Contenu connexe
Similaire à เศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ (20)
Plus de Kasetsart University (20)
เศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ
- 1. เรี ยงความเรื่ อง เศรษฐศาสตร์ เชิงพุทธ
เสนอ ผศ.ดร.ประเวศ อินทองปาน วิชาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับพระพุทธศาสนา
เศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ
พุทธเศรษฐศาสตร์ คือ การประยุกต์แนวความคิดทางศาสนาพุทธเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์มาใช้อธิบาย
หลักการและแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ เป็ นแนวทางใหม่ในการทาความเข้าใจเศรษฐศาตร์ ไม่ได้มีขอโต้แย้งมากมาย
้
อะไรนักเกี่ยวกับกระบวนการวิเคราะห์ที่นกเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ในปัจจุบนใช้อยูการนาเอาวิธีการอนุมาณเชิงตรรกะ
ั ั ่
เข้ามาใช้ในวิชาเศรษฐศาสตร์ เช่นเดียวกับการนาไปใช้ในวิชาอื่น ๆ แต่ขอสมมุติข้นพื้นฐานบางประการเกี่ยวกับ
้ ั
ธรรมชาติของมนุษย์ซ่ ึงนักเศรษฐศาสตร์กระแสหลักใช้ยงไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างเพียงพอนักเศรษฐศาสตร์กระแส
ั
หลักส่ วนมากไม่ได้ให้ความสนใจเท่าที่ควรในประเด็นนี้ส่วนใหญ่จะยอมรับไปโดยปริ ยาย และนักเศรษฐศาสตร์กได้
็
สร้างเครื่ องมือการวิเคราะห์ข้ ึนบนรากฐานที่เปราะบาง ผลที่ตามมาคือข้อสรุ ปส่ วนใหญ่ที่ได้จากกระบวนการวิเคราะห์
ทางเศรษฐศาสตร์ไม่สามารถเผชิญกับการท้าทายจากภาวะวิกฤตได้ขอสมมุติพ้นฐานบางส่ วนที่สร้างขึ้นมาจาก
้ ื
เศรษฐศาสตร์แบบดั้งเดิมที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติของมนุษย์น้ นไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมของมนุษย์ที่เป็ นจริ งและ
ั
บางครั้งก็ขดแย้งกับกฎธรรมชาติ ซึ่งทาให้พลังในการอรรถาธิบายของเศรษฐศาสตร์แบบเดิมอ่อนลงไปมากปัจจุบนนี้
ั ั
วิชาเศรษฐศาสตร์ที่เรารู ้จกกันอยูเ่ ป็ นวิชาเศรษฐศาสตร์แบบตะวันตกเมื่อพูดถึงเศรษฐศาสตร์และเรื่ องราวเนื้อหาวิชา
ั
เศรษฐศาสตร์ เราก็ใช้ภาษาเศรษฐศาสตร์แบบตะวันตก เมื่อคิดถึงเรื่ องเศรษฐศาสตร์ เราก็คิดในกรอบความคิดของ
เศรษฐศาสตร์แบบตะวันตกด้วย ดังนั้น ถ้าจะมาพูดถึงเศรษฐศาสตร์แนวพุทธ ก็ยากที่จะทาตัวเองให้พนออกไปจาก
้
กรอบความคิดของเศรษฐศาสตร์และภาษาเศรษฐศาสตร์แบบตะวันตกนั้น เพราะฉะนั้นการพูดถึงเศรษฐศาสตร์แนว
พุทธก็อาจจะเป็ นการพูดถึงพระพุทธศาสนาด้วยภาษาเศรษฐศาสตร์ตะวันตกภายในกรอบความคิด ของเศรษฐศาสตร์
ตะวันตกนั้นเอง
็
เศรษฐศาสตร์น้ นได้กล่าวกันมาว่า เป็ นสังคมศาสตร์ที่เป็ นวิทยาศาสตร์มากที่สุด และเศรษฐศาสตร์กมีความ
ั
ภูมิใจในเรื่ องนี้ดวยว่า ตนเป็ นวิทยาการที่เป็ นวิทยาศาสตร์มากที่สุด เอาแต่สิ่งที่วดได้ คานวณได้ จนกระทังมีผกล่าวว่า
้ ั ่ ู้
เศรษฐศาสตร์น้ ีเป็ นศาสตร์แห่งตัวเลยมีแต่สมการล้วนๆในการพยายามที่จะเป็ นวิทยาศาสตร์น้ ี เศรษฐศาสตร์กเ็ ลย
พยายามตัดเรื่ องคุณค่าที่เป็ นนามธรรมออกไปให้หมดเพราะคานวณไม่ได้ จะทาให้ตนเองเป็ น value-free คือเป็ นศาสตร์
็
ที่เป็ นอิสระ หรื อปลอดจากคุณค่า แต่กมีฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็ นนักวิจารณ์เศรษฐศาสตร์ หรื อแม้แต่นกเศรษฐศาสตร์เอง
ั
บางคนบอกว่า ความจริ งแล้วเศรษฐศาสตร์น้ ีเป็ นสังคมศาสตร์ที่ข้ ึนต่อ value มากที่สุด เรี ยกว่าเป็ น value-dependent
ั ่
มากที่สุด ในบรรดาสังคมศาสตร์ท้ งหลาย จะเป็ นวิทยาศาสตร์ได้อย่างไร เพราะจุดเริ่ มของเศรษฐศาสตร์น้ นอยูที่ความ
ั
ต้องการของคน ความต้องการของคนนี้เป็ นคุณค่าอยูในจิตใจ แล้วในเวลาเดียวกัน จุดหมายของเศรษฐศาสตร์กเ็ พื่อ
่
สนองความต้องการให้เกิดความพอใจความพอใจนี้กเ็ ป็ นคุณค่าอยูในจิตใจของคน เศรษฐศาสตร์จึงทั้งขึ้นต้นและลงท้าย
่
ด้วยเรื่ องคุณค่าในจิตใจ
โดย นายสุรวุฒิ นิ่มทิม 5310501355 E21
- 2. เรี ยงความเรื่ อง เศรษฐศาสตร์ เชิงพุทธ
เสนอ ผศ.ดร.ประเวศ อินทองปาน วิชาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับพระพุทธศาสนา
เมื่อประมาณ 18 ปี มาแล้ว นักเศรษฐศาสตร์ฝรั่งคนหนึ่งชื่อว่า นาย อี.เอฟ ชูมาเกอร์ (E.F.Schumacher) ได้พิมพ์
หนังสื อออกมาเล่มหนึ่ง ชื่อว่า Small Is Beautiful มีผแปลเป็ นภาษาไทยดูเหมือนจะใช้ชื่อว่า จิ๋วแต่แจ๋ ว ในหนังสื อเล่มนี้
ู้
บทหนึ่งคือ บทที่ 4 ได้ต้ งชื่อว่า "Buddhist Economics" แปลว่า เศรษฐศาสตร์ชาวพุทธ หนังสื อเล่มนี้ และโดยเฉพาะ
ั
บทความบทนี้ ได้ทาให้คนจานวนมากทั้งในตะวันออก และตะวันตกเกิดความสนใจในเรื่ องพุทธศาสนาด้านที่เกี่ยวข้อง
กับเศรษฐกิจขึ้นมา จึงนับว่าท่านชูมาเกอร์น้ ีเป็ นผูมีอุปการคุณอย่างหนึ่ง ในการที่ทาให้เกิดความสนใจพุทธศาสนาในแง่
้
เศรษฐศาสตร์ข้ ึน หันกลับมาพูดถึงเศรษฐศาสตร์ในปัจจุบน เศรษฐศาสตร์ในปัจจุบนนี้ได้แยกเอากิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ั ั
อกมาพิจารณาต่างหากโดดเดี่ยวจากกิจกรรมด้านอื่นๆของชีวิตมนุษย์ และจากวิทยาการด้านอื่นๆ เขาเรี ยกว่าเป็ นไปตาม
แนวของ specialization คือ ความชานาญพิเศษในทางวิชาการ หรื อความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งเป็ นลักษณะของความ
เจริ ญในยุคอุตสาหกรรม เพราะฉะนั้น ในการพิจารณากิจกรรมของมนุษย์ เศรษฐศาสตร์จึงได้พยายามตัดนัย หรื อแง่
ความหมายอื่นๆ ที่ไม่ใช่เรื่ องทางเศรษฐกิจออกไปเสี ย เมื่อจะพิจารณาเรื่ องกิจกรรมการดาเนินชีวิตอะไรก็ตามของ
มนุษย์ ก็จะพิจารณาในแง่เดียว คือแง่ที่เกี่ยวกับวิชาการของตนเองเท่านั้น การที่เศรษฐศาสตร์แยกตัวออกมาโดดเดี่ยว
อย่างนี้นี่แหละ นับว่าเป็ นสาเหตุสาคัญที่ได้ทาให้เกิดปัญหาขึ้นมา ซึ่งจะต้องมาพิจารณาว่า ทัศนะของพุทธศาสนาเป็ น
อย่างไร?
ถ้ามองในแง่ของพุทธศาสนา เศรษฐศาสตร์แนวพุทธไม่แยกโดดเดี่ยวจากความรู ้และความจัดเจนด้านอื่นๆของ
มนุษย์ กิจกรรมทางเศรษฐกิจไม่แยกโดดเดี่ยวจากกิจกรรมด้านอื่นๆในการแก้ปัญหาของมนุษย์ เพราะฉะนั้น
เศรษฐศาสตร์ไม่เป็ นศาสตร์ที่เสร็ จสิ้ นในตัวโดยลาพัง แต่อิงอาศัยกันกับวิทยาการด้านอื่นๆ ในระบบความสัมพันธ์ของ
ชีวิตและสังคม ถ้ามีกิจกรรมอันใดอันหนึ่งขึ้นมา เราก็สามารถมองได้หลายแง่ ยกตัวอย่างเช่น การโฆษณา การโฆษณา
เป็ นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ปรากฏในสังคม และเป็ นกิจกรรมที่เป็ นเรื่ องของเศรษฐกิจได้แน่นอน ในแง่ของเศรษฐกิจนั้น
การโฆษณาเป็ นการชักจูงใจให้คนมาซื้อของ ซึ่งจะทาให้ขายของได้ดีข้ ึน แต่ในเวลาเดียวกัน ก็เป็ นการเพิ่มต้นทุนทาให้
ของนั้นแพงขึ้นไปด้วย
ถ้าพิจารณาในแง่สงคม การโฆษณาก็เป็ นเรื่ องที่เกี่ยวกับค่านิยมของสังคมด้วย โดยที่วาคนที่จะโฆษณานั้นเขา
ั ่
มักจะอาศัยค่านิยมของสังคมนั้นเอง ั
มาเป็ นเครื่ องช่วยในการที่จะจัดวิธีการโฆษณาให้ดึงดูดใจคนโดยสัมพันธ์กบ
จิตวิทยา คือใช้จิตวิทยาสังคมเป็ นเครื่ องมือเอาค่านิยมไปใช้ในทางเศรษฐกิจ ในทางจริ ยธรรม การโฆษณาก็มี
ความหมายเหมือนกัน เช่น อาจจะต้องคิดว่า วิธีการโฆษณาของบริ ษท หรื อกิจการ หรื อธุรกิจนั้น เป็ นการชักจูงให้คน
ั
มัวเมาในวัตถุมากขึ้นหรื อไม่ อาจจะมีผลไม่ดีทางจิตใจอะไรบ้าง หรื ออาจจะใช้ภาพที่ไม่เหมาะไม่ควร ทาให้เกิดผลเสี ย
ทางศีลธรรมอย่างไร หรื อทางฝ่ ายการเมืองก็มีเรื่ องต้องพิจารณาว่า จะมีนโยบายอย่างไรเกี่ยวกับการโฆษณานี้ เช่นว่า จะ
ควรควบคุมหรื อไม่อย่างไร เพื่อผลดีในทางเศรษฐกิจก็ตาม หรื อในทางศีลธรรมก็ตามแม้แต่ในทางการศึกษาก็ตอง
้
โดย นายสุรวุฒิ นิ่มทิม 5310501355 E21
- 3. เรี ยงความเรื่ อง เศรษฐศาสตร์ เชิงพุทธ
เสนอ ผศ.ดร.ประเวศ อินทองปาน วิชาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับพระพุทธศาสนา
เกี่ยวข้อง เพราะอาจจะต้องพยายามหาทางสอนคนให้รู้เท่าทัน ให้พจารณาการโฆษณาอย่างมีวิจารณญาณว่า ควรจะเชื่อ
ิ
คาโฆษณาแค่ไหน ซึ่งเมื่อให้การศึกษาดีแล้ว ก็มีผลย้อนกลับมาทางเศรษฐกิจอีก ทาให้คนนั้นมีการตัดสิ นใจที่ดีข้ ึนใน
การที่จะซื้อข้าวของ เป็ นต้น อันนี้กเ็ ป็ นเรื่ องที่วา กิจกรรมต่างๆ ในสังคมมนุษย์น้ นมีแง่พิจารณาหลายแง่ ซึ่งสัมพันธ์โยง
่ ั
กันไปหมด จะพิจารณาแง่หนึ่งแง่เดียวไม่ได้
เราสามารถทาให้กิจกรรมในทางเศรษฐกิจทุกอย่าง เป็ นกิจกรรมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ตลอดเวลา และนี่
เป็ นทางหนึ่งที่จะทาให้เศรษฐศาสาตร์มีคุณค่าที่แท้จริ ง ในการที่จะแก้ปัญหาของมนุษย์ คือ ให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทุก
อย่าง เป็ นกิจกรรมในการเสริ มสร้างคุณภาพชีวตไปด้วยพร้อมกัน เมื่อว่าให้ถกแท้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปฏิบติอย่าง
ิ ู ั
่
ถูกต้องย่อมเป็ นกิจกรรมที่เป็ นไปเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและพัฒนาศักยภาพอยูแล้วในตัวอันนี้ถือว่าเป็ นสาระสาคัญ
ของเรื่ องเศรษฐศาสตร์แนวพุทธ
โดย นายสุรวุฒิ นิ่มทิม 5310501355 E21