Contenu connexe
Similaire à มารู้จักโรคไข้เลือดออก กันครับ
Similaire à มารู้จักโรคไข้เลือดออก กันครับ (20)
มารู้จักโรคไข้เลือดออก กันครับ
- 2. ความรูทั่วไปเกี่ยวกับโรคไขเลือดออก
จากการศึกษาประวัติของโรคไขเลือดออก โดยฮาลสเตค ( S.B. Halstead 1980 ) กลาวโดย
สรุปวาความหมายของ “ Dengue “ ที่มีในศัพทภาษาอังกฤษมาจากภาษาสเปนในหมูเกาะอินดิส
ตะวันตก ( West indies ) ซึ่งออกเสียงเหมือนภาษาสเปนคําวา “ Kl Denga pepo ” มีความหมายวา
เปนอาการลมชักที่มีสาเหตุมาจากวิญญาณอันชั่วราย ( สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี.
2533 : 32 )
โรคไขเลือดออก เปนกลุมอาการของผูปวย เริ่มดวยอาการมีอาการไข เลือดออกบริเวณใตพื้น
ผิวหนังและตามอวัยวะตางๆ ซึ่งมีความรุนแรงตางๆ กัน อาจมีอาการช็อกรวมดวยหรือไมมีก็ได
( ชวลิต ทัศนสวาง. 433 ) การรายงานผูปวยโรคไขเลือดออกในประเทศไทยหมายถึงโรคที่เกิดจาก
เชื้อ Dengue virus Chigkugunya Virus เทานั้น ( กองระบาดวิทยา กระทรวงสาธารสุข อางใน
ประหยัด แดงสุภา. 2542 : 5 )
1.1 ระบาดวิทยา
ไขเลือดออก พบมีการระบาดครั้งแรกในประเทศไทย ในป พ.ศ. 2501 มีการระบาดครั้ง
ใหญในกรุงเทพมหานคร ประมาณ 2,500 ราย ตายกวา 200 กวาราย และมีการระบาดไปทัวทุกภาค ่
ของประเทศไทยจนถึงปจจุบัน หมูบานที่ไมมการระบาด 3 ป ติดตอกันนาจะมีความเสี่ยงมากกวา
ี
พื้นที่ทมีการระบาดใหม การระบาดมีความสัมพันธกันกับระดับภูมิคมกันของไวรัสทั้ง 4 ไทป
ี่ ุ
ชุมชน หรือ หมูบานที่หนาแนนพบอัตราปวยสูงกวาชุมชน หรือ หมูบานกระจัดกระจาย อางใน
ประหยัด แดงสุภา ( 2542 : 17 )
1.2 สาเหตุและการเกิดโรค
เชื้อที่เปนสาเหตุของการเกิดโรคไขเลือดออก คือ เชื้อไวรัส เชื้อไวรัสที่เปนสาเหตุที่
สําคัญคือ Dengue virus ซึ่งเปน RNA virus อยูในครอบครัว Family Togaviridae กลุม Subgruop
flavivirus มีอยู 4 serotype คือserotype 1, 2, 3, 4 เชื้อ Dengue virus ทั้ง 4 serotype นี้มี Antigen
- 3. บางสวนรวมกัน ดังนั้น เมื่อเชื้อตัวใดตัวหนึ่งเขาสูรางกาย จะทําใหรางกายสรางภูมิตานทานตอเชื้อ
ตัวนั้นซึ่งอยูไดถาวร และยังตอตานขามไปยังเชื้อชนิดอื่น ๆ อีก 3 ชนิด (Cross reaction) แตอยูไม
ถาวร โดยทั่วไปอยูไดนาน 6 – 12 เดือน หลังจากระยะนี้แลวคนที่เคยติดเชื้อ ไวรัส Dengue ชนิด
หนึ่งอาจติดเชื้อ Dengue ชนิดอื่นที่แตกตางไปจากครั้งแรกอีกได ถือเปนการติดเชื้อซ้ําครั้งที่ 2 การ
ติดเชื้อซ้ํานี้เปนที่เชื่อกันวา เปนปจจัยสําคัญที่ทําใหเกิดโรคไขเลือดออก เชื้อไวรัสที่แยกจากผูปวย
ดังกลาวนี้ มีทั้ง 4 ชนิด แตที่พบบอยคือ Dengue 2 และ 4 ในระยะหลังเริ่มพบเชื้อชนิด Dengue 1, 3
มากขึ้น นอกจากนี้ยังพบวา ในรายที่มีอาการรุนแรงถึงขั้นช็อก Dengue Shock Syndrome มักตรวจ
พบเปนรายที่มีภูมิตานทานอยูกอนในระดับที่ไมสามารถปองกันโรคได และถา มีอาการติดเชื้อซ้ํา
ดวย Dengue 2 จะตรวจพบอาการรุนแรงได อางใน ชวลิต ทัศนสวาง ( 2536 : 433 ) และ กรม
ควบคุมโรคติดตอ ( 2537. : 59 )
1.3 การติดตอ
โรคไขเลือดออกติดตอโดยยุงลายเปนพาหะนําโรค การติดตอเกิดจากการที่ยุงลายไปดูดกิน
เลือดจากผูปวยที่มีเชื้อไวรัส Dengue จากนั้นเชื้อไวรัสจะลงสูกระเพาะยุงลาย ฝงตัวในผนังกระเพาะ
ยุง เพิ่มแบงจํานวนตัวมันเอง แลวเดินทางไปยังสวนหัวของยุงลายเขาสูตอมน้ําลาย เมือยุงลายบินไป
่
กัดดูดเลือดคนใหมก็จะปลอยเชื้อไวรัส Dengue เขาสูกระแสเลือดของคนที่ถูกยุงลายกัด แลวเชื้อจะ
เพิ่มจํานวนมากขึ้น จนทําใหเกิดอาการปวยเปน โรค ระยะเวลาที่เชื้อไวรัส Dengue เดินทางจาก
กระเพาะยุงลายถึงตอมน้ําลายยุงลาย ใชเวลาประมาณ 8 – 12 วัน ระยะที่เชื้อไวรัส Dengue เขาสู
กระแสเลือดของคนที่ถูกกัดดูดเลือดใหม แลวเพิ่มจํานวนจนทําใหเกิดอาการปวยขึ้น เรียกวาระยะ
ฟกตัวของโรค ใชเวลา 3 – 14 วัน โดยทั่วไปใชเวลา 7 – 10 วัน
1.4 สถานที่และเวลาในการระบาดของโรคไขเลือดออก
สวนมากจะพบการระบาดในฤดูฝน เกิดจากความถี่ในการกัดและการเจริญเติบโตของ
ไวรัสในตัวยุง ในฤดูฝนมีมากกวาในฤดูหนาวและฤดูรอน และพบวาถาพบผูปวยในชวงฤดูหนาว
และฤดูรอนปใดจะมีอัตราปวยดวยโรคไขเลือดออก มากกวาปกติในชวงฤดูฝนของปนนจะเกิดการ ั้
ระบาดดังกลาว อางใน ประหยัด แดงสุภา ( 2542 : 16 –20 )
1.5 กลุมอายุ
- 4. พบในทุกกลุมอายุ ทุกเพศ ในอดีตพบมากในเด็กอายุต่ํากวา 5 ป ในปจจุบันพบในกลุม
อายุ 5 –9 ป และมีผูปวยผูใหญมากขึ้น เด็กผูหญิงและแมบานที่ใชชีวิตประจําวันในบานเสี่ยงตอ
การเกิดโรคมากกวาเด็กชายที่ชอบวิ่งเลนนอกบาน และพอบานซึ่งมีการประกอบอาชีพนอกบาน
เชนกัน อางใน ประหยัด แดงสุภา ( 2542 : 16 )
1.6 พาหะนําโรค
ยุงเปนพาหะนําโรคจัดอยูใน Class Insecta (Hexapoda), Order Diptera, Family Culicidae
จะวางไขบนผิวน้ํา หรือตามขอบภาชนะที่มีน้ําขัง 1 – 5 วันก็จะกลายเปนตัวออน (Larva) ซึ่งเรียกวา
ลูกน้ํา (Instar) และมีการลอกคราบถึง 4 ครั้ง เปนลูกน้ําระยะที่ 1, 2, 3 และ 4 ใชระยะเวลาประมาณ
7 – 10 วัน ในชวงเปนลูกน้ําจะกินอาหารเกง เมื่อลอกคราบครั้งสุดทายจะเปนตัวโมง (Pupa) ใน
ระยะตัวโมงจะเคลื่อนไหวชาลงหรือไมเคลื่อนไหวเลย ระยะนี้จะไมกินอาหาร ประมาณ 1 – 2 วัน
จะลอกคราบเปนตัวเต็มวัย (Adult) เมื่อออกจากคราบตัวโมงใหม ๆ จะไมสามารถบินไดทันที ตอง
รอเวลาระยะหนึ่ง เพื่อใหเลือดฉีดเลี้ยงเขาเสนปก ทําใหเสนปกแข็งจึงจะบินได ระยะนี้ใชเวลา 1 – 2
ชั่วโมง พอบินไดก็พรอมที่จะหาอาหารและผสมพันธุ โดยปกติยุงตัวผูจะเกิดกอนยุงตัวเมีย 1 – 2 วัน
ยุงตัวผูจะกินน้ําหวาน และตัวเมียจะกินน้ําหวานเพื่อใชเปนพลังงานในการบิน หลังจากผสมพันธุ
แลว ตัวเมียจะหาอาหารเลือดซึ่งเปนเลือดคนหรือสัตว ขึ้นอยูกับชนิดของยุง ยุงกินเลือดทําใหไขสุก
พรอมที่จะวางไข ยุงตัวเมียจะผสมพันธุเพียงครั้งเดียว และสามารถวางไขไดตลอดชีวิต ระยะการ
เจริญเติบโตของยุงขึ้นอยูกับอาหาร อุณหภูมิ และความชื้น ยุงลาย เปนพาหะนําโรคไขเลือดออก มี
ลักษณะโดยทั่วไปคือ เปนยุงที่มีขนาดปานกลาง ลําตัวและขามีสีดําสลับขาวเปนปลอง ๆ ขาหลัง
ปลายปลองสุดทายขาวหมด ยุงพวกนี้หากินเวลากลางวัน ชวงเวลาที่พบมากที่สุดคือเวลา 09.00 –
11.00 น. และเวลา 13.00 – 14.30 น. ยุงลายจะพบมากในฤดูฝนชวงหลังฝนตกชุก เพราะอุณหภูมิ
และความชื้นเหมาะแกการแพรพันธุ สวนในฤดูอื่น ๆ พบวาความชุกชุมของยุงลายจะลดลงเล็กนอย
1.7 แหลงเพาะพันธุ
ยุงลายจะวางไขตามภาชนะขังน้ําที่มีน้ํานิ่ง ใส สะอาด โดยเฉพาะน้าฝน เปนน้าทียงลาย
ํ ํ ุ่
ชอบวางไขมากที่สุด ดังนั้น แหลงเพาะพันธุของยุงลายจึงมักอยูตามโองน้ํากินน้ําใชที่ไมปดฝาทั้ง
ภายในและภายนอกบาน นอกจากโองน้ําแลวยังมีภาชนะอื่น ๆ เชน ถังซีเมนต จานรองขาตูกับขาว
กัน มด จานรองกระถางตนไม แจกัน อางลางเท า ยางรถยนต ไห เศษภาชนะ เชน โองแตก เศษ
- 5. กระปอง กะลา กาบใบของพืชพวกมะพราว กลวย พลับพลึง ตนบอน แหลงเพาะพันธุที่พบภายใน
บาน สวนใหญจะเปนโองน้ําใช ถังซีเมนตในหองน้ํา จานรองขาตูกับขาวกันมด เปนตน
1.8 วงจรชีวิตของยุงลาย
ยุงตัวเมียจะกัดและดูดเลือดคน โดยเฉลี่ยยุงลาย 1 ตัว สามารถกัดคนได 100 กวาคน
( 1 : 100 ) บินไดไกล 50 เมตร จะออกไขทุก 15 วัน ยุงตัวเมียจะมีอายุเฉลี่ย 45 วัน ชวงชีวิตยุงลายตัว
เมียสามารถวางไข 3 รอบ ๆ ละ ประมาณ 150 ฟอง ซึ่งจะไดไขยุงประมาณ 3 ลานฟอง/ยุงตัวเมีย 1
ตัว ดังนี้ อางใน สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ( 2542 : 35 )
15 วัน รอบที่ 1 = 1 X 150 = 150 ฟอง
15 วัน รอบที่ 2 = 151 X 150 = 22,650 ฟอง
15 วัน รอบที่ 3 = 22,650 X 150 = 3,397,500 ฟอง
และจะเขาสูวงจรชีวิตของยุงลาย ตามรูปภาพ
วงจรชีวิตยุงลาย ( Aedes aegypti)
ลูกน้ํา Golden period 8-12 วัน หรือ 10 วัน
ยุง ไข อายุ 1 ป
1-2 วัน แตกตัว เปน
ลูกน้า
ํ
ยุงตัวเมีย
- 6. ยุงตัวผู - กัด/ดูดเลือดคน
- ไมกัดคน - ไขทุก 15 วัน
- กินน้าหวาน
ํ - วางไข 3 รอบ 450 ฟอง
- อายุ 7- 15 วัน
- บินไกล 50 เมตร
ที่มา : วงจรชีวิตยุงลาย สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา. ( 2542 : 21 )
1.9 การควบคุมและปองกันโรคไขเลือดออก
1.9.1 กําจัดยุงลายโดยตรง ซึ่งอาจใชยาฆายุงทีขายกันตามทองตลาดซึ่งมีทงชนิดน้าและ
่ ั้ ํ
ชนิดสเปรยพนไปที่ตัวยุงลาย และแหลงเกาะพักยุง เชน ใตตู ใตเตียง ซอกโตะ ตูตาง ๆ โดยอาน
วิธีใชใหเขาใจและปฏิบัติตามใหถูกตอง
1.9.2 กําจัดลูกน้ํายุงลาย โดย ใชสารเคมี เชน ทรายอะเบท ใสลงในภาชนะใสน้ําทุกชนิด
ขนาด 1 ชอนโตะ ตอน้ํา 8 ปบ จะตองใสทุกครั้งที่ตรวจพบลูกน้ํา ถาไมพบใหใส 3 ครั้ง/ป ถาใสตม
ุ
น้ําดืม ควรเปดฝาตุมไว 1-2 วัน จะทําใหนาไมมีกลิ่น ขัด ถู ลางภาชนะใสนาทุกชนิดที่พบ
่ ้ํ ้ํ
ลูกน้ํายุงลาย ใชตะแกรงกรองลูกน้ํา หรือใชสวิงชอนลูกน้ําออก และ ปลอยปลากินลูกน้ําในภาชนะ
ใสน้ํา เชน ปลาหางนกยูง ปลาหัวตะกัว 1-2 ตัว ใชนาเดือดเทลงในจานรองตูกับขาว และใสเกลือ
่ ้ํ
แกง 3-4 ชอนชาลงในน้า ํ
1.9.3 ปองกันไมใหเกิดลูกน้ํายุงลาย เชน ทําลายหรือลดแหลงเพาะพันธุยุงลาย ภาชนะ
ตาง ๆ ที่ไมใชแลวควรตัดใจทําลายเสีย หรือเก็บคว่ําไวใหเปนทีไมใหมีนาขัง การปองกันไมให
่ ้ํ
ยุงลายวางไขในภาชนะใสน้ํา เชน โองน้าดื่ม น้าใช ควรมีฝาปดใหมิดชิด
ํ ํ
ตารางที่ 1 ธรรมชาติของยุง ระยะเวลา และการการควบคุมลูกน้ํายุงลายไดดงนี้
ั
ธรรมชาติของยุงลาย ระยะเวลา การควบคุมยุงลาย
1. อายุยง
ุ 30 –50 วัน ควบคุมจํานวนประชากรยุงตอเนื่อง
- 7. 2. จํานวนไข 140- 150 ฟอง ทําลายแหลงเพาะพันธุยุง โดยการใส
ทราย
อะเบท 1 ชอนชา ตอน้า 5 ปป ทุก 2
ํ
สัปดาห และมีการถายเปลี่ยนน้าอยาง
ํ
3. คาเฉลี่ยตอการไขตอตัว
3 รอบ ชอบวางไข ตอเนื่อง
แมยุงวางไขตลอดชีวิต กอนตะวันตกดิน
และผสมพันธุครังเดียว
้
ออกไขไดตลอดชีวิต
4. ระยะเวลาที่เปนตัวโมง ½ - 1 ชั่วโมง ( ถามี สํารวจความชุกชุมของลุกน้ํายุงลาย
และลูกน้ายุงลาย
ํ น้ําบริบูรณ )และ 1- โดย BI / CI
3 วัน(ถามีนาเพียง
้ํ และกําหนดความถี่ของการทําลาย
เล็กนอย ลูกน้ายุงลายใหเหมาะสม
ํ
5. ระยะเวลาที่เปนตัวโมง 5 – 10 วัน ฆาลูกน้ํายุงทุก 7 วัน โดยใชปลากิน
และลูกน้าจนเปนยุง
ํ ลูกน้า ํ
ทรายอะเบท หรือสารเคมีอื่นๆ และ
สํารวจคา
BI / CI ทุก 7 วัน
6. อายุลกน้าโดยเฉลี่ย
ู ํ 6 - 8 วัน เปนแนวทางของการกําหนดความถี่
( ลอกคราบ 4 เพื่อการทําลายลูกน้ําและยุงตัวแก
ครั้ง )
7. ระยะลอกคาบจนเปนตัว 24 ชั่วโมง พนทําลายยุงตัวแกทก 7 วัน
ุ
ยุง
เต็มวัย
8. การดูดเลือด กัดไมอมครั้งเดียว พนทําลายยุง
ิ่
สามารถกัดไดสูงสุด
วันละ 8 ครั้ง ชอบ
- 8. เกาะผากัดไมอม ิ่
ครั้งเดียว กัดมาก
ชวง 9.00 – 10.00
น. และ 16.00 –
17.00 น.
9. ลักษณะพิเศษที่เอื้อตอ ตองทําลายยุงตัวแกทกตัวทันทีเพราะ
ุ
การระบาด อาจ
9.1 มี Viral มีเชื้อไวรัส
Transmission ไปยังไข กัด
3 ชม. จะวางไข พนยุงในบริเวณที่มืด ทึบ และอบปด
9.2 ชอบเกาะและอยูในที่
ไวไมนอยกวา 1 –2 ชั่วโมง
มืด
ออกบินเมื่อตองการดูด ระวังไมใหยงกัดตอนกลางวัน
ุ
เลือด
9.3 ถามีไฟนีออนตอน
กลางคืนก็ออกบินดูดเลือด
ได
10. ระยะฟกตัวของไวรัส 7-10 วัน ออกทําลายลูกน้ําและยุงลายตัวแก ใน
ในคนหลังจากถูกยุงกัด รัศมี
วงกลม 50 เมตร รอบ ๆ บานผูปวย
โดยการลงทรายอะเบท และพน
สารเคมีโดยดวนที่สุด
11. รัศมีการบิน 50 เมตร ถากระแส
ลม
แรง อาจบินได 100
- 9. เมตร
12. การปองกันที่ดีที่สุด ใชยาทากันยุง เด็กนอนกลางวันให
กางมุง ซื้อยาฉีดยุงมาฆายุงในอาคาร
บานเรือน หองเรียน
ที่มา : สํานักงานตรวจราชการสาธารณสุขเขต 5 อางใน สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา
( 2542. : 33-34 )
1.10 มาตรการการควบคุมโรคไขเลือดออกในชุมชน
1.10.1 เรงรัดกําจัดแหลงเพาะพันธยุงลาย ใหมความครอบคลุม ตอเนืองและ
ี ่
สม่ําเสมอ โดยปฏิบัตการทุก 7 วัน หรือ ทุกบายวันศุกร
ิ
1.10.2 มีการควบคุมแหลงเพาะพันธุยุงโดย
- ทางกายภาพ เชน การสํารวจและทําลายแหลงเพาะพันธยง ทําความ ุ
สะอาดภายในและนอกอาคาร
- ทางชีวภาพ โดยใชปลากินลูกน้า เชน ปลาหางนกยูง เปนตน
ํ
- ทางเคมี การใชสารทรายอะเบท เครื่องพนสารเคมี
1.10.3 การประสานผูนําชุมชน เพื่อใหมีบทบาทและมีสวนรวมในการควบคุม
ปองกันโรคไขเลือดออกอยางตอเนื่อง จริงจัง และเปนรูปธรรม
1.10.4 การแจงสถานการณโรค และแนวโนมการเกิดโรคใหผนําชุมชน และประชา
ู
ชนทราบเพื่อใหตื่นตัว และรณรงคในการควบคุมปองกันโรคอยางตอเนื่อง
1.10.5 ใหสุขศึกษาประชาสัมพันธทกรูปแบบในการควบคุมปองกันโรคไขเลือดออก
ุ
ลักษณะทางคลินิก
องคการอนามัยโลกไดจัดแบงลักษณะทางคลินิกออกเปน 3 รูปแบบตามความรุนแรง
ของโรค (กระทรวงสาธารณสุข 2542 : 4) ดังนี้
1) Undifferentiated Fever (UF) หรือ Viral Syndrome มักพบในทารกหรือเด็ก
เล็กที่มีอาการ ติดเชื้อเดงกี่เปนครั้งแรก ผูปวยจะมีเพียงอาการไข บางครั้งอาจมีผื่น Maculopapular
ซึ่งแยกจากไขออกผื่นจากไวรัสอื่น ๆ ไมได แตจะวินิจฉัยไดจากการตรวจทาง ไวรัส และ
Serology
- 10. 2) ไขเดงกี่ (Dengue Fever หรือ DF) มักเปนในเด็กโตหรือผูใหญ ผูใหญอาจมี
อาการไมรุนแรง มีเพียงไข รวมกับปวดศรีษะ เมื่อยตามตัว หรือมีไขสูงเฉียบพลัน ปวดศรีษะ ปวด
รอบกระบอกตา ปวดกลามเนื้อ และปวดกระดูก(Breakbone Fever) และอาจมีผื่น บางรายอาจมีจุด
เลือด (Petechiae) ที่ผิวหนัง และมีเสนเลือดเปราะแตกงาย(การทดสอบ Tourniquet ใหผลบวก หรือ
Petechiae >10 จุด/ตารางนิ้ว)บางรายมีอาการเบื่ออาหาร อาเจียน ปวดทองรวมดวย ผูปวยสวนใหญ
จะมีเม็ดเลือดขาวต่ํา บางรายอาจมีเกล็ดเลือดต่ําดวย
3) ไขเลือดออกเดงกี่ (DHF) โรคนี้มีลักษณะเฉพาะ นอกจากมีไขสูงและมีอาการ
คลา ยกับไขเดงกี่ ในระยะแรกแลว ผูปวยจะมี Hemorrhagic Manifestation และมีเกร็ดเลือดต่ํา
รวมกับมีการรั่วของพลาสมา ซึ่งถาพลาสมารั่วออกมากก็จะทําใหเกิดภาวะช็อกที่เรียกวา Dengue
Shock Syndrome (DSS) การรั่วของพลาสมาสามารถตรวจพบไดจากการมีระดับHematocrit สูงขึ้น
มีสารน้ําในชองเยื่อหุมปอดและชองทอง
สําหรับความแตกตางระหวางไขเลือดออกเดงกี่และไขเดงกี่ ที่ชัดเจนคือ ในไขเลือด
ออกเดงกี่ จะมีเกร็ดเลือดต่ํารวมกับการรั่วของพลาสมา และในไขเลือดออกเดงกี่ จะมีภาวะช็อ ก
เกิดขึ้น ทําใหถึงตายได อายุของผูปว ยไขเลือดออกเดงกี่ จะเปน เด็กอายุต่ํากวา 16 ปม ากกวา
ผูใหญ สวนไขเดงกี่ มีอาการมากแบบ Breakbone Fever นั้นจะพบในผูใหญมากกวาเด็ก การเกิดโรค
เปนแบบใดขึ้นอยูกับปจจัยหลายประการ ปจจัยที่สําคัญคือ อายุ ภาวะภูมิคุมกันของผูปวย และชนิด
ของไวรัสเดงกี่ที่มีในขณะ นั้น
2.1.3 อาการทางคลินิกของโรคไขเลือดออกเดงกี่
หลังจากไดรับเชื้อจากยุงประมาณ 5 - 8 วัน (ระยะฟกตัว) ผูปวยจะเริ่มมีอาการ
ของโรคซึ่งมีความรุนแรงแตกตางกันได ตั้งแตมีอาการคลายไขเดงกี่ ไปจนถึงมีอ าการรุน แรงมาก
จนถึงช็อกและถึงเสียชีวิตได สวนโรคไขเลือดออกเดงกี่มีอาการสําคัญที่เปนรูปแบบคอนขางเฉพาะ
4 ประการ เรียงตามลําดับการเกิดกอนหลังดังนี้
1) ไขสูงลอย 2 – 7 วัน
2) มีอาการเลือดออก สวนใหญจะพบที่ผิวหนัง
3) มีตับโต กดเจ็บ
4) มีภาวะการไหลเวียนลมเหลว/ภาวะช็อก
- 11. 2.1.4 การตรวจทางหองปฏิบัติการ
1) เลือดขนขึ้นดูจากการเพิ่มขึ้นของ Hct เทากับหรือมากกวา 20 % เมื่อเทียบ
กับ Hct เดิม หรือมีหลักฐานการรั่วของพลาสมา เชน มี Pleural effusion หรือ Ascites
2) เกร็ดเลือดนอยกวา 100,000 เซล/ลบ.ซม.
2.1.5 ความแรงของโรคไขเลือดออกแบงไดเปน 4 เกรด (Grade ) ดังนี้
เกรด 1 ( Grade l ) ผูปวยไมมีช็อก มีแต Positive Tourniquet Test
เกรด 2 (Grade 2 ) ผูปวยไมมีช็อกแตมีเลือดออกที่อื่น เชน เลือดกําเดา อาเจียน
เปนเลือด อุจจาระเปนเลือด
เกรด 3 (Grade 3 ) ผูปวยช็อก
เกรด 4 (Grade 4 ) ผูปวยที่ช็อกนาน วัดความดันและ/จับชีพจรไมได
2.1.6 การดําเนินโรคของโรคไขเลือดออก การดําเนินโรคของโรคไขเลือดออกแบงเปน 3
ระยะ ดังตอไปนี้ คือ
1) ระยะไขสูง ลักษณะเปนไขสูงเฉียบพลัน 39 – 41 °C เปนเวลา 2 – 7 วัน
ซึ่งผูปวยอาจมีอาการชักได มักมีอาการหนาแดง ไมมีน้ํามูกหรือไอ ในเด็กโตอาจบนปวดศรีษะ ปวด
กลามเนื้อ เบื่ออาหาร อาเจียน ปวดทอง เลือดออก ตับโตและกดเจ็บแตตัวไมเหลือง มีผื่นตามตัว
(ผูปวยที่มีไขสูงลอยเกิน 7 วัน มีรอยละ 15)
2) ระยะวิกฤตหรือระยะช็อก มักเกิดขึ้นพรอม ๆ กับมีไขลง ในรายที่ไมรุน
แรงผูปวยจะดีขึ้น บางรายอาจมีเหงื่อออก มือเทาเย็น ชีพจรเบาเร็ว ความดันเลือดเปลี่ยนแปลง
เล็กนอยในชวงสั้น ๆ แลวกลับเปนปกติ ในรายที่รุนแรงอาการจะเลวลง ผูปวยจะกระสับกระสาย
มือเทาเย็น ช็อกถาใหการรักษาไมทัน ผูปวยจะช็อกนาน เลือดออกรุนแรงและเสียชีวิตได
3) ระยะพักฟน ผูปวยเริ่มอยากรับประทานอาหาร เริ่มมีปสสาวะมาก
อาจพบมีผื่นเปนวงสีขาวกระจายอยูทามกลางผื่นจุด เลือดออกตามแขนขา ชีพจรเตนชา