1. ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับที่พักแรม
ดร.สมยศ โอ่งเคลือบ
ภาควิชาการท่องเที่ยว
คณะมนุษยศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Email: somyot.o@cmu.ac.th
1

2. Accommodation
วิวัฒนาการ
ให้ที่พักสาหรับคน
เดินทางด้วยไมตรี
จิต หรือตามหลัก
ศาสนา
ให้ที่พักแบบเป็น
ธุรกิจ มีสิ่งอานวย
ความสะดวก
ที่พักเจริญตาม
เส้นทางการ
คมนาคม
รูปแบบที่พัก
หลากหลายตาม
ความต้องการของ
ผู้บริโภค
2

3. ปัจจัยอะไรทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ในธุรกิจที่พักแรม?
3

4. 4
ที่พักหลากหลายประเภท
Inn
Tavern
Hotel
Transient Hotel
Residential Hotel
Commercial Hotel
Convention Hotel
All - Suite Hotel
Extended – Stay Hotel
Casino Hotel
Budget Hotel
Airport Hotel
Airline Hotel

5. 5
…Accommodations
Motel / Motor Inn
Guest House /Tourist Home
Homestay
Bed and Breakfast (B&B)
Hostel /Youth Hostel
Lodge

6. 6
…Accommodations
Condominium
Resort
Pension
Parador
Mansion
Campground
Traditional Resort
All - Inclusive Resort
Resort Condominium
Resort Motel

7. 7
…Accommodations
Guest Ranch
Conference Center
Timesharing
Boarding House
Lodging House
Dormitory

8. ประเภทของโรงแรมตามที่ตั้ง
• โรงแรมในเมือง (City hotel)
• โรงแรมตากอากาศ (Resort)
• โรงแรมท่าอากาศยาน (Airport hotel)
• โรงแรมริมทางหลวง (Motel)
8

9. ประเภทโรงแรมตามวัตถุประสงค์ของแขกผู้มาพัก
• โรงแรมสำหรับนักธุรกิจ (Business hotel)
• โรงแรมเพื่อกำรประชุม (Convention hotel)
• โรงแรมเพื่อกำรพักผ่อนตำกอำกำศ (Resort)
• โรงแรมคำสิโน (Casino hotel)
• โรงแรมสำหรับพักช่วงสั้นๆ ระหว่ำงเดินทำง (Transient hotel)
• โรงแรมสำหรับพักระยะยำว (Residential hotel)
• อื่นๆ
9

10. ประเภทของโรงแรมตามระดับการบริการ
• โรงแรมที่บริการเต็มรูปแบบ (Full service hotel)
– Luxury
– Upscale
• โรงแรมที่บริการแบบจากัด (Limited service hotel)
– Midscale
– Economy
– Budget
10

11. ประเภทของโรงแรมตามขนาด
• ขนาดเล็ก ต่ากว่า 100 ห้อง
• ขนาดกลาง 100-300 ห้อง
• ขนาดใหญ่ มากกว่า 300 ห้อง
11

12. ประเภทโรงแรมตามกฎกระทรวง
กาหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ.
2551
(๑) โรงแรมประเภท ๑ หมายความว่า โรงแรมที่ให้บริการเฉพาะห้องพัก
(๒) โรงแรมประเภท ๒ หมายความว่า โรงแรมที่ให้บริการห้องพักและห้องอาหาร หรือ
สถานที่สาหรับบริการอาหารหรือสถานที่สาหรับประกอบอาหาร
(๓) โรงแรมประเภท ๓ หมายความว่า โรงแรมที่ให้บริการห้องพัก ห้องอาหารหรือสถานที่
สาหรับบริการอาหารหรือสถานที่สาหรับประกอบอาหาร และสถานบริการตามกฎหมายว่า
ด้วยสถานบริการหรือห้องประชุมสัมมนา
(๔) โรงแรมประเภท ๔ หมายความว่า โรงแรมที่ให้บริการห้องพัก ห้องอาหารหรือสถานที่
สาหรับบริการอาหารหรือสถานที่สาหรับประกอบอาหาร สถานบริการตามกฎหมายว่าด้วย
สถานบริการ และห้องประชุมสัมมนา
12

13. (๑) มีห้องพักไม่เกิน ๕๐ ห้อง
(๒) ห้องพักทุกห้องต้องมีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่ำ ๘ ตำรำงเมตร ไม่รวม
ห้องน้ำ ห้องส้วม และระเบียงห้องพัก
(๓) มีห้องน้ำและห้องส้วมที่ถูกสุขลักษณะอย่ำงเพียงพอสำหรับผู้พัก
13
ข้อ ๑๘ โรงแรมประเภท ๑ ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

14. ข้อ ๑๙ โรงแรมประเภท ๒ ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข
ดังต่อไปนี้
(๑) ห้องพักทุกห้องต้องมีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่ำ ๘ ตำรำงเมตร ไม่รวม
ห้องน้ำ ห้องส้วม และระเบียงห้องพัก
(๒) มีห้องน้ำและห้องส้วมที่ถูกสุขลักษณะอย่ำงเพียงพอสำหรับผู้พัก
14

15. ข้อ ๒๐ โรงแรมประเภท ๓ และประเภท ๔ ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์
และเงื่อนไขดังต่อไปนี้
(๑) ห้องพักทุกห้องต้องมีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่ำ ๑๔ ตำรำงเมตร ไม่รวม
ห้องน้ำ ห้องส้วม และระเบียงห้องพัก
(๒) มีห้องน้ำและห้องส้วมที่ถูกสุขลักษณะในห้องพักทุกห้อง
(๓) กรณีมีห้องพักไม่เกิน ๘๐ ห้อง ห้ำมมีสถำนบริกำรตำมกฎหมำยว่ำด้วย
สถำนบริกำร
15

16. กฎหมำยที่สำคัญเกี่ยวกับโรงแรม
• พระรำชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗
• กฎกระทรวง กำหนดประเภทและหลักเกณฑ์กำรประกอบธุรกิจโรงแรม
พ.ศ. ๒๕๕๑
16

17. Special Characteristics of the Hotel Business
17
• รวมสิ่งอานวยความสะดวกหลากหลายMix of facilities
• ที่ตั้งสาคัญLocation
• เคลื่อนย้ายไม่ได้Fixed Supply
• ต้นทุนในการดาเนินงานสูงHigh Operating Costs
• มีการบริการเป็ นสินค้าServices

18. 18
+ Special Characteristics of Service Business
• Intangibility
ไม่มีตัวตน ลูกค้าจึงไม่สามารถือครองกรรมสิทธิ์โดยถาวร
• Inseparability
แยกจากกันไม่ได้, การให้/ใช้บริการ เกิดขึ้นพร้อมกัน
• Variability/Heterogeneity
การบริการแต่ละครั้งมีความแตกต่างและเปลี่ยนแปลงได้
• Perish ability
เก็บรักษาไว้ไม่ได้, ไม่มีสินค้าคงคลัง
• Fluctuating demand ความต้องการไม่แน่นอน
• Seasonality ขึ้นอยู่กับฤดูกาล

19. 19
เตรียมใจสาหรับงานโรงแรม
• เวลาทางานอาจต่างจากอาชีพอื่น
• เป็นงานบริการ
• ต้องปฏิสัมพันธ์กับคนหลายประเภท
• ต้องรับแรงกดดันจากลูกค้า
• ทางานภายใต้ความกดดัน
และสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

20. 20
เสน่ห์ของงานโรงแรม
• งานไม่ซ้าซาก
• ได้รู้จักกับผู้คนมากมาย
• ได้ผลตอบแทนแบบทันควัน (ทิป)
• มีค่าบริการ (Service charge)
• ได้อยู่ในบรรยากาศที่สวยงาม

21. 21
1. การเพิ่มขึ้นของรายได้ และการกระจายรายได้
2. การสร้างงานและการสร้างอาชีพ
• การสร้างงานทางตรง • การสร้างงานทางอ้อม
3. การพัฒนาสาธารณูปโภคสู่ท้องถิ่น
4. รายได้ของรัฐในรูปภาษีอากร
5. การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม
ความสาคัญของธุรกิจบริการที่พักแรม

22. Accommodation
Noncommercial
Private
Nonprofit
e.g. Hostel,
YMCA
Institutional
e.g. University
Dorm
Commercial
Chain
: Local,
International
Independent
โครงสร้างของอุตสาหกรรมที่พักแรม
(Accommodations Structures)
Source: Adapt from Goeldner, C.R. & Ritchie, J.R.B. (2003) 22

23. รูปแบบการจัดการธุรกิจโรงแรม
Hotel Corporation Management Style
23
Hotel
Independent
Chain
Management
Contract
Franchise
Consortia

24. 24
รูปแบบการจัดการธุรกิจที่พักแรม
การจัดการที่พักแรมโดยเจ้าของกิจการเอง (Independent)
ข้อดี - มีอิสระในการทางาน ตัดสินใจได้ง่าย รวดเร็ว คล่องตัว
- เจ้าของได้รับผลกาไรอย่างเต็มที่
- เจ้าของมีอานาจเต็มที่ในการกาหนดนโยบาย & กลยุทธ์
ข้อเสีย - ตลาดแคบ จากัด
- การพัฒนา/ขยายกิจการทาได้ยาก
- เจ้าของมีความเสี่ยงสูง

25. 25
กลุ่มโรงแรม / เครือโรงแรม
Hotel Groups / Hotel Chain
หมำยถึง บริษัทที่เป็นเจ้ำของหรือจัดกำรโรงแรม จำนวนมำกกว่ำ 1
แห่ง ภำยใต้ชื่อใดชื่อหนึ่ง มีหลำยประเภท
1. แบบจัดกำรบริหำรเอง
2. แบบเช่ำจำกเจ้ำของที่และบริหำร
3. แบบกำรทำสัญญำกำรบริหำรจัดกำร (Management contract)
4. แบบข้อตกลงทำแฟรนไชส์ (Franchise agreement)
5. แบบอื่นๆ เช่น รวมกลุ่มแบบ Consortia

26. 26
การจัดการที่พักแรมแบบแฟรนไซส์ (Franchise System)
ข้อดี - ได้ใช้ชื่อโรงแรมที่มีชื่อเสียง เป็ นที่รู้จักและยอมรับทั่วโลก
- ได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ & มีประสบการณ์
- ได้รับความช่วยเหลือด้านการตลาด
ข้อเสีย - ขาดเสรีภาพในการบริหารงาน
- ต้นทุนค่าใช้จ่ายสูง
- ความสาเร็จของกิจการขึ้นอยู่กับผู้ให้สิทธิ์
รูปแบบการจัดการธุรกิจที่พักแรม Chain

27. 27
การจัดการที่พักแรมในการทาสัญญาการจัดการ (Management Contract)
ข้อดี - ได้รับประโยชน์ด้านชื่อเสียง
- ผู้ลงทุนมีความมั่นใจ และไม่ต้องกังวลกับการบริหารจัดการ
- ได้รับการยอมรับและเชื่อถือจากแหล่งเงินทุน
ข้อเสีย - ต้นทุนค่าใช้จ่ายสูง
- ผู้ลงทุนขาดอานาจสิทธิ์ขาดในการบริหาร การตัดสินใจ
- การบริหารงานขาดความยืดหยุ่น
รูปแบบการจัดการธุรกิจที่พักแรม Chain

28. 28
Hotel Chains
Local Hotel Chain
International Hotel Chain

29. 29
เครือข่ายโรงแรมท้องถิ่น
เครือข่ายโรงแรมท้องถิ่นหรือภายในประเทศ เช่น
• เครือดุสิตธานี (Dusit Hotels and Resort)
• เครือเซ็นทารา (The Centara Hotels & Resorts)
• เครือออนิกซ์ (ONYX Hospitality Group)
• เครืออิมพีเรียล (Imperial Hotels Group)

30. 30
เครือข่ายโรงแรมระหว่างประเทศ
เช่น
• Accor
• Best Western
• Hilton Hhonors
• Intercontinental Hotels Group: IHG

31. 31

32. 32

33. 33
ข้อได้เปรียบของการรวมกลุ่ม
• ได้เปรียบทางการเงิน
• ได้เปรียบทางการตลาด
• ได้เปรียบทางการจัดซื้อ
• ได้เปรียบทางการจัดการ
• ได้เปรียบทางด้านเทคนิค (ช่างซ่อม)
• กระจายความเสี่ยง

34. 34
ปัญหาของการรวมกลุ่ม
• ด้านการติดต่อสื่อสาร
• ด้านการควบคุมดูแล
• ค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารและการควบคุม
ขึ้นอยู่กับ
• จานวนโรงแรมในกลุ่ม (ในเครือ)
• ความห่างไกล
• การกระจายอานาจ
(Centralization VS Decentralization)

35. 35
การบริหารงานของ Hotel Group
• ควรกระจำยอำนำจเรื่องอะไร?
• ควรรวมอำนำจเรื่องอะไร?

36. การศึกษาความเป็ นได้ในการจัดตั้งโรงแรม
(Feasibility Determination)
36
การเลือกทาเลที่ตั้ง
(Site selection)
การตลาด
(The marketing)
อุปทานด้านห้องพัก
(Supply of rooms)
สถานการณ์แรงงาน
(Labor situation)
ความต้องการด้านห้องพัก
(Room demand)
สิ่งอานวยความสะดวก
(Facilities)
การวางแผนด้านการเงิน
(Financial projections)