเตอร์
บทที่ 2-ระบบคอมพิวเตอร์
 
บทที่ 2. ระบบคอมพิวเตอร์
บทที่ 2. ระบบคอมพิวเตอร์บทที่ 2. ระบบคอมพิวเตอร์
บทที่ 2. ระบบคอมพิวเตอร์
 
คอมพิวเตอร์ ม.1 คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
คอมพิวเตอร์ ม.1 คอมพิวเตอร์เบื้องต้นคอมพิวเตอร์ ม.1 คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
คอมพิวเตอร์ ม.1 คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
 
บทที่ 2 ส่วนประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
บทที่ 2 ส่วนประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์บทที่ 2 ส่วนประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
บทที่ 2 ส่วนประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
 
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ (Introduction to Operating System)
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ (Introduction to Operating System) ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ (Introduction to Operating System)
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ (Introduction to Operating System)
 
Chapter1
Chapter1Chapter1
Chapter1
 
เรื่อง ระบบคอมพิวเตอร์กับเทคโนโลยีสารสนเทศ
เรื่อง ระบบคอมพิวเตอร์กับเทคโนโลยีสารสนเทศเรื่อง ระบบคอมพิวเตอร์กับเทคโนโลยีสารสนเทศ
เรื่อง ระบบคอมพิวเตอร์กับเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
หน่วยที่ 2-องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอม
หน่วยที่ 2-องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอมหน่วยที่ 2-องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอม
หน่วยที่ 2-องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอม
 
ใบความรู้ที่ 2 ส่วนประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ที่ 2 ส่วนประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ใบความรู้ที่ 2 ส่วนประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ที่ 2 ส่วนประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
 
Week01
Week01Week01
Week01
 
Week01
Week01Week01
Week01
 
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
 
Week01
Week01Week01
Week01
 
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
 
Week01
Week01Week01
Week01
 
Week01
Week01Week01
Week01
 
computer
computercomputer
computer
 

Similar to Ch1 com tech (20)

คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
 
Week01
Week01Week01
Week01
 
Week01
Week01Week01
Week01
 
Week01
Week01Week01
Week01
 
Week02
Week02Week02
Week02
 
Week01
Week01Week01
Week01
 
ความรู้เบื้องต้น3
ความรู้เบื้องต้น3ความรู้เบื้องต้น3
ความรู้เบื้องต้น3
 
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
 
Week01
Week01Week01
Week01
 
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
 
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
 
Intro computer
Intro computerIntro computer
Intro computer
 
Week01
Week01Week01
Week01
 
คอม
คอมคอม
คอม
 
คอม
คอมคอม
คอม
 
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
 
Week02
Week02Week02
Week02
 
Week01
Week01Week01
Week01
 
Week01
Week01Week01
Week01
 
งาน
งานงาน
งาน
 

Ch1 com tech

  • 2. คอมพิว เตอร์ • คอมพิว เตอร์ (Computer) หมาย ถึง การนับ หรือ การคำา นวณ • คอมพิว เตอร์ หมายถึง อุป กรณ์ ทางอิเ ล็ก ทรอนิก ส์ ที่ม นุษ ย์ใ ช้ เป็น เครื่อ งมือ ในการจัด การกับ ข้อ มูล ที่เ ป็น ได้ท ง ตัว เลข ตัว ั้ อัก ษร หรือ สัญ ลัก ษณ์อ ื่น ๆที่ใ ช้ แทนความหมายของข้อ มูล
  • 3. คุณสมบัตที่สำาคัญของ ิ คอมพิวเตอร์ 1. คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ 2. คอมพิวเตอร์มีหน่วยความจำา ภายในเครื่อง 3. ผู้ใช้สามารถเขียนโปรแกรม ให้ คอมพิวเตอร์ทำางานหรือประมวล ผลข้อมูลตามคำาสังนันๆ ่ ้ 4. คอมพิวเตอร์สามารถถ่ายโอน
  • 4. หลักการทำางานของ คอมพิวเตอร์ นำาเข้า ประมวลผล ส่งออก (input) (Process) (Output)
  • 5. แบบฝึกหัดที่ 1 1. ให้นักศึกษาทำารายงานเรื่อง “วิวัฒนาการของ คอมพิวเตอร์” 2. และตอบคำาถามต่อไปนี้ – ต้นกำาเนิดของคอมพิวเตอร์ คืออะไร – บิดาของวิชาคอมพิวเตอร์คือใคร – โปรแกรมเมอร์คนแรกของโลกคือใคร – คอมพิวเตอร์ที่ใช้อยูในปัจจุบันใช้ ่ สถาปัตยกรรมของใคร – คอมพิวเตอร์ที่ทำางานโดยใช้กระแสไฟฟ้า เครื่องแรกของโลกชื่อว่าอะไร – คอมพิวเตอร์ที่สามารถบวก ลบ คูณ หาร และ ถอดราก เครื่องแรกของโลกชื่อว่าอะไร
  • 7. •ยุค ที่ 1 (พ.ศ. 2488 - 2501) ใช้ห ลอดสููญ ญากาศเป็น อุป กรณ์ส ำา คัญ สื่อ ที่ใ ช้บ ัน ทึก ข้อ มูล สำา รองคือ บัต รเจาะรู
  • 8. MARK I UNIVAC ENIAC ENIAC
  • 9.
  • 10. •ยุค ที่ 2 (ค.ศ. 2502 - 2506) ใช้ท รานซิส เตอร์แ ทน หลอดสูญ ญากาศใช้จส เตอ หลอดทรานซิ าน หลอดทรานซิส เตอ แม่เ หล็ก ในการเก็บ ข้อ มูล
  • 11. • เป็นคอมพิวเตอร์ทใช้ทรานซิสเตอร์ ี่ โดยมีแกนเฟอร์ไรท์เป็นหน่วยความ จำา มีอุปกรณ์เก็บข้อมูลสำารองในรูป ของสือบันทึกแม่เหล็ก เช่น จานแม่ ่ เหล็ก ส่วนทางด้านซอฟต์แวร์ก็มี การพัฒนาดีขึ้น โดยสามารถเขียน โปรแกรมด้วยภาษาระดับสูงซึ่งเป็น ภาษาทีเขียนเป็นประโยคทีคน ่ ่ สามารถเข้าใจได้ เช่น ภาษาฟอร์ แทน ภาษาโคบอล เป็นต้น ภาษา
  • 12. •ยุค ที่ 3 (ค.ศ. 2507 – 2512)ได้มีการนำา แผงวงจรรวม (IC หรือ ในยุคที่ 3 เป็นยุคของอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ที่มี การเติบโตมาก integrated circuits) ซึ่งประกอบด้วย ทรานซิสเตอร์และวงจรไฟฟ้าที่รวมอยู่บนแผ่นซิลิ กอนเล็ก ๆ มาแทนการประกอบแผ่นวงจรพิมพ์ลาย ทำาให้เวลาการทำางานของคอมพิวเตอร์ลดลงอยู่ใน หน่วยหนึ่งส่วนพันล้านวินาที นอกจากนี้ มินิ คอมพิวเตอร์ได้ถือกำาเนิดขึ้นในปี ค.ศ.1965 คือ เครื่อง PDP-8 ของ Digital Equipment Corportion (DEC) ซึ่งต่อมาก็มีการใช้มินิ
  • 13. IC : Integrated Circuit IC : Integrated Circuit
  • 14.
  • 16. • ยุค ที่ 4 (ค.ศ.2513 – ปัจ จุบ น ) ั • เป็น ยุค ของคอมพิว เตอร์ท ี่ใ ช้ว งจรรวม ความจุส ง มาก(Very Large Scale ู Integration : VLSI) เช่น ไมโคร โพรเซสเซอร์ท ี่บ รรจุท รานซิส เตอร์น ับ หมื่น นับ แสนตัว ทำา ให้ข นาดเครื่อ ง คอมพิว เตอร์ม ีข นาดเล็ก ลงสามารถตั้ง บน โต๊ะ ในสำา นัก งานหรือ พกพาเหมือ น กระเป๋า หิ้ว ไปในที่ต ่า ง ๆ ได้ ขณะเดีย วกัน ระบบซอฟต์แ วร์ก ็ไ ด้พ ัฒ นาขีด ความ สามารถสูง ขึ้น มาก มีโ ปรแกรมสำา เร็จ ให้
  • 17. Microprocessor – VLSI (Very Large Scale Integration)
  • 18.
  • 21. แบ่ง ตามสมรรถนะ แบ่ง ตามสมรรถนะ ขนาดและราคา ขนาดและราคา 1.ซูเ ปอร์ค อมพิว เตอร์ 2.เมนเฟรม คอมพิว เตอร์ 3.มิน ิค อมพิว เตอร์ 4.เวิร ค สเตชัน ์
  • 22. 1. ซูเ ปอร์ค อมพิว เตอร์ (Super Compuer)
  • 23. • เป็นคอมพิวเตอร์ทมขนาดใหญ่ทสุด รุ่นแรกสร้างในปี ี่ ี ี่ ค.ศ. 1960 ทีองค์การทหารของสหรัฐอเมริกา สร้าง ่ สามารถประมวลผลได้กว่า 100 ล้านคำาสั่งต่อวินาที จึง ทำาให้ทำางานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง มีราคา แพงทีสุด เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ทเหมาะกับงาน ่ ี่ คำานวณที่ต้องคำานวณตัวเลขจำานวนมหาศาลให้เสร็จ ภายในระยะเวลาอันสั้น โดยต้องอยู่ในห้องทีมการ ่ ี ควบคุมอุณหภูมและปราศจากฝุ่นละออง มักใช้กับ ิ องค์กรทีมขนาดใหญ่เท่านัน เนืองจากสามารถรองรับ ่ ี ้ ่ การใช้งานของผู้ใช้จำานวนมากพร้อม ๆ กันได้ เรียกว่า มัลติโปรเซสซิ่ง (Multiprocessing) อันเป็นการใช้ หน่วยประมวลผลหลายตัว เพือให้คอมพิวเตอร์สามารถ ่ ทำางานหลายงานพร้อม ๆ กันได้ จึงนิยมใช้กับงานที่ การคำานวณทีซับซ้อน เช่น การพยากรณ์อากาศ การ ่ ทดสอบทางอวกาศ การคำานวณทางวิทยาศาสตร์ การบิน อุตสาหกรรมนำ้ามัน ตลอดจนการวิจัยในห้อง
  • 25. • เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่มความเร็วในการ ี ประมวลผลสูงรองลงมาจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ต้อง อยู่ในห้องทีควบคุมอุณหภูมและปราศจากฝุ่นละออง ่ ิ และได้รับการพัฒนาให้มหน่วยประมวลผลหลาย ี หน่วยทำางานพร้อม ๆ กันเช่นเดียวกับซูเปอร์ คอมพิวเตอร์ แต่มจำานวนหน่วยประมวลผลทีน้อยกว่า ี ่ จึงทำาให้สามารถประมวลผลคำาสั่งได้หลายสิบล้านคำา สั่งต่อวินาที ระบบคอมพิวเตอร์ของเครื่องเมนเฟรม ส่วนมากจะมีระบบคอมพิวเตอร์ยอย ๆ ประกอบอยู่ ่ ด้วย เพือช่วยในการทำางานบางประเภทให้กับเครื่อง ่ หลัก มีราคาแพงมาก (แต่น้อยกว่าซูเปอร์ คอมพิวเตอร์) เหมาะกับงานทีมข้อมูลทีมปริมาณมาก ่ ี ่ ี ต้องประมวลผลพร้อมกันโดยผู้ใช้นับพันคน (Multi- user) ใช้กับองค์กรใหญ่ ๆ ทัวไป เช่น งานด้าน ่ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์ การควบคุม
  • 26. 3. มิน ิค อมพิว เตอร์ (Minicompuer)
  • 27. • เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ทมีขนาดกลางที่มี ี่ ประสิทธิภาพในการทำางานน้อยกว่าเมนเฟรมแต่ สูงกว่าไมโครคอมพิวเตอร์ สามารถรองรับการ ทำางานจากผูใช้หลายร้อยคน (Multi-user) ในการ ้ ทำางานที่แตกต่างกัน (Multi Programming) เช่นเดียว กับเครื่องเมนเฟรม แต่สิ่งทีแตกต่างกันระหว่าง ่ เครื่องเมนเฟรมและเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ คือ ความเร็วในการทำางาน เนื่องจากมินิคอมพิวเตอร์ ทำางานได้ช้ากว่า และควบคุมผู้ใช้งานต่าง ๆ ใน จำานวนทีน้อยกว่า รวมทั้งสื่อที่เก็บข้อมูลมีความ ่ จุนอยกว่าเมนเฟรม จึงเหมาะกับองค์กรขนาด ้ กลาง เพราะมีราคาถูกกว่าเครื่องเมนเฟรมมาก ทำางานเฉพาะด้าน เช่น การคำานวณทางด้าน วิศวกรรม การจองห้องพักของโรงแรม การ ทำางานด้านบัญชีขององค์การธุรกิจ เป็นต้น ใน
  • 28. 4. เวิร ค สเตชัน ์ คอมพิว เตอร์ (Workstation Compuer)
  • 29. • เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ ทีสนับสนุนการ ่ ทำางานของคอมพิว เตอร์เ ครือ ข่า ย ซึ่งใช้ในการ จัดสรรและใช้ทรัพยากรร่วมกัน เช่น แฟ้มข้อมูล โปรแกรมประยุกต์ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เช่น เครื่องพิมพ์และอุปกรณ์อื่น ๆ โดยการเชื่อมโยง กับเทอร์มนัล (Terminal) หลาย ๆ เครื่อง อีกทังได้ ิ ้ ถูกออกแบบมาให้มความสามารถในการคำานวณ ี ด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม หรืองานอื่น ๆ ที่เน้น การแสดงผลด้านกราฟิก เช่น การนำามาช่วย ออกแบบภาพกราฟิกทีมความละเอียดสูง ทำาให้ ่ ี เวิร์คสเตชันใช้หน่วยประมวลผลที่มประสิทธิภาพสูง ี และมีหน่วยเก็บข้อมูลสำารองจำานวนมากด้วย ผู้ใช้ บางกลุ่มจะเรียกเครื่องระดับเวิร์คสเตชันนีว่า ซู ้ เปอร์ไ มโคร (Supermicro) เพราะถูกออกแบบให้ ใช้งานแบบตั้งโต๊ะ แต่ชิปที่ใช้ทำางานนันแตกต่าง ้ กันมาก เนืองจากเวิร์คสเตชันส่วนมากใช้ชิปทีลด ่ ่ จำานวนคำาสั่งทีสามารถใช้สั่งงานให้เหลือเฉพาะที่ ่
  • 31. • เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ราคาถูกสามารถ เรียกได้อีกอย่างหนึงว่า เครื่อ งคอมพิว เตอร์ส ว น ่ ่ บุค คล (Personal Computer หรือ PC) มีการพัฒนา ขึ้นในปี ค.ศ. 1975 ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอันมาก เมือ IBM ได้สร้างเครื่อง IBM PC ออกมา ซึ่งความ ่ แตกต่างระหว่างเวิร์คสเตชันคอมพิวเตอร์ และ ไมโครคอมพิวเตอร์ได้ลดน้อยลงเรื่อย ๆ เนื่องจาก เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ระดับสูงในปัจจุบันมี ประสิทธิภาพ และมีความเร็วในการแสดงผลที่ดกว่า ี เวิร์คสเตชันคอมพิวเตอร์มาก สามารถใช้งานโดย ใช้คนเดียว (Stand-alone) หรือเชื่อมต่อเป็นเครือข่าย เพื่อติดต่อสื่อสารกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นได้ จาก การทีเทคโนโลยีที่ก้าวนำาสมัยทำาให้ PC สามารถ ่ เชื่อมโยงเข้ากับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตติดต่อ สื่อสารกับคนอื่นได้ทวโลก เหมาะกับงานทัวไป ั่ ่ เช่น การประมวลผลคำา (Word Processing) การ คำานวณ (Spreadsheet) การบัญชี (Accounting) จัดทำา
  • 32. ไมโคร คอมพิว เตอร์ มีร ูป ร่า งต่า งๆ กัน ไปน่ะ ครับ Desktop Computer / P Notebook Computer Plam PDA Pocker PC
  • 33. องค์ป ระกอบของ ระบบคอมพิว เตอร์ ว ฮาร์ด แวร์ ซอฟต์แ ฮาร์ด แวร์ ซอฟต์แ ว ร์ ร์ บุค ลากร บุค ลากร กระบวนกา กระบวนกา ข้อ มูล /สา ข้อ มูล /สา รทำา งาน รทำา งาน รสนเทศ รสนเทศ
  • 34. ประมวลผล ประมวลผล ของ ของ คอมพิว เตอร์ คอมพิว เตอร์
  • 35. 1.การประมวลผลส่ว น บุค คล (Personal ไมโครคอมพิวเตอร์ หรือคอมพิวเตอร์ Computing) ส่วนบุคคล (Personal Computer: PC) จะมีการประมวลผลโดยใช้เครื่อง คอมพิวเตอร์เครื่องเดียวที่เป็นอิสระจาก กัน เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะ ไม่สามารถติดต่อสือสาร เชื่อมโยงข้อมูล ่ ร่วมกันได้ ซึ่งหากต้องการใช้ข้อมูลร่วม กันจะต้องคัดลอกไปยังหน่วยความจำา สำารอง เช่น แผ่นดิสก์ หรือ handy
  • 37. 3.การประมวลผล แบบกระจาย (Distributed Client Client Computing) Client Server Server Client
  • 38. • เมื่อมีการใช้งานคอมพิวเตอร์ใน องค์กรทีมีขนาดใหญ่ขึ้น อาจมีการ ่ ขยายสาขาออกไป ทำาให้มีระบบ การทำางานที่มขนาดใหญ่ จึงมี ี การนำาการประมวลผลแบบกระจาย จากศูนย์กลางมาใช้ เพือชดเชยข้อ ่ จำากัดของการประมวลแบบรวมศูนย์ ที่คอนข้างล่าช้า ส่งผลให้สามารถ ่ จัดสรรทรัพยากร เพื่อกระจายและ แจกจ่ายการใช้งานข้อมูลต่าง ๆ ร่วมกันได้ทวทังองค์กรและรวดเร็ว ั่ ้
  • 39. คอมพิว เตอร์ ความจำา (Storage) ความเร็ว (Speed) การปฏิบ ัต ิง าน อัต โนมัต ิ (Self Action)
  • 41. ความเร็ว ความสามารถในการ (Speed)อ มูล ประมวลผลข้ (Processing Speed) ความถี่ (Frequency) ุด ภายในเวลาที่ส ั้น ที่ส Hz (Hertz = Cycle/Second
  • 42. มีค วามเร็ว ในการ ประมวลผล 2.5 GHz หมายความว่า ประมวลผลได้ 2,500 ล้า นคำา สั่ง ใน 1 วิน าที
  • 43. การปฏิบ ัต ง าน ิ เป็น ความสามารถของ เครื่อ งคอมพิว เตอร์ ในการประมวลผลข้อ มูล ตามลำา ดับ คำา สัง่ ได้อ ย่า งถูก ต้อ งและต่อ
  • 44. ความน่า เชือ ่ ถือ (Sure) การประมวลผลทีส ่ง ผลให้ ่ เกิด ผลลัพ ธ์ท ี่ถ ก ต้อ ง ู GIGO - Garbage In Garbage Out ใช้แ ทนความน่า เชื่อ ถือ ของคอมพิว เตอร์
  • 45. ข้อ จำา กัด ของ คอมพิว เตอร์ 1.การวางระบบ คอมพิว เตอร์ต ้อ งใช้ เวลานานมาก และค่า ใช้จ ่า ยสูง 2.การรบกวนระบบงาน ปกติ