More Related Content
Similar to ธรรมภาคปฏิบัติ ๑ รหัส ๐๐๐ ๑๕๑ (20)
More from วัดดอนทอง กาฬสินธุ์ (20)
ธรรมภาคปฏิบัติ ๑ รหัส ๐๐๐ ๑๕๑
- 1. ธรรมภาคปฏิบัติ ๑ รหัสธรรมภาคปฏิบัติ ๑ รหัส
๐๐๐ ๑๕๑๐๐๐ ๑๕๑
บรรยายโดยบรรยายโดย
พระมหาธานินทร์ อาทิตวโรพระมหาธานินทร์ อาทิตวโร
นน..ธธ..เอกเอก,, ปป..ธธ..๘๘,, พธพธ..บบ. (. (อังกฤษอังกฤษ),), พธพธ..มม..
((บาลีบาลี),), พธพธ..ดด. (. (พระพุทธศาสนาพระพุทธศาสนา))
- 3. สมถกรรมฐาน ไม่ใช่ทางนำาให้พ้นสมถกรรมฐาน ไม่ใช่ทางนำาให้พ้น
ทุกข์ แต่เป็นฐานให้ไปสู่ความพ้นทุกข์ แต่เป็นฐานให้ไปสู่ความพ้น
ทุกข์ได้ คืออยู่ครึ่งทางของพระทุกข์ได้ คืออยู่ครึ่งทางของพระ
นิพพาน เพราะได้สิกขา ๒ ข้อ คือนิพพาน เพราะได้สิกขา ๒ ข้อ คือ
ศีล สมาธิ ยังไม่ถึงปัญญาศีล สมาธิ ยังไม่ถึงปัญญา
- 5. วิปัสสนากรรมฐานวิปัสสนากรรมฐาน
ทรงค้นพบทางสายกลาง มัชฌิมาปฏิปทา คือทรงค้นพบทางสายกลาง มัชฌิมาปฏิปทา คือ
อริยมรรคมีองค์ ๘ ประกอบด้วยอริยมรรคมีองค์ ๘ ประกอบด้วย
สัมมาทิฏฐิสัมมาทิฏฐิ ((เห็นชอบเห็นชอบ))
สัมมาสังกัปปะสัมมาสังกัปปะ ((ดำาริชอบดำาริชอบ))
สัมมาวาจาสัมมาวาจา ((วาจาชอบวาจาชอบ))
สัมมากัมมันตะสัมมากัมมันตะ ((การงานชอบการงานชอบ))
สัมมาอาชีวะสัมมาอาชีวะ ((เลี้ยงชีพชอบเลี้ยงชีพชอบ))
สัมมาวายามะสัมมาวายามะ ((ความเพียรชอบความเพียรชอบ))
สัมมาสติสัมมาสติ ((ระลึกชอบระลึกชอบ))
สัมมาสมาธิสัมมาสมาธิ ((ตั้งใจมั่นชอบตั้งใจมั่นชอบ))
- 7. จิต กำาหนดรู้จิต อาการของจิต เช่นจิต กำาหนดรู้จิต อาการของจิต เช่น
ชอบใจ ไม่ชอบใจ จิตมีราคะ จิตชอบใจ ไม่ชอบใจ จิตมีราคะ จิต
ปราศจากราคะ เป็นต้น เรียกว่า จิตปราศจากราคะ เป็นต้น เรียกว่า จิต
ตานุปัสสนาตานุปัสสนา
ธรรม กำาหนดรู้สภาวธรรมต่างๆ มีธรรม กำาหนดรู้สภาวธรรมต่างๆ มี
ขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ นิวรณ์ ๕ขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ นิวรณ์ ๕
เป็นต้น เรียกว่า ธัมมานุปัสสนาเป็นต้น เรียกว่า ธัมมานุปัสสนา
ที่มา ทีที่มา ที..มม. (. (ไทยไทย)) ๑๐๑๐//๓๗๒๓๗๒--๔๐๕๔๐๕//๓๐๑๓๐๑--๓๔๐๓๔๐,,
- 12. วิธีปฏิบัติวิธีปฏิบัติ
๑๑)) วิธีปฏิบัติขณะนั่งวิธีปฏิบัติขณะนั่ง
กำาหนดดูลมหายใจเข้ากำาหนดดูลมหายใจเข้า -- ออก พร้อมออก พร้อม
กับบริกรรมว่า พุทโธกับบริกรรมว่า พุทโธ
หายใจเข้า กำาหนดว่า พุทหายใจเข้า กำาหนดว่า พุท
หายใจออก กำาหนดว่า โธหายใจออก กำาหนดว่า โธ
๒๒)) วิธีปฏิบัติขณะเดินวิธีปฏิบัติขณะเดิน
การเดินจงกรม กำาหนดว่า พุทโธการเดินจงกรม กำาหนดว่า พุทโธ
ก้าวเท้าขวา กำาหนดว่า พุทก้าวเท้าขวา กำาหนดว่า พุท
- 13. กรรมฐานสายพองกรรมฐานสายพอง -- ยุบยุบ
กรรมฐานสายนี้มีศูนย์กลางอยู่ที่วัดกรรมฐานสายนี้มีศูนย์กลางอยู่ที่วัด
มหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ คณะ ๕ ท่าพระมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ คณะ ๕ ท่าพระ
จันทร์ กรุงเทพมหานคร การสอนจันทร์ กรุงเทพมหานคร การสอน
กรรมฐานสายนี้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่กรรมฐานสายนี้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่
หลายนับตั้งแต่ปี พหลายนับตั้งแต่ปี พ..ศศ.. ๒๔๙๖ พระ๒๔๙๖ พระ
อาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ คือ พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ คือ พระ
ธรรมธีรราชมหามุนีธรรมธีรราชมหามุนี ((โชดก ญาณสิทฺธิโชดก ญาณสิทฺธิ
ปป..ธธ..๙๙))
–แนวการปฏิบัติของกรรมฐานแบบพอง –แนวการปฏิบัติของกรรมฐานแบบพอง
ยุบ เกิดขึ้นจากความดำาริของสมเด็จพระยุบ เกิดขึ้นจากความดำาริของสมเด็จพระ
- 14. ส่งพระมหาโชดก ญาณสิทฺธิ ไปศึกษาส่งพระมหาโชดก ญาณสิทฺธิ ไปศึกษา
แนววิธีปฏิบัติกรรมฐาน ณ นครย่างกุ้งแนววิธีปฏิบัติกรรมฐาน ณ นครย่างกุ้ง
ประเทศพม่า ณ สำานักสาสนยิตสา ซึ่งมีประเทศพม่า ณ สำานักสาสนยิตสา ซึ่งมี
พระโสภณมหาเถระพระโสภณมหาเถระ ((มหาสี สะยาดอมหาสี สะยาดอ))
เป็นเจ้าสำานัก ใช้เวลาศึกษา ๑ ปี เดินเป็นเจ้าสำานัก ใช้เวลาศึกษา ๑ ปี เดิน
ทางกลับปี พทางกลับปี พ..ศศ.. ๒๔๙๕ อาราธานาพระ๒๔๙๕ อาราธานาพระ
ภิกษุชาวพม่า ๒ รูปมาด้วย คือ พระภิกษุชาวพม่า ๒ รูปมาด้วย คือ พระ
อาสภะ กัมมัฏฐานาจริยะ และพระอินทวังอาสภะ กัมมัฏฐานาจริยะ และพระอินทวัง
สะ กัมมัฏฐานาจริยะสะ กัมมัฏฐานาจริยะ
- 16. ปี พปี พ..ศศ.. ๒๔๙๘ สมเด็จพระพุฒาจารย์๒๔๙๘ สมเด็จพระพุฒาจารย์
((สมณศักดิ์ที่พระพิมลธรรมสมณศักดิ์ที่พระพิมลธรรม)) ในฐานะในฐานะ
สังฆมนตรีว่าการองค์การปกครอง เสนอสังฆมนตรีว่าการองค์การปกครอง เสนอ
สังฆมนตรี จัดตั้งเป็นกองการวิปัสสนาธุระสังฆมนตรี จัดตั้งเป็นกองการวิปัสสนาธุระ
ขึ้นในคณะสงฆ์ไทย โดยมีสำานักงานกลางขึ้นในคณะสงฆ์ไทย โดยมีสำานักงานกลาง
อยู่ที่วัดมหาธาตุฯ คณะ ๕ โดยท่านเป็นผู้อยู่ที่วัดมหาธาตุฯ คณะ ๕ โดยท่านเป็นผู้
อำานวยการ พระอุดมวิชาญาณเถรอำานวยการ พระอุดมวิชาญาณเถร ((โชดกโชดก
ญาณสิทฺธิ สมณศักดิ์ในขณะนั้นญาณสิทฺธิ สมณศักดิ์ในขณะนั้น)) เป็นเป็น
อาจารย์ใหญ่อาจารย์ใหญ่
ปี พปี พ..ศศ.. ๒๕๒๔ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ใน๒๕๒๔ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ใน
- 18. ๒๒)) วิธีการปฏิบัติในท่าเดินวิธีการปฏิบัติในท่าเดิน
เมื่อปฏิบัติในท่านั่งพอสมควรแล้ว ถ้าเมื่อปฏิบัติในท่านั่งพอสมควรแล้ว ถ้า
จะเปลี่ยนอิริยาบถเป็นการเดิน ให้จะเปลี่ยนอิริยาบถเป็นการเดิน ให้
กำาหนดที่ต้นจิตก่อนว่า “กำาหนดที่ต้นจิตก่อนว่า “อยากเปลี่ยนอยากเปลี่ยน
หนอหนอ”” แล้วจึงค่อยๆ ลุกขึ้น ขณะเดินแล้วจึงค่อยๆ ลุกขึ้น ขณะเดิน
จงกรมให้กำาหนดดังนี้จงกรมให้กำาหนดดังนี้
ขณะก้าวเท้าขวา กำาหนดว่า ขวาย่างขณะก้าวเท้าขวา กำาหนดว่า ขวาย่าง
หนอหนอ
ขณะก้าวเท้าซ้าย กำาหนดว่า ซ้ายขณะก้าวเท้าซ้าย กำาหนดว่า ซ้าย
- 20. สันตุสสะโก จะ สุภะโร จะสันตุสสะโก จะ สุภะโร จะ
อัปปะกิจโจ จะ สัลละหุกะวุอัปปะกิจโจ จะ สัลละหุกะวุ
ตติตติ
สันตินทริโย จะ นิปะโก จะสันตินทริโย จะ นิปะโก จะ
อัปปะคัพโภ กุเลสุ อะนะนุอัปปะคัพโภ กุเลสุ อะนะนุ
คิทโธคิทโธ
- 21. นะ จะ ขุททัง สะมาจะเรนะ จะ ขุททัง สะมาจะเร
กิญจิกิญจิ
เยนะ วิญญู ปะเร อุปะวะเยนะ วิญญู ปะเร อุปะวะ
เทยยุงเทยยุง
สุขิโน วา เขมิโน โหนตุสุขิโน วา เขมิโน โหนตุ
สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตสัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัต
- 22. เย เกจิ ปาณะภูตัตถิเย เกจิ ปาณะภูตัตถิ
ตะสา วา ถาวะรา วา อะนะตะสา วา ถาวะรา วา อะนะ
วะเสสาวะเสสา
ทีฆา วา เย มหันตา วาทีฆา วา เย มหันตา วา
มัชฌิมา รัสสะกา อะณุกะถูมัชฌิมา รัสสะกา อะณุกะถู
ลาลา
- 23. ทิฏฐา วา เย จะ อะทิฏฐาทิฏฐา วา เย จะ อะทิฏฐา
เย จะ ทูเร วะสันติ อะวิทูเรเย จะ ทูเร วะสันติ อะวิทูเร
ภูตา วา สัมภะเวสี วาภูตา วา สัมภะเวสี วา
สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตสัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัต
ตาตา
- 24. นะ ปะโร ปะรัง นิกุพเพถะนะ ปะโร ปะรัง นิกุพเพถะ
นาติมัญเญถะ กัตถะจิ นังนาติมัญเญถะ กัตถะจิ นัง
กิญจิกิญจิ
พฺยาโรสะนา ปะฏีฆะสัญญาพฺยาโรสะนา ปะฏีฆะสัญญา
นาญญะมัญญัสสะ ทุกขะมิจนาญญะมัญญัสสะ ทุกขะมิจ
เฉยยะเฉยยะ
- 25. มาตา ยะถา นิยัง ปุตตังมาตา ยะถา นิยัง ปุตตัง
อายุสา เอกะปุตตะมะนุรักอายุสา เอกะปุตตะมะนุรัก
เขเข
เอวัมปิ สัพพะภูเตสุเอวัมปิ สัพพะภูเตสุ
มานะสัมภาวะเย อะปะริมานะสัมภาวะเย อะปะริ
มาณังมาณัง
- 27. ติฏฐัญจะรัง นิสินโน วาติฏฐัญจะรัง นิสินโน วา
สะยาโน วา ยาวะ ตัสสะ วิสะยาโน วา ยาวะ ตัสสะ วิ
คะตะมิทโธคะตะมิทโธ
เอตัง สะติง อะธิฏเฐยยะเอตัง สะติง อะธิฏเฐยยะ
พรัหมะเมตัง วิหารัง อิทะพรัหมะเมตัง วิหารัง อิทะ
มาหุมาหุ
- 28. ทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สีละทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สีละ
วาวา
ทัสสะเนนะ สัมปันโนทัสสะเนนะ สัมปันโน
กาเมสุ วิเนยยะ เคทังกาเมสุ วิเนยยะ เคทัง
นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุ
นะเรตีตินะเรตีติ..