The purpose of the training is to increase trainers’ knowledge and skills on the active learning strategies needed to effectively communicate Org. training sessions.

2. TRAINING การฝึกอบรม
การฝึกอบรม คืออะไร
“ (Development) คน โดยอาศัยกระบวนการ
เรียนรู้(Learning) (Knowledge) ความเข้าใจ
(Understanding) ทักษะ (Skill) และ ทัศนคติ(Attitude) ทำให้ คน
สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Efficient) และ ตาม
ประสิทธิผล (Effectiveness) ของ องค์การ”

3. Overview of KNOWLEDGE
E
T
Explicit Knowledge
Tacit Knowledge
1. อธิบายได้แต่ยังไม่ถูกบันทึก
2. อธิบายได้แต่ไม่อยากอธิบบาย
3. อธิบายไม่ได้

4. Knowledge Forum
การให้นำเสนอผลงาน การบันทึก
/วิธีการสกัดความรู้
การเล่า พูดคุย
การปรึกษา หรือ ขอตัวช่วย(ผู้รู)้
Lesson Learned
Picture and
movies
ชุมชนนักปฏิบัติ
Story Telling
Dialogue
Monitoring Sys.
Peer Assist
The Individual
O-Values
O-Perception
O-Attitudes
O-Personality

5. LEARNING การเรียนรู้
การเรียนรู้ คืออะไร
จากเดิม ก่อนหน้า
ประเภทของการเรียนรู้
ด้านพุทธพิสัย Cognitive
ด้านจิตพิสัย Affective
ด้านทักษะพิสัยPsycho-motor

6. ADULT LEARNING การเรียนรู้ของผู้ใหญ่
1. จะเรียนรู้...
2. จะเรียนรู้...
3. จะเรียนรู้...โดยการกระทำ
4. จะเรียนรู้...
5. จะเรียนรู้...
6. จะเรียนรู้...ในบรรยากาศเป็นกันเอง

7. TRAINER วิทยากร
วิทยากร คือใคร
ความรู้ ทักษะ ความเข้าใจ และ ทัศนคติ ส่งผลให้เกิดการ

8. ROLE OF TRAINER บทบาทของวิทยากร
1. Atmosphere Organizer
2. Director
3. Organizer
4. Guide
5. Question Asker
6. Observer
7. Rein Forcer
8. Organizer
9. Reflector
10. Evaluator

9. QUALIFICATIONS
1. เป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้
2.
3. มีความสามารถในการถ่ายทอด
4.
5. มีมนุษยสัมพันธ์ดี
6. สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้
7. มีคุณธรรม

10. TECHNIQUE
 ความหมาย =
พฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน เช่น
 การบรรยาย Lecture
 การระดมสมอง Brain Storming
 การใช้กรณีศึกษา Case Study
 การใช้เกม
 การนำอภิปราย
 การแสดงบทบาทสมมติ
 On the job training

11. KEY SUCCESS
1. บุคลิกภาพ 10 percentage
2. ศิลปการแสดงออก 20 percentage
3. คำนำและการสรุปจบ 20 percentage
4. ะ Contents 50 percentage

12. 1.
2.
3.
4.
5.
6.
7. ...

13. 1. อย่าออกตัว
2. ขออภัย
3. ถ่อมตัว
4. อ้อมค้อม
ต.ต.ต ?
ก.ก.ก ?
จ.จ.จ. ?

14. การสรุปจบอย่างประทับใจ
1.
2.
3. “ขอบคุณ”
4.
5. ถ้ามีการกล่าวขอบคุณ ต้องสนใจฟังให้จบ

15. บุคลิกภาพของวิทยาการ
แต่งกายให้เหมาะสมคมสะอาด
บรรยากาศเป็นกันเองแฝงเกรงใจ

16. การใช้สายตา
1. มองผู้ฟังโดยรวม
2.
3.
4. มองเป็นกลุ่มเหมือนกับพูดเป็นส่วนตัวกับกลุ่มเด็ก
5. ( )
6. จองตาผู้ฟัง ไม่ใช่แอบมอง

17. การใช้เสียง การออกเสียงและคำพูด
1. พูดให้เสียงดังฟังชัด
2. จังหวะการพูดไม่ช้า หรือเร็วเกินไป
3. อย่าพูดเหมือนอ่านหนังสือท่องจำ
4.
5. มีการเน้นเสียง
6. พูดจากจิตใจ
7. , อืม เอ่อ น่ะ เน๊าะ
8. ออกเสียงตามหลักภาษา

18. การสร้างบรรยากาศ ในห้องอบรม
1.
2.
3.
4. แทรกกิจกรรมลดความเครียด
5.
6. กระต้นการมีส่วนร่วมของผู้เรียน เสมอ
7. เป็นคนมีอารมณ์ขัน
8. ให้ความเป็นกันเองกับผู้เข้ารับการอบรม
9. รูปแบบการถ่ายทอดต้องหลากหลาย

19. การเตรียมการสอน บรรยาย
ความหมาย
บรรยาย

20. I B C
I = INTRODUCTION คำนำ
B = Body
C = Conclusion สรุปจบ

21. ความสำคัญของการเตรียมการสอน
1.
2. คาดคะเนปัญหาและอุปสรรคไว้ล่วงหน้า
3. หาวิธีจูงใจผู้ฟังได้อย่างเหมาะสม
4.
5.
6.
7. ช่วยบริหารเวลา อย่างรัดกุม

22. 1. กำหนดวัตถุประสงค์ในการสอน
2. วิเคราะห์ผู้เรียน ประเมินก่อนเข้าสอน
3.
4.
5. กำหนดเทคนิคการฝึกอบรม
6.
7. จัดทำเอกสารประกอบ
8. เขียนแผนการสอน

23. องค์ประกอบของแผนการสอน
1. กำหนดวัตถุประสงค์
2.
3.
4. /
5. ระบุเทคนิควิธีการนำเสนอ
6.
7.
8. ผู้รับผิดชอบโครงการอบรม

24. การเขียนหลักสูตร การฝึกอบรม Course Outline
Key Factor : หัวข้อประเด็นหลักในการเขียน
1.
2. หลักการและเหตุผล
3. วัตถุประสงค์
8.
4. หัวข้อการฝึกอบรม
9. วิทยากร
5. วิธีการฝึกอบรม
10. งบประมาณ
6. กลุ่มผู้เข้าฝึกอบรม
11 ผู้รับผิดชอบ
7. ระยะเวลา

25. การเขียนหลักสูตร การฝึกอบรม Course Outline
การเขียนหลักสูตร การฝึกอบรมมีความสำคัญ หลายประการ ในระดับผู้บริหารก็สามารถ
ของตน เข้าร่วมกิจกรรม และสุดท้าย คือ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเอง ก็จะได้มีข้อมูล หรือ
ปัญหาต่างๆ
เข้าใจง่าย มีความน่าสนใจ กำหนดรายการสำคัญ และ สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย

26. ความสามารถในการจำของคน
10 % จาก การอ่าน
20 % จาก ได้ยินได้ฟัง
30 % จาก การได้เห็น
50 % จาก การเห็นและได้ยินได้ฟัง
70 % จาก การได้พูดและซักถาม
90 % จาก การได้พูดและฝึกปฏิบัติ
“สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็น ไม่เท่ามือคลำ
สิบมือคลำ ก็ไม่เท่าลองทำดู”