Publicité

11 ethics and lifestyle

13 Sep 2011
Publicité

Contenu connexe

Similaire à 11 ethics and lifestyle(20)

Publicité

11 ethics and lifestyle

  1. จริยธรรมกับการดําเนินชีวต(ตอ) ิ รศ.วิมล เอมโอช จริยธรรมของนักธุรกิจ นักธุรกิจมีคณธรรมจริยธรรมจะเปน ุ นักธุรกิจที่มความเจริญรุงเรืองยิ่งขึ้น ี หากขาดคุณธรรมจริยธรรมจะถูก สังคมลงโทษในที่สุดจะตองลมสลาย ไปตามกรรมเวรที่กอไว ดังนั้น นัก ธุรกิจที่ดีตองมีคุณธรรมจริยธรรม
  2. จริยธรรมกับการดําเนินชีวต(ตอ) ิ รศ.วิมล เอมโอช จริยธรรมของนักธุรกิจ(ตอ) ธุรกิจ หมายถึง การคา ( commerce ) ขบวนการผลิตสินคา ( Industry) เพื่อจําหนายจายแจกโดยสนองความตองการของ ผูบริโภคและมุงหวังกําไร ขบวนการผลิตสินคาเริ่มตั้งแตการนํา วัสดุมาแปรสภาพกลายเปนสินคาสําเร็จรูป คือ วัตถุดิบ เครื่องจักร คนงานและการจัดการผลิต เปนตน
  3. จริยธรรมกับการดําเนินชีวต(ตอ) ิ รศ.วิมล เอมโอช จริยธรรมของนักธุรกิจ(ตอ) นักธุรกิจหรือผูประกอบธุรกิจ คือ พอคา ผูมีอาชีพทางการคา บุคคลหรือองคกรใด ๆ ทีดําเนินการผลิตสินคา หรือบริการตามความ ่ ตองการของผูบริโภคในการลงทุนในรูปแบบกําไร
  4. จริยธรรมกับการดําเนินชีวต(ตอ) ิ รศ.วิมล เอมโอช หลักเกณฑปฏิบัติในการดําเนินธุรกิจ 6 ประการ 1. นักธุรกิจพึงปฏิบตตอลูกคา ดังนี้ ั ิ  1 พึงขายสินคาและบริการในราคายุติธรรม 2 พึงขายสินคาและบริการใหถูกตอง 3 พึงดูแลและใหบริการแกลูกคาทุกคนอยางเทาเทียมกัน
  5. จริยธรรมกับการดําเนินชีวต(ตอ) ิ รศ.วิมล เอมโอช หลักเกณฑปฏิบัติในการดําเนินธุรกิจ 6 ประการ (ตอ) 1. นักธุรกิจพึงปฏิบตตอลูกคา ดังนี้ ั ิ  4 พึงละเวนการกระทําใด ๆ ที่ควบคุมการตัดสินใจของลูกคา 5 พึงละเวนการกระทําใด ๆ เพื่อใหบริการสินคามีราคาสูงขึ้นโดยไมมเี หตุผล 6 พึงปฏิบัติตอลูกคาและใหบริการอยางมีน้ําใจไมตรี
  6. จริยธรรมกับการดําเนินชีวต(ตอ) ิ รศ.วิมล เอมโอช หลักเกณฑปฏิบัติในการดําเนินธุรกิจ 6 ประการ(ตอ) 2. นักธุรกิจพึงปฏิบตตอคูแขงขัน ดังนี้ ั ิ  การแข ง ขั น เป น การสร า งสรรค มิ ใ ช เ พื่ อ ทํ า ลายล า งซึ่ ง กั น และกั น พึงละเวนจากการกลั่นแกลง ใหรายปายสีทับถมไมวาโดยทางออม หรือดวยการ ขมขูและกีดกันอันทําใหคูแขงเสียโอกาสอยางไมเปนธรรม เชน การขายตัด ราคา การทุมเทสินคาเขาตลาด
  7. จริยธรรมกับการดําเนินชีวต(ตอ) ิ รศ.วิมล เอมโอช หลักเกณฑปฏิบัติในการดําเนินธุรกิจ 6 ประการ(ตอ) 3. นักธุรกิจพึงปฏิบัติตอหนวยราชการ ดังนี้ หนวยราชการ เปนหนวยของสังคม ตองอยูภายใตกฎบังคับของกฎหมาย นักธุรกิจเองก็มักมีปญหาเสมอ ไมเขาใจหลักการและเหตุผลของรัฐ ราชการ ก็ใชหลักธรรมของจริยธรรม ไมเกิดความเดือดรอนตอนักธุรกิจ
  8. จริยธรรมกับการดําเนินชีวต(ตอ) ิ รศ.วิมล เอมโอช หลักเกณฑปฏิบัติในการดําเนินธุรกิจ 6 ประการ(ตอ) 4. นักธุรกิจควรปฏิบัติตอพนักงาน ดังนี้ 1 การใหคาจางและผลตอบแทนทีเ่ หมาะสมกับความสามารถ 2 พึงเอาใจใสในสวัสดิการ สถานที่ทํางาน มีความปลอดภัย 3 พึงพัฒนา และใหความรูเพือเพิ่มความชํานาญ ่ 4 พึงใหความยุติธรรม
  9. จริยธรรมกับการดําเนินชีวต(ตอ) ิ รศ.วิมล เอมโอช หลักเกณฑปฏิบัติในการดําเนินธุรกิจ 6 ประการ(ตอ) 4. นักธุรกิจควรปฏิบัติตอพนักงาน ดังนี้ (ตอ) 5 พึงศึกษาและทําความเขาใจในพนักงานของตน 6 พึงเคารพสวนบุคคล 7 พึงใหความเชื่อถือไววางใจ 8 พึงใหคําแนะนําปรึกษา 9 พึงสนับสนุนใหพนักงานไดประพฤติเปนพลเมืองดี
  10. จริยธรรมกับการดําเนินชีวต(ตอ) ิ รศ.วิมล เอมโอช หลักเกณฑปฏิบัติในการดําเนินธุรกิจ 6 ประการ(ตอ) 5. นักธุรกิจพึงปฏิบัติตอสังคม ดังนี้ 1 พึงละเวนการประกอบธุรกิจทีทําใหสงคมเสือม ่ ั ่ 2 พึงละเวนการประกอบธุรกิจทีทําลายทรัพยากรธรรมชาติ ่ 3 พึงดูแลเอาใจใสการประกอบกิจการของตน
  11. จริยธรรมกับการดําเนินชีวต(ตอ) ิ รศ.วิมล เอมโอช หลักเกณฑปฏิบัติในการดําเนินธุรกิจ 6 ประการ(ตอ) 5. นักธุรกิจพึงปฏิบัติตอสังคม ดังนี้ (ตอ) 4 พึงใหเคารพในสิทธิสิทธิทางปญญาของผูอื่น โดยไม ลอกเลียน 5 พึงใหความรวมมือกับทุกฝายในชุมชน 6 ในการดําเนินธุรกิจนักธุรกิจพึงใหความสนใจเรื่องการสรางงาน
  12. จริยธรรมกับการดําเนินชีวต(ตอ) ิ รศ.วิมล เอมโอช หลักเกณฑปฏิบัติในการดําเนินธุรกิจ 6 ประการ 6. นักธุรกิจพึงปฏิบัติตอนักธุรกิจ ดังนี้ 1 ซื่อสัตยสจริตในการปฏิบัติงาน ุ 2 รับผิดชอบงานตามชอบเขตหนาที่ของตนเอง 3 มีความขยันหมั่นเพียร 4 มีวินัยในการทํางาน 5 ใหเกียรติและไมขัดผลประโยชนผูอื่น
  13. จริยธรรมกับการดําเนินชีวต(ตอ) ิ รศ.วิมล เอมโอช หลักธรรมของนักธุรกิจ 1. ฆาราวาสธรรม 4 สัจจะ คือ ความจริง ตองมีความจริงใจ ซื่อสัตยตอ 1 ทุก ๆ คนรวมทั้งลูกคาของตน ทมะ คือฝกตนใหรูจักขมใจ ควบคุมจิตใจเพื่อแกไข 2 ขอบกพรอง ขอขัดแยง ปรับปรุงตนใหดีงามยิ่งขึ้น ขันติ คือความอดทน จิตใจหนักแนน ไมวูวามทน 3 ตอความลวงล้ําก้ําเกินกัน และรวมกันอดทนตอความ ยากลําบากตรากตรําเพื่อฟนฝาอุปสรรคตาง ๆ จาคะ คือ เสียสละมีน้ําใจ เสียสละความสุขสําราญ 4 เพื่อผูอื่นได มีจิตใจเอื้อเฟอตอลูกคา ใจกวาง
  14. จริยธรรมกับการดําเนินชีวต(ตอ) ิ รศ.วิมล เอมโอช 2. กัลยาณธรรม 5 (เปนธรรมคูกับศีล 5 ธรรมะของคนดี) เมตตา-กรุณา เมตตา ไดแก ความคิดปรารถนาใหผูอื่นเปนสุข 1 กรุณา ไดแก ความปรารถนาใหผูอื่นปราศจากทุกข 2 สัมมาอาชีวะไดแกการประกอบอาชีพที่สจริต ุ 3 ความสํารวมในกามไดแก กิริยาที่ระมัดระวัง ไมประพฤติมักมากในกาม 4 ความมีสัตย ไดแก ความซื่อตรง ทั้งกาย วาจา ใจ 5 ความมีสติตรวจตราไดแก ความรอบคอบไมประมาท สุขุม ไมวูวาม ทุกคนควรมีกัลยาณธรรมที่จะสรางความเปนคนดีใหแกตนเองในทุกอาชีพ
  15. จริยธรรมกับการดําเนินชีวต(ตอ) ิ รศ.วิมล เอมโอช 3. อกุศลมูล (ตนเหตุแหงความชั่ว) 1.โลภะ คือ ความโลภ อยากไดโดยไรสติ ไมรูผิดชอบชั่วดี ทําใหประพฤติชั่ว เห็นแกตัว อยากไดไมรูจบสิน ้ 2.โทสะ คือ ความโกรธแคน คิดประทุษรายเขา โกรธแคนคิดทํารายผูอื่น 3.โมหะ * คือ ความหลงงมงายโดยไมรูจริง มีความโฉดเขลาเบาปญญา ไมใชสติเปน ตัวการทําใหเกิดโลภะ โทสะ ตามมา ตองกําจัดอกุศลมูลทั้ง 3 ดวย ทาน ศีล และภาวนา ทาน คือ การกําจัดโลภะ (ผูบําเพ็ญทานยอมปติเบิกบานใจ) ศีล คือ กําจัดโทสะ (ผูรักษาศีลยอมมีความสงบเยือกเย็น) ภาวนา คือ กําจัดโมหะ (ผูเจริญภาวนา ยอมเกิดสติปญญาสุขุม เปรื่องปราชญ) 
  16. จริยธรรมกับการดําเนินชีวต(ตอ) ิ รศ.วิมล เอมโอช 4. กุศลมูล 1.อโลภะ คือ ไมโลภ ไมอยากไดของผูอื่น 2.อโทสะ คือ ไมโกรธ ไมคิดประทุษรายผูอื่น 3.อโมหะ คือไมหลงงมงาย รูจริงในตน ทุกสิ่งทุกอยาง เกิด => แตก => ดับ (ทุกอยางเปนอนิจจัง จึงไมควรเบียดเบียนกัน) สิ่งที่เหลืออยูคอความดีงามหรือความชั่วที่เราทําไว) ื
  17. ความหวังของ “มนุษย” ทุกรูปทุกนามคือ “ความสุข” ในชีวตตามคําสอนในทางพุทธศาสนาบอกทางไวใหเรา ิ คือ มรรค 8 คือทางเดินที่จะเดินไปถึงความสุขดังกลาว คือ 5. มรรค 8 1 สัมมาทิฎฐิ = ปญญาเห็นชอบ 2 สัมมาสังกัปป = ดําริชอบ 3 สัมมาวาจา = เจรจาชอบ 4 สัมมากัมมันตะ = ทําการงานชอบ
  18. ความหวังของ “มนุษย” ทุกรูปทุกนามคือ “ความสุข” ในชีวตตามคําสอนในทางพุทธศาสนาบอกทางไวใหเรา ิ คือ มรรค 8 คือทางเดินที่จะเดินไปถึงความสุขดังกลาว คือ 5. มรรค 8 (ตอ) 5 สัมมาอาชีพ = เลี้ยงชีวิตชอบ 6 สัมมาวายามะ = มีความเพียรชอบ 7 สัมมาสติ = ระลึกชอบ คือระลึกในสติ ปฎฐาน 4 รูเทาทัน 8 สัมมาสมาธิ = ตั้งใจไวชอบคือเจริญญาณทั้ง 4
  19. จริยธรรมของพนักงานมีดังตอไปนี้ รศ.วิมล เอมโอช ปฏิบัติงานดวยความวิริยะอุตสาหะตามที่ไดรับ 1 มอบหมาย ปฏิบัติงานดวยความซื่อสัตยสุจริต 2 ปฏิ บั ติ ต นให อ ยู ใ นระเบี ย บกฎข อ บั ง คั บ ของ 3 องคการ
  20. จริยธรรมของพนักงานมีดังตอไปนี(ตอ) ้ รศ.วิมล เอมโอช 4 มีความสมานฉันทกลมเกลียว อดทน อดกลั้น รักษาทรัพยสินขององคการเพื่อไมใหทรัพยสิน 5 นั้นเสื่อมเสียกอนเวลาอันควร พัฒนาประสิทธิภาพของตนทั้งทางดานความรู 6 และความสามารถ ปฏิบัติตนใหพรอมที่จะไดรับมอบหมายภารกิจ 7 ตามสภาวะการตาง ๆ
  21. 7.จริยธรรมของพนักงาน/ลูกจาง รศ.วิมล เอมโอช ขอพึงปฏิบัติของพนักงาน 1 เริ่มทํางานกอน 2 เลิกงานทีหลัง 3 เอาแตของทีนายให ่ 4 ทําการงานใหเรียบรอยและดียิ่งขึ้น 5 นําความดีของนายและกิจการไปเผยแพร
  22. ขอคิดเตือนใจสําหรับนายจางและลูกจาง 8 อยาก รศ.วิมล เอมโอช แปดอยาก อยากมีเงิน ตองทํางาน จึงพานพบ อยากเรียนจบ ตองขยัน หมั่นศึกษา ถาอยากรัก ตองฝกใฝ เวียนไปมา อยากมีหนา เสนอหนา อาสาคน อยากมีเกียรติ เลิกชั่ว อยากลัวอด อยากมียศ กลาแข็ง ทุกแหงหน อยากเปนหนึ่ง ตองพึ่ง ตัวของตน อยากเปนคน ตองมีธรรม ประจําใจ จาก วัดสวนแกว
  23. จริยธรรมของครูอาจารย รศ.วิมล เอมโอช อาชีพครู อาจารย เปนอาชีพที่คน ในสังคมตั้งความหวังไวสูงวาจะตองเปน คนดี มีคุณธรรม จริยธรรมสูง เปน ตัวอยางเปนผูนาที่ทุกคนในสังคมจะตอง ํ พึ่งพาได นอกจากมีคุณธรรมจริยธรรม เชนเดียวกับคนทั่วไปแลว ยังตองมี จรรยาบรรณของอาชีพอีกดวย หลักธรรมและจริยธรรมที่ควรยึดถือ ปฏิบัติไดแก
  24. จริยธรรมของครูอาจารย (ตอ) รศ.วิมล เอมโอช 1. สุจริต 3 1.กายสุจริต คือความสุจริตทางกาย คือยึดถือปฏิบัติ ในสิ่งที่ถูกตองดีงามเหมาะสม 2.วจีสุจริต คือ ความสุจริตทางวาจา คือพูดในสิ่งที่ดี งาม ถูกตอง ไพเราะ ไมนินทาเยาะเยย ถากถาง ไม พูดโกหก 3.มโนสุจริต คือ ความสุจริตทางใจคือคิดในสิ่งที่ดี งาม ถูกตอง ไมมีอคติหรือลําเอียงมีใจเปนธรรมทุก คน ไมอิจฉาหรือปองรายใคร
  25. จริยธรรมของครูอาจารย (ตอ) รศ.วิมล เอมโอช 2.พรหมวิหาร 4 1. เมตตา (ความรัก) คือความปรารถนาดี ตองการ ชวยเหลือผูอื่นใหมความสุข ี หลักธรรมเรื่องพรหม 2.กรุณา (ความสงสาร) คืออยากชวยเหลือผูอื่นให วิ ห าร 4 ผู มี อ าชี พ ครู พนจากความทุกข ใฝใจที่จะปลดเปลื้องบําบัดความ ตองยึดมั่นและใชเสมอ ทุกขใหแกผูอื่น และควรเลื อ กใช ใ ห 3.มุทิตา (ความเบิกบานพลอยยินดี)เมื่อเห็นผูอื่นอยูดี เหมาะสมกั บ โอกาส มีสุข ก็มีใจแชมชื่นเบิกบานและยินดีดวย ตามสถานการณอยาง เหมาะสม 4. อุเบกขา (ความมีใจเปนกลาง) คือมองตามความ เปนจริง เที่ยงตรง มองเห็นความจริงวาบุคคลจะ ไดรับผลดีหรือชั่วดวยการกระทําของตนเอง
  26. จริยธรรมของครูอาจารย (ตอ) รศ.วิมล เอมโอช 3. กัลยาณมิตร 7 ปโย (นารัก) คือ มีเมตตากรุณา ใสใจคนและประโยชนสุข 1 ของเขา เขาถึงจิตใจ สรางความรูสึกสนิทสนมเปนกันเอง ครุ (นาเคารพ) คือ เปนผูหนักแนน ถือหลักการเปนสําคัญและมี 2 ความประพฤติใหสมควรแกฐานะ ทําใหรูสึกอบอุนเปนทีพงได ่ ึ่ ภาวนิโย (นาเจริญใจ) คือ มีความรูจริง ทรงภูมิปญญาแทจริง 3 และเปนผูฝกฝนปรับปรุงตนอยูเสมอ นายกยองควรเอาอยาง ทําใหศิษยเอยอางและรําลึกถึงดวยความซาบซึงมั่นใจและ ้ ภาคภูมิใจ
  27. จริยธรรมของครูอาจารย (ตอ) รศ.วิมล เอมโอช 3. กัลยาณมิตร 7 (ตอ) วตฺตา (รูจักพูดใหไดผล) คือรูจักชี้แจงใหเขาใจรูวาเมื่อไรควร  4 พูดอะไร อยางไร วากลาวตักเตือนไดดี วจฺนกฺขโม (อดทนตอถอยคํา) คือพรอมที่จะรับฟงคําปรึกษา 5 ซักถาม ตลอดจนคําลวงเกินและคําตักเตือนวิพากษวิจารณตาง ๆ อดทนฟงได ไมเบือหนายไมเสียอารมณ ่
  28. จริยธรรมของครูอาจารย (ตอ) รศ.วิมล เอมโอช 3. กัลยาณมิตร 7 (ตอ) คมฺภีรฺจกถํกตฺตา (แถลงเรื่องล้ําลึกได) คือกลาวชี้แจงเรื่อง 6 ตาง ๆ ที่ยุงยากลึกซึงใหเขาใจไดและสอนศิษยใหไดเรียนรูเรื่องราว ้ ที่ลึกซึงยิงขึ้นไป ้ ่ โนจฏญาเน นิโยชาย คือไมชักจูงไปในทางที่เสื่อมเสียหรือ 7 เหลวไหลไมสมควร เชนไมชักชวนใหสูบบุหรี่ ดื่มน้ําเมา เที่ยว กลางคืน เปนตน
  29. จริยธรรมของครูอาจารย (ตอ) รศ.วิมล เอมโอช 4. อารยธรรม10 (1)ละเวนการฆา ทางกาย (2)ละเวนการแยงชิงลักขโมย 3 (3)ละเวนการประพฤติผิดในของรักของหวงของผูอื่น (4)ละเวนการพูดเท็จ (5)ละเวนการพูดสอเสียด ยุยง ทางวาจา 4 (6)ละเวนการพูดคําหยาบ กาวราว (7)ละเวนการพูดเหลวไหลเพอเจอ (8)ไมละโมบ ไมคิดเอาแตได รูจักเสียสละ (9)ไมคิดมุงเบียดเบียน หรือมุงทําลายผูอื่น ทางใจ 3 (10)มีความเห็นถูกตอง ยึดหลักธรรม
  30. จริยธรรมของครูอาจารย (ตอ) รศ.วิมล เอมโอช 4. อารยธรรม10 (ตอ) สําหรับอายธรรม 10 ประการนี้ หากพิจารณาแลวจะเห็นวาปฏิบัติดี คือ การประพฤติตามหลักของศีล 5 นั่นเอง ซึ่งหากผูใดประพฤติปฏิบัติ ไดยอมเวนจากการทําชั่ว ทั้งทางกาย วาจา และใจนั่นเอง ซึ่งใชไดกับทุก อาชีพ มิใชเพียงแตครูอาจารยเทานั้น
  31. คํากลอนเตือนใจสําหรับ ครู/อาจารย รศ.วิมล เอมโอช อาชีพครู ควรรอบรูสารพัด ควรเครงครัดหางตัณหาอยาถลํา ควรประพฤติยึดดีมีประจํา ประพฤติธรรมใหประจักษวารักดี ผศ.วีระ รักความสุข
  32. คํากลอนเตือนใจสําหรับ ครู/อาจารย (ตอ) รศ.วิมล เอมโอช ครู....ดีเมตตาศิษยคิดสั่งสอน คือ.....สังวรในหนาที่อุปถัมภ ผู.......ยึดหลักบริสุทธิ์ยุติธรรม ให....จดจําหลักวิชากาวหนาไกล ผศ.วีระ รักความสุข
  33. คํากลอนเตือนใจสําหรับ ครู/อาจารย (ตอ) รศ.วิมล เอมโอช ความรูคูคุณธรรม  เมื่อความรูยอดเยียมสูงเทียมเมฆ ่ แตคุณธรรมต่ําเฉกยอดหญานั่น อาจเสกสรางมิจฉาสารพัน เพราะจิตอันไรอายในโลกา แมคุณธรรมสูงเยี่ยมถึงเทียมเมฆ แตความรูต่ําเฉกเพียงยอดหญา ยอมเปนเหยื่อจารชนจนอุรา ดานปญญาออนดอยนานอยใจ หากความรูสูงล้ําคุณธรรมเลิศ แสนประเสริฐกอปรกิจวินิจฉัย (ศาสตราจารยอําไพ สุจริตกุล) อําไพ สุจริตกุล.ปาฐกถา ครั้งที่ ๖ คุณธรรมครูไทย จะพัฒนาประชาราษฎรทั้งชาติไทย คณะครุศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย.กรุงเทพฯ: ตองฝกใหความรูคูคุณธรรม โรงพิมพจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย, ๒๕๕๓ : ๓๐๔-๓๐๕.
  34. จริยธรรมของครูอาจารย (ตอ) รศ.วิมล เอมโอช คนทุ ก คนทุ ก ชาติ ทุ ก ภาษาควรมี ห ลัก ธรรมเป น เครื่องยึดเหนี่ยวประจําใจของตนเพราะศาสนาทุก ศาสนาสอนใหคนเปนคนดี มีศีลมีธรรมดวยกัน ทุกศาสนาแมแตคนที่ไมมีศาสนา หากตองการ เป น คนดี ก็ ค วรมี เ ครื่ อ งยึ ด เหนี่ ย วจิ ต ใจให ใ ฝ ดี ประพฤติ ป ฏิ บั ติ ใ นทางดี ง ามจึ ง จะเป น คนที่ มี คุณคาตอการเกิดมาในโลกนี้
  35. รศ.วิมล เอมโอช สิ่งล้ําคาที่สุดของคนเราคือชีวิต สิ่งที่สวยงามที่สุดของคนเรานัน ้ ก็คืองานที่เราสรางขึ้น และสามารถรับ ใชประชาชนตอไปภายหลังที่ชีวิตของ เราดับสูญไปแลว นิโคลไรน อาชาลอฟสกี้
  36. รศ.วิมล เอมโอช คณะครุศาสตร LOGO มหาวิทยาลัยราชภัฏรําไพพรรณี
Publicité