dgfdsgdshrshshfdgqa

1. “เบาหวาน”

2. เบาหวาน
เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่มีการผลิตฮอร์โมน
อินซูลินไม่เพียงพอ ส่งผลทาให้ระดับน้าตาลในกระแสเลือดสูง
เกิน โรคเบาหวานจะมีอาการเกิดขึ้นเนื่องมาจากการที่ร่างกายไม่
สามารถใช้น้าตาลได้อย่างเหมาะสม ซึ่งผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน
ร่างกายจะไม่สามารถนาน้าตาลไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลที่เกิดขึ้นทาให้ระดับน้าตาลในเลือดสูงขึ้น

3. ประเภทของเบาหวาน
โรคเบาหวานชนิดที่ 1
พบในเด็กหรือผู้ที่มีอายุน้อยส่วนใหญ่น้อยกว่า 30 ปี มักผอม ตับอ่อนไม่
สามารถสร้างอินซูลินได้
โรคเบาหวานชนิดที่ 2
พบมาก อายุมากกว่า 40 ปี ตับอ่อนยังพอผลิตอินซูลินได้บ้าง แต่มีภาวะดื้อต่อ
อินซูลิน และมีการหลั่งอินซูลินลดลง มักมีประวัติโรเบาหวานในครอบครัว

4. อาการบ่งชี้ของโรคเบาหวาน
กระหายน้าบ่อย
ปัสสาวะบ่อย
หิวบ่อย
น้าหนักลด
ไม่มีแรง
ตาพร่า

5. การป้องกันการเป็นเบาหวาน
ควบคุมน้าตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ควบคุมโภชนาการ ให้มีความสมดุลทั้งในด้านโภชนาการ
การออกกาลังกาย รวมไปจนถึงการใช้ยารักษาโรค
ควรตรวจเช็คระดับน้าตาลในเลือดสม่าเสมอ
ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนใช้ยา

6. การรักษาโรคเบาหวาน
การควบคุมอาหาร
การออกกาลังกาย
การรักษาด้วยยาลดระดับน้าตาล

7. ปัญหาโภชนาการของคนที่เป็นเบาหวาน
1.น้าตาลในเลือดมีระดับสูงผิดปกติ (ควบคุมคาร์โบไฮเดรต)
2.ไขมันในเลือดมีระดับสูงผิดปกติ (ควบคุมไขมันอิ่มตัว)
3.ขาดวิตามินบีรวม

8. ประเภทของอาหารเบาหวาน
1.โปรตีน ผู้ป่วยเบาหวานควรทานอาหารโปรตีนจากปลาและถั่ว
ขนาดที่ควรทาน1กรัมต่อน้าหนัก 1กิโลกรัมต่อวัน โดยโปรตีน
จากปลาและถั่ว 12-20 เปอร์เซ็นต์
2.คาร์โบไฮเดรต ถ้าผู้ป่วยผอมควรเพิ่ม แต่ถ้าอ้วนควรลด ขนาด
ที่ควรทานวันละ 2-4 กรัมต่อน้าหนักตัว 1กิโลกรัม
3.ไขมัน ไขมันที่เหมาะสมสาหรับคนที่เป็นเบาหวาน คือไขมัน
ชนิดไม่อิ่มตัว ขนาด 1/3 ของอาหารทั้งหมด และไขมันอิ่มตัว2/3
ของอาหารทั้งหมด
4.วิตามิน ควรทานข้าวกล้องข้าวแดง เพราะมีวิตามินบีรวมมาก

9. หลักโภชนบัญญัติ สาหรับผู้ป่วยเบาหวาน
1.กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และให้หลากหลายในแต่ละหมู่ หมั่นดูแล
น้าหนักตัวไม่ให้มากหรือน้อยจนเกินไป
2.กินข้าวเป็นอาหารหลัก สลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ
3.กินพืชผักให้มากและกินผลไม้เป็นประจา
4.กินปลา เนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน ไข่ และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจา
5.ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย
6.กินอาหารที่มีไขมันแต่พอควร
7.หลีกเลี่ยงอาหารรสหวานจัดและเค็มจัด
8.กินอาหารที่สะอาด ปราศจากการปนเปื้อน
9.งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

10. การป้องกันและการดูแลตนเอง เมื่อเป็นเบาหวาน
1 ออกกาลังกายให้สม่าเสมอ อย่างน้อยวันละ 20นาที
2 ควบคุมน้าหนัก
3 หลีกเลี่ยงอาหารรสหวาน เช่น น้าหวาน น้าอัดลม
4 ทานอาหารเป็นมื้อ ไม่จุกจิก
5 ทาจิตใจให้สงบ
6 ระวังอย่าให้เกิดแผลตามร่างกาย
7 ควรใส่รองเท้าหุ้มส้นเท้า ปลายปิด
8 ตรวจสุขภาพเป็นประจา