Contenu connexe
Similaire à 931 pre10 (14)
Plus de Wichai Likitponrak (20)
931 pre10
- 3. คานา
โครงการนี้จัดทาขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชาชีววิทยา 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ได้ศึกษา
พืชตัวอย่างในสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาตามโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชและได้ศึกษาอย่างเข้าใจ
เพื่อเป็นประโยชน์กับการเรียน นาเสนอในรูปแบบของ PowerPoint และรายงานลักษณะพฤกษศาสตร์
คณะผู้จัดทาหวังว่า โครงการนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน หรือนักเรียน นักศึกษา ที่กาลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่
หากมีข้อแนะนาหรือข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทาขอน้อมรับไว้และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
คณะผู้จัดทา
วันที่ 31 กรกฎาคม 2561
- 5. ชื่อสามัญ : ประดู่บ้าน
ชื่อพื้นเมือง : ดู่บ้าน (เหนือ), ประดู่ลาย (ลาปาง),
สะโน (มลายู,นราธิวาส)
ต้นประดู่ ลาต้นประดู่
ดอกประดู่ ฝักอ่อนประดู่ ฝักแก่ประดู่ เมล็ดประดู่
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pterocarpus indicus Willd.
- 6. ข้อมูลทั่วไป
ประดู่บ้านมีแหล่งกาเนิดในประเทศอินเดีย มีการนามาปลูกในประเทศไทยนานมาแล้ว และเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2537 สมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถได้ทรงโปรดพระราชทานกล้าไม้มงคล ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตนาไปปลูกเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ต เนื่องในงานรณรงค์
โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ ฯ ปัจจุบันต้นประดู่บ้านจึงเป็นต้นไม้ประจาจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งเป็นหนึ่งในพรรณไม้มงคลของไทย โดยคนไทยมีความเชื่อว่า
บ้านใดปลูกต้นประดู่บ้านจะช่วยให้ คนในบ้านเต็มไปด้วยความรัก สามัคคี รักใคร่ กลมเกลียวกัน นอกจากนี้ประดู่บ้านยังเป็น ดอกไม้ประจากองทัพเรือ แทน
ความหมายและสัญลักษณ์ว่า พร้อมใจกันแบ่งบาน ด้วยความสามัคคีอีกด้วย
บริเวณที่พบโดยทั่วไป
พบตามธรรมชาติในป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ และป่าดิบแล้ง ปัจจุบันมีการนาไปปลูกในประเทศไทยทั่วทุกภาค โดยประดู่บ้านเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดจัด
ปริมาณน้าปานกลาง และดินร่วนซุย
- 7. ลักษณะลาต้น
ต้นประดู่บ้านจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลาต้นมีความสูงประมาณ 10-25 เมตร หรืออาจสูงกว่า เรือนยอดกลมหรือแผ่กว้าง
ปลายกิ่งห้อยลง เปลือกลาต้นหนาเป็นสีน้าตาลเทา แตกหยาบๆ เป็นร่องลึก
ลักษณะราก
เป็นรากแก้ว ขนาดใหญ่ ชอนไชไปตามดิน สามารถแผ่ขยายรากออกไปได้ในวงกว้าง
ลักษณะใบ
เป็นใบประกอบขนนกชั้นเดียว ปลายใบคี่ เรียงสลับ ใบย่อยรูปไข่แกมรูปขอบขนาน กว้าง 4 – 5 เซนติเมตร ยาว 6 – 10 เซนติเมตร เรียงสลับ
โคนใบมนกว้าง ขอบใบเรียบเป็นคลื่นเล็กน้อย ปลายใบแหลมเป็นติ่งทู่ แผ่นใบบางแต่ค่อนข้างเหนียวและย่นเป็นลอน สีเขียวสดเป็นมัน
ลักษณะผล
ผลเป็นผลแห้งแบบ samaroid ลักษณะของผลเป็นรูปกลมหรือรีแบน ที่ขอบมีปีกบางคล้ายกับใบโดยรอบคล้ายๆ จานบิน แผ่นปีกบิดและเป็น
คลื่นเล็กน้อย มีกระเปาะนูนตรงกลางลาดไปยังปีกภายในเป็นที่อยู่ของเมล็ดโดยมี 1-2 เมล็ดต่อผล ผลมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4-7 เซนติเมตร
ส่วนบริเวณปีกยาวประมาณ 1-2.5เซนติเมตร ที่ผิวมีขนละเอียด ผลอ่อนเป็นสีเขียวแกมเหลือง เมื่อแก่แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีน้าตาลอ่อน
- 8. ลักษณะเมล็ด
มีลักษณะคล้ายกับเมล็ดถั่วแดง ผิวเรียบ สีน้าตาลเข้ม ยาวประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร
ลักษณะดอก
ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะ โดยจะออกดอกที่บริเวณซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกย่อยสีเหลือง คล้ายรูปดอกถั่ว เส้นผ่านศูนย์กลางดอก 1 – 1.5 เซนติเมตร
กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันเป็นรูประฆัง ขอบหยักซี่ฟันตื้นๆ 5 จัก มีขนสั้นๆ กลีบดอก 5 กลีบ บางยับย่น เมื่อใกล้โรยเป็นสีเหลืองอมน้าตาล เกสรเพศผู้ 10 อัน ก้านชูอับ
เรณูติกันเป็น 2-3 กลุ่ม ส่วนเกสรเพศเมียมี 1 อัน ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ
ระยะการออกดอกติดผล
ออกดอกช่วงเดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม และติดผลในช่วงเดือนเมษายน – เดือนกรกฎาคม
การใช้ประโยชน์
เนื้อไม้ : ใช้แปรรูปเป็นเครื่องประดับตกแต่งบ้าน เครื่องดนตรี ก่อสร้างทุกชนิด มีสรรพคุณแก้พิษไข้ กล่อมโลหิต บารุงโลหิต คุมธาตุ
แก่นไม้ : มีสีแดง ใช้ย้อมผ้า
ใบและดอก : ทาให้ฝีสุกเร็ว แก้ผดผื่นคัน น้าคั้นจากใบใช้สระผม
รากและยาง : แก้ปากเปื่อย ปากแตก แก้ท้องเสีย แก้โรคบิด