นิทานอีสป
- 1. จัดทำโดย ด . ญ ภาวรินทร์ เพชรบัว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5.6 เลขที่ 34 ทำส่ง ครูกัญญา เต็งโล่ง นิทานอีสป
- 3. นึกว่าอะไร .. ที่แท้ก็เป็นแค่หนูตัวเล็ก ๆ ไม่พอยาใส้เป็นอาหารมื้อกลางวัน ของข้าได้หรอก " แม่หนูได้ยกมือขึ้นพนมแล้วได้พูดอ้อนวอนขอร้องกับ ราชสีห์ตัวนั้นว่า " ท่านราชสีห์ ได้โปรดช่วยไว้ชีวิตด้วยเถิด ... เพราะที่บ้านของข้าพเจ้านั้นยังมีลูกๆ ที่ยังตัวเล็ก ๆอยู่ตั้งเจ็ดตัวและรอคอยการกลับ มาของข้าพเจ้าอยู่ " " อ้อเจ้ามีลูกด้วยหรือ ก็เป็นแม่หนูสิ ? " " ใช่ค่ะ , แล้วตัวของข้าพเจ้านั้นก็เล็กแค่เพียงนิดเดียว กินเข้าไปก็ไม่สามารถที่จะทำ ให้ท่านรู้สึกว่าอิ่มได้เลยใช่ไหม ? ถ้าท่านใจดีช่วยปล่อยข้าพเจ้าไปเสีย แล้วคงมีสักวัน หนึ่งที่ข้าพเจ้าจะกลับมาตอบแทนพระคุณของท่านให้จงได้ "
- 4. ฮ่ะ ฮ้า ถ้าช่วยแล้วจะตอบแทนพระคุณในภายหลังให้อีกเสียด้วย ว่าแต่ว่าเจ้านั้นก็ตัวเล็กแค่เพียงเท่านี้เองน่ะ แล้วจะช่วยเหลืออะไรข้าได้ล่ะ ! .. ฮ่ะ ฮ้า " มันพูดทั้งหัวเราะอย่างนั้นแล้วก็จริง แต่ราชสีห์ก็ได้นึกเห็นใจ แม่หนูที่มีลูกมากมายตั้งเจ็ดตัวรออยู่ที่บ้าน และในที่สุดก็ได้ปลดปล่อยแม่หนูไปเสีย " ขอขอบคุณท่านราชสีห์เป็นอย่างมาก ที่ได้ไว้ชีวิตให้ในครั้งนี้ ข้าพเจ้าจะ กลับคืนมาช่วยเหลือท่านในอนาคตข้างหน้าอย่างแน่นอน " แม่หนูหันหน้ามา บอกขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนที่มันจะเดินจากไป
- 5. อยู่ต่อมาไม่นานหลายวันจากนั้นในวันหนึ่ง , หลังจากที่ราชสีห์ตัวนั้นได้ตื่นขึ้นมาหลัง จากที่ได้นอนกลางวันแล้วตามปกติของมัน และมันก็เริ่มที่จะหิวขึ้นมานั่นเอง มันจึงได้ ออกเดินไปเรื่อย ๆ เพื่อที่จะหาเหยื่อหมายกินเป็นอาหารในตอนเย็นมื้อนั้นเสียด้วย ... " อ้านนน ... ได้กลิ่นดี ๆ ที่หอมหวลจัง " แล้วตอนนั้นมันก็ได้มองไปเห็นก้อนเนื้อก้อนหนึ่ง ที่น่าอร่อยวางอยู่ตรงพื้นในบริเวณนั้น " นั่นมันก้อนเนื้อนี่ .." มันกระโดดเข้าไปหมายกิน ในทันที แล้วในทันทีนั้นอย่างกระทันหัน ... ตะข่ายก็ได้ตกลงมาจากด้านบน และราชสีห์ ก็ได้ถูกจับไว้ในตะข่ายนั้นอย่างหมดท่า
- 6. กาววว์ ..." ราชสีห์ร้องออกมา ด้วยเป็นอันต้องติดกับดักที่เป็นตะข่าย ดังนั้นเมื่อมันรู้ตัวจึงพยายามที่จะดิ้นไปมาหมายให้ตัวมันเองหลุดจากตะข่าย ให้ได้ " มันช่างเป็นเรื่องที่น่าอายเสียเหลือเกิน ที่ข้าต้องมาติดกับดักอย่าง ง่าย ๆ เพียงเพราะว่าข้าอยากที่จะกินก้อนเนื้อที่มันตกอยู่ ! " ราชสีห์เสียใจที่ คิดผิดพลาดไป แต่อย่างไรมันก็เป็นสิ่งที่ช่วยอะไรไม่ได้เสียแล้ว แล้วในเวลานั้น ก็เผอิญกับที่แม่หนูกับลูก ๆของมันได้เดินทางผ่านมาทางนั้นเข้าพอดิบพอดี ...
- 7. แม่หนูจำราชสีห์ได้ " ท่านราชสีห์ผู้ใจดี ได้โปรดรอสักครู่ ข้าพเจ้าจะ ตอบแทนพระคุณที่ท่านได้ช่วยไว้เมื่อครั้งก่อน โดยจะช่วยท่านให้พ้น จากตะข่ายเดียวนี้แหละ " ว่าแล้วแม่หนูก็ใช้ฟันอันแข็งแรงที่มันมีเป็นความ สามารถอันวิเศษเหนือใคร ๆ แทะเชือกที่เป็นตะข่ายอันนั้นให้เป็นการใหญ่ ... แล้วมันยังได้สั่งพวกลูก ๆของมันว่า " พวกเจ้าจงดูแม่เป็นตัวอย่าง อย่างนี้ แล้วปีนขึ้นมาช่วยกันแทะเชือกให้ขาดจากกันเร็ว ๆ " ลูก ๆ ของมัน มองอย่างนึกเกรงกลัวความเหนียวของเชือก แต่ก็ได้ร่วมมือกันปีนขึ้นไป แล้วช่วยกันแทะเชือกให้
- 8. นั่นนายพรานป่ากำลังเดินมาทางโน้นแล้วนั่น ... เร็ว ๆพวกเรารีบ ๆ ช่วยกัน " แล้วก็จริงอย่างที่แม่หนูได้พูดเพราะที่ไกลออกไปตรงลิบ ๆนั้นนายพรานป่า ได้ถือปืนและกำลังเดินมาอย่างรวดเร็ว ... และก็พอดีกับในเวลานั้น ที่เชือก ได้ขาดออกจากกัน ทำให้ราชสีห์ตกลงมาสู่พื้นดินและได้เป็นอิสระอีกครั้งหนึ่ง " ขอบคุณเป็นอย่างมากพวกหนูใจดีทั้งหลาย เราไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า สัตว์ที่มีตัวเล็ก ๆอย่างพวกท่านจะมีความตั้งใจสูงตอบแทนพระคุณ ได้อย่างที่เคยบอก เราต้องขอโทษที่แต่ก่อนนั้น ไม่เชื่อว่าท่านจะช่วยเราได้ " เมื่อมันพูด ขอบคุณและขอโทษเสร็จแล้ว ก็รีบวิ่งหนีหายไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ....
- 9. นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถึงแม้ว่าจะตัวเล็กมีพลังแค่เพียงน้อยนิดก็ตาม แต่ถ้าให้ความร่วมมือร่วมพลังกันแล้ว มันก็สามารถที่จะเปลี่ยนมาเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ได้อยู่เหมือนกัน ...