Contenu connexe Similaire à Digital e book Similaire à Digital e book (20) Plus de Kobwit Piriyawat (20) Digital e book1. การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยี
โรงเรียนมาตรฐานสากล
Digital Literacy
World-Class
Standard
School
สำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ
2. การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยี
โรงเรียนมาตรฐานสากล
Digital Literacy
World-Class
Standard
School
สำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ
3. การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
Digital Literacy World-Class Standard School
ปีที่พิมพ์ พุทธศักราช 2553
จำนวนพิมพ์ 3,000 เล่ม
ลิขสิทธิ์เป็นของ สำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ
ISBN 978-616-202-277-7
พิมพ์ท ี่ โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด
79 ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
โทร. 0-2561-4567 โทรสาร 0-2579-5101
นายโชคดี ออสุวรรณ ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา
4. สาร
จากเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ความเจริญก้าวหน้าในความเป็นอยู่ของมนุษย์ได้มีการพัฒนาและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
โดยนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตปัจจุบันของมนุษย์เพิ่มมากขึ้น อาจกล่าวว่าโลกปัจจุบันเป็นโลก
ของเทคโนโลยี เพราะมนุษย์ได้นำความรู้ทางเทคโนโลยีมาใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งด้านการใช้ชีวิตและ
การปฏิบัติหน้าที่การงาน นอกจากนี้เทคโนโลยียังนำไปสู่การค้นพบความรู้ใหม่ๆ การประดิษฐ์ คิดค้น
และสร้างสรรค์ผลงาน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ อาทิ ด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง
และการศึกษา ด้วยความสำคัญดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงได้ดำเนิน
โครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล (World-Class Standard School) เพื่อนำมาใช้เป็นนวัตกรรมการจัด
การศึกษา และเป็นมาตรการเร่งด่วนในการยกระดับการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพมาตรฐานเทียบเท่า
สากล ผู้เรียนมีศักยภาพและความสามารถทัดเทียมกับผู้เรียนนานาประเทศ
การใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอนของโรงเรียนมาตรฐานสากล มุ่งพัฒนากระบวนการเรียนรู้
เพื่อนำพาสังคมไทยสู่สังคมแห่งภูมิปัญญาและสนองต่อคุณภาพชีวิตโดยตรง การเรียนรู้เทคโนโลยีจะช่วย
ปรับปรุงคุณภาพการศึกษาในศตวรรษที่ 21 ปรับเปลี่ยนสังคมไทยไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ การประกัน
โอกาสของผู้เรียนให้เข้าถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิต และเชื่อมโยงสังคมไทยสู่สังคมโลก สนับสนุนความเป็น
พลโลกของคนรุ่นใหม่ สอดคล้องกับการปฏิรูปการศึกษาโดยการให้ผู้เรียนทุกคนมีโอกาสใช้เทคโนโลยี
เพื่อการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ พอเพียง และทั่วถึง ผู้เรียนมีความรู้ด้านเทคโนโลยีในระดับพื้นฐาน
เพื่อสามารถเข้าถึง ค้นคว้า รวบรวม และประมวลผลจากแหล่งความรู้ต่างๆ นำไปสร้างองค์ความรู้ใหม่
ตลอดจนรู้ จั ก บู ร ณาการความรู้ ด้ า นเทคโนโลยี แ ละการจั ด การสารสนเทศ ผู้ เ รี ย นมี ทั ศ นคติ ที่ ดี แ ละ
พัฒนาจริยธรรมเชิงบวกในการใช้เทคโนโลยี เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต และพัฒนา
กระบวนการคิดวิเคราะห์อย่างยั่งยืน
เอกสาร “การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล : Digital Literacy World-Class
Standard School” ฉบับนี้ จะช่วยให้ครูผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจ และมีทักษะการใช้เทคโนโลยีในการ
จัดการเรียนการสอน มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล ส่งเสริมผู้เรียนให้พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และสร้างสรรค์
ด้วยทรัพยากรทางการเรียนรู้เทคโนโลยีอย่างกว้างขวางต่อไป ขอขอบคุณผู้มีส่วนร่วมในการจัดทำเอกสาร
ฉบับนี้ ไว้ ณ ที่นี้
(นายชินภัทร ภูมิรัตน)
เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
5. สารบัญ
ตอนที่
1
1
การเรียนรู้ดิจิทัล
สู่โรงเรียนมาตรฐานสากล
ตอนที่
2
17
การใช้โปรแกรมสำเร็จรูป
และเครือข่ายสังคมเพื่อการเรียนรู้
ตอนที่
3
59
แหล่งเรียนรู้
บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
6. ตอนที่
1
การเรียนรู้ดิจิทัล
สู่โรงเรียนมาตรฐานสากล
7. 1
การเรียนรู้ดิจิทัล
(Digital Literacy)
ก
ารเรี ย นรู้ ดิ จิ ทั ล คื อ การผนวกกั น ของทั ก ษะ
ความรู้และความเข้าใจที่ผู้เรียนต้องเรียนรู้เพื่อที่
จะมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่และมีความปลอดภัยใน
โลกยุคดิจิทัลมากขึ้น ทักษะความรู้และความเข้าใจนี้เป็น
นอกจากนี้ยังช่วยให้ออนไลน์อย่างปลอดภัยหากผู้เรียน
มีความสามารถในการตัดสินใจที่เหมาะสมและมีข้อมูล
เ กี่ ย ว กั บ ก า ร ใ ช้ เ ท ค โ น โ ล ยี ที่ จ ะ ส่ ง ผ ล ก ร ะ ท บ ต่ อ
การศึกษาตลอดชีวิต รวมถึงชีวิตการทำงานในอนาคต
กุ ญ แจสำคั ญ ที่ ค วรเป็ น องค์ ป ระกอบของหลั ก สู ต ร
การศึ ก ษาขั้ น พื้ น ฐานทั้ ง ระดั บ ประถมศึ ก ษาและ การเรียนรู้ดิจิทัลคืออะไร
มัธยมศึกษา และควรจะผนึกผสานอยู่ในการเรียนการสอน
‘การรู้ ’ (Literacy) ในแง่ ดั้ ง เดิ ม หมายถึ ง
ของทุกรายวิชาทุกระดับชั้น ความสามารถอ่ า นและเขี ย นในภาษาที่ ใ ช้ ร่ ว มกั น
ของวัฒนธรรม ส่วนการรู้ดิจิทัล หมายถึงการอ่านและ
การเรียนรู้ดิจิทัล มีความสำคัญอย่างไร การเขียนข้อความดิจิทัล เช่น สามารถ ‘อ่าน’ เว็บไซต์
เทคโนโลยีให้โอกาสในการมีส่วนร่วมในชนิดใหม่ โดยผ่านการเชื่อมโยงหลายมิติ และ ‘การเขียน’ โดยการ
ของการเรียนรู้ ชุมชน สังคม และกิจกรรมการทำงาน อั ป โหลดภาพถ่ า ยดิ จิ ทั ล เพื่ อ เว็ บ ไซต์ เ ครื อ ข่ า ยสั ง คม
ทุ ก คนจะต้ อ งมี ค วามรู้ ดิ จิ ทั ล เพื่ อ ใช้ ป ระโยชน์ สู ง สุ ด
ทักษะการทำงานที่จำเป็นในการดำเนินการและการสื่อสาร
จากโอกาสเหล่ า นี้ หลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าในขณะที่ ด้วยเทคโนโลยีและสื่อ นอกจากนี้ยังหมายถึงความรู้เกี่ยวกับ
เยาวชนคนหนุ่มสาว รู้สึกมั่นใจเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีนี้ ความสำคั ญ ของเทคโนโลยี แ ละสื่ อ ที่ มี ผ ลกระทบ แต่ ที่
ไม่ ไ ด้ เ ป็ น สิ่ ง บ่ ง บอกถึ ง สมรรถนะหรื อ ความสามารถ
สำคัญกว่านั้น คือความสามารถที่จะวิเคราะห์และประเมิน
ที่แท้จริง ในด้านทักษะการคิดวิจารณญาณ เช่น ความ ความรู้ที่มีอยู่ในเว็บไซต์
ตระหนั ก ถึ ง กลยุ ท ธ์ ท างการค้ า หรื อ อคติ จ ากสื่ อ ต่ า งๆ
การเรี ย นการสอนและการเรี ย นรู้ ไ ม่ ส ามารถ
ตลอดจนความปลอดภัยในการใช้งาน
ตี ก รอบอยู่ ใ นกิ จ กรรมที่ ใ ช้ ก ระดาษและปากกาเท่ า นั้ น
นอกจากนี้ ก ารเรี ย นรู้ ดิ จิ ทั ล จะมี ผ ลสำคั ญ
ซึ่งหมายความว่าผู้เรียนและครูผู้สอนจำเป็นต้องรู้สึกได้ว่า
ต่อสังคมโดยรวม ต่อความเสมอภาคในการเข้าถึงข้อมูล เทคโนโลยี ส ามารถนำมาใช้ ใ นทุ ก วิ ช าและเข้ า ใจว่ า
การบริการและการจ้างงาน การเข้ากลุ่มทางสังคม และ เทคโนโลยี ดั ง กล่ า วส่ ง ผลกระทบต่ อ สิ่ ง ที่ รู้ ใ นเรื่ อ งต่ า งๆ
โอกาสในการเรียนรู้เพิ่มเติม ตลอดจนอาจส่งผลกระทบ เทคโนโลยี ก ำลั ง เปลี่ ย นแปลงวิ ธี ก ารที่ เ ราศึ ก ษาค้ น คว้ า
ต่อการขยายโอกาสทางธุรกิจ เช่น ภูมิศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และวิทยาศาสตร์ ระบบ
การพัฒนาการเรียนรู้ดิจิทัลเป็นเรื่องเกี่ยวกับ จีพีเอส เรื่องเล่าออนไลน์ แบบจำลองทางฟิสิกส์ และการใช้
การเปลี่ ย นแปลงธรรมชาติ ข องความรู้ ค วามเข้ า ใจ
ทัศนภาพ โปรแกรมการทำแผนที่อาจส่งผลกระทบต่อ
ครูทุกคนสามารถนำเสนอมุมมองที่แตกต่างกันในเรื่องวิธีการ การเรียนภูมิศาสตร์การศึกษาวิทยาศาสตร์อาจรับรู้วิธีการ
ที่เทคโนโลยีสามารถเพิ่มคุณค่าในการเรียนของผู้เรียน โต้ตอบด้วยภาพ
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
8. ก า ร เ รี ย น รู้ ดิ จิ ทั ล สู่ โ ร ง เ รี ย น ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล
การรู้ดิจิทัลในรายวิชาต่างๆ ไม่จำเป็นต้องนำมา เข้ า ใจ (Understand) คื อ ความสามารถที่ จ ะเข้ า ใจ
ซึ่ ง การเปลี่ ย นแปลงการสอนอย่ า งสิ้ น เชิ ง ทั ก ษะต่ า งๆ
บริ บ ทที่ เ กี่ ย วข้ อ ง และประเมิ น สื่ อ ดิ จิ ทั ล ตระหนั ก ถึ ง
ที่เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นความรู้แบบดิจิทัลโดยเฉพาะ ความสำคัญของการประเมินผลที่สำคัญในการทำความ
อย่ า งยิ่ ง การตั้ ง คำถามที่ ส ำคั ญ ทั ก ษะของการศึ ก ษา
เข้าใจดิจิทัลเนื้อหาของสื่อ และการประยุกต์ใช้สามารถ
ที่มีประสิทธิภาพและการวิเคราะห์ความผูกพันของผู้เรียน สะท้อนให้เห็นถึงรูปร่างการเพิ่มหรือจัดการกับความรู้สึก
กั บ เนื้ อ หาวิ ช า จะยั ง คงช่ ว ยให้ ค รู ห าวิ ธี ก ารสร้ า งสรรค์
ความเชื่อของเราและความรู้สึกเกี่ยวกับโลกรอบตัวเรา
ที่มีประสิทธิภาพและมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ตาม ความเข้ า ใจความสำคั ญ ของสื่ อ ดิ จิ ทั ล ที่ ช่ ว ยให้ บุ ค คล
หลักสูตร เก็บเกี่ยวผลประโยชน์และลดความเสี่ยง การมีส่วนร่วม
การรู้ ดิ จิ ทั ล มี ค วามหมายมากกว่ า ทั ก ษะด้ า นในสั ง คมเต็ ม รู ป แบบดิ จิ ทั ล ทั ก ษะชุ ด นี้ ยั ง รวมถึ ง
เทคโนโลยีอย่างง่าย ความเข้าใจรวมถึงทักษะที่ซับซ้อน การพัฒนาทักษะการจัดการสารสนเทศและการแข็งค่า
มากขึ้นขององค์ประกอบและการวิเคราะห์ ความสามารถ ของสิ ท ธิ ค นและความรั บ ผิ ด ชอบในการไปถึ ง ทรั พ ย์ สิ น
ในการสร้างความหลากหลายของเนื้อหาที่มีการใช้เครื่องมือ ทางปัญญา ในเศรษฐกิจความรู้ ชาวแคนาดาจำเป็นต้องรู้วิธี
ดิจิทัลต่างๆ ทักษะและความรู้ที่จะใช้ความหลากหลาย การหาประเมินผลและมีประสิทธิภาพใช้ข้อมูลเพื่อการ
ของการใช้งานซอฟต์แวร์สื่อดิจิทัลและอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ สื่ อ สารการทำงานร่ ว มกั น และแก้ ปั ญ หาในชี วิ ต ส่ ว นตั ว
เช่ น คอมพิ ว เตอร์ โทรศั พ ท์ มื อ ถื อ และเทคโนโลยี
และเป็นมืออาชีพของพวกเขา
อินเทอร์เน็ตความสามารถในการเข้าใจสื่อดิจิทัลเนื้อหา
การใช้ ง านและความรู้ ค วามสามารถในการสร้ า งด้ ว ย สร้างสรรค์ (Create) ความสามารถในการสร้างเนื้อหา
เทคโนโลยีดิจิทัล และมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ การติ ด ต่ อ สื่ อ สารโดยใช้ ค วาม
หลากหลายของสื่ อ ดิ จิ ทั ล เป็ น เครื่ อ งมื อ การสร้ า งสื่ อ
รู้ ใช้ รู้ เ ข้ า ใจ รู้ ส ร้ า งสรรค์ เป็ น คำที่ แ สดง
ดิ จิ ทั ล มี ค วามหมายมากกว่ า ความสามารถในการใช้
ลักษณะความรู้สามารถดิจิทัล โปรแกรมประมวลผลหรือเขียนอีเมล์ รวมถึงความสามารถ
ในการปรั บ การสื่ อ สารกั บ สถานการณ์ แ ละผู้ รั บ สาร
ใช้ (Use) แสดงถึ ง ความคล่ อ งแคล่ ว ทางเทคนิ ค
การสร้ า งและติ ด ต่ อ สื่ อ สารโดยใช้ สื่ อ ผสม เช่ น ภาพ
ที่ จ ำเป็ น ในการใช้ กั บ คอมพิ ว เตอร์ แ ละอิ น เทอร์ เ น็ ต วีดิโอและเสียงประกอบอย่างมีประสิทธิภาพและมีความ
ชุ ด รู ป แบบพื้ น ฐานสำหรั บ การพั ฒ นาทั ก ษะทางเทคนิ ค รับผิดชอบ ประกอบกับเนื้อหาเว็บไซต์ที่ผู้เรียนสร้าง เช่น
ที่ จ ำเป็ น รวมถึ ง ความสามารถในการใช้ โ ปรแกรม บล็อกและเวทีสนทนา วีดิโอและภาพถ่ายร่วมกัน เล่นเกม
คอมพิวเตอร์ เช่น โปรแกรมประมวลผลคำ เว็บเบราเซอร์ ทางสั ง คม และรู ป แบบอื่ น ๆ ของสื่ อ สั ง คม แนวคิ ด นี
้
E-mail และการสื่ อ สารอื่ น ๆ เครื่ อ งมื อ ค้ น หาและ ยังตระหนักถึงสิ่งที่เป็นความรู้ในโลกดิจิทัลที่ไม่เพียงแต่
ฐานข้อมูลออนไลน์
สร้ า งความชำนาญทางด้ า นเทคโนโลยี เ ท่ า นั้ น แต่ ยั ง
คำนึงถึงจริยธรรม การปฏิบัติทางสังคมและการสะท้อน
สิ่งที่ฝังอยู่ในการเรียนรู้ การใช้เวลาว่าง และการใช้ชีวิต
ประจำวัน
Digital Literacy World-Class Standard School
9. การเรียนรู้ทักษะดิจิทัล
The
International
Society
for
Technology
เพื่อคงไว้ซึ่งความปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยี in Education (ISTE) ได้พัฒนามาตรฐานและตัวชี้วัด
ใหม่ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้เรียนทุกคนต้องรู้ทักษะดิจิทัล ที่ ส ะท้ อ นให้ เ ห็ น ถึ ง ความรู้ ดิ จิ ทั ล ที่ น อกเหนื อ จากความ
เข้าใจในการใช้งาน ได้แก่
‘การรู้ ดิ จิ ทั ล ’ (Digital Literacy) เกี่ ย วข้ อ งกั บ
● ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม
การรวมกันของทักษะต่อไปนี้
● การสื่อสารและการทำงานร่วมกัน
● ทั ก ษะด้ า นการทำงานของเทคโนโลยี :
● การวิจัยและความสามารถด้านสารสนเทศ
รู้เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ
● การคิ ด อย่ า งมี วิ จ ารณญาณ การแก้ ปั ญ หา
● การคิดเชิงวิเคราะห์ : ความสามารถในการ
และการตัดสินใจ
วิเคราะห์และประเมินข้อมูลดิจิทัล
● ความเป็นพลเมืองดิจิทัล
● ทักษะการทำงานร่วมกัน : รู้วิธีการกระทำ
มาตรฐานเหล่านี้สามารถนำมาใช้เป็นจุดเริ่มต้น
อย่างสมเหตุสมผล, ออนไลน์อย่างปลอดภัยและเหมาะสม
ในการกำหนดผลสำเร็ จ สู่ ก ารยกระดั บ เยาวชนไทยสู่
● การตระหนั ก รู้ ท างสั ง คม : เข้ า ใจว่ า จะใช้
มาตรฐานสากล
เทคโนโลยีด้วยวิธีใด กับใคร เมื่อใด
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
10. ก า ร เ รี ย น รู้ ดิ จิ ทั ล สู่ โ ร ง เ รี ย น ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล
2
การใช้อินเทอร์เน็ต
เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการเรียนรู้
เ
ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information
and Communication Technology หรือ ICT)
คือ การผสานเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ากับระบบ
สื่ อ สารโทรคมนาคมที่ ค รอบคลุ ม ระบบสื่ อ สาร ได้ แ ก่
“เทคโนโลยี ส ารสนเทศและการสื่ อ สาร
เพื่อการศึกษา”
คื อ การนำความก้ า วหน้ า ของเทคโนโลยี
สารสนเทศและการสื่อสารมาก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
วิทยุ โทรทัศน์ โทรสาร โทรศัพท์ เครื่องมือการสื่อสาร รูปแบบการเรียนรู้ของมนุษย์ โดยการนำระบบเครื่องมือ
อื่นๆ กับระบบคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ฐานข้อมูล และ สื่อสารต่างๆ เช่น ระบบโทรศัพท์ ระบบโทรทัศน์ เข้ากับ
บริการสารสนเทศ ตลอดจนระบบเครือข่ายโทรคมนาคม ระบบคอมพิวเตอร์ที่ตอบโต้กับผู้ใช้ ประกอบกับการใช้
จำนวนมากที่เชื่อมโยงติดต่อกันและใช้ร่วมกันได้ แหล่ ง ความรู้ ที่ ห ลากหลายจะทำให้ ผู้ ใ ช้ ส ามารถเรี ย นรู้
สิ่ ง ต่ า งๆ ตามความสนใจ นอกจากนี้ เ ทคโนโลยี
สารสนเทศและการสื่อสารยังมีศักยภาพในการลดข้อจำกัด
ด้านเวลาและระยะทาง ส่งผลให้การเปลี่ยนแปลงเรียนรู้
ข้ อ มู ล ข่ า วสารเกิ ด ขึ้ น ได้ ทุ ก เวลาทุ ก สถานที่ ก่ อ ให้ เ กิ ด
ประโยชน์ต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เทคโนโลยีการสื่อสาร (CT)
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)
สมรรถนะและการเรียนรู้ของผู้เรียน
Digital Literacy World-Class Standard School
11. การใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการเรียนการสอน สถานการณ์จำลอง (Simulations)
อิ น เทอร์ เ น็ ต เป็ น เครื อ ข่ า ย ICT ที่ เ ชื่ อ มโยง
เป็นเว็บไซต์ที่นำเสนอข้อมูลแบบมัลติมีเดีย
แผ่ ข ยายครอบคลุ ม ทั่ ว โลก เป็ น ทั้ ง สิ่ ง แวดล้ อ มและ
มีการเคลื่อนไหวทั้งภาพและเสียง และผู้เรียนสามารถ
เครื่ อ งมื อ สำคั ญ ในการพั ฒ นาผู้ เ รี ย นให้ มี ศั ก ยภาพเป็ น ตอบโต้ ไ ด้ เช่ น ห้ อ งทดลองเสมื อ นจริ ง ในวิ ช าต่ า งๆ
พลโลก การประยุ ก ต์ ใ ช้ อิ น เทอร์ เ น็ ต เพื่ อ การเรี ย น
(Virtual
Lab)
การสอน กระทำได้สองลักษณะดังนี้ บทเรียนและแบบทดสอบ
เป็ น เว็ บ ไซต์ ป ระเภทบทเรี ย นหรื อ แบบฝึ ก
1 แนวทางการประยุ ก ต์ ใ ช้ อิ น เทอร์ เ น็ ต ในด้ า น
นักเรียน
นักเรียนสามารถใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษา
ออนไลน์ ซึ่ ง มี ห ลายสาขาวิ ช า รวมทั้ ง แบบทดสอบ
ออนไลน์ที่มีทั้งการวัดผลสัมฤทธิ์ วัดความรู้ความสามารถ
วัดบุคลิกภาพและสติปัญญา
ค้นคว้าวิจัยการเข้าร่วมกิจกรรมเชิงปฏิสัมพันธ์ การเข้า นิทรรศการบนเว็บ
ร่วมโครงงานบนเว็บ หรือสร้างสรรค์ผลงานเผยแพร่ 3) โครงงานบนเว็บ (Web-Based Project)
1) การศึกษาค้นคว้า
ได้มีการจัดทำโครงงานในชั้นเรียนทั้งระยะสั้น
นั ก เรี ย นจะสามารถใช้ อิ น เทอร์ เ น็ ต เป็ น และระยะยาวเผยแพร่ บ นอิ น เทอร์ เ น็ ต ซึ่ ง นั ก เรี ย น
เครื่ อ งมื อ ในการสื บ ค้ น ศึ ก ษาวิ จั ย และจั ด ทำรายงาน จะเข้าไปมีส่วนร่วมได้จำนวนมาก และสามารถผนวกหรือ
เว็บไซต์ที่เป็นแหล่งทรัพยากร เพื่อการค้นคว้ามีมากมาย จัดเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ตามหลักสูตร
ซึ่งอาจจัดประเภทง่ายๆ ดังนี
้ เกี่ยวกับแหล่งรวบรวมโครงงานที่สำคัญ
● ห้องสมุดและแหล่งอ้างอิงทางการศึกษา 4) การสร้างสรรค์งาน
● แหล่งทัศนศึกษาทางอิเล็กทรอนิกส์ นั ก เรี ย นที่ เ ป็ น รายบุ ค คล เป็ น กลุ่ ม
● เอกสารตำราเรียน หรื อ ครู ที่ ด ำเนิ น การร่ ว มกั บ นั ก เรี ย นสามารถสร้ า งหรื อ
● ข้อมูลพื้นฐานและเหตุการณ์ปัจจุบัน จัดทำเนื้อหาสาระเป็นเว็บไซต์เผยแพร่แก่สาธารณชนได้
● การติ ด ต่ อ ผู้ รู้ แ ละผู้ เ ชี่ ย วชาญ มี แ หล่ ง
มีเว็บไซต์ลักษณะนี้หลายประเภท ได้แก่
ข้อมูลที่ให้บริการตอบคำถาม
● วารสาร หนังสือพิมพ์ของนักเรียน
2) กิ จ กรรมเชิ ง ปฏิ สั ม พั น ธ์ (Interactive
● ผลงาน นิทรรศการด้านศิลปะ และวรรณกรรม
Activities)
● ผลงานการศึกษาค้นคว้าเรื่องต่างๆ
มี เ ว็ บ ไซต์ จ ำนวนมากที่ เ ปิ ด ให้ มี กิ จ กรรม
● การท่องเที่ยวเสมือนจริง (Virtual Tours)
แบบโต้ตอบได้ระหว่างเว็บไซต์กับผู้ใช้ เช่น โปรแกรมสนทนา
● การสะสม (Collections)
เกมออนไลน์ ที่ ส ำคั ญ และเป็ น ประโยชน์ กั บ ผู้ เ รี ย น
● การสร้างโฮมเพจ
อาจจำแนกเว็บไซต์จำพวกนี้ได้ดังนี้
● การจัดทำ web log
ฯลฯ
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
12. ก า ร เ รี ย น รู้ ดิ จิ ทั ล สู่ โ ร ง เ รี ย น ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล
ประโยชน์สำหรับผู้เรียน 1) การติดต่อสื่อสาร
● นั ก เรี ย นได้ เ รี ย นรู้ จ ากการปฏิ บั ติ ใ น
ครูสามารถใช้อินเทอร์เน็ต เพื่อการติดต่อ
สภาพจริงมากขึ้น สื่ อ สารกั บ กลุ่ ม ครู ห รื อ ผู้ เ ชี่ ย วชาญในสาขาวิ ช าการที
่
● นั ก เรี ย นได้ พั ฒ นาทั ก ษะการคิ ด และ
เกี่ยวกับงานในหน้าที่หรือตามความสนใจ โดยใช้ E-mail
วิธีการเรียนรู้ หรือ List serve ตลอดจนสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ
● นั ก เรี ย นได้ พั ฒ นาทั ก ษะในโลกแห่ ง
องค์กรวิชาชีพ หรือกลุ่มสนใจใช้อินเทอร์เน็ต ซึ่งมีให้บริการ
ความเป็นจริง หลายเว็บไซต์ เช่น Global Schoolhouse, 21th Century
● เสริมสร้างพหุปัญญาตามศักยภาพของ
Teachers.Net
นักเรียน
2) การค้นคว้าวิจัย
● ค้นหาและใช้ประโยชน์จากแหล่งข้อมูล
ครู ส ามารถใช้ อิ น เทอร์ เ น็ ต เป็ น เครื่ อ งมื อ
ข่าวสารในวิชาที่เรียน สืบค้น ค้นคว้า วิจัย เพื่อการเตรียมการสอน การจัดหา
● ค้นหาข้อมูลความรู้ที่เป็นปัจจุบันทันสมัย สื่ อ นวั ต กรรมการเรี ย นการสอน โดยทั่ ว ไปเว็ บ ไซต์
● ได้ แ ก่ น สารความรู้ ที่ ลุ่ ม ลึ ก มากขึ้ น จาก
ลักษณะนี้อาจจำแนกประเภทได้เป็น
ผู้ เ ชี่ ย วชาญ เพราะเดิ ม ที นั ก เรี ย นมี โ อกาสจำกั ด อยู่ กั บ
● แผนการสอน
ความรู้ของครู ตำราเรียน และหนังสือในห้องสมุดที่มีไม่มาก
● สารสนเทศและข้ อ มู ล ความรู้ ส ำหรั บ
ไม่ เ พี ย งพอต่ อ การหาความรู้ ที่ ลุ่ ม ลึ ก เฉพาะเจาะจง
ชั้นเรียน
จากอินเทอร์เน็ต นักเรียนจะสื่อสารได้โดยตรงถึงอาจารย์
● แนวคิดและเทคนิคการจัดการเรียนการสอน
มหาวิทยาลัย ผู้เขียนตำรา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะผ่านอีเมล์
● เว็บไซต์ทางการศึกษา
● เรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งได้รอบด้านมากขึ้น
● เว็บไซต์เฉพาะวิชา
● มีทักษะทางสังคม โดยเรียนรู้ที่จะร่วมมือกัน
● เว็บไซต์อ้างอิงและห้องสมุด
ทำงานให้สำเร็จในกลุ่ม
● แหล่งทรัพยากรทางการศึกษา
● แลกเปลี่ ย นความคิ ด เห็ น มุ ม มองที่ ต่ า ง
● เว็บไซต์รวมผลงานวิจัย
วั ฒ นธรรม ซึ่ ง นอกจากจะทำให้ รั บ รู้ แ ละเข้ า ใจโลกที่
3) การสร้างงาน
กว้างขวางขึ้นแล้วยังได้เปิดสู่อำนาจแห่งความร่วมมือร่วมใจ
ครู ส ามารถใช้ อิ น เทอร์ เ น็ ต สร้ า งเว็ บ ไซต์
และความเข้าอกเข้าใจวัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน
เพื่อการจัดการเรียนการสอนของตนเอง นอกจากนี้ครูยัง
ใช้ประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เผยแพร่ผลงาน
2 แนวทางการประยุกต์ ใช้อินเทอร์เน็ตในด้าน แนวคิดกับเพื่อนร่วมวิชาชีพและผู้สนใจทั่วไป เช่น การใช้
ของครู
ครูสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้หลายวิธี เช่นเดียว
โปรแกรมการสื่อสาร การใช้ Blog เป็นต้น
อินเทอร์เน็ตได้ก่อให้เกิดนวัตกรรมการศึกษา
กั บ ที่ นั ก เรี ย นใช้ นอกจากนี้ ยั ง ใช้ เ พื่ อ ติ ด ต่ อ สื่ อ สารกั บ ทางไกล ในด้ า นสถาบั น การศึ ก ษาดิ จิ ทั ล (Digital
เพื่ อ นครู แ ละผู้ เ ชี่ ย วชาญจากทั่ ว โลก การค้ น หาแหล่ ง
Academy) โดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ทำให้ระยะทางไม่มี
สื่ อ วั ส ดุ อุ ป กรณ์ แผนการสอนในวิชาที่ตนรับผิดชอบ ความสำคั ญ นวั ต กรรมดั ง กล่ า วจึ ง นิ ย มเรี ย กกั น ว่ า
รวมถึ ง การจั ด ทำ จั ด สร้ า ง สื่ อ นวั ต กรรม กิ จ กรรม
“E-learning” (การเรี ย นรู้ ท างอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ) หรื อ
การเรียนรู้สำหรับนักเรียนและเผยแพร่แก่ครูหรือบุคคลทั่วไป “E-school” (โรงเรี ย นอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ) เป็ น รู ป แบบ
Digital
Literacy
World-Class
Standard
School
13. การศึกษาที่เป็น “โรงเรียนเสมือนจริง” (Virtual School)
ประโยชน์สำหรับครู
ที่ครู ผู้เรียนสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้และโต้ตอบกันได้
● เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง บ ร ร ย า ก า ศ แ ล ะ ค ว า ม
(Interactivity) มีรูปแบบโดยทั่วไป คือ เคลื่อนไหวของห้องเรียน ทำให้ห้องเรียนไม่ใช่สิ่งแวดล้อม
1. การสมัครและลงทะเบียนเข้าเรียน ที่ซ้ำซากจำเจอีกต่อไป
2. การเรียกค้น ดาวน์โหลด หลักสูตร เนื้อหา
● ครู แ ละนั ก เรี ย นจะเรี ย นรู้ ไ ปด้ ว ยกั น ใน
สาระทางวิชาการ สื่อการเรียนการสอน ทั้งที่เป็นตำรา สภาพห้องเรียนเครือข่าย ซึ่งครูจะไม่ใช่ผู้รู้เพียงคนเดียว
และมัลติมีเดีย ในห้องเรียน
3. การใช้ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อส่งสื่อ
● ค้ น หาข้ อ มู ล ข่ า วสารทางการศึ ก ษาและ
เอกสารที่ ใ ช้ ป ระกอบการเรี ย นการสอน การส่ ง งาน สารสนเทศที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ วิ ช าชี พ ตลอดจนแหล่ ง
รายงาน การบ้าน ตลอดจนการซักถามระหว่างผู้เรียน วิทยาการ
และผู้สอนและระหว่างผู้เรียนด้วยกัน
● ค้ น หาและแลกเปลี่ ย นแผนการจั ด กิ จ กรรม
4. การใช้ป้ายประกาศ (Web Board/Bulletin การเรียนการสอน
Board) เพื่ อ ถาม-ตอบ หรื อ แสดงความคิ ด เห็ น
● ข้อมูลพื้นฐานและแหล่งค้นคว้า เพื่อการวิจัย
แลกเปลี่ยนข้อมูลตามประเด็นที่สนใจศึกษา เฉพาะเรื่อง/วิชา/สาระการเรียนรู้
5. การค้นคว้า วิจัยจากคลังข้อมูล (Archives)
● นำข้อมูล เช่น รูปภาพ ภาพยนตร์ วีดิทัศน์
และห้องสมุดดิจิทัล เอกสาร ตำราอิเล็กทรอนิกส์ มาใช้ประกอบการจัดตำราเรียน/
6. การติวความรู้แบบตอบโต้ผ่านเว็บ (Interactive
ผลิตสื่อ
Tutorials on the Web)
● สอบถาม ขอคำปรึ ก ษาแนะนำจากผู้ รู้
7. การสอนหรื อ ฝึ ก อบรมผ่ า นเว็ บ ไซต์ บ น
ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนร่วมอาชีพจากทุกมุมโลก
เครือข่าย
(E-trainning)
● แลกเปลี่ ย นแบ่ ง ปั น ประสบการณ์ ผ ลงาน
8. การศึ ก ษาทดลองในรู ป แบบสถานการณ์ การสอน/วิชาชีพเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมวิชาชีพครู
จำลอง (Simulation) และห้องทดลองดิจิทัล (Digital และวงการทางการศึกษาที่กว้างขวางขึ้น
Laboratory)
9. การประชุมสนทนาทางไกล
10. การทดสอบวั ด ประเมิ น ผล และแจ้ ง ผล
การสอบโดยใช้โปรแกรมแบบทดสอบที่ใช้ระบบตอบโต้
ด้วยรหัสผ่านของผู้เรียน
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
14. ก า ร เ รี ย น รู้ ดิ จิ ทั ล สู่ โ ร ง เ รี ย น ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล
3
การเสริมสร้างทักษะ
ด้านข้อมูลข่าวสาร
ก
ารส่งเสริมทักษะด้านข้อมูลข่าวสาร (Information
Skills) เป็ น กระบวนการส่ ง เสริ ม การเรี ย นรู้
เพื่ อ ให้ นั ก เรี ย นสามารถสร้ า งความรู้ ผลงาน
● วิธีการสืบเสาะ สืบสาว สืบค้น ที่หลากหลาย
และชาญฉลาด
หรือหาคำตอบด้วยตนเอง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสื่อสารเป็นเครื่องมือพัฒนากระบวนการเรียนรู้
2 การตั้งคำถาม
การฝึกทักษะการตั้งคำถาม คือ การกระตุ้น
และการคิ ด จึ ง มี ป ระโยชน์ ม ากและใช้ ใ นการเรี ย นรู้
ส่งเสริมให้นักเรียนได้คิดค้นหาประเด็นหรือปัญหาที่สงสัย
ทุ ก กลุ่ ม สาระและทุ ก รายวิ ช า ทั ก ษะที่ ส ำคั ญ มี
หรือต้องการคำตอบด้วยตนเองอย่างอิสระ แทนที่ครูจะ
8 ประการ คือ เป็นผู้กำหนดหรือสั่งการ
1. การสืบค้นข้อมูล (Searching) การค้ น หาข้ อ มู ล ที่ ต้ อ งการให้ พ บเป็ น เพี ย ง
2. การตั้งคำถาม (Questioning) จุดเริ่มต้นของกระบวนการเรียนรู้ ครูจำเป็นต้องส่งเสริม
3. การวางแผน (Planning) ให้ผู้เรียนปฏิบัติต่อข้อมูลที่ค้นหามาได้ สามารถตีความ
4. การรวบรวมจัดระเบียบ (Gathering) ประเมิ น ค่ า ของเนื้ อ หาสาระ มิ ใ ช่ เ พี ย งแต่ รั บ ข้ อ มู ล
5. การเชื่อมโยงจัดโครงสร้าง
(Sorting)
โดยปราศจากการไตร่ตรอง
6. การสังเคราะห์สร้างสรรค์ (Synthesizing) ครู ส ามารถใช้ เ ครื อ ข่ า ยอิ น เทอร์ เ น็ ต ยกระดั บ
7. การประเมิน (Evaluation) ทั ก ษะ การคิ ด วิ เ คราะห์ วิ จ ารณ์ โดยให้ นั ก เรี ย นรู้ จั ก
8. การนำเสนอรายงาน (Reporting) ตั้งคำถาม และประเมินทั้งเนื้อหาสาระแหล่งข้อมูลที่พบ
1 การสืบค้นข้อมูล อินเทอร์เน็ต
จุ ด มุ่ ง หมายสำคั ญ คื อ การมุ่ ง ให้ ผู้ เ รี ย น
สามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการให้พบ ทักษะย่อยที่จำเป็น
3 การวางแผน
การส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักวางแผน กำหนด
คือ เป้าหมายและข้อมูลที่ต้องการไว้ล่วงหน้าจะทำให้นักเรียน
● เรียนรู้การใช้เครื่องมือสืบค้น
สามารถเลือกแหล่งข้อมูลที่มีคุณภาพน่าเชื่อถือสูงได้ด้วย
● เปรี ย บเที ย บการสื บ ค้ น ข้ อ มู ล เรื่ อ งเดี ย วกั น
ตนเอง และมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ ประหยั ด เวลา แทนที่ จ ะ
ด้วยเครื่องมือสืบค้นที่ต่างกัน แวะเวียนจากแหล่งหนึ่งไปอีกแหล่งหนึ่ง อย่างไร้จุดหมาย
● เรี ย นรู้ แ หล่ ง หรื อ ขอบข่ า ยของข้ อ มู ล ที่
โดยไม่คำนึงว่าแหล่งข้อมูลใดที่จะเป็นประโยชน์
ต้องการค้นคว้า
Digital
Literacy
World-Class
Standard
School
15. 4 การรวบรวมจัดระเบียบ
เมื่อนักเรียนได้ข้อมูลที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ
8 การนำเสนอรายงาน
การนำเสนอข้อมูล รายงานข้อค้นพบหรือแสดง
จากแหล่งต่างๆ แล้ว ทักษะที่จำเป็น คือ การรวบรวม ผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยตนเองเป็นเรื่องสำคัญมาก
สะสมข้อมูลและจัดระเบียบ จัดประเภทข้อมูลที่สำคัญๆ ซึ่งต่างจากการนำผลงานหรือความคิดของคนอื่นมาแสดง
เอาไว้ เ พื่ อ นำมาเรี ย กใช้ ไ ด้ ด้ ว ยตนเอง แทนที่ จ ะปล่ อ ย การนำเสนอผลงานต่ อ หน้ า ผู้ ฟั ง เช่ น ครู ผู้ ป กครอง
ข้อมูลปะปนกระจัดกระจายและจำแนกหมวดหมู่ ลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนๆ นักเรียน หรือการที่ได้แสดง
สาระสำคัญได้ยาก ผลงานต่อคนทั่วโลกบนเว็บไซต์ นอกจากจะเป็นแรงจูงใจ
ที่ ส ำคั ญ แล้ ว ยั ง ช่ ว ยเพิ่ ม ความรั บ ผิ ด ชอบร่ ว มกั น และ
5 การเชื่อมโยงจัดโครงสร้าง
เป็นทักษะที่มีความต่อเนื่องจากการจัดระเบียบ
ยกระดับมาตรฐานการเรียนรู้ของผู้เรียนทุกคน
ข้ อ มู ล โดยการกำหนดเค้ า โครงหรื อ โครงสร้ า งข้ อ มู ล
การส่งเสริมความสามารถในการวิเคราะห์
ที่สัมพันธ์กันหรือเป็นเรื่องราวสอดคล้องมาเชื่อมโยงกัน และประเมินเว็บไซต์
หรือจัดเข้าชุดเดียวกัน ทั้งนี้เป็นผลมาจากประเด็นคำถาม อิ น เทอร์ เ น็ ต นั บ ว่ า เป็ น แหล่ ง ข้ อ มู ล ข่ า วสาร
หรือเรื่องราวที่ได้ค้นคว้า ซึ่งกำหนดไว้เบื้องแรก ขนาดมหึมาและหลากหลาย มีทั้งข้อมูลที่มีสาระและไร้สาระ
ทั้งที่ถูกต้องและผิดพลาด ครูจำเป็นต้องส่งเสริม ความ
6 การสังเคราะห์สร้างสรรค์
เป็นความสามารถในการแสดงมุมมองความคิด
สามารถในการวิ เ คราะห์ แ ละประเมิ น คุ ณ ค่ า สาระของ
เว็ บ ไซต์ ที่ เ รี ย กค้ น จากอิ น เทอร์ เ น็ ต ซึ่ ง จะช่ ว ยส่ ง เสริ ม
การตั ด สิ น ใจ ตลอดจนสร้ า งผลงานที่ ใ ช้ ภ าษา คำพู ด
ทักษะด้านข้อมูลข่าวสารของนักเรียนได้ดี
คำอธิบาย หรือชิ้นงานที่เป็นตัวของตัวเอง มิใช่นำข้อมูล โดยทั่ ว ไปแล้ ว มี ป ระเด็ น บ่ ง ชี้ คุ ณ ภาพของ
หรือข้อสรุปของผู้อื่นมาอ้างหรือบอกต่อ ซึ่งในกระบวนการนี้ เว็บไซต์ที่สำคัญๆ คือ
ถือได้ว่าผู้เรียนได้สร้างข้อมูลความรู้ใหม่ขึ้นมาเองได้แล้ว 1. ความยากง่ายในการเรียกใช้ (Accessibility)
ในแง่ความเร็วและความสะดวกในการเข้าถึง
7 การประเมิน
นั ก เรี ย นจะตรวจสอบ ทบทวนข้ อ ค้ น พบ
2. ความถูกต้องน่าเชื่อถือ (Accuracy) ซึ่งรวม
ทั้งเนื้อหาสาระ แหล่งข้อมูล และผู้สร้างหรือเผยแพร่
3. ความเหมาะสม (Appropriateness)
ประเด็นคำตอบและตัดสินใจ เพื่อประเมินว่าข้อมูลความรู้
เป็นการพิจารณาความเหมาะสมของเนื้อหาสาระในแง่
ที่ ค้ น พบนั้ น เหมาะสม เป็ น ประโยชน์ ม ากน้ อ ยเพี ย งใด
การรับรู้ของผู้ใช้ว่ายากง่ายเพียงใด ตรงวัตถุประสงค์ที่จะใช้งาน
การประเมิ น เป็ น วงจรที่ ด ำเนิ น ไปอย่ า งต่ อ เนื่ อ ง
หรือไม่
ยิ่งนักเรียนมีประสิทธิภาพสูงขึ้นเวลาที่ใช้ในการจัดเก็บ
4. ความน่ า สนใจในการนำเสนอ (Appeal)
รวบรวม และประมวลผลจะลดลง และยังช่วยให้นักเรียน
เป็นการประเมินความสวยงามหรือคุณลักษณะทางด้าน
ไม่รีบร้อนด่วนสรุป
รูปลักษณ์ สีสัน รูปแบบการนำเสนอว่า กระตุ้นให้เกิด
ความสนใจ น่าเพลิดเพลิน หรือช่วยให้เกิดการเรียกใช้งาน
หรือไม่ เพียงใด ตามการรับรู้ของผู้ใช้
10 การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
16. ก า ร เ รี ย น รู้ ดิ จิ ทั ล สู่ โ ร ง เ รี ย น ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล
ครูอาจส่งเสริมให้ผู้เรียนตรวจสอบและประเมิน 4 เปรียบเทียบกับสื่อหรือแหล่งข้อมูลอื่น
เว็บโดยผ่านกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งมีกิจกรรม ครู อ าจแนะนำให้ นั ก เรี ย นศึ ก ษาเปรี ย บเที ย บข้ อ มู ล จาก
เสนอแนะดังนี
้ หนังสือพิมพ์ หรือวารสารออนไลน์ซึ่งนำเสนอข่ า วสาร
1 การเปรียบเทียบเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีเนื้อหา ความคิดเห็นในเรื่องเดียวกัน เช่น การเมือง สิ่งแวดล้อม
และให้ นั ก เรี ย นบั น ทึ ก ย่ อ เปรี ย บเที ย บข้ อ แตกต่ า งของ
สาระเดียวกัน โดยให้นักเรียนดูทั้งชั้นแล้วเปรียบเทียบ
ความเหมื อ น ความแตกต่ า ง และลั ก ษณะเฉพาะของ ข่ า วสารหรื อ ความคิ ด เห็ น ที่ ค้ น มาได้ แล้ ว นำเสนอต่ อ
เว็บไซต์ตามแนวทางแบบประเมินสำหรับนักเรียน แล้วให้ เพื่อนๆ
นักเรียนจับคู่หรือจับกลุ่มเลือกเว็บไซต์ เพื่อเปรียบเทียบว่า
เว็บไซต์ใดน่าเชื่อถือมากน้อยกว่ากัน 5 เปรียบเทียบสาระระหว่างมืออาชีพกับ
มือสมัครเล่น วัตถุประสงค์ของกิจกรรมนี้ก็เพื่อให้นักเรียน
2 การเปรียบเทียบข้อมูลกับแหล่งข้อมูล ได้เข้าใจว่าการสืบค้นในหัวข้อเรื่องเดียวกันมักจะมีเว็บไซต์
ที่ มี เ นื้ อ หาสาระที่ ถู ก ต้ อ ง ละเอี ย ด ครอบคลุ ม กว่ า อี ก
นอกอิ น เทอร์ เ น็ ต ครู ใ ห้ นั ก เรี ย นเปรี ย บเที ย บข้ อ มู ล
ที่ เ รี ย กค้ น จากเว็ บ ไซต์ กั บ ข้ อ มู ล จากแหล่ ง ภายนอก
เว็ บ ไซต์ ห นึ่ ง เสมอ และเว็ บ ไซต์ ที่ จั ด ทำโดยองค์ ก ร
โดยอาจให้ไปสอบถามจากผู้รู้อื่นๆ ในโรงเรียนหรือในชุมชน
หน่ ว ยงาน หรื อ สถาบั น ที่ มี ค วามเชี่ ย วชาญ มี ภ ารกิ จ
เช่น ครู ครูบรรณารักษ์ ผู้รู้ในชุมชน หรืออาจให้นักเรียน หรือหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนั้นๆ โดยตรง จะมีเนื้อหาละเอียด
นำข้อมูลไปตรวจสอบกับเอกสาร ตำรา วารสาร วัสดุ ถูกต้อง น่าเชื่อถือ ครอบคลุมหัวข้อเรื่องที่ค้นคว้ามากกว่า
อ้างอิงในห้องสมุด เว็ บ ไซต์ ที่ จั ด ทำโดยบุ ค คลใดบุ ค คลหนึ่ ง ซึ่ ง ไม่ ไ ด้ มี
ความเชี่ยวชาญ เป็นที่รู้จักแพร่หลาย
3 ค้ น คว้ า เพิ่ ม เติ ม เกี่ ย วกั บ เว็ บ ไซต์ ครู
กำหนดให้นักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับเว็บไซต์ที่เรียกค้นเพิ่มเติม
ซึ่งอาจทำได้ดังนี้
● สอบถามความคิ ด เห็ น ของครู ผู้ ป กครอง
หรือผู้รู้ที่มีประสบการณ์ เพื่อหาข้อมูลยืนยันความน่าเชื่อ
ถือของเว็บไซต์
● โทรศั พ ท์ ส อบถามแหล่ ง ข้ อ มู ล ที่ ส ร้ า งเว็ บ ไซต์
(บางแห่งจะมีหมายเลขโทรศัพท์ระบุไว้)
● ส่ ง จดหมาย (E-mail) ขอข้ อ มู ล เพิ่ ม เติ ม
จากผู้สร้างเว็บไซต์
Digital
Literacy
World-Class
Standard
School 11
17. 4
โครงงานบนเว็บ
(Web-Based Project)
โ
ครงงานบนเว็ บ ทำให้ มี ก ารปรั บ ปรุ ง สภาพ
แวดล้อมการเรียนรู้ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
การสอนของครู นักเรียนเรียนรู้ได้มีประสิทธิภาพ
เพิ่ ม ขึ้ น เมื่ อ ได้ เ รี ย นสาระวิ ช าต่ า งๆ ในสภาพการณ์
ขั้นตอนการดำเนินโครงงาน
1. ครู แ ละนั ก เรี ย นร่ ว มกั น กำหนดประเด็ น
ที่ นั ก เรี ย นจะค้ น คว้ า โดยการนำเสนอข้ อ มู ล เบื้ อ งต้ น
การอภิปรายในชั้นเรียน การเชิญวิทยากรภายนอกหรือ
ที่เอื้ออำนวยและได้ลงมือปฏิบัติจริง การร่วมตรวจสอบ การค้นคว้าในห้องสมุด
ทบทวน ประเมิ น ผลโดยกระบวนการกลุ่ ม จะช่ ว ย
2. แจ้ ง ผู้ ป กครองให้ ท ราบวั ต ถุ ป ระสงค์ แ ละ
ยกระดับความรู้สึกร่วมรับผิดชอบ ขอให้สนับสนุนนักเรียนเท่าที่จะทำได้
การเรียนรู้ผ่านโครงงานที่ใช้อินเทอร์เน็ตจึงเป็น 3. แบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ ละ 4-5 คน
เครื่องมือจะส่งผลดีต่อการเรียนรู้ดังนี้ ตามประเด็นหลักที่ศึกษา
1. สมรรถนะการเรียนและทักษะการคิด 4. ครูชี้แจงลักษณะงานที่ต้องปฏิบัติในโครงงาน
2. การเรียนรู้จากการปฏิบัติตามสภาพการณ์จริง 5. กำหนดบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของ
3. นักเรียนทุกคนได้ยกระดับความรู้ความสามารถ นั ก เรี ย นแต่ ล ะคนในกลุ่ ม ตามลั ก ษณะงานโดยคำนึ ง ถึ ง
สูงขึ้น ความสามารถ จุดเน้น ศักยภาพของแต่ละคน
4. ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนปรับเปลี่ยน 6. ครู ท บทวนกฎ กติ ก า จรรยา มารยาท
บทบาทและมีส่วนร่วมมากขึ้น ในการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการสื่อสาร
1) นักเรียนดำเนินการค้นคว้าตามขั้นตอน
บทบาทหน้าที่และบันทึกผลการปฏิบัติกิจกรรมและข้อค้นพบ
เรียนรู้ผ่าน นักเรียน จากแหล่งข้อมูล
ประสบการณ์ เรียนเป็น 2) นั ก เรี ย นประชุ ม กั น เป็ น ระยะๆ เพื่ อ
การปฏิบัติ คิดเป็น รายงานผลการปฏิบัติที่สำคัญต่อสมาชิกในกลุ่ม
3) นักเรียนผู้แทนแต่ละกลุ่มรายงานความ
โครงงาน ก้าวหน้า/ผลการดำเนินงานต่อนักเรียนทั้งหมดสัปดาห์ละครั้ง
บนเว็บ 4) แต่ละกลุ่มจัดทำเอกสารรายงานผลการ
ค้นคว้าต่อครู โรงเรียน กรรมการสถานศึกษา
นักเรียน 5) แต่ ล ะกลุ่ ม นำเสนอผลงานรวมระดั บ
มีความรู้ การมีส่วนร่วม
ความสามารถ โรงเรียนโดยใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศประกอบ
สูงขึ้น
1 การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
18. ก า ร เ รี ย น รู้ ดิ จิ ทั ล สู่ โ ร ง เ รี ย น ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล
6) นำข้อมูล/ผลงานเผยแพร่กับแลกเปลี่ยน
โรงเรียนคู่พัฒนาและโรงเรียนอื่นๆ ทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
3 บทบาทหลั ก ของครู คื อ ผู้ อ ำนวยการ
ความสะดวกในการเรียนรู้ของนักเรียน ทักษะที่สำคัญของครู
ผ่ า นเว็ บ ไซต์ ข องสถานศึ ก ษาหรื อ เว็ บ ไซต์ ที่ ส นั บ สนุ น
คือ
การเผยแพร่
● ความสามารถในการจูงใจ
● ตั้งคำถามที่เหมาะสม
แนวทางการส่งเสริมการจัดทำโครงงาน
● นำนั ก เรี ย นให้ มุ่ ง มั่ น ในกระบวนการเรี ย นรู
้
ของตนเอง
1 กำหนดเป้ า หมาย จุ ด ประสงค์ ก ารเรี ย นรู้
ตรวจสอบว่า
● เรียนร่วมไปพร้อมๆ กับนักเรียน
● ช่ ว ยให้ นั ก เรี ย นใช้ เ ทคโนโลยี ใ นบรรยากาศ
ที่ ส่ ง เสริ ม การเรี ย นแบบร่ ว มแรงร่ ว มใจ การสื บ สวน
1. โครงงานสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้
ค้นคว้าและพัฒนาระดับความคิด
หรือไม่
2. การใช้ อิ น เทอร์ เ น็ ต จะช่ ว ยให้ ก ารจั ด
ประสบการณ์การเรียนรู้ในแง่ใด (สาระการเรียนรู้พัฒนา 4 แนวปฏิบัติในการอำนวยการเรียนรู้
1. สร้างแบบอย่างสร้างทีมเรียนรู้
ทักษะการสืบค้น พัฒนาทักษะด้านข้อมูลข่าวสาร หรือ
การอ่าน/เขียน/ใช้ภาพ)
● กำหนดมาตรฐานหรือข้อตกลงร่วมกัน
3. ประเด็ น ที่ นั ก เรี ย นจะเรี ย นรู้ นั้ น จำเป็ น ในทีม เพื่อให้นักเรียนมีส่วนร่วมและเคารพความคิดเห็นเห็น
ต้องหาข้อมูลที่จำเพาะเจาะจงหรือไม่ ซึ่งกันและกัน
4. กระบวนการเรียนรู้จำเป็นต้องหาความรู้จาก
● แสดงให้ นั ก เรี ย นเห็ น ว่ า ครู ตั้ ง ใจฟั ง
แหล่งที่แตกต่างทางภูมิศาสตร์ สภาพแวดล้อม วัฒนธรรม ความคิดใหม่ๆ
หรือไม่
● สังเกตความต้องการและหาทางในการ
5. นักเรียนจะได้รับประโยชน์จากการร่วมมือ สนับสนุน
ร่วมโครงงานในเรื่องใดบ้าง
● ต ร ว จ ส อ บ พ ฤ ติ ก ร ร ม ที่ เ ห ม า ะ ส ม
ในกลุ่ม เช่น การดูถูกดูแคลนความคิดของเพื่อน แล้วหาทาง
2 กำหนดลั ก ษณะกิ จ กรรม ที่ ส อดคล้ อ งกั บ
จุดประสงค์ว่าเป็นลักษณะใด เช่น การสื่อสาร การสืบค้น
เสริมแรงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเมื่อมีโอกาส
● สร้างความมั่นใจให้นักเรียนเห็นว่าแต่ละคน
เป็นส่วนหนึ่งของทีมและต้องร่วมรับผิดชอบในบทบาทของ
การค้นคว้า วิจัย การแก้ปัญหา ฯลฯ
ตนเองต่อทีม
● เน้นเป้าหมายอยู่อย่างสม่ำเสมอ
Digital
Literacy
World-Class
Standard
School 1
19. 2. ส่งเสริมการสื่อสารและแสดงความคิด 5. กระตุ้นให้ลงมือปฏิบัติ
● กระตุ้นให้พูดคุย อภิปรายของนักเรียน
เมื่อเห็นว่านักเรียนพอจะเห็นแนวทางความคิด
ดำเนินไปในประเด็นที่ต่อเนื่อง ในการทำงาน ครู ค วรจะจู ง ใจให้ นั ก เรี ย นเริ่ ม ต้ น ลงมื อ
● ส่งเสริมการมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น
วางแผนหรือปฏิบัติ โดยตั้งคำถามประเภท “เราจะเริ่มต้น
ของสมาชิกทุกคน กันอย่างไร”
● กระตุ้นให้แสดงความคิดวิเคราะห์วิจารณ์ 6. สะท้อนผลการปฏิบัติ
3. สร้างความกระจ่าง ครู ค วรสนั บ สนุ น ให้ นั ก เรี ย นได้ ส ะท้ อ น
บางครั้ ง นั ก เรี ย นต้ อ งการความช่ ว ยเหลื อ
ความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง เช่น
ในการเรี ย บเรี ย งประมวลความคิ ด เห็ น ที่ แ ต่ ล ะคนได้ นักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้าง
แสดงออก ครูควรทำความกระจ่างให้นักเรียนได้โดย
● กระตุ้ น ให้ นั ก เรี ย นช่ ว ยสรุ ป ประเด็ น
ความคิดหลักๆ
5 การตรวจสอบโครงงาน
การออกแบบโครงงานเป็นความร่วมมือของครู
● ตั้ ง คำถาม ถามทบทวนหรื อ เปลี่ ย น
กับนักเรียน โดยนักเรียนได้รับการส่งเสริมให้ริเริ่มจัดทำ
ถ้ อ ยคำในประเด็ น คำตอบ เพื่ อ ให้ นั ก เรี ย นสรุ ป ยื น ยั น โครงงานและครูเป็นผู้ชี้แนะ องค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้
ความคิด กระบวนการจั ด ทำโครงงานเป็ น การเรี ย นรู้ เ พื่ อ สร้ า ง
4. ควบคุมให้อยู่ในประเด็นเป้าหมาย ความรู้จริงๆ คือ
ในการอภิ ป รายนั ก เรี ย นอาจเบนประเด็ น 1. เรียนตามสภาพจริง
ความสนใจออกไปนอกเป้าหมายของงานหรือโครงงาน
2. เรียนรู้รอบด้าน
ที่กำลังทำอยู่ ครูควรกระตุ้นเตือน หรือถามให้ตรวจสอบ 3. เรียนเพื่อใช้ชีวิตจริง
ว่าอยู่ในประเด็นหรือไม่ 4. เรียนอย่างใฝ่รู้
5. เรียนรู้กับผู้ใหญ่/ผู้รู้
6. เรียนรู้ผลการปฏิบัติ
1 การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล