Contenu connexe
Similaire à Integrated Brand Communication in Thai (20)
Integrated Brand Communication in Thai
- 5. How to make IBC Plan my self !!!!!
- 10. Brandคือ ความรู้สึกที่ผู้บริโภคมีต่อสินค้ารวมทั้งวัตถุต่างๆที่อยู่รอบตัว ในการสื่อสารของนักการตลาดที่เกี่ยวกับแบรนด์ สิ่งสำคัญคือความเข้าใจที่มีต่อความคาดหวังของผู้บริโภค (Consumer Expectation) ปัจจุบันเราไม่ได้อยู่ในยุคของ Production Oriented หรือ Producer Oriented อีกต่อไป แต่เป็นยุคของลูกค้าหรือ Customer Orientedที่เราจะต้องเป็นฝ่ายจัดการสิ่งต่างๆเหล่านั้นให้กับลูกค้า ในการสร้างแบรนด์ถ้าสามารถ Positionตัวของเราได้ และมี Essence ถูกใจผู้บริโภค นั่นจะเป็นหัวใจหลักของการทำ Brandingและในการสื่อสารออกไปก็ควรจะสื่ออย่างง่ายๆ (Simple) และเนื้อหาต้องมีความคงเส้นคงวา (Consistence) เรียบ ง่าย สวย น่าค้นหา และ อร่อย
- 21. เพราะฉะนั้น Brand จึงมีความสำคัญมากมาย แบรนด์ ที่แข็งแรง คือทรัพย์สินที่สามารถต่อรองได้ แบรนด์ ที่แข็งแรง สามารถทำให้มูลค่าขององค์กรสูงกว่าความเป็นจริง แบรนด์ ที่แข็งแรง สามารถทำให้เกิดความภักดีใน แบรนด์ และทำให้ ต้นทุนการตลาดต่ำลง แบรนด์ ที่แข็งแรง สามารถทำให้ประหยัดงบประมาณ ในเชิงประชาสัมพันธ์ทั้งระบบ
- 22. Brand Composition Brand Attributes (Tangible Assets) Brand Values (Intangible Assets) Brand DNA or Brand Essence Brand Personality (Intangible Assets) Brand Benefits (Tangible Assets)
- 26. Brand Attributes (Tangible Assets) Brand Values (Intangible Assets) Brand DNA or Brand Essence Brand Personality (Intangible Assets) Brand Benefits (Tangible Assets)
- 41. IBC Planning การวางแผน IBC ใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับการวางแผนการโฆษณาและการส่งเสริมการตลาด โดยมีขั้นตอนที่สำคัญดังนี้ กำหนดจุดมุ่งหมาย (Purposes) หรือภารกิจ (Mission) กำหนดบุคคล (People) หรือกลุ่มเป้าหมาย (Target group) สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้า (Product) และกำหนดสิ่งที่เราต้องการขายที่แผนการตลาดของเราจะสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ รวมถึงการใส่ ส่วนผสม ของ Brand ซึ่งประกอบด้วย Brand Value Brand Essence Brand Attribute Brand Personality
- 42. Understanding Branding IBC Planning การกำหนดตำแหน่งครองใจให้กับสินค้าหรือการกำหนดตำแหน่งผลิตภัณฑ์ (Positioning) กำหนดสิ่งที่ใช้เป็นประเด็นสนับสนุนจุดขาย (Selling point) ข้อพิสูจน์ (Proof) การเลือกวิธีการสื่อสารตราสินค้า (Brand contact point) หรือเครื่องมือที่ใช้เป็นเวทีต่อสู้ (Platform) แนวทางของการนำเสนอ (Presentation) Action Plan + Budgeting Evaluating
- 43. Module 1 - Stage 1 From Products to Brands เอาละนะ ... ลงมือทำแผนกันดีกว่า A Brand is a Promise
- 44. Module 1 - Stage 1 From Products to Brands กำหนดจุดมุ่งหมาย (Purposes) หรือภารกิจ (Mission) ประกอบด้วยการกำหนดจุดมุ่งหมาย 3 ด้าน ดังนี้ 1.1 การกำหนดภารกิจหลักโดยรวม (Over all tasks) เป็นการกำหนดภาระ โดยรวม ซึ่งมักจะมี กรอบเวลาด้วย 1.2 การกำหนดภารกิจทางธุรกิจ (Business tasks) หากเป็นแผนงาน รณรงค์ จะเรียก ภารกิจเชิงพฤติกรรม หรือ (behavioral Objective) และจะมีการกำหนดจำนวน อย่างเด่นชัด 1.3 กำหนดภารกิจของการสื่อสาร (Communication task) เป็นการกำหนด ยุทธศาสตร์ ของการสื่อสาร ในเชิงนามธรรม
- 49. 3. สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้า (Product) และกำหนดสิ่งที่เราต้องการขายที่แผนการตลาดของเราจะสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ ซึ่งในกรณีนี้จะต้องเข้าใจถึงรายละเอียดของสินค้า (Description of product) แนวความคิด (Concept) คุณสมบัติ (Attribute) รูปลักษณะ (Feature) สายผลิตภัณฑ์ (Product line) ส่วนประสมผลิตภัณฑ์ (Product mix) แนวความคิดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ (Product concept)
- 50. 4. ระบุปัญหา (Problem) อุปสรรค (Threats) และผลประโยชน์ (Benefit) ทางการตลาด เป็นการวิเคราะห์ปัญหาของผู้บริโภคก่อน (Consumer problem) แล้วจึงพิจารณาว่าผลิตภัณฑ์ของเราสามารถแก้ปัญหาให้กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้อย่างไร ถ้าสินค้าของเราไม่สามารถสู้คู่แข่งขันได้ ก็จะเป็นอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาด
- 52. 6. กำหนดสิ่งที่ใช้เป็นประเด็นสนับสนุนจุดขาย (Selling point)เป็นการให้คำมั่นสัญญา (Promise) หรือยืนยันเกี่ยวกับผลประโยชน์ (Benefit) หรือจุดขาย (Selling point) ที่สามารถจูงใจกลุ่มเป้าหมายได้ (Compelling selling point) โดยจุดขายนั้นจะต้องสามารถสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งอาจจะเป็นลักษณะของผลิตภัณฑ์ (Product characteristic) ทางด้านต่างๆ ได้แก่ ลักษณะทางกายภาพ ลักษณะทางจิตวิทยา ลักษณะทางสังคม หรือลักษณะการใช้งานของผลิตภัณฑ์ก็ได้
- 53. 7. ข้อพิสูจน์ (Proof) เป็นสิ่งที่ใช้สนับสนุนจุดขายให้ดูน่าเชื่อถือ โดยอาจจะเป็นการสาธิต การทดสอบ การพิสูจน์คุณสมบัติหรือการทำงานของสินค้า
- 54. 9. การเลือกวิธีการสื่อสารตราสินค้า (Brand contact point) หรือเครื่องมือที่ใช้เป็นเวทีต่อสู้ (Platform) เป็นการเลือกวิธีการสื่อสารตราสินค้าโดยคำนึงถึงความเหมาะสมกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายและสถานการณ์ซึ่งจะใช้หลายเครื่องมือประสมประสานกันมากกว่าที่จะใช้เครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่งเพราะความเคยชิน ตัวอย่างของวิธีการสื่อสารตราสินค้าที่นิยมใช้ ซึ่งจะได้อธิบายถึงต่อไปในหัวข้อของเครื่องมือการติดต่อสื่อสารการตลาดแบบครบเครื่อง
- 60. อบรมผู้สัมนา โฆษณา Marketing PR -Corporate -Service Spin-off effect โครงการประกวดกาพย์เห่เรือ นารายณ์ ทรงสุบรรณ แถลงข่าว PR ถ่ายทอดสด Event 2oo ITV Launch นิทรรศการ ตัดสิน-มอบรางวัล นิทรรศการเบื้อหลัง ภาพยนตร์โฆษณา Press invitation ภาพยนตร์โฆษณา “เบญจนิมิตร.” 90 ปี ธนาคารไทยพาณิชย์ Thai Bank Museum CD ROM DM บอร์ดประกาศ แถลงข่าว เปิดตัว ภาพยนตร์โฆษณา คู่มือ CD Rom New CI เปิดตึก SCB Park Promotions Campaign เดินเรื่องด้วยภาพ News / photo release Press-Photo release สัมมนา วารสารภายใน บอร์ดประกาศ Shot เด็ดโฆษณา ส่งภาพข่าว
- 66. 10. แนวทางของการนำเสนอ (Presentation) ทุกเครื่องมือที่ใช้นั้นจะต้องสร้างให้เกิดความพร้อมของอารมณ์ (Mood) ในการปฏิบัติให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน ตัวอย่างเช่น ถ้าจะจัดการแข่งขันแรลลี่ที่สนุกสนาน เอกสารที่ใช้แจกในงาน (Leaflet) ก็จะต้องมีสีสันและรูปแบบที่สะดุดตา น่าสนใจ จึงจะมีความสัมพันธ์กัน แต่ถ้าดูเป็นวิชาการ เคร่งเครียด ในกรณีนี้ถือว่าแนวทางของการนำเสนอนั้นไม่สอดคล้องกัน 1 การสร้างความพร้อมของอารมณ์ (Mood) ในการปฏิบัติ ซึ่งอาจจะเป็นอารมณ์สนุกสนาน อารมณ์ขัน อารมณ์โรแมนติก หรืออารมณ์อื่นๆ 2 ลีลา (Tone) เป็นการพิจารณาว่าจะมุ่งขายโดยตรง (Hard sell) หรือมุ่งขายโดยอ้อม (Soft sell) โดยอาจจะใช้การจูงใจด้านเหตุผล (Rational tone) เช่น ประหยัด คุณภาพดี ทนทาน หรือการจูงใจด้านอารมณ์ (Emotional tone) เช่น การยอมรับ การยกย่อง อารมณ์รัก อารมณ์เศร้า อารมณ์ขัน อารมณ์ประทับใจ ความภาคภูมิใจ เป็นต้น