Contenu connexe
Similaire à ทฤษฎีดนตรี (20)
ทฤษฎีดนตรี
- 2. ก
คํานํา
เสียงเพลงที่เกิดจากการบรรเลงดนตรีของนักดนตรี และการขับรองของนักรองที่มีความสามารถ
ในการถายทอดอารมณเพลงไดอยางครบถวนตามที่ผูประพันธตองการ โดยผานประสบการณความชํานาญ
การเรียนรู และความเขาใจในทฤษฎีดนตรีสากล นักรอง นักดนตรี จะตองรูจักวิเคราะหลักษณะโนต และ
ระดับเสียงของโนต รวมทั้งสามารถปฏิบัติโนตเพลงไดถูกตอง
โนตเพลง เปนสัญลักษณหรือเครื่องหมายที่มนุษยไดคิดคนขึ้นมาใชบันทึกแสดงถึงความสั้น-ยาว
และความสูง-ต่ําของเสียงดนตรี ตัวโนตเปรียบเหมือนกับตัวอักษรทีใชบันทึกแทนภาษาพูด คนที่เลนดนตรี
่
เปนหรือรองเพลงได แตไมสามารถอานโนตไดกเ็ หมือนกับคนที่พดได แตอานหนังสือไมออก ยอมขาด
ู
การพัฒนา เพราะไมสามารถศึกษาหาความรูเพิ่มเติมดวยตนเองได ดังนั้น นักรอง นักดนตรี จึงตองมี
ความรูความเขาใจในการอานโนตไดดวย จึงจะมีความเขาใจในบทเพลง และสามารถที่จะบรรเลงเพลงได
ทันที โดยอาจจะไมรูจก หรือไมเคยบรรเลงเพลงนั้นมากอนเลยก็ได เพราะโนตเพลงเปนสัญลักษณสากลที่
ั
เรียนรูเหมือนกันทั่วโลก สามารถอานและเขาใจไดเชนเดียวกับหนังสือ
การเรียนทฤษฎีดนตรีสากล ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1 เปนแนวทางพื้นฐานสูการปฏิบัติ
เครื่องดนตรี นักเรียนจึงควรฝกการอานโนต เพื่อใหเกิดทักษะปฏิบตจนเกิดความคลองแคลวดวยความ
ั ิ
เขาใจ ในการฝกอานโนตเบืองตนไมจําเปนตองมีการปฏิบัติเครื่องดนตรีในการฝกอาน เพราะบางคนอาจ
้
เลนดนตรียังไมเปน ดังนัน เพื่อใหไดความรูพื้นฐานและฝกใหรูหลักการ จะตองเรียนรูในเรื่องจังหวะ การ
้
เคาะจังหวะ การรูจกจุดเริ่มปฏิบัติโดยอาจฝกปฏิบัติการปรบมือแทนการเลนเครื่องดนตรี รูจักตัวหยุด รูจก
ั ั
ระดับความสูงต่ําของเสียง โดยการฝกเปลงเสียงรองดวยปากของเราเอง รูสัญลักษณทางดนตรีตาง ๆ ก็จะ
ทําใหการปฏิบัติดนตรี และการขับรองไดถูกตองตามหลักทฤษฏีดนตรี สามารถฝกปฏิบัติดวยตนเองได
อยางตอเนื่อง ทําใหมีความรูความเขาใจในทฤษฎีดนตรีสากลอยางคงทน สามารถพัฒนาตนเองไปสูการเลน
เครื่องดนตรี หรือขับรองและอานโนตไดอยางมืออาชีพตอไป
เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง ทฤษฎีดนตรีสากล มีทั้งหมด 4 ชุด ดังนี้
ชุดที่ 1 ตัวโนตและตัวหยุด (Note and Rest)
ชุดที่ 2 จังหวะและเครื่องหมายกําหนดจังหวะ (Rhythm and Time Signature)
ชุดที่ 3 ระดับเสียง (Pitch)
ชุดที่ 4 ฝกอานและขับรองตามระดับเสียงโนต
เพื่อความตอเนื่องของเนื้อหา ควรศึกษาเอกสารจากชุดเริ่มตนเรียงลําดับไปจนถึงชุดสุดทาย
หวังเปนอยางยิ่งวาเอกสารประกอบการเรียนนี้ จะเปนประโยชนตอนักเรียนและผูที่สนใจไดเปนอยางดี
วีระยุทธ ยนยุบล
- 3. ข
สารบัญ
เรื่อง หนา
คํานํา …………………………………………………………………………………………….. ก
สารบัญ ………………………………………………………………………………………...... ข
จุดประสงคการเรียนรู …………………………………………………………………………… 1
คําแนะนําการใชเอกสารประกอบการเรียน ……………………………………………………... 2
กระดาษคําตอบ ………………………………………………………………………………….. 3
แบบทดสอบกอนเรียน ………………………………………………………………………...... 4
ตัวโนตและตัวหยุด (Note and Rest) ..…….................................................................................... 6
ชื่อตัวโนต ……….………………………………….…………………………………………… 6
ลักษณะของตัวโนตและตัวหยุด ………………………………………………………………… 6
การเปรียบเทียบคาตัวโนต ………………………………………………………………………. 7
ความสอดคลองของตัวโนตและตัวหยุด ………………………………………………………… 8
โนตประจุด (Dotted Note) …………………………………………………………………….. 9
โนตโยงเสียง (Tied Note) ………………………………………………………………………. 9
หองเพลง (Measure) ……………………………………………………………………………... 10
ใบงานที่ 1 ตัวโนตและตัวหยุด (Note and Rest) ……………………………………………….. 12
เฉลยใบงานที่ 1 ตัวโนตและตัวหยุด (Note and Rest) …………………………………………... 13
ใบงานที่ 2 โนตประจุด โนตโยงเสียงและหองเพลง
(Dotted Note,Tied Note and Measure) ...................................................................................... 14
เฉลยใบงานที่ 2 โนตประจุด โนตโยงเสียงและหองเพลง
(Dotted Note,Tied Note and Measure) ……………………………………………………….. 16
แบบฝกที่ 1 ฝกปฏิบัติการเคาะจังหวะอยางสม่ําเสมอและการเนนจังหวะ (Accent) ……………. 18
แบบทดสอบหลังเรียน ………………………………………………………………………....... 20
เฉลยแบบทดสอบกอนและหลังเรียน …………………………………………………………… 22
บรรณานุกรม ……………………………………………………………………………………. 23
- 4. 1
จุดประสงคการเรียนรู
เรื่อง ตัวโนตและตัวหยุด (Note and Rest)
หลังจากศึกษาเอกสารประกอบการเรียน ชุดที่ 1 ตัวโนตและตัวหยุด (Note and Rest) นักเรียน
ตองมีความรูความเขาใจ ดังนี้
1. สามารถบอกความหมายของตัวโนตและตัวหยุดได
2. สามารถเปรียบเทียบคาของตัวโนตและตัวหยุดได
3. สามารถบอกชื่อตัวโนตและตัวหยุดได
4. สามารถอธิบายโนตโยงเสียงและหองเพลงได
5. สามารถปฏิบติการเคาะจังหวะไดอยางสม่ําเสมอและเนนจังหวะในแตละหองเพลงได
ั
- 5. 2
คําแนะนําการใชเอกสารประกอบการเรียน
ชุดที่ 1 ตัวโนตและตัวหยุด (Note and Rest)
เอกสารประกอบการเรียนเลมนี้ จัดทําขึ้นเพื่อใชประกอบการเรียนการสอนรายวิชาศิลปะ รหัสวิชา
ศ 31101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1 การศึกษาหาความรูจากเอกสารเลมนี้ ใหปฏิบติตามขั้นตอนดังตอไปนี้
ั
1. ทําแบบทดสอบกอนเรียน จํานวน 10 ขอ ลงในกระดาษคําตอบ
2. ศึกษาเนื้อหาสาระความรูใหเขาใจ ถาไมเขาใจสามารถยอนกลับไปศึกษาใหมได
3. ทําใบงานทุกใบงาน โดยปฏิบัติกิจกรรมที่ระบุในใบงานใหครบทุกขั้นตอน
4. ตรวจคําตอบใบงาน จากเฉลยใบงาน เพื่อวัดผลการเรียนรู
5. ถาตอบผิดควรกลับไปศึกษาเนื้อหาใหมอีกครั้ง
5. ปฏิบัติกิจกรรมตามแบบฝก ใหครบทุกบทฝก (ในแตละแบบฝกจะมีหลายบทฝก) จนเกิดทักษะ
และความคลองแคลวในการปฏิบัติ
6. ทําแบบทดสอบหลังเรียน จํานวน 10 ขอ ลงในกระดาษคําตอบ
7. ตรวจคําตอบแบบทดสอบกอนและหลังเรียน จากเฉลย
8. สรุปผลคะแนนที่ไดลงในกระดาษคําตอบ
9. ประธานกลุมรวบรวมกระดาษคําตอบสงครู
- 6. 3
กระดาษคําตอบ
เรื่อง ตัวโนตและตัวหยุด (Note and Rest)
ชื่อ-สกุล………………………………………………………เลขที่………………….ชั้น……………
ทดสอบกอนเรียน ทดสอบหลังเรียน
ขอ ก ข ค ง ขอ ก ข ค ง
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10
ลงชื่อ………………..……………….ผูตรวจ ลงชื่อ………………..……………….ผูตรวจ
( ) ( )
สรุปผล
แบบทดสอบ กอนเรียน (10 คะแนน) หลังเรียน (10 คะแนน)
คะแนนที่ได
- 7. 4
แบบทดสอบกอนเรียน
เรื่อง ตัวโนตและตัวหยุด (Note and Rest)
คําชี้แจง โปรดเลือกคําตอบที่ถูกตองที่สุด ลงในกระดาษคําตอบ ใชเวลา 5 นาที
1. ขอใดไมใชอักษรแทนเสียงดนตรี ระบบตัวอักษร (Letter System) ในระบบชื่อตัวโนต
ก. C E G
ข. D F A
ค. I H K
ง. A B C
2. ขอใดคือความหมายของตัวโนต
ก. เปนสัญลักษณที่บันทึกแทนความสูง-ต่ํา ของเสียง
ข. เปนสัญลักษณที่บันทึกแทนความดัง-เบา ของเสียง
ค. เปนสัญลักษณที่บันทึกแทนความสั้น-ยาว ของเสียง
ง. เปนสัญลักษณที่บนทึกแทนความสั้น-ยาว ของความเงียบ
ั
3. ความหมายของตัวหยุด คือ
ก. เปนสัญลักษณที่บันทึกแทนความสูง-ต่ํา ของเสียง
ข. เปนสัญลักษณที่บันทึกแทนความดัง-เบา ของเสียง
ค. เปนสัญลักษณที่บันทึกแทนความสั้น-ยาว ของเสียง
ง. เปนสัญลักษณที่บันทึกแทนความสั้น-ยาว ของความเงียบ
4. ชื่อตรงกับสัญลักษณของตัวโนตในขอใดไมถูกตอง
ก. = ตัวขาว
ข. = ตัวดํา
ค. = ตัวเขบ็ต 1 ชั้น
ง. = ตัวเขบ็ต 2 ชั้น
- 8. 5
5. ขอใดกลาวไดถูกตองเกี่ยวกับโนตโยงเสียง
ก. ทําใหคาความยาวของตัวโนตเพิ่มขึ้นเทากับโนตสองตัวรวมกัน
ข. ทําใหคาของโนตลดลงครึ่งหนึ่งของตัวมันเอง
ค. ทําใหทราบถึงความสูงขึ้นของเสียง
ง. เปนตัวบอกใหหยุดออกเสียงในโนตระดับนั้น ๆ
6. ขอใดกลาวถึงโนตประจุดไดถูกตอง
ก. โนตตัวขาวประจุดมีคาเทากับโนตตัวดําสามตัว
ข. โนตตัวดําประจุดมีคาเทากับโนตตัวเขบ็ต 1 ชั้น 4 ตัว
ค. โนตตัวกลมประจุดมีคาเทากับโนตตัวขาว 2 ตัว
ง. โนตตัวเขบ็ต 1 ชั้นประจุดมีคาเทากับโนตตัวดํา 1 ตัว
7. การเปรียบเทียบคาของตัวโนตขอใดถูกตอง
ก. โนตตัวขาว มีคาเทากับ 1 ของโนตตัวกลม
4
ข. โนตตัวดํา มีคาเทากับ 1 ของโนตตัวกลม
2
ค. โนตตัวเขบ็ต 1 ชั้น มีคาเทากับ 1
ของโนตตัวกลม
8
ง. โนตตัวเขบ็ต 2 ชั้น มีคาเทากับ 1
ของโนตตัวกลม
32
8. ในการเคาะจังหวะเนนของหองเพลงในขอใดกลาวผิด
ก. การเนนทุก ๆ สองจังหวะคือเคาะหองละสองครั้ง
ข. การเนนทุก ๆ สองจังหวะคือเนนในจังหวะที่สอง
ค. การเนนทุก ๆ สามจังหวะคือเนนในจังหวะที่หนึ่ง
ง. การเนนทุก ๆ สี่จังหวะคือเนนในจังหวะที่หนึ่ง
9. ขอใดกลาวผิดเกี่ยวกับเสนกั้นหอง
ก. เสนกั้นหองจะกันไวหนาจังหวะเนนของแตละกลุม
้
ข. เสนกั้นหองจะเปนเสนตรงแนวนอนหาเสน
ค. ถาเปนเสนคูบางสองเสนติดกันคือบอกจบทอนเพลง
ง. เสนจบจะเปนเสนคูบางและหนาคูกน ั
10. การกระจายตัวโนตในขอใดกลาวผิด
ก. โนตตัวดําเทากับโนตตัวเขบ็ต 1 ชั้น 2 ตัว
ข. โนตตัวขาวเทากับโนตตัวเขบ็ต 1 ชั้น 4 ตัว
ค. โนตตัวกลมเทากับโนตตัวเขบ็ต 1 ชั้น 6 ตัว
ง. โนตตัวกลมเทากับโนตตัวขาว 2 ตัว
- 9. 1. ตัวโนต เปนสัญลักษณทบันทึกแทน ความสั้น- ยาว ของเสียง
ี่
2. ตัวหยุด เปนสัญลักษณทบันทึกแทน ความสั้น-ยาว ของความเงียบ
่ี
3. ชื่อตัวโนต (Note Name)
ชื่อและอักษรแทนเสียงดนตรี เรียงตามลําดับจากเสียงต่ําไปหาเสียงสูง ดังนี้
ระบบตัวอักษร (Letter System) C D E F G A B C
ระบบโซ-ฟา (So-Fa System) Do Re Mi Fa Sol La Ti Do
ระบบเซอเว (Serway System) 1 2 3 4 5 6 7 1
ระบบอักษรไทย (Thai Alphabet System) ด ร ม ฟ ซ ล ท ด
ชื่อระดับเสียง โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด
4. ลักษณะของตัวโนตและตัวหยุด
ตัวโนต ตัวหยุด ชื่อไทย ชื่ออังกฤษ ชื่ออเมริกัน
ตัวกลม Semibreve Whole note
หรือ ตัวขาว Minim Half note
หรือ ตัวดํา Crotchet Quarter note
หรือ ตัวเขบ็ต 1 ชั้น Quaver Eighth note
หรือ ตัวเขบ็ต 2 ชั้น Semi Quaver Sixteenth note
- 10. 7
5. การเปรียบเทียบคาของตัวโนต
จะเห็นวา โนต ตัวขาว มีคาเทากับ 1 ของโนต ตัวกลม
2
โนต ตัวดํา มีคาเทากับ 1 ของโนต ตัวกลม
4
โนต ตัวเขบ็ต 1 ชั้น มีคาเทากับ 1 ของโนต ตัวกลม
8
โนต ตัวเขบ็ต 2 ชั้น มีคาเทากับ 1 ของโนต ตัวกลม
16
หรือ =2 =4 =8 = 16
สวนตัวหยุด ใหเปรียบเทียบคาเหมือนกับตัวโนต
อัตราความสั้น-ยาวของตัวโนตและตัวหยุดจะมีกี่จังหวะนั้น จะขึ้นอยูกบเครื่องหมายกําหนดจังหวะ
ั
(รายละเอียดในบทเรียนตอไป)
- 11. 8
แผนภูมิการกระจาย และเปรียบเทียบคาตัวโนต
6. ความสอดคลองของตัวโนตและตัวหยุด
ตัวโนต
ตัวหยุด
ตัวหยุดลักษณะตาง ๆ ตามคาตัวโนต
สิ่งที่ควรรู
1. โนตแตละตัว หมายถึง เสียง 1 เสียง ความยาวของเสียงขึ้นอยูกบ “คาตัวโนต”
ั
2. ตัวหยุด มีหนาที่พกเสียงดนตรี สวนจะพักนานเทาใด ขึ้นอยูกบ “คาตัวหยุด” ยกตัวอยางเชน
ั ั
ตัวหยุดตัวกลม พักเสียง 4 จังหวะ แตอยาลืมวาจังหวะจะดําเนินไปเรื่อย ๆ
- 12. 9
7. โนตประจุด (Dotted Note)
จุดที่อยูหลังตัวโนตหรือตัวหยุด จะมีคาเปนครึ่งหนึ่งของตัวโนต หรือ ตัวหยุด เชน
8. โนตโยงเสียง (Tied Note)
เครื่องหมายโยงเสียง (Tie) เปนเสนโคงที่ลากเชื่อมระหวางตัวโนต 2 ตัว เครื่องหมายโยงเสียง
มักใชในกรณีที่โนตตัวเดียวกันมีเสียงยาวขามหองเพลง หรือขามหนวยจังหวะ ซึ่งไมสามารถแสดงคาตัว
โนตเพียงตัวเดียวได โนตโยงเสียงจะเลนครั้งเดียว คือ เลนเฉพาะโนตตัวแรกเทานั้น และจะถูกลากเสียง
ไปจนสิ้นสุดคาของโนตตัวสุดทายที่เครื่องหมายโยงเสียงลากไปถึง ซึ่งหมายถึง ทําใหคาความยาวของตัว
โนตเพิ่มขึ้นเทากับโนตสองตัวรวมกัน โนตโยงเสียงใหเขียนเครื่องหมายโยงเสียงกํากับไวบนหัวตัวโนต
เทานั้น ไมเขียนบนหางตัวโนต สวนตัวหยุดไมตองใชเครื่องหมายโยงเสียง ตัวอยาง เชน
Tie
Tie
- 13. 10
9. หองเพลง (Measure)
เปนการแบงกลุมการเคาะจังหวะ ในขณะที่เลนดนตรีจะมีการเคาะจังหวะอยางสม่ําเสมอ และ
มีการเนนจังหวะ (Accent หรือ >) หนัก-เบา สลับกันไปเปนกลุม ๆ ดังนี้
> > > >
เนนทุก ๆ 2 จังหวะ
จังหวะเคาะ
1 2 1 2 1 2 1 2
> > >
เนนทุก ๆ 3 จังหวะ
จังหวะเคาะ
1 2 3 1 2 3 1 2 3
> > >
เนนทุก ๆ 4 จังหวะ
จังหวะเคาะ
1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4
ในการเขียนโนตนั้น เราตองจัดกลุมตัวโนตออกเปนกลุมละสองจังหวะ สามจังหวะ หรือสี่จังหวะ
ตามจังหวะเนน โดยใชเสนตรงตั้งฉาก ( ) ซึ่งเรียกวา เสนกั้นหอง (Bar – Line) กั้นไวหนาจังหวะเนน
ของแตละกลุม (ยกเวนการเนนครั้งแรก) เมื่อจบทอนเพลงใหกั้นดวย เสนคู ( ) (Double Bar – Line)
และเมื่อจบบทเพลงใหกนดวย เสนจบ ( )
ั้
เสนกั้นหอง เสนคู เสนกั้นหอง เสนจบ
> > > >
กลุมละสี่จังหวะ
1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4
- 14. 11
เมื่อใชเสนกันหองแลว ตัวโนต ก็จะถูกบรรจุอยูในชองวาง ซึ่งเรียกวา หองเพลง (Measure or
้
Bar) หรือ เรียกสั้น ๆ วา หอง
หองที่ 1 หองที่ 2 หองที่ 3 หองที่ 4
หองละสี่จังหวะ
1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4
โนตตัวแรกของแตละหอง เปนจังหวะเนนเสมอ
แสดงลักษณะของหองเพลงเมื่อเขียนเปนโนตเพลง
หองที่ 1 หองที่ 2 หองที่ 3
เสนกันหอง (Bar – Line)
้
หองที่ 4 หองที่ 5 หองที่ 6 หองที่ 7 หองที่ 8
เสนจบ
- 15. 12
ใบงานที่ 1
เรื่อง ตัวโนตและตัวหยุด
ชื่อ..................................................นามสกุล................................................เลขที่...........ชั้น...............
คําชี้แจง ใหนกเรียนตอบคําถามจากโจทยดานลางนี้ใหถูกตอง
ั
1. ตัวโนต หมายถึง ………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………...
2. ตัวหยุด หมายถึง …………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………...
3. โนตตัวกลม 1 ตัว มีคาเทากับโนตตัวดํากี่ตว ……………...…………………………………………….
ั
4. โนตตัวดํา 1 ตัว มีคาเทากับโนตตัวเขบ็ต 1 ชั้น กี่ตว ……………………………………………………
ั
5. โนตตัวดํา 1 ตัว มีคาเทากับโนตตัวเขบ็ต 2 ชั้น กี่ตว ……………………………………………………
ั
6. โนตตัวเขบ็ต 1 ชั้น 1 ตัว มีคาเทากับโนตเขบ็ต 2 ชั้น กี่ตัว ……………………………………………..
7. ตัวหยุดตัวดํา 1 ตัว มีคาเทากับตัวหยุดตัวเขบ็ต 1 ชั้น กี่ตัว …………….…………………….…………
8. ตัวหยุดตัวขาว 1 ตัว มีคาเทากับตัวหยุดตัวตัวดํากี่ตัว ......………….………….…………………………
9. ตัวหยุดตัวกลม 1 ตัว มีคาเทากับตัวหยุดตัวขาวกี่ตัว …………………………………………………….
10. ใหนกเรียนเขียนการเปรียบเทียบคาของตัวโนตลงในตารางใหถูกตอง (เขียนตัวโนตลงในตาราง)
ั
- 16. 13
เฉลยใบงานที่ 1
เรื่อง ตัวโนตและตัวหยุด
1. ตัวโนต หมายถึง สัญลักษณบันทึกแทนความสั้น-ยาวของเสียง
2. ตัวหยุด หมายถึง สัญลักษณบันทึกแทนความสั้น-ยาวของความเงียบ
3. โนตตัวกลม 1 ตัว มีคาเทากับโนตตัวดํา 4 ตัว
4. โนตตัวดํา 1 ตัว มีคาเทากับโนตตัวเขบ็ต 1 ชั้น 2 ตัว
5. โนตตัวดํา 1 ตัว มีคาเทากับโนตตัวเขบ็ต 2 ชั้น 4 ตัว
6. โนตตัวเขบ็ต 1 ชั้น 1 ตัว มีคาเทากับโนตเขบ็ต 2 ชั้น 2 ตัว
7. ตัวหยุดตัวดํา 1 ตัว มีคาเทากับตัวหยุดตัวเขบ็ต 1 ชั้น 2 ตัว
8. ตัวหยุดตัวขาว 1 ตัว มีคาเทากับตัวหยุดตัวตัวดํา 2 ตัว
9. ตัวหยุดตัวกลม 1 ตัว มีคาเทากับตัวหยุดตัวขาว 2 ตัว
10.ใหนกเรียนเขียนการเปรียบเทียบคาของตัวโนตลงในตารางใหถูกตอง (เขียนตัวโนตลงในตาราง)
ั
- 17. 14
ใบงานที่ 2
เรื่อง โนตประจุด โนตโยงเสียง และหองเพลง
ชื่อ..................................................นามสกุล................................................เลขที่...........ชั้น...............
คําชี้แจง นักเรียนปฏิบัติดังนี้
1. ใหนกเรียนแสดงคาโนตประจุดโดยใชลักษณะตัวโนต
ั
ตัวอยาง = +
1.1 =…………….+…………….
1.2 =…………….+…………….
1.3 =…………….+…………….
1.4 =…………….+…………….
1.5 =…………….+…………….
2. จากภาพตอไปนี้ จงเขียนเครื่องหมายโยงเสียง(Tie)ระหวางโนตตัวสุดทายและโนตตัวแรกของหองเพลง
ใหถูกตอง
- 18. 15
3. ใหนกเรียนเขียนลักษณะการเนนจังหวะกลุมการเคาะ 2 จังหวะ มาใหถูกตอง (เขียนโนตตัวดํา ตัวเลข
ั
จังหวะเคาะและเครื่องหมายเนนจังหวะ (Accent หรือ >) หนัก-เบา สลับกันไปเปนกลุม ๆ )
……………………………………………………………………………………...………...........................
………………………………………………………………………………………………………...………
4. ใหนกเรียนเขียนลักษณะการเนนจังหวะกลุมการเคาะ 3 จังหวะ มาใหถูกตอง (เขียนโนตตัวดํา ตัวเลข
ั
จังหวะเคาะและเครื่องหมายเนนจังหวะ (Accent หรือ >) หนัก-เบา สลับกันไปเปนกลุม ๆ )
……………………………………………………………………………………………………...………...
………………………………………………………………………………………………………...………
5. ใหนกเรียนเขียนลักษณะการเนนจังหวะกลุมการเคาะ 4 จังหวะ มาใหถูกตอง (เขียนโนตตัวดํา ตัวเลข
ั
จังหวะเคาะและเครื่องหมายเนนจังหวะ (Accent หรือ >) หนัก-เบา สลับกันไปเปนกลุม ๆ )
………………………………………………………………………………………………………...………
………………………………………………………………………………………………………...………
- 19. 16
เฉลยใบงานที่ 2
เรื่อง โนตประจุดและหองเพลง
1. ใหนกเรียนแสดงคาโนตประจุดโดยใชลักษณะตัวโนต
ั
1.1 = +
1.2 = +
1.3 = +
1.4 = + …+
1.5 = +
2. จากภาพตอไปนี้ จงเขียนเครื่องหมายโยงเสียง(Tie)ระหวางโนตตัวสุดทายและโนตตัวแรกของหองเพลง
ใหถูกตอง
(2) (3)
(1)
- 20. 17
3. ใหนกเรียนเขียนลักษณะการเนนจังหวะกลุมการเคาะ 2 จังหวะ มาใหถูกตอง(เขียนโนตตัวดํา ตัวเลข
ั
จังหวะเคาะและเครื่องหมายเนนจังหวะ (Accent หรือ >) หนัก-เบา สลับกันไปเปนกลุม ๆ )
> > > >
เนนทุกๆ 2จังหวะ
จังหวะเคาะ 1 2 1 2 1 2 1 2
4. ใหนกเรียนเขียนลักษณะการเนนจังหวะกลุมการเคาะ 3 จังหวะ มาใหถกตอง(เขียนโนตตัวดํา ตัวเลข
ั ู
จังหวะเคาะและเครื่องหมายเนนจังหวะ (Accent หรือ >) หนัก-เบา สลับกันไปเปนกลุม ๆ )
> > >
เนนทุก ๆ 3 จังหวะ
1 2 3 1 2 3 1 2 3
จังหวะเคาะ
5. ใหนกเรียนเขียนลักษณะการเนนจังหวะกลุมการเคาะ 4 จังหวะ มาใหถูกตอง(เขียนโนตตัวดํา ตัวเลข
ั
จังหวะเคาะและเครื่องหมายเนนจังหวะ (Accent หรือ >) หนัก-เบา สลับกันไปเปนกลุม ๆ )
> > >
เนนทุก ๆ 4 จังหวะ
จังหวะเคาะ 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4
- 21. 18
แบบฝกที่ 1
เรื่อง ฝกปฏิบัติการเคาะจังหวะอยางสม่ําเสมอและการเนนจังหวะ (Accent)
คําชี้แจง
1. ปฏิบัตการเคาะจังหวะอยางสม่ําเสมอ โดยฝกจากชา ปานกลาง และเร็วตามลําดับ
ิ
2. ในการเคาะจังหวะมีการเนนจังหวะ (Accent) หนัก-เบา สลับกันไปเปนกลุม ๆ ตามบทฝก
3. เครื่องหมาย > หมายถึง จังหวะที่เนนในกลุมของการแบงหองเพลง
4. ใชโนตตัวดํา เปนเกณฑในการฝก โดยใหคาอัตราการเคาะเทากับ 1 จังหวะ คือ
เคาะเทาลงและยกขึ้น (ดังรูปภาพ)
5. เปลงเสียงนับตามจังหวะเคาะโดยเนนเสียงดังในจังหวะที่ 1 ของหอง
6. ฝกปฏิบัติในแตละบทฝกจนเกิดความเขาใจ
ภาพแสดงการเคาะจังหวะดวยเทา
(ภาพโดย นายวีระยุทธ ยนยุบล เมื่อ พฤษภาคม 2552)
บทฝกที่ 1 ฝกเคาะจังหวะเนนทุก ๆ 2 จังหวะ
กลุมการเคาะจังหวะอยางสม่าเสมอ โดยเนนทุก ๆ 2 จังหวะ
ํ
หองที่ 1 หองที่ 2 หองที่ 3 หองที่ 4 หองที่ 5 หองที่ 6 หองที่ 7 หองที่ 8
> > > > > > > >
จังหวะเคาะ 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2
- 22. 19
บทฝกที่ 2 ฝกเคาะจังหวะเนนทุก ๆ 3 จังหวะ
กลุมการเคาะจังหวะอยางสม่าเสมอ โดยเนนทุก ๆ 3 จังหวะ
ํ
หองที่ 1 หองที่ 2 หองที่ 3 หองที่ 4 หองที่ 5 หองที่ 6
> > > > > >
จังหวะเคาะ 1 2 3 1 2 3 1 2 3 1 2 3 1 2 3 1 2 3
หองที่ 7 หองที่ 8
> >
จังหวะเคาะ 1 2 3 1 2 3
บทฝกที่ 3 ฝกเคาะจังหวะเนนทุก ๆ 4 จังหวะ
กลุมการเคาะจังหวะอยางสม่าเสมอ โดยเนนทุก ๆ 4 จังหวะ
ํ
หองที่ 1 หองที่ 2 หองที่ 3 หองที่ 4
> > > >
จังหวะเคาะ 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4
หองที่ 5 หองที่ 6 หองที่ 7 หองที่ 8
> > > >
จังหวะเคาะ 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4
- 23. 20
แบบทดสอบหลังเรียน
เรื่อง ตัวโนตและตัวหยุด
คําชี้แจง โปรดเลือกคําตอบที่ถูกตองที่สุด ลงในกระดาษคําตอบ ใชเวลา 5 นาที
1. ขอใดคือความหมายของตัวโนต
ก. เปนสัญลักษณที่บันทึกแทนความสูง-ต่ํา ของเสียง
ข. เปนสัญลักษณที่บันทึกแทนความดัง-เบา ของเสียง
ค. เปนสัญลักษณที่บันทึกแทนความสั้น-ยาว ของเสียง
ง. เปนสัญลักษณที่บนทึกแทนความสั้น-ยาว ของความเงียบ
ั
2. ความหมายของตัวหยุด คือ
ก. เปนสัญลักษณที่บันทึกแทนความสูง-ต่ํา ของเสียง
ข. เปนสัญลักษณที่บันทึกแทนความดัง-เบา ของเสียง
ค. เปนสัญลักษณที่บันทึกแทนความสั้น-ยาว ของเสียง
ง. เปนสัญลักษณที่บันทึกแทนความสั้น-ยาว ของความเงียบ
3. ขอใดไมใชอักษรแทนเสียงดนตรี ระบบตัวอักษร (Letter System) ในระบบชื่อตัวโนต
ก. C E G
ข. D F A
ค. I H K
ง. A B C
4. ขอใดกลาวไดถูกตองเกี่ยวกับโนตโยงเสียง
ก. ทําใหคาความยาวของตัวโนตเพิ่มขึ้นเทากับโนตสองตัวรวมกัน
ข. ทําใหคาของโนตลดลงครึ่งหนึ่งของตัวมันเอง
ค. ทําใหทราบถึงความสูงขึ้นของเสียง
ง. เปนตัวบอกใหหยุดออกเสียงในโนตระดับนั้น ๆ
5. ขอใดกลาวผิดเกี่ยวกับเสนกั้นหอง
ก. เสนกั้นหองจะกันไวหนาจังหวะเนนของแตละกลุม
้
ข. เสนกั้นหองจะเปนเสนตรงแนวนอนหาเสน
ค. ถาเปนเสนคูบางสองเสนติดกันคือบอกจบทอนเพลง
ง. เสนจบจะเปนเสนคูบางและหนาคูกน ั
- 24. 21
6. การเปรียบเทียบคาของตัวโนตขอใดถูกตอง
ก. โนตตัวขาว มีคาเทากับ 1 ของโนตตัวกลม
4
ข. โนตตัวดํา มีคาเทากับ 1 ของโนตตัวกลม
2
ค. โนตตัวเขบ็ต 1 ชั้น มีคาเทากับ 1 ของโนตตัวกลม
8
ง. โนตตัวเขบ็ต 2 ชั้น มีคาเทากับ 1 ของโนตตัวกลม
32
7. การกระจายตัวโนตในขอใดกลาวผิด
ก. โนตตัวดําเทากับโนตตัวเขบ็ต 1 ชั้น 2 ตัว
ข. โนตตัวขาวเทากับโนตตัวเขบ็ต 1 ชั้น 4 ตัว
ค. โนตตัวกลมเทากับโนตตัวเขบ็ต 1 ชั้น 6 ตัว
ง. โนตตัวกลมเทากับโนตตัวขาว 2 ตัว
8. ขอใดกลาวถึงโนตประจุดไดถูกตอง
ก. โนตตัวขาวประจุดมีคาเทากับโนตตัวดําสามตัว
ข. โนตตัวดําประจุดมีคาเทากับโนตตัวเขบ็ต 1 ชั้น 4 ตัว
ค. โนตตัวกลมประจุดมีคาเทากับโนตตัวขาว 2 ตัว
ง. โนตตัวเขบ็ต 1 ชั้นประจุดมีคาเทากับโนตตัวดํา 1 ตัว
9. ในการเคาะจังหวะเนนของหองเพลงในขอใดกลาวผิด
ก. การเนนทุก ๆ สองจังหวะคือเคาะหองละสองครั้ง
ข. การเนนทุก ๆ สองจังหวะคือเนนในจังหวะที่สอง
ค. การเนนทุก ๆ สามจังหวะคือเนนในจังหวะที่หนึ่ง
ง. การเนนทุก ๆ สี่จังหวะคือเนนในจังหวะที่หนึ่ง
10. ชื่อตรงกับสัญลักษณของตัวโนตในขอใดไมถูกตอง
ก. = ตัวขาว
ข. = ตัวดํา
ค. = ตัวเขบ็ต 1 ชั้น
ง. = ตัวเขบ็ต 2 ชั้น
- 25. 22
เฉลยแบบทดสอบ
เรื่อง ตัวโนตและตัวหยุด
ขอที่ แบบทดสอบกอนเรียน ขอที่ แบบทดสอบหลังเรียน
1 ค 1 ค
2 ค 2 ง
3 ง 3 ค
4 ก 4 ก
5 ก 5 ค
6 ก 6 ค
7 ค 7 ค
8 ข 8 ก
9 ข 9 ข
10 ค 10 ก
- 26. บรรณานุกรม
โกวิท ประวารพฤกษ. ดนตรี – นาฏศิลป ม.3. พิมพครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ
(พว.), 2548.
จิตตพันธ แสนเมือง และคณะ. การปฏิบัติขลุย. พิมพครั้งที่ 2. ขอนแกน : โรงพิมพคลังนานาวิทยา,
2550.
จีรพันธ สมประสงค. ศิลปะ ม.1. พิมพครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : สํานักพิมพแม็ค, 2552.
ณัชชา พันธุเจริญ. แกนทฤษฎีดนตรีสากล. พิมพครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : สํานักพิมพเกศกะรัต, 2552.
ปนศิริ ศิริปน. รอง...เพลงกับครูปน. พิมพครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : บริษัทอันศดิสทริบิวชั่น, 2551.
ลัญฉนะวัต นิมมานรตนกุล. หลักการประพันธเพลง. พิมพครั้งที่ 1. นนทบุรี : นิมมานรตนกุล, 2552.
วีรพล วงศาโรจน และคณะ. ดนตรี ๑. พิมพครั้งที่ 1. นนทบุรี : สํานักพิมพเอมพันธ, 2551.
วีระศิลป ชางขนุน และคณะ. ดนตรี-นาฏศิลป ม.3. พิมพครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : บริษัทพัฒนาคุณภาพ
วิชาการ (พว.), 2550.
สมนึก อุนแกว. ทฤษฎีดนตรีแนวปฏิบัต.ิ พิมพครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ : จูนพับลิชชิ่ง, 2538.
สมพงษ กาญจนผลิน. ทักษะการขับรองเพลงไทย. พิมพครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : โอ.เอส.พริ้นติ้งเฮาส,
2552.
สุดใจ ทศพร. หนังสือเรียนสาระการเรียนรูพื้นฐานกลุมสาระการเรียนรูศิลปะ ดนตรี – นาฏศิลป ม.๑
ชวงชั้นที่ 3. พิมพครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทัศน, 2547