SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  294
พื้นฐานชีวิต
23
ผู้เรียบเรียงรุ่นหลัง65
23/09/2565
13.50น.
สารบัญ
ขงเบ้งใช้วิชาอะไร? เรียกลมจนเป็ นฝ
่ ายชนะในศึก
“ผาแดง”
4
กลยุทธ ์11: กลอินทร ์พิมาน 8
ทาไมซุนกวนถึงอ ้างสิทธิ์เกงจิ๋วทั้งๆ ที่ตอนแรกเป็น
ของเล่าเปียว
25
ลมล่องเรือ 71
แรงแค่ไหนถึงเรียก “ไต ้ฝุ่ น” !! ทาความรู้จักระดับพายุ
ที่นับวันยิ่งแรงขึ้นทุกปี
106
ขงเบ ้ง....สามารถอัญเชิญเทพยดามาเพื่อขอให ้ช่วย
เปลี่ยนทิศทางลมให ้ได ้จริงหรือ?
108
ฉีเหมิน #2 — กาเนิดวิชา 136
อีลอน มัสก์ คือต ้นแบบ โทนี่ สตาร์ค ใน Iron Man 169
การปฏิวัติซินไฮ่ 191
เหมา เจ๋อตง หรือ เหมา เจ๋อตุง 214
เนื้อหาในเล่ม 23
อี้จิง ดวงจีน ฮวงจุ้ย ประวัติศาสตร์
64 ข่วย ผาแดง
ฤกษ์ยาม นันมาดอล
ซานหยวน ลมสลาตัน
ฉีเหมินตุ้นเจี่ย
ขงเบ้งใช้วิชาอะไร?
เรียกลมจนเป็ นฝ
่ ายชนะในศึก
“ผาแดง”
ใน “สามก๊ก” ตอน ศึกเซ็กเพ็ก
หรือ ศึกผาแดง
(ที่จอนห์ วู นามาทาเป็นภาพยนตร์
ใช ้ชื่อว่า สามก๊ก ตอนโจโฉแตกทัพเรือ)
• กุนซือและแม่ทัพหลายคนสาคัญที่แสดงฝีมือในการ
ศึกครั้งนี้
ต ้องยกเครดิตให ้ จิวยี่, อุยกาย และขงเบ ้ง
• แต่ภาพของ ขงเบ ้ง
สร ้าง “ศาลาเจ็ดดาว” ทาพิธี “เรียกลม เรียกฝน”
ดูจะติดตาตรึงใจผู้คนที่อ่าน/ดู สามก๊กไม่น้อยทีเดียว
“สามก๊ก” ตอน ศึกเซ็กเพ็ก
กุนซืออย่าง”ขงเบ ้ง”
จึงดุจดั่งเทพเซียนผู้ปราดเปรื่อง
และล่วงรู้ฟ้าดิน
กลยุทธ ์11: กลอินทร ์พิมาน
.........กลหนึ่งชื่อว่าอินทพิมาน.....ให ้อาจารยผู้รู้
เทพยาคูฝังนพบาท....................แต่งสีหนารทข่มนาม
ตามโบราณผู้แม่น......................อันชาญแกวนเเหนประโยชน์
บรรเทาโทษโดยศาสตร์...............ยุรยาตรโดยอรรถ
ให ้ประหยัดซึ่งโทษ....................อย่าขึ้งโกรธอหังการ์
มนตราคมสิทธิ์ศักดิ์....................พานักในโบราณ
บูรพาจารย์พิไชย......................โอบเอาใจพลหมู่
ให ้ดูสกุณนิมิต..........................พิศโดยญาณประเทศ
ภิเษกราชภักดี.........................ศรีสุริยศักดิ์มหิมา
แก่ผู้อาสานรนารถ....................เทพาสาธุการ
โดยตานานดั่งนี้.......................ชื่อว่าอินทพิมาน
กลยุทธ์นี้...
เน้นที่ การสร ้างขวัญกาลังใจให ้
ฝ่ ายเรา
• สมัยก่อน มี การใช ้จิตวิทยาเพื่อปลุกระดมให ้หึกเหิม
ไม่กลัวศึก
การปลุกเสกของวิเศษ คาถาอาคม มนตรา
ยังเป็นสิ่งที่ใช ้มาจนถึงปัจจุบัน
• กองทัพที่มีขวัญกาลังใจดี ย่อมเอาชนะศึกได ้ไม่ยาก
• ของไทยเราที่เห็นเด่นชัดมาแต่โบราณ
ก็คือพิธีตัดไม ้ข่มนาม คือทาพิธีตัดต ้นไม ้ที่มีนามพ ้อง
กับศัตรู
• ยกตัวอย่างเช่น สมัยรัชกาลที่6
เมื่อทรงนาไทยเข ้าร่วมสงครามโลกครั้งที่1 ทรง
กระทาพิธีตัดไม ้ข่มนาม
ฟันต ้น “ฝรั่ง” ก่อนจะส่งทหารไปร่วมรบในยุโรป
ครั้ง...ศึกเซ็กเพ็ก
จิวยี่ วางแผนใช ้เพลิงเผาทัพ โจโฉ
• โดยวางอุบายห่วงสัมพันธ์ ให ้โจโฉ มัดเรือด ้วยโซ่ให ้
ติดเป็นพืด
• ใช ้อุบายเจ็บตัวของ อุยกาย
• จนในที่สุด โจโฉ ก็หลงเชื่อ
• เมื่อใกล ้กาหนดขณะจิวยี่สารวจเนินเขา
ขณะนั้นมีลมพายุพัดธงใหญ่ในกองทัพโจโฉ หัก
สะบั้นลง
จิวยี่ จึงหัวเราะว่าเป็นลางอัปมงคลของโจโฉ
พอสิ้นคา...
ปลายลมพัดมาถูกธงชัย ทัพจิวยี่
หลุดจากคัน ปลิวขึ้นเขาไปตกตรงหน้า
จิวยี่
• จิวยี่ เห็นดังนั้น
ก็สะดุ้งตกใจ
เนื่องจากทัพจิวยี่ อยู่ทางปลายลม
• แม ้ว่าจะวางแผนเผาทัพโจโฉ แต่ลมมิได ้พัดไปยัง
ค่ายโจโฉ
• เห็นดังนั้น จึงเกิดความทุกข์เป็นอันมาก
ถึงกับกระอักโลหิตล ้มป่ วยลง
หมอรักษาอย่างไรก็ไม่ทุเลา
โลซก...เห็นดังนั้น
จึงนาเนื้อความไปปรึกษา ขงเบ ้ง
• ขงเบ ้ง..บอกว่ารักษาได ้
• โลซก..จึงพา ขงเบ ้ง ไปพบ จิวยี่
• เห็น จิวยี่ ล ้มป่ วยอยู่
จึงบอกว่า มีตัวยาที่จะรักษา จิวยี่ ได ้
ว่าแล ้ว ขงเบ ้ง...ก็เขียนเทียบยา
เป็นอักษรสิบหกตัว
ความว่า ซึ่งจะคิดกาจัดโจโฉนั้น ก็ได ้จัดการทั้ง
หมดแล ้ว
ขาดแต่ ลมสลาตัน ที่จะพัดมาเท่านั้น
• แล ้วพูดว่าอันโรคท่านนี้
เป็นจากธาตุลมกับเพลิงนั้นหย่อน
• ถ ้าลมพัดมาต ้องเพลิงกาเริบขึ้นกล ้าแล ้ว
โรคท่านก็จะหาย
จิวยี่..ได ้ฟังอุปมาและอ่านหนังสือ
แล ้ว
ก็ตกใจว่า..ขงเบ ้ง รู้ความคิดเรา
จึงบอกเนื้อความทั้งปวงและถามว่าจะทาอย่างไร
• ขงเบ ้งนั้นรู้...ในตาราว่า เดือนอ ้าย แรมห ้าค่า จะเกิด
ลมสลาตัน
• แต่ครั้นจะบอกตารา เกรงว่าสืบไปอาจต ้องรบกับจิวยี่
จึงไม่บอก
จึงคิดอุบายบอกจิวยี่แล ้ว
จะลอบหนีไป
จึงบอกว่า..ข ้าพเจ ้ามีตาราขอฝน
• ถ ้าท่านประสงค์ลมสลาตัน ให ้ปลูกร ้านสามชั้น
สูงชั้นละสามศอกเศษ
ขึ้นบนเขาลาปิสาน
• แล ้วขอทหารร ้อยยี่สิบนาย
ถือธงต่างๆ นั่งล ้อมโรงพิธี
• ข ้าพเจ ้าจะขึ้นไปอ่านตาราขอลมสลาตัน ให ้พัดมา
เป็นเวลาสามวันสามคืน จึงได ้
• จิวยี่ ได ้ฟังก็ยินดีดั่งได ้ยาทิพย์ มาชโลมโรคซึ่งเป็น
ไข ้ใจนั้นก็หาย
แล ้วสั่งให ้ทหารไปปลูกโรงพิธีดังว่า
การที่จิวยี่หายป่ วยได ้
ก็อาศัยความเชื่อเรื่องคาถาอาคม
สร ้างขวัญกาลังใจจนอาการทุเลาลง
สามารถบัญชากองทัพต่อได ้
• ขนาดแม่ทัพผู้มีปัญญายังเป็นเช่นนี้ แล ้ว
นับประสาอะไรกับเหล่าพลทหาร
• การทาให ้กาลังพล
มีขวัญกาลังใจที่ดี
ย่อมทาให ้ มีโอกาสชนะศึกยิ่งขึ้นได ้
แม ้ว่าบางครั้งจะต ้องใช ้จิตวิทยา
โดยการใช ้เวทย์มนต์คาถา
สร ้างกาลังใจ
แน่นอนว่า งานวิชาการชั้นหลัง
มีข ้ออธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้น...ว่า
นี้
ไม่ใช่ไสยศาสตร์
• แต่เป็นความรู้เรื่องดินฟ้าอากาศ เรื่องภูมิศาสตร์
• เรื่องโหราศาสตร์...ที่..ขงเบ ้ง..รอบรู้ต่างหาก
• พล.ต.ต.สุชาติ เผือสกนธ ์ก็เป็นท่านหนึ่งที่อธิบาย
เรื่องนี้
ไว ้ในบทความชื่อ “ขงเบ ้ง เชิญเทพยดาให ้เรียกลม
มาเผาทัพเรือโจโฉได ้จริงหรือ?”
(เผยแพร่ในนิตยสาร ศิลปวัฒนธรรม, เมษายน 2538)
ซึ่งของคัดย่อบางส่วนมานาเสนอ ณ ที่นี้
https://www.silpa-mag.com/history/article_36723
• บทความเรื่องนี้ ผมได ้เขียนขึ้น
โดยการนาเอาวิชาการ...โหราศาสตร์ดวงดาว
มาคานวณย ้อนหลัง
กลับไปนานกว่า 17 ศตวรรษ
• โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะพิสูจน์ให ้เห็นว่า วิชาการแขนง
นี้
มิใช่ศาสตร์ที่เหลวไหล หลอกลวง
https://www.silpa-mag.com/history/article_36723
ปัจจุบันนี้ ผู้ประกอบอาชีพหมอดู...
จานวนไม่น้อย
ได ้นาเอาวิชาโหราศาสตร์แขนงต่างๆ
มาเป็นเครื่องมือหากิน
โดยที่ตนเองมิได ้ศึกษาศาสตร์นี้
ให ้รู้สึกซึ่งแตกฉานอย่างแท ้จริง
จึงทานายผิดพลาดเป็นเหตุให ้ศาสตร์นี้
เสื่อมไปโดยปริยาย
• ผมได ้ศึกษาค ้นคว ้าวิชาการแขนงนี้...มานานกว่า 40
ปี
จึงได ้มีความรู้มากพอสมควร
และยอมรับความจริงว่า...โหราศาสตร์เป็น
วิทยาศาสตร์แขนงหนึ่ง
ซึ่งสามารถนามาประยุกต์กับวิทยาศาสตร์แขนงอื่นๆ
ได ้
ทุกโอกาสเวลา
https://www.silpa-mag.com/history/article_36723
เมื่อดูชื่อของบทความนี้แล ้ว
ค่อนข ้างจะยาวเป็นพิเศษ
และเกี่ยวข ้องโดยตรงกับเรื่อง “สามก๊ก”
ตอน “เผาทัพเรือโจโฉ”
• ท่านที่ได ้ชมภาพยนตร์ตอนนี้
หรือเคยอ่านเรื่องราวมาแล ้ว
คงจะจาได ้ว่า เล่าปี่ โดย ขงเบ ้ง
ได ้ร่วมกับ ซุนกวน โดย จิวยี่
วางแผนเผา ทัพเรือของโจโฉ ซึ่งมีกาลังมหาศาล
ที่เข ้ามาประชิดเมืองเกงจิ๋ว
https://www.silpa-mag.com/history/article_36723
https://pantip.com/topic/36199541
เมืองเกงจิ๋ว
เมืองเกงจิ๋ว
โดย..ขงเบ ้ง
..เป็นผู้ทาพิธีเชิญเทพยดา
• มาดลบันดาลให ้ลมพัดเปลี่ยนทิศทางต ้นลม
จากด ้านกองทัพเรือโจโฉ
มาอยู่ทางด ้านกองทัพจิวยี่ แทนได ้อย่างน่ามหัศจรรย์
• จิวยี่ จึงสามารถเผาทัพ เรือโจโฉได ้
โดยอาศัยแรงลมที่เปลี่ยนทิศนี้เอง
จนสาเร็จ
ทาไมซุนกวนถึงอ ้างสิทธิ์เกงจิ๋ว
ทั้งๆ ที่ตอนแรกเป็นของเล่าเปียว
https://pantip.com/topic/36515218
- อ ้างว่า ศึกเซ็กเพ็ก ง่อก๊ก ลงทุนไปมากที่สุด
คิดตามความถูกต ้องแล ้ว เกงจิ๋ว ควรจะตกเป็นของ ง่อ
ก๊ก
- อ ้างว่า ง่อก๊ก กาลังทาศึกจะชิงเมือง ของ เกงจิ๋ว
แต่เล่าปี่และขงเบ ้ง มาฉวยโอกาสยึดไปก่อน
- อ ้างว่า เล่าปี่และขงเบ ้ง ทาสัญญาขอยืม เกงจิ๋ว
แล ้ว
ดังนั้นเท่ากับ เล่าปี่และขงเบ ้ง
ยอมรับว่า เกงจิ๋ว ต ้องเป็นของ ง่อก๊ก
• แต่ไม่ว่าจะอ ้างอย่างไร
หาก เล่ากี๋ ยังมีชีวิตอยู่
ซุนกวน
ก็ไม่มีความชอบธรรมใดๆที่จะยึดเอา เกงจิ๋ว ไป
อยากรู้จริงๆ ทาไมมีคนเกลียด เล่า
ปี่
เยอะนัก
• เจ ้าตัวเป็นคนชอบเรื่องสามก๊กมานาน
อยู่เเล ้วเลยตั้งใจศึกษาอย่างตั้งใจ
• เเต่ดูไปดูมาก็เห็นการวิจารณ์ถึงเล่าปี่
เช่น หน้าไหว ้หลังหลอก ทิ้งเเม่ตัวเอง คิดยึดเมืองคน
อื่น
อยากรู้มากๆว่าเป็นเรื่องจริงเปล่า
• ผู้รู้โปรดชี้เเนะด ้วยเถิด
https://pantip.com/topic/36395983/comment8
• สามก๊ก
ไม่ใช่เรื่องที่ใครก็ได ้
อ่านแล ้วสามารถรู้เรื่อง คือจะรู้เรื่องได ้...
ต ้องมีปัญญาพอสมควร
• ที่เกลียดเล่าปี่นั้น
ก็เพราะอ่านไม่รู้เรื่องนั่นแหล่ะ
พูดง่ายๆคือ ไม่มีปัญญา
https://pantip.com/topic/36395983/comment8
เรื่องเมืองเกงจิ๋วนั้น
มือใครยาว สาวได ้สาวเอา
• ทั้งสามฝ่ ายไม่มีสิทธิ์ใน เกงจิ๋ว ทั้งสิ้น
• ใครชิงมาได ้ก่อน ถือว่าเป็นเจ ้าของ
จะมาอ ้างเสียไพร่พลในศึกเซ็กเพ็กไปมาก ฯลฯ
• ฟังเข ้าท่าดี
ถ ้าไม่มีสติปัญญาหรือโง่
ก็คงบอกว่า เออใช่ๆ แล ้วยกให ้ไป
เล่าปี่ อยู่ เกงจิ๋ว
ก็อยู่ในฐานะคนรู้จักหรือญาติ(แซ่เดียวกัน)
ช่วยทานุบารุง เล่ากี๋ ที่ป๋ วยหนัก
• และ เล่ากี๋ เอง ก็รักนับถือ เล่าปี่
• หรือต ้องให ้เล่าปี่ ไปเข ้ากับ โจโฉ หรือ จิวยี่
แล ้วมาตีเมืองจาก เล่ากี๋
จึงจะเรียกว่ามีคุณธรรม
กรณี เสฉวน นั้น
• แต่ว่าไปแล ้วมันเป็นเหตุสุดวิสัย ให ้มารบพุ่งกัน
ตอนนั้นมี ม ้าเฉียว เข ้ามาเกี่ยวข ้อง
ก็ใช่ว่า เล่าปี่ จะมุ่งไปตีเอา เสฉวน เสียทีเดียว
พวกเกลียด เล่าปี่
• แนะนาว่า...ไปอ่านให ้รู้เรื่อง..ก่อนดีกว่า
เที่ยวมาโพนทะนา บอกตามตรงว่าอายเขา
• คนอย่าง เล่าปี่ หรือใกล ้เคียงกับ เล่าปี่ เคยเห็นมา
เยอะ
แต่คนอย่าง โจโฉ ยังนึกภาพไม่ออก ว่าเป็นคนแบบ
ไหน
• โจโฉ ทั้งโหด และมีปัญญาพอตัว
คนแบบนี้ยังไม่เคยเห็น เคยเห็นแต่โหด โง่ ตอแหล
แต่จะว่าไป บางโอกาส โจโฉ ก็โง่บรรลัย
คนโหด โง่ แบบนี้ ก็คล ้ายๆ จะเคยเห็นอยู่
https://pantip.com/topic/36395983/comment8
เล่าปี่ ไปตี เสฉวน
• เพราะ เตียวสง แนะนาให ้เล่าเจี้ยง
เจ ้าเมือง เสฉวน ไปหาใครก็ได ้
ช่วยส่งกองกาลังมาช่วยป้องกัน เตียวฬ่อ หน่อย
เพราะโดนตีหนักมาก
ตอนแรก เตียวสง ไปหา โจโฉ
ก่อน
• แต่ด ้วย ตัวเองเป็นนักปราญช์..บุคลิกคล ้าย บังทอง
• โจโฉ ไม่ชอบเลยไล่ไปเสีย
• เตียวสง เลยไปหา เล่าปี่
ซึ่งดัวยบุคลิกนอมน้อมของ เล่าปี่
(ความจริงเพราะขงเบ ้งรู้อยู่แล ้วว่าโอกาสกาลังมา)
• เตียวสง เลยมอบแผนที่เข ้าเมืองให ้ เล่าปี่
ก็เลยเข ้าเมือง เสฉวน
ได ้โดยง่าย
ซึ่งตอนหลังนี่
เล่าปี่ ชักจะเริ่มหน้าด ้านขึ้น
ไม่หน้าบางเหมือนแต่ก่อน
• สมัย โตเกี๊ยม กับ เล่าเปียว จะยกเมืองให ้
ดันทะลึงไม่รับ
• แต่กรณี เสฉวน
ที่ปรึกษา 2 คนของ เล่าปี่ บอกว่า ถ ้ายังลีลาขนาดนี้
รักษาภาพลักษณ์
ที่ปรึกษาก็เหนื่อยไม่ไหวแล ้ว แกก็เริ่มหน้าหนาขึ้น
• อาจจะเพราะพอเริ่มมีอานาจ มันก็ชักจะติดใจ
ได ้เกงจิ๋ว แล ้วนี่ ก็เอา เสฉวน ไปอีกเมือง
น่าจะสุขสบายกว่าเดิม
คือต ้องเข ้าใจความรู้สึกของฝ่ าย
ง่อ
ด ้วยว่า ฝ่ ายง่อ มีความรู้สึกว่า..
ตัวเองเป็นเจ ้าของ
• และมีสิทธิ์ใน เกงจิ๋ว อย่างเต็มเปี่ยม
• บ ้านใกล ้เรือนเคียง เหล่..มองมานาน จะไปไหนเสีย
แทบจะนึกว่า เกงจิ๋ว
เป็นของตัวเอง
ตั้งแต่ เล่าเปี ยว ยังไม่ตาย
ไม่ใช่ฝ่ ายง่อ ที่รู้สึก
ฝ่ ายพวก เล่าปี่ เองยังเกือบรู้สึก
เหมือนกัน
ดูได ้จากคาสนทนาโต ้ตอบ ที่บิดพริ้วไปเรื่อยๆ
• แต่โดยข ้อเท็จจริง มือใครยาวสาวได ้สาวเอา
ใครมีฝือเอามาได ้ย่อมเป็นของคนนั้น
ต่างฝ่ าย ต่างก็คิดว่าตัวเอง ลงทุน
ไปเยอะ
ควรจะได ้ ผลตอบแทนที่สูง..
• เปรียบดัง เพื่อนสองคนทางาน..อ ้าว เอ็งทาไม..ได ้
โบนัส..มากกว่า
แล ้ว จะยอมได ้หรือ
• ถึง ซุนกวน ยอม..แต่..แม่ทัพขุนนางนั้นจะคิดอย่างไร
การปกครองคนเป็นนายคนสมัยนั้นยาก
• ถ ้าขุนนาง ทหาร คิดว่า..ซุนกวน..อ่อนแอ แล ้ว..ปลด
เสียดีไหม
อันนี้แย่ เพราะปลดไม่ปลดเฉยๆ อาจโดนล ้างทั้ง
ครอบครัวได ้
เล่าปี่
ครั้น..ดื่มสุราอยู่กับ เล่าเปียว
ด ้วยความเมา...ได ้พลั้งปาก
• ตัวข ้านี้...ถ ้าแม ้น มีเมืองเป็นฐานที่มั่น
แผ่นดินนี้ ก็เหมือนลูกไก่ในกามือ
• เล่าเปียว...ได ้ฟัง ก็อึ้งนิ่งไปพักใหญ่
เล่าปี่เองนึกได ้...ก็เลยแกล ้งเมาหนัก
ทาเป็นไม่รู้เรื่อง จาไม่ได ้
มันไม่ใช่ของตระกูล เล่า
• มาตั้งแต่ตอนที่ เล่าจ๋อง
โดนลูกยุ ของ ซัวมอ
ประเคน เกงจิ๋ว ไปให ้โจโฉ
แล ้วโดนฆ่ายกครัว...
แล ้วครับ
ใน ศึกเซ็กเพ็ก นั้น
• ง่อก๊ก ก็เป็นฝ่ ายที่ลงทุนลงแรงมากที่สุด จึงสมควรจะ
ได ้ไป
และฝ่ ายเล่าปี่ ก็อาศัย สัญญาพันธมิตร ได ้เมืองไป
งานนี้เรียกได ้ว่า..มือใครยาวสาวได ้สาวเอา
สุดท ้าย ก็กลับมาเป็นของ ง่อก๊ก จนได ้
แผนที่สามก๊ก
ในนิยาย..ไม่มีบอกไว ้
แต่ในประวัติศาสตร์ บอกว่า
• เล่าปี่ กับ เล่ากี๋
ร่วมมือกันตั้งทัพขวางทางน้าไว ้
• ทาให ้ทัพเรือของโจโฉ
ผ่าน แฮเค ้า มาไม่ได ้
เรือที่ โจโฉ ใช ้ใน ศึกเซ็กเพ็ก
คือเรือของ เกงจิ๋ว
ภาพนี้
โจโฉ ยกทัพมาจากทางเหนือ
• แต่ติด เมืองแฮเค้า ของเล่าปี่ จึงยกทัพเรือลงไป
ไม่ได ้
เล่าปี่ ต ้านทัพเรือทางเหนือ
จิวยี่ ต ้านทัพเรือทางใต ้
• ช่วงนี้จะเรียกว่า จิวยี่ ช่วย เล่าปี่ ก็ไม่ถูกซะทีเดียว
เรียกว่า ร่วมมือกันสู ้รบกับโจโฉ จะดีกว่า
• เล่าเปียว
ตายเดือน 10 ปีค.ศ.208
• โจโฉ
แตกทัพเรือปลายปี 208 ต ้นปี 209 ใช้เวลา..ยังไม่ถึง
สามเดือน
• ถ ้า โจโฉ ตั้งใจจริง อยู่ที่ เมืองกังเหลง ต่อก็ได ้
แต่ โจโฉ รีบร ้อนกลับ ฮูโต๋ เพราะมีศึกอยู่ทางเหนือ
เมืองกังเหลง
ตอนที่ จิวยี่ รบชนะโจหยิน อยู่ที่
นอกเมือง
ยังไม่ถึง เมืองกังเหลง เลย
• ขงเบ ้ง
วางแผนใช ้ชัยภูมิที่ดีกว่า
บุกยึดหัวเมืองในแนวหลังของ เมืองกังเหลง
ขึ้นมาทั้งหมด
ภาพนี้
จิวยี่ ถูก เล่าปี่ ขวางทางน้าเอาไว ้
ทาให ้แล่นเรือขึ้นไปตี เมืองซงหยง ไม่ได ้
แต่ เล่าปี่ ยึด เมือง แฮเค ้า เป็นฐาน
ถึงไม่มี จิวยี่ มาช่วย
• เล่าปี่
ก็ต ้องยึดเมือง ซงหยง กับ กังเหลง
เอาไว ้ได ้อย่างแน่นอน
• การที่ จิวยี่
เสนอหน้ามาตี กังเหลง
ก็เพราะเสียรู้ขงเบ ้ง
ตอนที่..โลซก..มาทวง
• ขงเบ ้ง ใช้คาว่ายืม เพื่อเลี่ยงไม่สู้รบกับ จิวยี่
แต่ ขงเบ ้ง
คงนึกไม่ถึงว่า เล่ากี๋
อยู่ได ้ไม่ถึงปีก็ป่ วยตาย
ทาให ้คาว่ายืม ผูกมัดตัวเอง
การที่ ซุนกวน มาทวง เกงจิ๋ว
ก็เพราะ ขงเบ ้ง...พลาด
...ใช้คาว่ายืม
แล ้วถ ้าสมมุติ เล่าปี่ ยอมรับ เมืองเกง
จิ๋ว จาก เล่าเปียว
จะเป็นยังไงครับ
• ง้อก๊ก ก็จะอ ้างสิทธิ์ไม่ได ้
เผลอๆ อาจจะไม่ได ้เกิดศึกผาแดง
แต่จะเป็น ศึกโจโฉ กับ เล่าปี่ แทน
ถ ้าอย่างนั้น ง่อก๊ก ก็หมดสิทธิ์ละครับ
แถมยังต ้องไปง ้องอน เป็นพันธมิตรกับ
เล่าปี่ด ้วยซ้า
• ใช่ครับ..เกงจิ๋ว มีทหาร 3 แสน..ตั้งรับ โจโฉ ได ้สบาย
นี่ยังไม่รวมทหารของ เล่ากี๋ อีก
แต่คงต ้องฆ่า ซัวมอ ก่อน
เพราะคุมทหาร เกงจิ๋ว อยู่
เท่าที่ดูจากเวอร์ชั่น 2010
ถ ้า เล่าปี่ ยอมรับเมืองจาก เล่า
เปียว แต่แรก
• ง่อก๊ก ก็คงมาง ้อแล ้ว
นี่ไม่รับเมือง แล ้วง่อก๊กมาไล่แม่ทัพของโจโฉออก
จากเมืองได ้
• แค่...ขงเบ ้ง
ออกอุบายให ้ทัพเล่าปี่ มายึดเมืองก่อน
• ง่อก๊ก
เลยรู้สึกว่ามาชุบมือเปิบ
พยายามอ ้างสิทธิ์ในเมืองนี้
ถ ้า เล่าปี่ ยอมตกปากรับคา
เอาเมืองต่อจาก เล่าเปียว
เล่าปี่ คงโดนทหารเล่าเปียว เอาไปสับเละ
ไม่ได ้ออกจากเมืองในวันนั้นแล ้วครับ
เห็นชัดๆว่า เล่าเปี ยว คิดลองใจเท่านั้น
• จริงๆอยากจะยกเมืองให ้เล่าจ๋อง ลูกชายใจจะขาด
แต่กลัว เล่าปี่ ฉวยโอกาสยึดเมืองจาก เล่าจ๋อง
เลยโยนหินถามทางดู
• เล่าปี่ รู้ดี
เพราะตัวเองใช ้ลูกไม ้นี้มาแต่เดิม
https://pantip.com/topic/36515218
ผมเชื่อว่าคงจะมีท่านผู้ชมอีก
จานวนไม่น้อย
ที่ยังกังขาอยากทราบว่า ข ้อเท็จจริงของตอนนี้เป็น
อย่างไร
• เป็นเรื่องจริงอิงนิยาย?
• หรือเป็นเรื่องอภินิหารของคนโบราณ
ซึ่งผู้บันทึกจดหมายเหตุและพงศาวดาร
มักนิยมแต่งเติมเสริมความ
ให ้เป็นที่น่าเลื่อมใสของคนรุ่นหลัง
https://pantip.com/topic/36515218
หนังสือเรื่อง “สามก๊ก”
ฉบับเจ ้าพระยาพระ คลัง (หน)
ได ้กล่าวถึงเหตุการณ์ในตอนนี้ไว ้ว่า
“..ขงเบ ้งรับเอากระบี่
แล ้วพาโลซกและทหารทั้งปวงไป ณ เขาลาปินสาน
แล ้วทาเป็นดูภูมิที่ ให ้ทหารปลูกร ้านสามชั้น สูงชั้นละ
สามศอกเศษ
ชั้นต ้นนั้นกว ้างยี่สิบวา ยาวยี่สิบวา
แล ้วให ้ขุดเอาดิน ทิศอาคเนย์ มาปั้นเป็นรูปมังกร…
หนานผิงซาน
ฝ่ ายขงเบ ้ง
เมื่อเดือนอ ้าย แรมสามค่า
เวลาเช ้า ก็อาบน้าชาระกาย แต่งตัวใส่เสื้อบงเฉียง
สยายผม
แล ้วจึงว่าแก่ทหารทั้งปวงว่า บัดนี้เราจะทาการใหญ่
แต่บรรดาทหารซึ่งเราจัดไว ้นี้
ถ ้าเห็นเราทาประการใด
ก็อย่าให ้พูดจาเดินไปจากที่นี่ ให ้นิ่งปกติอยู่..กว่าเราจะ
สาเร็จ
แม ้ผู้ใดไม่ฟัง...เราจะเอากระบี่อาญาสิทธิ์
ซึ่งจิวยี่ให ้มานี้..ตัดศีรษะเสีย
ครั้นกาชับทหารแล ้ว...ขงเบ ้งก็ขึ้นไปบนร ้านชั้นบน จึง
จุดธูปเทียนขึ้นบูชา
แล ้วทานั่งอ่านมนตร์เรียกลม..อยู่
ครั้นเวลาอันสมควรแล ้วก็พาทหารทั้งนั้นลงมาอาบ น้า
เวลาเช ้าจนรุ่ง…
ก็มิได ้เห็นลมพัด..กลับไป
จิวยี่จึง (กล่าว) แก่โลซก
ว่า ขงเบ ้ง..นั้น ไปทาการ..วันกับคืนหนึ่งแล ้ว
ก็มิได ้มี...ลมสลาตัน
โลซก..จึงว่า ขงเบ ้ง ทานั้น...เห็นจะได ้การอยู่
ครั้นพูดกันดังนั้นแล ้ว
ก็ชวนกันคอยดูตั้งแต่เช ้าจนเวลา สองยามเศษ
จึงได ้ยินเสียงอื้ออึงข ้างทิศอาคเนย์
จิวยี่ จึงพา โลซก ออกมาดูกลางแจ้ง
ก็มิได ้เห็นลมว่าวและลมตะวันตกพัดมาสงบ เป็นปกติ
อยู่
อีกสักครู่..ลมสลาตัน..ก็พัดหนักมา
จิวยี่ ก็มีความยินดีแล ้วว่าแก่ โลซก ว่า อันสติปัญญา
ขงเบ ้ง
รู้ตาราเรียกลมในอากาศ...หาผู้ใดเสมอมิได ้
อุปมาดังจะนับดาวในท ้องฟ้าและหยั่งพระมหาสมุทรอัน
ลึกได ้...”
ลมล่องเรือ
https://lek-prapai.org/home/view.php?id=588
คนที่รู้จักลมมากที่สุดเห็นจะเป็น
ชาวทะเล
• เพราะจาเป็นต ้องใช ้ในการออกเรือ ทามาหากิน
และเอาชีวิตให ้รอด
ในยามพายุจะมา
สาหรับ..คนทะเล...การออกเรือ
สมัยก่อน
ต ้องแล ้วแต่ลม...ดูลมเป็นหลัก
• เนื่องจาก...แต่ละเดือน...กระแสลมพัดต่างกัน
• ลุงไหม บุญเรือง
คนทะเล อาเภอบ ้านแหลม อายุ ๘๐ ปี
เล่าว่าสมัยก่อน
ไม่มีเข็มทิศ ไม่มีเครื่องยนต์
มีแต่...ใบเรือ
กับความรู้เรื่องลมและดาว...ไว้กากับทิศ
ลุงไหม
ต ้องใช ้...ลูกศรติดเรือใบ..คอยดูลม
• เพราะลมแต่ละชนิด...พัดตามเวลา
• หากรู ้เดือนกับดูลมเป็ น ก็จะรู้ทิศ
สามารถแล่นเรือ..ตะบึงไปข ้างหน้า...ไม่ผิดจุดหมาย
• หาก...บางฤดู...ลมพัดตีกลับ
ยิ่งต ้องรู้จัก...จับทิศให ้แม่นยา..จะได ้เดินเรือถูกวิธี
อาศัยวิ่งเรือ..โดยการวิ่งซอย...แบบฟันปลา
เพื่อหลีกกระแสลม
แล่นออกแล ้วค่อยกลับเข ้ามาใหม่เพื่อรักษาเส ้นทาง
• บางวัน...จึงไปได ้ไกลเพียงแค่ไม่กี่เมตร
ลมต่างๆ ที่ลุงไหมเล่าถึง
มีทั้ง..ลมยืนและลมแซม
• ลมยืน พัดประจาอยู่ ๘ ทิศ ในเวลากลางวัน
• ส่วน ลมแซม พัดกลางคืน มาชั่วประเดี๋ยว
ครั้งละครึ่งชั่วโมงบ ้าง หนึ่งชั่วโมงบ ้าง
พัดเร่ไปตามเข็มนาฬิกา
• และจะมีลมหลักๆ อยู่ ๓ ชุด
หมุนเวียนกันไป ชุดละ ๔ เดือน
ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้คือ
ลมว่าว เป็นลมยืน
พัดจากทิศอุดรลงทักษิณ
• สวนทางกับลมสลาตัน
• เริ่มลงตั้งแต่เดือน ๑๑ เดือน ๑๒ ไปถึงเดือน ๒
(ตุลาคม-มกราคม)
• ตามกาหนดโบราณ
ลมว่าวจะลง เดือนตุลาคม เป๊ ะ
เดี๋ยวนี้เริ่มช ้าไป
ลมอุกา เป็นลมยืน
• พัดจาก อีสาน ไป หรดี
• สวนทางกับ พัทธยา
• ทาให ้เกิดคลื่นในทะเลถี่
ลมว่าวอุกา
• พัดเร่ไปมาระหว่าง ลมว่าวและลมอุกา
• สวนทางกับ พัทธยาปลายแหลม
เป็นพร ้อมๆ กับลมว่าว
ในช่วงเดือน ๑๑-๑๒
และพัดเร่ไปจนถึงเดือน ๒
(ตุลาคม-มกราคม)
ลมอุกากับลมว่าว..จะอยู่ด ้วยกัน
• ตอนเช ้าว่าว สายเร่เป็น ว่าวอุกา
• บางทีก็มี ลมตะวันออก เร่มาผสม
• ในช่วง ๔ เดือน
ตั้งแต่ตุลาคมถึงมกราคม
ลมว่าว ลมว่าวอุกา จะเป็นไปด ้วยกัน
• พอสัก ๑๔ ค่า ๑๕ ค่า ๑ ค่า
ลมจะมาผสมให ้น้าเกิด
และในหน้ามรสุมจะมี ลมอุกา พัดแทรกอยู่ด ้วย
ลมอุกาตะวันออก
• พัดสวนทางกับ ลมเชิงพัทธยา
• เป็น ลมอันตราย
• เรือมักจมเพราะลมนี้
• มักจะพัดแทรกลมไต ้ฝุ่ นหรือลมตะวันออก
• เป็นในเดือน ๑๑-๒ (ตุลาคม-มกราคม)
ลมตะวันออก เป็นลมยืน
• พัดจากบูรพาไปประจิม
• สวนทางกับ ลมตะวันตก
• เป็นลมที่น่ากลัวมาก
• ไต ้ฝุ่ นจะมากับลมนี้
• เรือล่มเพราะลมนี้บ่อย
• พัดระหว่างเดือน ๑๑-๒ (ตุลาคม-มกราคม)
• บางทีพัดแทรกในช่วงปลายเดือน ๕ ก็มี
สิ้นสุดชุดลมว่าวกับลมตะวันออก
• เมื่อ..ลมหัวเขา..พัด
ก็เป็นสัญญาณว่า
กาลังจะเข ้าสู่ชุดลมตะเภาและลมสลาตัน
ลมหัวเขา
• ลมตะวันออก จะเร่ เป็น ลมหัวเขา
ออกตอนมืดๆ เย็นๆ
• สวนทางกับลมเชิงตะโก ้
• พัดเพียงแค่ ๔๕ วันพอดี
• พัดอยู่ในช่วงเดือน ๓-๔
(กุมภาพันธ์-มีนาคม)
ลมตะเภา เป็นลมยืน
• พัดจาก อาคเนย์ ไป พายัพ
ลมตะเภา เป็นลมยืน
• พัดจาก อาคเนย์ ไป พายัพ
• สวนทางกับลมตะโก ้พัดหลวง
ลงพร ้อมๆ ลมสลาตัน
ในเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม
ลมตะเภา เป็นลมยืน
• พัดจาก อาคเนย์ ไป พายัพ
• แต่จะพัดอยู่เพียง ๔๕ วันเท่านั้น
เริ่มลงตอนเพลไปแล ้ว จากนั้น ๒ ชั่วโมง
ค่อยเร่ไปสลาตัน อยู่นาน ๔ ชั่วโมงแล ้ว
จึงเร่เข ้าพัทธยา
• เวลา ลมตะเภา พัด
ชาวเรือ เรียกว่า ตะเภาแขวนโคม
เพราะมีเติ่งใหญ่ ออกเรือไม่ได ้
ระหว่างลมตะเภาและลมสลาตัน
แคบมาก ไม่มีลมแซมพัดแทรก
ลมสลาตัน เป็นลมยืน
• พัดจากทักษิณขึ้นอุดร
• สวนทางกับ ลมว่าว
ลงเดือน ๓-๖ (กุมภาพันธ์- พฤษภาคม)
พร ้อมๆ กับ ลมตะเภาพัทธยาปลายแหลม
• พัดสวนทางกับ ลมว่าวอุกา
ลงเดือน ๓-๖ (กุมภาพันธ์-พฤษภาคม)
พัดเวลากลางคืน
พ ้นจากหน้านี้ไป
ลมจะเปลี่ยนชุดไป
เป็นชุดของลมตะวันตกและลมพัทธยา
ลมพัทธยา เป็นลมยืน
• พัดจาก หรดี ไป อีสาน
• สวนทางกับ ลมอุกา
ลงในเดือน ๖-๑๐ (พฤษภาคม-กันยายน)
• ถ ้ามีลมน้อย จะเป็นไม่มาก
เช่นเป็น ตะเภา แล ้ว
๕ ทุ่ม พอ ๖ ทุ่ม เร่เป็นสลาตัน
สัก๒ ชั่วโมงเป็น พัทธยา ก็สว่างแล ้ว
ลมเซิงพัทธยา
(เซิงไส ้แห ้ง)
• พัดหน้าเดียวกับ พัทธยา
คือเดือน ๖-๑๐ (พฤษภาคม-กันยายน)
• สวนทางกับ ลมอุกาตะวันออก
• พัดคล ้าย พัทธยา
ลงหนักในเดือนพฤษภาคม,มิถุนายน
• ชาวเรือ เรียก...ลมนี้...ชื่อหนึ่งว่า “เซิงไส ้แห ้ง”
เนื่องจากเมื่อลมนี้พัดออกทะเล จะไม่ได ้ปลา
• ช่วงระยะจาก ลมเซิง ไปถึง ลมว่าว
ลมจะพัดถี่ขึ้นมาก
ลมตะวันตก เป็นลมพัดยืน
• จากตะวันตกไปตะวันออก
• สวนทางกับลมตะวันออก
• พัดเดือน ๖-๑๐ (พฤษภาคม-กันยายน)
• พัดเวลาบ่ายและเช ้า จะพัดนานและทนกว่าลมอื่น
• เป็นลมเยือกเย็นพัดรินๆ จนลิงหลับตกต ้นไม ้
ทาให ้คนไม่สบาย
เนื่องจากพัดผ่านป่ าเขา พาละอองว่านมาทาให ้คน
เจ็บป่ วย
เป็นไข ้ทับฤดู หมดแรง อ่อนเพลีย
• ลมเซิงตะโก้ เร่อยู่ระหว่างลมตะวันตกและลมตะโก ้
พัดหลวง
พัดสวนทางกับลมหัวเขา ลงตั้งแต่เดือน ๖-๙
(พฤษภาคม-สิงหาคม)
• ลมตะโก้พัดหลวง เป็นลมเย็น พัดจากพายัพไป
อาคเนย์
สวนทางกับลมตะเภาลงในเดือน ๖-๙ พฤษภาคม-
สิงหาคม)
• ลมพัดหลวง เร่อยู่ระหว่างลมตะโก ้พัดหลวงและลม
ว่าว
พ ้นจากสารทจีนไป ลมจะเปลี่ยน
ชุด
ชุดลมว่าวจะเริ่มลงแล ้ว
ยังมีลมอีกชนิดหนึ่งคือ ลม..งวง
จะเกิด..หน้าเซิงไส ้แห ้ง
• อยู่ในทะเล
จะเห็นน้าขึ้นเป็นท่อเป็นลาสูง
• พัดบนบกเรียก ลมบ ้าหมูจะหมุนติ้ว
หมูเป็ดถูกดูดลอย คนโดนล ้ม
หลังคาโรงเรียนวัดในกลาง
เคยถูกลมงวงถอดไปหมด
มะขามใหญ่ๆ ต ้นโพธิ์ใหญ่ๆ
ลม..งวง.. “ยกลอยไปได ้หมด”
ลม..งวง..4 ลูก
การดูพายุ
• เวลาพายุหนักจะมาอากาศจะอบอ ้าวมาก
• แมลงสาบในเรือออกพลุกพล่าน
• ก่อนพายุลมอั้น
• มีเติ่งหรือคลื่นหยาบๆ เคลื่อนเป็นระลอกใหญ่
• น้าเชี่ยวและบางทีจะสังเกตลักษณะและความแรง
ของลมจากขี้เมฆ
• ถ ้าลมแรงจัด
เมฆจะตั้งก ้อนไม่ใหญ่ มีขนาดก ้อนเล็กๆ เท่ากระบุง
ใส่ข ้าว
ตั้งเร็ว ขึ้นเร็วปรูดๆ ต ้องเตรียมหนีรีบกลับฝั่ง
อีกแบบหนึ่ง
• ถ ้าขี้เมฆตั้งเอื่อยๆ เมฆขึ้นลิ่วๆ เป็นคันกระสุน
โค ้งแบบรุ้งกินน้า แต่สีดาเป็นคัน
• จะทาให ้เกิดพายุใหญ่รุนแรงที่สุด
• คนออกเรือสมัยก่อนต ้องจับสังเกตให ้เป็น
ลุงไหม
ขึ้นฝั่งมาแล ้วหลายปี
• ภูมิปัญญาเกี่ยวกับกระแสลมของลุง
ยังมีอยู่มากมาย แต่ไม่มีใครสืบทอด
• เนื่องจากการเดินเรือปัจจุบันนี้
มีอุปกรณ์สมัยใหม่มากเกินพอใช ้
โดยไม่จาเป็นต ้องอาศัยกระแสลมและดวงดาว
• น่าเสียดายไม่น้อยที่ความรู้ทรงคุณค่านี้
จะกลายเป็นเพียงแต่ตานาน
• และเรื่องเล่าว่า
ครั้งหนึ่งชาวประมงพื้นบ้านไทย
ได ้เคยรู้จักลีลาของลม เมฆ และคลื่น
อย่างกับเป็นเลือดเป็นเนื้อของตัวเอง
บันทึกจากท ้องถิ่น :
จดหมายข่าวมูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์ ฉ.๘
(ก.ย.- ต.ค. ๒๕๔๐)
https://lek-prapai.org/home/view.php?id=588
แรงแค่ไหนถึงเรียก “ไต ้ฝุ่ น” !!
ทาความรู้จักระดับพายุ ที่นับวันยิ่ง
แรงขึ้นทุกปี
ในปัจจุบัน...ด ้วยสภาพอากาศที่
แปรปรวน
• ทาให ้เราได ้ยินข่าวการเกิดพายุหมุนเขตร ้อน
ที่มีระดับความรุนแรงมากขึ้น
และได ้ยินคาว่า “ซูเปอร์ไต ้ฝุ่ น” บ่อยมากขึ้น
https://mgronline.com/science/detail/9650000089705
อย่างในช่วงนี้ที่มี “พายุไต ้ฝุ่ น นัน
มาดอล"
ที่กาลังพัดถล่มทางตอนใต ้ของ
ประเทศญี่ปุ่ น
ซึ่งเป็นพายุหมุนเขตร ้อน
ที่สานักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่ น
ได ้จัดให ้อยู่ในประเภท “พายุที่มีกาลังรุนแรง”
และได ้มีการคาดการณ์ว่าจะมีความเร็วลมสูงสุดถึง 270
กิโลเมตรต่อชั่วโมง
• ทาให ้พายุลูกนี้ได ้กลายเป็นพายุในระดับซูเปอร์ไต ้ฝุ่ น
ที่มีขนาดใหญ่และรุนแรงมาก
และยังมีความกดอากาศตรงกลาง 910 เฮกโตปาสคาล
ความเร็วลมสูงสุดที่ 252 กม./ชม.
ซึ่งในสถิติ ยังไม่มีพายุไต ้ฝุ่ น
ที่มีความกดอากาศต่ากว่า 925 เฮกโตปาสคาล
ในแผ่นดินญี่ปุ่ นมาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1951
• ทาให ้พายุลูกนี้
ถูกจัดอันดับให ้มีความรุนแรงที่สุดในรอบ 70 ปี
ประเด็นที่จะได ้หยิบยกมากล่าว
ต่อไปก็คือ
ขงเบ ้ง....
สามารถอัญเชิญเทพยดา
มาเพื่อขอให ้ช่วยเปลี่ยนทิศทางลมให ้ได ้จริงหรือ?
• ถ ้าไม่จริง...
ขงเบ ้งทราบล่วงหน้าได ้อย่างไรว่า ลมจะมีการเปลี่ยน
ทิศ
จึงกล ้าอาสากระทาการ
โดยเอาชีวิตของตน
เป็นประกัน?
https://www.silpa-mag.com/history/article_36723
หากเป็นยุคสมัยนี้
• เรื่องการพยากรณ์ล่วงหน้าว่า
ลมพายุจะมีทิศทางการเคลื่อนที่ไปในทิศทางใด
ด ้วยความเร็วเท่าใดนั้น
สามารถกระทาได ้อย่างรวดเร็วและแม่นยา
• เนื่องจากมีเครื่อมือที่ใช ้เทคโนโลยีทันสมัยช่วย
ตรวจสอบ
และมีการประสานงาน
ระหว่างหน่วยอุตุนิยมต่างๆ ทั่วโลก
เว ้นแต่ในกรณีที่พายุนั้นเกิดขึ้นโดย
ฉับพลัน
มิได ้คาดคิดทราบล่วงหน้ามาก่อน
• ตามความในเรื่อง “สามก๊ก” ตอนนี้
ก็จะเห็นได ้ชัดว่า มิได ้มีวี่แวว..ว่า
ลมจะมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางได ้โดยฉับพลัน
ซึ่งเป็นสาเหตุทาให ้โจโฉเกิดความประมาท
ไม่ยอมรับฟังคาท ้วงติงของบรรดาที่ปรึกษา
จนเกิดการสูญเสียอย่างใหญ่หลวง
ในครั้งนี้
เหมือนกับเหตุการณ์สึนามิ ปี 2547
เรื่องการอัญเชิญเทพยดาให ้มา
ช่วยเหลือ
นั้นดูจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ
แต่ผู้แปลเรื่องนี้
ก็ยังใช ้ข ้อความบางตอน
ไว ้ในเอกสารอ ้างอิงข ้างต ้น..ว่า
“...แล ้วทาเป็นดูภูมิที่ให ้ทหารลูกร ้านสามชั้น...” บ ้าง
“...จึงจุดรูปเทียนขึ้นบูชาแล ้วทานั่งอ่านมนต์ เรียกลม
อยู่...” บ ้าง
https://www.silpa-mag.com/history/article_36723
ซึ่งถ ้าแปลเป็นไทยๆ ก็คือ ขงเบ ้ง
แสร ้งกระทา
• เพราะไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได ้
• นอกจากนี้ ท่านผู้ชมอีกจานวนไม่น้อย
โดยเฉพาะท่านที่เคยหรือกาลังศึกษาวิทยาศาสตร์
ก็คงจะมีความเห็นสอดคล ้องกันว่า
เป็นเรื่องเหลวไหล...ไร ้สาระเช่นกัน
สาหรับประเด็นนี้
ผมมีความเห็นเป็นการส่วนตัวว่า...
• ขงเบ ้งเป็นผู้ที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด มีไหวพริบ
ปฏิภาณปราดเปรื่อง
• ทั้งยังมีความรู้ในไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ และศาสตร์
อื่นๆ
อีกหลายสาขา..เหนือบุคคลทั่วไป
• การที่บุคคลจะมีขีดความสามารถ..เช่น..ขงเบ ้ง..นี้
จะต ้องมี “พรสวรรค์” มาแต่ดั้งเดิม
https://www.silpa-mag.com/history/article_36723
ทั้งจะต ้องเป็นผู้ที่มีสมาธิสูงส่ง
ที่ช่วยสิ่งเสริมให ้เจ ้าตัว
มีปัญญาเฉียบแหลมเป็นเยี่ยม
สอดคล ้องกับคาสอนของพระพุทธองค์
เรื่อง คือ “ศีล สมาธิ ปัญญา”
• การมีสมาธิสูงในลักษณะนี้
จึงทาให ้น่าเชื่อว่า
ขงเบ ้งสามารถติดต่อกับพลังเร ้นลับ
ที่เรียกกันว่า
“พลังพรหมหรือพลังเทพ” ได ้
มหายุทธนาวี ณ ผาแดง
แต่จะแรงเพียงพอที่จะใช ้พลังเหล่านี้
มาเรียก “ลมพาย” ได ้หรือไม่เพียงใด
นั้นเป็นสิ่งที่พิสูจน์ทราบได ้ยาก
• เพราะศาสตร์แขนงนี้
เป็นศาสตร์ที่จะศึกษาหรือปรากฏผลให ้เห็นได ้...เป็น
การเฉพาะบุคคล
• มิใช่ศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ ความเป็นไปได ้
ให ้ปรากฏเป็นหลักฐานที่ใช ้อ ้างอิง
หรือเขียนเป็นบทเรียน...ให ้บุคคลทั่วไป..ได ้ศึกษากัน
เช่นศาสตร์แขนงอื่นๆ
หากมิใช่เป็น...เช่นประเด็นแรก
• คาถามต่อมาก็คือ “ขงเบ ้งใช ้ศาสตร์อะไรในการทาพิธี
ครั้งนี้?”
• ทั้งที่ในยุคสมัยนั้น
วิชาการทั้งเครื่องมือเครื่องใช ้ในกิจการอุตุนิยมวิทยา
ก็ยังไม่ทันสมัย...เช่นปัจจุบันนี้?
ประเด็นนี้
ผมขอตอบแทน...ขงเบ ้ง...ให ้เลยว่า
• ใช ้..วิชาการ..โหราศาสตร์ดวงดาว..ที่..ขงเบ ้ง..ได ้
เรียนมา..นั่นเอง
• ขงเบ ้ง...เคยกล่าวกับ..โลซก..ว่า
“ผู้ที่จะเป็นผู้นาทัพที่ดี
จาเป็นต ้องศึกษาทั้งเวทมนตร์คาถา และ โหราศาสตร์
ประกอบด ้วย”
https://www.silpa-mag.com/history/article_36723
คาตอบของผมที่ตอบแทนขงเบ ้ง
นั้น
มิใช่..เป็นเรื่องราวที่เหลวไหล..ไร ้
สาระ
• เพราะสามารถนาเอา..วิชาการโหราศาสตร์ดวงดาว
ที่ผมได ้ศึกษาค ้นคว ้า..เป็นเวลานาน
มาพิสูจน์ยืนยันกันได ้
...ดังจะกล่าวต่อไป
https://www.silpa-mag.com/history/article_36723
จากการคานวณย ้อนหลังกลับไป
• จนถึงวันที่..ขงเบ ้ง...ได ้ทาพิธีเชิญเทพยดา
มาเพื่อขอให ้ลมพายุพัด
เปลี่ยนทิศทางไปเผากองทัพเรือโจโฉ
• เพื่อตรวจสอบหา..จุดที่ตั้งของดาวพระเคราะห์ต่าง ๆ
ตามหลัก..วิชาโหราศาสตร์ดวงดาว
ได ้ผลเป็นที่น่าเชื่อว่า...
วันที่..ขงเบ ้ง..เริ่มทาพิธีเรียกลม
ซึ่งหนังสือสามก๊ก ฉบับเจ ้าพระยาพระคลัง (หน)
• ได ้ระบุว่า เป็นเดือนอ ้าย แรมสามค่า นั้น
น่าจะตรงกับวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 207
(หรือย ้อนหลังไปประมาณ17 ศตวรรษ)
• และวันที่บรรลุผล...เกิดลมพายุขึ้น
คือ วันที่ 7 มกราคม ค.ศ. 207 เวลาหลังเที่ยงคืนไป
แล ้ว
• เมื่อได ้วาง..จุดที่ตั้งของดาวเคราะห์ต่างๆ ในวัน
เวลานั้น
...ไว ้ในดวง..จะได ้ดังที่แสดงไว ้ในภาพ
https://www.silpa-mag.com/history/article_36723
ตามดวงที่ผมได ้คานวณและผูกไว ้
นี้
1.มี ดาวเสาร ์ สถิตอยู่ใน ราศีเมถุน
ซึ่งเป็น...ราศีธาตุลม...ประการหนึ่ง
2.ดาวพฤหัสบดี
สถิตอยู่ในราศีกุมภ์
ซึ่งเป็น...ราศีธาตุลม...เช่นกัน
https://www.silpa-mag.com/history/article_36723
https://thematter.co/brief/131316/131316
3.นอกจากนี้
ยังมี ดาวอังคาร สถิตอยู่ ราศีธนู
ร่วมทับ ดาวราหู เกือบสนิท
• ดาวอังคาร และดาวราหู..นี้
ตาม ตารามหาทักษาไทย
กล่าวว่า เป็น...ดาวคู่..ธาตุลม
ดาวทั้งหมดในกลุ่มนี้
มีเชิงมุมองศาถึงกันทั้งสิ้น
กล่าวคือ
1.ดาวเสาร์ เล็ง..ดาวอังคาร ร่วมกับ ดาวราหู
ประมาณ 180 องศา และ
2.ทามุมประมาณ 120 องศา (ตรีโกณ) กับ ดาว
พฤหัสบดี
ปรมาจารย์ทางโหราศาสตร์อินเดีย ท่านหนึ่ง
คือ B.V. Raman
ได ้กล่าวถึง อิทธิพลของดาวพระเคราะห์
ที่มีต่อดินฟ้าอากาศของโลก
ไว ้เป็นสาระว่า
“...ลมทิศตะวันตกเฉียงใต ้...จะมีความรุนแรง
ในกรณีที่ดาวเสาร์ หรือดาวอังคาร
สถิตอยู่ในราศีมิถุน ราศีตุล หรือราศีกุมภ์ ราศีใดราศี
หนึ่ง
และดาวพระเคราะห์ทั้งสองโคจรมาเล็งกัน หรือทามุม
90 องศาแก่กัน…
ดาวเสาร์จะมีอิทธิพลต่อลมมรสุมทิศตะวันตกเฉียง
เหนือ
ดาวพฤหัสบดีมีอิทธิพลต่อลมทิศตะวันตกเฉียงใต ้…
หากดาวดวงใด
จะเห็นได ้ว่า
• จุดที่ตั้งของดาวพระเคราะห์ทั้งสาม
คือ ดาวเสาร์ ดาวอังคาร และดาวพฤหัสบดี
สถิตอยู่ในราศี และทามุมถึงกัน
ตรงตามตามราที่ท่าน B. V. Raman ได ้กล่าวไว ้
• นอกจากนี้
ดาวอังคาร
ยังอยู่ร่วมทับทัน...องศาของดาวราหู
ซึ่งเป็น...คู่ธาตุลม...อีกด ้วย
ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาเลย
ที่ในช่วงเวลาที่...ขงเบ ้ง..ทาพิธี
• ขอให ้เทพยดาดลบันดาล
ให ้ลมพายุพัดไปทางทิศตะวันตก
ทั้งที่ในฤดูกาลนั้น
ควรจะมีแต่...ลมทิศตะวันออก...ทางเดียว
ดังที่ โจโฉ
ได ้กล่าวไว ้แก่บรรดากุนซือของตน
ก่อนหน้านั้น
ที่ผมได ้กล่าวไว ้ข ้างต ้นนี้
จึงช่วยส่งเสริม...คาพยากรณ์
ให ้แน่นแฟ้น...ได ้เลยว่า
...จะบังเกิดลมพายุรุนแรง
พัดจากทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตก
...ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองทัพเรือของโจโฉ
ดังนั้น เมื่อ จิวยี่ เทราดน้ามัน...ลงไปในแม่น้า
...แล ้วจุดไฟ
ลมพายุที่เกิดขึ้น
• จึงช่วย..ทาให ้เพลิงลุกลาม..ไปเผา...กองทัพเรือ
ของโจโฉ
ซึ่งถูกตรึงไว ้ด ้วยโซ่..
โดยเพทุบายของฝ่ ายจิวยี่
...จนพินาศสิ้น
ด ้วยเหตุผลทางโหราศาสตร์
ดวงดาว
ที่ปรมาจารย์ชาติต่างๆ
ได ้ประมวล รวบรวมไว ้เป็น
สถิติพยากรณ์
มาเป็นพัน ๆ ปี
จึงน่าจะสรุปได ้ว่า
• ปัจจัยสาคัญที่...ขงเบ ้ง
ได ้นามาประยุกต์ใช ้...ในการเรียกลมพายุ
มาหนุนเพลิง...ที่จุดขึ้นให ้ไปเผากองทัพเรือของโจ
โฉ..นั้น
คือ วิชาโหราศาสตร์ดวงดาว
ที่ขงเบ ้ง..ได ้ศึกษามาเช่นกัน..นี้เอง
• ส่วนเรื่อง..การใช ้สมาธิ ในการติดต่ออัญเชิญเทพยดา
..มาช่วยนั้น
คงจะมีส่วนอยู่บ ้าง
...เพื่อผลทางจิตใจของตนเอง และผู้ที่เกี่ยวข ้อง
เท่านั้น
https://www.silpa-mag.com/history/article_36723
ฉีเหมิน #2 — กาเนิดวิชา
https://medium.com/@QiMenAlchemy/qimendunjia-origin-abbbde09e678
บทความตอนที่ 2
• จะพูดถึงประวัติวิชา และ สายวิชาต่าง ๆ (หรือคน
ทั่วไปเรียกสานัก)
เพื่อให ้เห็นภาพรวม และ ที่ไปที่มาของวิชานี้
ก่อนจะเริ่มเข ้าสู่ทฤษฎีและการใช ้งาน
ประวัติ
• ตามบันทึกที่ถ่ายทอดมา
ผู้ที่ศึกษาวิชาฉีเหมินตุ้นเจี่ยนั้น
มีความเชื่อว่า วิชาฉีเหมินตุ้นเจี่ยนั้น
• มี เทพจิ่วเทียนเสวียนนี่ (九天玄女)
หรือที่คนไทยรู้กันในชื่อ เจ้าแม่เก้าเทียงเหี่ยงนึ่ง
(เทพสตรีศักดิ์สิทธิแห่งสวรรค์ทั้ง 9 ชั้น)
เป็นผู้ถ่ายทอดให ้กับ จักรพรรดิเหลือง
หรือ หวงตี้ (黃帝, Huáng Dì)
เมื่อประมาณ 4,600 ปีก่อน
• เพื่อเอาชนะศึกกับ..ชือโหยว
และเป็นเทพผู้ที่ดูแลวิชานี้อยู่
จึงถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันว่า...
• ก่อนจะเริ่มศึกษา...จาเป็นต ้องให ้ความเคารพหรือ
บูชา
เทพจิ่วเทียนเสวียนนี่...ก่อน
เพื่อขอพรให ้สามารถศึกษาได ้สาเร็จ
สามารถเข ้าใจ
และ ใช ้วิชาได ้ตามที่ต ้องการ
เทพสงคราม..ชือโหยว
คาถาบูชาครู
สาหรับประเทศไทยนั้นสามารถไป
เคารพ
และ ขอพรได ้ที่ ศาลเจ ้าเล่งบ๊วยเอี๊ยะ
(ซอยเยาวราช 6)
ตาม..ตานาน..กล่าวว่า
• ในช่วงเวลาดังกล่าว
วิชาที่ใช ้...จะเป็นในรูปแบบของการดูดวงดาวบน
ท ้องฟ้า
ไม่ได ้มีการคานวณ...อย่างเช่นในปัจจุบัน..แต่อย่างไร
• โดยมีการจัดรูปแบบตั้งต ้นของดาวบนฟ้า
ไว ้ถึง 4,320 รูปแบบ
และลดลงเหลือเป็นผังตั้งต ้น 1,080 แบบในเวลา
ต่อมา
(หมายเหตุ — ผังตั้งต ้น ไม่ใช่จานวนผังทั้งหมดที่
เป็นไปได ้ครับนะ)
https://medium.com/@QiMenAlchemy/qimendunjia-origin-abbbde09e678
เจียงจื่อหยา
• บุคคลที่มีการกล่าวถึง
ในวิชาฉีเหมินตุ้นเจี่ย
เป็นประจา
คนแรก คือ เจียงจื่อหยา (薑子牙,
Jiāng Zǐyá)
หรือ เจียงไท่กง (姜太公, Jiāng
Tàigōng)
• มีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 3,000 ปีที่แล ้ว
เป็นผู้ที่ได ้รับการยกย่องว่าเป็ น 1 ใน 2
นักยุทธศาสตร์การสงคราม
ที่เก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์จีน
• โดยมีความเชื่อว่ากลยุทธ์ต่าง ๆ
ที่วางแผนให ้โจวเหวินหวัง (周文王) นั้น
เกิดจากการใช ้...วิชา..ฉีเหมินตุ้นเจี่ย
เป็นหลัก
โจวเหวินหวัง
ที่มาวิชาดาวเหิน
ดังที่ปรากฏ..อยู่ใน..
“กลอน..นักตกปลาชรา..กลางสายหมอก
(煙波釣叟賦, yān bō diào sǒu fù)”
— กลอนนี้...ถือเป็น..ตาราสาคัญ..อันหนึ่ง
ของ...วิชาฉีเหมินตุ้นเจีย
...เลยทีเดียว
ถือกันว่า...เจียงจื่อหยา
...เป็นผู้ที่มีส่วนสาคัญมาก
• ในการพัฒนา...วิชาฉีเหมินตุ้นเจี่ย
• โดยการลดจานวนผังตั้งต ้นจาก 1,080 ผังใน..ยุค
ก่อน..เจียงจื่อหยา
• เหลือเพียง 72 ผังตั้งต ้น
• ทาให ้การใช ้งาน..มีความสะดวก..กว่าเดิมมาก
ภาพวาดเจียงจื่อหยา..ตกปลาที่ริม
ฝั่งแม่น้า..เว่ยสุ่ย
และได ้พบกับ โจวเหวินหวัง
จางเหลียง
• บุคคลท่านต่อไป
ที่ถือว่ามีส่วนสาคัญในวิชาฉีเหมินตุ้นเจี่ย
คือ จางเหลียง (張良, zhāng liáng)
• หรือคนไทย เตียวเหลียง
• เป็นบุคคลในยุค 2,000 ปีที่แล ้ว
(262 BC–189 BC, ยุคก่อน 3 ก๊กประมาณ 400 ปี)
• เป็นกุนซือคนสาคัญของ เล่าปัง หรือ พระเจ ้าฮั่นโกโจ
ซึ่งได ้ช่วยให ้พระเจ ้าฮั่นโกโจสถาปนาราชวงศ์ฮั่นได ้
สาเร็จ
• จนมีคากล่าวว่า “ไม่มีจางเหลียง ไม่มีราชวศ์ฮั่น”
จางเหลียง
ใน..สามก๊ก
• ซีซี..ได ้กล่าวถึงตอน..แนะนาเล่าปี่
ให ้ทราบถึง..สติปัญญา..ของ..ขงเบ ้ง
...ไว ้ว่า “ถ ้าได ้คนนี้มาแล ้ว
ก็เหมือน..พระเจ ้าฮั่นโกโจ
ได ้...เตียวเหลียง
ผู้มีปัญญา...มาไว ้เป็นที่ปรึกษา”
ตามบันทึกกล่าวว่า
• จางเหลียง
ได ้รับการถ่ายทอดวิชาทั้งหลายของ...เจียงจื่อหยา
มาจาก...นักพรตเต๋า
นามว่า...หวางสือกง (黃石公)
• ซึ่งเป็นหนึ่งใน 4 ขาวแห่งซางซาน (商山四皓)
— หมายถึงคนแก่ 4 คนที่มีผมขาว
โดยทั้งหมดอายุเกิน 80 มีคุณธรรมสูง และ ฉลาดมี
ปัญญามาก
โดยหนึ่งในวิชาที่ถ่ายทอดมานั้นคือ ฉีเหมินตุ้นเจี่ย
นั้นเอง
จางเหลียง
มีส่วนสาคัญมาก
ในการพัฒนา
วิชาฉีเหมินตุ้นเจี่ย
• ซึ่งเป็นคนที่ปรับผังตั้งต ้น
จากจานวน 72 ผังในยุคของ
เจี่ยงจื่อหยา
ลงเหลือเพียง 18 ผังตั้งต ้น
ดังที่ใช ้กันอยู่ในปัจจุบัน
(9 ผังหยาง + 9 ผังหยิน)
4 ขาวแห่งซางซาน (商山四皓)
จูเก่อเลี่ยง, ขงเบ้ง
• จูเก่อเลี่ยง
(諸葛亮, Zhūge Liàng)
• หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ...ขงเบ ้ง
(181 AD — 234 AD)
• คงไม่ต ้องอธิบายมาก..สาหรับ..ขงเบ ้ง..ว่าเป็นใคร
• โดย...ขงเบ ้ง
...เกิดในยุคต่อจาก จางเหลียง ประมาณ 400 ปี
หรือ ประมาณ 1,800 ปีก่อน
ในส่วนที่เกี่ยวกับ..วิชาฉีเหมิน..นั้น
ถือว่าเป็น 1 ในบุคคลประวัติศาสตร์
ที่มีการกล่าวถือการใช ้วิชาฉีเหมินตุ้นเจี่ยไว ้มากที่สุด
ไม่ว่าจะเป็น
• ศึกผาแดงเรียกลมเรียกฝน ที่แท่นบูชา 7 ดาว (七星壇)
• ศึกผาแดงใช ้เพื่อหลบหนีโดยไม่ให ้มีคนเห็น
• ค่ายกล 8 ทิศ ( ค่ายกลพยุหะอัฏฐทิศ)
• จุดตะเกียง 7 ดาวต่ออายุ
• ปล่อยโคม 7 ดาว (โคมขงเบ ้ง — 孔明燈)
• ดีดพิณบนกาแพงเมืองลวงทับสุมาอี้ (ฉีเหมิน มีวิชาเพื่อ
ลวงข ้าศึกอยู่เยอะมาก)
• ขโมยธนูจากทับโจโฉ
ขงเบ ้ง...เกิดในยุคต่อจาก จางเหลี
ยง ประมาณ 400 ปี
หรือ ประมาณ 1,800 ปีก่อน
หลิวป๋ อเวิน
หลิว ป๋ อเวิน
(劉伯溫, Liú Bówēn)
• เกิดช่วง 700 ปีก่อน
(1311 AD — 1375 AD)
• เป็นผู้ช่วยวางแผนการรบให ้จูหยวนจาง
(朱元璋, Zhū Yuánzhāng)
และมีคุณาปการหลายอย่าง
จนได ้รับแต่งตั้งเป็น...มหาเสนาบดี
https://www.facebook.com/watch/?v=383344736737622
จูหยวนจาง
อีลอน มัสก์...
คือต ้นแบบ..โทนี่ สตาร์ค...ใน Iron
Man
https://movie.kapook.com/view196408.htm
l
โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์
• ยกให ้ อีลอน มัสก์
เป็นต ้นแบบ ไอรอนแมน
• เผย..เคยถ่ายทาหนัง Iron Man ถึงถิ่น SpaceX
ให ้พูดถึงฮีโร่
ผู้ช่วยเหลือน้อง ๆ ทีมหมูป่ าอะคา
เดมี..แม่สาย
จากถ้าหลวง-ขุนน้านางนอน
• ฮอตสุดและเป็นที่สนใจสุด
ในตอนนี้
ก็ต ้องเป็น อีลอน มัสก์(Elon Musk)
• นักธุรกิจเจ ้าของนวัตกรรมระดับโลกและเทคโนโลยี
สุดล้า
แถมยัง...อัจฉริยะ
จนใคร ๆ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เขานี่แหละคือ
ไอรอนแมน !
แต่จะมีสักกี่คน..ที่รู้ว่า..อีลอน มัสก์
ไม่ใช่แค่..เจ ้าของฉายา
ฮีโร่หุ่นเหล็ก..เล่น ๆ เท่านั้น
เพราะสาหรับ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey
Jr.)
และผู้กากับ จอน ฟาฟวโร (Jon Favreau) นั้น
• เขาเป็นทั้งแรงบันดาลใจ
ทั้งต ้นแบบให ้กับ ไอรอนแมน
ฮีโร่ผู้บุกเบิกจักรวาลมาร์เวล
จากอัจฉริยะรุ่นเก๋าสู่อัจฉริยะรุ่น
ใหม่
• อ ้างอิงจากบทความ
ของ..แอชลี แวนเซ่
(Aslee Vance)
ผู้เขียนหนังสือ
Elon Musk: Tesla, SpaceX,
and the Quest
for a Fantastic Future (2015)
...บนเว็บไซต์ LinkedIn
ย ้อนไปสมัยเริ่มสร ้าง Iron Man
เมื่อปี 2007
• จอน ฟาฟวโร
ลงทุนเช่าคลังเก็บและสร ้าง
เครื่องบินของ โฮเวิร ์ด ฮิวจ์ส (Howard Hughes)
• เศรษฐีอัจฉริยะ
ผู้บุกเบิกวงการฮอลลีวูด
ไว ้สาหรับถ่ายทาหนัง
เพื่อสร ้างแรงบันดาลใจและความสมจริงสมจัง
ซึ่งแม ้ โรเบิร์ต ดาวนีย์
จะแวะไปชมสถานที่ถ่ายทาอยู่
บ่อยครั้ง
• แต่ก็ยังนึกภาพไม่ออกสักทีว่า
ควรถ่ายทอดคาแรคเตอร์ของ โทนี่ สตาร์ค
ผู้เป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์
ทั้งอัจฉริยะ ทั้งเศรษฐีเงินล ้านออกมายังไง
ให ้ดูไม่เว่อร์วังเกินไป
• จนกระทั่งเขานึกขึ้นได ้ว่า
โลกนี้มี SpaceX ของ อีลอน มัสก์ อยู่
แค่จินตนาการ
หรืออ่าน..ชีวประวัติ
..มันไม่พอ
• โรเบิร์ต ดาวนีย์ เลยติดต่อ อีลอน มัสก์
• ขอจัด "ทัวร ์ฐานทัพ SpaceX” ทันทีทันใด
• และสิ่งที่ได ้ก็คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม
• เพราะนอกจากจะได ้เห็น...ฮาร์ดแวร์สุดล้า เครื่องยนต์
สุดพิเศษ
และได ้รับพลังงานดี ๆ
จากภาพของผู้คนที่รักและสนใจในสิ่งที่พวกเขากาลัง
จริง ๆ แล ้ว
สิ่งที่ โรเบิร์ต..สัมผัสได ้อย่าง
ชัดเจนเลย
ก็คือ "ความอ่อนน้อมถ่อมตนและความเข้าถึงง่าย
ของ อีลอน มัสก์"
ที่เขานามาเป็นแบบอย่าง
• แถมยังใจดีให ้ยืม Tesla Roadster สุดเท่
มาเป็นรถคู่ใจเสริมบารมีคูล ๆ ให ้กับ โทนี่ สตาร์ค อีก
ด ้วย
• แต่เท่านี้ยังไม่พอ
...เพราะรู้หรือไม่ว่า..อีลอน มัสก์
เคยแอบมาร่วมแจม
ในหนัง Iron Man 2 ...ด้วยเหมือนกัน
อีลอน มัสก์
เคยแอบมาร่วมแจม
ในหนัง Iron Man 2
โรเบิร์ต ดาวนีย์...กล่าว
"หลังจากได ้พบปะพูดคุยกับ มัสก์
ผมรู้สึกเหมือนผม..เห็นเขาอยู่กับผม..ในกองถ่าย..
เหมือนกับว่า สตาร์ค และ มัสก์...กลายเป็นหนึ่ง
เดียวกัน
• และ มัสก์ คือเพื่อนซี้ที่ โทนี่ ...จะออกไปไหนมาไหน
ด ้วย
ไปปาร์ตี้ด ้วย หรือไม่ก็ไปทริปเที่ยวป่ าแปลก ๆ
• สนุกไปกับพิธีกรรมของพวกหมอผีในป่ านั้นด ้วยกัน"
ถือเป็นซูเปอร์ฮีโร่ในชีวิตจริง
ที่ทาให ้นึกถึงคาที่หลาย ๆ คน
เคยพูดไว ้ว่า "คนที่ยังรักษาความอ่อนน้อมถ่อมตน
ไม่หยิ่งยโส
และกดขี่คนอื่น...แม้จะร่ารวยล้าฟ
้ า
...คือคนที่ประสบความสาเร็จอย่างแท้จริง"
• ก็เหมาะสมแล ้วที่...โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์
จะยกให ้ อีลอน มัสก์
...เป็นต ้นแบบของ ไอรอนแมน
ซูเปอร์ฮีโร่ชุดเหล็ก
...ผู้เป็นแรงบันดาลใจและขวัญใจของแฟน ๆ ทั่วโลก
https://movie.kapook.com/view196408.htm
l
กลับมาที่...หลิวป๋ อเหวิน
เป็นผู้เชียวชาญศาสตร์ด ้านต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็น คากลอน ภาพเขียน โหราศาสตร์ ไสยเวท
• รวมไปถึงเป็น...ผู้เขียน...ตาราพิชัยสงคราม
“ตารามังกรเพลิง (火龍經, huǒlóngjīng)”
• ซึ่งเป็นการวางแผนการรบ
ที่เกี่ยวกับ...การใช ้ปื นไฟ ลูกระเบิด ระเบิดพิษ
“ตารามังกรเพลิง (火龍經,
huǒlóngjīng)”
วิชาฉีเหมินตุ้นเจี่ย ที่เราใช ้ในปัจจุบัน
มาจากตาราที่ หลิวป๋ อเวิน ที่แต่งไว ้
หรือมีส่วนร่วมในการแต่ง หลายเล่ม
เช่น
• 金函玉鏡奇門遁甲 : กล่องทอง กระจกหยก ฉีเห
มินตุ้นเจี่ย
• 諸葛武侯奇門遁甲大全 : สารานุกรมฉีเหมินตุ้
นเจี่ยของขงเบ ้ง
• 奇門遁甲統宗大全 : สารานุกรมฉีเหมินตุ้นเจี่ย
• 奇門秘籠全書 : คู่มือเคล็ดวิชาฉีเหมิน
อาจกล่าวได ้ว่า ถ ้าขาด..หลิวป๋ อหวิ
น..ไป
• ฉีเหมินตุ้นเจี่ย
อาจจะสูญหายไปแล ้ว
หรือ อาจจะเกิดการแบ่ง
ออกเป็นสานักต่าง ๆ
มากมาย
ตามการตีความคัมภีร์
โบราณ
ดังเช่นที่ปรากฏในวิชาฮ
วงจุ้ย
เหมาเจ๋อตุง
• เหมาเจ๋อตุง
(毛澤東, Máo Zédōng)
• เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีการพูดถึงกันเป็นอย่างมาก
ว่ามีการใช ้วิชาฉีเหมินตุ้นเจี่ย
• เนื่องจากฤกษ์และทิศทางที่เหมาเจ๋อตุง
กระทาการในเรื่องต่าง ๆ
เช่น การปฏิวัติ เจียงไคเช็ก
ล ้วนแต่ใช ้ฤกษ์และทิศทาง
ที่เป็นไปตาม..วิชาฉีเหมินตุ้นเจีย...ทั้งนั้น
การปฏิวัติ เจียงไคเช็ก
การปฏิวัติซินไฮ่
(จีน:辛亥革命อังกฤษ: Xinhai (Hsinhai) Revolution)
หรืออีกชื่อว่า การปฏิวัติ ค.ศ. 1911 หรือ การปฏิวัติจีน
• เป็นการปฏิวัติซึ่งโค่นล ้มราชวงศ์ชิง
ราชวงศ์สุดท ้ายที่ปกครองจีน
• การปฏิวัติได ้เปลี่ยนการปกครองของประเทศไปสู่
ประชาธิปไตย
และสถาปนาสาธารณรัฐจีน
• การปฏิวัตินี้...ได ้ชื่อว่า...ซินไฮ่
เพราะมีขึ้นใน ค.ศ. 1911
ซึ่งตรงกับ..อักษร..ซินไฮ่ ในแผนภูมิสวรรค์ในปฏิทิน
https://bit.ly/3Sd5giN
辛
亥
การปฏิวัติ
ประกอบด ้วยการกบฏและการก่อการ
กาเริบหลายครั้ง
• จุดเปลี่ยนคือ การก่อการกาเริบวูชาง
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1911
• ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดการกับขบวนการคุ้มครอง
ทางรถไฟที่ผิด
• การปฏิวัติสิ้นสุดลง
ด ้วยการสละราชสมบัติของจักรพรรดิผู่อี๋
จักรพรรดิองค์สุดท ้าย
• เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1912
อันเป็นจุดสิ้นสุดของจักรวรรดิจีนอายุกว่า 2,000 ปี
และจุดเริ่มต ้นของการปกครองแบบสาธารณรัฐของ
จีน
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx
พื้นฐานชีวิต 23.pptx

Contenu connexe

Similaire à พื้นฐานชีวิต 23.pptx

สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1krubuatoom
 
ชวิตนี้มีแต่สุข_อ.เฉลิมชัย
ชวิตนี้มีแต่สุข_อ.เฉลิมชัยชวิตนี้มีแต่สุข_อ.เฉลิมชัย
ชวิตนี้มีแต่สุข_อ.เฉลิมชัยAchara Sritavarit
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์Kannaree Jar
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์Chutima Tongnork
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์Chutima Tongnork
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์Nid Noy Kaowkong
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์Jariya Huangjing
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์Nid Noy Kaowkong
 
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrailTongsamut vorasan
 
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrailTongsamut vorasan
 
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔Kamonchapat Boonkua
 
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔Kamonchapat Boonkua
 
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔อิ่' เฉิ่ม
 
โต้วาทีวันสามเณร
โต้วาทีวันสามเณรโต้วาทีวันสามเณร
โต้วาทีวันสามเณรniralai
 
พุทธทำนาย
พุทธทำนายพุทธทำนาย
พุทธทำนายAunkrublive
 
สามัคคีเภทคำฉันท1
สามัคคีเภทคำฉันท1สามัคคีเภทคำฉันท1
สามัคคีเภทคำฉันท1Sirisak Promtip
 

Similaire à พื้นฐานชีวิต 23.pptx (20)

อนุตตรีย์ วัชรภา
อนุตตรีย์  วัชรภาอนุตตรีย์  วัชรภา
อนุตตรีย์ วัชรภา
 
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1
สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1
 
ชวิตนี้มีแต่สุข_อ.เฉลิมชัย
ชวิตนี้มีแต่สุข_อ.เฉลิมชัยชวิตนี้มีแต่สุข_อ.เฉลิมชัย
ชวิตนี้มีแต่สุข_อ.เฉลิมชัย
 
ภาษาไทย
ภาษาไทยภาษาไทย
ภาษาไทย
 
ภาษาไทย
ภาษาไทยภาษาไทย
ภาษาไทย
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์
 
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
 
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
 
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
 
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
 
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
 
โต้วาทีวันสามเณร
โต้วาทีวันสามเณรโต้วาทีวันสามเณร
โต้วาทีวันสามเณร
 
พุทธทำนาย
พุทธทำนายพุทธทำนาย
พุทธทำนาย
 
สามัคคีเภทคำฉันท1
สามัคคีเภทคำฉันท1สามัคคีเภทคำฉันท1
สามัคคีเภทคำฉันท1
 
โคลนติดล้อ (สอน Ppt)[1]
โคลนติดล้อ (สอน Ppt)[1]โคลนติดล้อ (สอน Ppt)[1]
โคลนติดล้อ (สอน Ppt)[1]
 

Plus de SunnyStrong

คุณเป็นใคร 2.docx
คุณเป็นใคร 2.docxคุณเป็นใคร 2.docx
คุณเป็นใคร 2.docxSunnyStrong
 
คุณเป็นใคร 3.docx
คุณเป็นใคร 3.docxคุณเป็นใคร 3.docx
คุณเป็นใคร 3.docxSunnyStrong
 
คุณเป็นใคร 1.docx
คุณเป็นใคร 1.docxคุณเป็นใคร 1.docx
คุณเป็นใคร 1.docxSunnyStrong
 
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
5 Signs of a Strong Novel Plot.docxSunnyStrong
 
7 Fear Archetypes.docx
7 Fear Archetypes.docx7 Fear Archetypes.docx
7 Fear Archetypes.docxSunnyStrong
 
คุณเป็นใคร.docx
คุณเป็นใคร.docxคุณเป็นใคร.docx
คุณเป็นใคร.docxSunnyStrong
 
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docxThe Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docxSunnyStrong
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxSunnyStrong
 
100 words for people.docx
100 words for people.docx100 words for people.docx
100 words for people.docxSunnyStrong
 
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docxHow to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docxSunnyStrong
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxSunnyStrong
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxSunnyStrong
 
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docxฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docxSunnyStrong
 
ฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docxฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docxSunnyStrong
 
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docxไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docxSunnyStrong
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxSunnyStrong
 
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptxพื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptxSunnyStrong
 

Plus de SunnyStrong (20)

คุณเป็นใคร 2.docx
คุณเป็นใคร 2.docxคุณเป็นใคร 2.docx
คุณเป็นใคร 2.docx
 
คุณเป็นใคร 3.docx
คุณเป็นใคร 3.docxคุณเป็นใคร 3.docx
คุณเป็นใคร 3.docx
 
คุณเป็นใคร 1.docx
คุณเป็นใคร 1.docxคุณเป็นใคร 1.docx
คุณเป็นใคร 1.docx
 
Austria.docx
Austria.docxAustria.docx
Austria.docx
 
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
 
7 Fear Archetypes.docx
7 Fear Archetypes.docx7 Fear Archetypes.docx
7 Fear Archetypes.docx
 
คุณเป็นใคร.docx
คุณเป็นใคร.docxคุณเป็นใคร.docx
คุณเป็นใคร.docx
 
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docxThe Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
 
12 Poems.docx
12 Poems.docx12 Poems.docx
12 Poems.docx
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docx
 
12 Poems.docx
12 Poems.docx12 Poems.docx
12 Poems.docx
 
100 words for people.docx
100 words for people.docx100 words for people.docx
100 words for people.docx
 
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docxHow to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docx
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docx
 
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docxฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
 
ฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docxฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docx
 
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docxไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docx
 
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptxพื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
 

พื้นฐานชีวิต 23.pptx