SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  114
Télécharger pour lire hors ligne
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 1
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
ทําไมตองมีสามกกฉบับคนขายชาติ (ตอนที่ 1)
หลังจากประเทศไทยเกิดวิกฤติการณทางเศรษฐกิจครั้งใหญในป 2540 ประเทศไทยไดยอมตนเขาผูกพันและ
รับพันธะที่กําหนดโดยตางชาติหลายประการครอบคลุมทั้งดานนิติบัญญัติ ดานบริหาร และดานตุลาการ เปน
ผลใหมีการแกไขบทกฎหมายและตรากฎหมายขึ้นใหมเปนจํานวนมาก ครอบคลุมถึงดานตาง ๆ ดังกลาว
ขางตน จนมีการกลาวขานวากฎหมายหลายฉบับเปนกฎหมายขายชาติ แมกระทั่งมีการกลาวขานวาการยอมรับ
พันธะผูกพันในลักษณะเชนนี้เปนการกระทําที่ขายชาติ
ในดานการฟนฟูกอบกูเศรษฐกิจของประเทศใหฟนคืนดี ก็ปรากฏวาแทนที่ประเทศไทยจะสามารถดําเนินการ
ไดโดยอิสระเปนตัวของตัวเอง กลับตองถูกบงการโดยทุนตางชาติ ใหกําหนดมาตรการมากหลาย ซึ่งสวนใหญ
ถูกกลาวขานวาเปนไปเพื่อผลประโยชนของตางชาติ เปนไปเพื่อเกื้อกูล อํานวยประโยชนและความสะดวก
ใหแกตางชาติในการยึดครองเศรษฐกิจของประเทศ
เพียงชั่วระยะเวลา 3 ป ปรากฏวาประเทศไทยมีหนี้สินเพิ่มขึ้นจนตกอยูในสภาพที่มีหนี้สินลนพนตัว เปนปญหา
ที่กระทบตอระบบงบประมาณแผนดินอยางรุนแรงที่สุดเปนประวัติการณ มีความเสียหายเกิดขึ้นในระบบธนาคาร
และสถาบันการเงินมากที่สุดเปนประวัติการณ และธนาคารตลอดจนสถาบันการเงินไดถูกตางชาติยึดครอง
ครอบงําเกือบหมดสิ้น นักธุรกิจไทยลมละลาย ตองปดกิจการ และไมสามารถแขงขันไดอีกตอไป เงิน
หมุนเวียนหมดไปจากตลาดขยายตัวลุกลามไปจนถึงชนบท ประชาชน รัฐบาล และประเทศไทย มีรายไดลดลง
ยากจนลง และเกิดความรูสึกวากําลังตกเปนทาสของชาติอื่นชัดเจนยิ่งขึ้นทุกที
ในสภาพเชนนี้ปญหาการขายชาติ ปญหาการกอบกูฟนฟูชาติ ปญหาวีรชน และปญหาทรชนจึงเกิดขึ้น และ
กลายเปนเรื่องที่ทุกฝาย ทุกพื้นที่ใหความสนใจ จึงเกิดแรงบันดาลใจใหเขียนเรื่องยาวสักเรื่องหนึ่ง ที่
สอดคลองกับสภาพการณที่เกิดขึ้น เพื่อเปนบรรณาการทานผูอานหนังสือพิมพผูจัดการดังนั้น จึงเห็นวาเรื่อง
ยาวที่จะเขียนขึ้นควรจะตองเปนเรื่องสามกก ในมุมมองที่สอดคลองกับสภาพการณของประเทศไทย เหตุนี้จึง
ไดใหชื่อเรื่องยาวที่จะเขียนนี้วา "สามกกฉบับคนขายชาติ"
เหตุผลที่นําเอาเรื่องสามกกมาเขียนเปนเรื่องยาวอีกครั้งหนึ่งเนื่องเพราะเรื่องราวในสามกกนั้นเปนเรื่องราวใน
ยุคสมัยที่บานเมืองเกิดจลาจลวุนวาย จึงแตกแยกเปนกก เปนเหลา มีการรบราฆาฟนกันรวมรอยป อาณา
ประชาราษฎรไดรับความเดือดรอนทุกหยอมหญา บานเมืองก็เสียหายยอยยับ วีรชนไดกําเนิดขึ้นเปนจํานวน
มาก ในขณะที่ทรชนก็กําเนิดขึ้นเปนจํานวนมากเชนเดียวกัน
การตอสูกูชาติ และการขายชาติเปนของคูกัน และดําเนินไปตลอดในเรื่องราวของสามกก บนวิถีทางแหงการ
ตอสูของวีรชนกับทรชน ระหวางการตอสูฟนฟูชาติ กับการขายชาติเปนไปอยางดุเดือด สะทอนถึงศาสตรและ
ศิลปในแทบทุกสาขาที่มวลมนุษยพึงเรียนรู และถูกนํามาใชอยางแหลมคม สามกกฉบับคนขายชาติ ที่จะเขียน
ขึ้นนี้ไมไดตั้งใจที่จะเสียดสี กระทบกระเทียบเปรียบเปรยเอากับผูหนึ่งผูใดในบานเมืองขณะนี้ แตถาหากวา
ตอนใดมีเรื่องราวที่คลายคลึงหรือใกลเคียงกับสถานการณในชวงตางๆ แลว ผูเขียนก็หาไดมีอํานาจสิทธิขาดที่
จะไปกีดกั้นความนึกคิดของทานผูอานแตประการใดไม จะคิดอานประการใดก็สุดแทแตความนึกคิดของแตละ
ทานเถิด
อันเหตุการณที่ผานมาไมวาในยุคสามกกหรือในยุคใดลวนอาจหมุนเวียนเปลี่ยนเขามาใหมไดเสมอ เหตุนี้คํา
พังเพยที่วา "กงลอแหงประวัติศาสตรยอมหมุนกลับทับรอยเดิม" จึงเปนคําพังเพยที่ถูกนํามากลาวขานอยูเสมอ
ถาเปนเชนนั้นก็พึงพิจารณาแตเพียงวาเหตุการณเกิดขึ้นคลายคลึงกัน แตการที่จะปรับเปรียบมาเทียบเคียงให
เสมอกันยอมไมมีวันที่จะเปนไปได
เหตุนี้ในการดําเนินเรื่องจักไมพยายามที่จะดัดแปลงเพื่อใหเรื่องราวกลับกลายเปนเชนปจจุบัน และจักไมเอา
ตัวบุคคลในปจจุบันไปปรับเปรียบเทียบเขากับตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่งในเรื่องสามกก เพราะหากทําเชนนั้นก็ไม
ตางอะไรกับการตัดตีนใหเขากับเกือก เพราะนอกจากจะเขากันไมไดแลว มีแตจะเจ็บตัวเปลา
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
สามกกเปนวรรณคดีมีชื่อเสียงที่แปลจากภาษาจีน ตั้งแตยุคสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาจุฬาโลก
มหาราช และเปนตนแบบของการแปลเรื่องจีนมาเปนวรรณคดีไทยอีกหลายเรื่องในกาลตอมา ไมเพียงแตจะ
ถูกแปลเปนภาษาไทยเทานั้น สามกกยังจัดวาเปนหนังสือดีที่สุดเลมหนึ่งของโลก ไดถูกแปลเปนภาษาตาง ๆ
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 2
มากมาย และมียอดพิมพมากที่สุดเลมหนึ่งของโลก วากันวาจะเปนรองก็แตคัมภีรไบเบิล และตําราพิชัย
สงครามของซุนหวูเทานั้น
การแปลของแตละภาษายอมเปนธรรมดาที่จะมีสํานวนและโวหารที่ตางกันไป โดยที่ตนฉบับของจีนนั้นมี
ทวงทํานองหนักหนวงลึกซึ้ง ในขณะที่ฉบับแปลของบริวิท เทเลอรคอนขางจะตะกุกตะกัก แบบฝรั่ง สวนของ
ญี่ปุนนั้นอาจจะเปนเพราะสํานวนภาษาคลายกับจีน ดังนั้นจึงมีลีลาทํานองลึกซึ้งดุจกัน สวนการแปลเปน
ภาษาไทย อํานวยการแปลโดยบุคคลสําคัญที่มีความเชี่ยวชาญอยางสูงทางภาษาในยุคนั้นคือเจาพระยาพระ
คลัง (หน) ดังนั้นสํานวนแปลภาษาไทยจึงกระชับสั้นไดใจความ เปนภาษาความเรียงที่งดงามดวยอรรถะและ
พยัญชนะ มีอุปมาอุปไมย ที่สอดคลองกับความรูสึกนึกคิดของคนไทย จนกระทรวงศึกษาธิการ สมัยหนึ่งได
นําเอาสามกกตอนโจโฉแตกทัพเรือไปเปน แบบเรียนภาษาไทยแตทวาการแปลภาษาไทยนั้น และในยุคสมัย
ที่การเมืองไทยยังไมสงบเรียบรอยดีนัก จึงมีหลายสิ่งหลายอยางที่ขาดหายไป ทั้ง ๆ ที่เปนเรื่องสําคัญ ทั้งนี้
อาจเปนเพราะหากนํามากลาวไวแลวก็อาจกระทบตอการเมืองในยุคนั้น
เหตุนี้ในการดําเนินเรื่อง "สามกกฉบับคนขายชาติ" จักไดถือเอาฉบับแปลของเจาพระยาพระคลัง (หน) เปน
หลัก แตสวนที่ยังขาดตกอยูก็จะไดนําเอาฉบับแปลอื่น ๆ มาประกอบเพื่อใหเกิดความครบถวนอยางหนึ่ง
เพื่อใหเกิดประกายแหงความคิดและเปนที่ตั้งแหงความเขาใจอันจะเปนประโยชนตอความรับรูและการนําไปใช
อีกอยางหนึ่ง
นอกจากฉบับแปลแลวยังมีสามกกฉบับพิเศษอีกหลายฉบับยาขอบบรมครูแหงวรรณกรรมไทยก็ไดเขียนสาม
กกขึ้นฉบับหนึ่งเรียกวาฉบับวณิพก หรือฉบับขอทาน โดยยกเอาตัวบุคคลแตละคนขึ้นมาพรรณนาใน
รายละเอียดดวยภาษาที่งดงามและคมกลา
ในขณะที่บรมครูอีกทานหนึ่งซึ่งนับถือกันวาเปนปราชญแหงชาติไทย คือหมอมราชวงศคึกฤทธิ์ ปราโมช ก็ได
เขียนสามกกขึ้นอีกฉบับหนึ่งชื่อวาสามกกฉบับนายทุน ซึ่งเปนการแสดงทัศนะความชอบธรรมและความไมชอบ
ธรรม ความดีและความชั่วที่ตรงกันขามกับทัศนะของยาขอบ คือในขณะที่ยาขอบยกยองเชิดชูเลาปเปนผูทรง
คุณธรรม และกลาวหาประณามโจโฉเปนกบฏทรยศตอแผนดิน หมอมราชวงศคึกฤทธิ์ ปราโมช ก็ไดเชิดชูโจ
โฉเปนอัครมหาเสนาบดี ที่ภักดีตอแผนดิน ในขณะที่เลาปเปนนักหลอกลวง หลอกเอาขงเบง มาใชแลวสมคบ
กันใชเลหลิ้นลมลวงจนบานเมืองปนปวนไปทั่ว
สองทัศนะนี้ขัดแยงกันสิ้นเชิง แตก็เกิดอรรถรสและแงคิดที่เปนประโยชน แกผูอานไมตางกัน หลังจากนั้นก็ยัง
มีผูแตงสามกกออกมาอีกหลายฉบับ เชนฉบับแปลของคุณวรรณไว พัทธโนทัย สามกกฉบับนักบริหาร และที่
กําลังออกอากาศทางวิทยุอยูในขณะนี้ก็ยังมีสามกกฉบับโหราศาสตร นอกจากนี้แลวก็ยังมีฉบับเล็กฉบับนอย
อีกมากมาย ไมเพียงแตจะมีผูแตงลักษณะเชนนี้ในประเทศไทยเทานั้น ในประเทศจีนเองหรือในประเทศอื่นๆ ก็
ไดนําเอาสามกกไปแบงซอยยอยและแตงขึ้นในแงมุมตางๆ มากมาย
การทั้งนี้เนื่องจากเรื่องราวที่ดําเนินไปในสามกกนั้น ไดครอบ คลุมการตางๆ ไวแทบทุกๆ ดาน ไมวาในเรื่อง
คุณธรรม น้ํามิตร พิชัยสงคราม การปกครอง การบริหาร การใชคน การทูต การเมือง การทหาร แมกระทั่ง
โหราศาสตร นิมิต และลางตางๆ ตลอดจนธรรมเนียมการปกครองแผนดิน การที่สามกกมีเนื้อหาครอบคลุม
เรื่องราวดานตาง ๆ มากมาย เชนนี้ จึงมีผูดัดแปลงสามกกออกไปเขียนในแงมุมตาง ๆ และยิ่งเขียนในแงมุม
ตาง ๆ มากขึ้นเทาใดก็ยิ่งแสดงใหเห็นวาสามกกนั้น ไมวาในแงมุมใดมีความลึกซึ้ง และเปนประโยชนตอ
ผูเกี่ยวของไดทั้งสิ้น มีผูกลาววาใครอานสามกกครบสามครั้งจะเปนคนที่คบไมได คํากลาวนี้ไดสะทอนใหเห็น
อยูในตัวเองวาสามกกเปนเรื่องราวของการใชสติปญญาพลิกแพลงกอปรดวยอุบายเลหกลครบครัน
แตขอที่วาอานสามกกครบสามครั้งแลวจะเปนคนที่คบไมไดนั้น ออกจะเปนการมองปญหาดานเดียว เพราะการ
คบไดหรือคบไมได ไมไดขึ้นอยูกับการอานสามกกหรือไม หรือวาจะอานสักกี่ครั้ง หากขึ้นอยูกับคนผูนั้นเอง
คนจํานวนหนึ่งแมไมเคยอานสามกกก็ยังปรากฏวาเปนคนที่คบไมไดก็มีใหเห็นอยูถมไป บางคนอานสามกกนับ
สิบครั้งก็ยังคงเปนคนดีมีศีลธรรม ก็มีใหเห็นอยูถมไปเหมือนกัน
คนเราจะคบกันไดหรือคบกันไมไดขึ้นอยูกับอุปนิสัยใจคอของคนผูนั้นเองวาเปนคนดี เปนมิตรแท หรือเปน
สหายน้ํามิตรที่ตายแทนกันไดหรือไม หากเปนคนเลว คนเห็นแกได หรือคนทรยศตอมิตร แมไมไดอานสามกก
เลย คนเชนนี้ก็หาควรคบดวยไม
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 3
ในมงคล 38 บทแรกสุด พระผูมีพระภาคเจาไดตรัสสอนวาการไมคบคนพาลเปนมงคลสูงสุด ซึ่งสามกกมี
ตัวอยางและเรื่องราวมากมายที่แสดงใหเห็นวาคนพาลเปนอยางไร ที่สําคัญไดแสดงใหเห็นถึงลักษณะและการ
กระทําของคนขายชาติวาทํากันอยางไร เกิดผลอยางไร ทั้งผลที่เกิดขึ้นแกตนเอง แกครอบครัว แกสังคมและ
บานเมือง เรืองวิทยาคมพรอมแลวที่จะบรรณาการทานผูอานหนังสือพิมพผูจัดการดวย "สามกกฉบับคนขาย
ชาติ" ซึ่งแมวาจะตระหนักดีวามีภูมิความรูยังไมถึงขนาดนัก แตดวยใจภักดีที่มุงตอบแทนคุณทานผูอานก็จะใช
ความพยายามอยางเต็มความสามารถ คงมีปญหาขอวิตกอยูประการเดียวที่เรื่องสามกกเปน เรื่องยาว ยอมยาก
ที่จะทําใหเกิดความเราใจ ตรึงใจไปไดตลอด ทั้งตองใชเวลานานนับปกวาจะจบ จึงวิตกวาทานผูอานจะเบื่อ
หนายเสียกอน จึงไดแตหวังวาดวยใจภักดีที่จะสนองคุณทานผูอานอยางหนึ่งดวยวิริยะอุตสาหะแหงตนอีก
อยางหนึ่ง จักเปนเครื่องคุมกันและกอใหเกิดความเมตตาจากทานผูอานติดตามและสนับสนุนงานชิ้นนี้ไป
จนกวาจะสําเร็จดังประสงค
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
เคาลางกลียุค (ตอนที่ 2)
ยุคสมัยของสามกกเกิดขึ้นตั้งแตปพุทธศักราช 722 เปนตนมา เปนเวลารวมรอยป เบื้องหนาแตจะเกิดยุคสาม
กก แผนดินจีนไดเกิดกลียุครบราฆาฟนกันจนแตกออกเปน 7 หัวเมือง ทั้ง 7 หัวเมืองนี้บางครั้งก็ผูกมิตรกัน
บางครั้งก็ทําสงครามกัน สงครามและสันติภาพเกิดขึ้นสลับกันไป ประวัติศาสตรจีนไดเรียกขานยุคนี้วาเปนยุค
"เลียดกก" รายละเอียดมีปรากฏในวรรณคดีไทยเรื่องเลียดกกซึ่งแปลมาจากพงศาวดารเลียดกกของจีนนั้นแลว
จนถึงสมัยหนึ่งแควนจิ๋นมีเจาผูปกครองชื่อวา "จิ๋นออง" ไดรวบรวมหัวเมืองทั้ง 7 เขาเปนแผนดินเดียวกัน
สถาปนาราชวงศจิ๋นขึ้นปกครองแผนดินจีนแตนั้นมา
ชื่อประเทศที่ถูกรวมเขาเปนหนึ่ง จึงถูกเรียกตามชื่อของแควนจิ๋นวาเปน"ประเทศจีน" ตั้งแตบัดนั้นเปนตนมา จิ๋
นอองเปนผูใฝอํานาจ เห็นวาคําวา "ออง" ยังเปนคําต่ําเสมอเจาเมืองธรรมดา ไมสมกับความชอบของพระองค
ที่สามารถรวบ รวมแควนทั้งปวงเขาเปนแผนดินเดียวกันได จึงใหขุนนางทั้งปวงคิดสรรหาสมญานามใหสมกับ
ความชอบของพระองค
เปนธรรมเนียมของขุนนางทุกยุค ทุกสมัยที่มักประจบผูมีอํานาจบรรดาขุนนางในยุคนั้นจึงไดคิดคนสมญานาม
สําหรับจิ๋น อองวา "ฮองเต" ซึ่งหมายถึงความเปนใหญใน 5 ทวีป หรือความยิ่งใหญเหนือแผนดิน ภูเขา แมน้ํา
ความดี และความชั่ว ซึ่งสมญานามนี้เปนที่ตองพระทัยยิ่งนัก ดังนั้น จิ๋นอองจึงไดสถาปนาพระนามาภิไธย ของ
พระองควา "จิ๋นซีฮองเต" ความใฝในอํานาจ และความคิดที่จะเปนใหญในจักรวาลเปนแรงวิริยานุภาพภายใน
ตัวของจิ๋นซีฮองเต ประกอบกับเปนคนรูจักใชคน ดังนั้น คนดีมีฝมือในแผนดินจํานวนมากจึงอาสาเขามารับใช
ชาติ แผนดินจีนยุคนั้นจึงยิ่งใหญเกรียงไกร
แตกระนั้นความยิ่งใหญที่มีอยูก็ไมสามารถยับยั้งความแกเอาไวได เมื่ออายุลวงวัยมากเขา จิ๋นซีฮองเตก็เกิด
ความคิดกลัวตาย แตไมอยากตาย ดังนั้น จึงไดพยายามแสวงหายาอายุวัฒนะ เมื่อความอยากเกิดขึ้น ความโง
ก็ไดเขาครอบงํา พวกแพทยหลวงและแพทยบานตลอดจนนักพรต ตางไดอาสาทํายาอายุวัฒนะ แตในที่สุดก็
ไมประสบผลสําเร็จ ความแกยังคงเขาครอบงําจักรพรรดิผูยิ่งใหญอยางไมหยุดยั้ง ทําใหพระองครูสึกวาวันเวลา
แหงความตายไดเยื้องกรายเขามาเยือน พระองคใกลเขามาทุกที ในที่สุดทรงตั้งรางวัลเปนจํานวนมหาศาล
ใหแกใครก็ตามที่สามารถแสวงหายาอายุวัฒนะมาถวายได
รางวัลจํานวนมหาศาลยอมจูงใจคน ยอมสามารถทําใหคนแกรง กลาไมกลัวผี ไมกลัวฟา ไมกลัวดิน ไมกลัว
บาป และไมกลัวตาย ดังนั้น จึงมีพวกหมอกลุมหนึ่งเห็นวา ขืนอยูไปก็อาจเสี่ยงภัยตอการถูกประหาร จึงอาสา
เดินทางทางเรือไปทางดานตะวันออก เพื่อแสวงหายาอายุวัฒนะ หลังจากเดินทางไปแลวก็ไมกลับมาอีกเลย
กลาวกันวาคณะเดินทางแสวงหายาอายุวัฒนะกลุมนี้คือกลุมบรรพบุรุษกลุมแรกของชนชาติญี่ปุน เหตุที่ไม
ยอมรับวาความตายจะมาถึง จิ๋นซีฮองเตจึงไมได เตรียมการใด ๆ เพื่อรับมือกับเหตุการณหลังการตายของ
พระองค ดังนั้นเมื่อความตายมาถึงกลียุคจึงเกิดขึ้นในบานเมือง หลี่ซือ ขุนนางผูมีความชอบตอแผนดินและ
ดํารงตําแหนงอัครมหาเสนาบดีถูกขันทีใชอํานาจของยุวกษัตริยประหารอยางโหด ราย นอกจากนั้นขุนนางผู
ภักดีตอแผนดินก็ถูกบีบคั้นและสังหารอยางโหดรายทารุณ ในที่สุดยุวกษัตริยผูเปนรัชทายาทของจิ๋นซีฮองเตก็
ถูกขันทีสังหารแผนดินอันยิ่งใหญก็ไมสามารถรักษาไวได แมเลือดเนื้อเชื้อไขก็ตองถูกสังหารอยางโหดราย นี่
เปนเพียงตัวอยางหนึ่งของความประมาทที่อยาวาแตปุถุชนคนธรรมดาสามัญเลย ตอใหเปนฮองเต มีอํานาจ
วาสนาทรัพยสิ่งศฤงคารสักเพียงไหน หากตกอยูในความประมาทแลว ทุกสิ่งก็จะสูญสิ้นไป
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 4
หลังจากสังหารยุวกษัตริยแลว ขันทีก็ตั้งตนเปนใหญ ใชอํานาจ หยาบชาตออาณาประชาราษฎร จนบานเมือง
เกิดจลาจลขึ้น สมัยนั้นขุนศึกตางๆ ไดยกกองทัพเขาเมืองหลวง ดานหนึ่งอางวาเพื่อฟนฟูพระราชวงศ ชูธง
แหงความจงรักภักดีขึ้นเปนที่รวมใจของขุน นางและอาณาประชาราษฎร ในขณะที่อีกดานหนึ่งมีวาระซอนเรน
อยูในใจที่จะยึดอํานาจแผนดินเสียเอง
การรบราฆาฟนเกิดขึ้นอยางกวางขวาง การจลาจลขยายตัวลุกลามไปทั้งแผนดิน กลายเปนสงครามกลางเมือง
ขึ้นมาอีก ครั้งหนึ่งสมัยนั้นมีผูตั้งตนเปนผูกูชาติหลายกลุม หลายเหลา แตหลังจากสงครามผานไปนานวันเขา
บางกลุมก็สูญสลายไป บางกลุมก็ไปรวมกับอีกกลุมหนึ่ง ในที่สุดเหลืออยูเพียงสองกลุม กลุมแรกนํา
โดยฌอปาออง กลุมที่สองนําโดยเลาปง หรือที่เรียกวาฮั่นออง ทั้งสองกลุมนี้ทําสงครามแยงชิงเมืองหลวงกัน
เปนเวลายาวนาน เปดสงครามตอกันถึง 7 ครั้ง และทั้ง 7 ครั้งนี้ฮั่นอองหรือ เลาปงเปนฝายพายแพ
แตเนื่องดวยเลาปงเปนคนมีความเพียรพยายาม มีจิตใจตอสูและทรหดอดทน ทั้งพยายามแสวงหาคนดีมีฝมือ
มารวมงาน ในที่สุด เลาปงก็ไดขุนนางสองคนมาทําการดวย นั่นคือ "ฮั่นสิน" ซึ่งเปนผูเชี่ยวชาญจัดจานทาง
การทหาร และ "เตียวเหลียง" ซึ่งเปนผูเชี่ยวชาญ จัดจานทางพิชัยสงครามและการปกครอง
ในสงครามครั้งสุดทาย ฮั่นอองเปนฝายไดรับชัยชนะ โดยฌอปาอองแตกทัพไปติดอยูริมน้ํา และฆาตัวตายใน
ที่สุด กอนพายแพฌอปาอองไดเผาเมืองหลวงที่ใหญโตอัครฐานจนหมดสิ้น กลาวกันวาเพลิงไหม
พระบรมมหาราชวัง ติดตอกันเปนเวลาถึง 7 วัน 7 คืน ฮั่นอองหรือเลาปงไดรับชัยชนะแลว จึงไดสถาปนา
ราชวงศฮั่นขึ้น เหลาขุนนางไดถวายพระสมัญญาแกพระองคทานวา "พระเจาฮั่นโกโจ" จัดเปนปฐมกษัตริย
แหงราชวงศฮั่น
สงครามและสันติภาพเกิดขึ้นสลับกันไปเชนนี้ เจาพระยา พระคลัง (หน) จึงกลาวไวในสามกกดวยโวหารวา
"เดิมแผนดินเมืองจีน ทั้งปวงนั้นเปนสุขมาชานานแลวก็เปนศึก ครั้นศึกสงบแลวก็เปนสุข"
พระเจาฮั่นโกโจและพระราชวงศไดครองราชยสมบัติตอ ๆ มา ถึง 12 องค ขุนนางชื่อ "อองมัง" จึงชิงราช
สมบัติตั้งตนขึ้นเปนเจาครองแผนดินอยูถึง 18 ป ก็มีเชื้อพระวงศของพระเจาฮั่นโกโจชื่อ "ฮั่นกองบู" ชิงราช
สมบัติกลับคืนได เสวยราชยสืบเชื้อพระวงศตอมาอีก 12 องค จึงเปนอันสิ้นสุดราชวงศฮั่น
ฮองเตองคที่สามกอนสิ้นราชวงศฮั่นทรงพระนามวา "ฮั่นเต" คงจะเปนหมัน จึงไมมีพระราชบุตรสืบสันตติวงศ
แตแทนที่จะยกเอาเชื้อพระวงศผูมีสติปญญาคนหนึ่งคนใดขึ้นเปนมหาอุปราช เพื่อเตรียมสืบราชวงศตอไป
กลับไป ขอลูกชาวบานมาเลี้ยง ตั้งเปนพระราชบุตร แลวโปรดใหขันทีเลี้ยงดูมาแตนอย ตอมาทรงสถาปนาเปน
ที่รัชทายาท ดังนั้นเลนเต จึงไมใชเชื้อพระราชวงศฮั่น เปนลูกกาฝาก หาก จะกลาวถึงที่สุดแลวก็ยอมกลาวได
วา ราชวงศฮั่นไดหมดสิ้นไปตั้งแตยุคสมัยของพระเจาฮั่นเตแลว ราชบัลลังกหลังจากนั้นตกไดแกคนแซอื่น
การกระทําผิดธรรมเนียมประเพณีในการปกครองแผนดินของ ฮั่นเต คือเหตุสําคัญที่ทําใหราชวงศฮั่นดับสูญ
และราชบัลลังกตกเปนสิทธิแกคนอื่น นี่คือทัณฑจากสวรรคของการที่ทําผิดธรรมเนียม ประเพณี ถาจะกลาว
โดยสํานวนไทยก็กลาวไดวาเปนความผิดของ "คนที่เอาลูกเขามาเลี้ยง เอาเมี่ยงเขามาอม"
เลนเตลูกชาวบาน เมื่อไดดิบไดดีเปนรัชทายาทก็ถือตัววาเปนเชื้อพระวงศฮั่นไปดวย ครั้นไดเสวยราชยทรง
พระนามวา "พระเจาเลนเต"แตสันดานชาติเชื้อที่มิใชเผาวงศกษัตริย และอัธยาศัยที่ถูกสรางสม มาจากการ
เลี้ยงดูของขันทียังคงติดตัวมาจึงกําเริบขึ้น สามกกไดกลาวความประพฤติของพระเจาเลนเตวา "มิไดตั้งอยูใน
โบราณราชประเพณี แลมิไดคบหาคนสัตยธรรม เชื่อถือแตคนอันเปนอาสัตย ประพฤติแตตามอําเภอใจแหง
พระองค เสียราชประเพณีไป"
เมื่อ เลนเต เสวยราชยแลว ไดอาศัยขุนนางผูใหญสองคนคอย ค้ําจุนราชบัลลังก คนหนึ่งชื่อเตาบูเปนแมทัพ
ใหญ อีกคนหนึ่งชื่อ ตันผวน เปนราชครู สองขุนนางเฒารับราชการในราชวงศฮั่นมาถึงสองแผนดิน เห็นความ
วิปริตผันแปรในบานเมืองที่ทําใหขุนนางขาราชการแลราษฎรตองเดือดรอนหนักวา เกิดจากขันทีเปนเหตุ จึง
วางแผนรวมกันเพื่อจะสังหารกลุมขันทีชั่วเสีย แตแผนการรั่วไหล เสียกอน ดังนั้น ทั้งแมทัพใหญเตาบูและ
ราชครูตันผวนพรอมดวยครอบครัวและบริวารจึงกลับเปนฝายถูกกลุมขันทีชั่ว สังหารอยางโหดรายและทารุณ
แตนั้นมากลุมขันทียิ่งกําเริบเสิบสานมากขึ้น เหลาขุนนางขาราชการมีความเกรงกลัวอิทธิพลของกลุมขันทีชั่ว
เปนอันมาก
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ครั้นพระเจาเลนเตเสวยราชยไดสิบสองป ตรงกับพุทธศักราช 722 เดือนสี่ขึ้นสิบหาค่ํา แตสามกกฉบับสมบูรณ
ระบุวาเปนป พุทธศักราช 710 พระเจาเลนเตประทับ ณ พระที่นั่งอุนตกเตี้ยน เวลาเที่ยงเกิดอาเพศใหญขึ้น ใน
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 5
บานเมือง เปนสัญญาณจากสวรรค ที่บงบอกวา แผนดินเกิดกลียุค ณ เวลานั้นเพลาเที่ยงเกิดลมพายุหนัก มีงูสี
เขียวตัวใหญตกลง มาพันอยูที่เทาพระเกาอี้ พระเจาเลนเตตกพระทัย กระทั่งสิ้นพระสติ พักหนึ่งงูใหญ ก็
หายไปแลวเกิดฟารองฝนตกหาใหญ ลูกเห็บขนาดใหญตกบานเรือนราษฎรพังทลาย พระตําหนักถูกพายุ
ลูกเห็บพัดพังหลายตําหนัก จนถึงเที่ยงคืนฝนจึงหยุด หลังจากนั้นอีก 4 ป ณ เดือนยี่ เมืองลกเอี๋ยง ซึ่งเปน
เมืองหลวงเกิดแผนดินไหว น้ําทะเลเกิดคลื่นใหญทวมบานเมือง และบานเรือนราษฎรถูกน้ําพัดพา หายไปเปน
จํานวนมาก ไกตัวเมียขันไดกลายเปนไกตัวผู
ถัดมาในเดือน 6 ขึ้นค่ําหนึ่งเกิดควันเพลิงพุงขึ้นไปสูง 20 วา แลวพุงเขาไปในพระที่นั่งอุนตกเตี้ยน รุงเดือน 7
เกิดรัศมีรุงตกในพระบรมมหาราชวัง ภูเขารันซัวแตกทลายลงนิมิตเหลานี้ ถาวาตามหลักนิมิตลางของไทย ก็
กลาวไดวา เปน ทั้งอุบาทวพระอินทรและอุบาทวพระยมเกิดขึ้นตอเนื่องกันไป เปนลางรายของแผนดินวาจะ
เกิดกลียุค นิมิตและลางรายนี้เคยปรากฏใหเห็น กอนสิ้นแผนดินกรุงศรีอยุธยาหลายประการ เชนมีฟาผาลงตรง
ระเบียงพระบรมมหาราชวัง และไฟไหมลุกลามไปหลายแหง, ฝูงอีกาจับกลุมกันจิกตีจนบาดเจ็บลมตาย, หลวง
พอมงคลบพิตรมีน้ําพระเนตรไหล, อีกาใหญบินเอาอกเขาเสียบกับตรีศูลพระบรมมหาราชวัง, น้ําในแมน้ําเปนสี
แดงดังเลือด, เสียงใบไมเหมือนเสียงคนร่ําไหระงมเมือง, ไกตัวเมียขันไดกลายเปนตัวผู ดาวจระเขดวงที่เปน
ตําแหนงของพระมหากษัตริยสีแดงเศราหมอง และริบหรี่คลายกับจะดับสูญ
นิมิตและลางลักษณะนี้ถือวา เปนนิมิตและลางรายที่จะเกิดกลียุคขึ้นในบานเมืองนับเปนอาเพศที่มีผลกระทบ
ตอบานเมือง กระทบตอผูมีอํานาจปกครองบานเมืองและราษฎรเปนสวนรวม อาเพศอันเกิดจากนิมิตและลาง
แมเปนสิ่งที่ไรศาสตรใดไป พิสูจนวาเกิดขึ้นไดอยางไร แตความเชื่อของคนหลายชาติ หลายภาษาสืบทอดมา
นับพันป ยังคงเหนียวแนนแมกระทั่งในบานเมืองของเราในทุกวันนี้อา! เคาลางแหงกลียุคไดปกคลุมเหนือ
แผนดินจีนอีกครั้งหนึ่งแลว
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
ยุคขันทีกินเมือง (ตอนที่ 3)
นิมิตและลางจากสวรรคที่เกิดขึ้นอยางตอเนื่อง ไดกอใหเกิดความประหวั่นพรั่นพรึงในหมูอาณาประชาราษฎร
พระเจาเลนเตเองก็ทรงสังเกตเห็นปรากฏการณที่ผิดปกติ จึงทรงตรัสถามขึ้นในที่ประชุมเหลาขุนนางวา "นิมิต
วิปริตดั่งนี้จะดีรายประการใด" ปรากฏวาไมมีใครยอมตอบวา "นิมิตวิปริต" นั้น วาจะดีรายและหมายความวา
ประการใด เหลาขุนนางตางนิ่งเงียบเปนเปาสาก และอาการนิ่งเงียบเปนเปาสากของเหลาขุนนางนี้ควรจะตอง
ถือวาเปน "นิมิตวิปริต" ที่เกิดขึ้นในราชสํานัก เชนเดียวกับ "นิมิตวิปริต" ที่เกิดขึ้นแตธรรมชาติ เพราะเหลาขุน
นางทั้งปวงนั้นยอมมีวิสัยที่ชอบเพ็ดทูล และมักจะแขงแยงกันเพ็ดทูลเพื่อหาความดีความชอบ และเพื่อแสดง
ภูมิรูแหงตนใหเปนที่ประจักษ
หลังพระเจาเลนเตเสด็จขึ้นแลว ก็มีขุนนางชื่อ "ยีหลง" ทําหนังสือลับกราบทูลพระเจาเลนเตวา "เหตุทั้งปวงนี้
เพราะขันทีประพฤติลวงพระราชอาญา จึงเกิดนิมิตใหพระองคปรากฏ" การที่ยีหลงตองทําเปนหนังสือลับ
ประกอบกับอาการเงียบเปนเปาสากของเหลาขุนนางนั้น เปนอาการที่บงบอกวาคนรอบขางของพระเจาเลนเต
ซึ่งก็คือขันทีประพฤติลวงพระราชอาญา "คิดกันกระทําการหยาบชาตางๆ" และควบคุมราชสํานักไวไดโดย
สิ้นเชิง และเปนที่รูกันโดยทั่วไป
ในเหลาขุนนางอันขันทีนั้น คือคนใชของพระเจาแผนดิน หากยามใดที่พระเจาแผนดินเขมแข็ง ขันทีก็มีฐานะ
เปนคนรับใช แตยามใดที่พระเจาแผนดินออนแอเหลวไหล ขันทีก็จะมีฐานะเปนคนใชพระเจาแผนดิน คือใชให
พระเจาแผนดินทําอะไรไดตามใจชอบ ขันทีนั้นไมใชกะเทยเหมือนกับที่เห็นในภาพยนตร แตเปนชาย ซึ่งถูก
ตัดองคชาติไมใหสืบเผาพันธุ และสิ้นความรูสึกทางเพศอยางสิ้นเชิง เหตุทั้งนี้เนื่องจากขันทีสามารถ
เขานอกออกในไดทั้งฝายหนาและฝายใน โดยที่ฝายในนั้นเต็มไปดวยพระสนม นางกํานัล เหตุนี้เพื่อปองกัน
ไมใหขันทียุงเกี่ยวในทางเพศกับพระสนม นางกํานัล จึง มีกฎใหตองตัดองคชาติของขันทีเสียกอนจึงจะรับเขา
บรรจุในตําแหนงขันทีได
เหตุที่มีผูยอมถูกตัดองคชาติเพื่อรับราชการเปนขันทีก็เพราะขันทีนั้นอยูใกลชิดพระเจาแผนดิน ซึ่งเปนศูนย
แหงอํานาจรัฐ เปนบอเกิดแหงอํานาจวาสนา ทรัพยสมบัติและหนาตา ดังนั้น จึงมีพอแมของคนจํานวนมากเอา
ลูกชายไปขายเปนขันทีเพื่อหวังลาภยศในเบื้องหนา ชายจํานวนมากก็ยอมตัวถูกตัดองคชาติเปนขันที เพื่อหวัง
อํานาจวาสนาอยางหนึ่ง และหวังรายไดไปสงเสียใหกับครอบ ครัวอีกอยางหนึ่ง
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 6
แตคนเรานั้นมีปกติติดยึดอยูในเรื่องกิน กาม เกียรติ ดังนั้นเมื่อตัดความตองการหรือความสามารถในเรื่องกาม
ออกไปเสียแลว ความติดยึดในเรื่องกินและเกียรติ ซึ่งก็คือเรื่องของอํานาจและวาสนาก็ยิ่งมีมากขึ้นผิดคน
ธรรมดา ดวยเหตุนี้ขันทีทั้งปวงจึงเปนคนที่มีความตองการในเรื่องอํานาจ วาสนามากเปนพิเศษผิดวิสัยมนุษย
ทั่วไป จนอาจกลาวไดวาเปนคนวิปริตจําพวกหนึ่งที่พรอมจะทําทุกสิ่งทุกอยางเพื่อใหไดมาซึ่งอํานาจวาสนา
มองในแงนี้ก็จะเห็นไดชัดวา การที่พระเจาแผนดินหรือฮองเต มีชีวิตอยูทามกลางฝูงคนวิปริตเหลานี้ จะมีความ
เปนปกติเหมือนมนุษยทั่วไปยอมไมได ยอมมีสิ่งวิปริตผิดปกติอาบเอิบพระองคอยูเปนเนืองนิจ เพื่อแสวงหา
ความดีในหนาที่ และความชอบในทางสวนตัว ขันทีจึงพรอมที่จะทําทุกอยางเพื่อฮองเต และยอมใหฮองเตทํา
ทุกอยางเพื่อความพึงพอใจสูงสุด
ดังนั้นขาวคราววิปริตในทางเพศ จึงคลาคล่ําอยูในราชสํานักของจีนตลอดระยะเวลาอันยาวนานของ
ประวัติศาสตร เพราะฮองเตมีเมียมาก ก็ยอมมีลูกมากตามไปดวย ลูกของฮองเตจะถูกเลี้ยงดูโดยขันที หรือพระ
สนมนางกํานัล ลูกคนใดถูกเลี้ยงดูโดยขันที ก็จะถูกกลอมเกลาอุปนิสัยใจคอใหวิปริตแปรปรวน ไปดวย ลูกคน
ใดถูกเลี้ยงดูโดยพระสนมนางกํานัล ก็จะถูกกลอมเกลาอุปนิสัยใจคอใหเอนเอียงไปในทางของอิสตรีมากกวา
ปกติ ซึ่งไมวาจะเปนไปในทางใด ลูกของฮองเตซึ่งคนหนึ่งยอมเปนรัชทายาทก็ตองมีพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนไป
ในทางวิปริตผิดปกติ จะมียกเวนบางก็แตเพียงบางคนเทานั้น ที่ไดรับการเลี้ยงดูอยางดีโดยวิธีเลี้ยงดูของ
มนุษยทั่วไป
ดังนั้น ฮองเตของจีนจํานวนมากจึงเปนคนจําพวกวิปริตผิดปกติ จะมียกเวนอยูบางที่เปนพระเจาแผนดินที่
เขมแข็งเกรียงไกร เหตุนี้อายุรัชกาลของแทบทุกราชวงศในเมืองจีนจึงมักไมคอยยืนยาว พระเจาเลนเตเองก็
ถูกเลี้ยงโดยขันที ดังนั้นเมื่อครองราชยแลว จึงทรงยกยองขันทีคนหนึ่งชื่อ "เตียวเหยียง" เปนบิดาบุญธรรม
และเพราะเหตุที่ถูกเลี้ยงดูโดยขันที ดังนั้น จึงมีความใกลชิดสนิทสนมไวเนื้อเชื่อใจขันทีเปนพิเศษ มีความ
เคารพยําเกรงขันทีเปนพิเศษ
ขันทีที่มีความใกลชิดสนิทสนมในลักษณะเชนนี้ มีอยูสิบคน ซึ่งสามกกเรียกวา "สิบขันที" คือเทาเจียด, เตียว
ตง, เตียวเหยียง, ฮองสี, ตวนกุย, เหาลํา, เกียนสิด, เหหุย, กกเสง และเชียกง ในจํานวนขันทีสิบคนนี้ไดยก
ยองใหเทาเจียดเปนหัวหนา ในขณะที่เตียวเหยียงเปนคนที่พระเจาเลนเตเคารพและยําเกรงเปนพิเศษ ในฐานะ
ที่ทรงยกยองเปนบิดาบุญธรรม
ความจริงชื่อของบุคคลในสามกกมีเปนจํานวนมาก ไมมีความจําเปนที่จะตองจดตองจํา แตการจะไมกลาวถึง
ชื่อขันทีทั้งสิบคนเห็นจะไมได เพราะเปนตัวละครสําคัญที่เปนตนตอทําใหแผนดินเกิดจลาจลวุนวาย แลวแตก
เปนสามกก ทั้งเปนตัวละครที่กอปญหาวุนวายถึงสองรัชกาล ขันทีทั้งสิบคนไดรวมคิด รวมมือกันครอบงํา
อํานาจบริหารของพระเจาเลนเต อยางสิ้นเชิง กิจการภายในราชสํานักทั้งปวงขึ้นอยู กับความคิดความเห็นของ
ขันทีทั้งสิบคน จึงเปนเหตุใหเหลาขุนนางทั้งปวง เกรงกลัวไมกลากระทําการ หรือเพ็ดทูลสิ่งใดใหเปนที่ขัดใจ
ของขันที
ขุนนางคนใดแสดงอาการใหเห็นวาไมเปนพวก ไมเคารพ หรือ ไมยําเกรง ก็จะถูกสิบขันทีแกลงเพ็ดทูลใหพระ
เจาเลนเตถอดออกจากตําแหนง หรือโยกยายไปทําราชการในถิ่นทุรกันดาร หรืออาจถูกเพ็ดทูลใหลงโทษ
ประหาร หนังสือราชการที่หัวเมืองตาง ๆ รายงานเขามายังราชสํานักจะถูกกลั่นกรองโดยขันทีเสียชั้นหนึ่งกอน
หนังสือออกจากราชสํานักรวมถึงพระบรมราชโองการตางๆ ก็เกิดขึ้นจากความคิดความเห็นของ ขันที จัดทํา
โดยเหลาขันที และจัดสงไปยังหัวเมืองตางๆ โดยคนของขันที เปนหนทางใหลูกนองของขันทีไดคาน้ํารอนน้ํา
ชาอีกทางหนึ่ง
อํานาจวาสนามีถึงเพียงนี้แลวก็ยังไมเปนที่พึงใจ ความหิวกระหายในอํานาจวาสนายิ่งทวีขึ้นอยางไมหยุดยั้ง
กลายเปนวาอํานาจวาสนาที่มีมากขึ้นโดยลําดับนั้นไมตางกับฟนที่สุมทับเขาไปในกองไฟก็ยิ่งทําใหกองไฟลุก
โชติชวงมากขึ้น ตองการฟนมากขึ้น ยิ่งเติมฟนเขาไปอีก กองไฟก็ยิ่งใหญขึ้น โชติชวงมากขึ้น อุปมาฉันใด
อุปไมยก็ฉันนั้น
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ความหิวกระหายในอํานาจของขันทีไดทําใหราษฎรเกิดความเดือดรอนทุกหยอมหญา เหลาขุนนางทั้งในเมือง
หลวงและในหัวเมืองตางตองเดือดรอน และตองตกอยูภายใตอํานาจของขันที การแตงตั้งเจาเมืองไปครอง
เมืองตาง ๆ ขันทีก็จะเรียกเอาสิน บนทุกเมืองไป คนใดไมยอมใหสินบนแกขันทีก็จะถูกกลั่นแกลง ใน ชั้นตน
อาจจะแกลงไมใหไดรับแตงตั้ง หากขัดขวางในชั้นนี้ไมได ในภายหลังก็จะกลั่นแกลงเพ็ดทูลเอาเปนโทษ ซึ่ง
อาจจะเปนโทษปลดออกจากราชการ หรือโทษถึงลงพระราชอาญา หากขอหาหนักก็ตองถูกประหาร เจาเมือง
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 7
คนใดยอมอยูในอํานาจ ขันทีก็จะจัดสงคนไปเรียกเก็บสวยทุกป และจํานวนสวยก็จะเพิ่มขึ้นทุกปดุจกัน เจา
เมืองบางคนในระยะแรกสามารถทนกับระบบสวยได แตนานไปทนแรงสวย ไมไหวก็ตองลาออก เพราะขืนทน
รับราชการตอไปก็ตองถูกปลด ถูกถอด หรือตองโทษ คาภาษีตางๆ ที่หัวเมืองจัดเก็บสงเขาเมืองหลวง
ตามปกติก็ถูกขันที ชักสวนแบงตั้งแตรอยละ 10 หนักเขาก็ชักสวนแบงถึงรอยละ 50 ทําใหรายไดของแผนดิน
ไมพอเพียงกับรายจาย เปนเหตุใหพระเจาเลนเตตองขึ้นภาษีเอากับราษฎรบอยครั้ง
จึงกลาวไดวาราษฎรในยุคสมัยของพระเจาเลนเตถูกขูดรีดภาษีหนักที่สุด ดานหนึ่งหนักเพราะการฉอราษฎรบัง
หลวงของเหลาขันทีและขุนนางที่เปนพวก ดานหนึ่งหนักเพราะรายจายเพิ่มมากขึ้นเพื่อบํารุงบําเรอความสุข
และเพื่อจัดสวนแบงใหแกขันทีและขุนนาง วากันวางบประมาณแผนดินในสมัยพระเจาเลนเตรั่วไหลไปกวารอย
ละ 30 เทาๆ กับตัวเลขการรั่วไหลของงบประมาณแผนดินของรัฐบาลไทยในบางยุค
เมื่อขุนนางขาราชการทั้งในเมืองหลวงและหัวเมืองตองจายเงินคาสวยสินบน และมีความรั่วไหลเกิดขึ้นใน
งบประมาณแผนดินมากมาย เชนนี้ ราษฎรก็ถูกรีดนาทาเรนหนักขึ้นทุกวัน ราษฎรกลายเปนคนยากจนและ
ยากไร ไมมีที่ทํากิน และไมมีกิน จนตองปลนชิงวิ่งราวกันทั่วทั้งแผนดิน
หนักเขาขาราชการทั้งในเมืองหลวง และในหัวเมืองตางประพฤติตนเปนโจร ปลนชิงวิ่งราวเสียเองอยางหนึ่ง
เลี้ยงโจรใหปลน ชิงวิ่งราวมาแบงกันอยางหนึ่ง คาของหนีภาษี คาของเถื่อนอยางหนึ่ง และเอาที่หลวง เอา
ประโยชนของหลวงไปทํามาหากิน ไปแสวงหาประโยชนอีกอยางหนึ่ง คดีความทั้งปวงก็ตัดสินไปตามน้ําหนัก
ของเงินสินบน ขาวถูกกลับเปนดํา ดําถูกกลับเปนขาว ความเดือดรอนจลาจลจึงเกิดขึ้นทั้งแผนดิน โดยที่ไมมี
ใครกลาพูด กลากราบทูล พระเจาเลนเตเห็นหนังสือลับของยีหลงแลว ก็ทอดพระทัย มิได ตรัสประการใด แต
ขันทีทราบความเขาก็ผูกอาฆาตยีหลง เพราะเห็นวาเปนการกราบทูลที่จะทําใหพวกตนเสียหาย และแสรง
เพ็ดทูลเสียใหมวา กรณี ทั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากฉลองพระองคเกา เพราะทรงมานาน ดังนั้น เพื่อความเปนสิริ
มงคลของประเทศและราษฎรจึงตองเปลี่ยนฉลองพระองคใหม พระเจาเลนเต ก็กระทําตามคําแนะนํานั้น
หลังเหตุการณนี้แลวสิบขันทีไดกราบทูลยุยงฮองเตใหปลดยีหลงออกจากราชการไปทําไรไถนา ณ ภูมิลําเนา
เดิม สิบขันทียิ่งมีอํานาจวาสนามากขึ้นเทาใด ก็ยิ่งกําเริบเสิบสานมากขึ้น ในที่สุดไดกราบทูลใหพระเจาเลนเต
แตงตั้งตัวเองเปน "เซียงสี" หรือเปน"องคมนตรี" ทําหนาที่ใหคําปรึกษาราชการแผน ดินหรือนัยหนึ่งก็คือ "คน
ใชฮองเต" แตบางแหงแปลโดยความหมายวาเปนตําแหนงหนาที่ผูสําเร็จราชการแผนดิน
การที่ขันทีสามารถเวียนวายดํารงอยูในอํานาจทามกลางความขัดแยงและผลประโยชนในราชสํานักไดอยาง
ยาวนาน แมถึงขนาดมีบทบาท ครอบงําอํานาจรัฐของฮองเตนั้น มิใชดวยเหตุบังเอิญหรือโชคชวย หากเกิด
จากขันทีมีสุดยอดวิชาประจําอาชีพของตนอยูถึงหาวิชา ซึ่งคนปกติทั่วไปไมมีวันที่จะร่ําเรียนสุดยอดวิชา
เหลานั้นไดอยางครบครัน
หาสุดยอดวิชาขันทีเปนไฉน? หาสุดยอดวิชาขันทีไดแก วิชาวาดวยการพินอบพิเทาและสรางความพอใจสูงสุด
อยางหนึ่ง วิชาวาดวยการสรางความแตกแยกเพื่อแสวงประโยชนหรือเอาตัวรอดอยางหนึ่ง วิชาวาดวยการฆา
คนซึ่งมีกระบวนทาสุดยอดคือการใชวาจาเปนอาวุธสังหารผูคนอยางหนึ่ง วิชาวาดวยการเรียกรับสินบนอยาง
หนึ่ง และวิชาวาดวยการติดสินบนซื้อน้ําใจคนอีกอยางหนึ่ง
รายละเอียดแหงสุดยอดวิชาทั้งหานี้ มิใชเรื่องในสามกกแตมีใหเห็นการใชวิชาขันทีปรากฏอยูในสามกกอยาง
ลึกซึ้ง จึงกลาวถึงเรื่องนี้ไวแตเพียงนี้
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
โจรโพกผาเหลือง (ตอนที่ 4)
สามกกทุกฉบับที่มีมาในโลกลวนเรียกกลุมโจรโพกผาเหลือง วาเปน "โจร" ทั้งสิ้น ซึ่งเปนการชวยกันเหยียบ
ย่ําซ้ําเติมและทําใหความจริงผันแปรไปจากที่พึงเปน ความจริงโจรโพกผาเหลืองเปนขบวนการกูชาติขบวน
หนึ่งในยุคที่บานเมืองเปนจลาจล ไมตางกับขบวนการกูชาติของชาวนาในกรณี กบฏเขาเหลียงซาน หรือกบฏ
นักมวย หรือขบวนการกูชาติของพระเจาตากสินแมแตนอย
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 8
แตเมื่อขบวนการกูชาตินี้พายแพ ก็ตองถูกขนานนามวาเปนกบฏ และเปนธรรมเนียมการเมืองจีนโบราณที่ตอง
เหยียบย่ําซ้ําเติมผูพายแพใหแบนติดดิน ดังนั้น ขบวนการกูชาติขบวนนี้จึงถูกเหยียดหยามวาเปนเพียงกลุมโจร
เทานั้น
เรื่องของโจรโพกผาเหลืองเริ่มตนขึ้นที่เมืองกิลกกุน ซึ่งเปนดินแดนทางทิศใตของเมืองหลวง ในยุคพระเจา
เลนเต โดยมีชายคนหนึ่งชื่อ "เตียวกก" เปนหมอยาแผนโบราณ ตั้งตนอยูใน ศีลธรรม มีจิตใจเอื้อเฟอเผื่อแผ
ชอบชวยเหลือราษฎร จึงเปนที่เคารพนับถือของชาวบานในถิ่นนั้นเปนอันดี อยูมาวันหนึ่งเตียวกกไปหาตัวยา
บนภูเขา"พบคนแกคนหนึ่งผิวหนานั้นเหมือนทารก จักษุนั้นเหลือง มือถือไมเทา คนนั้นพาเตียวกกเขาไปในถ้ํา
จึงใหหนังสือตํารา 3 ฉบับชื่อไทแผงเยาสุด แลววาตํารานี้ทานเอาไปชวยทํานุบํารุงคนทั้งปวงใหอยูเย็นเปนสุข
ถาตัวคิดรายมิซื่อตรงตอแผนดิน ภัยอันตรายจักถึงตัว เตียวกกกราบ ไหวแลวจึงถามวาทานนี้ชื่อใด คนแกนั้น
จึงบอกวาเราเปนเทพยดา บอกแลวก็เปนลมหายไป"
เตียวกกกลับมาบานก็ลงมือศึกษาเลาเรียนตําราทั้ง 3 เลม ปรากฏวาเปนตําราเรียกลม เรียกฝนเลมหนึ่ง, เปน
ตําราผูกพยนต หรือตําราปลุกเสกสิ่งของใหเปนคน หรือเปนสัตวเลมหนึ่ง และตํารารักษาโรคอีกเลมหนึ่ง เตียว
กกศึกษาตําราทั้งสามเลมแลวก็ไดใชวิชารักษาโรครักษาชาวบาน ซึ่งทั้งหมดเปนคนยากไร ไมมีเงินคา
รักษาพยาบาล ไมสามารถ ไปหาหมอหลวงหรือแพทยตามรานหมอตางๆ ได ชาวบานจึงพากันมาใหเตียวกก
รักษา ไขเจ็บโรคภัยตางๆ จนเปนที่นับถือศรัทธาของชาวบานทั้งเมืองกิลกกุน ตอมาหาลงกินเมืองกิลกกุน
ชาวเมืองเกิดความไขลมตายลงเปนอันมาก ชาวเมืองกิลกกุนจึงพากันไปหาเตียวกกใหชวยรักษา ความไขจาก
โรคหา เตียวกกไดเขียนยันตตามตําราของเทพยดาแจก ใหชาวเมืองบําบัดความไข ความไขนั้นก็หาย โรคหา
ก็หมดสิ้นไป
ชาวเมืองจึงพากันมาฝากตัวเปนศิษยเตียวกกมากขึ้น ประกอบกับชวงนั้นพวกขุนนาง ขาราชการรีดนาทาเรน
ราษฎรเพื่อเก็บสวยสงใหกับขันที และเพื่อความร่ํารวยของตนเอง จนบานเมืองอดอยากยากแคน ทั้ง
ขาราชการ และพวกมาเฟยตางๆไดประพฤติตนเปนโจรปลนชิงวิ่งราวชาวบาน แพรขยายไปทุกตําบล ดังนั้น
ราษฎรจึงยิ่งหันเขามาพึ่งพาเตียวกกมากขึ้น
บรรดาลูกศิษยของ เตียวกก ซึ่งไดรับการอบรมสั่งสอนให ชวยเหลือผูอื่น จึงไดจัดตั้งกันขึ้นเปนกลุมอาสา
ปองกันตนเอง เปนกองกําลังติดอาวุธของประชาชน ดานหนึ่งปองกันโจรผูรายที่มาเบียด เบียนปลนชิงวิ่งราว
อีก ดานหนึ่งเพื่อตอสูกับขุนนางและขาราชการที่มากดขี่ขมเหง ซึ่งสอดคลองกับความเรียกรองตองการของ
ราษฎร ดังนั้น ชาวเมืองจึงไดเขารวมขบวนการอาสาปองกันตนเองมากขึ้นทุกวัน จนขบวนการอาสาปองกัน
ตนเองเติบใหญ และขยายตัวไปยังเมืองตางๆ อีก 7 เมือง รวมเปน 8 เมือง คือเมืองกิลกกุน, เฉงจิ๋ว, อิวจิ๋ว,
ชิวจิ๋ว, เกงจิ๋ว, ยังจิ๋ว, กุนจิ๋ว และอิจิ๋ว ชาวเมืองทั้ง 8 เมืองนี้ นับถือศรัทธาเตียวกก เขียนเอาชื่อเตียวกกไวบูชา
ทุกบานเรือน
บรรดาเจาเมืองทั้ง 8 เมืองดังกลาว เห็นวาการเคลื่อนไหวของขบวนการอาสาปองกันตนเองนี้เปนประโยชนแก
ตัวอยูบาง ตรงที่คอยกีดขวางลูกนองขันทีที่มารีดสวย จึงทําเปนเอาหูไปนาเอาตาไปไร บางก็กลัวภัยจะมาถึง
ตัวจึงทําเฉยปลอยปละละเลยเหตุการณไปตามสถานการณ ทําใหการเคลื่อนไหว ของขบวนการอาสาปองกัน
ตนเองขยายตัวและเขมแข็งขึ้น เมื่อขบวนการอาสาปองกันตนเองเติบใหญเขมแข็งขึ้น เชนนี้ก็มีความจําเปนที่
จะตองจัดระบบการบริหารเพื่อควบคุมกองกําลังอาสาปองกันตนเอง ดังนั้น เตียวกกจึงแตงตั้งใหศิษยที่ไวใจ
เปนหัวหนาขบวนการสาขาเรียกวา "นายบาน" ถึง 30 ตําบล ตําบลใหญมีกําลังติดอาวุธประมาณหมื่นเศษ
ตําบลเล็กมีกําลังติดอาวุธ 6-7 พันคน จัดตั้งกําลังแบบกองทหาร มีธงสําหรับรบศึกทุกตําบล เมื่อมีผูคนมาเขา
รวมเปนจํานวนมาก และจัดตั้งขบวนเปน กองทัพฉะนี้แลว บรรดาลูกศิษยลูกหาของเตียวกกก็ยุยงสงเสริมให
เตียวกกกอบกูฟนฟูชาติบานเมือง ใหราษฎรไดรมเย็นเปนสุข
เตียวกกฟงแลวยังไมตัดสินใจประการใด แตปรากฏการณที่ไดพบเห็นอยูทุกเมื่อเชื่อวันก็คือ การกดขี่ขมเหง
ราษฎรของฝายขุนนางและขาราชการ และการเบียดเบียนปลนชิงวิ่งราวที่ขยายตัว ลุกลามไปอยางกวางขวาง
นั้น ทําใหความคิดเตียวกกโนมไปในทาง ที่เห็นวา ขอเสนอของลูกศิษยเปนขอเสนอที่เขาทา ที่เปนเชนนี้
เพราะเตียวกกเปนคนมักนอยและสันโดษ มีจิตใจที่ดีงาม ไมไดมีจิตใจมักใหญใฝสูงมาแตตน ที่ทําการมาเปน
เพียงเพื่อชวยเหลือราษฎรที่ไดรับความเดือดรอนทุกขยาก มิไดหวังเอาอํานาจวาสนาเปนเปาหมายแหงชีวิต
แตประการใด แตเปนวิสัยคนที่ทนความเยายวนตออํานาจไดโดยยาก ดังคําพังเพยที่วา "อันเสาศิลาแปดศอก
ตอกเปนหลัก เมื่อผลักทุกวันเขาเสาก็ไหว"
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01
Samkok01

Contenu connexe

En vedette

Apa itu psikologi perkembangan
Apa itu psikologi perkembanganApa itu psikologi perkembangan
Apa itu psikologi perkembanganJay Mi
 
Global marketing chapter 2 session 4 moghimi university of georgia
Global marketing chapter 2 session 4 moghimi university of georgiaGlobal marketing chapter 2 session 4 moghimi university of georgia
Global marketing chapter 2 session 4 moghimi university of georgiaBahman Moghimi
 
Compromiso de los padres d efamilia y estudiantes de la institución
Compromiso de los padres d efamilia y estudiantes de la instituciónCompromiso de los padres d efamilia y estudiantes de la institución
Compromiso de los padres d efamilia y estudiantes de la instituciónRubi Rafael Cabrera
 
India Aviation ICT Forum 2013 - Stephane Cheikh, Innovation Manager, SITA Lab
India Aviation ICT Forum 2013 - Stephane Cheikh, Innovation Manager, SITA LabIndia Aviation ICT Forum 2013 - Stephane Cheikh, Innovation Manager, SITA Lab
India Aviation ICT Forum 2013 - Stephane Cheikh, Innovation Manager, SITA LabSITA
 
25 Small Business and Entrepreneur Quotes on Business Growth, Marketing and M...
25 Small Business and Entrepreneur Quotes on Business Growth, Marketing and M...25 Small Business and Entrepreneur Quotes on Business Growth, Marketing and M...
25 Small Business and Entrepreneur Quotes on Business Growth, Marketing and M...Apex Virtual Solutions
 
Enews suanluang y25_issue12
Enews suanluang y25_issue12Enews suanluang y25_issue12
Enews suanluang y25_issue12Charmaar Ka'
 
Como acessar o Rumo à Universidade - Descomplica
Como acessar o Rumo à Universidade - DescomplicaComo acessar o Rumo à Universidade - Descomplica
Como acessar o Rumo à Universidade - DescomplicaDavi Garcia Bezerra
 
E communication to healthcare providers
E communication to healthcare providersE communication to healthcare providers
E communication to healthcare providerspharmakinnex
 
งานย่อยที่ 1
งานย่อยที่ 1งานย่อยที่ 1
งานย่อยที่ 1Yongyut Nintakan
 

En vedette (13)

Senic
SenicSenic
Senic
 
Apa itu psikologi perkembangan
Apa itu psikologi perkembanganApa itu psikologi perkembangan
Apa itu psikologi perkembangan
 
Global marketing chapter 2 session 4 moghimi university of georgia
Global marketing chapter 2 session 4 moghimi university of georgiaGlobal marketing chapter 2 session 4 moghimi university of georgia
Global marketing chapter 2 session 4 moghimi university of georgia
 
томск
томсктомск
томск
 
Presentation
PresentationPresentation
Presentation
 
Compromiso de los padres d efamilia y estudiantes de la institución
Compromiso de los padres d efamilia y estudiantes de la instituciónCompromiso de los padres d efamilia y estudiantes de la institución
Compromiso de los padres d efamilia y estudiantes de la institución
 
India Aviation ICT Forum 2013 - Stephane Cheikh, Innovation Manager, SITA Lab
India Aviation ICT Forum 2013 - Stephane Cheikh, Innovation Manager, SITA LabIndia Aviation ICT Forum 2013 - Stephane Cheikh, Innovation Manager, SITA Lab
India Aviation ICT Forum 2013 - Stephane Cheikh, Innovation Manager, SITA Lab
 
25 Small Business and Entrepreneur Quotes on Business Growth, Marketing and M...
25 Small Business and Entrepreneur Quotes on Business Growth, Marketing and M...25 Small Business and Entrepreneur Quotes on Business Growth, Marketing and M...
25 Small Business and Entrepreneur Quotes on Business Growth, Marketing and M...
 
Enews suanluang y25_issue12
Enews suanluang y25_issue12Enews suanluang y25_issue12
Enews suanluang y25_issue12
 
Como acessar o Rumo à Universidade - Descomplica
Como acessar o Rumo à Universidade - DescomplicaComo acessar o Rumo à Universidade - Descomplica
Como acessar o Rumo à Universidade - Descomplica
 
E communication to healthcare providers
E communication to healthcare providersE communication to healthcare providers
E communication to healthcare providers
 
งานย่อยที่ 1
งานย่อยที่ 1งานย่อยที่ 1
งานย่อยที่ 1
 
Efecto Sombra GIMP 2.8
Efecto Sombra GIMP 2.8Efecto Sombra GIMP 2.8
Efecto Sombra GIMP 2.8
 

Plus de Rose Banioki

Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุนSpm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุนRose Banioki
 
2013ar-Berkshire Hathaway
2013ar-Berkshire Hathaway2013ar-Berkshire Hathaway
2013ar-Berkshire HathawayRose Banioki
 
Techinque mutual-fund
Techinque mutual-fundTechinque mutual-fund
Techinque mutual-fundRose Banioki
 
หนังสือความทรงอภิญญา
หนังสือความทรงอภิญญาหนังสือความทรงอภิญญา
หนังสือความทรงอภิญญาRose Banioki
 
Nutritive values of foods
Nutritive values of foodsNutritive values of foods
Nutritive values of foodsRose Banioki
 
Ipad user guide ios7
Ipad user guide ios7Ipad user guide ios7
Ipad user guide ios7Rose Banioki
 
Iphone user guide th
Iphone user guide thIphone user guide th
Iphone user guide thRose Banioki
 
The differencebetweenbeachesinindia&greece
The differencebetweenbeachesinindia&greeceThe differencebetweenbeachesinindia&greece
The differencebetweenbeachesinindia&greeceRose Banioki
 
Toilets pierre daspe
Toilets pierre daspeToilets pierre daspe
Toilets pierre daspeRose Banioki
 
Pps hollywood dorado_bea
Pps hollywood dorado_beaPps hollywood dorado_bea
Pps hollywood dorado_beaRose Banioki
 
Photos carlosalbertobau
Photos carlosalbertobauPhotos carlosalbertobau
Photos carlosalbertobauRose Banioki
 

Plus de Rose Banioki (20)

Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุนSpm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
 
2013ar-Berkshire Hathaway
2013ar-Berkshire Hathaway2013ar-Berkshire Hathaway
2013ar-Berkshire Hathaway
 
Instant tax
Instant taxInstant tax
Instant tax
 
Techinque mutual-fund
Techinque mutual-fundTechinque mutual-fund
Techinque mutual-fund
 
หนังสือความทรงอภิญญา
หนังสือความทรงอภิญญาหนังสือความทรงอภิญญา
หนังสือความทรงอภิญญา
 
Nutritive values of foods
Nutritive values of foodsNutritive values of foods
Nutritive values of foods
 
Thaifood table
Thaifood tableThaifood table
Thaifood table
 
Ipad user guide ios7
Ipad user guide ios7Ipad user guide ios7
Ipad user guide ios7
 
Iphone user guide th
Iphone user guide thIphone user guide th
Iphone user guide th
 
P4
P4P4
P4
 
P3
P3P3
P3
 
P1
P1P1
P1
 
To myfriends
To myfriendsTo myfriends
To myfriends
 
The differencebetweenbeachesinindia&greece
The differencebetweenbeachesinindia&greeceThe differencebetweenbeachesinindia&greece
The differencebetweenbeachesinindia&greece
 
Toilets pierre daspe
Toilets pierre daspeToilets pierre daspe
Toilets pierre daspe
 
Tibet
TibetTibet
Tibet
 
Pps hollywood dorado_bea
Pps hollywood dorado_beaPps hollywood dorado_bea
Pps hollywood dorado_bea
 
Photosdutempspass
PhotosdutempspassPhotosdutempspass
Photosdutempspass
 
Photo mix7
Photo mix7Photo mix7
Photo mix7
 
Photos carlosalbertobau
Photos carlosalbertobauPhotos carlosalbertobau
Photos carlosalbertobau
 

Samkok01

  • 1. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 1 สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม ทําไมตองมีสามกกฉบับคนขายชาติ (ตอนที่ 1) หลังจากประเทศไทยเกิดวิกฤติการณทางเศรษฐกิจครั้งใหญในป 2540 ประเทศไทยไดยอมตนเขาผูกพันและ รับพันธะที่กําหนดโดยตางชาติหลายประการครอบคลุมทั้งดานนิติบัญญัติ ดานบริหาร และดานตุลาการ เปน ผลใหมีการแกไขบทกฎหมายและตรากฎหมายขึ้นใหมเปนจํานวนมาก ครอบคลุมถึงดานตาง ๆ ดังกลาว ขางตน จนมีการกลาวขานวากฎหมายหลายฉบับเปนกฎหมายขายชาติ แมกระทั่งมีการกลาวขานวาการยอมรับ พันธะผูกพันในลักษณะเชนนี้เปนการกระทําที่ขายชาติ ในดานการฟนฟูกอบกูเศรษฐกิจของประเทศใหฟนคืนดี ก็ปรากฏวาแทนที่ประเทศไทยจะสามารถดําเนินการ ไดโดยอิสระเปนตัวของตัวเอง กลับตองถูกบงการโดยทุนตางชาติ ใหกําหนดมาตรการมากหลาย ซึ่งสวนใหญ ถูกกลาวขานวาเปนไปเพื่อผลประโยชนของตางชาติ เปนไปเพื่อเกื้อกูล อํานวยประโยชนและความสะดวก ใหแกตางชาติในการยึดครองเศรษฐกิจของประเทศ เพียงชั่วระยะเวลา 3 ป ปรากฏวาประเทศไทยมีหนี้สินเพิ่มขึ้นจนตกอยูในสภาพที่มีหนี้สินลนพนตัว เปนปญหา ที่กระทบตอระบบงบประมาณแผนดินอยางรุนแรงที่สุดเปนประวัติการณ มีความเสียหายเกิดขึ้นในระบบธนาคาร และสถาบันการเงินมากที่สุดเปนประวัติการณ และธนาคารตลอดจนสถาบันการเงินไดถูกตางชาติยึดครอง ครอบงําเกือบหมดสิ้น นักธุรกิจไทยลมละลาย ตองปดกิจการ และไมสามารถแขงขันไดอีกตอไป เงิน หมุนเวียนหมดไปจากตลาดขยายตัวลุกลามไปจนถึงชนบท ประชาชน รัฐบาล และประเทศไทย มีรายไดลดลง ยากจนลง และเกิดความรูสึกวากําลังตกเปนทาสของชาติอื่นชัดเจนยิ่งขึ้นทุกที ในสภาพเชนนี้ปญหาการขายชาติ ปญหาการกอบกูฟนฟูชาติ ปญหาวีรชน และปญหาทรชนจึงเกิดขึ้น และ กลายเปนเรื่องที่ทุกฝาย ทุกพื้นที่ใหความสนใจ จึงเกิดแรงบันดาลใจใหเขียนเรื่องยาวสักเรื่องหนึ่ง ที่ สอดคลองกับสภาพการณที่เกิดขึ้น เพื่อเปนบรรณาการทานผูอานหนังสือพิมพผูจัดการดังนั้น จึงเห็นวาเรื่อง ยาวที่จะเขียนขึ้นควรจะตองเปนเรื่องสามกก ในมุมมองที่สอดคลองกับสภาพการณของประเทศไทย เหตุนี้จึง ไดใหชื่อเรื่องยาวที่จะเขียนนี้วา "สามกกฉบับคนขายชาติ" เหตุผลที่นําเอาเรื่องสามกกมาเขียนเปนเรื่องยาวอีกครั้งหนึ่งเนื่องเพราะเรื่องราวในสามกกนั้นเปนเรื่องราวใน ยุคสมัยที่บานเมืองเกิดจลาจลวุนวาย จึงแตกแยกเปนกก เปนเหลา มีการรบราฆาฟนกันรวมรอยป อาณา ประชาราษฎรไดรับความเดือดรอนทุกหยอมหญา บานเมืองก็เสียหายยอยยับ วีรชนไดกําเนิดขึ้นเปนจํานวน มาก ในขณะที่ทรชนก็กําเนิดขึ้นเปนจํานวนมากเชนเดียวกัน การตอสูกูชาติ และการขายชาติเปนของคูกัน และดําเนินไปตลอดในเรื่องราวของสามกก บนวิถีทางแหงการ ตอสูของวีรชนกับทรชน ระหวางการตอสูฟนฟูชาติ กับการขายชาติเปนไปอยางดุเดือด สะทอนถึงศาสตรและ ศิลปในแทบทุกสาขาที่มวลมนุษยพึงเรียนรู และถูกนํามาใชอยางแหลมคม สามกกฉบับคนขายชาติ ที่จะเขียน ขึ้นนี้ไมไดตั้งใจที่จะเสียดสี กระทบกระเทียบเปรียบเปรยเอากับผูหนึ่งผูใดในบานเมืองขณะนี้ แตถาหากวา ตอนใดมีเรื่องราวที่คลายคลึงหรือใกลเคียงกับสถานการณในชวงตางๆ แลว ผูเขียนก็หาไดมีอํานาจสิทธิขาดที่ จะไปกีดกั้นความนึกคิดของทานผูอานแตประการใดไม จะคิดอานประการใดก็สุดแทแตความนึกคิดของแตละ ทานเถิด อันเหตุการณที่ผานมาไมวาในยุคสามกกหรือในยุคใดลวนอาจหมุนเวียนเปลี่ยนเขามาใหมไดเสมอ เหตุนี้คํา พังเพยที่วา "กงลอแหงประวัติศาสตรยอมหมุนกลับทับรอยเดิม" จึงเปนคําพังเพยที่ถูกนํามากลาวขานอยูเสมอ ถาเปนเชนนั้นก็พึงพิจารณาแตเพียงวาเหตุการณเกิดขึ้นคลายคลึงกัน แตการที่จะปรับเปรียบมาเทียบเคียงให เสมอกันยอมไมมีวันที่จะเปนไปได เหตุนี้ในการดําเนินเรื่องจักไมพยายามที่จะดัดแปลงเพื่อใหเรื่องราวกลับกลายเปนเชนปจจุบัน และจักไมเอา ตัวบุคคลในปจจุบันไปปรับเปรียบเทียบเขากับตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่งในเรื่องสามกก เพราะหากทําเชนนั้นก็ไม ตางอะไรกับการตัดตีนใหเขากับเกือก เพราะนอกจากจะเขากันไมไดแลว มีแตจะเจ็บตัวเปลา All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด สามกกเปนวรรณคดีมีชื่อเสียงที่แปลจากภาษาจีน ตั้งแตยุคสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาจุฬาโลก มหาราช และเปนตนแบบของการแปลเรื่องจีนมาเปนวรรณคดีไทยอีกหลายเรื่องในกาลตอมา ไมเพียงแตจะ ถูกแปลเปนภาษาไทยเทานั้น สามกกยังจัดวาเปนหนังสือดีที่สุดเลมหนึ่งของโลก ไดถูกแปลเปนภาษาตาง ๆ
  • 2. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 2 มากมาย และมียอดพิมพมากที่สุดเลมหนึ่งของโลก วากันวาจะเปนรองก็แตคัมภีรไบเบิล และตําราพิชัย สงครามของซุนหวูเทานั้น การแปลของแตละภาษายอมเปนธรรมดาที่จะมีสํานวนและโวหารที่ตางกันไป โดยที่ตนฉบับของจีนนั้นมี ทวงทํานองหนักหนวงลึกซึ้ง ในขณะที่ฉบับแปลของบริวิท เทเลอรคอนขางจะตะกุกตะกัก แบบฝรั่ง สวนของ ญี่ปุนนั้นอาจจะเปนเพราะสํานวนภาษาคลายกับจีน ดังนั้นจึงมีลีลาทํานองลึกซึ้งดุจกัน สวนการแปลเปน ภาษาไทย อํานวยการแปลโดยบุคคลสําคัญที่มีความเชี่ยวชาญอยางสูงทางภาษาในยุคนั้นคือเจาพระยาพระ คลัง (หน) ดังนั้นสํานวนแปลภาษาไทยจึงกระชับสั้นไดใจความ เปนภาษาความเรียงที่งดงามดวยอรรถะและ พยัญชนะ มีอุปมาอุปไมย ที่สอดคลองกับความรูสึกนึกคิดของคนไทย จนกระทรวงศึกษาธิการ สมัยหนึ่งได นําเอาสามกกตอนโจโฉแตกทัพเรือไปเปน แบบเรียนภาษาไทยแตทวาการแปลภาษาไทยนั้น และในยุคสมัย ที่การเมืองไทยยังไมสงบเรียบรอยดีนัก จึงมีหลายสิ่งหลายอยางที่ขาดหายไป ทั้ง ๆ ที่เปนเรื่องสําคัญ ทั้งนี้ อาจเปนเพราะหากนํามากลาวไวแลวก็อาจกระทบตอการเมืองในยุคนั้น เหตุนี้ในการดําเนินเรื่อง "สามกกฉบับคนขายชาติ" จักไดถือเอาฉบับแปลของเจาพระยาพระคลัง (หน) เปน หลัก แตสวนที่ยังขาดตกอยูก็จะไดนําเอาฉบับแปลอื่น ๆ มาประกอบเพื่อใหเกิดความครบถวนอยางหนึ่ง เพื่อใหเกิดประกายแหงความคิดและเปนที่ตั้งแหงความเขาใจอันจะเปนประโยชนตอความรับรูและการนําไปใช อีกอยางหนึ่ง นอกจากฉบับแปลแลวยังมีสามกกฉบับพิเศษอีกหลายฉบับยาขอบบรมครูแหงวรรณกรรมไทยก็ไดเขียนสาม กกขึ้นฉบับหนึ่งเรียกวาฉบับวณิพก หรือฉบับขอทาน โดยยกเอาตัวบุคคลแตละคนขึ้นมาพรรณนาใน รายละเอียดดวยภาษาที่งดงามและคมกลา ในขณะที่บรมครูอีกทานหนึ่งซึ่งนับถือกันวาเปนปราชญแหงชาติไทย คือหมอมราชวงศคึกฤทธิ์ ปราโมช ก็ได เขียนสามกกขึ้นอีกฉบับหนึ่งชื่อวาสามกกฉบับนายทุน ซึ่งเปนการแสดงทัศนะความชอบธรรมและความไมชอบ ธรรม ความดีและความชั่วที่ตรงกันขามกับทัศนะของยาขอบ คือในขณะที่ยาขอบยกยองเชิดชูเลาปเปนผูทรง คุณธรรม และกลาวหาประณามโจโฉเปนกบฏทรยศตอแผนดิน หมอมราชวงศคึกฤทธิ์ ปราโมช ก็ไดเชิดชูโจ โฉเปนอัครมหาเสนาบดี ที่ภักดีตอแผนดิน ในขณะที่เลาปเปนนักหลอกลวง หลอกเอาขงเบง มาใชแลวสมคบ กันใชเลหลิ้นลมลวงจนบานเมืองปนปวนไปทั่ว สองทัศนะนี้ขัดแยงกันสิ้นเชิง แตก็เกิดอรรถรสและแงคิดที่เปนประโยชน แกผูอานไมตางกัน หลังจากนั้นก็ยัง มีผูแตงสามกกออกมาอีกหลายฉบับ เชนฉบับแปลของคุณวรรณไว พัทธโนทัย สามกกฉบับนักบริหาร และที่ กําลังออกอากาศทางวิทยุอยูในขณะนี้ก็ยังมีสามกกฉบับโหราศาสตร นอกจากนี้แลวก็ยังมีฉบับเล็กฉบับนอย อีกมากมาย ไมเพียงแตจะมีผูแตงลักษณะเชนนี้ในประเทศไทยเทานั้น ในประเทศจีนเองหรือในประเทศอื่นๆ ก็ ไดนําเอาสามกกไปแบงซอยยอยและแตงขึ้นในแงมุมตางๆ มากมาย การทั้งนี้เนื่องจากเรื่องราวที่ดําเนินไปในสามกกนั้น ไดครอบ คลุมการตางๆ ไวแทบทุกๆ ดาน ไมวาในเรื่อง คุณธรรม น้ํามิตร พิชัยสงคราม การปกครอง การบริหาร การใชคน การทูต การเมือง การทหาร แมกระทั่ง โหราศาสตร นิมิต และลางตางๆ ตลอดจนธรรมเนียมการปกครองแผนดิน การที่สามกกมีเนื้อหาครอบคลุม เรื่องราวดานตาง ๆ มากมาย เชนนี้ จึงมีผูดัดแปลงสามกกออกไปเขียนในแงมุมตาง ๆ และยิ่งเขียนในแงมุม ตาง ๆ มากขึ้นเทาใดก็ยิ่งแสดงใหเห็นวาสามกกนั้น ไมวาในแงมุมใดมีความลึกซึ้ง และเปนประโยชนตอ ผูเกี่ยวของไดทั้งสิ้น มีผูกลาววาใครอานสามกกครบสามครั้งจะเปนคนที่คบไมได คํากลาวนี้ไดสะทอนใหเห็น อยูในตัวเองวาสามกกเปนเรื่องราวของการใชสติปญญาพลิกแพลงกอปรดวยอุบายเลหกลครบครัน แตขอที่วาอานสามกกครบสามครั้งแลวจะเปนคนที่คบไมไดนั้น ออกจะเปนการมองปญหาดานเดียว เพราะการ คบไดหรือคบไมได ไมไดขึ้นอยูกับการอานสามกกหรือไม หรือวาจะอานสักกี่ครั้ง หากขึ้นอยูกับคนผูนั้นเอง คนจํานวนหนึ่งแมไมเคยอานสามกกก็ยังปรากฏวาเปนคนที่คบไมไดก็มีใหเห็นอยูถมไป บางคนอานสามกกนับ สิบครั้งก็ยังคงเปนคนดีมีศีลธรรม ก็มีใหเห็นอยูถมไปเหมือนกัน คนเราจะคบกันไดหรือคบกันไมไดขึ้นอยูกับอุปนิสัยใจคอของคนผูนั้นเองวาเปนคนดี เปนมิตรแท หรือเปน สหายน้ํามิตรที่ตายแทนกันไดหรือไม หากเปนคนเลว คนเห็นแกได หรือคนทรยศตอมิตร แมไมไดอานสามกก เลย คนเชนนี้ก็หาควรคบดวยไม All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 3. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 3 ในมงคล 38 บทแรกสุด พระผูมีพระภาคเจาไดตรัสสอนวาการไมคบคนพาลเปนมงคลสูงสุด ซึ่งสามกกมี ตัวอยางและเรื่องราวมากมายที่แสดงใหเห็นวาคนพาลเปนอยางไร ที่สําคัญไดแสดงใหเห็นถึงลักษณะและการ กระทําของคนขายชาติวาทํากันอยางไร เกิดผลอยางไร ทั้งผลที่เกิดขึ้นแกตนเอง แกครอบครัว แกสังคมและ บานเมือง เรืองวิทยาคมพรอมแลวที่จะบรรณาการทานผูอานหนังสือพิมพผูจัดการดวย "สามกกฉบับคนขาย ชาติ" ซึ่งแมวาจะตระหนักดีวามีภูมิความรูยังไมถึงขนาดนัก แตดวยใจภักดีที่มุงตอบแทนคุณทานผูอานก็จะใช ความพยายามอยางเต็มความสามารถ คงมีปญหาขอวิตกอยูประการเดียวที่เรื่องสามกกเปน เรื่องยาว ยอมยาก ที่จะทําใหเกิดความเราใจ ตรึงใจไปไดตลอด ทั้งตองใชเวลานานนับปกวาจะจบ จึงวิตกวาทานผูอานจะเบื่อ หนายเสียกอน จึงไดแตหวังวาดวยใจภักดีที่จะสนองคุณทานผูอานอยางหนึ่งดวยวิริยะอุตสาหะแหงตนอีก อยางหนึ่ง จักเปนเครื่องคุมกันและกอใหเกิดความเมตตาจากทานผูอานติดตามและสนับสนุนงานชิ้นนี้ไป จนกวาจะสําเร็จดังประสงค สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม เคาลางกลียุค (ตอนที่ 2) ยุคสมัยของสามกกเกิดขึ้นตั้งแตปพุทธศักราช 722 เปนตนมา เปนเวลารวมรอยป เบื้องหนาแตจะเกิดยุคสาม กก แผนดินจีนไดเกิดกลียุครบราฆาฟนกันจนแตกออกเปน 7 หัวเมือง ทั้ง 7 หัวเมืองนี้บางครั้งก็ผูกมิตรกัน บางครั้งก็ทําสงครามกัน สงครามและสันติภาพเกิดขึ้นสลับกันไป ประวัติศาสตรจีนไดเรียกขานยุคนี้วาเปนยุค "เลียดกก" รายละเอียดมีปรากฏในวรรณคดีไทยเรื่องเลียดกกซึ่งแปลมาจากพงศาวดารเลียดกกของจีนนั้นแลว จนถึงสมัยหนึ่งแควนจิ๋นมีเจาผูปกครองชื่อวา "จิ๋นออง" ไดรวบรวมหัวเมืองทั้ง 7 เขาเปนแผนดินเดียวกัน สถาปนาราชวงศจิ๋นขึ้นปกครองแผนดินจีนแตนั้นมา ชื่อประเทศที่ถูกรวมเขาเปนหนึ่ง จึงถูกเรียกตามชื่อของแควนจิ๋นวาเปน"ประเทศจีน" ตั้งแตบัดนั้นเปนตนมา จิ๋ นอองเปนผูใฝอํานาจ เห็นวาคําวา "ออง" ยังเปนคําต่ําเสมอเจาเมืองธรรมดา ไมสมกับความชอบของพระองค ที่สามารถรวบ รวมแควนทั้งปวงเขาเปนแผนดินเดียวกันได จึงใหขุนนางทั้งปวงคิดสรรหาสมญานามใหสมกับ ความชอบของพระองค เปนธรรมเนียมของขุนนางทุกยุค ทุกสมัยที่มักประจบผูมีอํานาจบรรดาขุนนางในยุคนั้นจึงไดคิดคนสมญานาม สําหรับจิ๋น อองวา "ฮองเต" ซึ่งหมายถึงความเปนใหญใน 5 ทวีป หรือความยิ่งใหญเหนือแผนดิน ภูเขา แมน้ํา ความดี และความชั่ว ซึ่งสมญานามนี้เปนที่ตองพระทัยยิ่งนัก ดังนั้น จิ๋นอองจึงไดสถาปนาพระนามาภิไธย ของ พระองควา "จิ๋นซีฮองเต" ความใฝในอํานาจ และความคิดที่จะเปนใหญในจักรวาลเปนแรงวิริยานุภาพภายใน ตัวของจิ๋นซีฮองเต ประกอบกับเปนคนรูจักใชคน ดังนั้น คนดีมีฝมือในแผนดินจํานวนมากจึงอาสาเขามารับใช ชาติ แผนดินจีนยุคนั้นจึงยิ่งใหญเกรียงไกร แตกระนั้นความยิ่งใหญที่มีอยูก็ไมสามารถยับยั้งความแกเอาไวได เมื่ออายุลวงวัยมากเขา จิ๋นซีฮองเตก็เกิด ความคิดกลัวตาย แตไมอยากตาย ดังนั้น จึงไดพยายามแสวงหายาอายุวัฒนะ เมื่อความอยากเกิดขึ้น ความโง ก็ไดเขาครอบงํา พวกแพทยหลวงและแพทยบานตลอดจนนักพรต ตางไดอาสาทํายาอายุวัฒนะ แตในที่สุดก็ ไมประสบผลสําเร็จ ความแกยังคงเขาครอบงําจักรพรรดิผูยิ่งใหญอยางไมหยุดยั้ง ทําใหพระองครูสึกวาวันเวลา แหงความตายไดเยื้องกรายเขามาเยือน พระองคใกลเขามาทุกที ในที่สุดทรงตั้งรางวัลเปนจํานวนมหาศาล ใหแกใครก็ตามที่สามารถแสวงหายาอายุวัฒนะมาถวายได รางวัลจํานวนมหาศาลยอมจูงใจคน ยอมสามารถทําใหคนแกรง กลาไมกลัวผี ไมกลัวฟา ไมกลัวดิน ไมกลัว บาป และไมกลัวตาย ดังนั้น จึงมีพวกหมอกลุมหนึ่งเห็นวา ขืนอยูไปก็อาจเสี่ยงภัยตอการถูกประหาร จึงอาสา เดินทางทางเรือไปทางดานตะวันออก เพื่อแสวงหายาอายุวัฒนะ หลังจากเดินทางไปแลวก็ไมกลับมาอีกเลย กลาวกันวาคณะเดินทางแสวงหายาอายุวัฒนะกลุมนี้คือกลุมบรรพบุรุษกลุมแรกของชนชาติญี่ปุน เหตุที่ไม ยอมรับวาความตายจะมาถึง จิ๋นซีฮองเตจึงไมได เตรียมการใด ๆ เพื่อรับมือกับเหตุการณหลังการตายของ พระองค ดังนั้นเมื่อความตายมาถึงกลียุคจึงเกิดขึ้นในบานเมือง หลี่ซือ ขุนนางผูมีความชอบตอแผนดินและ ดํารงตําแหนงอัครมหาเสนาบดีถูกขันทีใชอํานาจของยุวกษัตริยประหารอยางโหด ราย นอกจากนั้นขุนนางผู ภักดีตอแผนดินก็ถูกบีบคั้นและสังหารอยางโหดรายทารุณ ในที่สุดยุวกษัตริยผูเปนรัชทายาทของจิ๋นซีฮองเตก็ ถูกขันทีสังหารแผนดินอันยิ่งใหญก็ไมสามารถรักษาไวได แมเลือดเนื้อเชื้อไขก็ตองถูกสังหารอยางโหดราย นี่ เปนเพียงตัวอยางหนึ่งของความประมาทที่อยาวาแตปุถุชนคนธรรมดาสามัญเลย ตอใหเปนฮองเต มีอํานาจ วาสนาทรัพยสิ่งศฤงคารสักเพียงไหน หากตกอยูในความประมาทแลว ทุกสิ่งก็จะสูญสิ้นไป All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 4. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 4 หลังจากสังหารยุวกษัตริยแลว ขันทีก็ตั้งตนเปนใหญ ใชอํานาจ หยาบชาตออาณาประชาราษฎร จนบานเมือง เกิดจลาจลขึ้น สมัยนั้นขุนศึกตางๆ ไดยกกองทัพเขาเมืองหลวง ดานหนึ่งอางวาเพื่อฟนฟูพระราชวงศ ชูธง แหงความจงรักภักดีขึ้นเปนที่รวมใจของขุน นางและอาณาประชาราษฎร ในขณะที่อีกดานหนึ่งมีวาระซอนเรน อยูในใจที่จะยึดอํานาจแผนดินเสียเอง การรบราฆาฟนเกิดขึ้นอยางกวางขวาง การจลาจลขยายตัวลุกลามไปทั้งแผนดิน กลายเปนสงครามกลางเมือง ขึ้นมาอีก ครั้งหนึ่งสมัยนั้นมีผูตั้งตนเปนผูกูชาติหลายกลุม หลายเหลา แตหลังจากสงครามผานไปนานวันเขา บางกลุมก็สูญสลายไป บางกลุมก็ไปรวมกับอีกกลุมหนึ่ง ในที่สุดเหลืออยูเพียงสองกลุม กลุมแรกนํา โดยฌอปาออง กลุมที่สองนําโดยเลาปง หรือที่เรียกวาฮั่นออง ทั้งสองกลุมนี้ทําสงครามแยงชิงเมืองหลวงกัน เปนเวลายาวนาน เปดสงครามตอกันถึง 7 ครั้ง และทั้ง 7 ครั้งนี้ฮั่นอองหรือ เลาปงเปนฝายพายแพ แตเนื่องดวยเลาปงเปนคนมีความเพียรพยายาม มีจิตใจตอสูและทรหดอดทน ทั้งพยายามแสวงหาคนดีมีฝมือ มารวมงาน ในที่สุด เลาปงก็ไดขุนนางสองคนมาทําการดวย นั่นคือ "ฮั่นสิน" ซึ่งเปนผูเชี่ยวชาญจัดจานทาง การทหาร และ "เตียวเหลียง" ซึ่งเปนผูเชี่ยวชาญ จัดจานทางพิชัยสงครามและการปกครอง ในสงครามครั้งสุดทาย ฮั่นอองเปนฝายไดรับชัยชนะ โดยฌอปาอองแตกทัพไปติดอยูริมน้ํา และฆาตัวตายใน ที่สุด กอนพายแพฌอปาอองไดเผาเมืองหลวงที่ใหญโตอัครฐานจนหมดสิ้น กลาวกันวาเพลิงไหม พระบรมมหาราชวัง ติดตอกันเปนเวลาถึง 7 วัน 7 คืน ฮั่นอองหรือเลาปงไดรับชัยชนะแลว จึงไดสถาปนา ราชวงศฮั่นขึ้น เหลาขุนนางไดถวายพระสมัญญาแกพระองคทานวา "พระเจาฮั่นโกโจ" จัดเปนปฐมกษัตริย แหงราชวงศฮั่น สงครามและสันติภาพเกิดขึ้นสลับกันไปเชนนี้ เจาพระยา พระคลัง (หน) จึงกลาวไวในสามกกดวยโวหารวา "เดิมแผนดินเมืองจีน ทั้งปวงนั้นเปนสุขมาชานานแลวก็เปนศึก ครั้นศึกสงบแลวก็เปนสุข" พระเจาฮั่นโกโจและพระราชวงศไดครองราชยสมบัติตอ ๆ มา ถึง 12 องค ขุนนางชื่อ "อองมัง" จึงชิงราช สมบัติตั้งตนขึ้นเปนเจาครองแผนดินอยูถึง 18 ป ก็มีเชื้อพระวงศของพระเจาฮั่นโกโจชื่อ "ฮั่นกองบู" ชิงราช สมบัติกลับคืนได เสวยราชยสืบเชื้อพระวงศตอมาอีก 12 องค จึงเปนอันสิ้นสุดราชวงศฮั่น ฮองเตองคที่สามกอนสิ้นราชวงศฮั่นทรงพระนามวา "ฮั่นเต" คงจะเปนหมัน จึงไมมีพระราชบุตรสืบสันตติวงศ แตแทนที่จะยกเอาเชื้อพระวงศผูมีสติปญญาคนหนึ่งคนใดขึ้นเปนมหาอุปราช เพื่อเตรียมสืบราชวงศตอไป กลับไป ขอลูกชาวบานมาเลี้ยง ตั้งเปนพระราชบุตร แลวโปรดใหขันทีเลี้ยงดูมาแตนอย ตอมาทรงสถาปนาเปน ที่รัชทายาท ดังนั้นเลนเต จึงไมใชเชื้อพระราชวงศฮั่น เปนลูกกาฝาก หาก จะกลาวถึงที่สุดแลวก็ยอมกลาวได วา ราชวงศฮั่นไดหมดสิ้นไปตั้งแตยุคสมัยของพระเจาฮั่นเตแลว ราชบัลลังกหลังจากนั้นตกไดแกคนแซอื่น การกระทําผิดธรรมเนียมประเพณีในการปกครองแผนดินของ ฮั่นเต คือเหตุสําคัญที่ทําใหราชวงศฮั่นดับสูญ และราชบัลลังกตกเปนสิทธิแกคนอื่น นี่คือทัณฑจากสวรรคของการที่ทําผิดธรรมเนียม ประเพณี ถาจะกลาว โดยสํานวนไทยก็กลาวไดวาเปนความผิดของ "คนที่เอาลูกเขามาเลี้ยง เอาเมี่ยงเขามาอม" เลนเตลูกชาวบาน เมื่อไดดิบไดดีเปนรัชทายาทก็ถือตัววาเปนเชื้อพระวงศฮั่นไปดวย ครั้นไดเสวยราชยทรง พระนามวา "พระเจาเลนเต"แตสันดานชาติเชื้อที่มิใชเผาวงศกษัตริย และอัธยาศัยที่ถูกสรางสม มาจากการ เลี้ยงดูของขันทียังคงติดตัวมาจึงกําเริบขึ้น สามกกไดกลาวความประพฤติของพระเจาเลนเตวา "มิไดตั้งอยูใน โบราณราชประเพณี แลมิไดคบหาคนสัตยธรรม เชื่อถือแตคนอันเปนอาสัตย ประพฤติแตตามอําเภอใจแหง พระองค เสียราชประเพณีไป" เมื่อ เลนเต เสวยราชยแลว ไดอาศัยขุนนางผูใหญสองคนคอย ค้ําจุนราชบัลลังก คนหนึ่งชื่อเตาบูเปนแมทัพ ใหญ อีกคนหนึ่งชื่อ ตันผวน เปนราชครู สองขุนนางเฒารับราชการในราชวงศฮั่นมาถึงสองแผนดิน เห็นความ วิปริตผันแปรในบานเมืองที่ทําใหขุนนางขาราชการแลราษฎรตองเดือดรอนหนักวา เกิดจากขันทีเปนเหตุ จึง วางแผนรวมกันเพื่อจะสังหารกลุมขันทีชั่วเสีย แตแผนการรั่วไหล เสียกอน ดังนั้น ทั้งแมทัพใหญเตาบูและ ราชครูตันผวนพรอมดวยครอบครัวและบริวารจึงกลับเปนฝายถูกกลุมขันทีชั่ว สังหารอยางโหดรายและทารุณ แตนั้นมากลุมขันทียิ่งกําเริบเสิบสานมากขึ้น เหลาขุนนางขาราชการมีความเกรงกลัวอิทธิพลของกลุมขันทีชั่ว เปนอันมาก All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ครั้นพระเจาเลนเตเสวยราชยไดสิบสองป ตรงกับพุทธศักราช 722 เดือนสี่ขึ้นสิบหาค่ํา แตสามกกฉบับสมบูรณ ระบุวาเปนป พุทธศักราช 710 พระเจาเลนเตประทับ ณ พระที่นั่งอุนตกเตี้ยน เวลาเที่ยงเกิดอาเพศใหญขึ้น ใน
  • 5. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 5 บานเมือง เปนสัญญาณจากสวรรค ที่บงบอกวา แผนดินเกิดกลียุค ณ เวลานั้นเพลาเที่ยงเกิดลมพายุหนัก มีงูสี เขียวตัวใหญตกลง มาพันอยูที่เทาพระเกาอี้ พระเจาเลนเตตกพระทัย กระทั่งสิ้นพระสติ พักหนึ่งงูใหญ ก็ หายไปแลวเกิดฟารองฝนตกหาใหญ ลูกเห็บขนาดใหญตกบานเรือนราษฎรพังทลาย พระตําหนักถูกพายุ ลูกเห็บพัดพังหลายตําหนัก จนถึงเที่ยงคืนฝนจึงหยุด หลังจากนั้นอีก 4 ป ณ เดือนยี่ เมืองลกเอี๋ยง ซึ่งเปน เมืองหลวงเกิดแผนดินไหว น้ําทะเลเกิดคลื่นใหญทวมบานเมือง และบานเรือนราษฎรถูกน้ําพัดพา หายไปเปน จํานวนมาก ไกตัวเมียขันไดกลายเปนไกตัวผู ถัดมาในเดือน 6 ขึ้นค่ําหนึ่งเกิดควันเพลิงพุงขึ้นไปสูง 20 วา แลวพุงเขาไปในพระที่นั่งอุนตกเตี้ยน รุงเดือน 7 เกิดรัศมีรุงตกในพระบรมมหาราชวัง ภูเขารันซัวแตกทลายลงนิมิตเหลานี้ ถาวาตามหลักนิมิตลางของไทย ก็ กลาวไดวา เปน ทั้งอุบาทวพระอินทรและอุบาทวพระยมเกิดขึ้นตอเนื่องกันไป เปนลางรายของแผนดินวาจะ เกิดกลียุค นิมิตและลางรายนี้เคยปรากฏใหเห็น กอนสิ้นแผนดินกรุงศรีอยุธยาหลายประการ เชนมีฟาผาลงตรง ระเบียงพระบรมมหาราชวัง และไฟไหมลุกลามไปหลายแหง, ฝูงอีกาจับกลุมกันจิกตีจนบาดเจ็บลมตาย, หลวง พอมงคลบพิตรมีน้ําพระเนตรไหล, อีกาใหญบินเอาอกเขาเสียบกับตรีศูลพระบรมมหาราชวัง, น้ําในแมน้ําเปนสี แดงดังเลือด, เสียงใบไมเหมือนเสียงคนร่ําไหระงมเมือง, ไกตัวเมียขันไดกลายเปนตัวผู ดาวจระเขดวงที่เปน ตําแหนงของพระมหากษัตริยสีแดงเศราหมอง และริบหรี่คลายกับจะดับสูญ นิมิตและลางลักษณะนี้ถือวา เปนนิมิตและลางรายที่จะเกิดกลียุคขึ้นในบานเมืองนับเปนอาเพศที่มีผลกระทบ ตอบานเมือง กระทบตอผูมีอํานาจปกครองบานเมืองและราษฎรเปนสวนรวม อาเพศอันเกิดจากนิมิตและลาง แมเปนสิ่งที่ไรศาสตรใดไป พิสูจนวาเกิดขึ้นไดอยางไร แตความเชื่อของคนหลายชาติ หลายภาษาสืบทอดมา นับพันป ยังคงเหนียวแนนแมกระทั่งในบานเมืองของเราในทุกวันนี้อา! เคาลางแหงกลียุคไดปกคลุมเหนือ แผนดินจีนอีกครั้งหนึ่งแลว สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม ยุคขันทีกินเมือง (ตอนที่ 3) นิมิตและลางจากสวรรคที่เกิดขึ้นอยางตอเนื่อง ไดกอใหเกิดความประหวั่นพรั่นพรึงในหมูอาณาประชาราษฎร พระเจาเลนเตเองก็ทรงสังเกตเห็นปรากฏการณที่ผิดปกติ จึงทรงตรัสถามขึ้นในที่ประชุมเหลาขุนนางวา "นิมิต วิปริตดั่งนี้จะดีรายประการใด" ปรากฏวาไมมีใครยอมตอบวา "นิมิตวิปริต" นั้น วาจะดีรายและหมายความวา ประการใด เหลาขุนนางตางนิ่งเงียบเปนเปาสาก และอาการนิ่งเงียบเปนเปาสากของเหลาขุนนางนี้ควรจะตอง ถือวาเปน "นิมิตวิปริต" ที่เกิดขึ้นในราชสํานัก เชนเดียวกับ "นิมิตวิปริต" ที่เกิดขึ้นแตธรรมชาติ เพราะเหลาขุน นางทั้งปวงนั้นยอมมีวิสัยที่ชอบเพ็ดทูล และมักจะแขงแยงกันเพ็ดทูลเพื่อหาความดีความชอบ และเพื่อแสดง ภูมิรูแหงตนใหเปนที่ประจักษ หลังพระเจาเลนเตเสด็จขึ้นแลว ก็มีขุนนางชื่อ "ยีหลง" ทําหนังสือลับกราบทูลพระเจาเลนเตวา "เหตุทั้งปวงนี้ เพราะขันทีประพฤติลวงพระราชอาญา จึงเกิดนิมิตใหพระองคปรากฏ" การที่ยีหลงตองทําเปนหนังสือลับ ประกอบกับอาการเงียบเปนเปาสากของเหลาขุนนางนั้น เปนอาการที่บงบอกวาคนรอบขางของพระเจาเลนเต ซึ่งก็คือขันทีประพฤติลวงพระราชอาญา "คิดกันกระทําการหยาบชาตางๆ" และควบคุมราชสํานักไวไดโดย สิ้นเชิง และเปนที่รูกันโดยทั่วไป ในเหลาขุนนางอันขันทีนั้น คือคนใชของพระเจาแผนดิน หากยามใดที่พระเจาแผนดินเขมแข็ง ขันทีก็มีฐานะ เปนคนรับใช แตยามใดที่พระเจาแผนดินออนแอเหลวไหล ขันทีก็จะมีฐานะเปนคนใชพระเจาแผนดิน คือใชให พระเจาแผนดินทําอะไรไดตามใจชอบ ขันทีนั้นไมใชกะเทยเหมือนกับที่เห็นในภาพยนตร แตเปนชาย ซึ่งถูก ตัดองคชาติไมใหสืบเผาพันธุ และสิ้นความรูสึกทางเพศอยางสิ้นเชิง เหตุทั้งนี้เนื่องจากขันทีสามารถ เขานอกออกในไดทั้งฝายหนาและฝายใน โดยที่ฝายในนั้นเต็มไปดวยพระสนม นางกํานัล เหตุนี้เพื่อปองกัน ไมใหขันทียุงเกี่ยวในทางเพศกับพระสนม นางกํานัล จึง มีกฎใหตองตัดองคชาติของขันทีเสียกอนจึงจะรับเขา บรรจุในตําแหนงขันทีได เหตุที่มีผูยอมถูกตัดองคชาติเพื่อรับราชการเปนขันทีก็เพราะขันทีนั้นอยูใกลชิดพระเจาแผนดิน ซึ่งเปนศูนย แหงอํานาจรัฐ เปนบอเกิดแหงอํานาจวาสนา ทรัพยสมบัติและหนาตา ดังนั้น จึงมีพอแมของคนจํานวนมากเอา ลูกชายไปขายเปนขันทีเพื่อหวังลาภยศในเบื้องหนา ชายจํานวนมากก็ยอมตัวถูกตัดองคชาติเปนขันที เพื่อหวัง อํานาจวาสนาอยางหนึ่ง และหวังรายไดไปสงเสียใหกับครอบ ครัวอีกอยางหนึ่ง All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 6. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 6 แตคนเรานั้นมีปกติติดยึดอยูในเรื่องกิน กาม เกียรติ ดังนั้นเมื่อตัดความตองการหรือความสามารถในเรื่องกาม ออกไปเสียแลว ความติดยึดในเรื่องกินและเกียรติ ซึ่งก็คือเรื่องของอํานาจและวาสนาก็ยิ่งมีมากขึ้นผิดคน ธรรมดา ดวยเหตุนี้ขันทีทั้งปวงจึงเปนคนที่มีความตองการในเรื่องอํานาจ วาสนามากเปนพิเศษผิดวิสัยมนุษย ทั่วไป จนอาจกลาวไดวาเปนคนวิปริตจําพวกหนึ่งที่พรอมจะทําทุกสิ่งทุกอยางเพื่อใหไดมาซึ่งอํานาจวาสนา มองในแงนี้ก็จะเห็นไดชัดวา การที่พระเจาแผนดินหรือฮองเต มีชีวิตอยูทามกลางฝูงคนวิปริตเหลานี้ จะมีความ เปนปกติเหมือนมนุษยทั่วไปยอมไมได ยอมมีสิ่งวิปริตผิดปกติอาบเอิบพระองคอยูเปนเนืองนิจ เพื่อแสวงหา ความดีในหนาที่ และความชอบในทางสวนตัว ขันทีจึงพรอมที่จะทําทุกอยางเพื่อฮองเต และยอมใหฮองเตทํา ทุกอยางเพื่อความพึงพอใจสูงสุด ดังนั้นขาวคราววิปริตในทางเพศ จึงคลาคล่ําอยูในราชสํานักของจีนตลอดระยะเวลาอันยาวนานของ ประวัติศาสตร เพราะฮองเตมีเมียมาก ก็ยอมมีลูกมากตามไปดวย ลูกของฮองเตจะถูกเลี้ยงดูโดยขันที หรือพระ สนมนางกํานัล ลูกคนใดถูกเลี้ยงดูโดยขันที ก็จะถูกกลอมเกลาอุปนิสัยใจคอใหวิปริตแปรปรวน ไปดวย ลูกคน ใดถูกเลี้ยงดูโดยพระสนมนางกํานัล ก็จะถูกกลอมเกลาอุปนิสัยใจคอใหเอนเอียงไปในทางของอิสตรีมากกวา ปกติ ซึ่งไมวาจะเปนไปในทางใด ลูกของฮองเตซึ่งคนหนึ่งยอมเปนรัชทายาทก็ตองมีพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนไป ในทางวิปริตผิดปกติ จะมียกเวนบางก็แตเพียงบางคนเทานั้น ที่ไดรับการเลี้ยงดูอยางดีโดยวิธีเลี้ยงดูของ มนุษยทั่วไป ดังนั้น ฮองเตของจีนจํานวนมากจึงเปนคนจําพวกวิปริตผิดปกติ จะมียกเวนอยูบางที่เปนพระเจาแผนดินที่ เขมแข็งเกรียงไกร เหตุนี้อายุรัชกาลของแทบทุกราชวงศในเมืองจีนจึงมักไมคอยยืนยาว พระเจาเลนเตเองก็ ถูกเลี้ยงโดยขันที ดังนั้นเมื่อครองราชยแลว จึงทรงยกยองขันทีคนหนึ่งชื่อ "เตียวเหยียง" เปนบิดาบุญธรรม และเพราะเหตุที่ถูกเลี้ยงดูโดยขันที ดังนั้น จึงมีความใกลชิดสนิทสนมไวเนื้อเชื่อใจขันทีเปนพิเศษ มีความ เคารพยําเกรงขันทีเปนพิเศษ ขันทีที่มีความใกลชิดสนิทสนมในลักษณะเชนนี้ มีอยูสิบคน ซึ่งสามกกเรียกวา "สิบขันที" คือเทาเจียด, เตียว ตง, เตียวเหยียง, ฮองสี, ตวนกุย, เหาลํา, เกียนสิด, เหหุย, กกเสง และเชียกง ในจํานวนขันทีสิบคนนี้ไดยก ยองใหเทาเจียดเปนหัวหนา ในขณะที่เตียวเหยียงเปนคนที่พระเจาเลนเตเคารพและยําเกรงเปนพิเศษ ในฐานะ ที่ทรงยกยองเปนบิดาบุญธรรม ความจริงชื่อของบุคคลในสามกกมีเปนจํานวนมาก ไมมีความจําเปนที่จะตองจดตองจํา แตการจะไมกลาวถึง ชื่อขันทีทั้งสิบคนเห็นจะไมได เพราะเปนตัวละครสําคัญที่เปนตนตอทําใหแผนดินเกิดจลาจลวุนวาย แลวแตก เปนสามกก ทั้งเปนตัวละครที่กอปญหาวุนวายถึงสองรัชกาล ขันทีทั้งสิบคนไดรวมคิด รวมมือกันครอบงํา อํานาจบริหารของพระเจาเลนเต อยางสิ้นเชิง กิจการภายในราชสํานักทั้งปวงขึ้นอยู กับความคิดความเห็นของ ขันทีทั้งสิบคน จึงเปนเหตุใหเหลาขุนนางทั้งปวง เกรงกลัวไมกลากระทําการ หรือเพ็ดทูลสิ่งใดใหเปนที่ขัดใจ ของขันที ขุนนางคนใดแสดงอาการใหเห็นวาไมเปนพวก ไมเคารพ หรือ ไมยําเกรง ก็จะถูกสิบขันทีแกลงเพ็ดทูลใหพระ เจาเลนเตถอดออกจากตําแหนง หรือโยกยายไปทําราชการในถิ่นทุรกันดาร หรืออาจถูกเพ็ดทูลใหลงโทษ ประหาร หนังสือราชการที่หัวเมืองตาง ๆ รายงานเขามายังราชสํานักจะถูกกลั่นกรองโดยขันทีเสียชั้นหนึ่งกอน หนังสือออกจากราชสํานักรวมถึงพระบรมราชโองการตางๆ ก็เกิดขึ้นจากความคิดความเห็นของ ขันที จัดทํา โดยเหลาขันที และจัดสงไปยังหัวเมืองตางๆ โดยคนของขันที เปนหนทางใหลูกนองของขันทีไดคาน้ํารอนน้ํา ชาอีกทางหนึ่ง อํานาจวาสนามีถึงเพียงนี้แลวก็ยังไมเปนที่พึงใจ ความหิวกระหายในอํานาจวาสนายิ่งทวีขึ้นอยางไมหยุดยั้ง กลายเปนวาอํานาจวาสนาที่มีมากขึ้นโดยลําดับนั้นไมตางกับฟนที่สุมทับเขาไปในกองไฟก็ยิ่งทําใหกองไฟลุก โชติชวงมากขึ้น ตองการฟนมากขึ้น ยิ่งเติมฟนเขาไปอีก กองไฟก็ยิ่งใหญขึ้น โชติชวงมากขึ้น อุปมาฉันใด อุปไมยก็ฉันนั้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ความหิวกระหายในอํานาจของขันทีไดทําใหราษฎรเกิดความเดือดรอนทุกหยอมหญา เหลาขุนนางทั้งในเมือง หลวงและในหัวเมืองตางตองเดือดรอน และตองตกอยูภายใตอํานาจของขันที การแตงตั้งเจาเมืองไปครอง เมืองตาง ๆ ขันทีก็จะเรียกเอาสิน บนทุกเมืองไป คนใดไมยอมใหสินบนแกขันทีก็จะถูกกลั่นแกลง ใน ชั้นตน อาจจะแกลงไมใหไดรับแตงตั้ง หากขัดขวางในชั้นนี้ไมได ในภายหลังก็จะกลั่นแกลงเพ็ดทูลเอาเปนโทษ ซึ่ง อาจจะเปนโทษปลดออกจากราชการ หรือโทษถึงลงพระราชอาญา หากขอหาหนักก็ตองถูกประหาร เจาเมือง
  • 7. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 7 คนใดยอมอยูในอํานาจ ขันทีก็จะจัดสงคนไปเรียกเก็บสวยทุกป และจํานวนสวยก็จะเพิ่มขึ้นทุกปดุจกัน เจา เมืองบางคนในระยะแรกสามารถทนกับระบบสวยได แตนานไปทนแรงสวย ไมไหวก็ตองลาออก เพราะขืนทน รับราชการตอไปก็ตองถูกปลด ถูกถอด หรือตองโทษ คาภาษีตางๆ ที่หัวเมืองจัดเก็บสงเขาเมืองหลวง ตามปกติก็ถูกขันที ชักสวนแบงตั้งแตรอยละ 10 หนักเขาก็ชักสวนแบงถึงรอยละ 50 ทําใหรายไดของแผนดิน ไมพอเพียงกับรายจาย เปนเหตุใหพระเจาเลนเตตองขึ้นภาษีเอากับราษฎรบอยครั้ง จึงกลาวไดวาราษฎรในยุคสมัยของพระเจาเลนเตถูกขูดรีดภาษีหนักที่สุด ดานหนึ่งหนักเพราะการฉอราษฎรบัง หลวงของเหลาขันทีและขุนนางที่เปนพวก ดานหนึ่งหนักเพราะรายจายเพิ่มมากขึ้นเพื่อบํารุงบําเรอความสุข และเพื่อจัดสวนแบงใหแกขันทีและขุนนาง วากันวางบประมาณแผนดินในสมัยพระเจาเลนเตรั่วไหลไปกวารอย ละ 30 เทาๆ กับตัวเลขการรั่วไหลของงบประมาณแผนดินของรัฐบาลไทยในบางยุค เมื่อขุนนางขาราชการทั้งในเมืองหลวงและหัวเมืองตองจายเงินคาสวยสินบน และมีความรั่วไหลเกิดขึ้นใน งบประมาณแผนดินมากมาย เชนนี้ ราษฎรก็ถูกรีดนาทาเรนหนักขึ้นทุกวัน ราษฎรกลายเปนคนยากจนและ ยากไร ไมมีที่ทํากิน และไมมีกิน จนตองปลนชิงวิ่งราวกันทั่วทั้งแผนดิน หนักเขาขาราชการทั้งในเมืองหลวง และในหัวเมืองตางประพฤติตนเปนโจร ปลนชิงวิ่งราวเสียเองอยางหนึ่ง เลี้ยงโจรใหปลน ชิงวิ่งราวมาแบงกันอยางหนึ่ง คาของหนีภาษี คาของเถื่อนอยางหนึ่ง และเอาที่หลวง เอา ประโยชนของหลวงไปทํามาหากิน ไปแสวงหาประโยชนอีกอยางหนึ่ง คดีความทั้งปวงก็ตัดสินไปตามน้ําหนัก ของเงินสินบน ขาวถูกกลับเปนดํา ดําถูกกลับเปนขาว ความเดือดรอนจลาจลจึงเกิดขึ้นทั้งแผนดิน โดยที่ไมมี ใครกลาพูด กลากราบทูล พระเจาเลนเตเห็นหนังสือลับของยีหลงแลว ก็ทอดพระทัย มิได ตรัสประการใด แต ขันทีทราบความเขาก็ผูกอาฆาตยีหลง เพราะเห็นวาเปนการกราบทูลที่จะทําใหพวกตนเสียหาย และแสรง เพ็ดทูลเสียใหมวา กรณี ทั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากฉลองพระองคเกา เพราะทรงมานาน ดังนั้น เพื่อความเปนสิริ มงคลของประเทศและราษฎรจึงตองเปลี่ยนฉลองพระองคใหม พระเจาเลนเต ก็กระทําตามคําแนะนํานั้น หลังเหตุการณนี้แลวสิบขันทีไดกราบทูลยุยงฮองเตใหปลดยีหลงออกจากราชการไปทําไรไถนา ณ ภูมิลําเนา เดิม สิบขันทียิ่งมีอํานาจวาสนามากขึ้นเทาใด ก็ยิ่งกําเริบเสิบสานมากขึ้น ในที่สุดไดกราบทูลใหพระเจาเลนเต แตงตั้งตัวเองเปน "เซียงสี" หรือเปน"องคมนตรี" ทําหนาที่ใหคําปรึกษาราชการแผน ดินหรือนัยหนึ่งก็คือ "คน ใชฮองเต" แตบางแหงแปลโดยความหมายวาเปนตําแหนงหนาที่ผูสําเร็จราชการแผนดิน การที่ขันทีสามารถเวียนวายดํารงอยูในอํานาจทามกลางความขัดแยงและผลประโยชนในราชสํานักไดอยาง ยาวนาน แมถึงขนาดมีบทบาท ครอบงําอํานาจรัฐของฮองเตนั้น มิใชดวยเหตุบังเอิญหรือโชคชวย หากเกิด จากขันทีมีสุดยอดวิชาประจําอาชีพของตนอยูถึงหาวิชา ซึ่งคนปกติทั่วไปไมมีวันที่จะร่ําเรียนสุดยอดวิชา เหลานั้นไดอยางครบครัน หาสุดยอดวิชาขันทีเปนไฉน? หาสุดยอดวิชาขันทีไดแก วิชาวาดวยการพินอบพิเทาและสรางความพอใจสูงสุด อยางหนึ่ง วิชาวาดวยการสรางความแตกแยกเพื่อแสวงประโยชนหรือเอาตัวรอดอยางหนึ่ง วิชาวาดวยการฆา คนซึ่งมีกระบวนทาสุดยอดคือการใชวาจาเปนอาวุธสังหารผูคนอยางหนึ่ง วิชาวาดวยการเรียกรับสินบนอยาง หนึ่ง และวิชาวาดวยการติดสินบนซื้อน้ําใจคนอีกอยางหนึ่ง รายละเอียดแหงสุดยอดวิชาทั้งหานี้ มิใชเรื่องในสามกกแตมีใหเห็นการใชวิชาขันทีปรากฏอยูในสามกกอยาง ลึกซึ้ง จึงกลาวถึงเรื่องนี้ไวแตเพียงนี้ สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม โจรโพกผาเหลือง (ตอนที่ 4) สามกกทุกฉบับที่มีมาในโลกลวนเรียกกลุมโจรโพกผาเหลือง วาเปน "โจร" ทั้งสิ้น ซึ่งเปนการชวยกันเหยียบ ย่ําซ้ําเติมและทําใหความจริงผันแปรไปจากที่พึงเปน ความจริงโจรโพกผาเหลืองเปนขบวนการกูชาติขบวน หนึ่งในยุคที่บานเมืองเปนจลาจล ไมตางกับขบวนการกูชาติของชาวนาในกรณี กบฏเขาเหลียงซาน หรือกบฏ นักมวย หรือขบวนการกูชาติของพระเจาตากสินแมแตนอย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 8. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 8 แตเมื่อขบวนการกูชาตินี้พายแพ ก็ตองถูกขนานนามวาเปนกบฏ และเปนธรรมเนียมการเมืองจีนโบราณที่ตอง เหยียบย่ําซ้ําเติมผูพายแพใหแบนติดดิน ดังนั้น ขบวนการกูชาติขบวนนี้จึงถูกเหยียดหยามวาเปนเพียงกลุมโจร เทานั้น เรื่องของโจรโพกผาเหลืองเริ่มตนขึ้นที่เมืองกิลกกุน ซึ่งเปนดินแดนทางทิศใตของเมืองหลวง ในยุคพระเจา เลนเต โดยมีชายคนหนึ่งชื่อ "เตียวกก" เปนหมอยาแผนโบราณ ตั้งตนอยูใน ศีลธรรม มีจิตใจเอื้อเฟอเผื่อแผ ชอบชวยเหลือราษฎร จึงเปนที่เคารพนับถือของชาวบานในถิ่นนั้นเปนอันดี อยูมาวันหนึ่งเตียวกกไปหาตัวยา บนภูเขา"พบคนแกคนหนึ่งผิวหนานั้นเหมือนทารก จักษุนั้นเหลือง มือถือไมเทา คนนั้นพาเตียวกกเขาไปในถ้ํา จึงใหหนังสือตํารา 3 ฉบับชื่อไทแผงเยาสุด แลววาตํารานี้ทานเอาไปชวยทํานุบํารุงคนทั้งปวงใหอยูเย็นเปนสุข ถาตัวคิดรายมิซื่อตรงตอแผนดิน ภัยอันตรายจักถึงตัว เตียวกกกราบ ไหวแลวจึงถามวาทานนี้ชื่อใด คนแกนั้น จึงบอกวาเราเปนเทพยดา บอกแลวก็เปนลมหายไป" เตียวกกกลับมาบานก็ลงมือศึกษาเลาเรียนตําราทั้ง 3 เลม ปรากฏวาเปนตําราเรียกลม เรียกฝนเลมหนึ่ง, เปน ตําราผูกพยนต หรือตําราปลุกเสกสิ่งของใหเปนคน หรือเปนสัตวเลมหนึ่ง และตํารารักษาโรคอีกเลมหนึ่ง เตียว กกศึกษาตําราทั้งสามเลมแลวก็ไดใชวิชารักษาโรครักษาชาวบาน ซึ่งทั้งหมดเปนคนยากไร ไมมีเงินคา รักษาพยาบาล ไมสามารถ ไปหาหมอหลวงหรือแพทยตามรานหมอตางๆ ได ชาวบานจึงพากันมาใหเตียวกก รักษา ไขเจ็บโรคภัยตางๆ จนเปนที่นับถือศรัทธาของชาวบานทั้งเมืองกิลกกุน ตอมาหาลงกินเมืองกิลกกุน ชาวเมืองเกิดความไขลมตายลงเปนอันมาก ชาวเมืองกิลกกุนจึงพากันไปหาเตียวกกใหชวยรักษา ความไขจาก โรคหา เตียวกกไดเขียนยันตตามตําราของเทพยดาแจก ใหชาวเมืองบําบัดความไข ความไขนั้นก็หาย โรคหา ก็หมดสิ้นไป ชาวเมืองจึงพากันมาฝากตัวเปนศิษยเตียวกกมากขึ้น ประกอบกับชวงนั้นพวกขุนนาง ขาราชการรีดนาทาเรน ราษฎรเพื่อเก็บสวยสงใหกับขันที และเพื่อความร่ํารวยของตนเอง จนบานเมืองอดอยากยากแคน ทั้ง ขาราชการ และพวกมาเฟยตางๆไดประพฤติตนเปนโจรปลนชิงวิ่งราวชาวบาน แพรขยายไปทุกตําบล ดังนั้น ราษฎรจึงยิ่งหันเขามาพึ่งพาเตียวกกมากขึ้น บรรดาลูกศิษยของ เตียวกก ซึ่งไดรับการอบรมสั่งสอนให ชวยเหลือผูอื่น จึงไดจัดตั้งกันขึ้นเปนกลุมอาสา ปองกันตนเอง เปนกองกําลังติดอาวุธของประชาชน ดานหนึ่งปองกันโจรผูรายที่มาเบียด เบียนปลนชิงวิ่งราว อีก ดานหนึ่งเพื่อตอสูกับขุนนางและขาราชการที่มากดขี่ขมเหง ซึ่งสอดคลองกับความเรียกรองตองการของ ราษฎร ดังนั้น ชาวเมืองจึงไดเขารวมขบวนการอาสาปองกันตนเองมากขึ้นทุกวัน จนขบวนการอาสาปองกัน ตนเองเติบใหญ และขยายตัวไปยังเมืองตางๆ อีก 7 เมือง รวมเปน 8 เมือง คือเมืองกิลกกุน, เฉงจิ๋ว, อิวจิ๋ว, ชิวจิ๋ว, เกงจิ๋ว, ยังจิ๋ว, กุนจิ๋ว และอิจิ๋ว ชาวเมืองทั้ง 8 เมืองนี้ นับถือศรัทธาเตียวกก เขียนเอาชื่อเตียวกกไวบูชา ทุกบานเรือน บรรดาเจาเมืองทั้ง 8 เมืองดังกลาว เห็นวาการเคลื่อนไหวของขบวนการอาสาปองกันตนเองนี้เปนประโยชนแก ตัวอยูบาง ตรงที่คอยกีดขวางลูกนองขันทีที่มารีดสวย จึงทําเปนเอาหูไปนาเอาตาไปไร บางก็กลัวภัยจะมาถึง ตัวจึงทําเฉยปลอยปละละเลยเหตุการณไปตามสถานการณ ทําใหการเคลื่อนไหว ของขบวนการอาสาปองกัน ตนเองขยายตัวและเขมแข็งขึ้น เมื่อขบวนการอาสาปองกันตนเองเติบใหญเขมแข็งขึ้น เชนนี้ก็มีความจําเปนที่ จะตองจัดระบบการบริหารเพื่อควบคุมกองกําลังอาสาปองกันตนเอง ดังนั้น เตียวกกจึงแตงตั้งใหศิษยที่ไวใจ เปนหัวหนาขบวนการสาขาเรียกวา "นายบาน" ถึง 30 ตําบล ตําบลใหญมีกําลังติดอาวุธประมาณหมื่นเศษ ตําบลเล็กมีกําลังติดอาวุธ 6-7 พันคน จัดตั้งกําลังแบบกองทหาร มีธงสําหรับรบศึกทุกตําบล เมื่อมีผูคนมาเขา รวมเปนจํานวนมาก และจัดตั้งขบวนเปน กองทัพฉะนี้แลว บรรดาลูกศิษยลูกหาของเตียวกกก็ยุยงสงเสริมให เตียวกกกอบกูฟนฟูชาติบานเมือง ใหราษฎรไดรมเย็นเปนสุข เตียวกกฟงแลวยังไมตัดสินใจประการใด แตปรากฏการณที่ไดพบเห็นอยูทุกเมื่อเชื่อวันก็คือ การกดขี่ขมเหง ราษฎรของฝายขุนนางและขาราชการ และการเบียดเบียนปลนชิงวิ่งราวที่ขยายตัว ลุกลามไปอยางกวางขวาง นั้น ทําใหความคิดเตียวกกโนมไปในทาง ที่เห็นวา ขอเสนอของลูกศิษยเปนขอเสนอที่เขาทา ที่เปนเชนนี้ เพราะเตียวกกเปนคนมักนอยและสันโดษ มีจิตใจที่ดีงาม ไมไดมีจิตใจมักใหญใฝสูงมาแตตน ที่ทําการมาเปน เพียงเพื่อชวยเหลือราษฎรที่ไดรับความเดือดรอนทุกขยาก มิไดหวังเอาอํานาจวาสนาเปนเปาหมายแหงชีวิต แตประการใด แตเปนวิสัยคนที่ทนความเยายวนตออํานาจไดโดยยาก ดังคําพังเพยที่วา "อันเสาศิลาแปดศอก ตอกเปนหลัก เมื่อผลักทุกวันเขาเสาก็ไหว" All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด