Contenu connexe
Similaire à แบบทดสอบรวม ม.1 ภาคเรียนที่ 2
Similaire à แบบทดสอบรวม ม.1 ภาคเรียนที่ 2 (20)
แบบทดสอบรวม ม.1 ภาคเรียนที่ 2
- 1. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์
วิชาคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 1
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
ตอนที่ 1 จงเลือกคําตอบที่ถกตองที่สุดเพียงคําตอบเดียว
ู
1. 18 เปน ค.ร.น. ของ 6 และ 9 หมายความวาอยางไร (ค 1.4 ม.1/1)
1. 18 เปนจํานวนที่ 6 และ 9 หารลงตัว
2. 18 เปนจํานวนที่มากที่สุดซึ่ง 6 และ 9 หารลงตัว
3. 18 เปนจํานวนที่นอยที่สุดซึ่ง 6 และ 9 หารลงตัว
4. 18 เปนผลคูณของตัวประกอบของ 6 และ 9
2. ค.ร.น. ของ 16, 28 และ 84 เขียนในรูปผลคูณของเลขยกกําลังไดตรงกับขอใด (ค 1.4 ม.1/1)
1. 22× 3 × 7 2. 24× 3 × 7
3. 22× 32× 7 4. 24× 32× 7
3. ค.ร.น. และ ห.ร.ม. ของ 16, 24 และ 32 ตางกันเทาไร (ค 1.4 ม.1/1)
1. 48 2. 64
3. 86 4. 88
4. จํานวนที่นอยที่สุดที่หาร 31, 61 และ 91 แลวเหลือเศษเทากันคือขอใด (ค 1.4 ม.1/1)
1. 2 2. 3
3. 5 4. 6
5. ชาย 3 คน ออกวิ่งจากจุดเดียวกันเมื่อเวลา 10.30 น. แตละคนวิ่งรอบสนามรูปวงกลม คนที่ 1 วิ่งครบรอบใชเวลา 8 นาที
คนที่ 2 วิ่งครบรอบใชเวลา 10 นาที คนที่ 3 วิ่งครบรอบใชเวลาเทาไร เมื่อเขาทั้งสามมาพบกันที่จุดเริ่มตนอีกครั้งเวลา
11.50 น. (ค 1.4 ม.1/1)
1. 12 นาที 2. 15 นาที
3. 16 นาที 4. 24 นาที
6. มีธนบัตรยี่สิบบาท 621 ฉบับ ธนบัตรหาสิบบาท 216 ฉบับ และธนบัตรหนึ่งรอยบาท 108 ฉบับ ตองการแบงธนบัตรชนิด
เดียวกันลงในกระเปาใบเดียวกันใหไดจํานวนธนบัตรที่มากที่สุด จะมีธนบัตรหาสิบบาทในกระเปาใบหนึ่งๆ เปนเงินเทาไร
(ค 1.4 ม.1/1)
1. 1,325 บาท 2. 1,340 บาท
3. 1,350 บาท 4. 1,390 บาท
7. ถา ห.ร.ม. ของ a, b, c คือ 5 แลวจํานวนที่หารดวย 5 และเหลือเศษ 1, 2, 3 ตามลําดับคือจํานวนในขอใด (ค 1.4 ม.1/1)
1. 5a, 5b, 5c 2. a + 1, a + 2, a + 3
3. a − 1, a − 2, a − 3 4. 5a − 1, 5a − 2, 5a − 3
8. M เปน ห.ร.ม. ของ 4M, M2, 5M3 และจํานวนใด (ค 1.4 ม.1/1)
1. M 2. M + 1
3. 3M − 1 4. 5M + 3
1
- 2. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
9. มีสม 3 ขนาด ขนาดใหญ 132 ผล ขนาดกลาง 154 ผล และขนาดเล็ก 176 ผล ตองการแบงเปนกอง กองละเทาๆ กัน โดยให
แตละกองมีสมมากที่สุด จะแบงไดกี่กอง (ค 1.4 ม.1/1)
1. 18 กอง 2. 21 กอง
3. 23 กอง 4. 27 กอง
10. จํานวน −5, 12, −7 นําคาสัมบูรณมาเรียงลําดับจากนอยไปมากไดเทากับขอใด (ค 1.1 ม.1/1)
1. 12, −5, −7 2. −5, −7, 12
3. −5, 12, −7 4. −7, 12, −5
11. จํานวนตรงขามของคาสัมบูรณของ −11 + (−32) เทากับขอใด (ค 1.2 ม.1/1)
1. −43 2. 43
3. −21 4. 21
12. [(−4)(− 11)] ++ (−8)(3)] เทากับขอใด (ค 1.2 ม.1/1)
− [(
[3 (−9)] −7)
1. 4 2. −6
3. 8 4. −10
13. ผลลัพธของ [−{(−40) − (−8)}] − (−17) เทากับขอใด (ค 1.2 ม.1/1)
1. 25 2. −51
3. −37 4. 49
14. [(−24) × 15] ÷ [(−225) + 165] เทากับขอใด (ค 1.2 ม.1/1)
1. 4 2. 6
3. 8 4. 16
15. ถา 295x = (−5 × 200) + (−5 × 90) + (−5 × 5) แลว x มีคาเทาไร (ค 1.2 ม.1/1)
1. 5 2. −5
3. 7 4. −7
16. ประโยคตอไปนี้ประโยคใดเปนจริง (ค 1.4 ม.1/1)
1. 1 คูณกับจํานวนใดๆ ได 1 2. จํานวนใดๆ คูณกับ 1 ไดจํานวนนั้น
3. จํานวนใดๆ หารดวย 1 ได 1 4. 1 หารดวยจํานวนใดๆ ไดจํานวนนั้น
17. ผลลัพธของขอใดมีคาเปนจํานวนเต็มบวก (ค 1.2 ม.1/1)
1. (−11)(5)20)
(−
−
2. (−1)(−41)(−101)
3. 7 × 6 × 9 4. (−(5)(4)8)
15)(−
(−3)
18. ถา 16 + (−8) + x = 0 แลว −15 + x มีคาเทาไร (ค 1.2 ม.1/1)
1. 23 2. −23
3. 39 4. −39
0.82
19. ผลลัพธของ 1000 × 0.005 เขียนใหอยูในรูป A × 10n เมื่อ 1 ≤ A < 10 เทากับขอใด (ค 1.1 ม.1/2)
1. 4.1 × 10−5 2. 4.1 × 10−6
3. 4.1 × 10−7 4. 4.1 × 10−8
2
- 3. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
20. ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง (ค 1.1 ม.1/2)
1. (122− 112)2 = 5.29 × 102
7 ⎟2
2. ⎛ 100 ⎞ = 4.9 × 104
⎜
⎝ ⎠
3. ถา a = −3 และ b = −1 แลว a2b3 เทากับ −9
4. 135,000 × 1012 เขียนในรูป A × 10n เมื่อ 1 ≤ A < 10 ไดเปน 1.35 × 1017
21. ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง (ค 1.1 ม.1/2)
1. 0.0789 = 7.89 × 10−2 2. 8,167 = 8.167 × 103
3. 0.00049 = 4.9 × 10−4 4. 32,700 = 3.27 × 102
22. ดวงอาทิตยอยูหางจากโลกประมาณ 3 × 108 กิโลเมตร ถาความเร็วของแสงเปน 5 × 106 เมตรตอวินาที เวลาที่แสงใชใน
การเคลื่อนที่มายังโลกเปนเทาไร (ค 1.2 ม.1/4)
1. 6 × 102 วินาที 2. 6 × 103 วินาที
3. 6 × 104 วินาที 4. 6 × 105 วินาที
−2x
× 4x
23. a 2x a มีคาตรงกับขอใด (ค 1.2 ม.1/4)
a
1. 1 2. ax
3. 2a 4. x
24. (−2)5 ( −2)−7 ( −2)4 (4)−1 มีคาตรงกับขอใด (ค 1.2 ม.1/4)
1. 22 2. (−2)1
3. 2−2 4. (−2)0
n 3n−2 มีคาตรงกับขอใด (ค 1.2 ม.1/4)
25. 5 × 3n − 9n× 1
3 −3 −
1. 3 2. 3n
3. 3n−1 4. 6
26. x2m+5n−1 คูณกับจํานวนใดจึงจะไดผลลัพธเปน x7m−2n เมื่อ x ≠ 0, m, n เปนจํานวนเต็มบวก (ค 1.2 ม.1/4)
1. x5m−7n+1 2. x9m+3n−1
3. x5m−7n −1 4. x9m+3n+1
27. ถา (16 m+n × 4m) ÷ 4 m+n = 4 แลว 6m + 3n มีคาเทาไร (ค 1.2 ม.1/4)
1. 1 2. 2
3. 3 4. 6
28. การแบงสวนของเสนตรงออกเปนสวนที่เทาๆ กัน โดยใชวิธีแบงครึ่งไปเรื่อยๆ ขอใดแบงไมได (ค 3.1 ม.1/1)
1. แบงออกเปน 8 สวนที่เทาๆ กัน 2. แบงออกเปน 16 สวนที่เทาๆ กัน
3. แบงออกเปน 24 สวนที่เทาๆ กัน 4. แบงออกเปน 32 สวนที่เทาๆ กัน
29. ถาเราตองการสรางมุม 22.5° ควรสรางมุมใดกอน (ค 3.1 ม.1/1)
1. 90° 2. 60°
3. 45° 4. 30°
3
- 4. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
30. ในการสรางมุม 67.5° จะตองแบงครึ่งมุมใดบาง (ค 3.1 ม.1/1)
1. แบงครึ่งมุม 90° และมุม 45° 2. แบงครึ่งมุม 90° และมุม 30°
3. แบงครึ่งมุม 60° และมุม 45° 4. แบงครึ่งมุม 60° และมุม 30°
31. AB มีความยาว x หนวย ถาตองการแบงครึ่ง AB ตองกางวงเวียนรัศมีเทากับขอใดจึงจะเหมาะสม (ค 3.1 ม.1/1)
x
1. x 2. 2
3. นอยกวา x2 4. มากกวา x 2
32. จากรูป การสรางนี้เริ่มตนสรางจะตองหาสิ่งใดตอไปนี้เปนอันดับแรก (ค 3.1 ม.1/1)
1. หาจุด O กอน 2. หา C และ D กอน
3. หา P และ Q กอน 4. หาจุดใดกอนก็ได
33. จากขอ 32 เปนการสรางอะไร (ค 3.1 ม.1/1)
∧
1. การแบง AB ออกเปน 2 สวนที่เทากัน 2. การสราง AOQ ใหมีขนาด 90°
3. การสรางเสนตั้งฉากจากจุด P 4. การสรางเสนตั้งฉากจากจุด Q
34. จากรูปเปนการสรางมุม 60 องศา อยากทราบวารูปสามเหลี่ยม OXY เปนรูปสามเหลี่ยมอะไร (ค 3.1 ม.1/1)
1. รูปสามเหลี่ยมหนาจั่ว 2. รูปสามเหลี่ยมดานเทา
3. รูปสามเหลี่ยมมุมปาน 4. รูปสามเหลี่ยมดานไมเทา
4
- 5. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
∧ ∧ ∧
35. จากรูป กําหนด OX ตั้งฉากกับ AB และ AOC มีขนาด 35 องศา จงหาวา AOX + XOD มีขนาดกี่องศา (ค 3.1 ม.1/1)
1. 125° 2. 135°
3. 145° 4. 155°
∧
36. การสรางมุมใหเทากับ BAC เริ่มตนจากเสนไหนกอน (ค 3.1 ม.1/1)
1. 1 2. 2
3. 3 4. 4
37. ขอใดถูกตอง (ค 3.1 ม.1/3)
∧ ∧ ∧
1. 1 = 2 2. 1 + ∧ = ∧ + ∧
4 2 3
∧ ∧ ∧ ∧ ∧ ∧ ∧ ∧
3. 1 + 2 + 3 + 4 = 180° 4. 1 + 3 = 2 + 4
38. ⎛
⎜− 2 1 ⎞ × 5 8 × ⎛ − 4 1 ⎞ × 16 มีคาเทากับขอใด (ค 1.2 ม.1/2)
3⎟
3 ⎜ ⎟
2 43
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
1. 21 2. 22 1
2
3. 24 27 4. 27
39. ขอใดไมถูกตอง (ค 1.1 ม.1/1)
6 3
1. 12 > 8 2. 11 > − 10
7
5
3. − 7 < − 2
3
5 4. 11 < 33
4 8
5
- 6. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
40. ผลบวกของ 2 3 และ 3 1 นอยกวา 6 อยูเทาไร (ค 1.2 ม.1/2)
5 3
1. 3
5
1
2. 15
3. 2
5
3
4. 15
41. ⎛ 5⎞ ⎡⎛
⎜ − ⎟ − ⎢⎜ − 2 1 ⎞ − 4 ⎤ มีคาเทากับขอใด (ค 1.2 ม.1/2)
3
⎝ 6⎠ ⎢⎝⎣ 3⎟ ⎥
⎠ ⎥
⎦
5
1. 12 7
2. 2 12
1
3. 2 4 4. 4 3
5
42. ⎛ 1 + 1 1 ⎞ ÷ ⎛ − 3 + 1 ⎞ มีคาเทากับขอใด (ค 1.2 ม.1/2)
⎜
⎜3
⎟ ⎜ ⎟
⎝ 15 ⎟ ⎝ 5 ⎠
⎠
1. − 1 2. −3
2 5
3. 154 7
4. 15
4 1 −1 1
43. คาของ 2 1 3 ตรงกับขอใด (ค 1.2 ม.1/2)
4
3+2
1. 5 65 2. 4 1
2
3. 2 83 4. 2 1
2
44. ถา (4.9 − 2.2) × (−1.5) = A แลวคาของ A + (−4.25) เทากับขอใด (ค 1.2 ม.1/2)
9
1. −3.8 2. −4.7
3. 3.8 4. 4.7
45. −0.5 − (−3.4) − 1.5 + 2.1 มีคาเทากับขอใด (ค 1.2 ม.1/2)
1. 2.7 2. 3.2
3. 3.5 4. 3.9
46. −10.21 + (−14.39) + 22.15 + (−11.43) มีคาเทากับขอใด (ค 1.2 ม.1/2)
1. 22.15 2. 19.74
3. −16.02 4. −13.88
47. นายแดงเลี้ยงสัตว 3 ชนิด มีเปด 1 ของสัตวทั้งหมด และมีไก 2 ของที่เหลือ นอกนั้นเปนหมู 14 ตัว อยากทราบวานายแดง
3 3
เลี้ยงสัตวไวทั้งหมดกี่ตัว (ค 1.2 ม.1/2)
1. 41 ตัว 2. 63 ตัว
3. 93 ตัว 4. 103 ตัว
48. หองรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากหองหนึ่งกวาง 5.5 เมตร ยาว 12.75 เมตร ความยาวรอบหองเทากับกี่เมตร (ค 1.2 ม.1/2)
1. 18.25 เมตร 2. 25.50 เมตร
3. 36.50 เมตร 4. 40.25 เมตร
6
- 7. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
49. กระบอกไมไผอันหนึ่งวัดเสนผานศูนยกลางภายนอกได 10.58 เซนติเมตร และวัดเสนผานศูนยกลางภายในได 8.76 เซนติเมตร
กระบอกไมไผนี้หนาเทาไร (ค 1.2 ม.1/2)
1. 0.91 เซนติเมตร 2. 1.82 เซนติเมตร
3. 2.82 เซนติเมตร 4. 3.12 เซนติเมตร
1 ของถัง ตอมาใชน้ํามันไป 10 ลิตร เหลือน้ํามันครึ่งถังพอดี ถังใบนี้จุน้ํามัน
50. ถังใบหนึ่งมีน้ํามันไมเต็มถัง โดยมีน้ํามันพรองไป 6
กี่ลิตร (ค 1.2 ม.1/2)
1. 45 ลิตร 2. 40 ลิตร
3. 35 ลิตร 4. 30 ลิตร
51. จํานวนเต็มรอยที่ใกลเคียงที่สุดของ 53,460 คือจํานวนใดตอไปนี้ (ค 1.3 ม.1/1)
1. 53,500 2. 53,400
3. 53,450 4. 53,000
52. คาประมาณเปนทศนิยม 2 ตําแหนงของ 257.3157 คือจํานวนใดตอไปนี้ (ค 1.3 ม.1/1)
1. 257.30 2. 257.32
3. 257.35 4. 257.36
53. จํานวนเต็มลานที่ใกลเคียงที่สุดของ 953,721,668 คือจํานวนใดตอไปนี้ (ค 1.3 ม.1/1)
1. 953,700,000 2. 953,000,000
3. 954,000,000 4. 950,000,000
54. 59.75 × 6.2 มีคาประมาณดังขอใดตอไปนี้ (ค 1.3 ม.1/1)
1. 59 × 6 2. 60 × 7
3. 60 × 6 4. 59 × 7
55. แอรเครื่องหนึ่งพอคาติดราคาไว 34,950 บาท พอคาประกาศลดราคา 18.5% ผูซื้อแอรเครื่องนี้ตองจายเงินประมาณกี่บาท
(ค 1.3 ม.1/1)
1. 28,000 บาท 2. 27,000 บาท
3. 26,000 บาท 4. 25,000 บาท
56.
จากเสนจํานวน ขอใดประมาณไดถูกตอง (ค 1.3 ม.1/1)
1. P มีคาประมาณ 8 2. Q มีคาประมาณ 9
3. คาประมาณของ Q มากกวา P ประมาณ 0.5 4. คาประมาณของ P และ Q ตางกัน 1
57. ทุกขอประมาณคาไดเทากับ 77 ยกเวนขอใด (ค 1.3 ม.1/1)
1. 77.15 2. 77.49
3. 76.84 4. 76.37
58. ขอใดประมาณคาเศษสวนไมถูกตอง (ค 1.3 ม.1/1)
1. 2 ประมาณเปน 1
3 2. 18 ประมาณเปน 1
40 2
3
3. 146 ประมาณเปน 0 11 ประมาณเปน 1
4. 13 2
7
- 8. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
59. วิชัยสอบวิชาคณิตศาสตรได 82.5% จากคะแนนเต็ม 40 คะแนน วิชัยสอบวิชาคณิตศาสตรไดประมาณกี่คะแนน (ค 1.3 ม.1/1)
1. 28 คะแนน 2. 32 คะแนน
3. 35 คะแนน 4. 40 คะแนน
60. รถโดยสารปรับอากาศรับนักเรียนไปทัศนศึกษาไดคันละ 42 คน ถาขบวนรถทัศนศึกษามี 18 คัน จะมีนักเรียนไปทัศนศึกษา
ประมาณกี่คน (ค 1.3 ม.1/1)
1. 680 คน 2. 710 คน
3. 800 คน 4. 840 คน
61. คูอันดับในขอใดที่แทนจุดซึ่งอยูบนกราฟของสมการ x = 2y − 1 (ค 4.2 ม.1/4)
1. (−2, 1) 2. (−5, −2)
3. (0, 1) 4. (3, −2)
62. เสนตรงที่ลากผานจุดในขอใดไมตัดแกน X (ค 4.2 ม.1/4)
1. (4, 2), (4, 3) 2. (2, 1), (2, 3)
3. (3, 2), (3, 1) 4. (1, 3), (3, 3)
63. ถา PQRS เปนรูปสี่เหลี่ยมดานขนาน และมี P(1, 2), Q(6, 2) และ R(9, 4) แลว S นาจะเปนจุดใด (ค 4.2 ม.1/4)
1. (−2, 2) 2. (4, 4)
3. (5, 2) 4. (3, 4)
64. ขอความใดไมถูกตอง (ค 4.2 ม.1/4)
1. พิกัด (5, −2) อยูในจตุภาคที่ 4 2. คูอันดับ (−8, −5) อยูในจตุภาคที่ 3
3. จุด (0, −7) อยูบนแกน X 4. พิกัด (−9, 4) อยูในจตุภาคที่ 2
65. จากกราฟคูอันดับของ A, B, C คือขอใด (ค 4.2 ม.1/4)
1. A(1, 3), B(2, 1), C(4, 3) 2. A(1, 2), B(2, 4), C(3, 1)
3. A(2, 1), B(2, 4), C(1, 3) 4. A(2, 1), B(4, 2), C(1, 3)
66. กําหนดจุด A(0, 10), B(0, 5), C(15, 5) และ D(15, 25) พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยม ABCD ตรงกับขอใด (ค 4.2 ม.1/4)
1. 180.5 ตารางหนวย 2. 187.5 ตารางหนวย
3. 192.5 ตารางหนวย 4. 195.5 ตารางหนวย
8
- 9. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
ใชกราฟตอไปนี้ตอบคําถามขอ 67-70
ในการทดลองทางกสิกรรมครั้งหนึ่ง พบวาความสัมพันธระหวางผลผลิตที่ไดเปนถังตอไร กับปริมาณปุยที่ใชเปนกิโลกรัมตอไร
เขียนแสดงดวยกราฟไดดังนี้
ปริมาณพืชผลที่ผลิตได (ถัง/ไร)
ปริมาณปุยที่ใช (กิโลกรัม/ไร)
67. ถาไมใสปุยจะไดผลผลิตเทาไร (ค 4.2 ม.1/5)
1. 20 ถังตอไร 2. 30 ถังตอไร
3. 40 ถังตอไร 4. 50 ถังตอไร
68. ถาใสปย 8 กิโลกรัม จะไดผลผลิตเทาไร (ค 4.2 ม.1/5)
ุ
1. 180 ถังตอไร 2. 170 ถังตอไร
3. 160 ถังตอไร 4. 150 ถังตอไร
69. ถาตองการใหไดผลผลิตมากที่สุดควรจะใสปุยเทาไร (ค 4.2 ม.1/5)
1. 12 กิโลกรัมตอไร 2. 18 กิโลกรัมตอไร
3. 20 กิโลกรัมตอไร 4. 24 กิโลกรัมตอไร
70. จากกราฟ ถาใสปุยเกิน 18 กิโลกรัมตอไร จะเกิดผลในขอใด (ค 4.2 ม.1/5)
1. ผลผลิตจะมากขึ้นเรื่อยๆ 2. ผลผลิตจะลดต่ําลงเรื่อยๆ
3. ผลผลิตจะเทาเดิม 4. ไมแนนอน
71. คา x จากสมการ 3(x − 2) − 2(2x + 1) = 1 − 4x คือขอใด (ค 4.2 ม.1/1)
1. 2 3 2. 1 13
3. 2 3 1 4. 3
72. ถา 0.6 (2x − 0.5) + 0.5x = x + 0.4 แลว x + 3 คือขอใด (ค 4.2 ม.1/1)
1. 1 2. 2
3. 4 4. 9
9
- 10. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
73. คําตอบของสมการ 4x + 1 = 0 มีคาเทากับคําตอบของสมการในขอใด (ค 4.2 ม.1/1)
2
1. 21 (x + 1) = 17 2. −5x + 1 = −4x − ⎛ − 1 ⎞
⎜ ⎟
8 ⎝ 4⎠
3. 2 ⎛ x − 1 ⎞ + 3 = x + (−7)
3 ⎜ 2⎟ 3 4. ⎛ 3x3− 2 ⎞ = 2 − 2
⎜ ⎟
3
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
74. สมการคูใดมีคําตอบของสมการเทากัน (ค 4.2 ม.1/1)
1. y + 5 = 2y + 12 กับ 6y − 11 = 3y + 9 2. 3 + (−x) = 6 กับ 4(2x − 1) = 5
3. − 1 (y − 1 y) = −y + 36 กับ 9y + 1 = − 1
6 3 2 6 4. 2 x − 10 = 0 กับ 2x − 18 = x + 7
5
75. ถา 7x5 2 = 4x2− 1 แลว 4x − 3 มีคาตรงกับขอใด (ค 4.2 ม.1/1)
+
1. 12 2. 3
2
3. 2 4. 3
76. จํานวน 2 จํานวนมีคาตางกัน 8 ผลคูณของจํานวนทั้งสองเทากับ 172 สมการในขอใดสอดคลองกับขอความนี้ (ให x แทน
จํานวนจํานวนหนึ่ง (ค 4.2 ม.1/3)
1. x + (x + 8) = 172 2. (x × x) + 8 = 172
3. 2x(x + 8) = 172 4. x(x + 8) = 172
77. เรือ 2 ลําออกจากทาเดียวกันและแลนไปที่เดียวกัน โดยเรือธรรมดาออกจากทาเวลา 10.00 น. ดวยความเร็ว 20 กิโลเมตรตอ
ชั่วโมง สวนเรือดวนออกจากทาเวลา 10.45 น. ดวยความเร็ว 30 กิโลเมตรตอชั่วโมง ถาเรือทั้งสองถึงจุดหมายพรอมกัน
ระยะทางจากทาเรือถึงจุดหมายเปนกี่กิโลเมตร (ค 4.2 ม.1/3)
1. 30 กิโลเมตร 2. 35 กิโลเมตร
3. 44 กิโลเมตร 4. 45 กิโลเมตร
78. ผลบวกขนาดของมุม 2 มุมของรูปสามเหลี่ยมรูปหนึ่งเทากับ 48 องศา และผลตางขนาดของมุมทั้งสองนี้เทากับ 22 องศา มุมที่
ใหญกวามีขนาดเทาไร (ค 4.2 ม.1/3)
1. 30 องศา 2. 32 องศา
3. 34 องศา 4. 35 องศา
79. รูปสี่เหลี่ยมผืนผารูปหนึ่งมีความยาวของเสนรอบรูปเทากับ 33 เซนติเมตร ถาความกวางยาวกวาครึ่งหนึ่งของความยาวอยู
3 เซนติเมตร รูปสี่เหลี่ยมผืนผารูปนี้จะมีพื้นที่กี่ตารางเซนติเมตร (ค 4.2 ม.1/3)
1. 67 ตารางเซนติเมตร 2. 67.5 ตารางเซนติเมตร
3. 76 ตารางเซนติเมตร 4. 76.5 ตารางเซนติเมตร
80. ปจจุบัน ก มีอายุเปนหกเทาของ ข แตในเวลาอีก 15 ปขางหนา ก มีอายุเปนสามเทาของอายุ ข อยากทราบวา ข อายุเทาไรใน
ปจจุบน (ค 4.2 ม.1/3)
ั
1. 10 ป 2. 12 ป
3. 13 ป 4. 15 ป
10
- 11. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
81. รูปตอไปนี้เปนรูปคลี่ของรูปเรขาคณิตสามมิตชนิดใด (ค 3.1 ม.1/4)
ิ
1. ปริซึมฐานสามเหลี่ยม 2. พีระมิดฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส
3. ปริซึมฐานสี่เหลี่ยม 4. กรวย
82. ขอใดไมใชรูปเรขาคณิตสามมิติ (ค 3.1 ม.1/4)
1. 2.
3. 4.
83. ขอใดไมใชรูปคลี่ของลูกบาศก (ค 3.1 ม.1/4)
1. 2.
3. 4.
11
- 12. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
84. ขอใดเปนรูปคลี่ของปริซึมฐานสามเหลี่ยม (ค 3.1 ม.1/4)
1. 2.
3. 4.
85. รูปคลี่ของพีระมิดฐานหาเหลี่ยมจะประกอบดวยรูปเรขาคณิตสองมิติอะไรบาง (ค 3.1 ม.1/4)
1. รูปหาเหลี่ยม 2 รูป และรูปสามเหลี่ยม 5 รูป 2. รูปหาเหลี่ยม 1 รูป และรูปสามเหลี่ยม 3 รูป
3. รูปหาเหลี่ยม 1 รูป และรูปสามเหลี่ยม 5 รูป 4. รูปสามเหลี่ยม 5 รูป
ใชรูปตอไปนี้ตอบคําถามขอ 86-87
86. ถามองดานขางตามลูกศร 1 จะไดรูปเรขาคณิตสองมิติรูปใด (ค 3.1 ม.1/5)
1. 2.
3. 4.
12
- 14. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
89. รูปคลี่ของรูปทรงในขอใดไมถูกตอง (ค 3.1 ม.1/4)
1. 2.
รูปคลี่ของกรวย
รูปคลี่ของปริซึม
3. 4.
รูปคลี่ของลูกบาศก รูปคลี่ของทรงกระบอก
90. รูปเรขาคณิตสามมิติในขอใดที่มภาพจากการมองดานบนดังรูป (ค 3.1 ม.1/5)
ี
1. 2.
3. 4.
ตอนที่ 2 จงเลือกคําตอบที่ถกตองที่สุดเพียงคําตอบเดียว
ู
91. นักวิ่งมาราธอน 4 คน วิ่งรอบสนามใชเวลา 105 วินาที, 110 วินาที, 140 วินาที และ 180 วินาที ตามลําดับ ถาเริ่มวิ่งพรอมกัน
อยากทราบวาอีกนานเทาไร นักวิ่งทั้งสี่คนจะถึงจุดเริ่มตนครั้งแรกพรอมกัน (ค 1.4 ม.1/1)
1. 66 วินาที 2. 420 วินาที
3. 13,860 วินาที 4. 27,720 วินาที
14
- 15. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
92. บทนิยาม กําหนดให a และ b เปนจํานวนเต็มซึ่งอยางนอยหนึ่งตัวตองไมเทากับศูนย d จะเปนตัวหารรวมมาก ก็ตอเมื่อ d เปน
จํานวนเต็มบวก ซึ่ง
1) d หาร a ลงตัว และ d หาร b ลงตัว และ
2) ถา c เปนจํานวนเต็มบวก ซึ่ง c หาร a ลงตัว และ c หาร b ลงตัว แลว c หาร d ลงตัว
ขอใดเปนผลบวกของตัวหารรวมมากของ −36 กับ 48 และ −26 กับ −118 (ค 1.4 ม.1/1)
1. −14 2. −10
3. 10 4. 14
93. บทนิยาม กําหนดให a และ b เปนจํานวนเต็มซึ่งตางก็ไมเทากับศูนย t จะเปนตัวคูณรวมนอยของ a และ b ก็ตอเมื่อ t เปน
จํานวนเต็มบวก ซึ่ง
1) a หาร t ลงตัว และ b หาร t ลงตัว และ
2) ถา c เปนจํานวนเต็มบวก ซึ่ง a หาร c ลงตัว และ b หาร c ลงตัว แลว t หาร c ลงตัว
ขอใดถูกตอง (ค 1.4 ม.1/1)
1. ตัวคูณรวมนอยของ 7 และ 5 เทากับ 1 2. ตัวคูณรวมนอยของ 5 และ 0 เทากับ 5
3. ตัวคูณรวมนอยของ 12 และ −15 เทากับ 60 4. ตัวคูณรวมนอยของ −8 และ −12 เทากับ −24
ใชขอมูลตอไปนี้ตอบคําถามขอ 94-95
อุณหภูมิของสารเปนดังนี้
ไฮโดรเจน −253°C
ไนโตรเจน −196°C
คลอรีน −35°C
ออกซิเจน −183°C
94. สารที่มีอุณหภูมิต่ําที่สุดกับสารที่มีอุณหภูมิสูงที่สุด มีอุณหภูมิตางกันกี่องศาเซลเซียส (ค 1.2 ม.1/1)
1. 218°C 2. −218°C
3. 288°C 4. −288°C
95. อุณหภูมของไนโตรเจนกับออกซิเจนตางกันกี่องศาเซลเซียส (ค 1.2 ม.1/1)
ิ
1. −13°C 2. 13°C
3. −57°C 4. 57°C
96. กําหนดให x = (2ab + c) ÷ 3d ถา a = −2, b = −3, c = 6 และ d = −1 แลว x เทากับขอใด (ค 1.2 ม.1/1)
1. 6 2. −6
3. 8 4. −8
97. คาของ 270000000 + 180000000 − 200000000 เทากับขอใด (ค 1.1 ม.1/2, ค 1.2 ม.1/4)
1300000 − 800000
1. 350 2. 470
3. 500 4. 580
2n +1 n 2n
98. 6 n ×n9 × 42n มีคาเทากับขอใด (ค 1.2 ม.1/4)
18 ×2 × 12
1. 2 2. 4
3. 6 4. 9
15
- 16. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
⎡ 5 2⎤ n −8
99. คาของ ⎢16 × 8 ⎥ ที่เปนผลสําเร็จจะมีเลขโดดในหลักหนวยเปนจํานวนใด เมื่อ n − 8 เปนจํานวนเต็มบวก (ค 1.2 ม.1/4)
⎢ 11 ⎥
⎢ 4
⎣ ⎥
⎦
1. 0 2. 2
3. 4 4. 6
1 ⎞m ⎛ 1 ⎞ n
⎜a + ⎟ ⎜a − ⎟
⎛
100. รูปอยางงายของ ⎝ b ⎠m ⎝ b ⎠n ตรงกับขอใด (ค 1.2 ม.1/4)
1⎞ ⎛ 1⎞
⎜b + ⎟ ⎜b − ⎟
⎛
⎝ a⎠ ⎝ a⎠
m+n m
1. ⎛ a ⎞
⎜ ⎟
b⎠ 2. ⎛ a ⎞
⎜ ⎟
b⎠
⎝ ⎝
m−n
3. ⎛ a ⎞
⎜ ⎟ 4. 1
⎝b⎠
101. เรเดียมซึ่งเปนธาตุกัมมันตรังสีมีจํานวนนิวเคลียส 64 × 1021 นิวเคลียส และมีชวงเวลาครึ่งชีวิต 1,600 ป จํานวนนิวเคลียสของ
เรเดียมที่เหลืออยูภายหลังเวลาผานไป 8,000 ป เทากับขอใด (ค 1.2 ม.1/4)
t ÷t
กฎการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสีคือ N = N0× ⎛ 1 ⎞ 122⎠
⎜ ⎟
⎝
เมื่อ N0 เปนจํานวนนิวเคลียสของธาตุกัมมันตรังสีที่มีอยูเมื่อเวลาเริ่มตน
N เปนจํานวนนิวเคลียสของธาตุกัมมันตรังสีที่เหลืออยูเมื่อเวลาผานไป t
t 1 เปนเวลาครึ่งชีวิต
2
1. 2 × 1015 นิวเคลียส 2. 2 × 1021 นิวเคลียส
3. 4 × 1015 นิวเคลียส 4. 4 × 1021 นิวเคลียส
↔
102. จากการสรางสวนของเสนตรงจากจุด M ใหตั้งฉากกับ AB ขอใดไมถูกตอง (ค 3.1 ม.1/1)
1. AX = BY 2. MX = MY
3. XN = YN 4. XM = YM
16
- 17. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
∧
103. จากรูปการสรางมุม ขนาดของ COE เทากับกี่องศา (ค 3.1 ม.1/1)
1. 150° 2. 155°
3. 165° 4. 175°
104. ⎛ − 5 1 ⎞ × 2 1 ÷ ⎛ − 4 1 ⎞ มีคาเปนกี่เทาของ ⎛ 14 + 1 1 ⎞ × 57 (ค 1.2 ม.1/2)
⎜
3⎟ 4 ⎜ 2 ⎟ ⎜
3
7⎟
28
⎝ ⎠ ⎝ ⎠ ⎝ ⎠
1. 1 เทา 2. 2 เทา
3. 3 เทา 4. 4 เทา
2
105. ถา a = 2 , b = 6 แลว ab + ab มีคาเทาไร (ค 1.2 ม.1/2)
3
5
1. 4945 2. 1 45 4
3. 147
135 4. ถูกตองทุกขอ
106. แดงมีอาชีพเลี้ยงสัตวขาย วันหนึ่งเขาขายสัตวตางๆ ไดดังนี้
ขายหมู 13 ตัว ตัวละ 1,350.50 บาท
ขายไก 45 ตัว ตัวละ 24.50 บาท
ขายเปด 79 ตัว ตัวละ 53.75 บาท
ขายหาน 28 ตัว ตัวละ 216.50 บาท
และนําเงินที่ไดไปซื้อลูกวัวตัวละ 1,450 บาท เขาจะซื้อลูกวัวไดกี่ตัว (ค 1.2 ม.1/2)
1. 19 ตัว 2. 20 ตัว
3. 21 ตัว 4. 22 ตัว
107. การปดเศษบอกคาประมาณในขอใดไมถูกตอง (ค 1.3 ม.1/1)
1. จํานวนเต็มสิบที่ใกลเคียงที่สุดของ 1,885 คือ 1,890 2. จํานวนเต็มรอยที่ใกลเคียงที่สุดของ 38,529 คือ 38,500
3. ทศนิยมหนึ่งตําแหนงที่ใกลเคียงที่สุดของ 31.54 คือ 31.6 4. ทศนิยมสองตําแหนงที่ใกลเคียงที่สุดของ 6.407 คือ 6.41
108. ถาน้ําผึ้งบอกวาเธอหนักประมาณ 20 กิโลกรัม ขอใดตอไปนี้ถูกตอง (ค 1.3 ม.1/1)
1. น้ําผึ้งหนักมากกวา 15 กิโลกรัม แตไมถึง 20 กิโลกรัม
2. น้ําผึ้งหนักมากกวา 15 กิโลกรัม แตไมถึง 25 กิโลกรัม
3. น้ําผึ้งหนักไมนอยกวา 15 กิโลกรัม แตไมถึง 20 กิโลกรัม
4. น้ําผึ้งหนักไมนอยกวา 15 กิโลกรัม แตไมถึง 25 กิโลกรัม
17
- 18. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
ใชขอมูลตอไปนี้ตอบคําถามขอ 109-110
ตารางแสดงการเกิดและตายของประชากรโลก
ระยะเวลา เกิด ตาย เพิ่ม
ปละ (ลานคน) 138 48 90
วันละ (คน) 376,600 131,000 245,600
ชั่วโมงละ (คน) 15,700 2,200 13,500
นาทีละ (คน) 262 36 226
วินาทีละ (คน) 4.4 0.6 3.8
ที่มา : วารสารประชากรและการพัฒนา ปที่ 19 ฉบับที่ 6 สิงหาคม-กันยายน 2542
109. ป พ.ศ. 2542 ประเทศไทยมีประชากรประมาณ 60 ลานคน ประชากรโลกประมาณ 6 พันลานคน ในป พ.ศ. 2545 ประเทศไทย
จะมีประชากรประมาณกี่ลานคน (ค 1.3 ม.1/1)
1. 62 ลานคน
2. 63 ลานคน
3. 64 ลานคน
4. 65 ลานคน
110. สมมุติวาในวันที่ 1 พฤษภาคม 2543 มีประชากรโลกประมาณ 6,100 ลานคน ในวันที่ 30 กันยายน 2543 จะมีประชากรโลก
ประมาณกี่ลานคน (ค 1.3 ม.1/1)
1. 37 ลานคน
2. 40 ลานคน
3. 6,137 ลานคน
4. 6,140 ลานคน
111. กําหนดจุด A(−3, 2), B(4, 2), C(5, 5) และ D(−4, −4) ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง (ค 4.2 ม.1/4)
1. จุด A อยูในจตุภาคที่ 2
2. ถาลากเสนจากจุด A ไป B จะไดสวนของเสนตรงขนานกับแกน X
3. ถาลากเสนจากจุด C ไป D จะไดสวนของเสนตรงขนานกับแกน Y
4. ถาลากเสนจากจุด C ไป D จะผานจุดกําเนิด
112. พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยม ABCD ที่มีพิกัดเปน A(−3, 3), B(4, 3), C(3, −2) และ D(−2, −2) เทากับขอใด (ค 4.2 ม.1/4)
1. 48 ตารางหนวย
2. 40 ตารางหนวย
3. 37 ตารางหนวย
4. 30 ตารางหนวย
18
- 19. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
113. จากกราฟที่กําหนดให จงพิจารณาวามีขอความที่กลาวถูกตองกี่ขอ (ค 4.2 ม.1/5)
(1) เสนตรง R ตัดแกน X และแกน Y ที่จุด (0, 0)
(2) เสนตรง S ตัดแกน Y ที่จุด (0, −1)
(3) เสนตรง T ตัดแกน X ที่จุด (−1, 0)
(4) เสนตรง U ตัดแกน X ที่จุด (0, −1)
(5) เสนตรง V ตัดแกน Y ที่จุด (0, 3)
(6) เสนตรง R ตัดเสนตรง V และ S ที่จุด (−2, −1)
(7) เสนตรง V ตัดเสนตรง T และ U ที่จุด (1, −1)
(8) เสนตรง T ตัดเสนตรง S ที่จุด (3, −1)
(9) เสนตรง U ตัดเสนตรง S ที่จุด (−1, 1)
1. มีขอถูก 4 ขอ 2. มีขอถูก 5 ขอ
3. มีขอถูก 6 ขอ
4. มีขอถูก 7 ขอ
114. ขนนกตกอยูที่พื้น เมื่อถูกลมพัด ขนนกปลิวตามลมมีลักษณะดังรูปกราฟตอไปนี้
ความสูง (เมตร)
เวลา (นาที)
ขอใดตอไปนีไมถูกตอง (ค 4.2 ม.1/5)
้
1. ขนนกปลิวขึ้นไปไดสูงสุด 4 เมตร 2. ในเวลา 2 นาที ขนนกอยูสูงจากพื้น 3 เมตร
3. ขนนกปลิวตกสูพื้นในเวลา 3 นาที 4. ขนนกปลิวขึ้นไปไดสูงสุดในเวลา 0.5 นาที
19
- 20. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
115.
จากกราฟแสดงการเคลื่อนที่ของวัตถุ เมื่อ t แทนเวลาเปนวินาที และ s แทนระยะทางเปนเมตร
วัตถุขึ้นไปไดสูง 26 เมตร เมื่อเวลาผานไปไดเทาไร (ค 4.2 ม.1/5)
1. 2 วินาที และ 6 วินาที 2. 3 วินาที และ 7 วินาที
3. 4 วินาที และ 8 วินาที 4. 4 วินาที และ 9 วินาที
116. ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง (ค 4.2 ม.1/1)
1. ถา 5x = 25 แลว x + 1 = 6
2. ถา 1 (4 − x) = 6 − x แลว x = 2
2
3. ถา 2 (2x + 4) = 4x แลว x = 1
3
4. ถา 5 2x − 3 = 5 แลว x = 14
117. รานขายวิทยุซื้อวิทยุมาราคาเครื่องละ 3,360 บาท ขายไป 2 ของจํานวนวิทยุที่ซื้อมา ราคาเครื่องละ 4,620 บาท และขายอีก
3
2 เครื่องราคาเครื่องละ 4,500 บาท ตอมาขายที่เหลือไปเครื่องละ 3,840 บาท ปรากฏวาไดกําไรทั้งสิ้น 13,320 บาท รานขายวิทยุ
ซื้อวิทยุมาจํานวนกี่เครื่อง (ค 4.2 ม.1/3)
1. 12 เครื่อง 2. 14 เครื่อง
3. 15 เครื่อง 4. 17 เครื่อง
118. จอยขี่จักรยานดวยความเร็ว 13 กิโลเมตรตอชั่วโมง จากจุด A ไปจุด B เมื่อเธอขี่เลยครึ่งหนึ่งของระยะทางไปได 5 กิโลเมตร
ก็พบวาปอซึ่งขี่จักรยานจากจุด B ไปยังจุด A ดวยความเร็ว 17 กิโลเมตรตอชั่วโมง และปอออกเดินทางหลังจอย 1 ชั่วโมง
จงหาวาจุด A และจุด B อยูหางกันเทาไร (ค 4.2 ม.1/3)
1. 35.5 กิโลเมตร 2. 37.5 กิโลเมตร
3. 42.5 กิโลเมตร 4. 47.5 กิโลเมตร
20
- 22. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
120. ขอใดเปนภาพที่ไดจากการมองดานบน ดานหนา และดานขาง ของรูปเรขาคณิตสามมิติตอไปนี้ (ค 3.1 ม.1/5)
1.
ภาพดานบน ภาพดานหนา ภาพดานขาง
2.
ภาพดานบน ภาพดานหนา ภาพดานขาง
3.
ภาพดานบน ภาพดานหนา ภาพดานขาง
4.
ภาพดานบน ภาพดานหนา ภาพดานขาง
22
- 23. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
เฉลย
ตอนที่ 1
1. 3 2. 2 3. 4 4. 1 5. 3
6. 3 7. 2 8. 1 9. 2 10. 2
11. 1 12. 1 13. 4 14. 2 15. 2
16. 2 17. 4 18. 2 19. 2 20. 2
21. 4 22. 3 23. 1 24. 4 25. 4
26. 1 27. 3 28. 3 29. 1 30. 1
31. 4 32. 2 33. 3 34. 2 35. 3
36. 3 37. 4 38. 1 39. 3 40. 2
41. 3 42. 1 43. 4 44. 2 45. 3
46. 4 47. 2 48. 3 49. 1 50. 4
51. 1 52. 2 53. 3 54. 3 55. 1
56. 4 57. 4 58. 4 59. 2 60. 3
61. 2 62. 4 63. 2 64. 3 65. 4
66. 2 67. 3 68. 1 69. 2 70. 2
71. 4 72. 3 73. 2 74. 4 75. 4
76. 4 77. 4 78. 4 79. 2 80. 1
81. 2 82. 2 83. 4 84. 2 85. 3
86. 1 87. 4 88. 3 89. 3 90. 3
ตอนที่ 2
91. 3 92. 4 93. 3 94. 1 95. 2
96. 2 97. 3 98. 3 99. 4 100. 1
101. 2 102. 1 103. 3 104. 4 105. 4
106. 1 107. 3 108. 4 109. 2 110. 3
111. 3 112. 4 113. 2 114. 4 115. 2
116. 2 117. 1 118. 1 119. 3 120. 2
23
- 24. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
เฉลยละเอียดเฉพาะขอยาก
ตอนที่ 1
3. ตอบขอ 4
วิธีทํา
2)16 24 32
2) 8 12 16
2) 4 6 8
2) 2 3 4
1 3 2
ค.ร.น. ของ 16, 24, 32 = 2 × 2 × 2 × 2 × 2 × 3
= 96
ห.ร.ม. ของ 16, 24, 32 = 2 × 2 × 2
= 8
∴ ค.ร.น. และ ห.ร.ม. ตางกัน = 96 − 8 = 88
4. ตอบขอ 1
วิธีทํา 31, 61 และ 91 จํานวนทั้งสามหารดวย 2, 3, 5, 6 แลวจะเหลือเศษ 1 ทุกจํานวน 2 จึงเปนจํานวนที่นอยที่สุด
5. ตอบขอ 3
วิธีทํา ชาย 3 คน ออกวิ่งจากจุดเดียวกันเมื่อเวลา 10.30 น.
ทั้ง 3 คนมาพบกันที่จุดเริ่มตนอีกครั้งเวลา 11.50 น.
∴ ใชเวลานาน 11.50 น. − 10.30 น. = 80 นาที
แสดงวา ค.ร.น. ของเวลาของชายทั้ง 3 คน = 80
ให คนที่ 3 วิ่งรอบสนาม 1 รอบใชเวลา = x นาที
หา ค.ร.น. ของเวลาที่ชายทั้ง 3 คนใชวิ่งใน 1 รอบคือ 8, 10, x
ถาแทน x = 16
2) 8 10 16
2) 4 5 8
2) 2 5 4
1 5 2
∴ ค.ร.น. ของ 8, 10, 16 = 2 × 2 × 2 × 2 × 5
= 80
แสดงวาชายคนที่ 3 วิ่งรอบสนาม 1 รอบใชเวลา = 16 นาที
24
- 25. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
6. ตอบขอ 3
วิธีทํา หา ห.ร.ม. ของจํานวนธนบัตรแตละชนิด
3) 621 216 108
3) 207 72 36
3) 69 24 12
23 8 4
∴ แบงธนบัตรแตละชนิดลงในกระเปาไดมากที่สุด = 3 × 3 × 3 = 27 ฉบับ
มีธนบัตรหาสิบบาทคิดเปนเงิน 27 × 50 = 1,350 บาท
7. ตอบขอ 2
วิธีทํา ขอ 2 แทน a = 5; a +1 =6
a +2 =7
a +3 =8
เมื่อนํา 5 ไปหาร 6, 7, 8 จะเหลือเศษ 1, 2, 3 ตามลําดับ
9. ตอบขอ 2
วิธีทํา หา ห.ร.ม. ของ 132, 154, 176 ได 22
จํานวนสมที่มากที่สุดในแตละกอง = 22 ผล
แสดงวา สมขนาดใหญแบงได 132 ÷ 22 = 6 กอง
สมขนาดกลางแบงได 154 ÷ 22 = 7 กอง
สมขนาดเล็กแบงได 176 ÷ 22 = 8 กอง
แบงสมไดทั้งหมด 6 + 7 + 8 = 21 กอง
25. ตอบขอ 4
วิธีทํา 5×3n −9×3n −2 = (5 × 3n ) − (32 × 3n × 3−2 )
3n − 3n −1 (3n × 1) − (3n × 3−1)
n
= 3 (5 − 1)
3 n (1 − 3−1)
= 4
1− 1 3
= 4× 3
2
= 6
27. ตอบขอ 3
วิธีทํา (16m+n× 4m) ÷ 4 m+n = 4
(42m+2n× 4m) ÷ 4 m+n = 4
42m+2n+m−m−n = 4
42m+n = 4
ดังนั้น 2m+n = 1
นํา 3 คูณทั้งสองขางจะได 6m+3n = 3
25
- 26. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
38. ตอบขอ 1
วิธีทํา ⎛
⎜− 2 1 ⎞ × 5 8 × ⎛ − 4 1 ⎞ × 16
3⎟
3 ⎜ ⎟
2 43 = ⎛ − 7 ⎞ × 43 × ⎛ − 9 ⎞ × 16
⎜
⎝ 3 ⎠ 8 ⎝ 2 ⎠ 43
⎟ ⎜ ⎟
⎝ ⎠ ⎝ ⎠
= (−7) × 43 × (−9) × 16 = 21
3 × 8 × 2 × 43
41. ตอบขอ 3
5 ⎞ ⎡⎛ 1 ⎞ 3 ⎤ = − 5 − ⎡− 7 − 3 ⎤
วิธีทํา 6 ⎠ − ⎢⎝ − 2 3 ⎟ − 4 ⎥
⎛
⎜−
⎝
⎟ ⎜
⎣ ⎠ ⎦ 6 ⎣ 3 4⎦
⎢ ⎥
= −5+7+3
6 3 4
หา ค.ร.น. ของ 6, 3 และ 4 ไดเทากับ 12
= − 5× 2 + 7 × 4 + 3× 3
6× 2 3× 4 4 × 3
= − 10 + 28 + 9
12 12 12
= 27
12
= 3
2 12
= 214
42. ตอบขอ 1
วิธีทํา ⎛
⎜ 1 +1 1 ⎞ ÷ ⎛− 3 + 1 ⎞
⎟ = ⎛ 1 × 5 + 16 ⎞ ÷ ⎢⎛ − 3 × 5 ⎞ + 1 ⎥
⎡ ⎤
⎜
⎝ 3 15 ⎟ ⎜ 5 ⎟
⎠ ⎝ ⎠
⎜
⎝ 3 × 5 15 ⎟ ⎣⎜ 1 × 5 ⎟ 5 ⎦
⎠ ⎝ ⎠
= ⎛ 5 16 ⎞ ⎡⎛ 15 ⎞ 1 ⎤
⎜
⎝15 + 15 ⎟ ÷ ⎢⎜ − 5 ⎟ + 5 ⎥
⎠ ⎣⎝ ⎠ ⎦
= 21 ÷ ⎜ − ⎟
⎛ 14 ⎞
15 ⎝ 5 ⎠
= 21 × ⎛ − 5 ⎞ = − 1
15 ⎝ 14 ⎠
⎜ ⎟
2
44. ตอบขอ 2
วิธีทํา (4.9 − 2.2) × (−1.5) = A
9
2.7 × (−1.5) = A
9
A = −0.45
∴ A + (−4.25) = −0.45 + (−4.25) = −4.7
47. ตอบขอ 2
วิธีทํา นายแดงเลี้ยงสัตวทั้งหมด = 1
เลี้ยงเปด = 1 ของสัตวทั้งหมด
3
เหลือ 1 − 1 = 3 −1 = 2
3 3 3
มีไก 32 ของที่เหลือ = 2×2 = 4
3 3 9
∴ เหลือเปนหมู = 1− 1 − 4 = 9 −3− 4
3 9 9 = 2
9
นอกนั้นเปนหมู = 14 ตัว
2 คิดเปน 14 ตัว
9
1 คิดเปน 14 × 9
2 = 63 ตัว
∴ มีสัตวทั้งหมด 63 ตัว
26
- 27. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
50. ตอบขอ 4
วิธีทํา ดังนั้น มีน้ํามันในถังเปนเศษสวน = 5
1 − 1 = 6 ของถัง
6
5
ใชน้ํามันไป เหลือน้ํามันครึ่งถัง ∴ ใชน้ํามันไป 6 − 1 = 2 = 1 ของถัง
2 6 3
น้ํามัน 31 ของถัง คิดเปนน้ํามัน 10 ลิตร
3
∴ ถังใบนี้จุน้ํามัน = 10 × 1 = 30 ลิตร
66. ตอบขอ 2
วิธีทํา
พื้นที่ของ ABCD = 1 × ผลบวกดานคูขนาน × สูง
2
= 1 × (5 + 20) × 15
2
= 1 × 25 × 15
2
= 187.5 ตารางหนวย
72. ตอบขอ 3
วิธีทํา 0.6(2x − 0.5) + 0.5x = x + 0.4
1.2x − 0.3 + 0.5x = x + 0.4
1.7x − x = 0.4 + 0.3
0.7x = 0.7
x =1
∴x + 3 = 4
77. ตอบขอ 4
วิธีทํา ใหระยะทางจากทาเรือถึงจุดหมายเทากับ x กิโลเมตร
x
ระยะทาง x กิโลเมตร เรือธรรมดาใชเวลาแลน 20 ชั่วโมง
x
ระยะทาง x กิโลเมตร เรือดวนใชเวลาแลน 30 ชั่วโมง
แตเรือธรรมดาออกจากทากอนเรือดวน = 45 นาที
= 45 ชั่วโมง
60
จะไดสมการ x − x = 45
20 30 60
3x − 2x = 45
x = 45
∴ระยะทางจากทาเรือถึงจุดหมายเทากับ 45 กิโลเมตร
27
- 28. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
78. ตอบขอ 4
วิธีทํา ใหมุมที่มีขนาดใหญกวาเทากับ x องศา
∴ มุมที่มีขนาดเล็กกวาเทากับ 48 − x องศา
จะไดสมการ x − (48 − x) = 22
2x = 70
x = 35
∴มุมที่ใหญกวามีขนาด 35 องศา
79. ตอบขอ 2
วิธีทํา
x
1x+3 1x+3
2 2
x
จะไดสมการ x + x + ⎛ 1 x + 3⎞ + ⎛ 1 x + 3⎞ = 33
⎝2
⎜ ⎟
⎠ ⎝2
⎜ ⎟
⎠
3x + 6 = 33
x =9
∴ ดานยาวยาว 9 เซนติเมตร
ดานกวางยาว 1 (9) + 3 = 7.5 เซนติเมตร
2
พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมผืนผา = กวาง × ยาว
= 7.5 × 9 = 67.5 ตารางเซนติเมตร
80. ตอบขอ 1
วิธีทํา ปจจุบันใหอายุของ ข = x
อีก 15 ปขางหนา ข อายุ = x + 15
ปจจุบัน ก มีอายุเปนหกเทาของ ข = 6x
อีก 15 ปขางหนา ก อายุ = 6x + 15
อีก 15 ป ก มีอายุเปนสามเทาของอายุ ข
สมการ 6x + 15 = 3(x + 15)
6x + 15 = 3x + 45
6x − 3x = 45 − 15
3x = 30
x = 303
x = 10
∴ ปจจุบัน ข อายุ 10 ป
28
- 29. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
ตอนที่ 2
91. ตอบขอ 3
วิธีทํา นําเวลาของนักวิ่งมาราธอนทั้ง 4 คน มาหา ค.ร.น. ไดดังนี้
5)105 110 140 180
2) 21 22 28 36
3) 21 11 14 18
7) 7 11 14 6
2) 1 11 2 6
1 11 1 3
∴ นักวิ่งมาราธอนทั้งสี่คนจะถึงจุดเริ่มตนครั้งแรกพรอมกันเมื่อเวลาผานไป 5 × 2 × 3 × 7 × 2 × 11 × 3 = 13,860 วินาที
92. ตอบขอ 4
วิธีทํา ห.ร.ม. คิดแตจํานวนบวก ตามนิยามที่กําหนดให
−36 = 4 × 3 × −3
48 = 4 × 3 × 4
∴ ห.ร.ม. คือ 4 × 3 = 12
และ −26 = 2 × −13
−118 = 2 × −59
∴ ห.ร.ม. คือ 2
ดังนั้น ผลบวกของตัวหารรวมมากของ −36 กับ 48 และ −26 กับ −118 คือ 12 + 2 = 14
93. ตอบขอ 3
วิธีทํา ขอ 1 ค.ร.น. ของ 7, 5 คือ 35
ดังนั้น ขอ 1 จึงผิด
ขอ 2 ค.ร.น. ของ 5, 0 หาคาไมได
ดังนั้น ขอ 2 จึงผิด
ขอ 3 ถูก 12 = 2 × 3 × 2
−15 = 5 × 3 × −1
∴ ค.ร.น. คือ 60 (จากนิยาม ค.ร.น. เปนจํานวนเต็มบวก)
ขอ 4 ผิด เพราะวา ค.ร.น. ตองเปนจํานวนเต็มบวกเทานั้น (ตามนิยามที่กําหนดใหมา)
94. ตอบขอ 1
วิธีทํา สารที่มีอุณหภูมิตําที่สุดคือไฮโดรเจน −253°C
่
สารที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดคือคลอรีน −35°C
มีอุณหภูมิตางกัน = (−35) − (−253)
= (−35) + 253
= 218°C
29
- 30. แบบทดสอบตามตัวชี้วัดเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาคณิตศาสตร ม.1
95. ตอบขอ 2
วิธีทํา ออกซิเจน −183°C
ไนโตรเจน −196°C
อุณหภูมิของไนโตรเจนกับออกซิเจนตางกัน
= (−183) − (−196)
= (−183) + 196
= 13°C
96. ตอบขอ 2
วิธีทํา x = (2ab + c) ÷ 3d
= [2(−2)( −3) + 6] ÷ 3(−1)
= 18 ÷ (−3) = −6
97. ตอบขอ 3
วิธีทํา 270000000 + 180000000 − 200000000
1300000 − 800000
7 7 7
= (27 × 10 ) + (18 × 10 ) − (20 × 10 )
(13 × 105) − (8 × 105)
7
= (27 + 18 − 20) × 10
(13 − 8) × 105
7
= 25 × 10
5 × 105
= 5×107−5
= 5×102
= 500
98. ตอบขอ 3
วิธีทํา 62n +1 × 9n × 4 2n = 62n × 6 × (32)n × 42n
18n ×2 n × 122n (6 × 3)n ×2n × (3× 4)2n
= 62n × 6 × 32n × 4 2n
6n ×3n ×2 n × 32n × 4 2n
= 62n × 6 × 32n × 42n
6n × (3× 2)n × 32n × 42n
= 62n × 6 × 32n × 42n
62n × 32n × 42n
= 6
30