Contenu connexe
Similaire à ศิลปะยุคกลาง (20)
ศิลปะยุคกลาง
- 3. ยุค อียิปต์ ในยุคอิยิปต์มีตัวอักษรใช้กันแล้ว เรียกว่า อักษร
ภาพ คงไม่มีใครไม่รู้จักปิรามิด ปิรามิดที่พบ
มักจะสร้างเพื่อเก็บสมบัติและพระศพของฟาโรห์
ซึ่งก็คือผู้ปกครองประเทศนั่นเอง แต่ก่อนที่จะมีปิ
รามิดนั้นยังมี มาสตาบา มาก่อน และนี่แหละคือที่
ฝังศพที่เก่าแก่ที่สุด ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นปิรา
มิด นอกจากนี้ยังมีโบสถ์ วิหารสร้างตามภูเขา
และใช้โครงสร้างแบบวางพาดลักษณะการจัดวาง
ภาพคนจะแสดงให้เห็นทั้งด้านหน้าและด้านข้าง
ในเวลาเดียวกัน คือ เห็นลาตัวด้านหน้า แต่
ใบหน้า แขน ขา แสดงให้เห็นด้านข้าง อันเป็น
เอกลักษณ์ที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของศิลปะอิยิปต์
- 4. ยุค เมโสโปเตเมีย
อาณาจักรนี้ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้าไทกริสและยูเฟรติส
ประกอบด้วยชนชาติ ซูเมอเรียน บาบิโลเนีย แอสสิ
เรีย และเปอร์เซีย ศิลปกรรมมีความสอดคล้องกับ
ความเชื่อ พวกเขาเชื่อในอานาจของพระเจ้าตาม
ธรรมชาติ เคารพดวงดาว แม่น้า ปรากฏการณ์อื่น ๆ
สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นได้แก่ ซิกกูรัตแห่งเมืองอูร์
ประติมากรรมมีทั้งแบบนูนต่า นูนสูง และลอยตัว
ส่วนมากเกี่ยวกับเรื่องราวกิจกรรมของ
พระมหากษัตริย์ มีการประดับเปลือกหอย หินสี มี
ความสามารถในการแสดงออกและเลือกวัสดุได้
อย่างเหมาะสม มีความคล้ายคลึงกับอิยิปต์อยู่
เหมือนกันตรงการจัดวาง คือ ภาพหน้าคน แขน ขา
จะหันข้างแต่ลาตัวหันด้านหน้า นอกจากนี้พวกเขา
ยังมีอักษรใช้เช่นกัน อักษรของพวกเขาเรียกว่า
อักษรลิ่ม
- 6. ยุค อีทัสคัน และโรมัน อิทรัสคันเป็นชนชาติที่อยู่บนแหลมอิตาลีพวกเขามี
ความเป็นนักรบชั้นยอดในขณะเดียวกันก็เป็น
ศิลปินชั้นเยี่ยมด้วยงานประติมากรรมมีการเน้น
ส่วนละเอียด เน้นรูปทรงตามวัสดุ ชานาญการหล่อ
โลหะโดยเฉพาะโลหะสาริ สถาปัตยกรรมของพวก
เขามีลักษณะโค้ง เป็นโดม รับกับคาน มีการ
ผสมผสานหัวเสาแบบไอโอนิคกับโครินเธียนเข้า
ด้วยกัน เป็นหัวเสาแบบคอมโพสิท และยังคิดหัว
เสาแบบทัสแคน (ซึ่งคล้ายๆกับหัวเสาดอริค) ขึ้นมา
อีกด้วย
- 9. สมัย ฟื้นฟู
ในยุคนี้มีศูนย์กลางอยู่ที่อิตาลี เป็นการนาศิลปะ
ของกรีก และโรมันมาปัดฝุ่นใหม่ อีกทั้งยังมี
การศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับวิชาการด้านอื่นๆทุก
แขนง ด้วยความเชื่อที่ว่า มนุษย์คือศูนย์กลางของ
จักรวาล เป็นผู้ควบคุมธรรมชาติ ยึดมั่นในเหตุผล
และถือว่าคุณค่าของมนุษย์อยู่ที่ความรู้ ความคิด
ความสามารถของตนเอง ทาให้มีลักษณะเฉพาะ
ขึ้น ประติมากรรมก็เช่นเดียวกัน และมักสร้างขึ้น
ประกอบสถาปัตยกรรมจิตรกรรมสมัยนี้เน้น
เรื่องราวของชีวิตและสิ่งแวดล้อม ได้แก่
Davinci , Michelangelo ,
Raphael เรียกว่า เป็นสามยอดอัจฉริยบุคคล
ที่เกิดมาร่วมเมืองร่วมสมัยเดียวกัน
- 10. สมัย บารอค
ศิลปะแบบบารอคจะเน้นหนักไปทางธรรมชาติ
แสดงความอ่อนไหว มีลวดลายประดิษฐ์มาก
ซับซ้อน คาว่า บาโรค มาจากภาษาโปรตุเกส ที่
แปลว่า รูปร่างของไข่มุกที่มีสัณฐานเบี้ยว เป็นคาที่
ใช้เรียกลักษณะงานสถาปัตยกรรม และจิตรกรรมที่
มีการตกแต่งประดับประดา และให้ความรู้สึก
อ่อนไหว จิตรกรที่มีชื่อเสียงในยุคนี้ได้แก่ รูเบนส์ ,
เรมบรานด์ , เวลาสเควซ เป็นต้นศิลปะในแบบบา
โรค และรอคโคโคนั้นใกล้เคียงกันมาก มีบางคน
ได้เปรียบเปรยว่า ถ้าบาโรคเหมือนกับบุรุษเพศที่มี
ความองอาจ สง่างาม รอคโคโคก็เหมือนกับสตรี
เพศที่มีความงดงามที่นุ่มนวลและอ่อนช้อย คา
กล่าวนี้คงจะพอทาให้เข้าใจถึงศิลปะทั้งสองแบบ
ได้ดียิ่งขึ้น
- 11. สมัย คลาสสิก
ในสมัยคลาสสิก เป็นยุคที่ยุโรปมีความตื่นตัวใน
เรื่องประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก เกิดการ
เปลี่ยนแปลงทางการเมืองโดยมีสงครามเป็น
แรงผลักดัน ในทางปรัชญาถือว่ายุคนี้เป็นยุค
แห่งเหตุผล (แม้ว่าหลาย ๆ คนจะเห็นว่าสงคราม
เป็นเรื่องไร้เหตุผลก็ตาม) ดังนั้นงานศิลปะในยุค
นี้จึงเป็นงานที่เน้นทางด้านเหตุผลด้วยเช่นกัน
Jacques Louis David จิตรกรผู้ที่
ถือว่าเป็นผู้นาในศิลปะคลาสสิกนี้ กล่าวไว้ว่า
ศิลปะคือดวงประทีปของเหตุผล ลักษณะงาน
ต้องมีความถูกต้องตามหลักกายวิภาค มีความคิด
สร้างสรรค์ตามเรื่องราวที่มีเหตุผล ให้
ความสาคัญกับการจัดภาพ
- 13. สมัย เรียลลิสม์
ศิลปะมักเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลมกลืน
กับสภาพชีวิตในแต่ละยุคสมัย ศิลปะ
คลาสสิก และโรแมนติก ยังคงยึดแนว
ของกรีกและโรมันอยู่ไม่น้อยศิลปินรุ่น
หลังเห็นว่า ศิลปะทั้งสองไม่ได้แสดง
ความกลมกลืนของชีวิต ยังคงลักษณะ
ความเป็นอุดมคติอยู่ หาใช่ความจริงไม่
ดังนั้นการสร้างงานในยุคต่อมา ซึ่งเรา
เรียกกันว่า เรียลลิสม์ อีกทั้งยังเชื่อกันว่า
ศิลปะนั้นสอนกันไม่ได้ เพราะศิลปะเป็น
เรื่องเฉพาะตัวที่แต่ละคนมีความสามารถ
ต่างกัน ศิลปะ คือ การเลียนแบบตามตา
เห็น ศิลปินควรบันทึกเหตุการณ์ที่เป็น
ความจริงในยุคสมัยของตนเอาไว้ ไม่ใช่
สร้างงานแบบโบราณนิยม