Contenu connexe
Similaire à อินโดนีเซีย (10)
Plus de Kruthai Kidsdee (20)
อินโดนีเซีย
- 1. อินโดนีเซีย
เด็กทีถูกลักพา
่
่
คืนที่มืดตื้อคืนหนึ่ง นาน นานมาแล้ว ในภาคใต้ของเกาะที่ชื่อว่า สุ ลเวสี มีเงาตะคุมาย่องอย่าง
เงียบกริ บออกมาจากบ้านหลังหนึ่ง เป็ นร่ างชายคนหนึ่งแบกอะไรหนักๆ มาบนหลังแน่นอน ชายผูน้ นต้อง ้ ั
เป็ นขโมย แต่อะไรเล่าที่เขาแบกมานัน ในที่สุดเมื่อมาถึงชายป่ า ขโมยผูน้ นก็วางของที่เขาแบกมาลงกับ
่ ้ ั
พื้นดิน และนันก็คือ เด็กผูชายคนหนึ่งซึ่ งมีอายุพ่ ึงจะสิ บขวบ
่ ้
“ตอนนี้ แกเดินไปเองเถอะ” ขโมยพูดเสี ยงกร้าวๆ กับเด็ก
เด็กคนนี้ถูกลักตัวมาจากบ้านบิดาของเขา และเขารู ้ตวว่า ขโมยผูน้ ีต้ งใจจะเอาเขาไปขายเป็ นทาส
ั ้ ั
อย่างที่ขโมยชอบทากับเด็กๆอยูบ่อยๆในสมัยนั้น
่
“ไป เดินไป” ขโมยพูดเสี ยงออกทางไรฟัน พลางผลักไสเด็ก
เด็กลุกขึ้นช้าๆ เดินตามชายผูน้ นเข้าไปในป่ า เขาอยากจะวิงหนีกลับไปหาบิดามารดาของเขาเต็มที
้ ั ่
้ ั ้ ่ ั ่
แต่ขโมยผูน้ ีคนเดียวเท่านั้นที่รู้จกหนทางในป่ ามืดตื้อ มีตนไม้เก่าแก่ใหญ่ๆอยูหนาแน่น เด็กชายรู ้ตวดีวา
ช่วยตัวเองไม่ได้ จึงยอมมอบชีวตไว้ในมือของโชคชะตา แล้วพยายามคิดว่าควรจะทาอย่างไร เขาใช้สมอง
ิ
คิดแล้วคิดอีก จนถึงกับลืมความเจ็บปวดที่แผลฟกช้ าดาเขียวตามแขนและขาของเขา ในที่สุดหลังจากที่ได้
คิดมามากมายแล้ว เด็กชายก็คิดแผนการอย่างหนึ่งได้
เขาหยุดเดินทันที กอดท้องไว้แน่น แล้วนังขัดสมาธิ ลงกับพื้นดิน
่
ชายคนนั้นหันมาดูแล้วพูดว่า “ลุกขึ้น ประเดี๋ยวฉันตีตาย”
่ ่ ั
แต่เด็กนั้นยังนังอยูกบพื้น แหงนหน้าขึ้นมองอย่างน่าเวทนา “ลุกขึ้นไม่ไหวครับ” เขาครางหงิงๆ
“ปวดท้องเหลือเกิน กระดุกกระดิกไม่ได้”
“เดินไม่ได้เลยเชียวหรื อ” ชายผูน้ นถาม ้ ั
เด็กชายสั่นศีรษะ ทาท่าเหมือนกับว่าความปวดยิงรุ นแรงมากขึ้น “คุณต้องอุมผมไปแล้วละ ผม
่ ้
ปวด จนก้าวขาไม่ออกแล้ว”
“เอ้า! ตกลง” ชายผูน้ นบ่นพึมพา “แต่ตองเลิกร้องไห้ เงียบเสี ยงเสี ยที”
้ ั ้
ดังนั้นเด็กจึงปี นขึ้นไปเกาะหลังชายผูน้ น และดีใจที่แผนการขั้นแรกนี้ได้ผล ชายผูน้ นเดินต่อไป
้ ั ้ ั
เรื่ อยๆ พอไปได้สกพักหนึ่ง เด็กนั้นก็เอาเท้ากระทุงสี ขางชายผูน้ น
ั ้ ้ ้ ั
- 2. “อะไรอีกล่ะ ไอ้เด็กเวร” ชายนั้นถาม
“กรุ ณาหน่อยเถอะครับ เล่านิ ทานให้ผมฟังหน่อยได้ไหม” เด็กพูด “ผมจะได้ไม่รู้สึกปวดท้องมาก
นัก”
“เล่านิทานให้แกฟัง ทั้งๆ ที่ฉนต้องแบกแกหนักจะตายอย่างนี้น่ะหรื อ เออ! ดีนี่”
ั
เด็กชายแอบยิมกับตัวเอง มันเป็ นไปอย่างที่เขาต้องการ ชายผูน้ ีจะต้องเหน็ดเหนื่อยเพราะมีเด็กขี่
้ ้
หลัง ต้องรี บเดินเร็ วๆ แล้วยังจะต้องเล่านิทานในเวลาเดียวกันนี้อีกด้วย
“รู้ไหม” ขโมยเริ่ มต้นเล่านิทาน “ว่าต้นไม้ใหญ่ในเรื่ องที่ฉนจะเล่าให้แกฟัง ต้นไม้น้ นน่ะ มันใหญ่
ั ั
เสี ยยิงกว่าเอาต้นไม้ทุกๆ ต้นที่ในโลกมามัดรวมกันเข้าเสี ยอีก”
่
้ ั ู ้ ่
เด็กชายครางฮือ ชายผูน้ นก็พดว่า “ไอ้ทองบ้าของแกยังปวดอยูอีกหรื อ”
“ทนแทบไม่ไหวแล้วครับ...แต่กรุ ณาเล่าต่อไปเถอะ”
“เออ! ทีน้ ีก็ ในสมัยเดียวกันนั้นนะ มีขวานยักษ์เล่มหนึ่ง เป็ นขวานที่ใหญ่ท่ีสุดในโลก ด้ามของ
มันจดทิศตะวันออก ตรงที่พระอาทิตย์ข้ ึน หัวขวานจดทิศตะวันตก ตรงที่พระอาทิตย์ตก.......เฮ้ย ท้องแก
เป็ นอย่างไรบ้างแล้ว ตอนนี้ ”
่
“โอ! ยังปวดอยูครับ แต่กรุ ณาเล่าต่อไปเถอะ”
“เออ! ครั้งหนึ่ง มีควายยักษ์ตวหนึ่ง ตัวใหญ่กว่าโลกนี้เสี ยอีก พอมันขยับตัวนิดเดียวแผ่นดินไหว
ั
คลอน สั่นสะเทือน นี่แหละ ที่มนทาให้เกิดแผ่นดินไหวละ”
ั
“โอ๊ย! อูย! ท้องของผม”
๊
“เงียบน่ะ แกนี่มนถูกตามใจเสี ยจนเสี ยเด็ก เอาละ ฉันจะล่าให้ฟัง ว่ามีหวายเส้นหนึ่งยาว ยาว
ั
มาก”
- 3. “อะไรครับ หวายน่ะ”
“ก็ตนไม้เลื้อยชนิ ดหนึ่ง ใบเหมือนใบปาล์ม กิ่งก้านมันยาวเลื้อย เหมือนเชือกน่ะใช้มดอะไรๆ ก็
้ ั
ได้ และหวายเส้นนี้ยาวมาก ยาวจนพับได้รอบแผ่นดินเจ็ดทวีปกับอีกเจ็ดมหาสมุทร...แกหยุดเงียบกริ บไป
อย่างกะทันหันทีเดียวนะ เป็ นอย่างไร” ชายนั้นถามและเหลียวมาดูเด็กที่บนหลัง
“เรื่ องของคุณสนุกดีมาก” เด็กตอบ แต่ที่จริ งแล้วเขาไม่เชื่ อคาพูดของชายผูน้ นแม้แต่คาเดียว
้ ั
“ครั้ งหนึ่งน่ะ” ชายผูน้ นเล่าต่อ “มีบานหลังหนึ่ง ใหญ่โตที่สุดที่แกเคยเห็น มันทั้งใหญ่ท้ งสู ง
้ ั ้ ั
จนกระทังถ้าใครโยนไข่ไก่ลงมาจากหลังคาบ้านหลังนั้น ไข่จะแตกออกเป็ นลูกไก่ แล้วจะกลายเป็ นไก่ตว
่ ั
โตๆ เสี ยตั้งแต่มนยังตกลงมาไม่ถึงพื้นดินแน่ะ”
ั
“โอ้โฮ!” เด็กนั้นร้องอุทาน “บ้านอะไรใหญ่อย่างนั้น...เอ้า ทีน้ ีถึงตาของผมบ้างแล้ว ผมจะเล่า
นิทานให้คุณฟัง” เด็กนั้นยังคงดาเนินแผนการที่คิดว่าจะหนี
“เออ! ดี” ชายผูน้ นพูด “ตอนนี้ ทองเป็ นอย่างไรบ้างล่ะ”
้ ั ้
“ค่อยยังชัวนิดหนึ่งครับ ขอบคุณ ผมคิดว่าคงจะหายเป็ นปลิดทิง ถ้าผมเล่าเรื่ องของผมให้คุณฟัง
่ ้
บ้างแล้ว”
“ดี ถ้าอย่างนั้นก็เล่าไปซี ”
ั
“เอาละครับ เรื่ องของผมนั้น เป็ นเรื่ องกลองใบใหญ่มหึ มา ซึ่ งเขาใช้กนนานนักหนาแล้วมันใหญ่
เสี ยจนกระทัง ถ้ามีใครตีกลองนี้ข้ ึน คนทุกๆ คนในโลกนี้ ตลอดขึ้นไปจนถึงเทวดานางฟ้ าบนสวรรค์ที่จะ
่
ั
ได้ยนเสี ยงกลองใบนี้กนทั้งนั้น”
ิ
“เฮ้ย! เหลวไหล” ชายผูน้ นขัดคอ “กลองอะไรจะใหญ่อย่างนั้น”
้ ั
- 4. “ทาไมเล่าครับ”
“ใครจะไปหาไม้ที่ไหนใหญ่โต พอที่จะเอามาทากลองใบเท่านั้น และถึงหากว่ามีตนไม้ใหญ่มากจะ
้
เอาอะไรไปโค่นต้นไม้ใหญ่อย่างนั้น”
ตอนนี้ชายผูน้ นเหนื่ อยจนหอบแล้ว ดังนั้นเขาจึงวางเด็กลงกับพื้นดิน และบอกว่า จะหยุดพักเสี ย
้ ั
สักหน่อยหนึ่งก่อน เด็กนั้นแอบยิม แผนการของเขาได้ผลดีข้ ึน ดีข้ ึนเรื่ อยๆ
้
“ว่ายังไงเล่า” ชายผูน้ นถาม
้ ั
“อ๋ อ! ก็ง่ายนี่ครับ เขาก็ได้มาจากต้นไม้ตนใหญ่ที่คุณเล่าให้ผมฟัง ที่วาใหญ่กว่าเอาต้นไม้ทุกต้นใน
้ ่
โลกนี้มามัดรวมกัน แล้วเขาก็ฟันมันลงด้วยขวานยักษ์เล่มที่ดามจดทิศตะวันออกตรงที่พระอาทิตย์ข้ ึน หัว
้
จดทิศตะวันตกตรงที่พระอาทิตย์ตกนันยังไงล่ะครับ อย่างที่คุณเล่าให้ผมฟังน่ะ”
่
ขโมยที่ลกพาเด็กมาชักจะขัดใจ “ดีละ เขาโค่นต้นไม้ยกษ์ดวยขวานยักษ์เล่มนั้นแต่ฉนก็ยงว่า
ั ั ้ ั ั
เหลวไหล! เป็ นไปไม่ได้ เขาจะไปหาหนังที่ไหนแผ่นใหญ่พอที่จะมาหุ มกลองใบนั้น”้
“โอ๊ย! นันก็ยงง่ายอีกละครับ คุณบอกว่ามีความยักษ์ตวใหญ่กว่าในโลกนี้ท้ งโลก ถ้ามันขยับตัวนิด
่ ั ั ั
เดียว จะทาให้แผ่นดินไหว หนังมันจะต้องกว้างใหญ่พอจะหุ มกลองได้จริ งไหมครับ”
้
“แล้วจะเอาอะไรรัดกลองใบนั้นล่ะ”
“พุทโธ่! เขาก็ใช้หวายเส้นยาวที่คุณเล่าให้ผมฟังนันแหละ หวายเส้นที่พนได้รอบทวีปทั้งเจ็ดทวีป
่ ั
มหาสมุทรอีกเจ็ดมหาสมุทร นันละ” ่
“พุทโธ่! เขาก็ใช้หวายเส้นยาวที่คุณเล่าให้ผมฟังนันแหละ หวายเส้นที่พนได้รอบทวีปทั้งเจ็ดทวีป
่ ั
มหาสมุทรอีกเจ็ดมหาสมุทร นันละ” ่
ชายตัวใหญ่ที่มีสมองเล็ก ไม่อยากให้เด็กน้อยคนนี้เกินหน้าเขาไปในเชิงสติปัญญา ดังนั้นจึงพูดอีก
่ ่
ว่า “ดีละ เท่าที่วามานี้ ฉันก็วาพอจะเป็ นไปได้ แต่บอกหน่อยซิ ว่าจะเอากลองใบใหญ่เท่านี้ไปแขวนไว้ที่
ไหน”
“ก็ในบ้านยักษ์ของคุณยังไงล่ะครับ บ้านที่สูงจนกระทัง ใครโยนไข่ลงมาจากหลังคา ไก่จะออกมา
่
จากฟอง และโตเป็ นไก่ตวโตฯ ก่อนที่มนจะลงมาถึงพื้นดิน”
ั ั
ชายผูน้ นนึกไม่ออก ว่าจะหาอะไรมาพูดอีก เขาประหลาดใจว่า เด็กคนนี้ทาไมจึงเก่งอย่างนี้” ราว
้ ั
ั ั ่
กับว่า มันมาย้อนเล่าเรื่ องที่ฉนเล่าเองมาเล่าให้ฉนฟัง” เขาคิดอยูในใจแล้วจึงแสร้งทาเป็ นลืมเรื่ องที่เล่ามา
ทั้งหมด เขาถามเด็กว่า “แกมีพี่นองบ้างหรื อเปล่า”
้
“มีซีครับ พี่ของผมมีพี่นองสองคน และน้องมีพี่สองคน ผมมีพี่กี่คน มีนองกี่คน ล่ะครับและผม
้ ้
เป็ นลูกคนที่เท่าไหร่ ”
“ฮะ!” ชายโง่คนนั้นพูดได้เพียงเท่านั้น
“ง่ายนิดเดียว พ่อแม่ผมมีลูกสามคน ผมเป็ นลูกคนที่สอง ดังนั้น น้องของพี่ผมก็คือน้องของผมกับ
ตัวผมเอง และพี่ของน้องผมก็คือพี่ของผมกับตัวผมเอง”
- 5. ถึงตอนนี้ ชายที่ลกพาเด็กมาก็รู้สึกว่า เด็กผูน้ ีมีปัญญาเฉลียวฉลาดมากกว่าเขา “มันทาให้ฉนอิด
ั ้ ั
่
หนาระอาใจเสี ยแล้ว” เขาคิดอยูในใจ “ถ้าขืนเอามันไว้ จะเป็ นภัยอันตราย” ดังนั้นเขาจึงตัดสิ นใจว่า
่
จะต้องพาเด็กคนนั้นไปส่ งคืนให้พอแม่
เขาเดินกลับ พาเด็กหัวแหลมนั้นมาส่ งบ้าน เด็กนั้นยิมกับตัวเองในความมืดกลางดึก
้
พอส่ งเด็กเข้าบ้านแล้ว ชายผูน้ นก็รีบย่องออกจากบ้านไปทันที ถอนใจใหญ่อย่างโล่งอกแล้วหาย
้ ั
เข้าไปในป่ าอันมืดมิด
ผู้เล่ า ซากิมัน ม.ด.
ผู้แปล อาตี น. ฮาดีมัดชา
ผู้เขียนภาพ อิรซาม