Publicité

อริยสัจ 4

นิสิต นักศึกษา à โรงเรียนราชดำริ
28 Jan 2014
Publicité

Contenu connexe

Présentations pour vous(20)

Similaire à อริยสัจ 4(20)

Publicité

Dernier(20)

อริยสัจ 4

  1. อริยสัจ 4
  2. อริย สัจ 4 อริย สัจ (บาลี: ariyasacca) หรือจตุร าริย สัจ หรืออริย สัจ 4 เป็นหลักคำาสอนหนึ่งของพระโคตม พุทธเจ้า แปลว่า ความจริงอันประเสริฐ ความจริง ของพระอริยะ หรือความ  จริงที่ทำาให้ผเข้าถึงกลายเป็นอริยะ มีอยู่สี่ประการ 1. ทุก ข์ คือ สภาพที่ทนได้ยาก ภาวะที่ทนอยู่ใน ู้ คือ สภาพเดิมไม่ได้ สภาพทีบีบคั้น ได้แก่ ชาติ (การเกิด) ชรา (การแก่ ่ การเก่า) มรณะ (การตาย การสลายไป การสูญสิ้น) การประสบกับสิ่ง อันไม่เป็นทีรัก ่ 
  3. อริย สัจ 4   2. ทุก ขสมุท ย คือ สาเหตุที่ทำาให้เกิดทุกข์ ได้แก่ ั ตัณหา 3 คือ กามตัณหา-ความทะยานอยากในกาม ความอยากได้ทางกามารมณ์, ภวตัณหา-ความ ทะยานอยากในภพ ความอยากเป็นโน่นเป็นนี่ ความอยากทีประกอบด้วยภวทิฏฐิหรือสัสสตทิฏฐิ ่ และ วิภวตัณหา-ความทะยานอยากในความ ปราศจากภพ ความอยากไม่เป็นโน่นเป็นนี่ ความ อยากทีประกอบด้วยวิภวทิฏฐิหรืออุจเฉททิฏฐิ ่ 3. ทุก ขนิโ รธ คือ ความดับทุกข์ ได้แก่ ดับสาเหตุ ทีทำาให้เกิดทุกข์ กล่าวคือ ดับตัณหาทัง 3 ได้อย่าง ่ ้ สิ้นเชิง
  4. อริย สัจ 4          4. ทุก ขนิโ รธคามิน ีป ฏิป ทา คือ แนวปฏิบัติที่นำา ไปสู่หรือนำาไปถึงความดับทุกข์ ได้แก่ มรรคอัน มี องค์ประกอบอยู่แปดประการ คือ 1. สัมมาทิฏฐิ-ความเห็นชอบ 2. สัมมาสังกัปปะ-ความดำาริชอบ 3. สัมมาวาจา-เจรจาชอบ 4. สัมมากัมมันตะ-ทำาการงานชอบ 5. สัมมาอาชีวะ-เลียงชีพชอบ ้ 6. สัมมาวายามะ-พยายามชอบ 7. สัมมาสติ-ระลึกชอบ และ 8. สัมมาสมาธิ-ตังใจชอบ ซึ่งรวมเรียกอีกชื่อหนึ่งได้ ้
  5. กิจ ในอริย สัจ 4 กิจในอริยสัจ คือสิ่งที่ตองทำำต่ออริยสัจ 4 แต่ละข้อ ้ ได้แก่  ปริญ ญำ - ทุกข์ ควรกำำหนดรู้ คือกำรทำำควำม เข้ำใจปัญหำหรือสภำวะที่เป็นทุกข์อย่ำงตรงไปตรง มำตำมควำมเป็นจริง เป็นกำรเผชิญหน้ำกับปัญหำ  ปหำนะ - สมุทัย ควรละ คือกำรกำำจัดสำเหตุที่ ทำำให้เกิดทุกข์ เป็นกำรแก้ปัญหำที่เหตุต้นตอ  สัจ ฉิก ิร ิย ำ - นิโรธ ควรทำำให้แจ้ง คือกำรเข้ำถึง ภำวะดับทุกข์ หมำยถึงภำวะทีไร้ปัญหำซึ่งเป็นจุดมุ่ง ่ หมำย  ภำวนำ - มรรค ควรเจริญ คือกำรฝึกอบรมปฏิบัติ
  6. กิจ ใน อริย สัจ 4  กิจ ทั้ง สีน ี้จ ะต้อ งปฏิบ ัต ิใ ห้ต รงกับ ่ มรรคแต่ล ะข้อ ให้ถ ูก ต้อ ง กำรรู้จ ัก กิจ ในอริย สัจ นี้เ รีย กว่ำ กิจ ญำณ  กิจ ญำณ เป็น ส่ว นหนึ่ง ของญำณ 3 หรือ ญำณทัส สนะ (สัจ ญำณ, กิจ ญำณ, กตญำณ) ซึง หมำยถึง กำรหยัง รู้ค รบ ่ ่ สำมรอบ ญำณทั้ง สำมเมือ เข้ำ คู่ก ับ กิจ ่ ในอริย สัจ ทั้ง สี่จ ึง ได้เ ป็น ญำณทัส นะมี
  7. กิจ ในอริย สัจ 4 กตญำณ หยังรู้ว่ำได้ทำำกิจที่ควร ่ ทำำได้เสร็จสิ้นแล้ว 1. ทุกข์ได้กำำหนดรู้แล้ว 2. เหตุแห่งทุกข์ได้ละแล้ว 3. ควำมดับทุกข์ได้ประจักษ์แจ้งแล้ว 4. ทำงแห่งควำมดับทุกข์ได้ปฏิบัติแล้ว
  8. กิจ ในอริย สัจ 4 สัจ ญำณ หยั่งรู้ควำมจริงสี่ประกำร ว่ำ 1. นี่คือทุกข์ 2. นี่คือเหตุแห่งทุกข์ 3. นี่คือควำมดับทุกข์ 4. นี่คือทำงแห่งควำมดับทุกข์
  9. กิจ ในอริย สัจ 4 กิจ ญาณ หยั่งรู้หน้าที่ต่ออริยสัจว่า 1. ทุกข์ควรรู้ 2. เหตุแห่งทุกข์ควรละ 3. ความดับทุกข์ควรทำาให้ประจักษ์ แจ้ง 4. ทางแห่งความดับทุกข์ควร ฝึกหัดให้เจริญขึ้น
  10. มรรค
  11. มรรค  มรรค (ภาษาสันสกฤต : มรฺค; ภาษา บาลี : มคฺค) คือ หนทางถึงความดับ ทุกข์ เป็นส่วนหนึ่งของอริยสัจ (เรียก ว่า มัคคสัจจ์ หรือ ทุกขนิโรธคามินี ปฏิปทาอริยสัจ) และนับเป็นหลักธรรม สำาคัญอย่างหนึงในพระพุทธศาสนา ่ ประกอบด้วยหนทาง 8 ประการด้วย กัน เรียกว่า "มรรคมีองค์แปด" หรือ
  12. มรรค     สัม มาทิฏ ฐิ คือ ปัญญาเห็นชอบ หมาย ถึงเห็นถูกตามความเป็นจริงด้วยปัญญา สัม มาสัง กัป ปะ คือ ดำาริชอบ หมายถึง การใช้สมองความคิดพิจารณาแต่ใน ทางกุศลหรือความดีงาม สัม มาวาจา คือ เจรจาชอบ หมายถึง การพูดสนทนา แต่ในสิ่งที่สร้างสรรค์ดี งาม สัม มากัม มัน ตะ คือ การประพฤติดีงาม
  13. มรรค     สัม มาอาชีว ะ คือ การทำามาหากิน อย่างสุจริตชน สัม มาวายามะ คือ ความอุตสาหะ พยายาม ประกอบความเพียรใน การกุศลกรรม สัม มาสติ คือ การไม่ปล่อยให้เกิด ความพลั้งเผลอ จิตเลื่อนลอย ดำารง อยูด้วยความรู้ตัวอยู่เป็นปกติ ่ สัม มาสมาธิ คือ การฝึกจิตให้ตั้ง
  14. มรรค อริยมรรคมีองค์แปด เป็นปฏิปทางสายกลาง คือทางทีนำาไปสู่การพ้นทุกข์ ที่พระพุทธองค์ได้ ่ ทรงตรัสรู้แล้ว ด้วยปัญญาอันยิ่ง ทำาญาณให้ เกิด ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน มรรคมีองค์แปด สามารถจัดเป็นหมวดหมู่ได้ เป็น ศีล สมาธิ ปัญญา  ข้อ1-2 เป็น ปัญญา (สัมมาทิฏฐิ สัมมา สังกัปปะ)  ข้อ3-4-5 เป็น ศีล (สัมมาวาจา สัมมากัม มันตะ สัมมาอาชีวะ) 
Publicité