โครงการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยว
- 2. พระราชดาริ
พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว มีพระกระแสให้รับการน้อมเกล้าฯ ถวาย
ที่ดินจาก ท่านผู้หญิงยศวดี อัมพรไพศาลไว้เป็นที่ดินของมูลนิธิชัยพัฒนา
และทรงพระราชทานพระราชด้าริโดยสรุปว่า “ ให้ศึกษาทดสอบวิธีการ
แก้ไขปัญหาดินเปรี้ยวทั้งวิธีทางธรรมชาติและการใช้ปูนมาร์ล และน้าน้้า
จากภายนอกมาแก้ไขดินเปรี้ยวได้ ”นอกจากนี้ได้พระราชทานพระราชด้าริ
ให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดซื้อที่ดินบริเวณใกล้เคียง เพิ่มเติมเพื่อใช้ ในการศึกษา
ทดลองดั ง กล่ า วข้ า งต้ น รวมทั้ ง ศึ กษาทดลองการเพาะปลูก ในพื้ น ที่ ดิ น
เปรี้ยว เพื่อการส่งเสริมอาชีพให้กับราษฎรต่อไป
- 3. ความเป็นมา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชด้าริให้ศึกษาทดลองการแก้ไข
ปัญหาดินเปรี้ยว ในที่ดินของมูลนิธิชัยพัฒนา ที่หมู่บ้านหนองคันจาม ต้าบล
บ้านพริก อ้าเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก สรุปประเด็นส้าคัญได้ดังนี้ “ใน
ที่ดินของมูลนิธิชัยพัฒนา แปลงที่ 1 ให้ศึกษาทดลองแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยว
โดยใช้วิธีทางธรรมชาติ ส่วนในแปลงที่ 2 ให้พิจารณาใช้ระบบน้้า และใช้ปูน
แก้ปัญหาดินเปรี้ยวได้ นอกจากนั้นให้พิจารณาพัฒนาปรับปรุงดินและ
ส่งเสริมอาชีพ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ด้วย และส้าหรับแปลงที่
3 ให้จัดท้าศูนย์ฝึกอาชีพด้านการเกษตร”
- 6. •แปลงที่ 2 (พื้นที่ 31 ไร่เศษ) ด้าเนินการแก้ไขดินเปรี้ยว
โดยใช้ระบบน้้าจากภายนอกพื้นที่โครงการฯ รวมทั้งใช้
หินปูนและปูนมาร์ลเข้าช่วย แก้ไขปัญหาดินเปรียว รวมทั้ง
้
ทดลองปลูกพืชน้้าและพืชผลทางการเกษตรในพื้นที่นี้ด้วย
•แปลงที่ 3 (พื้นที่ 47 ไร่เศษ) ด้าเนินการจัดตั้งศูนย์
ฝึกอบรมอาชีพและศาลาวิชาการ เพื่อการศึกษาทดลอง
และส่งเสริมอาชีพให้กับ เกษตรกรที่อยู่อาศัยในพื้นที่ดิน
เปรี้ยว
- 7. ผลการดาเนินงานสนองพระราชดาริ
•แปลงที่ 1 เป็นการสนองพระราชด้าริ เพื่อการศึกษาเก็บข้อมูลการแก้ไขปัญหาดิน
เปรี้ยว โดยวิธีธรรมชาติกล่าวคือ ใช้น้าฝนเพียงอย่างเดียว เพื่อแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยว
กรมพัฒนาที่ดิน ได้ด้าเนินการศึกษาเก็บข้อมูลน้้าฝน ระดับน้้าในสระ ระดับน้้าใต้ดิน
รวมทั้งตรวจสอบคุณภาพน้้าและ ดินเป็นระยะ ๆ ปรากฎว่าค่า pH ยังต่้าอยู่ คือ
ประมาณ 3 – 4 ทั้งนี้เนื่องจาก ปริมาณน้้าที่เก็บกักให้เต็มทัง 2 สระ โดยอาศัยน้้าฝน
้
ที่ตกลงมาอย่างเดียว คาดว่ามีปริมาณไม่พอเพียงที่จะเก็บกักให้เต็มทั้ง 2 สระ
ในขณะที่น้าผิวดินรอบโครงการจะไหลลงท่อที่ฝังไว้ เพื่อลงสระก็มีปริมาณน้อยมาก
เพราะ ในระยะเวลา 18 เดือนที่ผ่านมา แทบจะไม่มีน้าขังในพื้นที่แปลงที่ 1 เลย
ผนวกกับในฤดูแล้ง น้้าในสระทั้ง 2 จะระเหยมาก ท้าให้ปริมาณน้้าลดลงอีกเป็น
จ้านวนมาก เมื่อมีปริมาณน้้าน้อย โอกาสที่จะถ่ายน้้าเปรี้ยวจากสระ 2 ไปยังสระ 1 ก็
มีได้น้อย ท้าให้การชะล้างน้้าเปรี้ยว โดยน้้าฝนของสระ 2 ด้วย การถ่ายน้้าจากสระ 2
ไปเก็บไว้สระ 1ไม่ประสบผลตามที่คาดหมาย
- 8. •แปลงที่ 2 เป็นการสนองพระราชด้าริเพื่อการศึกษาเก็บข้อมูลการแก้ไขปัญหาดิน
เปรี้ยว โดยใช้น้าจากภายนอกพื้นที่โครงการ (จากคลองล้าชวด) ชะล้างความ
เปรี้ยว ใช้หินปูนและปูนมาร์ลในการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยว
•แปลงที่ 3 เป็นการสนองพระราชด้าริ ด้าเนินการจัดสร้างศูนย์ฝึกอบรมอาชีพแก่
ผู้สนใจกรมชลประทาน ด้าเนินการส้ารวจระดับ รังวัดวางผังการใช้พื้นที่แล้วเสร็จ
ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบและขอความเห็นชอบจากกรมชลประทาน ซึ่งจะ
พร้อมลงมือก่อสร้างทันที เมื่อกรมชลประทานอนุมัติแบบและส้านักงาน กปร.
อนุมัติงบประมาณในกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้ ขุดสระขนาดใหญ่ 2 สระ เพื่อเก็บกักน้้า
ส้าหรับใช้ในแปลง ท้าคันดินรอบแปลง ถมที่ส้าหรับก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์
และเรือนเพาะช้า ยกร่องแปลงไม้ดอกไม้ประดับ ก่อสร้างถนนเข้าพื้นที่ ระบบส่ง
น้้าและระบบระบายน้้าภายในแปลง
- 10. กรมพั ฒ นาที่ ดิ น ด้ า เนิ น การควบคุ ม คุ ณ ภาพน้้ า ภายในแปลง โดยมี ก าร
ตรวจสอบคุณภาพน้้าบริหารจัดการน้้าที่มาจากคลองล้าชวดเข้ามาในแปล§áละ
ระบายน้้าออก จากแปลงลงสู่คลอง 32กรมวิชาการเกษตร ด้าเนินการศึกษา
ทดลองการเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่ ซึ่งไม้ผลได้เติบโตขึ้นเป็นล้าดับ ส่วนนาข้าว
ได้ ปลูกข้าวนาปี (พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105) พื้นที่ 5.4 ไร่ และเก็บเกี่ยวได้ผลผลิต
1,248 กิโลกรัม ส้าหรับผักสวนครัวนั้นสามารถน้าผลผลิตไปบริโภคได้โดย ตลอด
ปัจจุบันได้ด้าเนินการปลูกข้าวโพดฝักอ่อนในแปลงนา เพื่อเป็นพืชหมุนเวียนและ
เป็นการบ้ารุงดิน นอกจากนี้ยังได้มีการทดลองปลูกข้าวโพด เปรียบเทียบระหว่าง
ใส่ปูนมาร์ลและไม่ใส่ ซึ่งจะมีการติดตามเก็บข้อมูลเป็นระยะ ๆ
- 12. จัดทำโดย
นางสาว จุฑาพร เล็กวงศ์
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/6 เลขที่ 42
โรงเรียนจอมสุรางค์อุปถัมภ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา