สงครามโลก

1. สงคราม ปรัสเซีย กับฝรั่งเศส ในปี 1870-1871
มันเป็นไปตามแผนของอัครมหาเสนาบดีอย่าง
ออตโต ฟอน บิสมาร์ค
-การสั่งระดมพลที่รวดเร็วของปรัสเซียเพราะพร้อมที่จะทาสงครามตลอดเวลา
-ปรัสเซียยุคนั้นกองทัพแข็งแกร่งรบที่ไหนชนะที่นั่นทั้งสงครามกับเดนมาร์ก และออสเตรีย
-ในปี 1868 บัลลังก์สเปนว่างลงเพราะเกิดการปฎิวัติภายใน
ทาให้ราชวงศ์บูร์บงสายสเปนหนีกลับไปฝรั่งเศสบิสมาร์คเห็นเป็นโอกาศ
จึงยั่วยุฝรั่งเศสเพื่อให้ฝรั่งเศสก่อสงครามกับเยอรมัน
เพื่อปลุกกระแสความเป็นชาตินิยมที่จะรวบรวมดินแดนเยอรมันทั้งหมดให้เป็นปึ กแผ่น
-
ปรัสเซียต้องการใช้ความสาเร็จของสงครามกับฝรั่งเศสเพื่อดาเนินแผนต่อไปคือการรวมชาติเยอ
รมัน แน่นอนว่าจุดหมายของฝรั่งเศสที่ต้องการจะแทรกแซงในดินแดนเยอรมัน
กับจุดประสงค์ของชาวเยอรมันที่ต้องการจะรวมชาติ

2. เป้าหมายค่อนข้างต่างกันและชัดเจน
-ฝรั่งเศสถูกโดดเดี่ยวด้วยการทูตชาญฉลาดของบิสมาร์คเองที่ผูกออสเตรีย รัสเซีย อิตาลี่
สเปนเป็นพันธมิตรเพื่อกันการโดนลอบกัดจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ถ้าหากปรัสเซียทาสงครามกับฝรั่งเศสแล้วประเทศที่ปรัสเซียทาสัญญาด้วย
ล้วนแล้วแต่เคยเป็นศัตรูของฝรั่งเศสทั้งนั้นฝรั่งเศสถูกโดดเดี่ยวไม่มีพันธมิตร
แม้กระทั่งอังกฤษก็ดาเนินนโยบายอยู่อย่างโดดเดี่ยวสนใจแต่การล่าอาณานิคม
มากกว่าสนใจการต่างประเทศในทวีปยุโรป
พอฝรั่งเศสเดินไปตามเกมส์ของบิสมาร์ค ก็เกิดฟิวส์ขาดเป็นไปตามแผน
นโปเลียน 3 ประกาศสงครามต่อปรัสเซีย19 ก.ค1870
มีรัฐเยอรมันหลายรัฐเข้าร่วมกับปรัสเซียด้วยมากมาย
ตลอดสงครามฝรั่งเศสเป็นฝ่ายเพลี้ยงพล้า
เดือนสิงหาจอมพลอาซีลบาแซนของฝรั้งเศสถูกล้อมไว้ที่เมซทัพของจอมพลมักมาออง
ถอยทัพหนีไปตั้งหลักที่เซดองและเริ่มรบกับเยอรมันในbattle of sedan
จอมพลมักมาอองได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการรบจนต้องให้จอมพลเดอแวงป์ ฟอง
เป็นผู้บัญชาการแทน
นโปเลียนที่ 3 เสด็จมาแนวรบเพื่อบัญชาการรบด้วยตัวเองผลปรากฎว่าแพ้ยับ
ฝรั่งเศสเสียทหารถึง 17000คนในการรบวันเดียว
นโปเลียนที่ 3 และทหารอีก 100000กว่าคนถูกเยอรมันจับเป็นเชลย
ข่าวนี้แพร่สพัดออกไปทั่ว
ในกรุงปารีสฝ่ายสาธารณรัฐเห็นเป็นโอกาสก็ประกาศยึดกรุงปารีสและเตรัยมทาสงครามต่อต้าน
ปรัสเซียต่อไป
ในเวลาเดียวกันปรัสเซียก็เคลื่อนทัพเข้าปิดล้อทกรุงปารีสเป็นเวลาหลายเดือน

3. แม้จะมีการรวบรวมทหารฝรั่งเศสที่กระจัดกระจายมาป้องกันแต่ก็ไม่สาเร็จในเดือนตุลา
ทหารที่ตั้งมั่นในเมืองเมซของจอมพลบาแซน170000กว่าคนก็ประกาศยอมแพ้ต่อปรัสเซีย
ในช่วงที่ปรัสเซียปิดล้อมปารีสประชาชนอดอยากล้มตายจนถึงเดือนมกราคมปี 1871
ฝรั่งเศสประกาศยอมแพ้
และบิสมาร์ครวมชาติเยอรมันได้สาเร็จ
สถาปนาจักรวรรดิเยอรมนีขึ้นในพระราชวังแวร์ซายล์สถาปนาพระเจ้าวิลเฮล์มที่ 1ขึ้นเป็น
จักรพรรดิหรือไกเซอร์วิลเฮล์มที่ 1
ถ้าดูจากสงครามครั้งนี้ที่ไม่ยืดเยื้อยอมแพ้ง่ายไป
ก็เพราะ
1.คือจุดประสงค์หรืออุดมการณ์ของทั้งคู่ต่างกันเยอรมันต้องการที่รวมชาติกันอยู่แล้ว
จึงมีการวางแผนที่ซับซ้อนเป็นขั้นเป็นตอน
แล้วใช้การทาสงครามกับฝรั่งเศสเป็นขั้นตอนสุดท้าย
ถ้าใครเคยศึกษาจะรู้ว่าก่อนทาสงครามกับฝรั่งเศส
ปรัสเซียวางแผนทาสงครามกับเดนมาร์กมาก่อน
เพื่อที่จะใช้กองทัพของตัวเองชี้ให้รัฐเยอรมันทั้งหลายแหล่ดูว่ากองทัพปรัสเซียมีประสิทธิภาพ
แล้วผนวกดินแดนโฮลสไตน์-ชเลสวิกแบ่งให้ออสเตรียครึ่งนึง
2.แผนการต่อไปคือกาจัดอิทธิพลของออสเตรียที่เป็นคู่แข่งทางการเมืองของปรัสเซียในสมัยนั้น
แคว้นเยอรมันมีหลายสิบหลายร้อยแคว้นรวมถึงพวกนครรัฐอิสระแต่มี 2
แคว้นที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นาเหนือรัฐเยอรมันทั้งหลายก็คือปรัสเซียและออสเตรีย
ปรัสเซียและออสเตรียต่างกล่าวหายุยงกันไปต่างๆนาๆในข้อพิพาทการปกครองโอลสไตล์-
ชเลสวิกกล่าวหาว่าออสเตรียปลุกปลั่นคนในแคว้นให้ต่อต้านอานาจปรัสเซียต่างๆนานา
เพื่อจะเล่นไปตามเกมส์ของบิสมาร์คแผนต่อไปคือทาสงครามกับออสเตรีย
เพื่อจะชี้ดวลความเป็น1เหนือรัฐเยอรมันทั้งหลาย แรกๆแซ็กโซนี่กับบาวาเรีย2
รัฐใหญ่ของเยอรมันเข้าข้างฝ่ายออสเตรีย เพราะออสเตรียมีอิทธิพลต่อเยอรมันมาช้านาน

4. เรียกได้ว่าเคยเป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
ส่วนปรัสเซียเป็นดินแดนทางตอนเหนือค่อนไปทางตะวันออกที่เกิดจากการเก็บเล็กผสมน้อย
ผนวกดินแดนเรื่อยๆจากตระกูลโซเลิร์นหรือราชวงศ์โฮเฮนโซเลิร์น
ในขณะนั้นยังมีศักดิ์เป็นแค่เจ้าผู้ครองนครรัฐและมาบูมสุดๆก็สมัยพระเจ้าเฟเดอริคมหาราช
ที่ปฎิรูปการทหารการเมือง การปกครอง
การเก็บภาษีและอื่นๆและพระองค์ก็นาทัพปรัสเซียชนะสงคราม 7
ปีเหนือออสเตรียและพันธมิตรได้ จนถูกขนานพระนามว่าเฟเดอริคเดอะ เกรท
และมาบูมสุดขีดในยุคบิสมาร์คนี่เองที่มีกองทัพแข็งแกร่งนอกเรื่องไปเยอะ 55 ต่อๆ
คือกล่าวถึงออสเตรียที่มีอิทธิพลเหนือดินแดนเยอรมันมาช้านานในนามของจักรวรรดิโรมันอันศั
กดิ์สิทธิ์แห่งชนชาติเยอรมันก็อาจจะทาให้อิทธิพลในส่วนนี้ยังคงดูยิ่งใหญ่
เป็นมหาอานาจที่ตีคู่มากับปรัสเซียจนกลายเป็น2คู่แข่งที่สาคัญในการผนวกดินแดนเยอรมัน
ปรัสเซียไม่รอช้าผูกสนธิสัญญากับอิตาลี่(อิตาลี่ในขณะนั้นยังไม่รวมชาติ
เพราะยังอยู่ใต้อิทธิพลของออสเตรีย) โดยปรัสเซียทาสัญญาค้าประกันกับอิตาลี่
แต่จาไม่ได้ว่าชื่อสนธิสัญญาอะไร
เนื้อความก็ประมาณว่าถ้าเกิดสงครามระหว่างออสเตรียกับปรัสเซียอิตาลี่จะอยู่ฝ่ายปรัสเซีย
โดยปรัสเซียให้สัญญาว่าจะคืนดินแดนบางส่วนของออสเตรียที่เดิมเคยเป็นของอิตาลี่
ปรัสเซียส่งกองทัพบุกออสเตรียทางภาคเหนือแรกๆออสเตรียก็รบด้วยความฮึกเหิม
แต่ปรัสเซียมีอาวุธและทหารที่มีประสิทธิภาพกว่าเลยรบชนะเรื่อยๆเข้ายึดโบฮีเมียได้
แล้วก็ชนะออสเตรียเด็ดขาดที่ซาโว่าออสเตรียยอมแพ้และยอมทาสนธิสัญญาปรากกับปรัสเซีย
ด้วยการแยกออสเตรียออกจากอิทธิพลเหนือดินแดนเยอรมันทั้งปวงและปรัสเซียจัดตั้งสมาพันธ
รัฐเยอรมันภาคเหนือ แต่ปรัสเซียก็ไม่ได้ทาให้ออสเตรียเจ็บแค้นมาก
เพราะปรัสเซียยังหวังให้ออสเตรียเป็นพันธมิตรของตนต่อไป
3.ปรัสเซียโจมตีเดนมาร์กเพื่อยึดแคว้นโฮลสไตน์-ชเลสวิกเพื่อเป็นการสร้างชื่อเสียงให้ปรัสเซีย
ปรัสเซียทาสงครามกับออสเตรีย เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นาเหนือดินแดนเยอรมันทั้งปวง

5. และปรัสเซียทาสงครามครั้งสุดท้ายกับฝรั่งเศสเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการรวมชาติเยอรมัน
จะเห็นได้ว่าจริงๆแล้ว 3
สงครามที่ผ่านมาของปรัสเซียเป็นเกมส์ที่บิสมาร์คได้จงใจไว้แต่แรกแล้ว
และมันก็ดาเนินไปตามนโยบายอันซับซ้อนของบิสมาร์คอย่างลงตัว
ฝรั่งเศสเป็นแค่ไพ่ตายครั้งสุดท้ายของปรัสเซียเท่านั้น แน่นอนถ้าไม่มีกองทัพที่มีระเบียบวินัย
ปืนไรเฟิ่ล ปืนใหญ่ที่ทันสมัย
ก็ไม่มีทางที่บิสมาร์คจะทาได้สาเร็จตามนโยบายเลือดและเหล็ก
แต่ประเด็นหลักที่ฝรั่งเศสต้องยอมแพ้เพราะปารีสถูกปิดล้อมมาเป็นเวลาหลายเดือน
ประชาชนอยู่ในสภาพอดอยาก หิวโหย ล้มตายลงเป็นจานวนมาก
เพราะทุกเส้นทางรอบกรุงถูกปิดหมด
เชื่อมั้ยว่าประชาชนอดอยากถึงขนาดฆ่าหนูตามเพดานบ้านมากินเลย
สัตว์ในสวนสัตว์ก็ไม่เว้นและอากาศหนาวขาดเชื้อเพลิง
ชาวเมืองถึงกับโค่นต้นไม้มากมายตามถนนชองเซลิเซและที่บัวเดอบูโลญมากมายเพื่อเป็นเชื้อเพ
ลิง
สภาพที่ปารีสไม่ต่างอะไรกับการปิดล้อมเลนินกราดใน ww2 เลย
จัดทำโดย นายศิวกร ทองหล่อ ม.5.2 เลขที่ 11
นาย ภูวมินทร์นันตา ม.5.2เลขที่ 31
นาย ศตวรรษเซียว ม.5.2 เลขที่ 36