SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  19
Télécharger pour lire hors ligne
น.สพ.สมพงศ์ วงษ์มา
1. Aplasia หรือ Agenesis หมายถึง การผิดปกติเกี่ยวกับ
การเจริญเติบโตหรือไม่มีการพัฒนาขึ้นมาของเนื้อเยื่อหรืออวัยวะ
อย่างใดอย่างหนึ่ง
2. Hypoplasia หมายถึง การที่อวัยวะหนึ่งไม่เจริญเติบโตขึ้นมา
ได้ขนาดปกติในระยะเวลาอันควร
3. Atrophy หมายถึง การที่อวัยวะหนึ่งอวัยวะใดหลังเกิดมาแล้ว
มีขนาดปกติ แต่ภายหลังมีขนาดเล็กลงไปกว่าปกติ
4. Hypertrophy and Hyperplasia
- Hypertrophy หมายถึง การที่อวัยวะหรือเนื้อเยื่อใหญ่ขึ้น
เพราะ เชลล์ที่เป็นส่วนประกอบมีขนาดใหญ่ขึ้น
- Hyperplasia หมายถึง การที่อวัยวะหรือเนื้อเยื่อใหญ่ขึ้น
เพราะ มีจานวนเชลล์ที่เป็นส่วนประกอบมีจานวนมากขึ้น
5.Metaplasia
Metaplasia หมายถึง การเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเซลล์ชนิด
หนึ่งไปเป็นเซลล์อีกชนิดหนึ่ง มักเป็นการเปลี่ยนแปลงจากเซลล์ที่เคย
เป็น เช่น จาก columnar หรือ transitional type
เปลี่ยนไปเป็น(metaplasia) squamous cell type
6. Dysplasia
Dysplasia หมายถึง การเปลี่ยนแปลงทั้งขนาด รูปร่าง และ
orientation ของ epithelial cell สาเหตุมักเกิดจาก
chronic irritation or inflammation เช่น
dysplasia ของ cervix epithelium ซึ่งต่อไปอาจ
กลายเป็นมะเร็ง (cancer cells) ได้
คาว่า neoplasm แปลว่าเนื้องอกหรือมะเร็งมาจากรากศัพท์
ภาษากรีก คาว่า neo แปลว่าใหม่และ plassein แปลว่าสร้าง
ขึ้น ดังนั้น neoplasm จึงหมายถึงเนื้อที่เกิดขึ้นใหม่ ส่วนคาว่า
tumour แปลว่า ก้อนทูมหรือก้อนเนื้อที่โตขึ้นมา(swelling)
แต่คาว่า tumour อาจมีความหมายเป็นเนื้องอกจริงๆ
(neoplasm) หรือก้อน hyperplasia หรือฝี
(abscess) ก็ได้
เนื้องอก(neoplasm)หมายถึง ก้อนเนื้อ (Tumor) ที่มีการ
เจริญเติบโตเร็วผิดปกติของเซลล์ในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย การ
เจริญเติบโตไม่สัมพันธ์กับเนื้อเยื่อหรืออวัยวะข้างเคียงและเมื่อกาจัด
สาเหตุออกไปแล้ว ก้อนเนื้อยังสามารถเจริญเติบโตต่อไปได้อีก
มะเร็ง (Cancer)หมายถึง เซลล์เนื้อร้าย ที่เจริญเติบโตผิดปกติ
แผ่แทรกซึม เบียดเข้าไปในเซลล์ดีที่อยู่รอบด้าน ไม่อยู่ในระเบียบ
แบบแผนของร่างกายกินเข้าไปในหลอดโลหิตและน้าเหลือง กระจาย
ไปทั่วอวัยวะอื่น ๆ
1. Intrinsic factors
1.1 พันธุกรรม (Heredity)
1.2 อายุ
1.3 เพศและฮอร์โมน
1.4 Immunologic factors
2. Extrinsic factors
2.1 ทางฟิสิกส์ (Physical factors)
2.2 สารเคมี (Chemical agents)
2.2.1 สาร carcinogenic hydrocarbons
2.2.2 สาร aromatic amines
2.2.3 สารก่อมะเร็งที่พบปนเปื้อนในพืชอาหารสัตว์ เช่น
aflatoxins
2.3 สิ่งมีชีวิตที่ก่อให้เกิดมะเร็ง
2.3.1 metazoan parasites
2.3.2 viruses
1. Epithelial tumor เป็นเนื้องอกที่เจริญมาจาก
Epithelial cell เช่น
1.1. Benign
1.1.1. Papilloma (squamous epithelium)
1.1.2.Adenoma (glandular epithelium)
1.2. Malignant
1.2.1. Carcinoma (squamous or
glandular epithelium)
2. Non-epithelium เป็นเนื้องอกที่เจริญมาจาก
Connective tissue เช่น
2.1. Benign
2.1.1. Fibroma เนื้องอกธรรมดาของเซลล์
fibroblasts
2.1.2. Osteoma เนื้องอกของเซลล์กระดูก
osteoblasts
2.2. Malignant
2.2.1. Fibrosarcoma
2.2.2. Osteosarcoma
3. Dermoid cyst tumor เป็น congenital
tumor พบเป็นถุง cyst อยู่ใต้ผิวหนัง และบางครั้งพบที่รังไข่
หรืออัณฑะ ผนัง cyst เรียงกันด้วย stratified
squamous epitheliam ภายใน cyst ประกอบด้วยขน
ต่อมใต้หนังและบางครั้งอาจมีฟันปนด้วย
4. Teratoma เป็น congenital tumor ซึ่งมักพบตาม
แนว midline ของลาตัว เช่น พบที่ ovary หรือ testis มัก
พบในสัตว์อายุน้อย เนื้องอกประกอบด้วย
parenchymatous cell ที่มาจากทั้ง ectoderm และ
mesoderm
1. เนื้องอกเซลล์บุผิว ชนิดของเนื้องอกแล้วต่อท้ายด้วย –
oma เช่น Adenoma, Papilloma เนื้องอกชนิด
ร้ายแรงให้เรียกว่า Carcinoma (มะเร็ง) แล้วใส่
ลักษณะและตาแหน่งของเนื้องอกขยายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น
Adenocarcinoma of colon หรือ
Papillary carcinoma of thyroid เป็นต้น
2. เนื้องอกเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เนื้องอกธรรมดาให้เรียกชนิด
ของเนื้องอกแล้วลงท้ายด้วย –oma เช่น Lipoma,
Fibroma, Hemangioma,
Lymphangioma เนื้องอกร้ายแรง ให้เรียกชนิดของ
เซลล์แล้วต่อท้ายด้วยคาว่า –sarcoma (มะเร็ง) เช่น
Liposarcoma, Fibrosarcoma
Hemangiosarcoma และ
Lymphangiosarcoma เป็นต้น
3. เนื้องอกเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อมดลูก เนื้องอกธรรมดา เช่น
Leiomyoma, เนื้องอกชนิดร้ายแรง เช่น
Leiomyosarcoma เป็นต้น
4. เนื้องอกเนื้อเยื่อประสาท เนื้องอกธรรมดา เช่น
Neurofibroma เนื้องอกชนิดร้ายแรง เช่น
Neurofibrosarcoma เป็นต้น
5. เนื้องอกของเม็ดเลือด เนื้องอกชนิดร้ายแรง เช่น
Leukemia เป็นต้น
* ยกเว้น Lymphoma คือ มะเร็งต่อมน้าเหลือง
1.ลักษณะที่เห็นด้วยตาเปล่า (gross lesion of tumur)
1.1. ขนาด
- ขนาด โดยมากเนื้องอกจะเห็นได้ด้วยตาเปล่าในลักษณะของ
การเป็นก้อน (discrete tumur) ยื่นออกมาจากเนื้อปกติ
หรือแทรก (infiltrative tumur) อยู่ภายในเนื้อเยื่อปกติ
ขนาดเล็กหรือใหญ่ขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของเนื้องอกนั้นๆ
1.2. รูปร่าง มีรูปร่างต่างๆ กันไปแล้วแต่ชนิดของเนื้องอก
1.3. สี เนื้องอกโดยทั่วไปมีสีต่างๆกัน แล้วแต่ชนิดของเนื้องอก
1.4. ความแน่น (consistency) โดยทั่วไปเนื้องอกมี
ความแน่นมากกว่าเนื้อปกติ
1.5. หน้าตัด ( cut surface) หน้าตัดของเนื้องอกอาจเรียบ
หรือนูน (bulgy surface)
2.1. Sheets of cell มี stromal cell น้อยมาก แบ่งตัว
รวดเร็ว รูปร่างของเซลล์คล้ายๆกันและอยู่ชิดติดกัน ขอบเซลล์ไม่ชัดเจน
ดูเหมือนเป็นกลุ่ม nucleus มาเรียงกัน เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว
lymphosacoma และ มะเร็งของอัณฑะ(seminoma)
2.2. acinar arrangement เซลล์มะเร็งประกอบกันเป็นรูป
ต่อมกลมหรือรี เล็กหรือใหญ่ก็ได้ เช่น มะเร็งของต่อมไทรอยด์และเต้านม
2.3. nests of cells เป็นลักษณะของมะเร็งต่อมไร้ท่อ
เซลล์มะเร็งแบ่งตัวเร็ว อยู่ชิดติดกันจนเป็นกลุ่มก้อนของเซลล์มะเร็ง แต่
ล้อมรอบด้วยเยื่อค้าจุน(connective tissue)บางๆ เช่น มะเร็ง
ของ adrenal gland เป็นต้น
2.4. tubular arrangement เป็นส่วนของกลุ่ม
เซลล์มะเร็งที่เจริญรวดเร็วและเป็นลิ่มหรือกลุ่มของเซลล์เข้าไปใน
เนื้อเยื่อข้างเคียงเหมือนก้ามปูรอบตัวปู
 2.5. palisading pattern เซลล์เรียงตัวขนานกันไป
บนเยื่อค้าจุนบางๆ คล้ายกับรั้วที่ทาด้วยไม้ปักเป็ นซี่ขนานกัน เช่น
พวกเนื้องอกของ sertoli cell tumor

Contenu connexe

Tendances

ระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) - Hormone system
ระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) - Hormone systemระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) - Hormone system
ระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) - Hormone systemsupreechafkk
 
อาณาจักรโพรทิสตา
อาณาจักรโพรทิสตาอาณาจักรโพรทิสตา
อาณาจักรโพรทิสตาพัน พัน
 
11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)
11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)
11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)สำเร็จ นางสีคุณ
 
16แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
16แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ16แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
16แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพสำเร็จ นางสีคุณ
 
แนวข้อสอบ Onet วืทยาศาสคร์
แนวข้อสอบ Onet วืทยาศาสคร์แนวข้อสอบ Onet วืทยาศาสคร์
แนวข้อสอบ Onet วืทยาศาสคร์Jinwara Sriwichai
 
เคมีอินทรีย์ให้เด็ก.pdf
เคมีอินทรีย์ให้เด็ก.pdfเคมีอินทรีย์ให้เด็ก.pdf
เคมีอินทรีย์ให้เด็ก.pdflohkako kaka
 
การสลายสารอาหารระดับเซลล์
การสลายสารอาหารระดับเซลล์การสลายสารอาหารระดับเซลล์
การสลายสารอาหารระดับเซลล์พัน พัน
 
ประวัติศาสตร์สมัยใหม่
ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ประวัติศาสตร์สมัยใหม่
ประวัติศาสตร์สมัยใหม่Phudittt
 
วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตTongnapadon
 
Pemphigus vulgaris (เพมฟิกัสวัลการิส)
Pemphigus vulgaris (เพมฟิกัสวัลการิส)Pemphigus vulgaris (เพมฟิกัสวัลการิส)
Pemphigus vulgaris (เพมฟิกัสวัลการิส)Janyawat Chunlakasyena
 
13แบบทดสอบโครโมโซมและการถ่ายทอดลักษณะพันธุกรรม
13แบบทดสอบโครโมโซมและการถ่ายทอดลักษณะพันธุกรรม13แบบทดสอบโครโมโซมและการถ่ายทอดลักษณะพันธุกรรม
13แบบทดสอบโครโมโซมและการถ่ายทอดลักษณะพันธุกรรมสำเร็จ นางสีคุณ
 
แบบทดสอบเซลล์
แบบทดสอบเซลล์แบบทดสอบเซลล์
แบบทดสอบเซลล์Wichai Likitponrak
 
รากศัพท์Bio
รากศัพท์Bioรากศัพท์Bio
รากศัพท์BioKittepot
 
เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืชเนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืชThanyamon Chat.
 
แนวข้อสอบสอวน.ชีววิทยา
แนวข้อสอบสอวน.ชีววิทยาแนวข้อสอบสอวน.ชีววิทยา
แนวข้อสอบสอวน.ชีววิทยาNadeeya Benlateh
 
คู่มือการคัดเลือกโรงเรียนต้นแบบสภานักเรียน ปี 2561
คู่มือการคัดเลือกโรงเรียนต้นแบบสภานักเรียน ปี 2561คู่มือการคัดเลือกโรงเรียนต้นแบบสภานักเรียน ปี 2561
คู่มือการคัดเลือกโรงเรียนต้นแบบสภานักเรียน ปี 2561สภานักเรียน ส.ป. samutprakanstudentcouncil
 
โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3Wuttipong Tubkrathok
 

Tendances (20)

Wound care
Wound careWound care
Wound care
 
ระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) - Hormone system
ระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) - Hormone systemระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) - Hormone system
ระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) - Hormone system
 
อาณาจักรโพรทิสตา
อาณาจักรโพรทิสตาอาณาจักรโพรทิสตา
อาณาจักรโพรทิสตา
 
11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)
11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)
11แบบทดสอบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ตอนที่ 2)
 
16แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
16แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ16แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
16แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
 
Animal tissue
Animal tissueAnimal tissue
Animal tissue
 
แนวข้อสอบ Onet วืทยาศาสคร์
แนวข้อสอบ Onet วืทยาศาสคร์แนวข้อสอบ Onet วืทยาศาสคร์
แนวข้อสอบ Onet วืทยาศาสคร์
 
เคมีอินทรีย์ให้เด็ก.pdf
เคมีอินทรีย์ให้เด็ก.pdfเคมีอินทรีย์ให้เด็ก.pdf
เคมีอินทรีย์ให้เด็ก.pdf
 
การสลายสารอาหารระดับเซลล์
การสลายสารอาหารระดับเซลล์การสลายสารอาหารระดับเซลล์
การสลายสารอาหารระดับเซลล์
 
ประวัติศาสตร์สมัยใหม่
ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ประวัติศาสตร์สมัยใหม่
ประวัติศาสตร์สมัยใหม่
 
วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
 
Pemphigus vulgaris (เพมฟิกัสวัลการิส)
Pemphigus vulgaris (เพมฟิกัสวัลการิส)Pemphigus vulgaris (เพมฟิกัสวัลการิส)
Pemphigus vulgaris (เพมฟิกัสวัลการิส)
 
13แบบทดสอบโครโมโซมและการถ่ายทอดลักษณะพันธุกรรม
13แบบทดสอบโครโมโซมและการถ่ายทอดลักษณะพันธุกรรม13แบบทดสอบโครโมโซมและการถ่ายทอดลักษณะพันธุกรรม
13แบบทดสอบโครโมโซมและการถ่ายทอดลักษณะพันธุกรรม
 
แบบทดสอบเซลล์
แบบทดสอบเซลล์แบบทดสอบเซลล์
แบบทดสอบเซลล์
 
รากศัพท์Bio
รากศัพท์Bioรากศัพท์Bio
รากศัพท์Bio
 
เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืชเนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืช
 
แนวข้อสอบสอวน.ชีววิทยา
แนวข้อสอบสอวน.ชีววิทยาแนวข้อสอบสอวน.ชีววิทยา
แนวข้อสอบสอวน.ชีววิทยา
 
คู่มือการคัดเลือกโรงเรียนต้นแบบสภานักเรียน ปี 2561
คู่มือการคัดเลือกโรงเรียนต้นแบบสภานักเรียน ปี 2561คู่มือการคัดเลือกโรงเรียนต้นแบบสภานักเรียน ปี 2561
คู่มือการคัดเลือกโรงเรียนต้นแบบสภานักเรียน ปี 2561
 
โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3
 
หน่วยที่1
หน่วยที่1หน่วยที่1
หน่วยที่1
 

Plus de pop Jaturong

งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1pop Jaturong
 
บทที่ 7 ท้องถิ่นไทยกับการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 7 ท้องถิ่นไทยกับการเปลี่ยนแปลงบทที่ 7 ท้องถิ่นไทยกับการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 7 ท้องถิ่นไทยกับการเปลี่ยนแปลงpop Jaturong
 
บทที่ 5 ท้องถิ่นไทยภูมิภาคต่างๆ
บทที่  5  ท้องถิ่นไทยภูมิภาคต่างๆบทที่  5  ท้องถิ่นไทยภูมิภาคต่างๆ
บทที่ 5 ท้องถิ่นไทยภูมิภาคต่างๆpop Jaturong
 
บทที่ 6-2-ศักยภาพเชิงพื้นที่ กับ แผนยุทธศาสตร์จังหวัด
บทที่ 6-2-ศักยภาพเชิงพื้นที่ กับ แผนยุทธศาสตร์จังหวัดบทที่ 6-2-ศักยภาพเชิงพื้นที่ กับ แผนยุทธศาสตร์จังหวัด
บทที่ 6-2-ศักยภาพเชิงพื้นที่ กับ แผนยุทธศาสตร์จังหวัดpop Jaturong
 
บทที่ 4-2-คุณธรรมและจริยธรรม
บทที่ 4-2-คุณธรรมและจริยธรรมบทที่ 4-2-คุณธรรมและจริยธรรม
บทที่ 4-2-คุณธรรมและจริยธรรมpop Jaturong
 
บทที่ 4 วัฒนธรรมไทย
บทที่ 4 วัฒนธรรมไทยบทที่ 4 วัฒนธรรมไทย
บทที่ 4 วัฒนธรรมไทยpop Jaturong
 
บทที่ 3 ข้อมูลพื้นฐานของประเทศไทย
บทที่ 3 ข้อมูลพื้นฐานของประเทศไทยบทที่ 3 ข้อมูลพื้นฐานของประเทศไทย
บทที่ 3 ข้อมูลพื้นฐานของประเทศไทยpop Jaturong
 
บทที่ 2 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย3
บทที่ 2 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย3บทที่ 2 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย3
บทที่ 2 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย3pop Jaturong
 
บทที่ 2 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย2
บทที่ 2 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย2บทที่ 2 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย2
บทที่ 2 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย2pop Jaturong
 
บทที่ 2 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย
บทที่ 2  โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทยบทที่ 2  โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย
บทที่ 2 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทยpop Jaturong
 
บทที่ 1-หลักการความหมายของท้องถิ่นศึกษา
บทที่ 1-หลักการความหมายของท้องถิ่นศึกษาบทที่ 1-หลักการความหมายของท้องถิ่นศึกษา
บทที่ 1-หลักการความหมายของท้องถิ่นศึกษาpop Jaturong
 
306325 unit9-ec-policy&law
306325 unit9-ec-policy&law306325 unit9-ec-policy&law
306325 unit9-ec-policy&lawpop Jaturong
 
306325 unit8-ec-security
306325 unit8-ec-security306325 unit8-ec-security
306325 unit8-ec-securitypop Jaturong
 

Plus de pop Jaturong (20)

3
33
3
 
5
55
5
 
4
44
4
 
2
22
2
 
1
11
1
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
บทที่ 7 ท้องถิ่นไทยกับการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 7 ท้องถิ่นไทยกับการเปลี่ยนแปลงบทที่ 7 ท้องถิ่นไทยกับการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 7 ท้องถิ่นไทยกับการเปลี่ยนแปลง
 
บทที่ 5 ท้องถิ่นไทยภูมิภาคต่างๆ
บทที่  5  ท้องถิ่นไทยภูมิภาคต่างๆบทที่  5  ท้องถิ่นไทยภูมิภาคต่างๆ
บทที่ 5 ท้องถิ่นไทยภูมิภาคต่างๆ
 
บทที่ 6-2-ศักยภาพเชิงพื้นที่ กับ แผนยุทธศาสตร์จังหวัด
บทที่ 6-2-ศักยภาพเชิงพื้นที่ กับ แผนยุทธศาสตร์จังหวัดบทที่ 6-2-ศักยภาพเชิงพื้นที่ กับ แผนยุทธศาสตร์จังหวัด
บทที่ 6-2-ศักยภาพเชิงพื้นที่ กับ แผนยุทธศาสตร์จังหวัด
 
บทที่ 4-2-คุณธรรมและจริยธรรม
บทที่ 4-2-คุณธรรมและจริยธรรมบทที่ 4-2-คุณธรรมและจริยธรรม
บทที่ 4-2-คุณธรรมและจริยธรรม
 
บทที่ 4 วัฒนธรรมไทย
บทที่ 4 วัฒนธรรมไทยบทที่ 4 วัฒนธรรมไทย
บทที่ 4 วัฒนธรรมไทย
 
บทที่ 3 ข้อมูลพื้นฐานของประเทศไทย
บทที่ 3 ข้อมูลพื้นฐานของประเทศไทยบทที่ 3 ข้อมูลพื้นฐานของประเทศไทย
บทที่ 3 ข้อมูลพื้นฐานของประเทศไทย
 
บทที่ 2 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย3
บทที่ 2 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย3บทที่ 2 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย3
บทที่ 2 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย3
 
บทที่ 2 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย2
บทที่ 2 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย2บทที่ 2 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย2
บทที่ 2 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย2
 
บทที่ 2 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย
บทที่ 2  โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทยบทที่ 2  โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย
บทที่ 2 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ไทย
 
บทที่ 1-หลักการความหมายของท้องถิ่นศึกษา
บทที่ 1-หลักการความหมายของท้องถิ่นศึกษาบทที่ 1-หลักการความหมายของท้องถิ่นศึกษา
บทที่ 1-หลักการความหมายของท้องถิ่นศึกษา
 
บทที่ 4
บทที่ 4บทที่ 4
บทที่ 4
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3
 
306325 unit9-ec-policy&law
306325 unit9-ec-policy&law306325 unit9-ec-policy&law
306325 unit9-ec-policy&law
 
306325 unit8-ec-security
306325 unit8-ec-security306325 unit8-ec-security
306325 unit8-ec-security
 

หลักพยาธิบ.9เนื้องอกและมะเร็ง

  • 2. 1. Aplasia หรือ Agenesis หมายถึง การผิดปกติเกี่ยวกับ การเจริญเติบโตหรือไม่มีการพัฒนาขึ้นมาของเนื้อเยื่อหรืออวัยวะ อย่างใดอย่างหนึ่ง 2. Hypoplasia หมายถึง การที่อวัยวะหนึ่งไม่เจริญเติบโตขึ้นมา ได้ขนาดปกติในระยะเวลาอันควร 3. Atrophy หมายถึง การที่อวัยวะหนึ่งอวัยวะใดหลังเกิดมาแล้ว มีขนาดปกติ แต่ภายหลังมีขนาดเล็กลงไปกว่าปกติ
  • 3. 4. Hypertrophy and Hyperplasia - Hypertrophy หมายถึง การที่อวัยวะหรือเนื้อเยื่อใหญ่ขึ้น เพราะ เชลล์ที่เป็นส่วนประกอบมีขนาดใหญ่ขึ้น - Hyperplasia หมายถึง การที่อวัยวะหรือเนื้อเยื่อใหญ่ขึ้น เพราะ มีจานวนเชลล์ที่เป็นส่วนประกอบมีจานวนมากขึ้น
  • 4. 5.Metaplasia Metaplasia หมายถึง การเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเซลล์ชนิด หนึ่งไปเป็นเซลล์อีกชนิดหนึ่ง มักเป็นการเปลี่ยนแปลงจากเซลล์ที่เคย เป็น เช่น จาก columnar หรือ transitional type เปลี่ยนไปเป็น(metaplasia) squamous cell type
  • 5. 6. Dysplasia Dysplasia หมายถึง การเปลี่ยนแปลงทั้งขนาด รูปร่าง และ orientation ของ epithelial cell สาเหตุมักเกิดจาก chronic irritation or inflammation เช่น dysplasia ของ cervix epithelium ซึ่งต่อไปอาจ กลายเป็นมะเร็ง (cancer cells) ได้
  • 6. คาว่า neoplasm แปลว่าเนื้องอกหรือมะเร็งมาจากรากศัพท์ ภาษากรีก คาว่า neo แปลว่าใหม่และ plassein แปลว่าสร้าง ขึ้น ดังนั้น neoplasm จึงหมายถึงเนื้อที่เกิดขึ้นใหม่ ส่วนคาว่า tumour แปลว่า ก้อนทูมหรือก้อนเนื้อที่โตขึ้นมา(swelling) แต่คาว่า tumour อาจมีความหมายเป็นเนื้องอกจริงๆ (neoplasm) หรือก้อน hyperplasia หรือฝี (abscess) ก็ได้
  • 7. เนื้องอก(neoplasm)หมายถึง ก้อนเนื้อ (Tumor) ที่มีการ เจริญเติบโตเร็วผิดปกติของเซลล์ในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย การ เจริญเติบโตไม่สัมพันธ์กับเนื้อเยื่อหรืออวัยวะข้างเคียงและเมื่อกาจัด สาเหตุออกไปแล้ว ก้อนเนื้อยังสามารถเจริญเติบโตต่อไปได้อีก มะเร็ง (Cancer)หมายถึง เซลล์เนื้อร้าย ที่เจริญเติบโตผิดปกติ แผ่แทรกซึม เบียดเข้าไปในเซลล์ดีที่อยู่รอบด้าน ไม่อยู่ในระเบียบ แบบแผนของร่างกายกินเข้าไปในหลอดโลหิตและน้าเหลือง กระจาย ไปทั่วอวัยวะอื่น ๆ
  • 8. 1. Intrinsic factors 1.1 พันธุกรรม (Heredity) 1.2 อายุ 1.3 เพศและฮอร์โมน 1.4 Immunologic factors 2. Extrinsic factors 2.1 ทางฟิสิกส์ (Physical factors) 2.2 สารเคมี (Chemical agents)
  • 9. 2.2.1 สาร carcinogenic hydrocarbons 2.2.2 สาร aromatic amines 2.2.3 สารก่อมะเร็งที่พบปนเปื้อนในพืชอาหารสัตว์ เช่น aflatoxins 2.3 สิ่งมีชีวิตที่ก่อให้เกิดมะเร็ง 2.3.1 metazoan parasites 2.3.2 viruses
  • 10. 1. Epithelial tumor เป็นเนื้องอกที่เจริญมาจาก Epithelial cell เช่น 1.1. Benign 1.1.1. Papilloma (squamous epithelium) 1.1.2.Adenoma (glandular epithelium) 1.2. Malignant 1.2.1. Carcinoma (squamous or glandular epithelium)
  • 11. 2. Non-epithelium เป็นเนื้องอกที่เจริญมาจาก Connective tissue เช่น 2.1. Benign 2.1.1. Fibroma เนื้องอกธรรมดาของเซลล์ fibroblasts 2.1.2. Osteoma เนื้องอกของเซลล์กระดูก osteoblasts 2.2. Malignant 2.2.1. Fibrosarcoma 2.2.2. Osteosarcoma
  • 12. 3. Dermoid cyst tumor เป็น congenital tumor พบเป็นถุง cyst อยู่ใต้ผิวหนัง และบางครั้งพบที่รังไข่ หรืออัณฑะ ผนัง cyst เรียงกันด้วย stratified squamous epitheliam ภายใน cyst ประกอบด้วยขน ต่อมใต้หนังและบางครั้งอาจมีฟันปนด้วย 4. Teratoma เป็น congenital tumor ซึ่งมักพบตาม แนว midline ของลาตัว เช่น พบที่ ovary หรือ testis มัก พบในสัตว์อายุน้อย เนื้องอกประกอบด้วย parenchymatous cell ที่มาจากทั้ง ectoderm และ mesoderm
  • 13. 1. เนื้องอกเซลล์บุผิว ชนิดของเนื้องอกแล้วต่อท้ายด้วย – oma เช่น Adenoma, Papilloma เนื้องอกชนิด ร้ายแรงให้เรียกว่า Carcinoma (มะเร็ง) แล้วใส่ ลักษณะและตาแหน่งของเนื้องอกขยายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น Adenocarcinoma of colon หรือ Papillary carcinoma of thyroid เป็นต้น
  • 14. 2. เนื้องอกเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เนื้องอกธรรมดาให้เรียกชนิด ของเนื้องอกแล้วลงท้ายด้วย –oma เช่น Lipoma, Fibroma, Hemangioma, Lymphangioma เนื้องอกร้ายแรง ให้เรียกชนิดของ เซลล์แล้วต่อท้ายด้วยคาว่า –sarcoma (มะเร็ง) เช่น Liposarcoma, Fibrosarcoma Hemangiosarcoma และ Lymphangiosarcoma เป็นต้น
  • 15. 3. เนื้องอกเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อมดลูก เนื้องอกธรรมดา เช่น Leiomyoma, เนื้องอกชนิดร้ายแรง เช่น Leiomyosarcoma เป็นต้น 4. เนื้องอกเนื้อเยื่อประสาท เนื้องอกธรรมดา เช่น Neurofibroma เนื้องอกชนิดร้ายแรง เช่น Neurofibrosarcoma เป็นต้น 5. เนื้องอกของเม็ดเลือด เนื้องอกชนิดร้ายแรง เช่น Leukemia เป็นต้น * ยกเว้น Lymphoma คือ มะเร็งต่อมน้าเหลือง
  • 16. 1.ลักษณะที่เห็นด้วยตาเปล่า (gross lesion of tumur) 1.1. ขนาด - ขนาด โดยมากเนื้องอกจะเห็นได้ด้วยตาเปล่าในลักษณะของ การเป็นก้อน (discrete tumur) ยื่นออกมาจากเนื้อปกติ หรือแทรก (infiltrative tumur) อยู่ภายในเนื้อเยื่อปกติ ขนาดเล็กหรือใหญ่ขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของเนื้องอกนั้นๆ
  • 17. 1.2. รูปร่าง มีรูปร่างต่างๆ กันไปแล้วแต่ชนิดของเนื้องอก 1.3. สี เนื้องอกโดยทั่วไปมีสีต่างๆกัน แล้วแต่ชนิดของเนื้องอก 1.4. ความแน่น (consistency) โดยทั่วไปเนื้องอกมี ความแน่นมากกว่าเนื้อปกติ 1.5. หน้าตัด ( cut surface) หน้าตัดของเนื้องอกอาจเรียบ หรือนูน (bulgy surface)
  • 18. 2.1. Sheets of cell มี stromal cell น้อยมาก แบ่งตัว รวดเร็ว รูปร่างของเซลล์คล้ายๆกันและอยู่ชิดติดกัน ขอบเซลล์ไม่ชัดเจน ดูเหมือนเป็นกลุ่ม nucleus มาเรียงกัน เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว lymphosacoma และ มะเร็งของอัณฑะ(seminoma) 2.2. acinar arrangement เซลล์มะเร็งประกอบกันเป็นรูป ต่อมกลมหรือรี เล็กหรือใหญ่ก็ได้ เช่น มะเร็งของต่อมไทรอยด์และเต้านม 2.3. nests of cells เป็นลักษณะของมะเร็งต่อมไร้ท่อ เซลล์มะเร็งแบ่งตัวเร็ว อยู่ชิดติดกันจนเป็นกลุ่มก้อนของเซลล์มะเร็ง แต่ ล้อมรอบด้วยเยื่อค้าจุน(connective tissue)บางๆ เช่น มะเร็ง ของ adrenal gland เป็นต้น
  • 19. 2.4. tubular arrangement เป็นส่วนของกลุ่ม เซลล์มะเร็งที่เจริญรวดเร็วและเป็นลิ่มหรือกลุ่มของเซลล์เข้าไปใน เนื้อเยื่อข้างเคียงเหมือนก้ามปูรอบตัวปู  2.5. palisading pattern เซลล์เรียงตัวขนานกันไป บนเยื่อค้าจุนบางๆ คล้ายกับรั้วที่ทาด้วยไม้ปักเป็ นซี่ขนานกัน เช่น พวกเนื้องอกของ sertoli cell tumor