SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  6
Télécharger pour lire hors ligne
ตรรกศาสตร์ (Logic)

กําหนดถือเป็ นสาระสําคัญ ข้อความหรื อการให้เหตุผลในชีวตประจําวันสามารถสร้างเป็ นรู ปแบบ
                                                         ิ
                                                                                    าง
ตรรกศาสตร์ เป็ นแม่บทของคณิ ตศาสตร์ แขนงต่าง ๆ และการประยุกต์
         ประพจน์(Statement)
ตัวอย่าง        1.                                         (เท็จ)
                2.      สนามบินสุ วรรณภูมิเปิ ดใช้ในเดือนกันยายน 2549 (จริ ง)
                3.      ประเทศไทยเฉลิมฉลอง 60 ปี ครองราช 12 มิถุนายน 2549 (จริ ง)
                4.       9 = 3 (จริ ง)

***                                     ประพจน์

เท็จได้ ไม่ เป็ นประพจน์
         1. คําอุทาน       เช่น  โธ่เอ๋ ยเวรกรรม,อุยตาย, คุณพระช่วย
                                                     ้
         2.                เช่น  อย่าส่ งเสี ยงดัง, จงแสดงวิธีทา, เดินหน้า 2 ก้าว
                                                               ํ
         3. คําขอร้อง      เช่น  ช่วยด้วย,                ,เห็นใจผมด้วย
         4. คําถาม         เช่น  ทานข้าวแล้วหรื อยัง?,
                                                                      ต่อการเขียน หรื อสะดวกต่อ
การใช้ นิยมใช้อกษรในภาษาอังกฤษแทนประพจน์ เช่น
               ั
       p แทน 2x+1=9 ; p                                x =4
       q แทน 5+9 = 12 ;q เป็ นประพจน์เป็ นเท็จ
       r แทน จังหวัดสุ โขทัยเป็ นเมืองหลวงเก่า ; rเป็ น ประพจน์เป็ นจริ ง
                                      เราใช้ในชีวิตประจําวัน หรื อใช้ในวิชาคณิ ตศาสตร์ จะมี

(Connective)
ถ้าเรามีประโยค 2 ประโยคคือ
         p แทน วั
         q

        1.
        2.
3.
       4.
                                 “และ”
        ถ้า p และ q เป็ นประพจน์ จะเรี ยกประพจน์ “p และ q ” ว่าประพจน์แบบรวมผล
(conjunction) ของ p กับ q เขียนแทนด้วย “pq”
        ค่าความจริ งของประพจน์ pq
                          p           q                         pq
                          T           T                          T ***
                          T           F                           F
                          F           T                           F
                          F           F                           F
        ตัวอย่ าง          2+2 =4 และ 2*2 = 4                           (T)
                           2*2=2 และ 2+2 = 4                            (F)
                          2*0=0 และ ศูนย์เป็ นจํานวนเฉพาะ               (F)
                          2*0 = 0                                       (F)
                                 “หรือ”
        ถ้า p และ q เป็ นประพจน์ จะเรี ยกประพจน์ “p และ q ” ว่าประพจน์แบบเลือก
(Disjunction) ของ p กับ q เขียนแทนด้วย “pq”
        ค่าความจริ งของประพจน์ pq
                          P           q                         pq
                          T           T                           T
                          T           F                           T
                          F           T                           T
                          F           F                           F ***
        ตัวอย่ าง         2 เป็ นจํานวนคู่ หรื อ 0 เป็ นจํานวนคู่           (T)
                          2 เป็ นจํานวนคู่ หรื อ 0                          (T)
                          0 เป็ นจํานวนเต็มบวก หรื อ 0 เป็ นจํานวนเต็มคู่ (T)
                          0                            0 เป็ นจํานวนเต็มบวก (F)
“ถ้ า…….แล้ว”
          ถ้า p และ q เป็ นประพจน์ จะเรี ยกประพจน์ “p และ q ”
(Conditional) ของ p กับ q เขียนแทนด้วย “pq”
          ค่าความจริ งของประพจน์ pq เขียนแทนด้วยตา
                             P          q                    pq
                             T          T                     T
                             T          F                     F ***
                             F          T                     T
                             F          F                     T
ตัวอย่ าง         ถ้า 2 เป็ นจํานวนคู่ แล้ว 4 เป็ นจํานวนคู่     (T)
                  ถ้า 2 เป็ นจํานวนคู่ แล้ว 3 เป็ นจํานวนคู่     (F)
                  ถ้า 3 เป็ นจํานวนคู่แล้ว 2 เป็ นจํานวนคู่      (T)
                   ถ้า 3 เป็ นจํานวนคู่แล้ว 2                    (T)
                                  “ …….              …….”
          ถ้า p และ q เป็ นประพจน์ จะเรี ยกประพจน์ “p และ q ”
(Biconditional) ของ p กับ q เขียนแทนด้วย “pq”
(pq) (qp)= pq
          ค่าความจริ งของประพจน์ pq
           p      q        pq pq pq (pq) (qp)                    pq
           T      T          T         T          T           T         T
           T      F          F         T           F          F         F
           F      T          F         T          T           F         F
           F      F          F         F          T           T         T
ตัวอย่ าง         4 เป็ นจํานวนคู่            4 หาร 2 ลงตัว      (T)
                  3 เป็ นจํานวนคู่           4 หาร 2 ลงตัว       (F)
                  3 เป็ นจํานวนก็          3 หาร 2 ลงตัว         (F)
                  3 เป็ นจํานวนคู่           3 หาร 2 ลงตัว       (T)
นิเสธของประพจน์
       ถ้า p เป็ นประพจน์นิเสธ(Negation or Denial) ของประพจน์ p
ตรงกันข้ามกับประพจน์ p เขียนแทนด้วย p
ค่าความจริ งของ p
                                             p             p
                                             T             F
                                             F             T
            ตัวอย่ าง
                        ให้ p                                       (T)
                            p                                      (F)
ค่ าความจริงของประพจน์



            ตัวอย่ าง       จงสร้างตารางค่าความจริ งของประพจน์ p(pq)
            วิธีทํา
                            p         q              pq         p( pq)
                        T             T               T            T
                        T             F               T            T
                        F             T               T            T
                        F             F               F            T
            จะเห็นได้วาประพจน์ p(pq) เกิดจากประพจน์ p
                      ่                                                        q
                                                                                       กรณี
                         4 กรณี
ตัวอย่ าง       จงสร้างตารางค่าความจริ งของประพจน์ (pq) r
วิธีทา
     ํ
                        p         q              r         pq              (pq) r
                        T         T              T          T                   T
                        T         T              F          T                   F
                        T         F              T          T                   T
                        T         F              T          T                   T
                        F         T              T          F                   T
                        F         T              F          F                   T
                        F         F              T          F                   T
F           F           F              F                    T
       จะเห็นได้วาประพจน์ (pq) r เกิดจากประพจน์ p , q และ r
                 ่
                                        2
                          8 กรณี คือ ประพจน์ p,qและ r 3 ประพจน์ เกิดได้ จาก 23 = 8
ประโยคเปิ ด(Open Sentence)
       คือข้อความทอยูในรู ปประโย
                     ่

       สั ญลักษณ์ นิยมใช้ P(x), P(x , y),Q(x , y)
       ตัวอย่ าง
                       เธอเป็ นนางสาวไทย
                       x+3  5
                       3x + 2 = 5
                       เขาเป็ นนายกรัฐมนตรี

เฉพาะเจาะจงลงไป

         วลีบอกปริมาณ(Quantifier)
                 คือคําบอกกล่าวกําหนดขีดจํากัดของปริ มาณ หรื อขอบเขตของตัวแปรในประโยค
เปิ ด วลีแบอกปริ มาณมี 2 แบบคือ
         1.                                                    (Universal Quantifier)
                 1.1 บอกในรู ปคํากล่าว เช่น      สําหรับทุกๆค่าของ x ……………
                                                 สําหรับแต่ละค่าของ x……………
                 1.2 บอกในรู ปสัญลักษณ์ x อ่านว่า for all x เช่น x[x>3]; = จํานวนเต็ม
         ความหมายคือ สมาชิกทุกตัวในจํานวนเต็มมีค่ามากกว่า 3
ประพจน์
         2. บอกปริ มาณบางส่ วน (Existential Quantifier)
                 2.1 บอกในรู ปคํากล่าว เช่น      มีบางตัวของ x ………………..
                                                 บางอย่างของ……………………
                                                             …………………….
                 2.2 บอกในรู ปสัญลักษณ์ x อ่านว่า for some x เช่น x[x>3] , U = จํานวนเต็ม
ความหมายคือ มีสมาชิก x บางตัวในจํานวนเต็ม มีค่ามากกว่า 3
เป็ นจริ ง

กํากับ
                 1. คนทุกคนเป็ นคนขยัน : x [x เป็ นคนขยัน]
                 2.                    : x [x เป็ นสี เขียว]
                 3. มี x                            : x [x เป็ นจํานวนอตรรกยะ]
                 4. อาหารบางอย่างมีรสเค็ม : x [ x เป็ นอาหารรสเค็ม]

                            p(x) แทนคนฉลาด
                            q(x) แทนคนขยัน
                   5. คนบางคนเป็ นคนฉลาด : x [p(x)]
                   6. คนทุกคนเป็ นคนขยัน : x [q(x)]
                   7. คนบางคนเป็ นคนขยันและฉลาด : x [q(x) p(x)]
                   8. มีบางคนไม่ขยัน : x [q(x)]
ตัวอย่าง จงหาค่าความจริ งของประพจน์ x [x2+1 > 1]
                           U = {-1 , 0 , 1}
วิธีทา ให้ p(x) แทน x2+1 > 1
     ํ
             จะได้ p(1) : 12 + 1 > 1        เป็ นจริ ง            (T)
                     p(0) : 02 + 1 > 1      เป็ นเท็จ             (F)
                                 2
                     P(-1) : (-1) + 1 > 1 เป็ นจริ ง              (T)
         ***                            x [x2+1 > 1] เป็ นเท็จ (F)                 U ทุกค่าจะต้องให้
ค่าความจริ งเป็ นจริ ง (T)          x จึงจะให้ค่าเป็ น T ถ้ามี F เพียงกรณี เดียวก็จะให้ผลรวมเป็ น F
ตัวอย่าง จงหาค่าความจริ งของประพจน์ x [x2-2x +1 = 0]
                          U = {-1 , 0 , 1}
วิธีทา ํ     ให้ p(x) แทน x2-2x +1 = 0
         จะได้ p(-1) : (-1)2 –2(-1) +1  0             เป็ นเท็จ        (F)
                   p(0) : 02 –2(0) + 1  0             เป็ นเท็จ        (F)
                   p(1) : 12 –2(1) +1 = 0              เป็ นจริ ง       (T)
         ***            x [x2-2x +1 = 0] ให้ค่าความจริ งเป็ นจริ ง (T)               U บางค่าให้ค่า
ความจริ งเป็ นจริ ง

Contenu connexe

Tendances

คำยืมภาษาเขมรในภาษาไทย Khmer Loanwords in Thai
คำยืมภาษาเขมรในภาษาไทย Khmer Loanwords in Thaiคำยืมภาษาเขมรในภาษาไทย Khmer Loanwords in Thai
คำยืมภาษาเขมรในภาษาไทย Khmer Loanwords in Thaisnangwork
 
การเชื่อมประพจน์ด้วยตัวเชื่อม
การเชื่อมประพจน์ด้วยตัวเชื่อมการเชื่อมประพจน์ด้วยตัวเชื่อม
การเชื่อมประพจน์ด้วยตัวเชื่อมทับทิม เจริญตา
 
โปรแกรม ภาษาซี
โปรแกรม ภาษาซีโปรแกรม ภาษาซี
โปรแกรม ภาษาซีfinverok
 
1 09+อธิบายบาลีไวยากรณ์+สมาสและตัทธิต
1 09+อธิบายบาลีไวยากรณ์+สมาสและตัทธิต1 09+อธิบายบาลีไวยากรณ์+สมาสและตัทธิต
1 09+อธิบายบาลีไวยากรณ์+สมาสและตัทธิตTongsamut vorasan
 
ครั้ง๗
ครั้ง๗ครั้ง๗
ครั้ง๗vp12052499
 
เฉลยข้อสอบ O net
เฉลยข้อสอบ O netเฉลยข้อสอบ O net
เฉลยข้อสอบ O netNuttarika Kornkeaw
 
พจนานุกรม (Dictionaries)
พจนานุกรม  (Dictionaries)พจนานุกรม  (Dictionaries)
พจนานุกรม (Dictionaries)Srion Janeprapapong
 
ติวเตรียมสอบ O net
ติวเตรียมสอบ O netติวเตรียมสอบ O net
ติวเตรียมสอบ O netvanichar
 
สื่อครูมาณี ปี59
สื่อครูมาณี ปี59สื่อครูมาณี ปี59
สื่อครูมาณี ปี59Manee Prakmanon
 
เอกสารประกอบการเรียน เรื่องเซต
เอกสารประกอบการเรียน เรื่องเซตเอกสารประกอบการเรียน เรื่องเซต
เอกสารประกอบการเรียน เรื่องเซตPoochai Bumroongta
 
เฉลยข้อสอบ O net 53
เฉลยข้อสอบ O net 53เฉลยข้อสอบ O net 53
เฉลยข้อสอบ O net 53monnawan
 

Tendances (18)

คำยืมภาษาเขมรในภาษาไทย Khmer Loanwords in Thai
คำยืมภาษาเขมรในภาษาไทย Khmer Loanwords in Thaiคำยืมภาษาเขมรในภาษาไทย Khmer Loanwords in Thai
คำยืมภาษาเขมรในภาษาไทย Khmer Loanwords in Thai
 
การเชื่อมประพจน์ด้วยตัวเชื่อม
การเชื่อมประพจน์ด้วยตัวเชื่อมการเชื่อมประพจน์ด้วยตัวเชื่อม
การเชื่อมประพจน์ด้วยตัวเชื่อม
 
โปรแกรม ภาษาซี
โปรแกรม ภาษาซีโปรแกรม ภาษาซี
โปรแกรม ภาษาซี
 
1 09+อธิบายบาลีไวยากรณ์+สมาสและตัทธิต
1 09+อธิบายบาลีไวยากรณ์+สมาสและตัทธิต1 09+อธิบายบาลีไวยากรณ์+สมาสและตัทธิต
1 09+อธิบายบาลีไวยากรณ์+สมาสและตัทธิต
 
Context clues
Context cluesContext clues
Context clues
 
ครั้ง๗
ครั้ง๗ครั้ง๗
ครั้ง๗
 
Kitaya2013 tabletnotest
Kitaya2013 tabletnotestKitaya2013 tabletnotest
Kitaya2013 tabletnotest
 
Dictionary
DictionaryDictionary
Dictionary
 
กวดวิชาภาษาไทย O net
กวดวิชาภาษาไทย O netกวดวิชาภาษาไทย O net
กวดวิชาภาษาไทย O net
 
พจนานุกรม
พจนานุกรมพจนานุกรม
พจนานุกรม
 
เฉลยข้อสอบ O net
เฉลยข้อสอบ O netเฉลยข้อสอบ O net
เฉลยข้อสอบ O net
 
พจนานุกรม (Dictionaries)
พจนานุกรม  (Dictionaries)พจนานุกรม  (Dictionaries)
พจนานุกรม (Dictionaries)
 
ติวเตรียมสอบ O net
ติวเตรียมสอบ O netติวเตรียมสอบ O net
ติวเตรียมสอบ O net
 
สื่อครูมาณี ปี59
สื่อครูมาณี ปี59สื่อครูมาณี ปี59
สื่อครูมาณี ปี59
 
เอกสารประกอบการเรียน เรื่องเซต
เอกสารประกอบการเรียน เรื่องเซตเอกสารประกอบการเรียน เรื่องเซต
เอกสารประกอบการเรียน เรื่องเซต
 
เฉลยข้อสอบ O net 53
เฉลยข้อสอบ O net 53เฉลยข้อสอบ O net 53
เฉลยข้อสอบ O net 53
 
การสร้างคำ
การสร้างคำการสร้างคำ
การสร้างคำ
 
Reference
ReferenceReference
Reference
 

Plus de ธีรวุฒิ อภิปรัชญาฐิติ?

Plus de ธีรวุฒิ อภิปรัชญาฐิติ? (17)

เวกเตอร์
เวกเตอร์เวกเตอร์
เวกเตอร์
 
ระบบสมการเชิงเส้นและเมทริกซ์
ระบบสมการเชิงเส้นและเมทริกซ์ระบบสมการเชิงเส้นและเมทริกซ์
ระบบสมการเชิงเส้นและเมทริกซ์
 
ระบบจำนวนจริง
ระบบจำนวนจริงระบบจำนวนจริง
ระบบจำนวนจริง
 
ฟังก์ชันตรีโกณมิติ
ฟังก์ชันตรีโกณมิติฟังก์ชันตรีโกณมิติ
ฟังก์ชันตรีโกณมิติ
 
จำนวนเชิงซ้อน
จำนวนเชิงซ้อนจำนวนเชิงซ้อน
จำนวนเชิงซ้อน
 
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
ความสัมพันธ์และฟังก์ชันความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
 
ความน่าจะเป็น
ความน่าจะเป็นความน่าจะเป็น
ความน่าจะเป็น
 
เรขาคณิตวิเคราะห์
เรขาคณิตวิเคราะห์เรขาคณิตวิเคราะห์
เรขาคณิตวิเคราะห์
 
Set
SetSet
Set
 
Fibonacci
FibonacciFibonacci
Fibonacci
 
Fibonacci
FibonacciFibonacci
Fibonacci
 
ค33201 คณิตศาสตร์เพิ่มเติมม.6เทอม1
ค33201  คณิตศาสตร์เพิ่มเติมม.6เทอม1ค33201  คณิตศาสตร์เพิ่มเติมม.6เทอม1
ค33201 คณิตศาสตร์เพิ่มเติมม.6เทอม1
 
ค32202 คณิตศาสตร์เพิ่มเติมม.5เทอม2
ค32202  คณิตศาสตร์เพิ่มเติมม.5เทอม2ค32202  คณิตศาสตร์เพิ่มเติมม.5เทอม2
ค32202 คณิตศาสตร์เพิ่มเติมม.5เทอม2
 
ค32201 คณิตศาสตร์เพิ่มเติมม.5เทอม1
ค32201  คณิตศาสตร์เพิ่มเติมม.5เทอม1ค32201  คณิตศาสตร์เพิ่มเติมม.5เทอม1
ค32201 คณิตศาสตร์เพิ่มเติมม.5เทอม1
 
ค31201 คณิตศาสตร์เพิ่มเติมม.4เทอม1
ค31201  คณิตศาสตร์เพิ่มเติมม.4เทอม1ค31201  คณิตศาสตร์เพิ่มเติมม.4เทอม1
ค31201 คณิตศาสตร์เพิ่มเติมม.4เทอม1
 
คู่มื่อการสร้าง Blog โดย WordPress
คู่มื่อการสร้าง Blog โดย WordPressคู่มื่อการสร้าง Blog โดย WordPress
คู่มื่อการสร้าง Blog โดย WordPress
 
คำอธิบายคณิตม.ปลาย
คำอธิบายคณิตม.ปลายคำอธิบายคณิตม.ปลาย
คำอธิบายคณิตม.ปลาย
 

ตรรกศาสตร์

  • 1. ตรรกศาสตร์ (Logic) กําหนดถือเป็ นสาระสําคัญ ข้อความหรื อการให้เหตุผลในชีวตประจําวันสามารถสร้างเป็ นรู ปแบบ ิ าง ตรรกศาสตร์ เป็ นแม่บทของคณิ ตศาสตร์ แขนงต่าง ๆ และการประยุกต์ ประพจน์(Statement) ตัวอย่าง 1. (เท็จ) 2. สนามบินสุ วรรณภูมิเปิ ดใช้ในเดือนกันยายน 2549 (จริ ง) 3. ประเทศไทยเฉลิมฉลอง 60 ปี ครองราช 12 มิถุนายน 2549 (จริ ง) 4. 9 = 3 (จริ ง) *** ประพจน์ เท็จได้ ไม่ เป็ นประพจน์ 1. คําอุทาน เช่น โธ่เอ๋ ยเวรกรรม,อุยตาย, คุณพระช่วย ้ 2. เช่น อย่าส่ งเสี ยงดัง, จงแสดงวิธีทา, เดินหน้า 2 ก้าว ํ 3. คําขอร้อง เช่น ช่วยด้วย, ,เห็นใจผมด้วย 4. คําถาม เช่น ทานข้าวแล้วหรื อยัง?, ต่อการเขียน หรื อสะดวกต่อ การใช้ นิยมใช้อกษรในภาษาอังกฤษแทนประพจน์ เช่น ั p แทน 2x+1=9 ; p x =4 q แทน 5+9 = 12 ;q เป็ นประพจน์เป็ นเท็จ r แทน จังหวัดสุ โขทัยเป็ นเมืองหลวงเก่า ; rเป็ น ประพจน์เป็ นจริ ง เราใช้ในชีวิตประจําวัน หรื อใช้ในวิชาคณิ ตศาสตร์ จะมี (Connective) ถ้าเรามีประโยค 2 ประโยคคือ p แทน วั q 1. 2.
  • 2. 3. 4. “และ” ถ้า p และ q เป็ นประพจน์ จะเรี ยกประพจน์ “p และ q ” ว่าประพจน์แบบรวมผล (conjunction) ของ p กับ q เขียนแทนด้วย “pq” ค่าความจริ งของประพจน์ pq p q pq T T T *** T F F F T F F F F ตัวอย่ าง 2+2 =4 และ 2*2 = 4 (T) 2*2=2 และ 2+2 = 4 (F) 2*0=0 และ ศูนย์เป็ นจํานวนเฉพาะ (F) 2*0 = 0 (F) “หรือ” ถ้า p และ q เป็ นประพจน์ จะเรี ยกประพจน์ “p และ q ” ว่าประพจน์แบบเลือก (Disjunction) ของ p กับ q เขียนแทนด้วย “pq” ค่าความจริ งของประพจน์ pq P q pq T T T T F T F T T F F F *** ตัวอย่ าง 2 เป็ นจํานวนคู่ หรื อ 0 เป็ นจํานวนคู่ (T) 2 เป็ นจํานวนคู่ หรื อ 0 (T) 0 เป็ นจํานวนเต็มบวก หรื อ 0 เป็ นจํานวนเต็มคู่ (T) 0 0 เป็ นจํานวนเต็มบวก (F)
  • 3. “ถ้ า…….แล้ว” ถ้า p และ q เป็ นประพจน์ จะเรี ยกประพจน์ “p และ q ” (Conditional) ของ p กับ q เขียนแทนด้วย “pq” ค่าความจริ งของประพจน์ pq เขียนแทนด้วยตา P q pq T T T T F F *** F T T F F T ตัวอย่ าง ถ้า 2 เป็ นจํานวนคู่ แล้ว 4 เป็ นจํานวนคู่ (T) ถ้า 2 เป็ นจํานวนคู่ แล้ว 3 เป็ นจํานวนคู่ (F) ถ้า 3 เป็ นจํานวนคู่แล้ว 2 เป็ นจํานวนคู่ (T) ถ้า 3 เป็ นจํานวนคู่แล้ว 2 (T) “ ……. …….” ถ้า p และ q เป็ นประพจน์ จะเรี ยกประพจน์ “p และ q ” (Biconditional) ของ p กับ q เขียนแทนด้วย “pq” (pq) (qp)= pq ค่าความจริ งของประพจน์ pq p q pq pq pq (pq) (qp) pq T T T T T T T T F F T F F F F T F T T F F F F F F T T T ตัวอย่ าง 4 เป็ นจํานวนคู่ 4 หาร 2 ลงตัว (T) 3 เป็ นจํานวนคู่ 4 หาร 2 ลงตัว (F) 3 เป็ นจํานวนก็ 3 หาร 2 ลงตัว (F) 3 เป็ นจํานวนคู่ 3 หาร 2 ลงตัว (T) นิเสธของประพจน์ ถ้า p เป็ นประพจน์นิเสธ(Negation or Denial) ของประพจน์ p ตรงกันข้ามกับประพจน์ p เขียนแทนด้วย p
  • 4. ค่าความจริ งของ p p p T F F T ตัวอย่ าง ให้ p (T) p (F) ค่ าความจริงของประพจน์ ตัวอย่ าง จงสร้างตารางค่าความจริ งของประพจน์ p(pq) วิธีทํา p q pq p( pq) T T T T T F T T F T T T F F F T จะเห็นได้วาประพจน์ p(pq) เกิดจากประพจน์ p ่ q กรณี 4 กรณี ตัวอย่ าง จงสร้างตารางค่าความจริ งของประพจน์ (pq) r วิธีทา ํ p q r pq (pq) r T T T T T T T F T F T F T T T T F T T T F T T F T F T F F T F F T F T
  • 5. F F F F T จะเห็นได้วาประพจน์ (pq) r เกิดจากประพจน์ p , q และ r ่ 2 8 กรณี คือ ประพจน์ p,qและ r 3 ประพจน์ เกิดได้ จาก 23 = 8 ประโยคเปิ ด(Open Sentence) คือข้อความทอยูในรู ปประโย ่ สั ญลักษณ์ นิยมใช้ P(x), P(x , y),Q(x , y) ตัวอย่ าง เธอเป็ นนางสาวไทย x+3  5 3x + 2 = 5 เขาเป็ นนายกรัฐมนตรี เฉพาะเจาะจงลงไป วลีบอกปริมาณ(Quantifier) คือคําบอกกล่าวกําหนดขีดจํากัดของปริ มาณ หรื อขอบเขตของตัวแปรในประโยค เปิ ด วลีแบอกปริ มาณมี 2 แบบคือ 1. (Universal Quantifier) 1.1 บอกในรู ปคํากล่าว เช่น สําหรับทุกๆค่าของ x …………… สําหรับแต่ละค่าของ x…………… 1.2 บอกในรู ปสัญลักษณ์ x อ่านว่า for all x เช่น x[x>3]; = จํานวนเต็ม ความหมายคือ สมาชิกทุกตัวในจํานวนเต็มมีค่ามากกว่า 3 ประพจน์ 2. บอกปริ มาณบางส่ วน (Existential Quantifier) 2.1 บอกในรู ปคํากล่าว เช่น มีบางตัวของ x ……………….. บางอย่างของ…………………… ……………………. 2.2 บอกในรู ปสัญลักษณ์ x อ่านว่า for some x เช่น x[x>3] , U = จํานวนเต็ม
  • 6. ความหมายคือ มีสมาชิก x บางตัวในจํานวนเต็ม มีค่ามากกว่า 3 เป็ นจริ ง กํากับ 1. คนทุกคนเป็ นคนขยัน : x [x เป็ นคนขยัน] 2. : x [x เป็ นสี เขียว] 3. มี x : x [x เป็ นจํานวนอตรรกยะ] 4. อาหารบางอย่างมีรสเค็ม : x [ x เป็ นอาหารรสเค็ม] p(x) แทนคนฉลาด q(x) แทนคนขยัน 5. คนบางคนเป็ นคนฉลาด : x [p(x)] 6. คนทุกคนเป็ นคนขยัน : x [q(x)] 7. คนบางคนเป็ นคนขยันและฉลาด : x [q(x) p(x)] 8. มีบางคนไม่ขยัน : x [q(x)] ตัวอย่าง จงหาค่าความจริ งของประพจน์ x [x2+1 > 1] U = {-1 , 0 , 1} วิธีทา ให้ p(x) แทน x2+1 > 1 ํ จะได้ p(1) : 12 + 1 > 1 เป็ นจริ ง (T) p(0) : 02 + 1 > 1 เป็ นเท็จ (F) 2 P(-1) : (-1) + 1 > 1 เป็ นจริ ง (T) *** x [x2+1 > 1] เป็ นเท็จ (F) U ทุกค่าจะต้องให้ ค่าความจริ งเป็ นจริ ง (T) x จึงจะให้ค่าเป็ น T ถ้ามี F เพียงกรณี เดียวก็จะให้ผลรวมเป็ น F ตัวอย่าง จงหาค่าความจริ งของประพจน์ x [x2-2x +1 = 0] U = {-1 , 0 , 1} วิธีทา ํ ให้ p(x) แทน x2-2x +1 = 0 จะได้ p(-1) : (-1)2 –2(-1) +1  0 เป็ นเท็จ (F) p(0) : 02 –2(0) + 1  0 เป็ นเท็จ (F) p(1) : 12 –2(1) +1 = 0 เป็ นจริ ง (T) *** x [x2-2x +1 = 0] ให้ค่าความจริ งเป็ นจริ ง (T) U บางค่าให้ค่า ความจริ งเป็ นจริ ง