Contenu connexe
Similaire à Tourist Behavior: International tourist behavior (20)
Tourist Behavior: International tourist behavior
- 3. วิถีชีวต
ิ
ปั จจุบนชาวฝรั่งเศสมีการแบ่งชนชั้น
ั
วรรณะน้อยลง
มีพิธีรีตองในการจัดงานเลี้ยงหรื อในบทสนทนา
่ ้
มีความคิดที่วาฐานะพื้นฐานของครอบครัวที่ดี จะทาให้กาวหน้าในการ
ทางาน
คนฝรั่งเศสเป็ นคนรักการทางาน
ชนชั้นกลางมีอิทธิ พลและบทบาทต่อเศรษฐกิจและสังคม
- 4. ครอบครัว
คนฝรั่งเศสจงรักภักดีและรักครอบครัวมาก
ปัจจุบนลักษณะครอบครัวจะเล็กลง คือมีสมาชิกเพียง 3-4 คน
ั
วัยหนุ่มสาวจะออกหางานทาในเมืองใหญ่ๆรอบฝรั่งเศส
หนุ่มสาวคิดว่าควรแต่งงานตั้งแต่อายุยงน้อย สร้างฐานะและมีบุตร
ั
ไว้สืบสกุล
- 5. อุปนิสัย
ผูหญิงชาวฝรั่งเศสเป็ นคนโรแมนติก ช่างฝัน
้
มีความฉลาดในการเลือกคู่ครอง
ผูชายในอุดมคติตองมีบุคลิกดี การงานดี
้ ้
แต่ผชายส่ วนใหญ่มองว่าผูหญิงฝรั่งเศสไร้สาระ บ้าแฟชัน เซ็กซี่ ลุ่ม
ู้ ้ ่
หลงกามารมณ์
มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว
หลังแต่งงานจะเป็ นแม่บานและเลี้ยงลูกด้วยความเต็มใจ
้
- 7. อุปนิสัย
คนฝรั่งเศสเป็ นคนมีโลกส่ วนตัวสู ง
ไม่ชอบให้ใครวิจารณ์เรื่ องการมีค่นอน
ู
้ ั ั ้
ผูชายจะปฏิบติอย่างดีกบผูหญิงที่เขารัก
ชอบปกป้ องคนรัก
ชอบผูหญิงอ่อนหวาน มีระเบียบแบบแผน
้
ไม่ชอบผูหญิงที่เก่งกล้า
้
- 8. อุปนิสัย (3.การรับประทานอาหาร)
ปั จจุบนชาวฝรั่งเศสมีนิสัยสุ รุ่ยสุ ร่าย
ั
ชอบชีวตหรู หรา เน้นการท่องเที่ยวและ
ิ
อาหารการกิน
จะรับประทานอาหาร 3-4 มื้อ ต่อวัน
โดยเฉพาะมื้อเที่ยง คือมื้อหลัก จะเริ่ มตั้งแต่
เวลา 12.00-14.00 น.
แต่ปัจจุบนการรี บเร่ งรับประทานอาหาร ทาให้
ั
ลดลงเหลือแค่1-2 มื้อเท่านั้น
พ่อครัวชาวฝรั่งเศสมีชื่อสี ยงมากในการทาอาหาร
- 9. ค่ านิยมและพฤติกรรมทางสั งคม
การพูด = คนฝรั่งเศสเป็ นคนช่างพูดและสามารถวิจารณ์ทุกสิ่ งและทุกคน
ได้ ดังนั้นการโต้เถียงกันเป็ นสิ่ งธรรมดาหรื อเป้ นกระบวนการเปลี่ยนแปลง
ทางสังคม และชอบที่จะซักถามข้อมูลจากตัวบุคคล
การทักทาย = การจับมือและการจูบแบบฝรั่งเศส (French Kiss)
การแสดงความสุ ภาพ = ชอบเงียบในบางสถานการณ์
ทัศนคติต่อชาวเอเชีย = คิดว่าคนเอเชียสุ ภาพ ฉลาด ทางานหนักและไม่
ก้าวร้าว แต่คนเอเชียยิมง่าย จนบางครั้งดูไม่มีเหตุผม ทาให้รู้สึกว่าเป็ นการ
้
เสแสร้ง เย็นชา หลอกลวงและประจบประแจง
- 10. ค่ านิยมและพฤติกรรมทางสั งคม
ภาษาท่าทาง
คนฝรั่งเศสชอบใช้ท่าทางในการพูด เช่น
– การจับมือ
เป็ นการแสดงการทักทาย คน
ฝรั่งเศสต่างจากคนอเมริ กนั
คือจะมือแบบหลวมๆ และระยะเวลาสั้น
– การแสดงท่าทางด้วยมือและนิ้ว
การจูบมือทั้งห้า หมายถึง ยอดเยียม
่
หรื อการตวัดมือไปข้างหลัง หมายถึง เรื่ องเล็กน้อยที่สามารถควบคุมได้
- 11. การพักผ่ อนและการท่ องเที่ยว
(Club Mediterranean)
แนวความคิดเรื่ องการท่องเที่ยวมาในแบบ การ
ดาเนินการของClub Mediterranean
เริ่ มในปี ค.ศ.1950 โดยชาวเบลเยียม
่ ชื่อ
Gerald Blitz
และเพื่อนชื่อ Gilbert Trigano
ได้สร้างการท่องเที่ยวแบบ Camping และสร้างบ้านพักด้วยฟาง
มีการจาลองหมู่บานเล็กๆ ริ มชายหาด โดยมีสิ่งอานวยความสะดวกพร้อมสรรพ
้
ในการดารงชีวิต
หลังจากนั้นมีการสร้างอาณาจักรในสถานที่อื่นๆอีก เช่น โมรอคโค อิสราเอล
สเปน ยูโกสลาเวีย ภูเก็ต
- 12. การพักผ่ อนและการท่ องเที่ยว (Club Mediterranean)
ในหมู่บานมีกิจกรรมมากมาย เช่นเดินป่ า เดินสารวจหมู่บาน ศึกษา
้ ้
พฤติกรรมและเรี ยนรู ้วฒนธรรมของชาวบ้าน เล่นน้ า เล่นกีฬา
ั
มีการเต้นราในตอนกลางคืน
มีอาหารพร้อมสรรพแก่นกท่องเที่ยว
ั
สถาปั ตยกรรมของหมู่บาน Club Med เหมาะกับสภาพพื้นที่น้ นๆ
้ ั
การเพิมความเป็ นกันเองแก่นกท่องเที่ยว
่ ั
- 15. วิถีชีวต
ิ
คนเยอรมันไม่มีการแบ่งชนชั้นวรรณะ
ชอบเรื่ องศิลปวัฒนธรรม สิ่ งแวดล้อม
และนิยมชองที่ผลิตในญี่ปุ่น โดยเฉพาะรถยนต์
คนเยอรมันถูกเลี้ยวดูมาอย่างมีระเบียบวินยและรู ้จกการช่วยเหลือตัวเองตั้งแต่
ั ั
เด็กๆ
รัฐบาลส่ งเสริ มเรื่ องการศึกษามาก
คนเยอรมันเลื่อมใสในศาสนามาก
ประชากรทุกคนมีการประกันสุ ขภาพเพื่อป้ องกันความเสี ยเปรี ยบทางเศรษฐกิจ
และมีการประกันการว่างงาน
- 16. วิถีชีวต (การรับประทานอาหาร)
ิ
อาหารเช้าของชาวเยอรมันเป็ น
Continental breakfast คือ
ประกอบด้วย ขนมปั งปิ้ ง กับเนยและแยม เนื้อแข็ง หรื อเนื้อ
เย็น เครื่ องดื่มเป็ นชา กาแฟ หรื อโยเกิร์ต
อาหารกลางวัน มักจะไม่นิยมปรุ งด้วยเนื้อสัตว์
แต่จะเป็ นซุป หรื อขนมที่ทาด้วยข้าวหรื อผมไม้
หรื อแพนเค้กไส้ผลไม้
หลังอาหารมักจะนัดกันไปร้านกาแฟเพื่อพูดคุยกัน
คนเยอรมันภูมิใจกับการเป็ นชาติที่ทาเค้กได้อร่ อยที่สุดในโลก
คนเยอรมันชอบดื่มเบียร์ หรื อน้ าผลไม้ ระหว่างการรับประทานอาหาร
- 17. วิถีชีวต (ธรรมชาติและสิ่ งแวดล้ อม)
ิ
คนเยอรมันให้ความสนใจกับ
ธรรมชาติและสิ่ งแวดล้อมมาก
ส่ วนหนึ่งจากรายถูกนามาใช้เพื่อการอนุรักษ์
โดยมีพรรคการเมืองใหม่เรี ยกว่า “กลุ่มสี เขียว” ที่อุทิศการทางานให้แก่การ
การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่ งแวดล้อม
มีกฎหมายด้านสิ่ งแวดล้อมมากมาย เช่น กฎหมายภาษีน้ าเสี ย
ชอบปลูกต้นไม้ในกระถางประดับหน้าต่างภายในบ้าน
ชอบให้ดอกไม้แก่กนและกัน และต้องเป็ นจานวนคู่เสมอ
ั
- 18. วิถีชีวต (กีฬาและนันทนาการ)
ิ
มีกีฬายอดนิ ยม คือฟุตบอล
ในโรงเรี ยนทุกแห่งฐานของปิ รามิด คือกีฬา
โดยรัฐบาลส่ งเสริ มอย่างจริ งจัง
การเดินเป็ นกิจกรรมยามว่างที่คนเยอรมันโปรดปราน
เห็นได้จากการแต่งเพลงเกี่ยวกับการเดินโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ยงผลิตรองเท้าและเสื้ อผ้าที่เหมาะแก่การเดิน
ั
- 19. วิถีชีวต (ศิลปวัฒนธรรม)
ิ
่
เยอรมันต่างประเทศอื่น คือไม่มีเมืองหลวงที่แท้จริ ง แม้วาเบอร์ ลิน จะเป็ น
เมืองหลวงมานานกว่า 70 ปี
วัฒนธรรมจึงกระจายไปในหลายเมืองใหญ่ เช่น มิวนิค และแฟรงค์เฟิ ร์ ต
- 20. ครอบครัว
ครอบครัวส่ วนมากมีบานหรื อห้องชุดเป็ นของตนเอง
้
ทั้งสามีและภรรยาช่วยกันทางาน ไม่ตองการมีบุตรมาก
้
คนเยอรมันร้อยละ 73 เชื่อว่ามนุษย์ตองการอยูร่วมกัน
้ ่
- 21. อุปนิสัย
มีนิสัยรักดนตรี
เป็ นคนมีคุณธรรม
่
รักงาน ไม่คอยชอบแต่งตัว
ชอบชีวิตกลางคืนที่มีการดื่มและร้องเพลงสนุกสนาน
กลัวที่สุด คือการว่างงาน และสภาวะเศรษฐกิจซบเซา
การถามไถ่เรื่ องอายุไม่น่าปิ ดบังกันในสังคมเยอรมัน
- 24. ค่ านิยม
ชอบความเสมอภาค
มีการวางแผนในอนาคตเสมอ
ชอบความเป็ นอิสระ
ชอบการพึ่งพาตนเอง
ั
สังคมอเมริ กนไม่เน้นสถานภาพ แต่จะไขว่คว้าหาสถานภาพแก่ตนเอง
่
ไม่วาวรรณะทางสังคมใด ครอบครัวฐานะใด หรื อตาแหน่งงานใด ทุกคนมี
สิ ทธิ์ในการแสวงหาสถานภาพที่ดีกว่า
- 25. ค่ านิยม
ให้คุณค่ากับเวลามาก จะไม่ปล่อยเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
ไม่ชอบการรอคอย
มีการกาหนดกิจกรรมต่างๆเสมออย่างขัดเจน
การตรงต่อเวลาเป็ นสิ่ งที่แสดงถึงการเคารพกันและกัน
- 26. พฤติกรรมทางสั งคม
ความเป็ นมิตร
– มีความเป็ นมิตรสูง
– มีความเป็ นกันเอง
– เปิ ดเผย
– การทักทายกัน เปรี ยบเป็ นการทัดเทียมกันทางสังคม
การแสดงอารมณ์
– ไม่ชอบเก็บซ่อนอารมณ์และความรู ้สึก
– จะแสดงออกชัดเจน เช่นเมื่อดีใจจะส่ งเสี ยงดัง
– สนใจสิ่ งใดจะกระตือรื อร้นเป็ นพิเศส
- 27. พฤติกรรมทางสั งคม
การพูด
– ชอบพูดเสี ยงดัง
– เวลาพูดจะมองตาผูพด การหลบตาแสดงถึงการไม่จริ งใจ
้ ู
มารยาท
– การดาเนินชีวตง่ายๆ สบายๆ ไม่เป็ นทางการ
ิ
– ไม่มีกฎเกณฑ์ทางสังคมทางด้านภาษาและมารยาทที่เคร่ งครัด
– หนุ่มสาวชอบใช้ภาษาแสลงกันมาก
– มารยาทที่ดี คือการให้โอกาสและความทัดทัยมกัน
- 28. พฤติกรรมทางสั งคม
การรับประทานอาหาร
– ชอบลองอาหารแปลกใหม่
– อาหารส่ วนมากรสจืด จึงต้องมีเครื่ องชูรสหลัก คือพริ กไทยและเกลือ
– ชอบขนมที่ทาจากน้ าตาล เช่น แพนเค้กราดด้วยน้ าเชื่อมเมเปิ้ ล
(Maple Syrup) เป็ นต้น
- 29. พฤติกรรมต้ องห้ าม
เรอในระหว่างหรื อรับประทานอาหาร
บ้วนน้ าลายหรื อถ่มลงพื้น
ไม่มองผูพดในขณะที่ฟัง
้ ู
เคี้ยวหมากฝรั่งเสี ยงดัง
ไม่ปิดปากเวลา ไอ จาม หรื อ หาว
ผิวปากเวลาเห็นผูหญิงเดินผ่าน
้
ใส่ หมวกในอาคาร
- 31. อุปนิสัย
เป็ นคนขยัน
ชอบการเรี ยนรู้ และการทางานหนัก
รู ้จกการแบ่งสรรส่ วนรายได้
ั
ยึดถือความคิดเห็นของกลุ่มมากกว่าความคิดเห็นส่ วนตัว
นับถือคนอาวุโสมากกว่าคนระดับเดียวกัน
ผูที่มีวาสนาเป็ นคนน่ายาเกรง มีสิทธิ์เหนือผูอื่น
้ ้
เป็ นคนที่มีการวางแผนการใช้เงิน
มีความกระตือรื อร้น
- 32. อุปนิสัย (หญิง-ชาย)
บทบาทระหว่างชายหญิงแตกต่างกัน
เพศชายต้องเด็ดเดี่ยว เข้มแข็ง เป็ นผูนา
้
เพศหญิงต้องอ่อนน้อมถ่อมตน สงบเสงี่ยม
คาว่า Gentleman first เหมาะสมกับสังคมของชาวญี่ปุ่นมาก
โดยเมื่อผูหญิงญี่ปุ่นไปเที่ยวต่างประเทศจะงุนงงมากว่าการได้ข้ ึนรถก่อน
้
การได้ตกอาหารก่อน เป็ นการแสดงคาว่า Lady first ในวัฒนธรรมตะวันตก
ั
เคยชินกับความปลอดภัย ปราศจากโจรผูร้าย ดังนั้นไม่ค่อยห่วงกระเป๋ าถือและ
้
สัมภาระที่ตนใช้เดินทาง
- 33. ครอบครัว
ในปั จจุบนร้อยละ 89 ของชาวญี่ปุ่นเป็ นชนชั้นกลาง
ั
มีสมาชิกในครอบครัวประมาณ 3-4 คน
มุ่งเน้นการศึกษาของลูกหลานมาก
การศึกษาที่ดีทาให้ได้งานที่ดี
ชอบเดินทางท่องเที่ยวกับสามี ภรรยา รองลงมา คือเพื่อน ญาติพี่นอง
้
แต่งงานช้าลง ผูหญิง อายุ 25 ปี ส่ วนผูชาย อายุ 28 ปี
้ ้
ระยะก่อนแต่งงานหลังจากเรี ยนจบจะนิยมท่องเที่ยว
- 34. ค่ านิยมเกียวกับการท่ องเทียว
่ ่
ชาวญี่ปุ่นเป็ นชนชาติที่นิยมการเดินทางท่องเที่ยว
เป็ นตลาดหลักที่มีคุณภาพสาหรับแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ
่
จานวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเข้ามาไทยอยูในอันดับที่ 2
คนญี่ปุ่นมีวฒนธรรมที่แตกต่างกับคนเอเชียด้วยกัน ดังนั้นจึงต้องศึกษา
ั
พฤติกรรมนักท่องเที่ยวและวัฒนธรรมเป็ นอย่างดี
ช่วงอายุที่ชอบเดินทางท่องเที่ยว คือ 20-25 ปี สาหรับผูหญิง และ
้
30-39 สาหรับผูชาย ้
- 35. พฤติกรรมทางสั งคม
ภาษาท่าทาง จะมีความหมายแฝง
ซึ่ งมีลกษณะและความหมายแตกต่างกับคนตะวันตก เช่น
ั
– การสบตาและการแสดงสี หน้า จะหลีกเลี่ยงการสบตากับคนที่พดด้วย ู
– การสบตาเป็ นการแสดงการท้าทายและความไม่อ่อนน้อม
– ่
มักทาสี หน้าราบเรี ยบไม่วายินดี เศร้า ไม่พอใจ หรื อปฏิเสธ เพราะการแสดงสี หน้า
เป็ นกิริยาไม่สุภาพ
– การยิมหรื อหัวเราะ ไม่ตอบรับว่า ใช่ หรื อ ไม่
้
– การยิม อาจหมายถึงความรู ้สึกลังเล การปฏิเสธ อึดอัด และความไม่สบายใจ
้
– การหัวเราะ อาจหมายถึงการกลบเกลื่อนความไม่รู้หรื อขบขันตนเอง
- 36. พฤติกรรมทางสั งคม
– การกัดฟั นขณะที่พด หมายถึงการใช้ความคิด
ู
อย่างหนักขณะที่พด ู
– การเกาท้ายทอย แสดงความรู้สึกเขินหรื ออาย
– การยืนมือออกมาข้างหน้าพร้อมโบกไปมาแสดงความรู้สึกเขินอาย
่
– การชี้มือที่จมูก หมายถึงตัวเอง
– การนิ่ งเงียบ ไม่ใช่การหยิง หรื อการเมินเฉย แต่อาจหมายถึง ในเชิงตอบ
่
รับ ปฏิเสธ หรื อคัดค้าน เช่น ไม่เข้าใจ ไม่รู้ เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย
– การพูดแทรก หมายถึงการก้าวร้าว ไม่สุภาพ
- 37. พฤติกรรมต้ องห้ ามทางสังคม
การสื่ อสารที่ตองห้าม
้
– อย่าตั้งคาถามด้วยคาถามว่า ทาไม เป็ นการแสดงถึงความก้าวร้าว
ไม่อ่อนน้อม และแสดงการไม่ไว้ใจ
– อย่าถามคิดอะไรอยู่ เมื่อคนญี่ปนนิ่งเงียบ เพราะไม่สุภาพ
ุ่
– อย่าถูกเนื้อต้องตัวคนญี่ปุ่นที่เราไม่สนิทด้วย เพราะทาให้เขาอึดอัด
– อย่าปฏิบติตนสนิทสนมกับคนญี่ปุ่นมากเกินไปในระหว่างการทางาน เพราะการที่ปฏิบติ
ั ั
สบายเกินไปแสดงความไม่จริ งจัง ความไม่สนใจ และความไม่เรี ยบร้อย
– ่
อย่าแสดงอารมณ์ออกมาอย่างเปิ ดเผยไม่วา เสี ยใจ ดีใจ โกรธ เป็ นต้น เพราะการควบคุม
อารมณ์ไม่ได้ แสดงการเป็ นเด็ก และความไม่น่านับถือ
– คนญี่ปนไม่ค่อยแสดงสี หน้าและทาหน้าเฉย
ุ่
– หลีกเลี่ยงการเล่าเรื่ องขบขัน โดยเฉพาะเรื่ องเพศ
- 38. รายละเอียดความสาคัญต่ างๆ ทีต้องมีในแหล่ งท่ องเทียว
่ ่
ความปลอดภัย
ความสะอาดของบ้านเมือง น้ า โรงแรมที่พกั
การบริ การทางการแพทย์
ทัศนคติของตารวจต่อนักท่องเที่ยว
มัคคุเทศก์ที่พดภาษาญี่ปุ่นได้ดี
ู
ั ่
ควรคานึ งถึงมารยาทที่ปฏิบติตอแขกชาวญี่ปุ่น
- 39. รายละเอียดความสาคัญต่ างๆ ทีต้องมีในแหล่ งท่ องเทียว
่ ่
ห้องพักควรมีภาษาญี่ปุ่น โดยเฉพาะเรื่ อง Emergency
โรงแรมควรมีหองโถงที่กว้างขวาง
้
ห้องพักควรมีอ่างอาบน้ า
ชอบนอนเตียงแยกในห้อง Twin room
ร้านอาหารสะอาด
ชอบลองอาหารท้องถิ่น
ควรมีคาอธิบายเรื่ องอาหารเป็ นภาษญี่ปุ่น
- 41. ภูมิศาสตร์
ั ่
เกาหลีใต้ต้ งอยูบนคาบสมุทรเกาหลี
่
อยูระหว่างประเทศจีน รัสเซี ย และญี่ปุ่น
แบ่งออกเป็ น 2 ประเทศ
ตามแนวเส้นขนานที่ 38 องศาเหนือ คือ
เกาหลีเหนือ หรื อสาธารณรัฐประชาธิปไตยเกาหลีเหนือ
และ เกาหลีใต้ หรื อ สาธารณรัฐเกาหลี
ภูมิประเทศส่ วนใหญ่เป็ นภูเขา ร้อยละ 70
- 42. สั ญลักษณ์ สาคัญ
ธงชาติเกาหลีมีลกษณะเป็ นสี่ เหลี่ยมผืนผ้า
ั
่
มีวงกลมตรงกลางคล้ายปลาวาฬสองตัวสลับหัวสี แดงและสี น้ าเงินอยูตรงกลาง
สี ขาว หมายถึงสันติภาพ
สี แดง หมายถึง หยาง หรื อความสุ ข สว่าง ผูชาย กลางวัน
้
สี น้ าเงิน หมายถึง หยิน หรื อความทุกข์ ความมืด ผูหญิง กลางคืน
้
มุม 4 มุม คือ - มุม 1 คือทิศตะวันออก = ฤดูใบไม้ผลิ ความอดทน ฟ้ า
- มุม 2 คือทิศเหนือ = ฤดูหนาว ความรู้ ดวงจันทร์
- มุม 3 คือทิศตะวันตก = ฤดูร้อน ความถูกต้อง ดิน
- มุม 4 คือทิศใต้ = ฤดูใบไม้ร่วง ความเป็ นธรรม ดวงอาทิตย์
- 44. อุปนิสัย
โดยทัวไปมีนิสัยฉลาดแกมโกง
่
รักษาอารยธรรม
มักพูดถึงความสาเร็ จและความภาคภูมิใจ
มีความรักชาติรุนแรง เนื่องมาจากสงครามภายในและภายนอกประเทศ
นิยมเดินทางเป็ นครอบครัว
ชอบเชื่อฟังผูอาวุโส
้
ยึดถือความกตัญํูเป็ นเรื่ องใหญ่
- 45. วิถีชีวต (การรับประทานอาหาร)
ิ
ชอบอาหารที่เป็ นข้าว
การปลูกพืชพรรณธัญญาหารลาบาก
จึงสั่งสมนิสัยการรับประทานอาหารจนหมด
อาหารประกอบด้วย ข้าวจ้าว ข้าวเหนียว ข้าวบาร์ เล่ย ์
อาหารประจาชาติที่ข้ ึนชื่อ คือ “กิมจิ”
็
บนหลังคาบ้านชาวเกาหลีกจะพบไหที่ใช้ดองกิมจิ
นิยมรับประทานอาหารประเภทปลา
นิยมรับประทานอาหารจาพวกผัดผักหลายรู ปแบบ
- 46. วิถีชีวต (การรับประทานอาหาร)
ิ
นิยมบริ โภคเนื้อวัวมากที่สุด
รสชาติอาหารจะมีรสจืดนา
อาหารทุกมื้อจะบริ โภคกับข้าว
อาหารที่โด่งดังทัวโลก คือ “เนื้ อย่างเกาหลี” หรื อ “พลูโกกิ”
่
ส่ วนมากนิยมดื่มสุ รา
อาหารเช้านิยมแบบอเมริ กา คือมี ไข่ดาว เบคอน หมูแฮม
- 47. การท่ องเทียว การนันทนาการและการเดินทาง
่
ชอบกีฬากอล์ฟ
ชอบพักโรงแรมที่สะอาด
หากเป็ นโรงแรมที่มีพนักงานพูดเกาหลีได้
จะยิงประทับใจมาก
่
มักใช้เวลากับการท่องเที่ยวประมาณ 3-5 วัน
ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวประมาณ 4000-5000 บาทต่อวัน
คาดว่าในอนาคตคนเกาหลีจะนิ ยมมาไทยกันมากขึ้น
- 48. การท่ องเทียว การนันทนาการและการเดินทาง
่
นิยมท่องเที่ยวสถานที่ท่ีสามารถส่ งเสี ยง
เอะอะ สนุกสนานได้ทุกเมื่อ
ดื่มสุ ราได้
ควรมีคาราโอเกะด้วยจะดีมาก
ชอบซื้อของที่ระลึกฝากเพื่อนฝูง
เพื่อกระชับสัมพันธ์และแสดงความมีน้ าใจ
- 50. เศรษฐกิจ
ปั จจัยหลักที่ทาให้เศรษฐกิจจีนเติบโต
– การลงทุนอสังหาริ มทรัพย์
– อุตสาหกรรมยานยนต์ / เครื่ องจักรกล / เหล็ก
– การค้าระหว่างประเทศ
จีนพยายามส่ งเสริ มการท่องเที่ยวของกลุ่มอนุภาคลุ่มแม่น้ าโขง
การท่องเที่ยวจีน (CNTA) รับเป็ นเจ้าภาพจัด China Travel
Mart เพื่อโปรโมตสิ นค้าทางการท่องเที่ยวของกล่มอนุภมิภาค ู
ADB = โครงการพัฒนาลุ่มน้ าโขงของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย
- 51. ค่ านิยมและพฤติกรรมในการท่ องเทียว
่
คนจีนร้อยละ 90 จะไปเที่ยวประเทศเอเชียด้วยกันเอง
แต่ในอนาคตอันใกล้ จะไปถล่มยุโรป
พฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวจีนจะชอบใช้จ่ายในการช้อปปิ้ งมากกว่าการจ่ายเงินมากมายไป
กับที่พกและอาหาร
ั
นักท่องเที่ยวชาวจีนที่ชอบมาจับจ่ายนั้นเขากล่าวว่า มีอายุอยูในช่วง 30-40 ปี
่
โดยประมาณ มีการศึกษาและกาลังซื้อค่อนข้างมาก
พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวชาวจีน
– ชอบผลไม้ไทย ทานเร็ ว กินง่าย อยูง่าย ทานรสจืด
่
– ชอบซื้ อเพชร พลอย ทอง / ซื้ อของฝากผูใหญ่ ้
– ชอบดูโชว์คาบาเร่
- 52. การท่ องเทียวและการเดินทาง
่
จานวนคนจีนที่ออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศในปี 2006 คาดว่าจะมีจานวน 35
ล้านคน (เพิ่มขึ้นจากปี ที่แล้วร้อยละ 12.9)
ในปี 2005 มีคนจีนจากแผ่นดินใหญ่มาเที่ยวบ้านเราประมาณ 800,000 คน (ยอด
นักท่องเที่ยวต่างประเทศในไทยทั้งหมดประมาณ 10 ล้านคน)
ช่วงเทศกาลหยุดยาววันแรงงาน (ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม) เป็ นหนึ่งในสาม
ฤดูท่องเที่ยวสาคัญของคนจีน
- 54. ค่ านิยมและพฤติกรรมทางสั งคม
ช่วงเวลามาพานักนาน
เฉลี่ยประมาณ 8-12 วัน
ชอบท่องเที่ยวกับชาวมุสลิม
ด้วยกันเอง
เดินทางในกลุ่มจานวนไม่มาก
ชอบเมืองที่มีสังคมและวัฒนธรรมหลากหลาย
มัคคุเทศก์ควรศึกษากฎและระเบียบของศาสนาอิสลามเพื่อจะได้ปฏิบติตนไม่
ั
ขัดต่อความเชื่อและศรัทธาของนักท่องเที่ยวชาวมุสลิม
- 55. ความเชื่อทีน่าสนใจ
่
นับถือพระเจ้าองค์เดียว คือ พระอัลเลาะห์ และมีศาสดาองค์สุดท้าย คือ
นบีมูฮมหมัด เชื่อเรื่ องสวรรค์ นรก อวสานของโลก และชีวิตในโลก
ั
หน้า ซึ่งไม่มีการกลับมาเกิดใหม่แต่เป็ นชีวิตใหม่ที่นิรันดร์
ส่ วนใหญ่จะไม่เดินทางช่วงเดือนถือศีลอด (รอมดอน) เพราะประกอบ
กิจทางศาสนาเป็ นเวลา 1 เดือน เป็ นช่วงเดือนที่รอคอยเพื่อแสวงหา
และขอความเมตตาจากพระอัลเลาะห์ ผูประกอบการและมัคคุเทศก์จึง
้
จาเป็ นต้องศึกษาปฏิทินชาวมุสลิมเพื่อวางแผนกิจกรรมการเดินทาง
หรื อการท่องเที่ยวไม่ให้ตรงกับเดือนดังกล่าว
- 56. ความเชื่อทีน่าสนใจ
่
ชาวมุสลิมต้องละหมาด 5 ครั้ง ในแต่ละวัน
คือ เช้า กลางวัน บ่าย ค่า และกลางคืน
จะไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เสพยาเสพติด
และไม่เล่นการพนัน
ไม่รับประทานหมู เลือด สัตว์ครึ่ งบกครึ่ งน้ า และสัตว์ที่ตายแล้ว
ก่อนนามาชาแหละ เพราะเขามีข้ นตอนการชาแหละสัตว์และ
ั
ต้องชาแหละด้วยชาวมุสลิมด้วยกันเท่านั้น
ทักทายด้วยการจับมือ เรี ยกว่า “สลาม” แล้วกล่าวภาษาอาหรับว่า
“สลามมอไลกุม”ซึ่ งมีความหมายว่า “ความสันติสุขจงมีแก่ท่าน”
ซึ่ งผูสนทนาอีกฝ่ ายต้องกล่าวแบบเดียวกัน
้
- 57. ข้ อควรระวัง
ส่ วนใหญ่จะเดินทางท่องเที่ยวเพื่อชมความยิงใหญ่ของพระเจ้า
่
่
ไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวนักท่องเที่ยว ไม่วาชายหรื อหญิง
ไม่พดเรื่ องปั ญหาการเมือง
ู
ไม่สอบถามความแตกต่างระหว่าง นิ กายซุนหนี่ ย ์ และนิกายชีอะด์
ไม่ควรถามการปฏิบติตามคาสั่งพระเจ้า
ั
ไม่ดูลายมือหรื อดูโชคชะตา เพราะเชื่อว่าชีวตถูกลิขิตไว้แล้ว
ิ
ไม่เล่าความเชื่อในศาสนาอื่นให้ฟัง
- 60. การติดต่ อสื่ อสาร (Communication)
ความพยายามที่ผส่งสารจะถ่ายทอดความคิดความต้องการให้ผรับสารได้เข้าใจ
ู้ ู้
โดยใช้คาพูด สัญลักษณ์ หรื อการกระทา
ในธุรกิจท่องเที่ยวจึงให้ความสาคัญกับการสื่ อสารมาก
หัวใจสาคัญของการสื่ อสาร คือความหมาย ที่ตองเข้าใจตรงกัน
้
ความหมายอาจแสดงออกทางสี หน้าและระดับเสี ยงได้
ผลดีอีกวิธี คือการคานึ งถึงปฏิกิริยาระหว่างคนส่ งสาร และคนรับสาร คือ
ผูส่งสารต้องฉลาด มีไหวพริ บดี เปิ ดเผย และรู ้วาผูรับสารเป็ นใคร
้ ่ ้
อุปสรรคส่ วนมาก คือด้านภาษา การช่วย คือการใช้ท่าทาง สัญลักษณ์มือ หรื อ
ให้วาดภาพ
- 61. ในธุรกิจนาเทียวนั้นการสื่ อสารได้ ผลดี
่
มีดงนี้
ั
การพยายามเห็นความสาคัญของนักท่องเที่ยว
แสดงความยินดีแล้วแต่โอกาส
ควรจะวันสาคัญของชนชาติน้ น ั
้ ่
ควรเป็ นผูรับฟั งที่ดีไม่วาจะเป็ นการสรรเสริ ญ หรื อการต่อว่าจากนักท่องเที่ยว
หากอธิ บายเกี่ยวกับตัวเลข ควรใช้กราฟประกอบการอธิ บาย
ใช้แผนที่แสดงเส้นทางเสมอ
ใช้รูปภาพประกอบคาอธิ บายถึงสื่ อแทนความหมายต่างๆ
- 62. ในธุรกิจนาเทียวนั้นการสื่ อสารได้ ผลดี มีดงนี้
่ ั
ควรเข้าใจความต้องการพื้นฐานของนักท่องเที่ยว
ควรให้เวลาในการซื้ อของที่ระลึก
ระหว่างการเดินทางควรมีเรื่ องเล่าสนุกสนาน หรื อร้องเพลงบ้าง
ควรให้เวลาในการถ่ายภาพ
รู ้จกใช้คาพูดเพื่อแสดงว่านักท่องเที่ยวมีความสาคัญ
ั
ควรให้นกท่องเที่ยวลองชิมอาหาร ลองดมหรื อเห็นสิ่ งของแปลกๆดูบาง
ั ้
มีการให้ความรู ้ดานศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ประเพณี ต่างๆ
้
- 63. ผู้ประกอบการการท่ องเทียวควรคานึงถึงสิ่ งต่ อไปนี้
่
รู ้จกนักท่องเที่ยวว่าเป็ นใคร
ั บริ การขนส่ ง
เข้าใจสภาพแวดล้อม อุปนิ สัย บริ การการสื่ อสาร
โดยทัวไปของนักท่องเที่ยว
่ บริ การส่ วนบุคคล
ควรเห็นประโยชน์ที่ บริ การภายในครัวเรื อน
นักท่องเที่ยวได้รับมากกว่า บริ การศึกษาโดยเอกชน
เน้นเรื่ องสิ นค้า
บริ การให้คาแนะนาทางธุ รกิจ
หลักทรัพย์ในการทาธุ รกิจ