SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  8
Télécharger pour lire hors ligne
ใบความรู้
                                     เรือง การเคลือนทีของวัตถุ

        การเคลือนที เป็ นผลจากแรงทีไปกระทําต่อวัตถุแล้วทําให้วตถุเคลือนทีไป ปริ มาณทีเกียวข้อง
                                                                   ั
กับการเคลือนที เช่น ระยะทาง เวลา อัตราเร็ ว อัตราเร่ ง ตัวอย่างการเคลือนทีในหนึงมิติการเคลือนที
ของรถยนต์

                          เริมต้ น                           เมือเคลือนที




                        การเคลือนทีของรถยนต์ ไปข้ างหน้ าในแนวเส้ นตรง


        การปล่ อยวัตถุให้ ตกในแนวดิง
        เมือปล่อยวัตถุให้ตกในแนวดิง จะเห็นว่าวัตถุจะเคลือนทีได้ระยะทางมากขึนเมือเวลาผ่านไป
นานขึน เนืองจากแรงดึงดูดของโลกจะทําให้วตถุมีความเร่ งในการเคลือนที ดังรู ป
                                         ั

                                     การปล่อยวัตถุให้ตกในแนวดิงจะมีแรงดึงดูด
                                     ของโลกมาเกียวข้องทําให้วตถุตกให้เร็ วขึน
                                                             ั
การโยนวัตถุขึนตรง ๆ
         เมือโยนวัตถุขึนตรง ๆ จะเห็นว่าวัตถุจะเคลือนทีได้ระยะทางน้อยลงเมือเวลาผ่านไป
นานขึน เนืองจากต้องเคลือนทีต้านแรงดึงดูดของโลก

                                   การโยนลูกบอลขึนตรง ๆ ลูกบอล
                                   จะเคลือนทีต้านแรงดึงดูดของโลก



       ดังนัน การเคลือนทีจึงหมายถึง การเปลียนแปลงตําแหน่งของวัตถุต่าง ๆ เมือเวลาเปลียนไป




                                   การสั นและแกว่ งของวัตถุ

           การเคลือนทีในแนวดิง หมายถึงการปล่อยให้วตถุตกลงสู่ พืนดินโดยไม่มีแรงใดมากระทํา
                                                         ั
               ่
ต่อวัตถุนนไม่วาจะเป็ นผลัก แรงต้าน เรี ยกการตกแบบนีเรี ยกว่าการตกอย่างอิสระ เช่นการตกของผลไม้
         ั
ทีหลุดจากขัวลงสู่ พืนดิน
         การตกแบบอิสระนีจะมีแรงทีมาเกียวข้อง คือ แรงโน้มถ่วงของโลก ทําให้วตถุตกลงสู่ พืน
                                                                                ั
โลกเกิดความเร่ งประมาณ 9.8 เมตร/วินาที2 นันคือการตกของวัตถุมีความเร็ วไม่คงทีจะเปลียนไป
ทุกวินาที กล่าวคือวัตถุจะมีความเร็ วเพิมขึน และจะมีความเร็ วทีมากทีสุ ดตอนกระทบพืนโลก
           การเคลือนทีในแนวดิงทีคุนเคยกันมาก คือ การตกของวัตถุลงสู่ พืนโลกหรื อการโยนวัตถุ
                                     ้
ขึนไปตรง ๆ ในแนวดิงนันเอง โดยทัวไปการตกของวัตถุทุกชนิดจะมีแรงต้านของอากาศ ซึ งจะมาก
                 ่ ั
หรื อน้อยขึนอยูกบรู ปร่ างและอัตราเร็ วของวัตถุ ถ้าวัตถุมีมวลมากและรู ปทรงทีเหมาะสม เช่นทรงกลม
                                                                        ่
ทรงรี และตกจากทีไม่สูงมากนัก แรงต้านจากอากาศจะมีนอยมาก ถือได้วาไม่มีผลต่อการตกของวัตถุ
                                                           ้
ในการเคลือนทีของวัตถุทีตกอย่างอิสระ สามารถพิจารณาได้ดงนี   ั
          วัตถุตกจากทีสู งจะมีแรงชนิดหนึงทีเรี ยกกันว่าแรงโน้มถ่วงของโลก ทําให้วตถุตกลงมาด้วย
                                                                                  ั
ความเร่ งคงตัวเท่ากับ 9.8 เมตรต่อวินาที2 เพือความเหมาะสมในการคํานวณ ความเร่ งคงตัวทีเกิดจาก
แรงโน้มถ่วงของโลกทีเราอาจให้เท่ากับ 10 เมตรต่อวินาที2 ก็ได้
          ถ้านักเรี ยนโยนวัตถุขึนไปตรง ๆ นักเรี ยนจะพบว่าวัตถุเคลือนทีช้าลงเรื อย ๆ จนหยุด และ
ตกลงมาไม่วานักเรี ยนจะออกแรงโยนวัตถุขนาดไหนก็ตาม จะแตกต่างกันทีว่า ถ้าออกแรงมากวัตถุก็
             ่
จะขึนไปสู งมาก ถ้าออกแรงน้อยวัตถุก็จะขึนไปสู งน้อยกว่าทีเป็ นเช่นนีเพราะว่ามีแรงโน้มถ่วงของโลก
มากรทําต่อวัตถุ ซึ งพิจารณาได้เป็ น 2 ลักษณะ คือ
          1. ขณะทีวัตถุเคลือนทีขึนในอากาศ จะถูกแรงโน้มถ่วงของโลกทําให้เกิดความเร่ ง – 9.8
เมตรต่อวินาที2 (ความเร่ งมีเครื องหมายลบ ก็คือความหน่วงนันเอง) ทําให้วตถุเคลือนทีช้าลงอย่าง
                                                                        ั
สมําเสมอจนหยุดทีจุดสู งสุ ด คือมีอตราเร็ วเป็ นศูนย์
                                   ั
          2. ขณะทีวัตถุเคลือนทีลงจะถูกแรงโน้มถ่วงของโลกมากระทําให้วตถุเกิดความเร่ งเท่ากับ
                                                                          ั
9.8 เมตรต่อวินาที2 จนกระทังวัตถุตกลงสู่ พืนดิน

        กฎแห่ งความโน้ มถ่ วงของโลก
        กฎแห่งความโน้มถ่วงของโลก กล่าวว่า วัตถุทุกชนิดล้วนมีแรงดึงดูดซึ งกันและกัน
กฎนีค้นพบโดย ไอแซกนิวตัน (พ.ศ. 2485 – 2270)

             แรงโน้ มถ่ วงของโลก (Gravitation Force)
             แรงโน้มถ่วงของโลก คือ แรงดึงดูดทีมวลของโลกกระทํากับมวลของวัตถุเพือดึงดูดวัตถุนนั
เข้าสู่ ศูนย์กลางโลก โดยทีมวลของโลกคงที ดังนันแรงดึงดูดของโลกจะเพิมมากขึนหรื อลดลงนันจึง
         ่ ั
ขึนอยูกบมวลของวัตถุ ถ้ามวลของวัตถุเพิมขึน แรงโน้มถ่วงของโลกกับมวลของวัตถุจะมากขึน
             นิวตัน เป็ นหน่วยของแรงทีทําให้วตถุเกิดการเปลียนแปลง
                                             ั
             แรง 1 นิวตัน หมายถึง แรงทีทําให้วตถุมวล 1 กิโลกรัม เคลือนทีด้วยความเร็ ว
                                                 ั
1 เมตร / (วินาที)2
                                  F = ma
                           เมือ F    = แรง (นิวตัน หรื อ กิโลกรัม × เมตร / (วินาที)2
                                m = มวลของวัตถุ (กิโลกรัม)
                                a = ความเร่ งของวัตถุ (เมตร / (วินาที)2
                                               ่
                  อากาศส่ วนใหญ่ทีห่อหุ มโลกอยูไม่ลอยหนีไปในอวกาศเป็ นเพราะว่ามีแรงโน้มถ่วง
                                        ้
ของโลกซึ งแตกต่างจากดวงจันทร์ ทีเป็ นบริ วารของโลก มีอากาศห่อหุ มน้อยมาก เพราะดวงจันทร์
                                                                  ้
มีแรงโน้มถ่วงตํากว่า
                                             ่ ั                             ่ ั
          แรงโน้มถ่วงของโลก นอกจากจะขึนอยูกบขนาดของมวลวัตถุแล้ว ยังขึนอยูกบระยะห่ างจาก
จุดศูนย์กลางของโลกอีกด้วย ดังตาราง
          นําหนักของวัตถุ (Weight) แรงโน้มถ่วงระหว่างมวลของโลกกับมวลของวัตถุชินใด
มีค่าเท่ากับนําหนักของวัตถุชินนัน นันคือ นําหนักของวัตถุเกิดจากแรงโน้มถ่วงของโลกกระทําต่อ
มวลของวัตถุ เขียนเป็ นความสัมพันธ์ได้ดงนี
                                        ั
                                                     w = mg
                    เมือ w = นําหนักของวัตถุ มีหน่วยเป็ นนิวตัน (N)
                        m = มวลของวัตถุ มีหน่วยเป็ นกิโลกรัม (kg)
                                    g = ความเร่ งเนืองจากแรงโน้มถ่วงของโลก มี
                                         ค่าประมาณ 9.8 m/sce2
             ∴   วัตถุมีมวล 1 kg จะมีนาหนัก
                                      ํ           = 1 kg   ×   9.8 m/ sce2
                                                 = 9.8 kg.m/ sce2
                                                 = 9.8 N
ตารางแสดงค่ าแรงโน้ มถ่ วงของโลกทีกระทําต่ อมวลวัตถุทีระดับต่ าง ๆ


         ระยะทางจากจุดศูนย์ กลางของโลก                    ค่ าแรงโน้ มถ่ วงของโลก
                     (กิโลกรัม)                      (จํานวนเท่ าของแรงทีพืนผิวโลก)
                    1 × 6,370*                                        1
                    2 × 6,370                                         1/4
                    3 × 6,370                                         1/9
                    4 × 6,370                                        1/16
                    5 × 6,370                                        1/25
                    6 × 6,370                                        1/36
                    7 × 6,370                                        1/49
                     8 × 6,370                                       1/64
                    9 × 6,370                                        1/81
                    10 × 6,370                                       1/100
              * รัศมีของโลก
          เมือเขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างระยะทางจากจุดศูนย์กลางของโลก และค่าแรง
โน้มถ่วงของโลก โดยให้แกนตังแสดงค่าแรงโน้มถ่วงของโลกและแกนนอนแสดงระยะทางจาก
จุดศูนย์กลางของโลก ระยะทางจากจุดศูนย์กลางของโลก 11 × 6,730 กิโลเมตร
         ค่าแรงโน้มถ่วงของโลกจะเป็ น 1 / 121 เท่าของแรงทีพืนผิวโลก
                          ่
         จากตารางสรุ ปได้วา
           1. แรงโน้มถ่วงของโลกทีกระทําต่อมวลของวัตถุระดับความสู งต่าง ๆ กันของโลก
แปรผกผันกับกําลังสองของระยะทางจากวัตถุถึงจุดศูนย์กลางของโลก
                                                            ่ ั
               2. แรงโน้มถ่วงของโลกทีกระทําต่อมวลวัตถุขึนอยูกบมวลของวัตถุและระยะ
             ั
ระหว่างวัตถุกบจุดศูนย์กลางของโลก
การเคลือนทีแบบโพรเจกไทล์
                เมือปล่อยให้วตถุตกแบบเสรี ทีความสู งระดับหนึง การเคลือนทีของวัตถุจะอยูใน
                                ั                                                              ่
แนวดิงซึ งเป็ นการเคลือนทีในแนวตรง ส่ วนในกรณี ทีวัตถุถูกทําให้เริ มเคลือนทีไปในแนวระดับนัน
ขณะเดียวกันจะตกแบบเสรี ดวยการเคลือนทีตกลงสู่ พืนของวัตถุจะอยูในแนวโค้ง ซึ งเรี ยกลักษณะการ
                              ้                                          ่
                                                                             ่
เคลือนทีกรณี หลังนีว่าการเคลือนทีแบบโพรเจกไทล์นกเรี ยนจะเห็นได้วาวัตถุซึงเคลือนทีแบบโพรเจก
                                                         ั
ไทล์นนประกอบด้วยการเคลือนทีทังในแนวดิงและแนวระดับพร้อม ๆ กัน
         ั
           การเคลือนทีแบบวงกลม
                เมือนักเรี ยนนําเชือกผูกกับวัตถุแล้วเหวียงเป็ นวงกลม ดังภาพนักเรี ยนจะพบว่าขณะที
                                                 นักเรี ยนเหวียงวัตถุนนเชื อกทีผูกติดกับวัตถุจะขึงตึง
                                                                       ั
                                                 ตลอดเวลาทังนีเพราะเราออกแรงตึงเชือกและเชื อกก็
                                                 ออกแรงดึงวัตถุแรงทีเกิดขึนในเส้นเชือกนีเราเรี ยกว่า
                                                 แรงตึงเชือก (T) และทิศทางของแรงตึงเชื อกทีกระทํา
                                                 ต่อวัตถุ จะมีทิศพุงเข้าสู่ จุดศูนย์กลางของการเคลือนที
                                                                   ่
                                                 ซึ งเราเรี ยกลักษณะการเคลือนทีเช่นนี ว่า การเคลือนที
                                                 แบบวงกลมวัตถุจะเคลือนทีแบบนีได้ตองมีแรงกระทํา
                                                                                          ้
                                                 ต่อวัตถุในทิศทางพุงเข้าสู่ จุดศูนย์กลางของการเคลือนที
                                                                     ่
เสมอตัวอย่างการเคลือนทีแบบวงกลมคือชิงช้าสวรรค์มอเตอร์ ไซค์ไต่ถงรถเลียวโค้งดาวเทียมโคจรโลก
                                                                           ั
           การเคลือนทีบนทางโค้ ง
                รถยนต์หรื อรถจักรยานซึ งแล่นบนถนนราบตรงจะมีแรงเสี ยดทานระหว่างยางรถกับ
พืนถนนในทิศเดียวกันกับการเคลือนที ซึ งช่วยให้รถยนต์เคลือนทีไปข้างหน้า แต่เมือรถเลียวโค้ง
จะต้องมีแรงสู่ ศูนย์กลางกระทําต่อรถ มิฉะนันแนวการเคลือนทีของรถจะยังคงต้องเป็ นเส้นตรงนันคือ
รถจะแล่นออกนอกทางโค้งทีเรี ยกกันทัวไปว่ารถแหกโค้ง ในกรณี ทีรถสามารถแล่นเลียวโค้งได้
แสดงว่ามีแรงเสี ยดทานระหว่างยางรถกับพืนถนนในแนวทีพุงเข้าสู่ ศูนย์กลางของการเลียวโค้ง
                                                                 ่
แรงสู่ ศูนย์กลางทีทําให้รถแล่นเลียวโค้ง คือแรงเสี ยดทาน
           การเคลือนทีแบบซิมเปิ ลฮาร์ มอนิก
                  ลักษณะของการเคลือนทีแบบฮาร์ มอนิกอย่างง่าย จะเป็ นการเคลือนทีทีมีลกษณะ     ั
พิเศษ คือวัตถุจะเคลือนทีกลับไปกลับมาทีเราเรี ยกว่า แกว่ง หรื อ สัน การเคลือนทีแบบนีจะเป็ นการ
             ่
เคลือนทีอยูในช่วงสันๆ มีขอบเขตจํากัด เราเรี ยกว่า แอมพลิจูด (Amplitude) โดยนับจากตําแหน่งสมดุล
       ่
ซึ งอยูตรงจุดกลางวัดไปทางซ้ายหรื อขวา เช่น การแกว่งของชิงช้า หรื อยานไวกิงในสวนสนุก
การเคลือนทีแบบวงกลม
                เป็ นการเคลือนทีของวัตถุรอบจุดๆหนึง โดยมีรัศมีคงที การเคลือนทีเป็ นวงกลม ทิศทาง
ของการเคลือนทีจะเปลียนแปลงตลอดเวลา ความเร็ วของวัตถุจะเปลียนไปตลอดเวลา ทิศของแรงที
กระทําจะตังฉากกับทิศของการเคลือนทีแรงทีกระทําต่อวัตถุจะมีทิศทางเข้าสู่ ศูนย์กลาง เราจึงเรี ยกว่า
“แรงสู่ ศูนย์กลาง” ในขณะเดียวกัน จะมีแรงต้านทีไม่ให้วตถุเข้าสู่ ศูนย์กลาง เราเรี ยกว่า “แรงหนี
                                                       ั
ศูนย์กลาง” แรงหนีศูนย์กลางจะเท่ากับแรงสู่ ศูนย์กลาง วัตถุจึงจะเคลือนทีเป็ นวงกลมได้
การเคลื่อนที่ของวัตถุ

Contenu connexe

Tendances

สมบัติของคลื่น
สมบัติของคลื่นสมบัติของคลื่น
สมบัติของคลื่นbenjamars nutprasat
 
แบบสัมภาษณ์โครงการประเมินสภาวะพฤติกรรมสุขภาพ
แบบสัมภาษณ์โครงการประเมินสภาวะพฤติกรรมสุขภาพแบบสัมภาษณ์โครงการประเมินสภาวะพฤติกรรมสุขภาพ
แบบสัมภาษณ์โครงการประเมินสภาวะพฤติกรรมสุขภาพสำเร็จ นางสีคุณ
 
โครงงานอาชีพม.ปลาย
โครงงานอาชีพม.ปลายโครงงานอาชีพม.ปลาย
โครงงานอาชีพม.ปลายratchadaphun
 
การเป็นพิธีการมืออาชีพ
การเป็นพิธีการมืออาชีพการเป็นพิธีการมืออาชีพ
การเป็นพิธีการมืออาชีพYaowaluck Promdee
 
ข้อสอบ มข.51 v2
ข้อสอบ มข.51 v2ข้อสอบ มข.51 v2
ข้อสอบ มข.51 v2aatjima
 
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 2
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 2เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 2
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 2Thanawut Rattanadon
 
บทบาทพยาบาลไตเทียมกับการป้องกันและการจัดการภาวะน้ำเกินของผู้ป่วย
บทบาทพยาบาลไตเทียมกับการป้องกันและการจัดการภาวะน้ำเกินของผู้ป่วยบทบาทพยาบาลไตเทียมกับการป้องกันและการจัดการภาวะน้ำเกินของผู้ป่วย
บทบาทพยาบาลไตเทียมกับการป้องกันและการจัดการภาวะน้ำเกินของผู้ป่วยChutchavarn Wongsaree
 
โครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน ประจำปีงบประมาณ-พ.ศ.-2557
โครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน ประจำปีงบประมาณ-พ.ศ.-2557โครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน ประจำปีงบประมาณ-พ.ศ.-2557
โครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน ประจำปีงบประมาณ-พ.ศ.-2557Pu Veravan
 
02การนับศักราช
02การนับศักราช02การนับศักราช
02การนับศักราชJulPcc CR
 
เกณฑ์การพิจารณาให้คะแนน การประกวดนิทรรศการทางวิชาการ
เกณฑ์การพิจารณาให้คะแนน การประกวดนิทรรศการทางวิชาการเกณฑ์การพิจารณาให้คะแนน การประกวดนิทรรศการทางวิชาการ
เกณฑ์การพิจารณาให้คะแนน การประกวดนิทรรศการทางวิชาการDuangnapa Inyayot
 
1 แบบฟอร์มการเขียนโครงการทั่วไป
1 แบบฟอร์มการเขียนโครงการทั่วไป1 แบบฟอร์มการเขียนโครงการทั่วไป
1 แบบฟอร์มการเขียนโครงการทั่วไปPreecha Asipong
 
เครื่องมือแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 3 มี.ค.56
เครื่องมือแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 3 มี.ค.56เครื่องมือแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 3 มี.ค.56
เครื่องมือแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 3 มี.ค.56krupornpana55
 
เล่ม 2 สมการเคมี
เล่ม 2 สมการเคมีเล่ม 2 สมการเคมี
เล่ม 2 สมการเคมีPreeyapat Lengrabam
 
คำกล่าวรายงาน คำกล่าวปิด
คำกล่าวรายงาน คำกล่าวปิดคำกล่าวรายงาน คำกล่าวปิด
คำกล่าวรายงาน คำกล่าวปิดkrisdika
 
ตาราง สัปดาห์ 1
ตาราง สัปดาห์ 1ตาราง สัปดาห์ 1
ตาราง สัปดาห์ 1koostudy
 
ตัวอย่างการทำslide
ตัวอย่างการทำslideตัวอย่างการทำslide
ตัวอย่างการทำsliderubtumproject.com
 

Tendances (20)

สมบัติของคลื่น
สมบัติของคลื่นสมบัติของคลื่น
สมบัติของคลื่น
 
แบบสัมภาษณ์โครงการประเมินสภาวะพฤติกรรมสุขภาพ
แบบสัมภาษณ์โครงการประเมินสภาวะพฤติกรรมสุขภาพแบบสัมภาษณ์โครงการประเมินสภาวะพฤติกรรมสุขภาพ
แบบสัมภาษณ์โครงการประเมินสภาวะพฤติกรรมสุขภาพ
 
โครงงานอาชีพม.ปลาย
โครงงานอาชีพม.ปลายโครงงานอาชีพม.ปลาย
โครงงานอาชีพม.ปลาย
 
การเป็นพิธีการมืออาชีพ
การเป็นพิธีการมืออาชีพการเป็นพิธีการมืออาชีพ
การเป็นพิธีการมืออาชีพ
 
ข้อสอบ มข.51 v2
ข้อสอบ มข.51 v2ข้อสอบ มข.51 v2
ข้อสอบ มข.51 v2
 
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 2
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 2เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 2
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 2
 
บทบาทพยาบาลไตเทียมกับการป้องกันและการจัดการภาวะน้ำเกินของผู้ป่วย
บทบาทพยาบาลไตเทียมกับการป้องกันและการจัดการภาวะน้ำเกินของผู้ป่วยบทบาทพยาบาลไตเทียมกับการป้องกันและการจัดการภาวะน้ำเกินของผู้ป่วย
บทบาทพยาบาลไตเทียมกับการป้องกันและการจัดการภาวะน้ำเกินของผู้ป่วย
 
โครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน ประจำปีงบประมาณ-พ.ศ.-2557
โครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน ประจำปีงบประมาณ-พ.ศ.-2557โครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน ประจำปีงบประมาณ-พ.ศ.-2557
โครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน ประจำปีงบประมาณ-พ.ศ.-2557
 
02การนับศักราช
02การนับศักราช02การนับศักราช
02การนับศักราช
 
เกณฑ์การพิจารณาให้คะแนน การประกวดนิทรรศการทางวิชาการ
เกณฑ์การพิจารณาให้คะแนน การประกวดนิทรรศการทางวิชาการเกณฑ์การพิจารณาให้คะแนน การประกวดนิทรรศการทางวิชาการ
เกณฑ์การพิจารณาให้คะแนน การประกวดนิทรรศการทางวิชาการ
 
อัตราเร็ว (Speed)
อัตราเร็ว (Speed)อัตราเร็ว (Speed)
อัตราเร็ว (Speed)
 
ใบความรู้โครงงานคุณธรรม
ใบความรู้โครงงานคุณธรรมใบความรู้โครงงานคุณธรรม
ใบความรู้โครงงานคุณธรรม
 
1 แบบฟอร์มการเขียนโครงการทั่วไป
1 แบบฟอร์มการเขียนโครงการทั่วไป1 แบบฟอร์มการเขียนโครงการทั่วไป
1 แบบฟอร์มการเขียนโครงการทั่วไป
 
เครื่องมือแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 3 มี.ค.56
เครื่องมือแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 3 มี.ค.56เครื่องมือแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 3 มี.ค.56
เครื่องมือแบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 3 มี.ค.56
 
เล่ม 2 สมการเคมี
เล่ม 2 สมการเคมีเล่ม 2 สมการเคมี
เล่ม 2 สมการเคมี
 
คำกล่าวรายงาน คำกล่าวปิด
คำกล่าวรายงาน คำกล่าวปิดคำกล่าวรายงาน คำกล่าวปิด
คำกล่าวรายงาน คำกล่าวปิด
 
5.สูตรการหาความน่าจะเป็น
5.สูตรการหาความน่าจะเป็น5.สูตรการหาความน่าจะเป็น
5.สูตรการหาความน่าจะเป็น
 
ตาราง สัปดาห์ 1
ตาราง สัปดาห์ 1ตาราง สัปดาห์ 1
ตาราง สัปดาห์ 1
 
ตัวอย่างการทำslide
ตัวอย่างการทำslideตัวอย่างการทำslide
ตัวอย่างการทำslide
 
แผนผังขบวบวนพาเหรด
แผนผังขบวบวนพาเหรดแผนผังขบวบวนพาเหรด
แผนผังขบวบวนพาเหรด
 

En vedette

เรื่องที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆเรื่องที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆthanakit553
 
การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่พัน พัน
 
บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ
บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆบทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ
บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆThepsatri Rajabhat University
 
บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์
บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์
บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์Thepsatri Rajabhat University
 
บทที่ 2 การเคลื่อนที่แนวตรง
บทที่ 2 การเคลื่อนที่แนวตรงบทที่ 2 การเคลื่อนที่แนวตรง
บทที่ 2 การเคลื่อนที่แนวตรงThepsatri Rajabhat University
 
ใบความรู้เรื่องแสง
ใบความรู้เรื่องแสงใบความรู้เรื่องแสง
ใบความรู้เรื่องแสงพัน พัน
 

En vedette (6)

เรื่องที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆเรื่องที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
เรื่องที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
 
การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่
 
บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ
บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆบทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ
บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ
 
บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์
บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์
บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์
 
บทที่ 2 การเคลื่อนที่แนวตรง
บทที่ 2 การเคลื่อนที่แนวตรงบทที่ 2 การเคลื่อนที่แนวตรง
บทที่ 2 การเคลื่อนที่แนวตรง
 
ใบความรู้เรื่องแสง
ใบความรู้เรื่องแสงใบความรู้เรื่องแสง
ใบความรู้เรื่องแสง
 

Similaire à การเคลื่อนที่ของวัตถุ

แรง มวล กฎการเคลื่อนที่
แรง  มวล  กฎการเคลื่อนที่แรง  มวล  กฎการเคลื่อนที่
แรง มวล กฎการเคลื่อนที่Janesita Sinpiang
 
บทที่ 3 แรง มวล และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
บทที่ 3 แรง มวล และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันบทที่ 3 แรง มวล และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
บทที่ 3 แรง มวล และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันThepsatri Rajabhat University
 
เจษฎา
เจษฎาเจษฎา
เจษฎาsupphawan
 
ความเร็ว
ความเร็วความเร็ว
ความเร็วLai Pong
 
Big ฟิสิกส์ F1
Big ฟิสิกส์ F1Big ฟิสิกส์ F1
Big ฟิสิกส์ F1weerawat pisurat
 
สนามของแรง
สนามของแรงสนามของแรง
สนามของแรงTaweesak Poochai
 
ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่
ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่
ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่menton00
 
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุนการเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุนpumarin20012
 
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันมวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันธงชัย ควรคนึง
 
บทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
บทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันบทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
บทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันThepsatri Rajabhat University
 
บทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
บทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันบทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
บทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันThepsatri Rajabhat University
 
สรุป วิทยาศาสตร์ ว 23102
สรุป วิทยาศาสตร์ ว 23102สรุป วิทยาศาสตร์ ว 23102
สรุป วิทยาศาสตร์ ว 23102Foam Watiboonruang
 

Similaire à การเคลื่อนที่ของวัตถุ (20)

Ppt newton's law
Ppt newton's lawPpt newton's law
Ppt newton's law
 
Brands physics
Brands physicsBrands physics
Brands physics
 
แรง มวล กฎการเคลื่อนที่
แรง  มวล  กฎการเคลื่อนที่แรง  มวล  กฎการเคลื่อนที่
แรง มวล กฎการเคลื่อนที่
 
Ppt newton's law
Ppt newton's lawPpt newton's law
Ppt newton's law
 
บทที่ 3 แรง มวล และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
บทที่ 3 แรง มวล และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันบทที่ 3 แรง มวล และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
บทที่ 3 แรง มวล และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
 
เจษฎา
เจษฎาเจษฎา
เจษฎา
 
ความเร็ว
ความเร็วความเร็ว
ความเร็ว
 
Kraft Och RöRelse Thai
Kraft Och RöRelse ThaiKraft Och RöRelse Thai
Kraft Och RöRelse Thai
 
Big ฟิสิกส์ F1
Big ฟิสิกส์ F1Big ฟิสิกส์ F1
Big ฟิสิกส์ F1
 
Phy
PhyPhy
Phy
 
Momentum
MomentumMomentum
Momentum
 
สนามของแรง
สนามของแรงสนามของแรง
สนามของแรง
 
ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่
ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่
ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่
 
5a95945a4c8772000a29fbc3
5a95945a4c8772000a29fbc35a95945a4c8772000a29fbc3
5a95945a4c8772000a29fbc3
 
mahin
mahinmahin
mahin
 
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุนการเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุน
 
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันมวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
 
บทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
บทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันบทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
บทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
 
บทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
บทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันบทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
บทที่ 3 แรง และ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
 
สรุป วิทยาศาสตร์ ว 23102
สรุป วิทยาศาสตร์ ว 23102สรุป วิทยาศาสตร์ ว 23102
สรุป วิทยาศาสตร์ ว 23102
 

Plus de dnavaroj

เอกสารประกอบการอบรม Analysis
เอกสารประกอบการอบรม Analysisเอกสารประกอบการอบรม Analysis
เอกสารประกอบการอบรม Analysisdnavaroj
 
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา โรงเรีย...
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา  โรงเรีย...บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา  โรงเรีย...
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา โรงเรีย...dnavaroj
 
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559dnavaroj
 
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...dnavaroj
 
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.dnavaroj
 
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5   2558แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5   2558
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558dnavaroj
 
Science.m.3.2
Science.m.3.2Science.m.3.2
Science.m.3.2dnavaroj
 
Science.m.3.1
Science.m.3.1Science.m.3.1
Science.m.3.1dnavaroj
 
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)dnavaroj
 
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้dnavaroj
 
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้dnavaroj
 
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกัน
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกันการสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกัน
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกันdnavaroj
 
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่า
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่าการยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่า
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่าdnavaroj
 
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมแบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมdnavaroj
 
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมแบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมdnavaroj
 
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศแบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศdnavaroj
 
แบบทดสอบ สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอวกาศ
แบบทดสอบ สาระที่ 7    ดาราศาสตร์และอวกาศแบบทดสอบ สาระที่ 7    ดาราศาสตร์และอวกาศ
แบบทดสอบ สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอวกาศdnavaroj
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)dnavaroj
 
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5  (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5  (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)dnavaroj
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)dnavaroj
 

Plus de dnavaroj (20)

เอกสารประกอบการอบรม Analysis
เอกสารประกอบการอบรม Analysisเอกสารประกอบการอบรม Analysis
เอกสารประกอบการอบรม Analysis
 
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา โรงเรีย...
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา  โรงเรีย...บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา  โรงเรีย...
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา โรงเรีย...
 
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559
 
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...
 
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.
 
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5   2558แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5   2558
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558
 
Science.m.3.2
Science.m.3.2Science.m.3.2
Science.m.3.2
 
Science.m.3.1
Science.m.3.1Science.m.3.1
Science.m.3.1
 
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
 
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้
 
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้
 
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกัน
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกันการสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกัน
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกัน
 
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่า
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่าการยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่า
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่า
 
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมแบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
 
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมแบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
 
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศแบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
 
แบบทดสอบ สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอวกาศ
แบบทดสอบ สาระที่ 7    ดาราศาสตร์และอวกาศแบบทดสอบ สาระที่ 7    ดาราศาสตร์และอวกาศ
แบบทดสอบ สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอวกาศ
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
 
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5  (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5  (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
 

การเคลื่อนที่ของวัตถุ

  • 1. ใบความรู้ เรือง การเคลือนทีของวัตถุ การเคลือนที เป็ นผลจากแรงทีไปกระทําต่อวัตถุแล้วทําให้วตถุเคลือนทีไป ปริ มาณทีเกียวข้อง ั กับการเคลือนที เช่น ระยะทาง เวลา อัตราเร็ ว อัตราเร่ ง ตัวอย่างการเคลือนทีในหนึงมิติการเคลือนที ของรถยนต์ เริมต้ น เมือเคลือนที การเคลือนทีของรถยนต์ ไปข้ างหน้ าในแนวเส้ นตรง การปล่ อยวัตถุให้ ตกในแนวดิง เมือปล่อยวัตถุให้ตกในแนวดิง จะเห็นว่าวัตถุจะเคลือนทีได้ระยะทางมากขึนเมือเวลาผ่านไป นานขึน เนืองจากแรงดึงดูดของโลกจะทําให้วตถุมีความเร่ งในการเคลือนที ดังรู ป ั การปล่อยวัตถุให้ตกในแนวดิงจะมีแรงดึงดูด ของโลกมาเกียวข้องทําให้วตถุตกให้เร็ วขึน ั
  • 2. การโยนวัตถุขึนตรง ๆ เมือโยนวัตถุขึนตรง ๆ จะเห็นว่าวัตถุจะเคลือนทีได้ระยะทางน้อยลงเมือเวลาผ่านไป นานขึน เนืองจากต้องเคลือนทีต้านแรงดึงดูดของโลก การโยนลูกบอลขึนตรง ๆ ลูกบอล จะเคลือนทีต้านแรงดึงดูดของโลก ดังนัน การเคลือนทีจึงหมายถึง การเปลียนแปลงตําแหน่งของวัตถุต่าง ๆ เมือเวลาเปลียนไป การสั นและแกว่ งของวัตถุ การเคลือนทีในแนวดิง หมายถึงการปล่อยให้วตถุตกลงสู่ พืนดินโดยไม่มีแรงใดมากระทํา ั ่ ต่อวัตถุนนไม่วาจะเป็ นผลัก แรงต้าน เรี ยกการตกแบบนีเรี ยกว่าการตกอย่างอิสระ เช่นการตกของผลไม้ ั ทีหลุดจากขัวลงสู่ พืนดิน การตกแบบอิสระนีจะมีแรงทีมาเกียวข้อง คือ แรงโน้มถ่วงของโลก ทําให้วตถุตกลงสู่ พืน ั โลกเกิดความเร่ งประมาณ 9.8 เมตร/วินาที2 นันคือการตกของวัตถุมีความเร็ วไม่คงทีจะเปลียนไป ทุกวินาที กล่าวคือวัตถุจะมีความเร็ วเพิมขึน และจะมีความเร็ วทีมากทีสุ ดตอนกระทบพืนโลก การเคลือนทีในแนวดิงทีคุนเคยกันมาก คือ การตกของวัตถุลงสู่ พืนโลกหรื อการโยนวัตถุ ้ ขึนไปตรง ๆ ในแนวดิงนันเอง โดยทัวไปการตกของวัตถุทุกชนิดจะมีแรงต้านของอากาศ ซึ งจะมาก ่ ั หรื อน้อยขึนอยูกบรู ปร่ างและอัตราเร็ วของวัตถุ ถ้าวัตถุมีมวลมากและรู ปทรงทีเหมาะสม เช่นทรงกลม ่ ทรงรี และตกจากทีไม่สูงมากนัก แรงต้านจากอากาศจะมีนอยมาก ถือได้วาไม่มีผลต่อการตกของวัตถุ ้
  • 3. ในการเคลือนทีของวัตถุทีตกอย่างอิสระ สามารถพิจารณาได้ดงนี ั วัตถุตกจากทีสู งจะมีแรงชนิดหนึงทีเรี ยกกันว่าแรงโน้มถ่วงของโลก ทําให้วตถุตกลงมาด้วย ั ความเร่ งคงตัวเท่ากับ 9.8 เมตรต่อวินาที2 เพือความเหมาะสมในการคํานวณ ความเร่ งคงตัวทีเกิดจาก แรงโน้มถ่วงของโลกทีเราอาจให้เท่ากับ 10 เมตรต่อวินาที2 ก็ได้ ถ้านักเรี ยนโยนวัตถุขึนไปตรง ๆ นักเรี ยนจะพบว่าวัตถุเคลือนทีช้าลงเรื อย ๆ จนหยุด และ ตกลงมาไม่วานักเรี ยนจะออกแรงโยนวัตถุขนาดไหนก็ตาม จะแตกต่างกันทีว่า ถ้าออกแรงมากวัตถุก็ ่ จะขึนไปสู งมาก ถ้าออกแรงน้อยวัตถุก็จะขึนไปสู งน้อยกว่าทีเป็ นเช่นนีเพราะว่ามีแรงโน้มถ่วงของโลก มากรทําต่อวัตถุ ซึ งพิจารณาได้เป็ น 2 ลักษณะ คือ 1. ขณะทีวัตถุเคลือนทีขึนในอากาศ จะถูกแรงโน้มถ่วงของโลกทําให้เกิดความเร่ ง – 9.8 เมตรต่อวินาที2 (ความเร่ งมีเครื องหมายลบ ก็คือความหน่วงนันเอง) ทําให้วตถุเคลือนทีช้าลงอย่าง ั สมําเสมอจนหยุดทีจุดสู งสุ ด คือมีอตราเร็ วเป็ นศูนย์ ั 2. ขณะทีวัตถุเคลือนทีลงจะถูกแรงโน้มถ่วงของโลกมากระทําให้วตถุเกิดความเร่ งเท่ากับ ั 9.8 เมตรต่อวินาที2 จนกระทังวัตถุตกลงสู่ พืนดิน กฎแห่ งความโน้ มถ่ วงของโลก กฎแห่งความโน้มถ่วงของโลก กล่าวว่า วัตถุทุกชนิดล้วนมีแรงดึงดูดซึ งกันและกัน กฎนีค้นพบโดย ไอแซกนิวตัน (พ.ศ. 2485 – 2270) แรงโน้ มถ่ วงของโลก (Gravitation Force) แรงโน้มถ่วงของโลก คือ แรงดึงดูดทีมวลของโลกกระทํากับมวลของวัตถุเพือดึงดูดวัตถุนนั เข้าสู่ ศูนย์กลางโลก โดยทีมวลของโลกคงที ดังนันแรงดึงดูดของโลกจะเพิมมากขึนหรื อลดลงนันจึง ่ ั ขึนอยูกบมวลของวัตถุ ถ้ามวลของวัตถุเพิมขึน แรงโน้มถ่วงของโลกกับมวลของวัตถุจะมากขึน นิวตัน เป็ นหน่วยของแรงทีทําให้วตถุเกิดการเปลียนแปลง ั แรง 1 นิวตัน หมายถึง แรงทีทําให้วตถุมวล 1 กิโลกรัม เคลือนทีด้วยความเร็ ว ั 1 เมตร / (วินาที)2 F = ma เมือ F = แรง (นิวตัน หรื อ กิโลกรัม × เมตร / (วินาที)2 m = มวลของวัตถุ (กิโลกรัม) a = ความเร่ งของวัตถุ (เมตร / (วินาที)2 ่ อากาศส่ วนใหญ่ทีห่อหุ มโลกอยูไม่ลอยหนีไปในอวกาศเป็ นเพราะว่ามีแรงโน้มถ่วง ้ ของโลกซึ งแตกต่างจากดวงจันทร์ ทีเป็ นบริ วารของโลก มีอากาศห่อหุ มน้อยมาก เพราะดวงจันทร์ ้
  • 4. มีแรงโน้มถ่วงตํากว่า ่ ั ่ ั แรงโน้มถ่วงของโลก นอกจากจะขึนอยูกบขนาดของมวลวัตถุแล้ว ยังขึนอยูกบระยะห่ างจาก จุดศูนย์กลางของโลกอีกด้วย ดังตาราง นําหนักของวัตถุ (Weight) แรงโน้มถ่วงระหว่างมวลของโลกกับมวลของวัตถุชินใด มีค่าเท่ากับนําหนักของวัตถุชินนัน นันคือ นําหนักของวัตถุเกิดจากแรงโน้มถ่วงของโลกกระทําต่อ มวลของวัตถุ เขียนเป็ นความสัมพันธ์ได้ดงนี ั w = mg เมือ w = นําหนักของวัตถุ มีหน่วยเป็ นนิวตัน (N) m = มวลของวัตถุ มีหน่วยเป็ นกิโลกรัม (kg) g = ความเร่ งเนืองจากแรงโน้มถ่วงของโลก มี ค่าประมาณ 9.8 m/sce2 ∴ วัตถุมีมวล 1 kg จะมีนาหนัก ํ = 1 kg × 9.8 m/ sce2 = 9.8 kg.m/ sce2 = 9.8 N
  • 5. ตารางแสดงค่ าแรงโน้ มถ่ วงของโลกทีกระทําต่ อมวลวัตถุทีระดับต่ าง ๆ ระยะทางจากจุดศูนย์ กลางของโลก ค่ าแรงโน้ มถ่ วงของโลก (กิโลกรัม) (จํานวนเท่ าของแรงทีพืนผิวโลก) 1 × 6,370* 1 2 × 6,370 1/4 3 × 6,370 1/9 4 × 6,370 1/16 5 × 6,370 1/25 6 × 6,370 1/36 7 × 6,370 1/49 8 × 6,370 1/64 9 × 6,370 1/81 10 × 6,370 1/100 * รัศมีของโลก เมือเขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างระยะทางจากจุดศูนย์กลางของโลก และค่าแรง โน้มถ่วงของโลก โดยให้แกนตังแสดงค่าแรงโน้มถ่วงของโลกและแกนนอนแสดงระยะทางจาก จุดศูนย์กลางของโลก ระยะทางจากจุดศูนย์กลางของโลก 11 × 6,730 กิโลเมตร ค่าแรงโน้มถ่วงของโลกจะเป็ น 1 / 121 เท่าของแรงทีพืนผิวโลก ่ จากตารางสรุ ปได้วา 1. แรงโน้มถ่วงของโลกทีกระทําต่อมวลของวัตถุระดับความสู งต่าง ๆ กันของโลก แปรผกผันกับกําลังสองของระยะทางจากวัตถุถึงจุดศูนย์กลางของโลก ่ ั 2. แรงโน้มถ่วงของโลกทีกระทําต่อมวลวัตถุขึนอยูกบมวลของวัตถุและระยะ ั ระหว่างวัตถุกบจุดศูนย์กลางของโลก
  • 6. การเคลือนทีแบบโพรเจกไทล์ เมือปล่อยให้วตถุตกแบบเสรี ทีความสู งระดับหนึง การเคลือนทีของวัตถุจะอยูใน ั ่ แนวดิงซึ งเป็ นการเคลือนทีในแนวตรง ส่ วนในกรณี ทีวัตถุถูกทําให้เริ มเคลือนทีไปในแนวระดับนัน ขณะเดียวกันจะตกแบบเสรี ดวยการเคลือนทีตกลงสู่ พืนของวัตถุจะอยูในแนวโค้ง ซึ งเรี ยกลักษณะการ ้ ่ ่ เคลือนทีกรณี หลังนีว่าการเคลือนทีแบบโพรเจกไทล์นกเรี ยนจะเห็นได้วาวัตถุซึงเคลือนทีแบบโพรเจก ั ไทล์นนประกอบด้วยการเคลือนทีทังในแนวดิงและแนวระดับพร้อม ๆ กัน ั การเคลือนทีแบบวงกลม เมือนักเรี ยนนําเชือกผูกกับวัตถุแล้วเหวียงเป็ นวงกลม ดังภาพนักเรี ยนจะพบว่าขณะที นักเรี ยนเหวียงวัตถุนนเชื อกทีผูกติดกับวัตถุจะขึงตึง ั ตลอดเวลาทังนีเพราะเราออกแรงตึงเชือกและเชื อกก็ ออกแรงดึงวัตถุแรงทีเกิดขึนในเส้นเชือกนีเราเรี ยกว่า แรงตึงเชือก (T) และทิศทางของแรงตึงเชื อกทีกระทํา ต่อวัตถุ จะมีทิศพุงเข้าสู่ จุดศูนย์กลางของการเคลือนที ่ ซึ งเราเรี ยกลักษณะการเคลือนทีเช่นนี ว่า การเคลือนที แบบวงกลมวัตถุจะเคลือนทีแบบนีได้ตองมีแรงกระทํา ้ ต่อวัตถุในทิศทางพุงเข้าสู่ จุดศูนย์กลางของการเคลือนที ่ เสมอตัวอย่างการเคลือนทีแบบวงกลมคือชิงช้าสวรรค์มอเตอร์ ไซค์ไต่ถงรถเลียวโค้งดาวเทียมโคจรโลก ั การเคลือนทีบนทางโค้ ง รถยนต์หรื อรถจักรยานซึ งแล่นบนถนนราบตรงจะมีแรงเสี ยดทานระหว่างยางรถกับ พืนถนนในทิศเดียวกันกับการเคลือนที ซึ งช่วยให้รถยนต์เคลือนทีไปข้างหน้า แต่เมือรถเลียวโค้ง จะต้องมีแรงสู่ ศูนย์กลางกระทําต่อรถ มิฉะนันแนวการเคลือนทีของรถจะยังคงต้องเป็ นเส้นตรงนันคือ รถจะแล่นออกนอกทางโค้งทีเรี ยกกันทัวไปว่ารถแหกโค้ง ในกรณี ทีรถสามารถแล่นเลียวโค้งได้ แสดงว่ามีแรงเสี ยดทานระหว่างยางรถกับพืนถนนในแนวทีพุงเข้าสู่ ศูนย์กลางของการเลียวโค้ง ่ แรงสู่ ศูนย์กลางทีทําให้รถแล่นเลียวโค้ง คือแรงเสี ยดทาน การเคลือนทีแบบซิมเปิ ลฮาร์ มอนิก ลักษณะของการเคลือนทีแบบฮาร์ มอนิกอย่างง่าย จะเป็ นการเคลือนทีทีมีลกษณะ ั พิเศษ คือวัตถุจะเคลือนทีกลับไปกลับมาทีเราเรี ยกว่า แกว่ง หรื อ สัน การเคลือนทีแบบนีจะเป็ นการ ่ เคลือนทีอยูในช่วงสันๆ มีขอบเขตจํากัด เราเรี ยกว่า แอมพลิจูด (Amplitude) โดยนับจากตําแหน่งสมดุล ่ ซึ งอยูตรงจุดกลางวัดไปทางซ้ายหรื อขวา เช่น การแกว่งของชิงช้า หรื อยานไวกิงในสวนสนุก
  • 7. การเคลือนทีแบบวงกลม เป็ นการเคลือนทีของวัตถุรอบจุดๆหนึง โดยมีรัศมีคงที การเคลือนทีเป็ นวงกลม ทิศทาง ของการเคลือนทีจะเปลียนแปลงตลอดเวลา ความเร็ วของวัตถุจะเปลียนไปตลอดเวลา ทิศของแรงที กระทําจะตังฉากกับทิศของการเคลือนทีแรงทีกระทําต่อวัตถุจะมีทิศทางเข้าสู่ ศูนย์กลาง เราจึงเรี ยกว่า “แรงสู่ ศูนย์กลาง” ในขณะเดียวกัน จะมีแรงต้านทีไม่ให้วตถุเข้าสู่ ศูนย์กลาง เราเรี ยกว่า “แรงหนี ั ศูนย์กลาง” แรงหนีศูนย์กลางจะเท่ากับแรงสู่ ศูนย์กลาง วัตถุจึงจะเคลือนทีเป็ นวงกลมได้