SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  9
Télécharger pour lire hors ligne
1                                            วารสารการอาชีวะและเทคนิคศึกษา ปี ที่ 1 ฉบับที่   1   มกราคม - มิถุนายน   2554




                                วารสารการอาชีวะและเทคนิคศึกษา 
                                ปี ที่ 1 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม 2554
                                Journal of Vocational and Technical Education (JVTE)
                                Volume 1 Number 2 July – December 2011         ISSN 2229-1806
ดําเนินการโดย
        ศูนย์วิจยเทคโนโลยีทางอาชีวศึกษา สํานักวิจยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
                          ั                      ั
        มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
สนับสนุนการดําเนินการโดย
        สมาคมศิษย์เก่าครุ ศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
บรรณาธิการที่ปรึกษา
        ศาสตราจารย์ ดร.ธีรวุฒิ บุญยโสภณ
        รองศาสตราจารย์ ดร.สุ เทพ บุตรดี
        รองศาสตราจารย์ชาลี ตระกูลการ
        ผูช่วยศาสตราจารย์ ดร.พนาฤทธิ์ เศรษฐกุล
          ้
        ผูช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชัยยพล ธงชัยสุรัชต์กล
            ้                                      ู
บรรณาธิการ
        ผูช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปรัชญนันท์ นิลสุ ข
              ้
กองบรรณาธิ การ
        ผูช่วยศาสตราจารย์ ดร.รัชดากร พลภักดี
                ้                                        สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
        ผูช่วยศาสตราจารย์ ดร.พัลลภ พิริยะสุรวงศ์
                  ้                                      มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
        ผูช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณมน จีรังสุวรรณ
                    ้                                    มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
        ดร.ปณิ ตา วรรณพิรุณ                              มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
        ดร.ชัยวิชิต เชียรชนะ                             มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
        ดร.สุ รพล บุญลือ                                 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
        ดร.จินตนา กาญจนวิสุทธิ์                          มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
        ดร.ดุสิต ขาวเหลือง                               มหาวิทยาลัยบูรพา
        ดร.อนันท์ งามสะอาด                               วิทยาลัยเทคนิคศรี สะเกษ
        ดร.ชนิษฐา จงพิพฒน์วณิ ชั                         วิทยาลัยการอาชีพกาญจนบุรี
        ดร.อภิชาติ อนุกลเวช  ู                           วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี
        ดร.เอื้ออารี ย ์ สุ ขสมมิต                       วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุพรรณบุรี
        ดร. แพรวพรรณ บุญฤทธิ์มนตรี                       วิทยาลัยสารพัดช่างสี่ พระยา
        ดร.เสน่ห์ คําแพง                                 บริ ษททีโอที จํากัด (มหาชน)
                                                              ั
        ดร.สมสุ ข แขมคํา                                 มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
        ผูช่วยศาสตราจารย์จิตรกร ผดุง
                      ้                                  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุ งเทพ
        ผูช่วยศาสตราจารย์โกวิท ยอดมงคล
                        ้                                มหาวิทยาลัยนครพนม
43                                                  วารสารการอาชีวะและเทคนิคศึกษา ปี ที่ 1 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม                     2554




                                   การเรียนแบบผสมผสาน จากแนวคิดสู่ การปฏิบัติ
                                    Blended Learning: Principles into Practice

                                                              ปณิตา วรรณพิรุณ 1



1 บทนํา                                                                     ต้องเป็ นผูคิด ตัดสิ นใจเลื อกเนื้ อหาในการเรี ยน การจัดลําดับ
                                                                                           ้
          เทคโนโลยี ส ารสนเทศและการสื่ อ สาร (Information                   การเรี ยนรู ้ การควบคุมเส้นทางในการเรี ยนและการนําเสนอ
and Communications Technology: ICT) ที่ได้รับการพัฒนาให้                    ผลงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผูเ้ รี ยนกับผูสอน ผูเ้ รี ยนกับผูเ้ รี ยน
                                                                                                                             ้
มีประสิ ทธิภาพมากยิงขึ้นถูกนํามาใช้เป็ นเครื่ องมือในการพัฒนา
                           ่                                                ผูเ้ รี ยนกับ เนื้ อ หา และผู ้เ รี ยนกับ สิ่ ง แวดล้อ มในเรี ยนรู ้ ซึ่ ง
และสนับ สนุ น การจัด การศึ ก ษามากขึ้ น ทุ ก ขณะ การจัด การ                 ก่อให้เกิดบรรยากาศของการแลกเปลี่ยนเรี ยนรู ้ร่วมกับระหว่าง
ศึกษาจึงต้องปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ รู ปแบบ เทคนิคและวิธี                    ผูเ้ รี ยน
การสอนเพื่ อ ให้ ส นองตอบต่ อ การพัฒ นาทรั พ ยากรมนุ ษ ย์                               แม้ว่ า การจัด การเรี ยนการสอนบนเว็บจะได้รับ ความ
และการแข่ ง ขัน ของประเทศทั้ง ด้า นความก้า วหน้าทางด้า น                    นิ ยมอย่างรวดเร็ ว แต่ก็ยงพบปั ญหาในการออกแบบการเรี ยน
                                                                                                            ั
เทคโนโลยี การปรั บตัวต่ อการกระจายความรู ้ การเชื่ อมโยง                    การสอนบนเว็บ เนื่ อ งจากการจัด การเรี ย นการสอนบนเว็บ
ข้อ มู ล ความรู ้ ต่ า งๆ ที่ เ ชื่ อ มถึ ง กัน ทั่ว โลก การนํา เทคโนโลยี   ไม่เหมาะสมกับรู ปแบบการเรี ยน (learning style) และรู ปแบบ
สารสนเทศและการสื่ อสารมาใช้ ใ นการจั ด การศึ ก ษานั้ น                      การคิด (cognitive style) ของผูเ้ รี ยนทุกรู ปแบบ เนื่องจากการ
สามารถทําได้หลายรู ปแบบ ตั้งแต่ การนําคอมพิวเตอร์ มาใช้                     เรี ยนการสอนบนเว็บแตกต่างไปจากการสอนในชั้นเรี ยนแบบ
เป็ นอุปกรณ์ในการเรี ยนการสอน การนําบริ การต่างๆ ในระบบ                     ดั้งเดิ ม คุณภาพของการสอนไม่ ได้ข้ ึ นอยู่กบสื่ อการเรี ยนการ
                                                                                                                               ั
เครื อข่ า ยอิ น เทอร์ เ น็ ต โดยเฉพาะเวิ ล ด์ไ วด์เ ว็บมาพัฒ นาเป็ น       สอนและรู ป แบบการสอนที่ ใช้ แต่ ยง รวมถึ ง ความตั้ง ใจที่ จ ะ
                                                                                                                          ั
สื่ อการสอนในทุ กระดับ การศึ กษา และการจัดการเรี ยนการ                      เรี ยนให้สําเร็ จของผูเ้ รี ยนด้วย การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผูเ้ รี ยน
สอนเป็ นการเรี ยนผ่านระบบอิเล็กทรอนิ กส์โดยใช้เทคโนโลยี                     และผูสอน การให้ผลย้อนกลับโดยทันทีและความสัมพันธ์ใน
                                                                                      ้
อิ น เทอร์ เ น็ ต เป็ นสื่ อ กลางในการติ ด ต่ อ ระหว่ า งผู ้เ รี ยนและ     รู ปแบบที่แตกต่างกันของการเรี ยนรู ้และกิจกรรมการเรี ยนรู ้ จะ
ผูสอน ผูเ้ รี ยนสามารถเรี ยนได้โดยไม่มีขอจํากัดในเรื่ องเวลา
    ้                                                   ้                   เห็นได้ว่าการเรี ยนการสอนบนเว็บไม่เหมาะในทุกสถานการณ์
และสถานที่ (anytime anywhere) เป็ นการสร้างโอกาสและ                         หรื อผูเ้ รี ยนทุกคน [3, 6] ส่ วนการจัดการเรี ยนการสอนในห้อง
ความเสมอภาคในการเรี ยนรู ้ ใ ห้แ ก่ ผูเ้ รี ยน ผู ้เ รี ยนสามารถ            เรี ยนแบบบรรยายในห้องเรี ยนแบบดั้งเดิ มนั้นไม่เอื้อให้ผูเ้ รี ยน
แลกเปลี่ ย นเรี ยนรู ้ แ ละส่ ง ข่ า วสารถึ ง กั น ได้ อ ย่ า งรวดเร็ ว     คิดเป็ น ทําเป็ น แก้ปัญหาเป็ น การเรี ยนการสอนมุ่งเน้นการ
ก่ อ ให้ เ กิ ด สั ง คมแห่ ง การเรี ยนรู ้ ใ นการเรี ยนผ่ า นระบบ           ท่องจํามากกว่าการเน้นให้ผูเ้ รี ยนได้คิด ได้ลงมือปฏิ บติเรี ยนรู ้
                                                                                                                                          ั
อิเล็กทรอนิ กส์ ผูเ้ รี ยนจะเปลี่ ยนบทบาทจากผูเ้ รี ยนที่ รับ การ           ด้ว ยตนเอง ผูเ้ รี ย นแหล่ ง ข้อ มู ลในการแสวงหาความรู ้ ขาด
ถ่ายทอดความรู ้จากผูสอน (passive learner) เป็ นผูเ้ รี ยนที่มี
                             ้                                              ปฏิ สัม พันธ์กับ เพื่อ น ผูสอน ชุ ม ชนและสิ่ งแวดล้อม เพราะ
                                                                                                          ้
ความกระตือรื อร้นในการเรี ยนรู ้ (active learner) โดยผูเ้ รี ยนจะ           การศึ ก ษาที่ เ น้น การฟั ง บรรยายภายใต้ก รอบอัน จํา กัด ของ

1
    อาจารย์ประจําภาควิชาครุ ศาสตร์เทคโนโลยี คณะครุ ศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
วารสารการอาชีวะและเทคนิคศึกษา ปี ที่ 1 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม              2554                                                  44



ห้องเรี ยน ทําให้เป็ นตัวขัดขวางการพัฒนาศักยภาพผูเ้ รี ยนและ           ที่ ห ลากหลายในการเรี ยน และสอดคล้อ งกับ แนวคิ ด ของ
การเรี ยนรู ้ ร่ว มกันกับผูอื่น ทําให้ผูเ้ รี ยนขาดทักษะการติ ด ต่ อ
                           ้                                           Carman [4] ที่ ก ล่ าวว่า การเรี ย นแบบผสมผสานเป็ นการ
สื่ อสารและขาดมนุษย์สัมพันธ์ [1]                                       ผสมผสานทฤษฎี ก ารเรี ย นรู ้ เ ข้า ด้ว ยกัน เพื่ อ ให้บ รรลุ ผ ลตาม
         การแก้ปัญหาข้อจํากัดของการเรี ยนบนเว็บและการเรี ยน            วัตถุประสงค์ของการจัดการเรี ยนรู ้
ในห้องเรี ยนดังกล่าวข้างต้นสามารถทําได้โดยการปรับเปลี่ยน
รู ปแบบจากการเรี ยนบนเว็บหรื อการเรี ยนในห้องเรี ยนอย่างใด
อย่างหนึ่ งแต่ เพียงอย่างเดี ยว เป็ นรู ปแบบการเรี ยนการสอนที่
ผสมผสานการเรี ยนบนเว็บและการเรี ยนในห้องเรี ยนเข้าด้วยกัน
โดยการนําเอาจุดแข็งของการเรี ยนในห้องเรี ยนมารวมกับข้อดี
ของการเรี ยนบนเว็บ ซึ่งเป็ นรู ปแบบการจัดการเรี ยนการสอนที่
เป็ นทางเลือกใหม่สําหรับการจัดการศึกษาทุกระดับโดยเฉพาะ
การจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษา
                                                                        ภาพที่ 1 การผสมผสานทฤษฎีการเรี ยนรู ้ตามแนวคิดของ Carman [4]
2 แนวคิดของการเรียนแบบผสมผสาน
         เมื่ อ กล่ า วถึ ง แนวคิ ด ของการเรี ยนแบบผสมผสาน                        3) แนวคิดการผสมผสานเทคโนโลยีการเรี ยนการสอน
สามารถแบ่งออกเป็ น 4 แนวคิดด้วยกัน ได้แก่ [5]                          ทุ ก รู ป แบบกับ การเรี ย นการสอนในชั้น เรี ย นแบบดั้ง เดิ ม ที่ มี
         1) แนวคิดผสมผสานเทคโนโลยีการเรี ยนการสอนบน                    การเผชิญหน้าระหว่างผูเ้ รี ยนกับผูสอน (to combine any form
                                                                                                          ้
เว็บกับการเรี ยนในชั้นเรี ยนแบบดั้งเดิม (to combine or mix             of instructional technology with face-to-face instructor-led
modes of web-based technology) เช่น การเรี ยนในห้องเรี ยน              training) ซึ่ งเป็ นมุมมองที่มีผยอมรับกันอย่างแพร่ หลายมาก
                                                                                                       ู้
เสมื อนแบบการเรี ย นด้ว ยตนเอง การเรี ย นรู ้ ร่ ว มกัน วิ ดี โ อ      ที่สุด ซึ่ งสอดคล้องกับ Uwes [12] ที่กล่าวว่าการเรี ยนแบบ
สตรี มมิ่ง เสี ยง และข้อความ เป็ นต้น เพือให้บรรลุตามเป้ าหมาย
                                          ่                            ผสมผสานเป็ นการบูรณาการการเรี ยนแบบเผชิญหน้า การเรี ยน
ของการจัดการศึกษา ซึ่ งสอดคล้องกับแนวคิดของ Singh [7]                  ด้วยตนเอง และการเรี ยนแบบร่ วมมือแบบออนไลน์เข้าด้วยกัน
ที่ให้นิยามของการเรี ยนแบบผสมผสานไว้ว่า เป็ นเรี ยนโดยใช้
การผสมผสานวิธีสอนที่ หลากหลายเข้าด้วยกันเพื่อให้ผูเ้ รี ยน
เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการเรี ยนสูงสุด
         2) แนวคิดการผสมผสานวิธีสอนที่หลากหลายเข้าด้วย
กัน (to combine various pedagogical approaches) เช่น แนวคิด
สร้ างสรรค์นิย ม (constructivism) แนวคิด พฤติ กรรมนิ ย ม
(behaviorism) และแนวคิดพุทธิ นิยม (cognitivism) เพื่อให้ได้
ผลลัพธ์จากการเรี ยนที่ดีที่สุด ซึ่ งอาจใช้หรื อไม่ใช้เทคโนโลยี
เทคโนโลยีการสอน (instructional technology) ก็ได้ ซึ่ งสอด                   ภาพที่ 2 การเรี ยนแบบผสมผสาน ตามแนวคิดของ Uwes [12]
คล้องกับแนวคิดของ Bonk and Graham [3] ที่กล่าวว่าการเรี ยน
แบบผสมผสานเป็ นการผสมผสานระบบการเรี ย น (learning
systems) ที่ หลากหลายเข้าด้ว ยกันเพื่ อเป็ นการแก้ปัญ หา
45                                                      วารสารการอาชีวะและเทคนิคศึกษา ปี ที่ 1 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม                  2554



           4) แนวคิดการผสมผสานเทคโนโลยีการเรี ยนการสอน                       สอนแบบออนไลน์และการเรี ยนการสอนแบบเผชิ ญหน้า เพื่อ
กับการทํางานจริ ง (to mix or combine instructional technology                ตอบสนองต่อความแตกต่างระหว่างบุคคลของผูเ้ รี ยน โดยมีจุด
with actual job tasks in order to create a harmonious effect of              มุ่งหมายเพื่อให้ผูเ้ รี ยนทุกคนสามารถบรรลุเป้ าหมายของการ
learning and working) ซึ่งสอดคล้องกับ Bersin [2] ที่กล่าวว่า                 จัดการเรี ยนการสอน
การเรี ย นแบบผสมผสานเป็ นส่ ว นหนึ่ ง ของการฝึ กอบรมใน
องค์กร เป็ นการผสมผสานการเรี ยนผ่านระบบอิเล็กทรอนิ กส์                       4 องค์ ประกอบของการจัดการเรียนแบบผสมผสาน
และสื่ ออื่นๆ ในการส่ งผ่านความรู ้ในการเรี ยนและการฝึ กอบรม                           การเรี ยนแบบผสมผสาน แบ่งองค์ประกอบออกเป็ น 12
           จากแนวคิ ด การจั ด การเรี ยนการสอนบนเว็ บ แบบ                     กลุ่ม โดยจัดเป็ น 2 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ องค์ประกอบ
ผสมผสานที่ กล่าวมาข้างต้นสามารถสรุ ปได้ว่า การเรี ยนแบบ                      ออฟไลน์ 6 กลุ่ ม และองค์ป ระกอบออนไลน์ 6 กลุ่ ม ดังนี้
ผสมผสาน เป็ นรู ปแบบการเรี ยนที่มุ่งเน้นการจัดกิจกรรมการ                     [10, 11]
เรี ยนการสอนโดยการสร้างสิ่ งแวดล้อมและบรรยากาศในการ                                    1. องค์ประกอบออฟไลน์ (offline) ประกอบด้วย 6
เรี ยนรู ้ วิธีการสอนของผูสอน รู ปแบบการเรี ยนรู ้ ผูเ้ รี ยน สื่ อ
                             ้                                               กลุ่ม ได้แก่
การเรี ยนการสอน ช่องทางการสื่ อสาร และรู ปแบบปฏิสัมพันธ์                                   1.1. การเรี ยนในที่ทางาน (workplace learning)
                                                                                                                   ํ
ระหว่างผูเ้ รี ยนกับ ผูสอน ผูเ้ รี ยนกับผูเ้ รี ย น ผูเ้ รี ยนกับ เนื้ อหา
                        ้                                                                  1.2. ผูส อน ผูช้ ี แนะ หรื อ ที่ ป รึ ก ษาในห้อ งเรี ยน
                                                                                                    ้         ้
ผูเ้ รี ยนกับบริ บทในการเรี ยนรู ้ ที่หลากหลาย และจัดกิ จ กรรม               แบบเผชิญหน้า (face-to-face tutoring, coaching or mentoring)
การเรี ยนการสอนที่เน้นความยืดหยุ่น เพื่อตอบสนองต่อความ                                     1.3. ห้องเรี ยนแบบดั้งเดิม (classroom)
แตกต่ างระหว่ างบุ คคลของผูเ้ รี ย นเพื่ อให้ผูเ้ รี ย นแต่ ล ะคนได้                       1.4. สื่ อสิ่ งพิมพ์ (distributable print media)
ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการเรี ยนการสอน                                                       1.5. สื่ ออิเล็กทรอนิ กส์ (distributable electronic
           นักเทคโนโลยีทางการศึกษา นักวิชาการ และสถาบัน                      media)
การศึ กษาต่ างๆ ใช้คาที่ มีความหมายถึ ง การจัด การเรี ย นแบบ
                          ํ                                                                1.6. สื่ อวิ ท ยุ ก ระจายเสี ยงและวิ ท ยุ โ ทรทั ศ น์
ผสมผสานไว้หลายคํา เช่ น Blended Learning, Hybrid                             (broadcast media)
Learning, Flexible Learning, Integrated Learning, Multi-                               2. องค์ประกอบออนไลน์ (online) ประกอบด้วย 6
method Learning, Mixed Mode Learning ซึ่ งล้วนแล้วแต่เป็ น                   กลุ่ม ได้แก่
คํา ที่ ห มายถึ ง รู ปแบบการเรี ยนที่ มี ค วามยื ด หยุ่ น และมี ก าร                       2.1. เนื้อหาการเรี ยนบนเครื อข่าย (online learning
ผสมผสานการเรี ยนผ่านสื่ อ ช่ องทางและวิธีการสอนที่ หลาก                      content)
หลาย คําที่หมายถึ งการจัดการเรี ยนแบบผสมผสานได้มีผูให้                  ้                  2.2. ผูสอนอิเล็กทรอนิกส์, ผูช้ ีแนะอิเล็กทรอนิกส์
                                                                                                      ้                       ้
การยอมรับมากที่สุดคือคําว่า “Blended Learning” ในบทความ                      หรื อที่ ปรึ กษาอิเล็กทรอนิ กส์ (e-tutoring, e-coaching or
นี้จึงใช้คาว่า “Blended Learning” และใช้คาแปลในภาษาไทย
            ํ                                      ํ                         e-mentoring)
ว่า “การเรี ยนแบบผสมผสาน”                                                                  2.3. การเรี ยนรู ้ ร่ วมกั น แบบออนไลน์ (online
                                                                             collaborative learning)
3 การเรียนแบบผสมผสานคืออะไร                                                                2.4. การจั ด การความรู ้ แ บบออนไลน์ (online
       การเรี ยนแบบผสมผสาน (Blended Learning) หมายถึง                        knowledge management)
รู ปแบบการเรี ยนที่ผสมผสานยุทธวิธีในการเรี ยนการสอนเข้า                                    2.5. เว็บไซต์ (the web)
ด้วยกัน โดยใช้สื่อการเรี ยนการสอน กิจกรรมการเรี ยนการสอน                                   2.6. การเรี ยนผ่ า นอุ ป กรณ์ เ คลื่ อ นที่ แ บบไร้ ส าย
และรู ปแบบการเรี ยนการสอนที่ หลากหลายทั้งการเรี ยนการ                        (mobile learning)
วารสารการอาชีวะและเทคนิคศึกษา ปี ที่ 1 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม                    2554                                                             46



5 การออกแบบระบบการเรียนแบบผสมผสาน                                                          1.3. วิเคราะห์ความต้องการของผูเ้ รี ยน การวางแผน
           ในการออกแบบการเรี ยนการสอนแบบผสมผสานให้                          การนําไปใช้ การทดสอบ และการประเมินผล
ประสบผลสํ า เร็ จ ในการจัด การเรี ย นรู ้ น้ ัน นัก ออกแบบการ                              1.4. การวิ เ คราะห์แ ผนงาน กระบวนการทํางาน
เรี ยนการสอน (instructional designer) ต้องคํานึงถึงจุดประสงค์               การนําไปใช้ในภาพรวม เพื่อนําไปสู่ การสสร้ างวงจรในการ
                      ํ
ของการเรี ยนที่กาหนดไว้ ระยะเวลาในการเรี ยน รวมถึงความ                      พัฒนาและปรับปรุ งรู ปแบบกระบวนการทํางานที่วางไว้
แตกต่างของรู ปแบบการเรี ยนรู ้ และรู ปแบบการคิดของผูเ้ รี ยน                               1.5. การวิเคราะห์ความต้องการขององค์กร
เพื่อใช้เป็ นข้อมูลพื้นฐานในการออกแบบกิจกรรมการเรี ยนการ                              2. ขั้นการออกแบบ ประกอบด้วย
สอน การออกแบบบทเรี ยน และการประเมินผลการเรี ยน                                             2.1 กําหนดจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ (objectives)
           จากจุ ดเด่นของการเรี ยนการสอนแบบผสมผสานที่ทา                 ํ                  2.2 การออกแบบให้ต อบสนองต่ อความแตกต่ าง
ให้ความสัมพันธ์และปฏิสัมพันธ์ระหว่างผูเ้ รี ยนกับผูสอนและ       ้           ระหว่างบุคคลของผูเ้ รี ยน (personalization)
เพื่อนผูเ้ รี ยนคนอื่นๆ ทําให้ผเู ้ รี ยนและผูสอนใกล้ชิดกันมากขึ้น
                                              ้                                            2.3 ก า ร อ อ ก แ บ บ ป ร ะ เ ภ ท ข อ ง ก า ร เ รี ย น รู ้
ทําให้ผูเ้ รี ยนสามารถแลกเปลี่ ยนประสบการณ์ระหว่างกันได้                    (taxonomy)
โดยสะดวก สามารถเข้าใจเพื่อนร่ วมชั้นเรี ยนและเคารพเพื่อน                                   2.4 การออกแบบบริ บทที่เกี่ยวข้อง (local context )
ร่ วมชั้นเรี ยนมากขึ้ น ส่ งผลให้ผูเ้ รี ย นมี ความมันใจในตนเอง
                                                          ่                 ได้แก่ บ้าน การทํางาน (on-the-job) การฝึ กปฏิบติ (practicum)ั
มากขึ้น นอกจากนี้ผเู ้ รี ยนยังได้รับผลป้ อนกลับจากการเรี ยนได้             ห้ อ ง เ รี ย น / ห้ อ ง ป ฏิ บั ติ ก า ร แ ล ะ ก า ร เ รี ย น รู ้ ร่ ว ม กั น
โดยทันที ซึ่งเป็ นการส่ งเสริ มพัฒนาการในการเรี ยนของผูเ้ รี ยน             (collaboration)
แต่ ล ะคนให้เ ต็ ม ตามศัก ยภาพที่ ผูเ้ รี ย นแต่ ล ะคนมี มี ผูเ้ สนอ                       2.5 การออกแบบผูเ้ รี ยน (Audience) ได้แก่ การ
แนวทางในการออกแบบบทเรี ยนบนเว็บแบบผสมผสาน ดังนี้                            เรี ยนด้วยการนําตนเอง (self-directed) การเรี ยนแบบเพื่อนช่วย
           The Training Place [9] เสนอแนวทางในการพัฒนา                      เพื่ อ น (peer-to-peer) การเรี ย นแบบผูฝึ กสอนและผูเ้ รี ย น
                                                                                                                               ้
รู ป แบบการจัดการเรี ยนการสอนบนเว็บแบบผสมผสาน โดย                           (trainer-learner) และการเรี ยนแบบผูให้คาปรึ กษากับผูเ้ รี ยน
                                                                                                                            ้ ํ
พัฒ นาจากรู ปแบบการออกแบบระบบการเรี ยนการสอน                                (mentor-learner)
ADDIE ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ดังนี้                                                     3. ขั้นการพัฒนา
           ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์และการวางแผน (Analysis and                           การพัฒนาการเรี ย นแบบผสมผสาน ประกอบด้ว ย 3
Planning)                                                                   องค์ประกอบ ดังนี้
           ขั้นที่ 2 การออกแบบ (Design Solutions)                                          3.1 อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ แ บ บ ไ ม่ ผ ส า น เ ว ล า
           ขั้นที่ 3 การพัฒนา (Development)                                 (asynchronous) ได้แ ก่ ไปรษณี ย อิเล็ก ทรอนิ กส์ กระดาน
                                                                                                                         ์
          ขั้นที่ 4 การนําไปใช้ (Implementation)                            ข้อความ เวทีเสวนาและการสนทนาแบบปฏิสัมพันธ์ เครื่ องมือ
          ขั้นที่ 5 การประเมินผล (Evaluation)                               ที่ ใช้องค์ความรู ้ เป็ นฐาน ระบบอิเล็กทรอนิ กส์ เพื่อสนับสนุ น
          1. ขั้นวิเคราะห์และการวางแผน ประกอบด้วย                           การเรี ยน (EPSS) ระบบบริ หารจัดการเนื้ อหาเรี ยนรู ้ ระบบ
                1.1. การวิเคราะห์ผูเ้ รี ยน การปฏิ บติ การ องค์กร
                                                        ั                   บริ หารจัดการเรี ยนรู ้ เครื่ องมื อนิ พนธ์เว็บ บราวเซอร์ ระบบ
รู ปแบบการเรี ยน และความต้องการของระบบ เพื่อใช้ในการ                        ติดตามความก้าวหน้าของผูเ้ รี ยน บทความ เว็บฝึ กอบรม การ
พัฒนาหลักสูตร                                                               ติดตามงานที่มอบหมาย การทดสอบ การทดสอบก่อนเรี ยน
                1.2. วิ เ คราะห์ ท รั พ ยากรที่ ส นั บ สนุ น ต่ อ การจั ด   การสํารวจ การชี้ แนะแบบมีส่วนร่ วม เครื่ องมืออํานวยความ
กิจกรรมการเรี ยน                                                            สะดวกในการเรี ยนรู ้ และการประชุ มที่มีการบันทึกเสี ยงและ
                                                                            ฟังซํ้าได้
47                                                วารสารการอาชีวะและเทคนิคศึกษา ปี ที่ 1 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม               2554



            3.2 องค์ประกอบแบบผสานเวลา (synchronous)                  แบบยืดหยุ่น และมีความหลากหลาย เพื่อให้ให้สอดคล้องกับ
ได้แ ก่ การประชุ ม ผ่ า นเสี ย ง การประชุ ม ผ่า นวี ดี ท ัศ น์ การ   วิธีการเรี ยน รู ปแบบการเรี ยนรู ้ รู ปแบบการคิด ความสามารถ
ประชุมผ่านดาวเทียม ห้องปฏิบติการแบบออนไลน์ ห้องเรี ยน
                                          ั                          ในการเรี ย นรู ้ และบุ ค ลิ ก ภาพของผูเ้ รี ย นแต่ ล ะคน เพื่ อ ให้
เสมื อ น การประชุ ม ผ่า นระบบออนไลน์ และการอภิ ป ราย                 ผูเ้ รี ยนที่มีความแตกต่างกันเกิดการเรี ยนรู ้ ได้อย่างเท่าเทียมกัน
ออนไลน์                                                              ตามศักยภาพของตนเอง
            3.3 องค์ป ระกอบแบบเผชิ ญ หน้า (Face-to-Face)                        2. ปั จจัยด้านเนื้อหา (content)
ได้แก่ ห้องเรี ยนแบบดั้งเดิ ม ห้องปฏิ บติก าร การเผชิ ญหน้า
                                                  ั                             เนื่องจากเนื้ อหาที่ใช้ในการเรี ยนการสอนมีความความ
การประชุ ม การเรี ย นแบบเพื่ อนช่ ว ยเพื่อน มหาวิ ทยาลัย ที่         แตกต่างกัน ดังนั้นนักออกแบบการเรี ยนการสอนควรออกแบบ
ปรึ กษา กลุ่มผูเ้ ชี่ยวชาญ ทีมสนับสนุน และการแนะนําในการ             กิ จ กรรมการเรี ย นให้ส อดคล้อ งกับ ลัก ษณะเนื้ อ หา เพื่ อ ให้
เรี ยน                                                               ผูเ้ รี ยนเกิดการเรี ยนรู ้ได้ดีที่สุด เนื้อหาที่เหมาะสมกับการเรี ยน
        4. ขั้นการนําไปใช้                                           แบบออนไลน์ คือ เนื้ อหาที่มีระดับความยากไม่มากนัก และ
        ในการนําระบบการเรี ยนการสอนบนเว็บแบบผสมสาน                   เนื้อหาที่เหมาะสมกับการเรี ยนในห้องเรี ยน คือ เนื้อหาที่มีความ
ไปใช้ ต้องกําหนดประเด็นแนวทางการนําไปใช้ การวางแผน                   ซับซ้อน ต้องการคําอธิ บายเพื่อความกระจ่างในการเรี ยนจาก
การนําไปใช้ การวางแผนการใช้เทคโนโลยี และการวางแผน                    ผูสอน และการฝึ กปฏิบติการ
                                                                        ้                         ั
ในประเด็นอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องให้ชดเจน เพื่อให้ผูที่เกี่ยวข้อง
                                              ั          ้                      3. ปั จจัยด้านระบบโครงข่ายพื้นฐาน (infrastructure)
กับ การนํา ระบบการเรี ย นการสอนบนเว็บ แบบผสมสานไป                               เนื่องจากความสามารถในเข้าถึงระบบการจัดการเรี ยนรู ้
ใช้ ได้แ ก่ ผูเ้ รี ย น เพื่ อ นร่ ว มเรี ย น ผูส อน และสถาบันการ
                                                ้                    บนเว็บแบบผสมผสานที่ แตกต่ างกัน นักออกแบบการเรี ย น
ศึกษา เกิ ดการยอมรั บและมี ความเข้าใจที่ ถูกต้อง เพื่อให้การ         การสอนควรออกแบบบทเรี ยนโดยคํานึ งถึงความสามารถของ
จัดการเรี ยนการสอนบนเว็บแบบผสมผสานบรรลุเป้ าหมายที่                  ระบบโครงข่ายพื้นฐาน ประกอบด้วย ความเสถียรของระบบ
กําหนดไว้                                                            การเชื่อมต่อกับระบบเครื อข่าย ความเร็ วในการส่ งผ่าน รับและ
        5. ขั้นประเมินผล                                             ส่งข้อมูล รู ปแบบของสื่ อสําหรับบทเรี ยนบนเว็บ เป็ นต้น
        การวัดและการประเมินผลสําหรับการจัดการเรี ยนการ
สอนบนเว็บ แบบผสมสาน ทํา โดยการประเมิ น ผลสั ม ฤทธิ์                  7 องค์ ประกอบของการจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน
ทางการเรี ยน (achieve objectives) ของผูเ้ รี ยนโดยเทียบกับ                      รู ปแบบการจัดการเรี ยนการสอนแบบผสมผสาน ควร
เกณฑ์มาตรฐาน รวมถึงการประเมิ นงบประมาณค่าใช้จ่ายใน                   ประกอบด้วยองค์ประกอบที่มีการผสมผสานระหว่างการเรี ยน
การพัฒนาระบบการเรี ยนการสอน                                          แบบออนไลน์ แ ละการเรี ยนในห้ อ งเรี ยนแบบดั้งเดิ ม ซึ่ ง
                                                                     ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบดังนี้ [4]
6 ปัจจัยสํ าคัญในการออกแบบระบบการเรียนการสอนบนเว็บ                              1. เหตุการณ์สด (live events)
แบบผสมผสาน                                                                      ควรจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ที่นาโดยผูสอน การบรรยาย
                                                                                                              ํ     ้
        ปั จจัยสําคัญที่ ควรคํานึ งถึ งในการออกแบบระบบการ            ในชั้นเรี ยนแบบดั้งเดิม การประชุมผ่านระบบวีดิทศน์ และการ
                                                                                                                        ั
เรี ยนการสอนแบบผสมผสานให้ป ระสบผลสําเร็ จ ประกอบ                     สนทนาแบบประสานเวลา โดยเน้น กิ จ กรรมและรู ป แบบ
ด้วย 4 ปั จจัย คือ [4]                                               ปฏิ สั ม พัน ธ์ แ บบประสานเวลา ตามรู ป แบบของห้ อ งเรี ยน
        1. ปั จจัยด้านผูเ้ รี ยน (audience)                          เสมือน (virtual classroom) เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเรี ยนของ
        เนื่ องจากความแตกต่ างระหว่างบุ คคลของของผูเ้ รี ยน          ผูเ้ รี ยนตามรู ปแบบ ARCS (ARCS Model of Motivation) ของ
นักออกแบบการเรี ยนการสอนควรออกแบบบทเรี ยนให้มีรูป                    John Keller คือต้องออกแบบเพื่อส่ งเสริ มให้ผูเ้ รี ยนเกิดความ
วารสารการอาชีวะและเทคนิคศึกษา ปี ที่ 1 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม                2554                                                  48



รู ้สึก 4 ประการ คือ ความตั้งใจ (Attention) ความสัมพันธ์ท่ี              สําคัญในการส่ งผ่านความรู ้ การเก็บ การจดจํา การถ่ายโอน
เกี่ยวข้อง (Relevance) ความมันใจ (Confidence) และความพึง
                                        ่                                ความรู ้และการค้นคืนความรู ้ของผูเ้ รี ยน
พอใจ (Satisfaction)
          2. การเรี ยนตนเอง (Self-Paced Learning) / เนื้อหาการ           8 บทสรุป
เรี ยนแบบออนไลน์ (online content)                                                 การเรี ยนบนเว็บแบบผสานสาน เป็ นการจัดกิ จกรรม
          ควรจัดกิจกรรมการจัดการเรี ยนการสอนและออกแบบ                    การเรี ย นการสอนที่ บู ร ณาการการเรี ย นออนไลน์ ผ่า นระบบ
เนื้ อหาให้สอดคล้องกับประสบการณ์ ในการเรี ยนของผูเ้ รี ยน                เครื อข่ายและการเรี ยนในห้องเรี ยนแบบดั้งเดิมที่มีการเรี ยนแบบ
เพื่ อ ให้ ผู ้เ รี ยนได้ เ รี ยนด้ ว ยตนเองตามความสามารถส่ ว น          เชิ ญ หน้า เข้า ด้ว ยกัน โดยใช้สิ่ ง อํา นวยผ่า นระบบเครื อข่ า ย
บุคคล ด้วยอัตราเร็ วในการเรี ยนและระยะเวลาที่เรี ยนตามความ               อิ น เทอร์ เ น็ ต เป็ นสื่ อ ช่ อ งทาง และเครื่ องมื อ ในบริ บ ทของ
พึงพอใจของผูเ้ รี ยนแต่ละคน เครื่ องมือที่ใช้ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต        สภาพแวดล้อ มในการเรี ยนออนไลน์ ผ่ า นระบบเครื อข่ า ย
เว็บช่วยสอน และซี ดีรอมเพื่อการสอน เป็ นต้น โดยออกแบบ                    (online learning environment) เพื่อสนับสนุนการจัดการเรี ยน
ตามหลักการออกแบบการเรี ยนการสอน 9 ขั้นตอนของกานเย                        การ สอน โดยเน้นการมีปฏิสัมพันธ์จากการเรี ยนออนไลน์ผาน            ่
(Gagné’s Nine Events of Instruction)                                     ระบบเครื อข่ายและการมีส่วนร่ วมในการเรี ยนแบบดั้งเดิม ร่ วม
          3. การเรี ยนแบบร่ วมมือ (collaboration)                        กับการผสมผสานทฤษฎีการสอน (mixing theories of learning)
          ควรจัดสิ่ งแวดล้อมในการเรี ยนแบบร่ วมมือ มุ่งเน้นการ           เข้าด้วยกัน โดยรวมเอาหลักการ แนวคิด วิธีการของทฤษฎี
ติดต่อสื่ อสารเพือให้เกิดปฏิสัมพันธ์ทางการเรี ยนระหว่างผูเ้ รี ยน
                       ่                                                 พฤติ กรรมนิ ยม ทฤษฎี พุทธิ นิยม และทฤษฎี สร้ างสรรค์นิยม
กับเพื่อนร่ วมชั้นเรี ยน ผูเ้ รี ยนกับผูสอน และผูเ้ รี ยนกับที่ปรึ กษา
                                          ้                              โดยการใช้ทฤษฎี การสอนที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความ
เครื่ อ งมื อ ที่ ใ ช้ ประกอบด้ว ย ไปรษณี ย อิ เ ล็ก ทรอนิ ก ส์ ห้อ ง
                                                 ์                       แตกต่างระหว่างบุคคลของผูเ้ รี ยน ให้ผูเ้ รี ยนเกิดการเรี ยนรู ้ได้
สนทนา และกระดานเสวนา โดยใช้กิจกรรมการอภิปรายแบบ                          อย่างเท่าเทียมกัน ตามศักยภาพที่ตนเองมีอยู่ การพัฒนารู ปแบบ
ร้อยเรี ยง (threaded discussions) และเทคนิคการคิดร่ วมกัน                การจัดการเรี ยนการสอนบนเว็บแบบผสมผสาน ประกอบด้วย
          4. การประเมินผลการเรี ยนรู ้ (assessment)                      5 ขั้นตอน คือ การวิเคราะห์และการวางแผน การออกแบบ
          การวัด และการประเมิ น ผลการเรี ย นรู ้ ของผูเ้ รี ย นตาม       การพัฒนา การนําไปใช้ และการประเมิ นผล ปั จจัยสําคัญที่
วัตถุประสงค์ของการเรี ยนแบบผสมผสาน ควรประกอบด้วย                         ควรคํานึ งถึ งในการออกแบบระบบการเรี ยนการสอนบนเว็บ
การประเมินก่อนเรี ยน (pre-assessments) โดยประเมินความรู ้                แบบผสมผสานให้ประสบผลสําเร็ จ คือ ผูเ้ รี ยน เนื้ อหา และ
เดิมของผูเ้ รี ยนก่อนที่ผูเ้ รี ยนจะศึกษาเนื้ อหาด้วยตนเองผ่านเว็บ       ระบบโครงข่ายพื้นฐาน โดยมีองค์ประกอบหลัก คือเหตุการณ์
และการประเมินหลังเรี ยน (post-assessments) โดยการวัดการ                  สด การเรี ยนตนเอง/เนื้ อหาการเรี ยนแบบออนไลน์ การเรี ยน
ถ่ า ยโอนความรู ้ จ ากการเรี ย นตามขึ้ น ตอนการเรี ย นที่ ผูส อน้        แบบร่ วมมือ การประเมินผลการเรี ยนรู ้ และอุปกรณ์สนับสนุน
กําหนดขึ้น ทําได้โดยการใช้แบบทดสอบ การทดสอบโดยไม่                        การเรี ยน
แจ้งล่วงหน้า และการประเมินตามสภาพที่แท้จริ งโดยใช้แฟ้ ม
สะสมงาน                                                                  9 กิตติกรรมประกาศ
          5. อุปกรณ์สนับสนุนการเรี ยน (reference Materials)                     ขอกราบขอบพระคุณ
          อุ ป กรณ์ ที่ ใ ช้ ส นั บ สนุ น การเรี ยนแบบผสมผสาน                   ผู ้ช่ ว ยศาสตราจารย์ ดร.ณมน จี รั ง สุ ว รรณ, ผู ้ช่ ว ย
ประกอบด้วย แหล่ งข้อมูล อ้างอิง ทั้งทางกายภาพและแหล่ ง                   ศาสตราจารย์ ดร.พัลลภ พิริยะสุ รวงศ์, ผูช่วยศาสตราจารย์ ดร.
                                                                                                                ้
อ้างอิงเสมือน คําถามที่ถูกถามซํ้าบ่อยๆ (FAQ forums) และ                  ปรั ชญนันท์ นิ ลสุ ข และอาจารย์ ดร.วีระ สุ ภะ สําหรับความ
การจัดการความรู ้ แบบออนไลน์ ซึ่ งอุปกรณ์เหล่านี้ เป็ นปั จจัย           อนุเคราะห์ขอมูล และกําลังใจในการเขียนบทความวิชาการนี้
                                                                                        ้
49                                                    วารสารการอาชีวะและเทคนิคศึกษา ปี ที่ 1 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม         2554



เอกสารอ้างอิง                                                             [7]  Singh, H. (2005). Building effective blended learning
[1] คณะอนุ กรรมการปฏิ รูปการเรี ยนรู ้ . (2003). ปฏิ รูปการ                    programs.              [Online].Available          from:
    เรี ยนรู ้ผเู ้ รี ยนสําคัญที่สุด. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุ งเทพมหานคร:        http://www.bookstoread.com/framework/blended-
    สํานักงานคณะอนุกรรมการปฏิรูปการเรี ยนรู ้.                                 learning.pdf [2010, January 4]
[2] Bersin, J. (2004). The blended learning book: Best                    [8] Singh, H. and Reed, C. (2001). A white paper: achieving

    practices, proven methodologies, and lessons learned.                      success with blended learning. Centra Software.
    San Francisco, Calif: Pfeiffer.                                            [Online].Available from: http://www.centra.com/
[3] Bonk, C. J., and Graham C.R. (2006).The handbook of                        download/whitepapers/blendedlearning.pdf          [2010,
    blended learning: global perspectives, local designs. San                  September 28]
    Francisco: Pfeiffer.                                                  [9] The Training Place. (2004). Blended Learning Model.

[4] Carman, J. M. (2005). Blended Learning Design: Five                        [Online].Available from: http://www.trainingplace.com/
    Key Ingredients. [Online]. Available from:                                 ctw/model.htm [2011, May 1]
    http://www.agilantlearning.com/                                       [10] Thorne, K. (2003). Blended learning: how to integrate

    pdf/Blended%20Learning%20Design.pdf [2011, May 1]                          online and traditional learning. London: Kogan Page.
[5] Driscoll, M. (2002). Blended Learning: Let's get beyond               [11] Thorne, K. (2003). How to integrate online and

    the hype. Learning and Training Innovations Newsline.                      traditional learning. London: Kogan Page.
    [Online]. Available from: http://www.ltimagazine.com/                 [12] Uwes, A.C.(2008). Dimensi Model Blended Learning.

    ltimagazine/article/articleDetail.jsp?id=11755 [2009,                      [Online].Available from: http://fakultasluarkampus.net/
    September 4]                                                               2008/11/dimensi-model-blended-learning [2011, May 1]
[6] Huang, R.H., Zhou, Y.L., Wang, F.L. (2006). Blended

    Learning: Theory into Practice. Higher Education Press,
    Beijing.

Contenu connexe

Tendances

รายงานการใช้สื่อ5บท
รายงานการใช้สื่อ5บทรายงานการใช้สื่อ5บท
รายงานการใช้สื่อ5บท
Jiraporn Chaimongkol
 
รายงานอบรม Ict innovation at korea
รายงานอบรม Ict innovation at  koreaรายงานอบรม Ict innovation at  korea
รายงานอบรม Ict innovation at korea
Kobwit Piriyawat
 
E learning กับ social media จะไปด้วยกันอย่างไรเพื่อพัฒนาการศึกษาไทย
E learning กับ social media จะไปด้วยกันอย่างไรเพื่อพัฒนาการศึกษาไทยE learning กับ social media จะไปด้วยกันอย่างไรเพื่อพัฒนาการศึกษาไทย
E learning กับ social media จะไปด้วยกันอย่างไรเพื่อพัฒนาการศึกษาไทย
Kobwit Piriyawat
 
การเรียนการสอนด้วย Tablet
การเรียนการสอนด้วย Tabletการเรียนการสอนด้วย Tablet
การเรียนการสอนด้วย Tablet
Prachyanun Nilsook
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
thebeerbeersk
 
มคอ.3 historical tourism
มคอ.3  historical tourismมคอ.3  historical tourism
มคอ.3 historical tourism
chickyshare
 

Tendances (20)

แบบรายงานการพัฒนานวัตกรรมการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนตามจุด
แบบรายงานการพัฒนานวัตกรรมการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนตามจุดแบบรายงานการพัฒนานวัตกรรมการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนตามจุด
แบบรายงานการพัฒนานวัตกรรมการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนตามจุด
 
รายงานการใช้สื่อ5บท
รายงานการใช้สื่อ5บทรายงานการใช้สื่อ5บท
รายงานการใช้สื่อ5บท
 
รายงานอบรม Ict innovation at korea
รายงานอบรม Ict innovation at  koreaรายงานอบรม Ict innovation at  korea
รายงานอบรม Ict innovation at korea
 
งานกลุ่มนวัตกรรม
งานกลุ่มนวัตกรรมงานกลุ่มนวัตกรรม
งานกลุ่มนวัตกรรม
 
E learning กับ social media จะไปด้วยกันอย่างไรเพื่อพัฒนาการศึกษาไทย
E learning กับ social media จะไปด้วยกันอย่างไรเพื่อพัฒนาการศึกษาไทยE learning กับ social media จะไปด้วยกันอย่างไรเพื่อพัฒนาการศึกษาไทย
E learning กับ social media จะไปด้วยกันอย่างไรเพื่อพัฒนาการศึกษาไทย
 
รูปแบบ/วิธีการนำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์มาบูรณาการในการจัดการศึกษา โดยกอบวิทย์...
รูปแบบ/วิธีการนำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์มาบูรณาการในการจัดการศึกษา  โดยกอบวิทย์...รูปแบบ/วิธีการนำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์มาบูรณาการในการจัดการศึกษา  โดยกอบวิทย์...
รูปแบบ/วิธีการนำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์มาบูรณาการในการจัดการศึกษา โดยกอบวิทย์...
 
งานกลุ่ม
งานกลุ่มงานกลุ่ม
งานกลุ่ม
 
แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการพอเพียง
แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการพอเพียงแผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการพอเพียง
แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการพอเพียง
 
Introduction to technologies and educational media.
Introduction  to technologies and educational media.Introduction  to technologies and educational media.
Introduction to technologies and educational media.
 
Lesson5
Lesson5Lesson5
Lesson5
 
คอมคอม
คอมคอมคอมคอม
คอมคอม
 
บทที่ึ7
บทที่ึ7บทที่ึ7
บทที่ึ7
 
การเรียนการสอนด้วย Tablet
การเรียนการสอนด้วย Tabletการเรียนการสอนด้วย Tablet
การเรียนการสอนด้วย Tablet
 
Tablet1
Tablet1Tablet1
Tablet1
 
Lession5
Lession5Lession5
Lession5
 
241203_chapter01
241203_chapter01241203_chapter01
241203_chapter01
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
มคอ.3 historical tourism
มคอ.3  historical tourismมคอ.3  historical tourism
มคอ.3 historical tourism
 
06.การพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
06.การพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม06.การพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
06.การพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
 
ICT for Education Program
ICT for Education Program ICT for Education Program
ICT for Education Program
 

Similaire à การเรียนแบบผสมผสาน จากแนวคิดสู่การปฏิบัติ

บทที่ 6
บทที่ 6บทที่ 6
บทที่ 6
Tar Bt
 
The Development of Web-based Training to Develop Job Competencies for Instruc...
The Development of Web-based Training to Develop Job Competencies for Instruc...The Development of Web-based Training to Develop Job Competencies for Instruc...
The Development of Web-based Training to Develop Job Competencies for Instruc...
Panita Wannapiroon Kmutnb
 
รายงานผลการพัฒนาการเรียนการสอนด้วยสื่อรคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
รายงานผลการพัฒนาการเรียนการสอนด้วยสื่อรคอมพิวเตอร์ช่วยสอนรายงานผลการพัฒนาการเรียนการสอนด้วยสื่อรคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
รายงานผลการพัฒนาการเรียนการสอนด้วยสื่อรคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
Natmol Thedsanabun
 

Similaire à การเรียนแบบผสมผสาน จากแนวคิดสู่การปฏิบัติ (20)

บทที่ 6
บทที่ 6บทที่ 6
บทที่ 6
 
การพัฒนาทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพ
การพัฒนาทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพการพัฒนาทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพ
การพัฒนาทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพ
 
The Development of Web-based Training to Develop Job Competencies for Instruc...
The Development of Web-based Training to Develop Job Competencies for Instruc...The Development of Web-based Training to Develop Job Competencies for Instruc...
The Development of Web-based Training to Develop Job Competencies for Instruc...
 
ผลของการเรียนแบบผสมผสานโดยใช้เครื่องมือทางปัญญาเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์...
ผลของการเรียนแบบผสมผสานโดยใช้เครื่องมือทางปัญญาเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์...ผลของการเรียนแบบผสมผสานโดยใช้เครื่องมือทางปัญญาเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์...
ผลของการเรียนแบบผสมผสานโดยใช้เครื่องมือทางปัญญาเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์...
 
รายงานผลการพัฒนาการเรียนการสอนด้วยสื่อรคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
รายงานผลการพัฒนาการเรียนการสอนด้วยสื่อรคอมพิวเตอร์ช่วยสอนรายงานผลการพัฒนาการเรียนการสอนด้วยสื่อรคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
รายงานผลการพัฒนาการเรียนการสอนด้วยสื่อรคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
 
รายงานพัฒนาการเรียนการสอนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
รายงานพัฒนาการเรียนการสอนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนรายงานพัฒนาการเรียนการสอนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
รายงานพัฒนาการเรียนการสอนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
 
Teachercom c
Teachercom cTeachercom c
Teachercom c
 
Radchaneeporn
RadchaneepornRadchaneeporn
Radchaneeporn
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11
 
นวัตกรรม Chapter 2
นวัตกรรม Chapter 2นวัตกรรม Chapter 2
นวัตกรรม Chapter 2
 
asean-library-ict
asean-library-ictasean-library-ict
asean-library-ict
 
Teacher1
Teacher1Teacher1
Teacher1
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11
 
11 170819173826
11 17081917382611 170819173826
11 170819173826
 
11 170819173826
11 17081917382611 170819173826
11 170819173826
 
11 170819173826
11 17081917382611 170819173826
11 170819173826
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11
 

Plus de Panita Wannapiroon Kmutnb

มหาวิทยาลัยธนบุรี
มหาวิทยาลัยธนบุรีมหาวิทยาลัยธนบุรี
มหาวิทยาลัยธนบุรี
Panita Wannapiroon Kmutnb
 
Interactive e leraning_vec5
Interactive e leraning_vec5Interactive e leraning_vec5
Interactive e leraning_vec5
Panita Wannapiroon Kmutnb
 
Interactive e-Learning & cloud learning @ VEC [13-17/08/13]
Interactive e-Learning & cloud learning @ VEC [13-17/08/13]Interactive e-Learning & cloud learning @ VEC [13-17/08/13]
Interactive e-Learning & cloud learning @ VEC [13-17/08/13]
Panita Wannapiroon Kmutnb
 
Interactive e leraning_vec2
Interactive e leraning_vec2Interactive e leraning_vec2
Interactive e leraning_vec2
Panita Wannapiroon Kmutnb
 

Plus de Panita Wannapiroon Kmutnb (20)

Emerging Trends and Technologies in Education
Emerging Trends and Technologies in EducationEmerging Trends and Technologies in Education
Emerging Trends and Technologies in Education
 
Strategy for designing and developing Interactive e-Learning
Strategy for designing and developing Interactive e-LearningStrategy for designing and developing Interactive e-Learning
Strategy for designing and developing Interactive e-Learning
 
Collaborative Learning Model through Social Media for Supporting Communicatio...
Collaborative Learning Model through Social Media for Supporting Communicatio...Collaborative Learning Model through Social Media for Supporting Communicatio...
Collaborative Learning Model through Social Media for Supporting Communicatio...
 
Education 3.0: Interactive e-Learning and Could Learning
Education 3.0: Interactive e-Learning and Could LearningEducation 3.0: Interactive e-Learning and Could Learning
Education 3.0: Interactive e-Learning and Could Learning
 
USING WEB CONFERENCING FOR INTERNATIONAL MEETING
USING WEB CONFERENCING FOR INTERNATIONAL MEETINGUSING WEB CONFERENCING FOR INTERNATIONAL MEETING
USING WEB CONFERENCING FOR INTERNATIONAL MEETING
 
มหาวิทยาลัยธนบุรี
มหาวิทยาลัยธนบุรีมหาวิทยาลัยธนบุรี
มหาวิทยาลัยธนบุรี
 
Interactive e learning_etech
Interactive e learning_etechInteractive e learning_etech
Interactive e learning_etech
 
ชุดที่3 การเรียนรู้และระดับพฤติกรรม
ชุดที่3 การเรียนรู้และระดับพฤติกรรมชุดที่3 การเรียนรู้และระดับพฤติกรรม
ชุดที่3 การเรียนรู้และระดับพฤติกรรม
 
ชุดที่4 การเรียนการสอนรูปแบบmiap
ชุดที่4 การเรียนการสอนรูปแบบmiapชุดที่4 การเรียนการสอนรูปแบบmiap
ชุดที่4 การเรียนการสอนรูปแบบmiap
 
เทคนิคการสอนชุดที่2 ส่วนประกอบของเอกสารการสอน
เทคนิคการสอนชุดที่2 ส่วนประกอบของเอกสารการสอนเทคนิคการสอนชุดที่2 ส่วนประกอบของเอกสารการสอน
เทคนิคการสอนชุดที่2 ส่วนประกอบของเอกสารการสอน
 
เทคนิคการสอน ชุดที่1 แนะนำโปรแกรมและกิจกรรม
เทคนิคการสอน  ชุดที่1 แนะนำโปรแกรมและกิจกรรมเทคนิคการสอน  ชุดที่1 แนะนำโปรแกรมและกิจกรรม
เทคนิคการสอน ชุดที่1 แนะนำโปรแกรมและกิจกรรม
 
Ctu 1 intro_analyze_the_issue
Ctu 1 intro_analyze_the_issueCtu 1 intro_analyze_the_issue
Ctu 1 intro_analyze_the_issue
 
Interactive e leraning_ctu
Interactive e leraning_ctuInteractive e leraning_ctu
Interactive e leraning_ctu
 
Interactive e leraning_vec5
Interactive e leraning_vec5Interactive e leraning_vec5
Interactive e leraning_vec5
 
Interactive e-Learning & cloud learning @ VEC [13-17/08/13]
Interactive e-Learning & cloud learning @ VEC [13-17/08/13]Interactive e-Learning & cloud learning @ VEC [13-17/08/13]
Interactive e-Learning & cloud learning @ VEC [13-17/08/13]
 
Interactive e leraning_vec2
Interactive e leraning_vec2Interactive e leraning_vec2
Interactive e leraning_vec2
 
Educational innovation for enhancing student in the 21st century to the asean...
Educational innovation for enhancing student in the 21st century to the asean...Educational innovation for enhancing student in the 21st century to the asean...
Educational innovation for enhancing student in the 21st century to the asean...
 
Interactive e leraning
Interactive e leraningInteractive e leraning
Interactive e leraning
 
Development of total quality management information system (tqmis) for model ...
Development of total quality management information system (tqmis) for model ...Development of total quality management information system (tqmis) for model ...
Development of total quality management information system (tqmis) for model ...
 
Development of an edutainment instructional model using learning object for e...
Development of an edutainment instructional model using learning object for e...Development of an edutainment instructional model using learning object for e...
Development of an edutainment instructional model using learning object for e...
 

การเรียนแบบผสมผสาน จากแนวคิดสู่การปฏิบัติ

  • 1.
  • 2. 1 วารสารการอาชีวะและเทคนิคศึกษา ปี ที่ 1 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2554 วารสารการอาชีวะและเทคนิคศึกษา  ปี ที่ 1 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม 2554 Journal of Vocational and Technical Education (JVTE) Volume 1 Number 2 July – December 2011 ISSN 2229-1806 ดําเนินการโดย ศูนย์วิจยเทคโนโลยีทางอาชีวศึกษา สํานักวิจยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ั ั มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สนับสนุนการดําเนินการโดย สมาคมศิษย์เก่าครุ ศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ บรรณาธิการที่ปรึกษา ศาสตราจารย์ ดร.ธีรวุฒิ บุญยโสภณ รองศาสตราจารย์ ดร.สุ เทพ บุตรดี รองศาสตราจารย์ชาลี ตระกูลการ ผูช่วยศาสตราจารย์ ดร.พนาฤทธิ์ เศรษฐกุล ้ ผูช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชัยยพล ธงชัยสุรัชต์กล ้ ู บรรณาธิการ ผูช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปรัชญนันท์ นิลสุ ข ้ กองบรรณาธิ การ ผูช่วยศาสตราจารย์ ดร.รัชดากร พลภักดี ้ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผูช่วยศาสตราจารย์ ดร.พัลลภ พิริยะสุรวงศ์ ้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ผูช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณมน จีรังสุวรรณ ้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ดร.ปณิ ตา วรรณพิรุณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ดร.ชัยวิชิต เชียรชนะ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ดร.สุ รพล บุญลือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ดร.จินตนา กาญจนวิสุทธิ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดร.ดุสิต ขาวเหลือง มหาวิทยาลัยบูรพา ดร.อนันท์ งามสะอาด วิทยาลัยเทคนิคศรี สะเกษ ดร.ชนิษฐา จงพิพฒน์วณิ ชั วิทยาลัยการอาชีพกาญจนบุรี ดร.อภิชาติ อนุกลเวช ู วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี ดร.เอื้ออารี ย ์ สุ ขสมมิต วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุพรรณบุรี ดร. แพรวพรรณ บุญฤทธิ์มนตรี วิทยาลัยสารพัดช่างสี่ พระยา ดร.เสน่ห์ คําแพง บริ ษททีโอที จํากัด (มหาชน) ั ดร.สมสุ ข แขมคํา มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ผูช่วยศาสตราจารย์จิตรกร ผดุง ้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุ งเทพ ผูช่วยศาสตราจารย์โกวิท ยอดมงคล ้ มหาวิทยาลัยนครพนม
  • 3. 43 วารสารการอาชีวะและเทคนิคศึกษา ปี ที่ 1 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม 2554 การเรียนแบบผสมผสาน จากแนวคิดสู่ การปฏิบัติ Blended Learning: Principles into Practice ปณิตา วรรณพิรุณ 1 1 บทนํา ต้องเป็ นผูคิด ตัดสิ นใจเลื อกเนื้ อหาในการเรี ยน การจัดลําดับ ้ เทคโนโลยี ส ารสนเทศและการสื่ อ สาร (Information การเรี ยนรู ้ การควบคุมเส้นทางในการเรี ยนและการนําเสนอ and Communications Technology: ICT) ที่ได้รับการพัฒนาให้ ผลงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผูเ้ รี ยนกับผูสอน ผูเ้ รี ยนกับผูเ้ รี ยน ้ มีประสิ ทธิภาพมากยิงขึ้นถูกนํามาใช้เป็ นเครื่ องมือในการพัฒนา ่ ผูเ้ รี ยนกับ เนื้ อ หา และผู ้เ รี ยนกับ สิ่ ง แวดล้อ มในเรี ยนรู ้ ซึ่ ง และสนับ สนุ น การจัด การศึ ก ษามากขึ้ น ทุ ก ขณะ การจัด การ ก่อให้เกิดบรรยากาศของการแลกเปลี่ยนเรี ยนรู ้ร่วมกับระหว่าง ศึกษาจึงต้องปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ รู ปแบบ เทคนิคและวิธี ผูเ้ รี ยน การสอนเพื่ อ ให้ ส นองตอบต่ อ การพัฒ นาทรั พ ยากรมนุ ษ ย์ แม้ว่ า การจัด การเรี ยนการสอนบนเว็บจะได้รับ ความ และการแข่ ง ขัน ของประเทศทั้ง ด้า นความก้า วหน้าทางด้า น นิ ยมอย่างรวดเร็ ว แต่ก็ยงพบปั ญหาในการออกแบบการเรี ยน ั เทคโนโลยี การปรั บตัวต่ อการกระจายความรู ้ การเชื่ อมโยง การสอนบนเว็บ เนื่ อ งจากการจัด การเรี ย นการสอนบนเว็บ ข้อ มู ล ความรู ้ ต่ า งๆ ที่ เ ชื่ อ มถึ ง กัน ทั่ว โลก การนํา เทคโนโลยี ไม่เหมาะสมกับรู ปแบบการเรี ยน (learning style) และรู ปแบบ สารสนเทศและการสื่ อสารมาใช้ ใ นการจั ด การศึ ก ษานั้ น การคิด (cognitive style) ของผูเ้ รี ยนทุกรู ปแบบ เนื่องจากการ สามารถทําได้หลายรู ปแบบ ตั้งแต่ การนําคอมพิวเตอร์ มาใช้ เรี ยนการสอนบนเว็บแตกต่างไปจากการสอนในชั้นเรี ยนแบบ เป็ นอุปกรณ์ในการเรี ยนการสอน การนําบริ การต่างๆ ในระบบ ดั้งเดิ ม คุณภาพของการสอนไม่ ได้ข้ ึ นอยู่กบสื่ อการเรี ยนการ ั เครื อข่ า ยอิ น เทอร์ เ น็ ต โดยเฉพาะเวิ ล ด์ไ วด์เ ว็บมาพัฒ นาเป็ น สอนและรู ป แบบการสอนที่ ใช้ แต่ ยง รวมถึ ง ความตั้ง ใจที่ จ ะ ั สื่ อการสอนในทุ กระดับ การศึ กษา และการจัดการเรี ยนการ เรี ยนให้สําเร็ จของผูเ้ รี ยนด้วย การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผูเ้ รี ยน สอนเป็ นการเรี ยนผ่านระบบอิเล็กทรอนิ กส์โดยใช้เทคโนโลยี และผูสอน การให้ผลย้อนกลับโดยทันทีและความสัมพันธ์ใน ้ อิ น เทอร์ เ น็ ต เป็ นสื่ อ กลางในการติ ด ต่ อ ระหว่ า งผู ้เ รี ยนและ รู ปแบบที่แตกต่างกันของการเรี ยนรู ้และกิจกรรมการเรี ยนรู ้ จะ ผูสอน ผูเ้ รี ยนสามารถเรี ยนได้โดยไม่มีขอจํากัดในเรื่ องเวลา ้ ้ เห็นได้ว่าการเรี ยนการสอนบนเว็บไม่เหมาะในทุกสถานการณ์ และสถานที่ (anytime anywhere) เป็ นการสร้างโอกาสและ หรื อผูเ้ รี ยนทุกคน [3, 6] ส่ วนการจัดการเรี ยนการสอนในห้อง ความเสมอภาคในการเรี ยนรู ้ ใ ห้แ ก่ ผูเ้ รี ยน ผู ้เ รี ยนสามารถ เรี ยนแบบบรรยายในห้องเรี ยนแบบดั้งเดิ มนั้นไม่เอื้อให้ผูเ้ รี ยน แลกเปลี่ ย นเรี ยนรู ้ แ ละส่ ง ข่ า วสารถึ ง กั น ได้ อ ย่ า งรวดเร็ ว คิดเป็ น ทําเป็ น แก้ปัญหาเป็ น การเรี ยนการสอนมุ่งเน้นการ ก่ อ ให้ เ กิ ด สั ง คมแห่ ง การเรี ยนรู ้ ใ นการเรี ยนผ่ า นระบบ ท่องจํามากกว่าการเน้นให้ผูเ้ รี ยนได้คิด ได้ลงมือปฏิ บติเรี ยนรู ้ ั อิเล็กทรอนิ กส์ ผูเ้ รี ยนจะเปลี่ ยนบทบาทจากผูเ้ รี ยนที่ รับ การ ด้ว ยตนเอง ผูเ้ รี ย นแหล่ ง ข้อ มู ลในการแสวงหาความรู ้ ขาด ถ่ายทอดความรู ้จากผูสอน (passive learner) เป็ นผูเ้ รี ยนที่มี ้ ปฏิ สัม พันธ์กับ เพื่อ น ผูสอน ชุ ม ชนและสิ่ งแวดล้อม เพราะ ้ ความกระตือรื อร้นในการเรี ยนรู ้ (active learner) โดยผูเ้ รี ยนจะ การศึ ก ษาที่ เ น้น การฟั ง บรรยายภายใต้ก รอบอัน จํา กัด ของ 1 อาจารย์ประจําภาควิชาครุ ศาสตร์เทคโนโลยี คณะครุ ศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
  • 4. วารสารการอาชีวะและเทคนิคศึกษา ปี ที่ 1 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม 2554 44 ห้องเรี ยน ทําให้เป็ นตัวขัดขวางการพัฒนาศักยภาพผูเ้ รี ยนและ ที่ ห ลากหลายในการเรี ยน และสอดคล้อ งกับ แนวคิ ด ของ การเรี ยนรู ้ ร่ว มกันกับผูอื่น ทําให้ผูเ้ รี ยนขาดทักษะการติ ด ต่ อ ้ Carman [4] ที่ ก ล่ าวว่า การเรี ย นแบบผสมผสานเป็ นการ สื่ อสารและขาดมนุษย์สัมพันธ์ [1] ผสมผสานทฤษฎี ก ารเรี ย นรู ้ เ ข้า ด้ว ยกัน เพื่ อ ให้บ รรลุ ผ ลตาม การแก้ปัญหาข้อจํากัดของการเรี ยนบนเว็บและการเรี ยน วัตถุประสงค์ของการจัดการเรี ยนรู ้ ในห้องเรี ยนดังกล่าวข้างต้นสามารถทําได้โดยการปรับเปลี่ยน รู ปแบบจากการเรี ยนบนเว็บหรื อการเรี ยนในห้องเรี ยนอย่างใด อย่างหนึ่ งแต่ เพียงอย่างเดี ยว เป็ นรู ปแบบการเรี ยนการสอนที่ ผสมผสานการเรี ยนบนเว็บและการเรี ยนในห้องเรี ยนเข้าด้วยกัน โดยการนําเอาจุดแข็งของการเรี ยนในห้องเรี ยนมารวมกับข้อดี ของการเรี ยนบนเว็บ ซึ่งเป็ นรู ปแบบการจัดการเรี ยนการสอนที่ เป็ นทางเลือกใหม่สําหรับการจัดการศึกษาทุกระดับโดยเฉพาะ การจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ภาพที่ 1 การผสมผสานทฤษฎีการเรี ยนรู ้ตามแนวคิดของ Carman [4] 2 แนวคิดของการเรียนแบบผสมผสาน เมื่ อ กล่ า วถึ ง แนวคิ ด ของการเรี ยนแบบผสมผสาน 3) แนวคิดการผสมผสานเทคโนโลยีการเรี ยนการสอน สามารถแบ่งออกเป็ น 4 แนวคิดด้วยกัน ได้แก่ [5] ทุ ก รู ป แบบกับ การเรี ย นการสอนในชั้น เรี ย นแบบดั้ง เดิ ม ที่ มี 1) แนวคิดผสมผสานเทคโนโลยีการเรี ยนการสอนบน การเผชิญหน้าระหว่างผูเ้ รี ยนกับผูสอน (to combine any form ้ เว็บกับการเรี ยนในชั้นเรี ยนแบบดั้งเดิม (to combine or mix of instructional technology with face-to-face instructor-led modes of web-based technology) เช่น การเรี ยนในห้องเรี ยน training) ซึ่ งเป็ นมุมมองที่มีผยอมรับกันอย่างแพร่ หลายมาก ู้ เสมื อนแบบการเรี ย นด้ว ยตนเอง การเรี ย นรู ้ ร่ ว มกัน วิ ดี โ อ ที่สุด ซึ่ งสอดคล้องกับ Uwes [12] ที่กล่าวว่าการเรี ยนแบบ สตรี มมิ่ง เสี ยง และข้อความ เป็ นต้น เพือให้บรรลุตามเป้ าหมาย ่ ผสมผสานเป็ นการบูรณาการการเรี ยนแบบเผชิญหน้า การเรี ยน ของการจัดการศึกษา ซึ่ งสอดคล้องกับแนวคิดของ Singh [7] ด้วยตนเอง และการเรี ยนแบบร่ วมมือแบบออนไลน์เข้าด้วยกัน ที่ให้นิยามของการเรี ยนแบบผสมผสานไว้ว่า เป็ นเรี ยนโดยใช้ การผสมผสานวิธีสอนที่ หลากหลายเข้าด้วยกันเพื่อให้ผูเ้ รี ยน เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการเรี ยนสูงสุด 2) แนวคิดการผสมผสานวิธีสอนที่หลากหลายเข้าด้วย กัน (to combine various pedagogical approaches) เช่น แนวคิด สร้ างสรรค์นิย ม (constructivism) แนวคิด พฤติ กรรมนิ ย ม (behaviorism) และแนวคิดพุทธิ นิยม (cognitivism) เพื่อให้ได้ ผลลัพธ์จากการเรี ยนที่ดีที่สุด ซึ่ งอาจใช้หรื อไม่ใช้เทคโนโลยี เทคโนโลยีการสอน (instructional technology) ก็ได้ ซึ่ งสอด ภาพที่ 2 การเรี ยนแบบผสมผสาน ตามแนวคิดของ Uwes [12] คล้องกับแนวคิดของ Bonk and Graham [3] ที่กล่าวว่าการเรี ยน แบบผสมผสานเป็ นการผสมผสานระบบการเรี ย น (learning systems) ที่ หลากหลายเข้าด้ว ยกันเพื่ อเป็ นการแก้ปัญ หา
  • 5. 45 วารสารการอาชีวะและเทคนิคศึกษา ปี ที่ 1 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม 2554 4) แนวคิดการผสมผสานเทคโนโลยีการเรี ยนการสอน สอนแบบออนไลน์และการเรี ยนการสอนแบบเผชิ ญหน้า เพื่อ กับการทํางานจริ ง (to mix or combine instructional technology ตอบสนองต่อความแตกต่างระหว่างบุคคลของผูเ้ รี ยน โดยมีจุด with actual job tasks in order to create a harmonious effect of มุ่งหมายเพื่อให้ผูเ้ รี ยนทุกคนสามารถบรรลุเป้ าหมายของการ learning and working) ซึ่งสอดคล้องกับ Bersin [2] ที่กล่าวว่า จัดการเรี ยนการสอน การเรี ย นแบบผสมผสานเป็ นส่ ว นหนึ่ ง ของการฝึ กอบรมใน องค์กร เป็ นการผสมผสานการเรี ยนผ่านระบบอิเล็กทรอนิ กส์ 4 องค์ ประกอบของการจัดการเรียนแบบผสมผสาน และสื่ ออื่นๆ ในการส่ งผ่านความรู ้ในการเรี ยนและการฝึ กอบรม การเรี ยนแบบผสมผสาน แบ่งองค์ประกอบออกเป็ น 12 จากแนวคิ ด การจั ด การเรี ยนการสอนบนเว็ บ แบบ กลุ่ม โดยจัดเป็ น 2 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ องค์ประกอบ ผสมผสานที่ กล่าวมาข้างต้นสามารถสรุ ปได้ว่า การเรี ยนแบบ ออฟไลน์ 6 กลุ่ ม และองค์ป ระกอบออนไลน์ 6 กลุ่ ม ดังนี้ ผสมผสาน เป็ นรู ปแบบการเรี ยนที่มุ่งเน้นการจัดกิจกรรมการ [10, 11] เรี ยนการสอนโดยการสร้างสิ่ งแวดล้อมและบรรยากาศในการ 1. องค์ประกอบออฟไลน์ (offline) ประกอบด้วย 6 เรี ยนรู ้ วิธีการสอนของผูสอน รู ปแบบการเรี ยนรู ้ ผูเ้ รี ยน สื่ อ ้ กลุ่ม ได้แก่ การเรี ยนการสอน ช่องทางการสื่ อสาร และรู ปแบบปฏิสัมพันธ์ 1.1. การเรี ยนในที่ทางาน (workplace learning) ํ ระหว่างผูเ้ รี ยนกับ ผูสอน ผูเ้ รี ยนกับผูเ้ รี ย น ผูเ้ รี ยนกับ เนื้ อหา ้ 1.2. ผูส อน ผูช้ ี แนะ หรื อ ที่ ป รึ ก ษาในห้อ งเรี ยน ้ ้ ผูเ้ รี ยนกับบริ บทในการเรี ยนรู ้ ที่หลากหลาย และจัดกิ จ กรรม แบบเผชิญหน้า (face-to-face tutoring, coaching or mentoring) การเรี ยนการสอนที่เน้นความยืดหยุ่น เพื่อตอบสนองต่อความ 1.3. ห้องเรี ยนแบบดั้งเดิม (classroom) แตกต่ างระหว่ างบุ คคลของผูเ้ รี ย นเพื่ อให้ผูเ้ รี ย นแต่ ล ะคนได้ 1.4. สื่ อสิ่ งพิมพ์ (distributable print media) ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการเรี ยนการสอน 1.5. สื่ ออิเล็กทรอนิ กส์ (distributable electronic นักเทคโนโลยีทางการศึกษา นักวิชาการ และสถาบัน media) การศึ กษาต่ างๆ ใช้คาที่ มีความหมายถึ ง การจัด การเรี ย นแบบ ํ 1.6. สื่ อวิ ท ยุ ก ระจายเสี ยงและวิ ท ยุ โ ทรทั ศ น์ ผสมผสานไว้หลายคํา เช่ น Blended Learning, Hybrid (broadcast media) Learning, Flexible Learning, Integrated Learning, Multi- 2. องค์ประกอบออนไลน์ (online) ประกอบด้วย 6 method Learning, Mixed Mode Learning ซึ่ งล้วนแล้วแต่เป็ น กลุ่ม ได้แก่ คํา ที่ ห มายถึ ง รู ปแบบการเรี ยนที่ มี ค วามยื ด หยุ่ น และมี ก าร 2.1. เนื้อหาการเรี ยนบนเครื อข่าย (online learning ผสมผสานการเรี ยนผ่านสื่ อ ช่ องทางและวิธีการสอนที่ หลาก content) หลาย คําที่หมายถึ งการจัดการเรี ยนแบบผสมผสานได้มีผูให้ ้ 2.2. ผูสอนอิเล็กทรอนิกส์, ผูช้ ีแนะอิเล็กทรอนิกส์ ้ ้ การยอมรับมากที่สุดคือคําว่า “Blended Learning” ในบทความ หรื อที่ ปรึ กษาอิเล็กทรอนิ กส์ (e-tutoring, e-coaching or นี้จึงใช้คาว่า “Blended Learning” และใช้คาแปลในภาษาไทย ํ ํ e-mentoring) ว่า “การเรี ยนแบบผสมผสาน” 2.3. การเรี ยนรู ้ ร่ วมกั น แบบออนไลน์ (online collaborative learning) 3 การเรียนแบบผสมผสานคืออะไร 2.4. การจั ด การความรู ้ แ บบออนไลน์ (online การเรี ยนแบบผสมผสาน (Blended Learning) หมายถึง knowledge management) รู ปแบบการเรี ยนที่ผสมผสานยุทธวิธีในการเรี ยนการสอนเข้า 2.5. เว็บไซต์ (the web) ด้วยกัน โดยใช้สื่อการเรี ยนการสอน กิจกรรมการเรี ยนการสอน 2.6. การเรี ยนผ่ า นอุ ป กรณ์ เ คลื่ อ นที่ แ บบไร้ ส าย และรู ปแบบการเรี ยนการสอนที่ หลากหลายทั้งการเรี ยนการ (mobile learning)
  • 6. วารสารการอาชีวะและเทคนิคศึกษา ปี ที่ 1 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม 2554 46 5 การออกแบบระบบการเรียนแบบผสมผสาน 1.3. วิเคราะห์ความต้องการของผูเ้ รี ยน การวางแผน ในการออกแบบการเรี ยนการสอนแบบผสมผสานให้ การนําไปใช้ การทดสอบ และการประเมินผล ประสบผลสํ า เร็ จ ในการจัด การเรี ย นรู ้ น้ ัน นัก ออกแบบการ 1.4. การวิ เ คราะห์แ ผนงาน กระบวนการทํางาน เรี ยนการสอน (instructional designer) ต้องคํานึงถึงจุดประสงค์ การนําไปใช้ในภาพรวม เพื่อนําไปสู่ การสสร้ างวงจรในการ ํ ของการเรี ยนที่กาหนดไว้ ระยะเวลาในการเรี ยน รวมถึงความ พัฒนาและปรับปรุ งรู ปแบบกระบวนการทํางานที่วางไว้ แตกต่างของรู ปแบบการเรี ยนรู ้ และรู ปแบบการคิดของผูเ้ รี ยน 1.5. การวิเคราะห์ความต้องการขององค์กร เพื่อใช้เป็ นข้อมูลพื้นฐานในการออกแบบกิจกรรมการเรี ยนการ 2. ขั้นการออกแบบ ประกอบด้วย สอน การออกแบบบทเรี ยน และการประเมินผลการเรี ยน 2.1 กําหนดจุดประสงค์การเรี ยนรู ้ (objectives) จากจุ ดเด่นของการเรี ยนการสอนแบบผสมผสานที่ทา ํ 2.2 การออกแบบให้ต อบสนองต่ อความแตกต่ าง ให้ความสัมพันธ์และปฏิสัมพันธ์ระหว่างผูเ้ รี ยนกับผูสอนและ ้ ระหว่างบุคคลของผูเ้ รี ยน (personalization) เพื่อนผูเ้ รี ยนคนอื่นๆ ทําให้ผเู ้ รี ยนและผูสอนใกล้ชิดกันมากขึ้น ้ 2.3 ก า ร อ อ ก แ บ บ ป ร ะ เ ภ ท ข อ ง ก า ร เ รี ย น รู ้ ทําให้ผูเ้ รี ยนสามารถแลกเปลี่ ยนประสบการณ์ระหว่างกันได้ (taxonomy) โดยสะดวก สามารถเข้าใจเพื่อนร่ วมชั้นเรี ยนและเคารพเพื่อน 2.4 การออกแบบบริ บทที่เกี่ยวข้อง (local context ) ร่ วมชั้นเรี ยนมากขึ้ น ส่ งผลให้ผูเ้ รี ย นมี ความมันใจในตนเอง ่ ได้แก่ บ้าน การทํางาน (on-the-job) การฝึ กปฏิบติ (practicum)ั มากขึ้น นอกจากนี้ผเู ้ รี ยนยังได้รับผลป้ อนกลับจากการเรี ยนได้ ห้ อ ง เ รี ย น / ห้ อ ง ป ฏิ บั ติ ก า ร แ ล ะ ก า ร เ รี ย น รู ้ ร่ ว ม กั น โดยทันที ซึ่งเป็ นการส่ งเสริ มพัฒนาการในการเรี ยนของผูเ้ รี ยน (collaboration) แต่ ล ะคนให้เ ต็ ม ตามศัก ยภาพที่ ผูเ้ รี ย นแต่ ล ะคนมี มี ผูเ้ สนอ 2.5 การออกแบบผูเ้ รี ยน (Audience) ได้แก่ การ แนวทางในการออกแบบบทเรี ยนบนเว็บแบบผสมผสาน ดังนี้ เรี ยนด้วยการนําตนเอง (self-directed) การเรี ยนแบบเพื่อนช่วย The Training Place [9] เสนอแนวทางในการพัฒนา เพื่ อ น (peer-to-peer) การเรี ย นแบบผูฝึ กสอนและผูเ้ รี ย น ้ รู ป แบบการจัดการเรี ยนการสอนบนเว็บแบบผสมผสาน โดย (trainer-learner) และการเรี ยนแบบผูให้คาปรึ กษากับผูเ้ รี ยน ้ ํ พัฒ นาจากรู ปแบบการออกแบบระบบการเรี ยนการสอน (mentor-learner) ADDIE ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ดังนี้ 3. ขั้นการพัฒนา ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์และการวางแผน (Analysis and การพัฒนาการเรี ย นแบบผสมผสาน ประกอบด้ว ย 3 Planning) องค์ประกอบ ดังนี้ ขั้นที่ 2 การออกแบบ (Design Solutions) 3.1 อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ แ บ บ ไ ม่ ผ ส า น เ ว ล า ขั้นที่ 3 การพัฒนา (Development) (asynchronous) ได้แ ก่ ไปรษณี ย อิเล็ก ทรอนิ กส์ กระดาน ์ ขั้นที่ 4 การนําไปใช้ (Implementation) ข้อความ เวทีเสวนาและการสนทนาแบบปฏิสัมพันธ์ เครื่ องมือ ขั้นที่ 5 การประเมินผล (Evaluation) ที่ ใช้องค์ความรู ้ เป็ นฐาน ระบบอิเล็กทรอนิ กส์ เพื่อสนับสนุ น 1. ขั้นวิเคราะห์และการวางแผน ประกอบด้วย การเรี ยน (EPSS) ระบบบริ หารจัดการเนื้ อหาเรี ยนรู ้ ระบบ 1.1. การวิเคราะห์ผูเ้ รี ยน การปฏิ บติ การ องค์กร ั บริ หารจัดการเรี ยนรู ้ เครื่ องมื อนิ พนธ์เว็บ บราวเซอร์ ระบบ รู ปแบบการเรี ยน และความต้องการของระบบ เพื่อใช้ในการ ติดตามความก้าวหน้าของผูเ้ รี ยน บทความ เว็บฝึ กอบรม การ พัฒนาหลักสูตร ติดตามงานที่มอบหมาย การทดสอบ การทดสอบก่อนเรี ยน 1.2. วิ เ คราะห์ ท รั พ ยากรที่ ส นั บ สนุ น ต่ อ การจั ด การสํารวจ การชี้ แนะแบบมีส่วนร่ วม เครื่ องมืออํานวยความ กิจกรรมการเรี ยน สะดวกในการเรี ยนรู ้ และการประชุ มที่มีการบันทึกเสี ยงและ ฟังซํ้าได้
  • 7. 47 วารสารการอาชีวะและเทคนิคศึกษา ปี ที่ 1 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม 2554 3.2 องค์ประกอบแบบผสานเวลา (synchronous) แบบยืดหยุ่น และมีความหลากหลาย เพื่อให้ให้สอดคล้องกับ ได้แ ก่ การประชุ ม ผ่ า นเสี ย ง การประชุ ม ผ่า นวี ดี ท ัศ น์ การ วิธีการเรี ยน รู ปแบบการเรี ยนรู ้ รู ปแบบการคิด ความสามารถ ประชุมผ่านดาวเทียม ห้องปฏิบติการแบบออนไลน์ ห้องเรี ยน ั ในการเรี ย นรู ้ และบุ ค ลิ ก ภาพของผูเ้ รี ย นแต่ ล ะคน เพื่ อ ให้ เสมื อ น การประชุ ม ผ่า นระบบออนไลน์ และการอภิ ป ราย ผูเ้ รี ยนที่มีความแตกต่างกันเกิดการเรี ยนรู ้ ได้อย่างเท่าเทียมกัน ออนไลน์ ตามศักยภาพของตนเอง 3.3 องค์ป ระกอบแบบเผชิ ญ หน้า (Face-to-Face) 2. ปั จจัยด้านเนื้อหา (content) ได้แก่ ห้องเรี ยนแบบดั้งเดิ ม ห้องปฏิ บติก าร การเผชิ ญหน้า ั เนื่องจากเนื้ อหาที่ใช้ในการเรี ยนการสอนมีความความ การประชุ ม การเรี ย นแบบเพื่ อนช่ ว ยเพื่อน มหาวิ ทยาลัย ที่ แตกต่างกัน ดังนั้นนักออกแบบการเรี ยนการสอนควรออกแบบ ปรึ กษา กลุ่มผูเ้ ชี่ยวชาญ ทีมสนับสนุน และการแนะนําในการ กิ จ กรรมการเรี ย นให้ส อดคล้อ งกับ ลัก ษณะเนื้ อ หา เพื่ อ ให้ เรี ยน ผูเ้ รี ยนเกิดการเรี ยนรู ้ได้ดีที่สุด เนื้อหาที่เหมาะสมกับการเรี ยน 4. ขั้นการนําไปใช้ แบบออนไลน์ คือ เนื้ อหาที่มีระดับความยากไม่มากนัก และ ในการนําระบบการเรี ยนการสอนบนเว็บแบบผสมสาน เนื้อหาที่เหมาะสมกับการเรี ยนในห้องเรี ยน คือ เนื้อหาที่มีความ ไปใช้ ต้องกําหนดประเด็นแนวทางการนําไปใช้ การวางแผน ซับซ้อน ต้องการคําอธิ บายเพื่อความกระจ่างในการเรี ยนจาก การนําไปใช้ การวางแผนการใช้เทคโนโลยี และการวางแผน ผูสอน และการฝึ กปฏิบติการ ้ ั ในประเด็นอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องให้ชดเจน เพื่อให้ผูที่เกี่ยวข้อง ั ้ 3. ปั จจัยด้านระบบโครงข่ายพื้นฐาน (infrastructure) กับ การนํา ระบบการเรี ย นการสอนบนเว็บ แบบผสมสานไป เนื่องจากความสามารถในเข้าถึงระบบการจัดการเรี ยนรู ้ ใช้ ได้แ ก่ ผูเ้ รี ย น เพื่ อ นร่ ว มเรี ย น ผูส อน และสถาบันการ ้ บนเว็บแบบผสมผสานที่ แตกต่ างกัน นักออกแบบการเรี ย น ศึกษา เกิ ดการยอมรั บและมี ความเข้าใจที่ ถูกต้อง เพื่อให้การ การสอนควรออกแบบบทเรี ยนโดยคํานึ งถึงความสามารถของ จัดการเรี ยนการสอนบนเว็บแบบผสมผสานบรรลุเป้ าหมายที่ ระบบโครงข่ายพื้นฐาน ประกอบด้วย ความเสถียรของระบบ กําหนดไว้ การเชื่อมต่อกับระบบเครื อข่าย ความเร็ วในการส่ งผ่าน รับและ 5. ขั้นประเมินผล ส่งข้อมูล รู ปแบบของสื่ อสําหรับบทเรี ยนบนเว็บ เป็ นต้น การวัดและการประเมินผลสําหรับการจัดการเรี ยนการ สอนบนเว็บ แบบผสมสาน ทํา โดยการประเมิ น ผลสั ม ฤทธิ์ 7 องค์ ประกอบของการจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน ทางการเรี ยน (achieve objectives) ของผูเ้ รี ยนโดยเทียบกับ รู ปแบบการจัดการเรี ยนการสอนแบบผสมผสาน ควร เกณฑ์มาตรฐาน รวมถึงการประเมิ นงบประมาณค่าใช้จ่ายใน ประกอบด้วยองค์ประกอบที่มีการผสมผสานระหว่างการเรี ยน การพัฒนาระบบการเรี ยนการสอน แบบออนไลน์ แ ละการเรี ยนในห้ อ งเรี ยนแบบดั้งเดิ ม ซึ่ ง ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบดังนี้ [4] 6 ปัจจัยสํ าคัญในการออกแบบระบบการเรียนการสอนบนเว็บ 1. เหตุการณ์สด (live events) แบบผสมผสาน ควรจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ที่นาโดยผูสอน การบรรยาย ํ ้ ปั จจัยสําคัญที่ ควรคํานึ งถึ งในการออกแบบระบบการ ในชั้นเรี ยนแบบดั้งเดิม การประชุมผ่านระบบวีดิทศน์ และการ ั เรี ยนการสอนแบบผสมผสานให้ป ระสบผลสําเร็ จ ประกอบ สนทนาแบบประสานเวลา โดยเน้น กิ จ กรรมและรู ป แบบ ด้วย 4 ปั จจัย คือ [4] ปฏิ สั ม พัน ธ์ แ บบประสานเวลา ตามรู ป แบบของห้ อ งเรี ยน 1. ปั จจัยด้านผูเ้ รี ยน (audience) เสมือน (virtual classroom) เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเรี ยนของ เนื่ องจากความแตกต่ างระหว่างบุ คคลของของผูเ้ รี ยน ผูเ้ รี ยนตามรู ปแบบ ARCS (ARCS Model of Motivation) ของ นักออกแบบการเรี ยนการสอนควรออกแบบบทเรี ยนให้มีรูป John Keller คือต้องออกแบบเพื่อส่ งเสริ มให้ผูเ้ รี ยนเกิดความ
  • 8. วารสารการอาชีวะและเทคนิคศึกษา ปี ที่ 1 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม 2554 48 รู ้สึก 4 ประการ คือ ความตั้งใจ (Attention) ความสัมพันธ์ท่ี สําคัญในการส่ งผ่านความรู ้ การเก็บ การจดจํา การถ่ายโอน เกี่ยวข้อง (Relevance) ความมันใจ (Confidence) และความพึง ่ ความรู ้และการค้นคืนความรู ้ของผูเ้ รี ยน พอใจ (Satisfaction) 2. การเรี ยนตนเอง (Self-Paced Learning) / เนื้อหาการ 8 บทสรุป เรี ยนแบบออนไลน์ (online content) การเรี ยนบนเว็บแบบผสานสาน เป็ นการจัดกิ จกรรม ควรจัดกิจกรรมการจัดการเรี ยนการสอนและออกแบบ การเรี ย นการสอนที่ บู ร ณาการการเรี ย นออนไลน์ ผ่า นระบบ เนื้ อหาให้สอดคล้องกับประสบการณ์ ในการเรี ยนของผูเ้ รี ยน เครื อข่ายและการเรี ยนในห้องเรี ยนแบบดั้งเดิมที่มีการเรี ยนแบบ เพื่ อ ให้ ผู ้เ รี ยนได้ เ รี ยนด้ ว ยตนเองตามความสามารถส่ ว น เชิ ญ หน้า เข้า ด้ว ยกัน โดยใช้สิ่ ง อํา นวยผ่า นระบบเครื อข่ า ย บุคคล ด้วยอัตราเร็ วในการเรี ยนและระยะเวลาที่เรี ยนตามความ อิ น เทอร์ เ น็ ต เป็ นสื่ อ ช่ อ งทาง และเครื่ องมื อ ในบริ บ ทของ พึงพอใจของผูเ้ รี ยนแต่ละคน เครื่ องมือที่ใช้ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต สภาพแวดล้อ มในการเรี ยนออนไลน์ ผ่ า นระบบเครื อข่ า ย เว็บช่วยสอน และซี ดีรอมเพื่อการสอน เป็ นต้น โดยออกแบบ (online learning environment) เพื่อสนับสนุนการจัดการเรี ยน ตามหลักการออกแบบการเรี ยนการสอน 9 ขั้นตอนของกานเย การ สอน โดยเน้นการมีปฏิสัมพันธ์จากการเรี ยนออนไลน์ผาน ่ (Gagné’s Nine Events of Instruction) ระบบเครื อข่ายและการมีส่วนร่ วมในการเรี ยนแบบดั้งเดิม ร่ วม 3. การเรี ยนแบบร่ วมมือ (collaboration) กับการผสมผสานทฤษฎีการสอน (mixing theories of learning) ควรจัดสิ่ งแวดล้อมในการเรี ยนแบบร่ วมมือ มุ่งเน้นการ เข้าด้วยกัน โดยรวมเอาหลักการ แนวคิด วิธีการของทฤษฎี ติดต่อสื่ อสารเพือให้เกิดปฏิสัมพันธ์ทางการเรี ยนระหว่างผูเ้ รี ยน ่ พฤติ กรรมนิ ยม ทฤษฎี พุทธิ นิยม และทฤษฎี สร้ างสรรค์นิยม กับเพื่อนร่ วมชั้นเรี ยน ผูเ้ รี ยนกับผูสอน และผูเ้ รี ยนกับที่ปรึ กษา ้ โดยการใช้ทฤษฎี การสอนที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความ เครื่ อ งมื อ ที่ ใ ช้ ประกอบด้ว ย ไปรษณี ย อิ เ ล็ก ทรอนิ ก ส์ ห้อ ง ์ แตกต่างระหว่างบุคคลของผูเ้ รี ยน ให้ผูเ้ รี ยนเกิดการเรี ยนรู ้ได้ สนทนา และกระดานเสวนา โดยใช้กิจกรรมการอภิปรายแบบ อย่างเท่าเทียมกัน ตามศักยภาพที่ตนเองมีอยู่ การพัฒนารู ปแบบ ร้อยเรี ยง (threaded discussions) และเทคนิคการคิดร่ วมกัน การจัดการเรี ยนการสอนบนเว็บแบบผสมผสาน ประกอบด้วย 4. การประเมินผลการเรี ยนรู ้ (assessment) 5 ขั้นตอน คือ การวิเคราะห์และการวางแผน การออกแบบ การวัด และการประเมิ น ผลการเรี ย นรู ้ ของผูเ้ รี ย นตาม การพัฒนา การนําไปใช้ และการประเมิ นผล ปั จจัยสําคัญที่ วัตถุประสงค์ของการเรี ยนแบบผสมผสาน ควรประกอบด้วย ควรคํานึ งถึ งในการออกแบบระบบการเรี ยนการสอนบนเว็บ การประเมินก่อนเรี ยน (pre-assessments) โดยประเมินความรู ้ แบบผสมผสานให้ประสบผลสําเร็ จ คือ ผูเ้ รี ยน เนื้ อหา และ เดิมของผูเ้ รี ยนก่อนที่ผูเ้ รี ยนจะศึกษาเนื้ อหาด้วยตนเองผ่านเว็บ ระบบโครงข่ายพื้นฐาน โดยมีองค์ประกอบหลัก คือเหตุการณ์ และการประเมินหลังเรี ยน (post-assessments) โดยการวัดการ สด การเรี ยนตนเอง/เนื้ อหาการเรี ยนแบบออนไลน์ การเรี ยน ถ่ า ยโอนความรู ้ จ ากการเรี ย นตามขึ้ น ตอนการเรี ย นที่ ผูส อน้ แบบร่ วมมือ การประเมินผลการเรี ยนรู ้ และอุปกรณ์สนับสนุน กําหนดขึ้น ทําได้โดยการใช้แบบทดสอบ การทดสอบโดยไม่ การเรี ยน แจ้งล่วงหน้า และการประเมินตามสภาพที่แท้จริ งโดยใช้แฟ้ ม สะสมงาน 9 กิตติกรรมประกาศ 5. อุปกรณ์สนับสนุนการเรี ยน (reference Materials) ขอกราบขอบพระคุณ อุ ป กรณ์ ที่ ใ ช้ ส นั บ สนุ น การเรี ยนแบบผสมผสาน ผู ้ช่ ว ยศาสตราจารย์ ดร.ณมน จี รั ง สุ ว รรณ, ผู ้ช่ ว ย ประกอบด้วย แหล่ งข้อมูล อ้างอิง ทั้งทางกายภาพและแหล่ ง ศาสตราจารย์ ดร.พัลลภ พิริยะสุ รวงศ์, ผูช่วยศาสตราจารย์ ดร. ้ อ้างอิงเสมือน คําถามที่ถูกถามซํ้าบ่อยๆ (FAQ forums) และ ปรั ชญนันท์ นิ ลสุ ข และอาจารย์ ดร.วีระ สุ ภะ สําหรับความ การจัดการความรู ้ แบบออนไลน์ ซึ่ งอุปกรณ์เหล่านี้ เป็ นปั จจัย อนุเคราะห์ขอมูล และกําลังใจในการเขียนบทความวิชาการนี้ ้
  • 9. 49 วารสารการอาชีวะและเทคนิคศึกษา ปี ที่ 1 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม 2554 เอกสารอ้างอิง [7] Singh, H. (2005). Building effective blended learning [1] คณะอนุ กรรมการปฏิ รูปการเรี ยนรู ้ . (2003). ปฏิ รูปการ programs. [Online].Available from: เรี ยนรู ้ผเู ้ รี ยนสําคัญที่สุด. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุ งเทพมหานคร: http://www.bookstoread.com/framework/blended- สํานักงานคณะอนุกรรมการปฏิรูปการเรี ยนรู ้. learning.pdf [2010, January 4] [2] Bersin, J. (2004). The blended learning book: Best [8] Singh, H. and Reed, C. (2001). A white paper: achieving practices, proven methodologies, and lessons learned. success with blended learning. Centra Software. San Francisco, Calif: Pfeiffer. [Online].Available from: http://www.centra.com/ [3] Bonk, C. J., and Graham C.R. (2006).The handbook of download/whitepapers/blendedlearning.pdf [2010, blended learning: global perspectives, local designs. San September 28] Francisco: Pfeiffer. [9] The Training Place. (2004). Blended Learning Model. [4] Carman, J. M. (2005). Blended Learning Design: Five [Online].Available from: http://www.trainingplace.com/ Key Ingredients. [Online]. Available from: ctw/model.htm [2011, May 1] http://www.agilantlearning.com/ [10] Thorne, K. (2003). Blended learning: how to integrate pdf/Blended%20Learning%20Design.pdf [2011, May 1] online and traditional learning. London: Kogan Page. [5] Driscoll, M. (2002). Blended Learning: Let's get beyond [11] Thorne, K. (2003). How to integrate online and the hype. Learning and Training Innovations Newsline. traditional learning. London: Kogan Page. [Online]. Available from: http://www.ltimagazine.com/ [12] Uwes, A.C.(2008). Dimensi Model Blended Learning. ltimagazine/article/articleDetail.jsp?id=11755 [2009, [Online].Available from: http://fakultasluarkampus.net/ September 4] 2008/11/dimensi-model-blended-learning [2011, May 1] [6] Huang, R.H., Zhou, Y.L., Wang, F.L. (2006). Blended Learning: Theory into Practice. Higher Education Press, Beijing.