Contenu connexe Similaire à คู่มือการใช้โปรแกรม Power point 2007 Similaire à คู่มือการใช้โปรแกรม Power point 2007 (20) คู่มือการใช้โปรแกรม Power point 20072. Microsort Office PowerPoint เป็นโปรแกรมที่สร้างขึ้นเพื่องาน Presentation โดยเฉพาะมีความสามารถใน
การสร้างงานพรีเซนต์ได้ง่ายและรวดเร็ว สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงงานพรีเซนต์ตามความต้องการได้อย่าง
สะดวก สวยงามและเอฟเฟ็กต์ต่างๆ ก็ดึงดูดผู้ชมได้มากกว่าการพรีเซนต์รูปแบบเดิมๆ
ฟีเจอร์ใหม่ของ PowerPoint 2007
ในส่วนนี้จะกล่าวถึงว่ามีฟีเจอร์อะไรใหม่ๆ บ้างกับการพัฒนาของทาง Microsoft ที่ช่วยเพิ่ม
ประสิทธิภาพการทางานของผู้ใช้งาน ซึ่งก็มีอย่างหลายและง่ายต่อการใช้งาน พร้อมทั้งความสามารถในการ
จัดทาเอกสารให้มีรูปแบบที่สวยงามด้วยกราฟิกแบบใหม่ ซึ่งผู้เขียนขออธิบายลักษณะเด่น และ
ความสามารถที่น่าสนใจของ PowerPoint 2007 ดังนี้
อินเตอร์เฟสดู ทันสมัยใช้ง่ายกว่าเดิม
อินเตอร์ เฟสหรือหน้าจอโปรแกรมนับเป็นสิ่งแรกที่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของ PowerPoint 2007
ได้อย่างชัดเจน เนื่องจากมีการออกแบบปรับโฉมเป็นรูปแบบใหม่ทั้งหมด โดยคานึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก จึง
ทาให้สามารถเรียกใช้เครื่องมือและคาสั่งต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็วขึ้น
5. ออกแบบสไลด์ ได้อย่างมืออาชีพ
Microsoft PowerPoint 2007 ยังมีเครื่องมือที่จะช่วยให้งานพรีเซนต์ของคุณเป็นมืออาชีพได้ง่ายๆ ด้วย
การออกแบบสาเร็จรูปที่พร้อมให้เลือกอย่างจุใจ อย่างเช่น การออกแบบพื้นหลังสไลด์ด้วย Themes Design
การปรับแต่งข้อความศิลป์ด้วย Word Art Style รวมทั้งการเลือกสีสันตามใจชอบด้วย Themes Color เป็นต้น
Word Art Style
Themes Color
8. ทางาน ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากคุณมีการพรีเซนต์งานที่เกี่ยวข้องกับการนาเสนอด้วยกราฟหรือแผนภูมิ แล้วละก็ Microsoft
Office PowerPoint 2007 สามารถช่วยคุณได้ เนื่องจากโปรแกรม Power Point 2007 และ Excel 2007 จะ
ทางานร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งหรืออัพเดตข้อมูลตัวเลขในกราฟ ซึ่งสามารถทา
ได้โดยตรง โดยไม่ต้องเสียเวลาคัดลอกข้อมูลเหมือนเช่นเดิม
หลักการ ออกแบบหน้าสไลด์
ในบางครั้งผู้สร้างงาน Presentation จะมีความสงสัยว่า มีหลักการอย่างไรบ้างที่จะทาให้การสร้าง
งานนาเสนอในแต่ละหน้ามีความน่าสนใจ และถูกหลักในการออกแบบ เพื่อส่งเสริมให้งาน Presentation
สมบูรณ์ โดยทั่วไปการออกแบบหน้าสไลด์ที่ถูกต้องจะมีหลักการดังนี้
การ เลือกพื้นหลังสไลด์
พื้นหลัง (Background)
เป็นปัจจัยแรกที่ส่งผลกับการออกแบบและผู้รับข้อมูลโดยตรง เพราะถ้าพื้นหลังไม่ดี จะทาให้ดูแล้วไม่
สบายตา ดังนั้น จึงต้องมีหลักการเพื่อเป็นพื้นฐานของแนวคิดดังนี้
9. การเลือกใช้ภาพประกอบ
การเลือกใช้ภาพ เป็นการเสริมให้สไลด์ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น แต่ถ้ามีมากเกินไป จะทาให้เกิดความสับสน
กับข้อมูล ที่นาเสนอได้ ดังนั้นจึงมีวิธีการในการ เลือกใช้ภาพ ให้เหมาะสมดังนี้
1. ภาพที่นามาใช้ต้องส่งเสริมข้อความที่นาเสนอ
2. ไม่ควรมีอักษรในภาพถ้าไม่จาเป็น
3. ภาพที่นามาใช้ไม่ควรใช้ไฟล์ที่มีขนาดใหญ่มาก เพราะจะทาให้โปรแกรมทางานหนักขึ้น
การเลือกใช้ข้อความที่มีขนาดเหมาะสม
ขนาดของข้อความเป็นส่วนประกอบหนึ่ง ที่สาคัญที่จะช่วยให้การนาเสนอมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
ในการสื่อให้ผู้ที่มารับข้อมูลเข้าใจ โดยมีหลักการดังนี้
1. ตัวอักษรต้องอ่านง่าย โดยปกติตัวอักษรควรมีขนาดตั้งแต่ 36-60 Point และควรเป็นตัวหนา เพื่อจะสื่อได้
ชัดเจนมากขึ้น
2. ในหนึ่งสไลด์ไม่ควรใช้แบบตัวอักษรเกิน 2 ประเภทเพื่อความสวยงาม
การเลือกสีในการออกแบบ
สีนับว่าเป็นส่วนสาคัญของการออกแบบหน้าจอ แม้ว่าโปรแกรมจะแสดงด้วยจอสี แต่ก็ไม่ได้
หมายความว่าจะใช้สีได้ตามที่ผู้ออกแบบต้องการ ทั้งนี้เนื่องจากผู้ใช้จะต้องใช้สายตาดูจอคอมพิวเตอร์เป็น
เวลานาน ถ้าโปรแกรมนาเสนอด้วยสีร้อน (Warm Colors) อาจทาให้เกิดความระคายเคือง สายตาของผู้ใช้ได้
10. สีร้อน (Warm Color)
สีโทนร้อน คือ สีที่ให้ความหมายรื่นเริง สดชื่น ฉูดฉาด บาดอารมณ์ นับจากโทนสีเหลือง ชมพู แดง
ส้ม ม่วง น้าตาล สีเหล่านี้ให้ความหมายเร่าร้อน มีอิทธิพลต่อการดึงดูด และกระตุ้นอารมณ์ได้มากกว่าโทนสี
อื่น ๆ สีเหล่านี้จะใช้มากกับงานประเภทหัวหนังสือ นิตยสาร แคตตาล็อก ตลอดจนป้ายโฆษณาต่างๆ ซึ่งจะ
กระตุ้นความสนใจต่อผู้พบเห็นได้เร็ว
สีเย็น (Cool Colors)
เริ่ม จากสีเทา ฟ้า น้าเงิน เขียว สีโทนนี้จัดอยู่ในสีโทนเย็น ให้อารมณ์ความรู้สึกสงบ สะอาด เย็นสบาย
กฎในการออกแบบหน้าสไลด์
ในการสร้างสไลด์ในแต่ละหน้านั้น ผู้ใช้ควรมีกฎที่เป็นแนวทางในการสร้างงานนาเสนอก่อน เพื่อ
ไม่ให้เกิดความสับสน โดยพอสรุปกฎได้ดังนี้
ในแต่ละสไลด์ควรมีหัวเรื่องเพื่อบอกถึงสิ่งที่จะอธิบาย
ตัวอักษรควรใช้ขนาดใหญ่ เพื่อให้ผู้รับฟังและรับชมสามารถมองเห็นอย่างชัดเจน
ควรใช้คาสั้นๆ ที่อ่านเข้าใจง่าย เพื่อให้เกิดความน่าสนใจและน่าติดตาม
หัวข้อของเนื้อหาไม่ควรเกิน 8 บรรทัดในหนึ่งสไลด์ เพราะถ้ามีมากเกินไปจะส่งผลทาให้สื่อได้ไม่ชัดเจน
ไม่ควรนาภาพมาเป็นพื้นหลัง (Background) เพื่อจะทาให้อ่านยาก
การใส่รูปภาพสงในสไลด์ควรใช้ขนาดพอสมควรไม่ใหญ่เกินไป
11. เครื่องมือต่างๆในริบบอน
ริบบอนหน้าแรก (Home)
สาหรับริบบอนหน้าแรก (Home) จะประกอบไปด้วยปุ่มคาสั่งที่เกี่ยวกับการจัดรูปแบบตัวอักษร การ
คัดลอกข้อความ การเปลี่ยนขนาดตัวอักษร และอื่นๆ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
กลุ่มหมายเลข ความหมาย
1
ชุด คลิบบอร์ด
คัดลอก เคลื่อนย้าย และคัดลอกรูปแบบ
2
ชุด ภาพนิ่ง
แทรกสไลด์ ลบสไลด์ เค้าโครง และตั้งค่าสไลด์
3
ชุด แบบอักษร
จัดรูปแบบตัวอักษร
4
ชุด ย่อหน้า
จัดตาแหน่ง และย่อหน้า
5
ชุด รูปวาด
สาหรับวาดรูป และจัดรูปแบบรูปวาด
12. 6
ชุด การแก้ไข
ค้นหา และแทนที่ข้อความ
ริบบอนแทรก (Insert)
กลุ่มหมายเลข ความ หมาย
1
แทรก ตาราง
2
ชุด ภาพประกอบ
แทรกรูปภาพจากแฟ้ม ภาพตัดปะ อัลบั้มรูป การ
วาดรูป (Drawing) ผังองค์กร และแผนภูมิ
3
การ เชื่อมโยง
การเชื่อมโยงหลายมิติ แลกาหนดการการทา
4
ชุด ข้อความ
แทรกอักษรศิลป์ แทรกวันและเวลา แทรก
สัญลักษณ์พิเศษ เครื่องหมายการค้าลิขสิทธิ์
13. 5
ชุด มีเดียคลิป
แทรกภาพยนตร์ และเสียง
ริบบอนออกแบบ (Design)
ริบบอนนี้เป็นการรวม Background ต่างๆ เพื่อนามาช่วยในการออกแบบหน้าสไตด์ให้ดูสวยงามมากขึ้น โดย
เพียงคลิกเลือกริบบอนที่ต้องการ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
กลุ่มหมายเลข ความหมาย
1
ชุด ตั้งค่ากระดาษ
กาหนดขนาดระยะขอบเอกสารสไลด์ กาหนดการ
วางแนวหน้าสไลด์ให้เป็นแนวตั้ง
และแนวนอน
2
ชุด รูปแบบ
ชุดของลักษณะ สี และรูปแบบพื้นหลังต่างๆ ที่ใช้
ในหน้าสไลด์
3
พื้น หลัง
เปลี่ยนสีของพื้นหลังจากรูป แบบที่เลือก และซ่อน
กราฟิกพื้นหลัง
14. ริบบอนภาพเคลื่อนไหว (Animation)
ริบบอนที่รวบรวมภาพเคลื่อนไหว ( Animation) ระหว่างฉากเอาไว้ เพื่อให้ผู้ใช้งานเลือกนาไป
ประกอบการนาเสนอให้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
กลุ่มหมายเลข ความ หมาย
1
แสดง ตัวอย่าง
2
ชุด ภาพเคลื่อนไหว
เปิดหน้าต่างการเคลื่อนไหวกาหนด เอง เพื่อใช้ใน
การกาหนดรูปแบบ เคลื่อนไหว
วัตถุตามต้องการ
3
ชุด การเปลี่ยนไปยังภาพนิ่งนี้
เป็นชุดของลักษณะแบบการ เคลื่อนไหวต่างๆ ที่
ใช้ในภาพนิ่ง
4
กาหนดเสียงที่จะล่นระหว่างเปลี่ยนภาพนิ่งก่อน
หน้าและปัจจุบัน เช่น
คลิกแล้วมีเสียงพิมพ์ดีด และกาหนดความเร็วของ
ภาพเคลื่อนไหว
ที่จะเล่นระหว่างเปลี่ยนแปลงภาพนิ่ง
16. ริบบอนตรวจทาน (Review)
ริบบอนตรวจทานจะ ประกอบไปด้วยปุ่มคาสั่งที่เกี่ยวกับการตรวจทาน การสร้างข้อคิดเห็น และการป้องกัน
เอกสาร ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
กลุ่มหมายเลข ความหมาย
1
ชุด การพิสูจน์อักษร
ตรวจสอบและสะกดไวยกรณ์ของข้อ ความใน
เอกสาร
ค้นหาเกสารอ้างอิง เสนอคาแนะนา กาหนดภาษา
ในการตรวจสอบ และสะกดไวยากรณ์
2
ชุด ข้อคิดเห็น
แสดงข้อคิดเห็นและคาอธิบาย สร้างข้อคิดเห็น
เพิ่มเติม
ในส่วนที่ต้องการ แก้ไข ลบ ข้อคิดเห็น
3
ป้องกันความปลอดภัยให้ไฟล์นาเสนอ
17. ริบบอนมุมมอง ( View )
ริบบอนมุมมองจะประกอบไปด้วยปุ่มคาสั่งที่ เกี่ยวกับการเปลี่ยนมุมมอง การย่อขยาย และการจัดเรียงหน้า
ภาพนิ่ง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
กลุ่มหมายเลข ความ หมาย
11
ชุด มุมมองการนาเสนอ
เป็นการแสดงมุมมองแบบต่าง ๆ ซึ่งมีแบบปกติ
ตัวเรียงลาดับภาพนิ่ง หน้าบันทึกย่อ การนาเสนอ
ภาพนิ่ง
ต้นแบบภาพนิ่ง ต้นแบบเอกสารประกอบคา
บรรยาย
ต้นแบบบันทึกย่อ
2
แสดง/ซ่อน
แสดงหรือซ่อนไม้บรรทัด และเส้นตารางเพื่อใช้
ในการจัดเรียงวัตถุ
3
ย่อ/ขยาย
ย่อขยายภาพนิ่ง หรือจัดภาพนิ่งให้พอดีกับหน้าต่าง
4
ชุด สี/ระดับสีเทา
แสดงผลการนาเสนอภาพนิ่งเป็นแบบ 4 สี
18. 5
ชุด หน้าต่าง
เปิดหน้าต่างใหม่ที่มีมุมมองของ เอกสารใน
ปัจจุบัน จัดเรียงหน้าต่างเอกสาร
ที่เปิดไว้ทั้งหมด การเคลื่อนย้าย ตัวแยกที่คั่นอยู่ ใน
หน้าต่างโปรแกรม
6
แม โคร
การใช้งานมาโคร (ชุดเก็บคาสั่งหรือขั้นตอนการ
ทางาน
สาหรับเรียกใช้ผ่านทางคีย์ลัดหรือปุ่มคาสั่ง
ริบบอน Add-in
ริบบอน Add-in ใช้กาหนดแถบเครื่องมือตามที่ผู้ใช้งานต้องการได้เอง
มุมมอง (View) สไลด์แบบต่างๆ
ในโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2007 สามารถแสดงมุมมองเอกสารได้หลายรูปแบบ โดยแต่ละแบบมี
รายละเอียด ดังนี้
มุมมองปกติ (Normal View)
สาหรับมุมมองปกติ (Normal View) เป็นมุมมองพื้นฐานในการใช้งานของ Microsoft PowerPoint
2007 ในการเริ่มต้นใช้งานทุกครั้งผู้ใช้งานจะเห็นมุมมองนี้เป็นอย่างแรก โดยจะมีส่วนประกอบอยู่สองส่วน
ทางด้านซ้ายมือของโปรแกรมนั่นคือ แท็บภาพนิ่งและแท็บเค้าร่าง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
20. มุมมองตัวเรียงลาดับภาพนิ่ง (Slide Sorter View)
เป็นมุมมองที่แสดงภาพนิ่งทั้งหมดของการนาเสนอ โดยย่อให้ภาพนิ่งมีขนาดเล็กลง เพื่อแสดงภาพนิ่ง
ทั้งหมดภายในหน้าต่างโปรแกรม ทาให้สามารถตรวจสอบลาดับภาพนิ่ง และจัดเรียงก่อนการนาเสนอได้
อย่างถูกต้อง
มุมมองหน้าบันทึกย่อ (Notes Page View)
เป็นมุมมองที่ใช้ แสดงภาพนิ่งและกรอบบันทึกข้อความ เพื่อให้ผู้นาเสนอสามารถบันทึกรายละเอียด
คาอธิบายต่างๆ เพื่อใช้เป็น เอกสารอ้างอิง
21. มุมมองการนา เสนอภาพนิ่ง (Slide Show View)
เป็นมุมมองที่แสดงภาพนิ่งแบบเต็ม จอเหมือนกับการฉายสไลด์ โดยสามารถที่จะเปลี่ยนไปหน้าต่างๆ
รวมไปถึงแสดงภาพเคลื่อนไหวที่ได้สร้างไว้
มุมมองต้นแบบภาพนิ่ง (Slide Master View)
เป็นมุมมองที่แสดงต้นแบบโครงร่างต่างๆ ที่มีหลายองค์กรประกอบรวมกัน และทาให้งานเสนอไปใน
ทิศทางเดียวกัน เช่น ข้อความ รูปภาพ หรือกราฟิก เป็นต้น
22. มุม มองต้นแบบเอกสารประกอบคาบรรยาย (Handout Master View)
เป็นมุมมองที่แสดงต้นแบบเอกสารก่อนพิมพ์ พร้อมทั้งการแก้ไขสามารถทาได้กับต้นแบบเอกสาร
ประกอบคาบรรยาย เช่น การปรับขนาด การจัดรูปแบบ หัวกระดาษ และท้ายกระดาษ และยังสามารถตั้งค่า
กระดาษ และระบุจานวนภาพนิ่งที่จะพิมพ์ในแต่ละหน้าได้อีกด้วย
มุมมองต้นแบบบันทึกย่อ (Note Master)
เป็นมุมมองที่แสดงต้นแบบภาพนิ่ง แต่จะมีส่วนของพื้นที่ในการบันทึกข้อความเพื่อใช้ในการ
ประกอบการบรรยาย
สร้างงานพรีเซนเตชั่นแบบง่ายๆ
เมื่อได้ทราบถึง หลักการออกแบบหน้าสไลด์เพื่อการสร้างงาน Presentation กันไปแล้วให้หัวข้อนี้
ผู้เขียนจะแสดงการสร้างงาน Presentation แบบง่ายๆ ว่าจะมีขั้นตอนเบื้องต้นอย่างไรบ้าง ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
23. การเปิดโปรแกรม PowerPoint 2007
1. คลิก Start Menu
2. คลิกเลือก Programs
3. คลิก Microsoft Office
4. คลิกเลือก Microsoft PowerPoint2007
5. ปรากฏหน้าจอโปรแกรม Microsoft Office PowerPoint 2007
34. 5. เมื่อสิ้นสุดจะปรากฏหน้าจบการนาเสนอภาพนิ่ง
6. กดปุ่ม Enter บนคีย์บอร์ดอีกครั้ง ก็จะกลับเข้าสู่หน้าโปรแกรมหลัก (หากในระหว่างการปรีเซนต์ต้องการ
ออกสู่หน้าโปรแกรมหลักทันทีให้กดปุ่ม <Esc> บนคียร์บอร์ด)
การบันทึกไฟล์ PowerPoint
จากขั้นตอนสร้างงาน Presentation พร้อมทั้งทดลองตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนสุดท้าย คือ
การบันทึกไฟล์ PowerPoint ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อเรียกใช้งานในครั้งต่อไป ซึ่งการบันทึกไฟล์
PowerPoint มีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกปุ่ม (office)
2. คลิก บันทึก
36. ชื่อ ครูจริยาภรณ์ คุ้มพันธ์ ตาแหน่งครู
โรงเรียน ชุมชนวัดเสด็จ
อาเภอ เมือง จังหวัดปทุมธานี
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานี เขต 1
E-mail : aoy64@hotmail.com
www: http://www.chorsor.ac.th